ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

Wealth Station

21 mins ·

 

าวันนี้ปิดที่ระดับสูงกว่า 1210 1215 ได้แนวโน้มเป็นบวกจะขึ้นทดสอบ 1225 1235

อาจรอให้เห็นแนวโน้มในวันนี้เสียก่อนค่อยเข้าตลาด วันศุกร์นี้เป็นวันหยุดถ้าเป็นจีเอฟ โปรดลดสถานะลงบ้างเผื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

แนวต้าน 1210 1215 1225 1235

แนวหนุน 1185 1192

by Facebook.com/Wealthstation

3/12/57

See Translation

 

 

 

 

10847283_799395910098886_9205564719755163957_o.png

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ราคาทองคำแกว่ง side way สร้างฐาน แนะนำ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน

ราคาทองคำตลาด COMEX ปรับตัวลดลง 11.87 ดอลลาร์หรือ ปิดที่ 1,198.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้น และมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้รับประโยชน์จากการดิ่งลงครั้งใหญ่ของราคาน้ำมัน จากถ้อยแถลงของนายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองปธ.เฟดและนายวิลเลียม ดัดลีย์ ปธ.เฟดสาขานิวยอร์ก ที่กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ต่ำลงส่งผลลบเพียงชั่วคราวต่อระดับราคาโดยรวมของสหรัฐ แต่เศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันที่ลดลง และมีการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐจะปรับเพิ่มขึ้นในกลางปี 2015 ภาพทางเทคนิคเมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงแต่ยังยืนเหนือระดับ 1,190 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นคาดว่าจะแกว่ง side way สร้างฐานระหว่าง 1,190 –1,220 แนะนำ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน กองทุน SPDR ซื้อทองคำ 2.39 ตัน

 

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy0312201491431203…

 

 

 

10422429_963870460307971_5893708022275732847_n.jpg?oh=2eafdb0f011045a723765b095992f30a&oe=55042097

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1604684_10152927917157450_6615315792937492585_n.jpg?oh=4254e5d3d7ae48e1425319f1ea171cc2&oe=54D296D4&__gda__=1426237163_19c85f5292112e043cc01e16e1a7e13b

โปรดเกล้าให้ 3 ผู้พิพากษาพ้นตำแหน่ง พร้อมคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์

 

เพิ่มเติม

http://www.nationtv.tv/main/content/social/378435132/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:Hi

 

ออ.นัน

 

 

 

Gold spot price update 3.12.14

*จากครั้งก่อนที่ผมอัพเดท ทิศทางทางแนวโน้มให้ในตอนนั้น ราคายังคงอยู่ในช่วงของคลื่นcorrection ในคลื่นa(สีขาว) และผมได้ทำนายล่วงหน้าตามทฤษฎีคลื่นว่า ราคาน่าจะมีการย่อลงมาในคลื่นb(สีขาว) โดยเฉพาะหากราคาไม่มีการทำ new low ที่ต่ำกว่า1130 ก็น่าจะเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ เพื่อลุ้นกับคลื่นc(สีขาว) ซึ่งโดยปกติก็ต้องสูงกว่ายอดชองคลื่นa นั่นเอง

*สถานการณ์ล่าสุดถือว่าเป็นไปตามที่ผมได้ทำนายวาดเส้นสายไว้ล่วงหน้า แบบค่อนข้างจะเป๊ะเลยทีเดียว เรื่องคลื่นนี้ หากศึกษากันให้ลึกถึงแก่น และเข้าใจแก่นมันแล้ว บางที มันก็ไม่ได้เป็นเร ื่องที่จะต้องทำให้ยุ่งยาก อะไรมากมายนะครับ แต่เชื่อมั้ยครับ พอจับจุดเป็น เห็นวิธีการทำนายหรือ Forecast อนาคตแล้ว บางทีพอเหตการณ์จริง มันเป็นไปตามที่เราได้ ทำนายล่วงหน้าแล้ว เราจะรู้สึกประหลาดใจเหมือนกัน ว่าทำไมราคามันถึงเป็นไปตามกราฟที่เราทำนายไว้

