ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2557 06:34:54 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 27 พ.ย.2557

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) หลังจากสำนักงานแรงงานของเยอรมนีเปิดเผยว่า อัตราว่างานเดือนพ.ย.ของเยอรมนีปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของของเยอรมนี

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.4% ปิดที่ 347.49

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,974.87 จุด เพิ่มขึ้น 59.31 จุด หรือ +0.60% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,382.34 จุด เพิ่มขึ้น 8.92 จุด หรือ +0.20% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,723.42 จุด ลดลง 5.75 จุด หรือ -0.09%

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) มีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,723.42 จุด ลดลง 5.75 จุด หรือ -0.09%

-- ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ย.เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

-- ตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ย.เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

-- ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ย.เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

-- ตลาดเงินนิวยอร์กปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ย.เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,723.42 จุด ลดลง 5.75 จุด -0.09%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,974.87 จุด เพิ่มขึ้น 59.31 จุด +0.60%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,382.34 จุด เพิ่มขึ้น 8.92 จุด +0.20%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,381.40 จุด เพิ่มขึ้น 1.10 จุด +0.02%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,400.90 จุด เพิ่มขึ้น 4.70 จุด +0.09%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,165.31 จุด เพิ่มขึ้น 42.92 จุด +0.47%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,248.50 จุด ลดลง 135.08 จุด -0.78%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,248.50 จุด ลดลง 135.08 จุด -0.78%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,630.49 จุด เพิ่มขึ้น 26.14 จุด +1.00%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,265.34 จุด ลดลง 91.25 จุด -1.24%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,004.28 จุด ลดลง 107.70 จุด -0.45%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,145.32 จุด เพิ่มขึ้น 12.28 จุด +0.24%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,829.91 จุด ลดลง 12.26 จุด -0.67%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,340.96 จุด ลดลง 8.70 จุด -0.26%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,438.91 จุด เพิ่มขึ้น 52.72 จุด +0.19%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ข่าวหุ้น-การเงินล่าสุด

ข่าวหุ้น-การเงินล่าสุด »

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10609644_10200113222590882_8662863705261032345_n.jpg?oh=32a95f8fe7cac0ae5bb074bf2b0e4a43&oe=5506AA6C&__gda__=1423414291_5e0a850c1c75d38d55f276671aa8d511

ถ้าทุกคนสนใจในความรักประเทศชาติ รักษาความดีเอาไว้

ไม่ต้องไปตามอย่างในสิ่งที่เราเห็นว่าไม่น่าที่จะเจริญไม่น่าจะพัฒนา

เราต้องรักษาแนวทางความคิดตามที่เรามีอยู่ แม้จะเป็นสิ่งที่ตกทอดมาแต่โบราณกาล

จากปู่ย่าตายายของเรา แต่เป็นระเบียบการหรือเป็นวิธีการที่ดี จะไม่ล้าสมัย

พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

วิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตร

๑๓ มีนาคม ๒๕๑๔

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2557 10:39:47 น.

กรุงเทพฯ--28 พ.ย.--MTS Gold Group

ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,196 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,193เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.75 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,500 บาท กับ 18,600บาท และกลับมาปิดที่ 18,500 บาท กับ 18,600 บาท

ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 895 คู่สัญญาแบบ 10 บาทอยู่ที่ 6,089 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 3.1% แบบ 10 บาท ลดลง 2.8% GFZ14 ปิด 18,650 บาท และ GFG14 ปิด 18,720 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,650 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,720 บาท

ข่าวที่สำคัญ

-ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,200 เหรียญ/ออนซ์เป็นวันที่ 2 ต่อเนื่อง เพราะได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง การแข็งค่าของดอลลาร์ การเริ่มกลับมาเทขายทองคำของกองทุนทองคำ SPDR ขณะที่ตลาดค่อนข้างเงียบเหงาจากวันหยุด Thanksgiving ของสหรัฐฯ รวมถึงกลุ่มเทรดเดอร์ที่ยังคงเฝ้าระมัดระวังก่อนการลงประชามติของสวิสเซอร์แลนด์จะเริ่มต้นขึ้นในวันอาทิตย์นี้

-โดยในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ธนาคารกลางสวิสฯ (SNB) จะให้ประชาชนได้ร่วมลงประชามติ เกี่ยวกับ ธนาคารกลางสวิสฯ สามารถือครองทองคำได้มากขึ้นในสัดส่วน 20% ของทรัพย์สินทั้งหมดหรือไม่ โดยข้อมูลปัจจุบันจาก World Gold Council ระบุว่า ในไตรมาสที่ 3/2014 สวิสเซอร์แลนด์มีการสำรองทองคำ 7% ที่ระดับ 1,040 ตัน

-นักวิเคราะห์จาก Kitco กล่าวว่า แม้ผลสำรวจหลายสำนักจะแสดงให้เห็นว่า ประชาชนชาวสวิสฯส่วนใหญ่จะเลือกโหวต “NO”มากกว่าโหวต “YES” แต่หากผลที่ออกมาในวันอาทิตย์ ประชามติออกมาเป็น “YES” อาจสร้างความเสียหายให้กับตลาดการเงินได้

-ขณะที่ นักวิเคราะห์จาก HSBC ประเมินว่า หากผลการลงประชามติเป็น “YES” อาจทำให้ราคาทองคำตอบสนองและดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และจะกลายเป็นผลเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะยาว เนื่องจากจะส่งผลให้ธนาคารกลางสวิสฯ จำเป็นต้องเพิ่มการสำรองทองคำอีกประมาณ 1,500 ตัน แต่หากผลโหวตออกมาเป็น “NO” เช่นเดียวกับผลสำรวจ อาจทำให้ทองคำปรับตัวลดลง และจะช่วยยืนยันแนวโน้มขาลงของทองคำในช่วงต้นสัปดาห์หน้า

-นักวิเคราะห์จากคอมเมิร์ซแบงก์ ระบุว่า การร่วงลงอย่างต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบจะส่งผลให้หลายๆประเทศเผชิญกับแรงกดดันทางด้านเงินเฟ้อ และจะส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคำด้วย

-เนื่องในวันนี้เป็นวัน Black Friday ตลาด COMEX จึงจะปิดทำการเร็วขึ้นประมาณ 01.00น. (ตามเวลาไทย)

-ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2462 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2507 ยูโร/ดอลลาร์ และเช้าวันนี้ยังคงแข็งค่าต่อเนื่องสู่ระดับ 1.2451 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าขึ้น 0.1% สู่ระดับ 117.85 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 117.75 เยน/ดอลลาร์ และเช้าวันนี้อ่อนค่าแตะระดับ 118.23 เยน/ดอลลาร์

-เมื่อวานนี้ ที่ประชุมโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันไว้ที่ระดับ 30 ล้านบาร์เรล/วัน แม้ว่าอุปทานน้ำมันดิบจะอยู่ในระดับสูงเกิน และราคาน้ำมันดิบที่ยังคงร่วงลงอย่างหนัก จนหลุดต่ำกว่า 75 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2010

-นักวิเคราะห์ ระบุว่า อำนาจในการคบคุมราคาน้ำมันในตลาดไม่ได้ขึ้นอยู่กับกลุ่มโอเปคอีกต่อไปหลังจากที่สมดุลด้านการผลิตเปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ดี ตลาดน้ำมันยังคงมีอุปทานที่สูงเกินไป ซึ่งอุปทานดังกล่าวไม่ได้มีที่มาจากกลุ่มโอเปค

-เมื่อคืนนี้ นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี กล่าวเกี่ยวกับการใช้เม็ดเงินอัดฉีดเข้าสู่ระบบการเงินของยุโรปในการเข้าซื้อสินทรัพย์ประเภทใดบ้าง รวมถึงหุ้นของกลุ่มบริษัทเอกชนต่างๆ ซึ่งเขาจะไม่ทำการอธิบายใดๆเพิ่มเติมจนกว่าจะทราบผลการประเมินข้อมูลทางเศรษฐกิจก่อน

-อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีประจำเดือนพฤศจิกายน ซึ่งคำนวณตามมารฐานยุโรป พบว่าปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.5% จากเดิมที่ระดับ 0.7% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งข้อมูลล่าสุดถือเป็นสถิติต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี ขณะที่ประมาณการเงินเฟ้อขั้นต้นประจำเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ระดับ 0.0% จากเดิม -0.3% ในเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงภาวะความเสี่ยงของเศรษฐกิจยูโรโซนที่จะเผชิญกับภาวะเงินฝืด

-นักวิเคราะห์ ประเมินว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะยังไม่เข้าสู่ภาวะภาวะถดถอยในทันที เพราะยังมีสัญญาณเชิงบวกจากการปรับตัวลดลงของอัตราว่างงานในเยอรมนีและการปรับตัวเพิ่มขึ้นของความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในเขตยูโรโซน

-ยอดค้าปลีกญี่ปุ่นประจำเดือน ประจำเดือนพฤศจิกายน ปรับตัวลดลง 1.4% จากระดับ 2.3% เมื่อเทียบรายปี ประมาณการผลิตเบื้องต้นของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.2% จากระดับ 2.9% และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนตุลาคมปรับตัวขึ้น2.9% เมื่อเทียบรายปี ทำสถิติปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 17

-สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่าดัชนีราคาผู้บริโภคในญ่ปุ่นชะลอตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และมีแนวโน้มจะปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 1% เพราะได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีการบริโภคในเดือนเมษายนที่ผ่านมา

-อย่างไรก็ดีนักเศรษฐศาสตร์ จาก สถาบัน โนริชูคิน รีเสิร์ต กล่าวว่า หลังจากบีโอเจประกาศเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านมาล่าสุด เราอาจะได้เห็นบีโอเจตัดสินใจเพิ่มมาตรการผ่อนคลายทางการเงินอีกครั้งในช่วงต้นปีหน้า

-สถาบันจัดอันดับ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ คาดการณ์ว่า แนวโน้มความน่าเชื่อถือของประเทศ สถาบัน-การเงิน และบริษัทเอกชนในกลุ่มเอเชียแปซิฟิกจะมีเสถียรภาพในปี 2558 จากการเริ่มฟื้นตัวของอุปสงค์ต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ขณะที่ภาวะทางการเงินทั่วโลกเป็นไปในเชิงกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงความแข็งแกร่งของปัจจัยพื้นฐานในภูมิภาค และมาตรการป้องกันเพื่อรับมือกับวิกฤตในอนาคต

-โดยในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ธนาคารกลางสวิสฯ (SNB) จะให้ประชาชนได้ร่วมลงประชามติ เกี่ยวกับ ธนาคารกลางสวิสฯ สามารถือครองทองคำได้มากขึ้นในสัดส่วน 20% ของทรัพย์สินทั้งหมดหรือไม่ โดยข้อมูลปัจจุบันจาก World Gold Council ระบุว่า ในไตรมาสที่ 3/2014 สวิสเซอร์แลนด์มีการสำรองทองคำ 7% ที่ระดับ 1,040 ตัน

-ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2462 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2507 ยูโร/ดอลลาร์ และเช้าวันนี้ยังคงแข็งค่าต่อเนื่องสู่ระดับ 1.2451 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าขึ้น 0.1% สู่ระดับ 117.85 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 117.75 เยน/ดอลลาร์ และเช้าวันนี้อ่อนค่าแตะระดับ 118.23 เยน/ดอลลาร์

-เมื่อวานนี้ ที่ประชุมโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันไว้ที่ระดับ 30 ล้านบาร์เรล/วัน แม้ว่าอุปทานน้ำมันดิบจะอยู่ในระดับสูงเกิน และราคาน้ำมันดิบที่ยังคงร่วงลงอย่างหนัก จนหลุดต่ำกว่า 75 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2010