*แต่ถ้าจะให้เอลเลียตแม่ยำยิ่งขึ้น ท่านจะต้องมีความรู้ด้านวิเคราะห์อีเว้นท์สำคัญที่มีผลทางด้าน Fundamental ออกด้วย ก็จะยิ่งทำให้ท่านมีมุมมองในเรื่องคลื่น ที่แม่นยำมากขึ้น เพราะเชื่อมั้ยครับ ต่อให้เราเรียนตำราเรืองเอลเลียต เล่มเดียวกัน ในสถานการณ์จริง ท่านอาจจะทำนายตามหลักเอลเลียตออกไม่เหมือนกันเลยก็ได้ เพราะเรื่องนี้ มันต้องใช้ทั้ง ศาสตร์และศิลป์ ครับ เรื่องศาตร์ ก็หมายความว่า ท่านจะต้องเข้าใจหลักการของเอลเลียตให้ได้ก่อน ส่วนศิลป์นั่นก็คือท่านต้องมีมุมมองในการอ่านวิเคราะห์อีเว้นท์สถานการณ์ตลาดให้ได้ว่า ตลาดน่าจะเล่นประเด็นไหนเป็นหลักและประเด็นนั้นจะมีโอกาสออกทางหน้าไหนมากกว่า ท่านก็จะได้มีมุมมองในการทำนายคลื่นในอนาคตที่มันสอดคล้องกับการอ่านอีเว้นท์นั่นเอง

***ในหลายๆครั้งผมก็แปลกใจเหมือนกันว่า อีเว้นท์ต่างๆมันก็ชอบออกมาให้ราคามันวิ่งไปตามหลักการของอีเลียตแบบ น่าประหลาดใจ ยกตังอย่างเช่น ราคาที่ปรับลงมาครบ5คลื่นหลักแล้ว ในช่วงที่ จะมีตัวเลขนอนฟาร์มประกาศออกมา บ่อยครั้งมากเลยครับ ที่ตัวเลขจะออกแย่กว่าคาด ทำให้ราคาดีดขึ้นไป ในคลื่นปรับa-b-c แบบนี้เป็นต้น...ร่ายมาสะยาว เอาเป็นว่าถ้ามีเวลาจะมาเขียนข้อสังเกตจาก ปสก.ของผม ใหม่ก็แล้วกันนะครับ

*มาว่ากันที่การทำนายแนวโน้มราคาทองกันต่อเลยครับ ประเด็นที่ทุกคนอยากรู้ตอนนี้ ก็คือว่า แล้วคลื่นc(สีขาว) จะไปจบตรงไหน? อันนี้ก็ว่ากันตามภาพเลยครับ หากเราเอาเรื่องของ Trend line กับ Fibonacci retracement มาช่วยในการหาเป้าหมายของคลื่นc ก็จะได้ว่า คลื่นcจะจบแถว 1215+/- แถวนี้ก็ได้ เพราะเป็นแนวต้าน Downtrend line และยังเป็นแนวต้านที่ 38.2% Fibo แต่ก็ยังมีโอกาสที่ราคาจะทะลุขึ้นไปแถวแนวต้านDowntrend line ถัดไป แถวตัวเลข 50% Fibo แถว1240+/- แนวต้านสำคัญคือ 61.8% แถว1265+/- หากราคาขึ้นผ่านด่านนี้ไปได้ ในทางทฤษฎี บอกว่า มีโอกาสสูงที่ราคาที่ขึ้นในรอบนี้ มีโอกาสเป็นการ Reversal กลับเทรนเป็นขาขึ้น และคลื่น a-b-c ก็จะร่างเป็น 1-2-3-4-5 (สีฟ้า) ตามภาพที่ผมนำมาให้ดูนั่นล่ะครับ