-นักวิเคราะห์ ระบุว่า อำนาจในการคบคุมราคาน้ำมันในตลาดไม่ได้ขึ้นอยู่กับกลุ่มโอเปคอีกต่อไปหลังจากที่สมดุลด้านการผลิตเปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ดี ตลาดน้ำมันยังคงมีอุปทานที่สูงเกินไป ซึ่งอุปทานดังกล่าวไม่ได้มีที่มาจากกลุ่มโอเปค

-สำนักข่าว MKS รายงานว่า ตารางการประชุมโอเปคครั้งถัดไปอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายนของปีหน้า โดยยังไม่มีรายงานว่าโอเปคจะมีแผนการประชุมเร่งด่วนต่อจากนี้แต่อย่างใด

-อย่างไรก็ดี ประธาน PDVSA ซึ่งเป็นบริษัทผลิตน้ำมันรายใหญ่ของเวเนซูเอล่า กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมัน กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก จากการร่วงลงอย่างหนักของราคาน้ำมันดิบ โดยทุกฝ่ายต้องเตรียมพร้อมรับมือ

-เมื่อคืนนี้ นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี กล่าวเกี่ยวกับการใช้เม็ดเงินอัดฉีดเข้าสู่ระบบการเงินของยุโรปในการเข้าซื้อสินทรัพย์ประเภทใดบ้าง รวมถึงหุ้นของกลุ่มบริษัทเอกชนต่างๆ ซึ่งเขาจะไม่ทำการอธิบายใดๆเพิ่มเติมจนกว่าจะทราบผลการประเมินข้อมูลทางเศรษฐกิจก่อน

-อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีประจำเดือนพฤศจิกายน ซึ่งคำนวณตามมารฐานยุโรป พบว่าปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.5% จากเดิมที่ระดับ 0.7% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งข้อมูลล่าสุดถือเป็นสถิติต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี ขณะที่ประมาณการเงินเฟ้อขั้นต้นประจำเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ระดับ 0.0% จากเดิม -0.3% ในเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงภาวะความเสี่ยงของเศรษฐกิจยูโรโซนที่จะเผชิญกับภาวะเงินฝืด

-นักวิเคราะห์ ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีที่ลดลง เพราะได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง แต่อัตราแลกเปลี่ยนของเยอรมนีที่มีการอ่อนค่าจึงช่วยชดเชยแรงกดดัน และทำให้อัตราเงินเฟ้อไม่ร่วงลงไปมากกว่านี้

-รายงานผลสำรวจจากคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เผยว่า ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในภาคการผลิตและภาคค้าปลีกของยูโรซนประจำเดือนพฤศจิกายนปรับตัวขึ้น 100.8 จาก 100.7 ซึ่งเป็นการปรับตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 แล้ว

-ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ ระบุว่า เศรษฐกิจในประเทศจะสามารถขยายตัวได้ดีในไตรมาสที่ 4/2014 หลังจากมีการประกาศใช้นโยบายสนับสนุน รวมถึงการยกเลิกมาตรการคุมเข้มทางการเงินในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

-เช้านี้ ดัชนีนิกเกอิ เปิด +0.53% เพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินเยน และกระแสคาดการณ์ที่ว่าต้นทุนด้านเชื้อเพลิงของบริษัทเอกชนจะปรับตัวลง หลังโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมัน

-นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70 – 32.90 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามากระทบ รวมถึงค่าเงินอื่นๆก็ยังคงทรงตัว

สศค. กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4/2557 จะขยายตัวได้ 4% และการส่งออกขยายตัวได้ไม่เกิน 3% ซึ่งจะส่งผลให้ภาคการส่งออกตลอดปีขยายตัวได้ 0.1% ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจน่าจะขยายตัวได้ประมาณ 1.4%

-นักเศรษฐศาสตร์ ประเมินสภาพเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4/2557 จะกระเตื้องขึ้น และขยายตัวไม่ต่ำกว่าระดับ 3.5% เพราะไม่มีแรงกดดันเงินเฟ้อแม้ว่าการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีจะยังไม่คึกคักจากกฎอัยการศึกก็ตาม และคาดว่าในปี 2558 เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวและเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งที่ระดับ 4-5% โดยกรณีพื้นฐานจะอยู่ที่ระดับ 4.5% ซึ่งเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ในไตรมาสที่ 2/2558 จากภาคส่งออกและการท่องเที่ยวที่มีโอกาสขยายตัวมากขึ้น รวมถึงการเดินหน้าโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และการลงทุนของภาคเอกชนที่เริ่มขยายตัวเป็นบวกหลังติดลบมา 2 ปีต่อเนื่อง

-แต่ปัจจัยเสี่ยงที่จะกดดันการเติบโต ได้แก่เรื่องของทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น การปรับโครงสร้างราคาพลังงานและการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลัง อีกทั้งค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง และมีความผันผวนของการเคลื่อนย้ายเงินทุนในระยะสั้น และอาจเกิดวิกฤตการณ์ทางการเมืองอีกครั้งหากการเลือกตั้งไม่ตรงตามกำหนดเวลา

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืนนี้

-ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญเนื่องจาก ตลาด Comex ปิดเนื่องในวัน Thanksgiving Day

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้

-ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบแคบเช่นเดิม อย่างไรก็ดีเริ่มมีการปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1190 เหรียญลงมา โดยเมื่อวานไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ เนื่องจากเป็นวันหยุด Thanksgiving ขณะที่ตลาดนิวยอร์กและตลาด COMEX จะปิดทำการเร็วขึ้นเวลาประมาณ 00.30น. ตามเวลาไทย ดังนั้น MTS Gold จะทำการปิดระบบ Gold Online และ Gold Phone ในช่วงเวลา 00.30น. เช่นเดียวกัน สำหรับวันนี้จะไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ ทางด้าน SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 718.82 ตัน ในขณะที่ตลาดให้ความสนใจไปยังผลการลงประชามติของสวิสเซอร์แลนด์ในวันอาทิตย์นี้ ว่าจะเพิ่มการสำรองทองคำหรือไม่ หลังผลสำรวจความคิดเห็นการลงประชามติ พบว่า มีผู้โหวต Yes จำนวน 38%โหวต No 47% และ 15% ยังไม่ตัดสินใจ

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำในระยะสั้นยังคงเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideways โดยกรอบแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,180 เหรียญ และแนวต้านด้านบนที่ระดับ 1,200 เหรียญ ซึ่งหากราคาหลุดด้านใดด้านหนึ่งราคาจะวิ่งไปได้ลึก แต่คาดว่าในวันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวกรอบแคบเช่นเดิมระหว่าง 1,185-1,195 เหรียญ

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น ขณะที่ตลาดมีการเคลื่อนไหวน้อย จึงอาจจะทำอะไรได้ค่อนข้างยาก

- นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปรับ Portfolio ให้สมดุลกับสภาพตลาดต่อไป ไม่ทำการ Leverage มากนัก

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ยังคงแนะนำให้ทำกำไรในแนวโน้มขาลง

Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,520 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,720 บาท

Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,600 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,800 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

(เพิ่มเติม) ผู้ว่า ธปท.เผยปี 58 ยังเกาะติดภาวะ ศก.โลก-ดูแลสมดุลในประเทศ

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2557 11:33:21 น.

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุว่า ในปี 58 ธปท.ยังคงต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจโลกซึ่งยังมีแนวโน้มไม่สดใสนัก โดยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ยังถือว่าโชคดีที่เศรษฐกิจของประเทศในอาเซียนยังมีความเข้มแข็ง เมื่อเทียบกับหลายภูมิภาคในโลก

โดยมองว่าแม้ปีหน้าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีโอกาสในการเติบโตได้ดีกว่า แต่เศรษฐกิจสหภาพยุโรปยังมีความผันผวน ส่วนเศรษฐกิจญี่ปุ่นนั้น ยังน่าเป็นห่วงในเรื่องโครงสร้างเศรษฐกิจ เพราะที่ผ่านมาจะเห็นแต่การดูแลในเรื่องนโยบายการเงิน ขณะที่เศรษฐกิจของจีนยังชะลอตัว และต้องติดตามต่อไป และจากที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวมากกว่าที่อื่นนั้น ก็จะต้องมาพิจารณาว่าจะใช้จุดนี้เป็นโอกาสต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไร

ผู้ว่าฯ ธปท.กล่าวว่า จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีขึ้นนั้น ประเทศไทยต้องดูแลและสร้างสมดุลเศรษฐกิจ 4 ด้าน ได้แก่ นโยบายการเงินในรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย, ระบบสถาบันการเงิน ต้องดูแลคุณภาพสินเชื่อ, ฐานะการคลังของประเทศที่ต้องมีเสถียรภาพ ซึ่งไทยได้รับการยอมรับและมีความเชื่อมั่นจากต่างชาติในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งดูแลความสมดุลของดุลบัญชีเดินสะพัดด้วย

ส่วนแนวโน้มที่ไทยอาจจะต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปเป็นปี 59 จากเดิมที่คาดว่าจะมีการจัดการเลือกตั้งได้ในปี 58 นั้น ผู้ว่าฯ ธปท. กล่าวว่า ภาพรวมยังไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นซึ่งที่ผ่านมาหลายฝ่ายอยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

อินโฟเควสท์ โดย ธปฦ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์:

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดี Felicia เพื่อนๆ โชคดีนะคะ

 

 

 

 

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

17:37 ตลท.ให้ CYBER,GBX,ITD,MLINK,PE,SLC,TFD,TFD-W2ใช้ Cash Balance ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ที่สมาชิกต้องดำเนินการให้ลูก…

17:30 ผลสำรวจเผยบริษัทขนาดเล็กในจีนไม่ถึง 60% มีผลกำไรใน Q3/57 มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และการเงินตะวันตกเฉียงใต้ (SWUFE) และบริษัท ไชน่า เพย์เมนท์ แอ…

17:27 ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดลบ 5.91 จุด สวนทางภูมิภาคเจอกลุ่มพลังงานถ่วง/สัปดาห์หน้าลุ้นขึ้น ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,593.91 จุด…

17:27 โบรกเกอร์มาร์เก็ตแชร์ 10 อันดับสูงสุดประจำวันที่ 28 พ.ย. 2557 รายงาน 10 อันดับของโบรกเกอร์ที่มีส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) สูงสุดประจำวันที่ …

 

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 28 พฤศจิกายน 2557

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2557 17:24:36 น.

กรุงเทพฯ--28 พ.ย.--พีอาร์ดีดี

สภาวะตลาดวันที่ 28 พฤศจิกายน 2557 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,181.90-1,191.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,500 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,600 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ14 อยู่ที่ 18,520 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 130 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,650 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.48 น. ของวันที่ 28/11/14)