*ถึงตรงนี้ธรรมเนียมปฏิบัตของคนที่ใช้ระบบคลื่นแล้ว ต้องเป็นช่วงของการหาจังหวะทยอยปิดทำกำไร ตามด่านแนวต้านที่ว่ามาครับ ใครที่จะมาคิด buy เอาช่วงนี้ ตามระบบคลื่นถือว่าไม่ควร เพราะมันไม่คือครับ ความเสี่ยงที่จะผิดมีสูงกว่า แม้ว่าจะมีโอกาศขึ้นไปได้อยู่ก็ตาม แต่ความเสี่ยงมันเริ่มสูงกว่าผลตอบแทนที่คาดหวัง ถ้าประเมินได้แบบนี้ ไม่มีใครเค้าคิดจะ buy กันนะครับ แต่หากอยาก sell ก็ควรจะเข้าไปดูคลื่นย่อยของคลื่น C มันนับได้ V คลื่นหรือยัง ถ้ายังก็ยังไม่ควรคิด sell ในตอนนี้เหมือนกัน ผมลองเข้าไปดู มันน่าจะนับได้แค่ i-ii อยู่เลยครับ

นอนก่อนล่ะ ขณะนี้ ตีสี่สามสิบหก โชคดีครับ

 

 

 

 

 

10685400_1009761109050238_4504219292676804802_n.jpg?oh=c8892b52d086224b0e59cee48efa87ba&oe=5519F3B5&__gda__=1426272368_ecb04250451cd254c439b2020afaf532

ถูกแก้ไข โดย wann

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

.

post-5900-0-56672300-1417590380_thumb.jpg

ถูกแก้ไข โดย wann

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปภาวะตลาด Futures By GT Wealth Management 3 ธ.ค. 57 (ภาคบ่าย)

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 3 ธันวาคม 2557 16:56:06 น.

กรุงเทพฯ--3 ธ.ค.--GT Wealth Management

 

ดัชนี SET50 ปิดลบ 0.61 จุดปิดที่ระดับ 1,068.93 จุด ดัชนียังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังจากที่ฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงเช้า เช่นเดียวกับราคาทองคำที่มีการฟื้นตัวเล็กน้อยในช่วงบ่าย โดยรอดูปัจจัยสำคัญอย่างการประชุม ECB ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่คืนนี้ติตดามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรโดย ADP

 

ภาวะการซื้อขายระหว่างวัน คุณวราวุธ เบญจาพุทธารักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ดัชนีSET50 ยังคงไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ ทำให้การเคลื่อนไหวยังเป็นการผันผวนในกรอบแคบๆ ขณะที่ Gold Future ปรับเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ตามราคาทองคำในตลาดโลกที่ฟื้นตัวมาในช่วงบ่าย

 

GT Wealth Management

 

 

ดัชนี PMI ยูโรโซนเดือนพ.ย.ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 16 เดือน

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 3 ธันวาคม 2557 16:48:00 น.

กิจกรรมในภาคธุรกิจของยูโรโซนในเดือนพ.ย.ชะลอตัวแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน การชะลอตัวในเดือนที่แล้วเป็นผลมาจากแนวโน้มที่อ่อนแอลงของคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่ธุรกิจใหม่ปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว ส่วนการจ้างงานยังคงใกล้ภาวะชะงักงัน

ผลสำรวจของมาร์กิตแสดงให้เห็นว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการของยูโรโซนในเดือนพ.ย. ลดลงแตะ 51.1 จากระดับ 52.1 ในเดือนต.ค. และจากตัวเลขเบื้องต้นเดือนพ.ย.ที่ 51.4

 

 

ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ย.ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 51.1 จากระดับ 52.3 ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นเดือนพ.ย.ที่ 51.3

สำหรับดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนพ.ย. ปรับตัวลงแตะ 50.1 จากระดับ 50.6 ในเดือนต.ค. และลดลงจากตัวเลขเบื้องต้นเดือนพ.ย.ที่ระดับ 50.4 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของยูโรโซนเข้าสู่ภาวะชะงักงัน

ดัชนีที่สูงกว่า 50 แสดงให้เห็นว่า กิจกรรมทางธุรกิจมีการขยายตัว และตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว ทั้งนี้ ดัชนี PMI รวมของยูโรโซนอยู่ในกรอบขยายตัวมาเป็นเดือนที่ 17 ติดต่อกันแล้ว

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

 

 

ธปท.มองแนวโน้มเงินเฟ้อชะลอตัวช่วง 1-2 ปี ไม่กดดันให้ขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 3 ธันวาคม 2557 16:18:09 น.

นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.คาดว่าในไตรมาส 1/2558 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยมีแนวโน้มในระดับที่ต่ำลงเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่น่าจะทรงตัวต่อเนื่อง สอดคล้องกับทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ชะลอตัวลง ซึ่งเป็นผลจากความต้องการใช้ที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก ขณะที่กลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน(โอเปก) ยังคงกำลังการผลิต เพื่อลดแรงจูงใจในการผลิตเชลล์ออยของสหรัฐ โดยคาดว่าจะส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อทั่วไปของโลกจะชะลอตัวในช่วง 1-2 ปี

 

 

ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ลดลงนั้น ธปท.มองว่าเป็นผลมาจากปัจจัยด้านอุปทานมากกว่าด้านอุปสงค์ จึงไม่เป็นความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจ และไม่เข้าสู่ปัญหาเงินฝืด ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่ ธปท.จะต้องปรับลดประมาณการกรอบอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ขณะนี้อยู่ระหว่างรอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมทั้งไม่จำเป็นจะต้องใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยเข้ามาควบคุม

"เงินเฟ้อที่ลดลงก็เป็นประเด็นที่ต้องติดตาม แต่จะไม่มีผลต่อนโยบายการเงิน เพราะธปท.ดูแลด้านเงินเฟ้อที่มาจากปัจจัยด้านอุปสงค์เป็นหลัก ขณะที่ปัจจัยด้านอุปทานไม่ถือว่าเป็นความเสี่ยง เนื่องจากในปี 2558 รัฐบาลมีนโยบายในการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันลดลง เป็นต้น โดยขณะนี้เศรษฐกิจอยู่ในช่วงปรับตัวดีขึ้น และยังไม่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อแต่อย่างใด"นายจิรเทพ กล่าว

พร้อมระบุว่า นโยบายการเงินต้องมีความยืดหยุ่น และใช้เพื่อเป็นแรงสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัว หรือใช้เมื่อเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะวิกฤตเท่านั้น โดยไม่ใช้เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งหากอัตราเงินเฟ้อต่ำลงก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องปรับอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้น หรือต้องมีการปรับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อใหม่ ซึ่งการลดลงของเงินเฟ้อก็เป็นเพียงช่วงสั้นๆ แต่กรอบอัตราเงินเฟ้อเป็นการคาดการณ์ทั้งปี ซึ่งเป็นหน้าที่ของ ธปท.ที่ต้องตอบคำถามว่าสาเหตุที่เงินเฟ้อเปลี่ยนแปลงไปมาจากอะไร ซึ่งเชื่อว่าตลาดและนักลงทุนจะเข้าใจ

อินโฟเควสท์ โดย ธปฦ/กษมาพร/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

</p>

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ขยับลง 2 จุด ก่อนสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเอกชน

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 3 ธันวาคม 2557 19:29:42 น.

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าขยับลง 2 จุด แตะที่ 17,860 จุด และดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าขยับลงไม่ถึง 0.1 % แตะที่ 2,065.6 จุด เมื่อเวลาประมาณ 6:55 น. ตามเวลานิวยอร์ก ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในคืนนี้

หุ้นเทเซอร์ อินเตอร์เนชันแนล บริษัทผลิตกล้องติดตามร่างกายของสหรัฐร่วง 3.6% ภายหลังหุ้นของบริษัทถูกปรับลดอันดับน่าเชื่อถือ ขณะที่หุ้นเจซี เพนนีร่วง 2.7% หลังหุ้นถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือเช่นกัน

 

 

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ขยับลงเล็กน้อยก่อนที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในคืนนี้ รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย. ซึ่ง ADP จะรายงานในเวลา 20.15 น. ตามเวลาในประเทศ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐจะปรับตัวขึ้นในจังหวะที่ช้าลงในเดือนพ.ย. หลังจากปรับตัวขึ้น 230,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.

ส่วนดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ที่จะเปิดเผยในเวลา 22.00 น.นั้น คาดการณ์ว่าจะขยายตัวในอัตราที่เพิ่มขึ้น

นักลงทุนยังจับตารายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเปิดเผยในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาประเทศไทย เพื่อประเมินภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐ ก่อนที่จะเฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 16-17 ธ.ค.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร โทร.02-2535000 อีเมล์: jongdee@infoquest.co.th--

 

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 03 ธันวาคม 2557 โดย YLG

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 3 ธันวาคม 2557 17:09:38 น.

กรุงเทพฯ--3 ธ.ค.--พีอาร์ดีดี

 

สภาวะตลาดวันที่ 3 ธันวาคม 2557 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,195.00-1,208.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,800 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,650 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ14 อยู่ที่ 18,860 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 140 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,720 บาท

 

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.38 น. ของวันที่ 03/12/14)

 

แนวโน้มวันที่ 4 ธันวาคม 2557

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นและทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีครึ่งเนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้น หลังจากถ้อยแถลงของนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ค และนายสแตนเลย์ ฟิสเชอร์รองประธานเฟด ซึ่งพวกเขาได้แสดงความเห็นเชิงบวกต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ โดยทั้งสองแสดงความพึงพอใจต่อราคาน้ำมันร่วงลงอย่างหนัก โดยมองว่าราคาพลังงานลดลงจะช่วยให้ชาวสหรัฐมีเงินจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น ราคาน้ำมันที่ระดับต่ำจะส่งผลลบเพียงชั่วคราวเท่านั้นต่อระดับอัตราเงินเฟ้อโดยรวมในสหรัฐ การส่งสัญญาณดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปี 2015 ประเด็นดังกล่าวได้กดดันแรงซื้อที่เข้ามายังตลาดทองคำ ประกอบกับ นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังการสะสมทองคำเพิ่ม เมื่อมีการคาดการณ์ว่าธนาคากลางยุโรป (อีซีบี) จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำ ธนาคารกลางยุโรปจะมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาในช่วงเวลาใด ทั้งนี้ การประชุมของอีซีบีในวันพฤหัสบดีนี้ ได้ถูกจับตามองว่าประธานอีซีบีส่งสัญญาณถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการดูแลเงินเฟ้อให้ปรับตัวดีขึ้น รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มมาตรการ QE เมื่อดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของยูโรโซนเดือนตุลาคมชะลอตัวลงส่งผลให้ ธนาคากลางยุโรป ต้องเผชิญแรงกดดันที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อต่อสู้กับความเสี่ยงภาวะเงินฝืด อย่างไรก็ตามแม้นสถานการณ์ดังกล่าวยังไม่ชัดเจน วายแอลจีแนะนำว่า นักลงทุนสามารถหาจังหวะซื้อเล่นสั้นเมื่อราคาย่อตัวลงไปและไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และปิดสถานะทำกำไรหากราคาทองคำได้ดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,215-1,222 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำอาจมีโอกาสขยับทดสอบแนวต้านที่ 1,215 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องจับตาการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิดซึ่งต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำเมื่อมีการปรับตัวขึ้นก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมาแรงเช่นกัน โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,190-1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากหลุดจะมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,160 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,190 (18,490บาท) 1,180 (18,330บาท) 1,160 (18,020บาท)

แนวต้าน 1,215 (18,880บาท) 1,222 (18,990บาท) 1,235 (19,190บาท)

 

GOLD FUTURES (GFZ14)

แนวรับ 1,190 (18,620บาท) 1,180 (18,460บาท) 1,160 (18,150บาท)

แนวต้าน 1,215 (19,010บาท) 1,222 (19,120บาท) 1,235 (19,320บาท)

 

 