แนวโน้มวันที่ 1 ธันวาคม 2557

สมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) แถลงการณ์หลังการประชุมว่าประเทศสมาชิกตกลงที่จะคงเพดานการผลิตน้ำมันไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวันต่อไป แม้มีปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาดก็ตามนับเป็นการเปลี่ยนแปลงการดำเนินนโยบายในการปกป้องราคา ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวฉุดราคาน้ำมันดิบดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบ 4 ปี ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดิ่งลงมาแล้วกว่า 30% แล้วนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาและการประชุมครั้งต่อไปของโอเปกจะมีขึ้นในเดือนมิถุนายน 2015 ทั้งนี้ ราคาน้ำมันที่ดิ่งลงอาจลดแรงกดดันเงินเฟ้อซึ่งจะลดความน่าสนใจของทองคำในฐานะเครื่องมือประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ประกอบราคาน้ำมันที่ดิ่งลงทำให้แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนลดลง ซึ่งกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะเร่งออกมาตราการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ส่งผลให้สกุลเงินยูโรมีโอกาสอ่อนตัวลงได้และอาจจะฉุดให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงตาม ความเชื่อมั่นและความระมัดระวังในการซื้อขายทองคำสะท้อนผ่าน กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำรายใหญ่ที่สุดในโลก ยังคงปรับลดปริมาณการถือครองทองคำลงอย่างต่อเนื่องโดยถือครองทองคำลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี นักลงทุนมุ่งจุดสนใจไปที่มาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจของยูโรโซน ในการประชุมครั้งต่อไปของอีซีบีในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ ภายหลังจากประธานอีซีบี มีแถลงการณ์ถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการดูแลเงินเฟ้อให้ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งรองประธานอีซีบียังออกมาย้ำถึงความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มมาตรการ QE ในไตรมาสหน้าวายแอลจีประเมินว่า เบื้องต้นในระยะสั้นราคาทองคำยังเคลื่อนไหวผันผวนตามทิศทางเศรษฐกิจและสกุลเงินของยูโรโซนทำให้นักลงทุนจำเป็นต้องติดตามกระแสข่าวต่างๆ อย่างใกล้ชิด

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,170 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในระยะสั้นราคาทองคำยังมีโอกาสขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,198-1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรเพียงบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง โดยนักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอดูการตั้งฐานของราคาโดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,170-1,160 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนในระยะสั้นหากราคาการย่อตัวลงมาและสามารถตั้งฐานบริเวณแนวรับดังกล่าวได้แข็งแกร็งสามารถเข้าซื้อเก็งกำไรทองคำเพิ่มเติมบางส่วน

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,170 (18,150บาท) 1,162 (18,030บาท) 1,150 (17,840บาท)

แนวต้าน 1,198 (18,590บาท) 1,207 (18,730บาท) 1,216 (18,870บาท)

GOLD FUTURES (GFZ14)

แนวรับ 1,170 (18,300บาท) 1,162 (18,170บาท) 1,150 (17,990บาท)

แนวต้าน 1,198 (18,730บาท) 1,207 (18,880บาท) 1,216 (19,020บาท)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองฟิวเจอร์ดิ่งลง $13.50 เหตุราคาน้ำมันร่วงฉุดอุปสงค์

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2557 20:12:12 น.

ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวลงต่อเนื่อง หลังจากการร่วงลงของราคาน้ำมันได้สกัดความต้องการทองคำในฐานะแหล่งประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ

ณ เวลาประมาณ 20.00 น.ตามเวลาประเทศไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.รูดลง 13.50 ดอลลาร์ หรือ 1.13% แตะที่ 1,184.00 ดอลลาร์/ออนซ์

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบได้ส่งผลกระทบต่อการคาดการณ์เงินเฟ้อและการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองด้วย

ราคาน้ำมันดิบร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) มีมติคงเพดานการผลิตเอาไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวันในการประชุมครั้งล่าสุดที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวานนี้

การตัดสินใจของโอเปคดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อความต้องการทองคำ เนื่องจากนักลงทุนบางรายได้ซื้อทองเพื่อประกันความเสี่ยงจากการปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อ

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดร่วง $22 หลังราคาน้ำมันดิ่ง,เงินดอลล์แข็ง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2557 09:11:01 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) เพราะได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ และสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ อันเนื่องมาจากการที่นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า การปรับตัวลงของราคาน้ำมันจะช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐให้แข็งแกร่งขึ้น

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 22 ดอลลาร์ หรือ 1.84% ปิดที่ 1,175.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 1.05 เซนต์ ปิดที่ 15.556 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 17.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,211.3 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 10.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 813.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ โดยในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 7.54 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.15 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่ประชุมโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันเอาไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าโอเปคจะปรับลดเพดานการผลิต โดยบีเอ็นพี พาริบาส์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าโอเปคอาจจะลดเพดานการผลิตลงราว 1-1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่มอร์แกน สแตนลีย์ ก็คาดว่าโอเปคจะเพดานการผลิตเช่นกัน

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า การปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบจะช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐให้แข็งแกร่งขึ้น

นักลงทุนยังจับตาดูการลงประชามติของชาวสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ เพื่อลงความเห็นว่าควรจะให้ธนาคารกลางสวิสปรับเพิ่มปริมาณทองคำในทุนสำรองหรือไม่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์หน้า รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ย. และตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ย.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

10155583_833313736765578_3404176860155129705_n.jpg?oh=2054e936d9c6e92c01f62f0ee443a6f6&oe=5518F964&__gda__=1427238364_19210044e8a823d039885c7f9f59705f

พักสบายใจ แจ่มใสวันหยุดนะคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดี เพื่อน wannn deb news Traderjunior meng Goldleng Magagold Alan pasaya OKorNO อยากเล่นด้วยคน ตังเม ตะนอย .. ... ..ตู้เย็น

 

 

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดร่วง 7.54 ดอลล์ หลังโอเปคคงเพดานผลิต

 

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2557 07:57:59 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ตัดสินใจไม่เปลี่ยนแปลงเพดานการผลิตน้ำมันในการประชุมล่าสุด แม้ตลาดโลกมีอุปทานน้ำมันที่สูงขึ้นก็ตาม

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 7.54 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.15 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 2. 43 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.15 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงมากกว่า 7 ดอลลาร์ หลังจากที่ประชุมโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันเอาไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าโอเปคจะปรับลดเพดานการผลิต โดยบีเอ็นพี พาริบาส์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าโอเปคอาจจะลดเพดานการผลิตลงราว 1-1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่มอร์แกน สแตนลีย์ ก็คาดว่าโอเปคจะเพดานการผลิตเช่นกัน เพื่อหนุนราคาน้ำมันให้สูงขึ้น