ราคาน้ำมัน WTI ลดแรงบวกแตะ 67.06 ดอลลาร์/บาร์เรล เหตุมติโอเปคกดดันตลาด

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 3 ธันวาคม 2557 20:09:55 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX พุ่งขึ้นถึง 1.09 ดอลลาร์ แตะที่ 67.97 ดอลลาร์/บาร์เรล ก่อนที่จะลดช่วงบวกสู่ระดับ 67.06 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อเวลาประมาณ 7.13 น.ตามเวลานิวยอร์ก เนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากมติของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ในการคงเพดานการผลิต

 

 

ราคาน้ำมัน WTI ลดช่วงบวกจากระดับก่อนหน้านี้ที่พุ่งขึ้นถึง 1.6% เนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากมติที่คงเพดานการผลิตในการประชุมล่าสุด

ขณะเดียวกันก็มีรายงานข่าวว่า รัฐบาลอิรัก ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของโอเปค บรรลุข้อตกลงกับกลุ่มเคิร์ดในการส่งออกน้ำมันผ่านทางตุรกี โดยอิรักจะส่งน้ำมันสูงถึง 550,000 บาร์เรล/วัน ไปยังเมืองเจย์ฮาน ซึ่งเป็นเมืองท่าของตุรกี โดยผ่านท่อส่งน้ำมันที่บริหารงานโดยกลุ่มเคิร์ด

นักลงทุนรอดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในคืนนี้เวลา 22.30 น.ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 พ.ย. จะเพิ่มขึ้น 1.75 ล้านบาร์เรล หลังจากที่ในสัปดาห์ก่อนหน้าพุ่งขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล แตะ 383 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 100,000 บาร์เรล

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร โทร.02-2535000 อีเมล์: jongdee@infoquest.co.th--

 

ชนี PMI ภาคบริการอังกฤษขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นในเดือนพ.ย.

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 3 ธันวาคม 2557 18:10:00 น.

มาร์กิต อิโคโนมิคส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคบริการของอังกฤษปรับตัวขึ้นแตะระดับ 58.6 จากระดับ 56.2 ในเดือนต.ค. ซึ่งขยายตัวขึ้นสูงกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์

ดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะการขยายตัวของภาคบริการ ส่วนระดับที่ต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมภาคบริการหดตัวลงจากเดือนก่อนหน้า

ดัชนี PMI ภาคบริการของอังกฤษที่ขยายตัวขึ้นในเดือนที่แล้วนั้นเนื่องมาจากธุรกิจใหม่ปรับตัวดีขึ้น โดยดัชนีธุรกิจใหม่ของบริษัทในภาคบริการ ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 59 ในเดือนพ.ย. จาก 58.3 ในเดือนต.ค.

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาดกนง.รอบสุดท้ายของปีอาจมีมติลดดอกเบี้ยลง 0.25% เพื่อหนุนศก.ฟื้น

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 3 ธันวาคม 2557 18:11:11 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) รอบสุดท้ายของปี 2557 ในวันที่ 17 ธ.ค.นี้ อาจมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จากระดับ 2.00% มาอยู่ที่ระดับ 1.75% เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัวในจังหวะที่แข็งแกร่งขึ้น

ทั้งนี้มีเหตุผลสนับสนุนหลายประการ ได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ผ่านมายังคงเป็นไปอย่างล่าช้า ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในสินค้าไม่คงทนเป็นหลัก ขณะที่การบริโภคสินค้าคงทนยังให้ภาพการฟื้นตัวที่ไม่สดใสนัก ท่ามกลางภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และราคาสินค้าเกษตรที่ยังคงทรงตัวในระดับต่ำ ขณะที่การลงทุนยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ภาคการส่งออกที่มีส่วนสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยแม้จะเริ่มมีพัฒนาการที่ดีขึ้นแต่ต้องยอมรับว่าได้รับแรงหนุนจากปัจจัยด้านฤดูกาลและการเร่งส่งออกสินค้าไปยังยุโรปที่จะถูกตัดสิทธิ GSP ในปีหน้า มากกว่าที่จะส่งสัญญาณถึงอุปสงค์จากประเทศคู่ค้าที่ฟื้นตัวขึ้น