ก่อนหน้านี้สมาชิกกลุ่มโอเปคยังคงมีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับเพดานการผลิตน้ำมัน โดยเวเนซูเอล่าและอิหร่านต่างก็ส่งสัญญาณว่าโอเปคควรจะปรับลดการผลิต ในขณะที่ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ของกลุ่มโอเปคนั้น สนับสนุนให้มีการปรับลดราคาน้ำมันเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด แทนการปรับลดการผลิต

นักวิเคราะห์จากธนาคารโซซิเอเต เจนเนอราล แสดงความเห็นว่า "เรากำลังเข้าสู่ราคาน้ำมันยุคใหม่ ซึ่งตลาดจะเป็นตัวกำหนดภาวะอุปทาน ไม่ใช่ซาอุดิอาระเบียหรือกลุ่มโอเปคอีกต่อไป"

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากมีรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 พ.ย.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล แตะ 383 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 100,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอคลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งน้ำมัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 24.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ศูนย์วิจัยกสิกรฯคาดเงินบาทสัปดาห์หน้ามีโอกาสอ่อนตัวแตะ 33.00 บาท

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2557 10:28:14 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดแนวโน้มเงินบาทในสัปดาห์ถัดไป (1-4 ธ.ค.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์ฯ ในช่วงการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ อาทิ ดัชนี ISM ภาคการผลิต/ภาคบริการ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงาน ตลอดจนรายงานดัชนี PMI เดือนพ.ย. ของหลายประเทศชั้นนำ และผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป

 

 

 

อนึ่ง ตลาดการเงินในประเทศอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่รายงานอัตราเงินเฟ้อของไทยในช่วงต้นสัปดาห์ ซึ่งถูกคาดหมายว่า น่าจะมีทิศทางชะลอลงอย่างต่อเนื่อง

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทผันผวนในกรอบแคบ-รอปัจจัยใหม่ โดยเงินบาทขยับอ่อนค่าเล็กน้อยในช่วงแรก ก่อนจะแข็งค่ากลับมาตามทิศทางเงินเยนในช่วงกลางสัปดาห์ หลังผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น กล่าวว่า แม้การร่วงลงของเงินเยนจะเป็นปัจจัยบวกต่อการส่งออก แต่ก็ส่งผลทำให้ต้นทุนการนำเข้าเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี เงินบาทอ่อนค่ากลับมาอีกครั้งในช่วงท้ายสัปดาห์ ท่ามกลางการฟื้นตัวขึ้นของเงินดอลลาร์ฯ เนื่องจากจุดสนใจของตลาดเปลี่ยนกลับมาที่แนวทางผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางญี่ปุ่น หลังจากเงินเฟ้อของทั้ง 2 ประเทศยังคงชะลอลง

ในวันศุกร์ (28 พ.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.83 เทียบกับระดับ 32.78 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (21 พ.ย.)

อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.02-2535000 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--

 

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่า จากมุมมองราคาน้ำมันร่วงอาจหนุนศก.สหรัฐ

 

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2557 09:33:57 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงจะช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐให้แข็งแกร่งขึ้น

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 118.75 เยน จากการซื้อขายวันก่อนที่ระดับ 117.81 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9657 ฟรังค์ จากระดับ 0.9639 ฟรังค์

 

 

 

ยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.2443 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2471 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.5629 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5736 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะ 0.8504 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8545 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากการที่เทรดเดอร์มีมุมมองเป็นบวกว่า การปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบอาจจะช่วยหนุนเศรษฐกิจสหัฐให้แข็งแกร่งขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ที่ตลาดนิวยอร์กร่วงลง 7.54 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.15 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ หลังจากที่ประชุมโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันเอาไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน

นักวิเคราะห์คาดว่า การปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบอาจจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งมีสัดส่วนราว 70% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังแข็งค่าเนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนช่วงกลางปี 2558 เนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: หุ้นค้าปลีกพุ่ง หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 0.49 จุด

 

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2557 06:56:40 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีก เนื่องจากบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ต่างก็ใช้แผนทางการตลาดเพื่อดึงดูดผู้ซื้อในช่วงเทศกาลวันหยุด อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หลังจากกลุ่มโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันในการประชุมครั้งล่าสุด

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,828.24 จุด เพิ่มขึ้น 0.49 จุด หรือ +0.00% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,791.63 จุด เพิ่มขึ้น 4.31 จุด หรือ +0.09% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,067.56 จุด ลดลง 5.27 จุด หรือ -0.25%

หุ้นกลุ่มค้าปลีกดีดตัวขึ้น และช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวก โดยหุ้นวอล-มาร์ท พุ่งขึ้น 3.02% หลังจากบริษัทใช้กลยุทธ์ปรับลดราคาสินค้าเพื่อดึงดูดผู้บริโภค ซึ่งส่งผลให้ยอดขายของบริษัทปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่หุ้นบริษัทค้าปลีกรายอื่นๆ รวมถึงทาร์เก็ต เมซี และเจซี เพนนี ต่างก็ปิดตลาดปรับตัวขึ้นเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนัก ภายหลังจากที่กลุ่มโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตในการประชุมล่าสุด โดยหุ้นเชฟรอน และหุ้นเอ็กซอนโมบิล ต่างก็ปรับตัวลดลง

ทั้งนี้ กลุ่มโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน แม้ว่าตลาดโลกอยู่ในภาวะที่มีอุปทานน้ำมันมากเกินไปก็ตาม โดยที่ผ่านมานั้น สมาชิกกลุ่มโอเปคยังคงมีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับเพดานการผลิตน้ำมัน โดยเวเนซูเอล่าและอิหร่านต่างก็ส่งสัญญาณว่าโอเปคควรจะปรับลดการผลิต ในขณะที่ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ของกลุ่มโอเปคนั้น สนับสนุนให้มีการปรับลดราคาน้ำมันเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด แทนการปรับลดการผลิต

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม การร่วงลงของราคาน้ำมันได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มสายการบินพุ่งขึ้น นำโดยหุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส พุ่งขึ้น 21% และหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 16%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์หน้า รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย., ตัวเลขจ้างงานเดือนพ.ย.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ย., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ย.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองลง200บ.ทองแท่งขายออก18,250 ราคาทองคำวันนี้ทองแท่งขายออกบาทละ 18,250 บาท ทองรูปพรรณขายออกบาทละ 18,650 บาท ปรับลง 200 บาท 'EGCO'จับมือ'ITD'สร้างโรงไฟฟ้าทวาย "เอ็กโก" จับมือ "อิตาเลียนไทย" ตั้งบริษัทร่วมทุนลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าทวาย คาดสรุปต้นปี 58 สรุปภาพรวมตลาดหุ้น 28-11-57 vdo.gif สรุปภาพรวมการลงทุนตลาดหุ้น ช่วงตรงประเด็นข่าวค่ำ "NOW26" 28-11-57 แนวโน้มราคาทอง vdo.gif 'EGCO'ตั้งงบลงทุน4ปี6.15หมื่นลบ. พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติซื้อ1.1ลบ. หุ้นไทยปิดร่วง5.91จุด

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

 

 

 

 

 

ความไม่ลับที่บอกกับฝรั่งเป็นบางส่วน

โดย : ดร.ไสว บุญมา

ความไม่ลับที่บอกกับฝรั่งเป็นบางส่วน

โดย : ดร.ไสว บุญมา

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผมเล่าถึงการพบกับฝรั่งที่ต้องการความกระจ่างเกี่ยวกับแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง

ผมสรุปว่า ถ้าสังคมไทยยังลดความฉ้อฉลลงไม่ได้อย่างมีนัยสำคัญ การพัฒนาจะติดหล่ม ผมไม่ได้อ้างถึงข้อมูลที่สนับสนุนข้อสรุปนั้นมากนักนอกจากเรื่อง “ทฤษฎีทางเท้า” ซึ่งใช้สภาพของทางเท้าที่ปรากฏแก่สายตาเป็นดัชนีชี้วัดระดับความฉ้อฉลและการพัฒนา ผมไม่ได้บอกเธอว่า ผมมีตัวบ่งชี้ความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างความฉ้อฉลกับความด้อยพัฒนามากว่าสิบปีแล้วอยู่ในบท “ต้นแค/เสาเข็ม” ของหนังสือชื่อ “ไอเอ็มเอฟ ไอเอ็มเอฟ ไอเอ็มเอฟ” (ทั้งเรื่องนี้และเรื่อง “ทฤษฎีทางเท้า” อาจดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของมูลนิธินักอ่านบ้านนา www.bannareader.com) การลดความฉ้อฉลเป็นการปรับฐานด้านคุณธรรมของเศรษฐกิจพอเพียงให้แข็งแกร่งขึ้นซึ่งเธอเห็นด้วย

ส่วนฐานทางด้านความรู้ เราขาดเวลา จึงมิได้คุยกันเรื่องการศึกษาซึ่งผมมองว่าเมืองไทยตกอยู่ในสภาพกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด นั่นคือ คิดกันว่าการศึกษาเป็นหน้าที่ของโรงเรียน แม้จะขาดความเชี่ยวชาญทางด้านการให้การศึกษา แต่ผมแน่ใจว่าการศึกษาในโรงเรียนเป็นเพียงเสี้ยวเดียวของการศึกษาเท่านั้น ส่วนที่สำคัญยิ่งกว่าเป็นการศึกษาจากในบ้าน ในชุมชน ในโลกรอบด้านและจากการค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง เรื่องนี้เป็นจุดอ่อนของสังคมไทยเนื่องจากโดยทั่วไปคนไทยขาดความใส่ใจในการค้นคว้าหาความรู้อยู่เป็นนิจและไม่นิยมอ่านหนังสือ หากการปฏิรูปการศึกษาคือการปรับเปลี่ยนโครงสร้างดังเมื่อครั้งที่ผ่านมาซึ่งมีผลเพียงการเลื่อนตำแหน่งข้าราชการ ฐานทางด้านความรู้ของเศรษฐกิจพอเพียงไม่มีทางแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ

ด้านองค์ประกอบที่สามซึ่งได้แก่ความมีเหตุผล ผมไม่ได้บอกฝรั่งเรื่องที่ผมถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ครั้งยังเป็นนักเรียนฝึกหัดครูว่า การสอนที่ดีต้องชี้นำให้เด็กรู้จักคิดเชิงวิพากษ์จนเป็นนิสัย แต่การให้การศึกษาแก่เด็กไทยยังไปไม่ถึงไหนในด้านนี้ ในการเขียนบทความมากว่าสิบปี มุมมองที่ผมถูกโจมตีมากที่สุดจากคนไทยได้แก่เรื่องเกี่ยวกับศาสนา ซึ่งผมมองว่าคนไทยทำบุญเพื่อสนับสนุนการก่อสร้างเล็กใหญ่ภายในวัดเป็นเงินจำนวนมหาศาล แต่เมื่อมีอาคารโรงเรียนผุพังอยู่ตำตาหาผู้บริจาคซ่อมแซมไม่ได้ การทำบุญส่วนใหญ่ทำไปเพื่อหวังผลตอบแทนจำพวกตายแล้วจะไปสวรรค์ จึงมิใช่เป็นการให้ทาน หากเป็นการแลกเปลี่ยน หรือซื้อบุญ