 

 

ขณะเดียวกันในปี 2558 ความเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจยังคงอยู่ในระดับสูง อาจส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจทำได้ในระดับที่ต่ำกว่าระดับศักยภาพ โดยปัจจัยหนี้ครัวเรือนคงกดดันแนวโน้มการบริโภคอย่างต่อเนื่อง ส่วนสถานการณ์ภายนอกประเทศที่เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ อาทิ จีน และยูโรโซน ยังคงอ่อนแอ รวมทั้งการสิ้นสุดของการให้สิทธิ GSP ของยุโรปคงกดดันให้การฟื้นตัวของภาคการส่งออกให้มีโอกาสออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้

สำหรับแรงหนุนจากการใช้จ่ายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ถูกฝากความหวังว่าจะเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญนั้นคงแปรผันตามประสิทธิภาพในการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและสร้างความก้าวหน้าในโครงการลงทุน ซึ่งต้องยอมรับว่าเผชิญความท้าทายยิ่ง ท่ามกลางกระบวนการด้านงบประมาณที่ใช้เวลา ดังนั้นระหว่างนี้จึงทำให้นโยบายการเงินเป็นเครื่องมือที่มีน้ำหนักมากกว่าในการประคองการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

ขณะที่ประเด็นความเสี่ยงเชิงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจด้านอื่นๆ อาทิ ความเสี่ยงด้านหนี้ครัวเรือน ก็ยังคงเป็นประเด็นติดตามใกล้ชิด ซึ่งที่ผ่านมาการเติบโตของระดับหนี้ครัวเรือนที่ชะลอลง สะท้อนว่าปัญหาได้ถูกตีกรอบไว้ในระดับหนึ่ง แต่หากปรากฏสัญญาณการเพิ่มขึ้นที่น่ากังวลอีกครั้ง ธปท.ก็อาจพิจารณามาตรการอื่นๆ เพื่อดูแลการเพิ่มขึ้นของหนี้ครัวเรือนเฉพาะบางภาคส่วนได้

ส่วนแรงกดดันเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มผ่อนคลายลงตามระดับราคาพลังงานในตลาดโลกเอื้อต่อการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยท่ามกลางสถานการณ์ที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับลดลง (นับตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับตัวลดลงกว่า 35% จากสิ้นเดือนมิถุนายน 2557 อันส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของไทยปรับลดลงตาม) ผนวกกับการดูแลการปรับราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์ให้เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป คาดว่าจะทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วง 6-7 เดือนข้างหน้า เคลื่อนไหวในระดับต่ำใกล้เคียง 1% อย่างต่อเนื่อง (หลังอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนพฤศจิกายน 2557 ชะลอตัวลงสู่ระดับ 1.26% YoY) แม้ว่ารัฐบาลจะเดินหน้าตามแผนในการปรับโครงสร้างพลังงานอย่างต่อเนื่องก็ตาม

โดยท่าทีนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงของไทยสอดคล้องกับหลายประเทศในโลกที่เริ่มกลับมาใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเพิ่มเติม เพื่อดูแลการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ยังคงอ่อนแอ แม้ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะส่งสัญญาณถึงการทยอยปรับการดำเนินนโยบายการเงินไปสู่ระดับปกติมากขึ้น แต่จังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวก็ยังแปรผันตามภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเงินเฟ้อว่าจะเพิ่มขึ้นช้ากว่าคาดหรือไม่ ขณะที่ธนาคารกลางหลายๆ แห่งในโลกยังมีแนวโน้มที่จะ ‘คง’ หรือ ‘เพิ่มระดับการผ่อนคลายทางการเงิน’ เพื่อดูแลการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง ภายใต้สถานการณ์ที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังค่อนข้างอ่อนแอ ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกลางยุโรป(ECB) ที่ยังคงอยู่ในช่วงการพิจารณาออกมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจในยูโรโซนเผชิญกับภาวะเงินฝืด โดยมีการคาดการณ์ว่าทาง ECB อาจจะมีการขยายขนาดมาตรการการซื้อสินทรัพย์ในไม่ช้า ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) มีการขยายขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QQE) หลังจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวลงจากผลของการปรับขึ้นภาษีการบริโภคในช่วงที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีน(PBoC) ได้ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายด้านเงินกู้/เงินฝากลง เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี หลังการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงต่อเนื่อง และภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังคงเปราะบางมาก ขณะที่ ธนาคารกลางเกาหลีใต้ ก็เพิ่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเช่นกันในเดือนตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง

ตลาดการเงินมีการปรับคาดการณ์ถึงโอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปบางส่วนแล้ว โดยคาดการณ์ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุม กนง.ในวันที่ 17 ธ.ค.57 ไปแล้วบางส่วน โดยจะเห็นได้จากเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะกลางที่ปรับลดลงประมาณ 12-30 จุด(Basis Points) เมื่อเทียบกับช่วงการประชุม กนง.ครั้งก่อนเมื่อวันที่ 5 พ.ย.57

สำหรับแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินไทยคงจะเคลื่อนไหวในทิศทางที่สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. ซึ่งหากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบนี้จริง ผนวกกับสภาพคล่องในตลาดการเงินไทยที่ยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างสูงและน่าจะเพียงพอสำหรับการรองรับกิจกรรมการระดมทุนและการปล่อยสินเชื่อในระยะแรกของปี 2558 ที่คงมีโมเมนตัมที่ค่อยเป็นค่อยไป ทำให้คาดว่าอัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินไทยจะทรงตัวในระดับต่ำต่อเนื่องในจังหวะที่ยาวนานขึ้นตามไปด้วย

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1506658_679958082124601_3247485603208730188_n.jpg?oh=0475515c53cc0ef21684364363e33267&oe=551168F1

ทีฆายุโก โหตุ มหาราชา

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

 

---------------------------------------

วันพฤหัสบดี ที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๗

Cr Pic : อาจารย์ ดินหิน รักพงษ์อโศก

 

 

HAPPY&COOL

 

สวัสดี เพื่อน

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: แรงซื้อเก็งกำไร หนุนทองคำปิดบวก 9.3 ดอลลาร์

 

 

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม 2557 07:22:46 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบยังเป็นปัจจัยหนุนสัญญาทองคำดีดตัวขึ้นด้วย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 9.3 ดอลลาร์ หรือ 0.78% ปิดที่ระดับ 1,208.7 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 4.4 เซนต์ ปิดที่ 16.412 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,227.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 6.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 797.55 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบยังช่วยหนุนสัญญาทองคำดีดตัวขึ้นด้วย

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ข้อมูลการจ้างงานที่ซบเซาลงของสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยมีรายงานว่าตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐปรับตัวขึ้น 208,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 220,000 ตำแหน่ง

นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนพ.ย.ในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 200,000 ตำแหน่งเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน และอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีหน้า

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 50 เซนต์ หลังสต็อกน้ำมันดิบร่วง

 

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม 2557 07:37:56 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลดลงสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่าอุปสงค์พลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ ปิดที่ 67.38 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 62 เซนต์ ปิดที่ 69.92 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นหลังจาก EIA สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 พ.ย. ร่วงลง 3.7 ล้านบาร์เรล แตะ 379.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอคลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งน้ำมัน ปรับตัวลดลง 694,000 บาร์เรล

อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันเบนซินทะยานขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล แตะ 208.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 800,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล พุ่งขึ้น 3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 116.2 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 300,000 บาร์เรล

นอกเหนือจากรายงานสต็อกน้ำมันแล้ว สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตร ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3% ต่อปีในช่วงไตรมาส 3/2557 เทียบกับเบื้องต้นที่รายงานว่าขยายตัว 2%

ขณะที่สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐขยายตัวสู่ระดับ 59.3 ในเดือนพ.ย. จาก 57.1 ในเดือนต.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 57.6

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...