พระส่วนใหญ่ใส่ใจเฉพาะในด้านวัตถุและพิธีกรรม แต่มิได้ศึกษาพระธรรมให้แตกฉานและไม่โน้มนำชาวบ้านให้ใส่ใจในด้านการศึกษาของเยาวชนและของตนเอง เมื่อผมเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ลงสื่อที่ฝรั่งอ่านได้ มักมีจดหมายถึงผมว่า ช่างกล้าท้าทาย ไม่กลัวตายหรือ อาทิเช่น เรื่อง “A Guide to the Perfect Thai Idiot” ซึ่งถอดความเป็นไทยชื่อ “แนะนำคนไทยไร้ปัญญา” ฝรั่งนำมาปันโดยการอ่านบันทึกไว้บนอินเทอร์เน็ตในรูปของ youtube (www.youtube.com/watch?v=hXTM0GJsybE บทความอาจดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของมูลนิธินักอ่านบ้านนา) อย่างไรก็ตาม ผมไม่ได้ถามความเห็นของเธอเกี่ยวกับเรื่องที่ฝรั่งมองว่าคนไทยไม่ค่อยคิดอย่างมีเหตุผลจนถึงกับฝรั่งบางคนสรุปว่าสังคมไทยมี “ขี้” สี่อย่างคือ ขี้โกง ขี้เกียจ ขี้โอ่และขี้อิจฉา

ด้านองค์ประกอบที่สี่คือการมีภูมิคุ้มกัน ผมไม่ได้บอกฝรั่งว่าผมเสนอไว้หลากหลายอย่างและหลายต่อหลายครั้งรวมทั้ง “สารถึงรัฐบาล คสช. สนช. และ สปช. เรื่องความพอเพียง” ซึ่งปรากฏในเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์เมื่อบ่ายวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา (อาจดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของมูลนิธินักอ่านบ้านนา) ผมมองว่าในช่วงนี้ เป็นโอกาสดีที่ผู้มีอำนาจอาจเริ่มทำบางอย่างเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประเทศชาติ อาทิเช่น การสร้างเมืองใหม่เพื่อถ่ายโอนความแออัดออกจากกรุงเทพฯ ซึ่งมีโอกาสจมบาดาลมากขึ้นทุกวัน เรื่องนี้ ผมมีส่วนเสนอให้รัฐบาลพิจารณามาเกือบ 50 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น เช่นเดียวกับข้อเสนอให้สร้างศูนย์ปฏิบัติภูมิปัญญาชาติไทยซึ่งเสนอไว้ในหนังสือชื่อ “เศรษฐกิจพอเพียง : ภูมิปัญญาชาติไทย” เมื่อปี 2543 ในบทความเรื่อง “อย่าท่องแบบศีลห้าถ้าคิดจะพัฒนาประเทศ” ซึ่งปรากฏในเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์เมื่อบ่ายวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ผมเสนอให้ใช้สนามกอล์ฟในค่ายอดิสร สระบุรี เป็นที่ตั้งศูนย์ดังกล่าว ผมพอเข้าใจ หากข้อเสนอได้รับการตอบสนองเพียงคำเย้ยหยันเชิงขำขันจากบางคน

สำหรับด้านความพอประมาณซึ่งเป็นของใหม่ที่ฝรั่งต้องการคำอธิบายมากกว่าด้านอื่น ผมได้พูดถึงมากแล้วในบทความเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผมคิดว่าฝรั่งพอจะเข้าใจ แต่เขาจะนำไปรายงานอย่างไรต่อผู้บังคับบัญชาผมไม่สามารถหยั่งรู้ได้ ผมหวังว่าเขาจะไม่สับสนแบบฝรั่งและคนไทยหลายคนที่คิดว่าแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งแปลว่า Sufficiency Economy เป็นเรื่องเดียวกันกับ Self Sufficiency อันเป็นความเข้าใจผิดอย่างมหันต์ ยิ่งกว่านั้น เป็นไปได้ว่า การตีความหมายของ Sufficiency Economy ให้เป็นเพียงเรื่อง Self Sufficiency อาจเกิดจากความจงใจบ่อนทำลายสถาบัน ฉะนั้น คนไทยที่มีความจงรักภักดีจะต้องรีบชี้แจง

หลังจากส่งต้นฉบับของบทความนี้ไม่กี่ชั่วโมง ผมจะไปให้ข้อมูลแก่อนุกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญชุดหนึ่งซึ่งต้องการคำชี้แจงเรื่องระบบเศรษฐกิจและแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง อนุกรรมาธิการอ้างว่า กำลังพิจารณาหาทางบรรจุแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเข้าไปในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผมดีใจระคนกับความกังวลว่า จะทำกันอย่างจริงจังหรือไม่ และจะยกร่างรัฐธรรมนูญอย่างไรเพื่อให้เกิดประสิทธิผล หากเป็นเพียงบรรจุไว้ แต่ไม่นำไปสู่การปฏิบัติ หรือปฏิบัติไม่ได้ก็คงไม่ต่างกับปรากฏการณ์ที่ผ่าน ๆ มา นั่นคือ บรรดาผู้นำใช้วาทกรรมอำพรางอ้างถึงแนวคิดอันประเสริฐยิ่งนี้โดยไม่มีความเข้าใจ หรือมีความจริงใจแม่แต่น้อย

Tags : ดร.ไสว บุญมา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ด่วน!!! ยกเลิกสกุลพระราชทาน'อัครพงศ์ปรีชา'

http://www.naewna.com/royal/133133

วันเสาร์ ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557, 11.20 น.

tags : สกุลพระราชทาน, ยกเลิก, ด่วน, อัครพงศ์ปรีชา

[/url]

133133.jpg

29 พ.ย.57 หน่วยราชการในพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ส่งหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ขอยกเลิกสกุลพระราชทาน 'อัครพงศ์ปรีชา'

เรื่อง ยกเลิกสกุลพระราชทาน 'อัครพงศ์ปรีชา'

เรียน ปลัดกระทรวงมหาดไทย

 

ด้วย กองกิจการในพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ขอยกเลิกชื่อสกุลพระราชทาน 'อัครพงศ์ปรีชา' โดยให้ผู้ที่ใช้ชื่อสกุลพระราชทานในปัจจุบันกลับไปใช้ชื่อสกุลเดิม

 

ขอแสดงความนับถือ

 

พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล

ราชเลขานุการในประองค์ฯ ปฎิบัติหน้าที่

ผู้อำนวยการกองกิจการในพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...