ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

 

 

ราคาทองฟิวเจอร์ดีดขึ้น หลังดอลล์อ่อนค่า-ตลาดหุ้นปรับตัวลง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 9 ธันวาคม 2557 20:09:38 น.

ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงและตลาดหุ้นที่ปรับตัวลงทั่วโลกได้กระตุ้นให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อทองอีกครั้ง ในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยและปกป้องความมั่งคั่ง

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ดีดขึ้น 17.80 ดอลลาร์ หรือ 1.49% แตะที่ 1,212.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเวลา 07.56 น. ตามเวลานิวยอร์ก

 

 

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ขณะนี้ดอลลาร์เป็นปัจจัยชี้นำสำคัญในทุกตลาด โดยในช่วงที่ผ่านมา เทรดเดอร์แห่ลงทุนในดอลลาร์ และหุ้นมากเกินไป และตอนนี้ตลาดจึงเข้าสู่การปรับฐาน ทำให้ราคาทองเพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่อ่อนแรงลง โดยตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง นำโดยการร่วงลงของหุ้นพลังงาน ซึ่งถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ร่วงลง ประกอบกับข้อมูลนำเข้าของเยอรมนีที่หดตัว ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชีย และตลาดหุ้นล่วงหน้าสหรัฐก็ปรับตัวลงเช่นกัน

ขณะเดียวกัน นักลงทุนกำลังจับตาการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า ท่ามกลางความวิตกกังวลว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทองคำ เนื่องจากถ้าอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น จะทำให้นักลงทุนรู้สึกว่าผลตอบแทนที่จะได้รับจากการฝากเงินมากกว่าการถือทองคำไว้ จึงเทขายทองคำ

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

ราคาน้ำมัน WTI ดีดขึ้น หลังผู้ผลิตน้ำมันสหรัฐส่งสัญญาณลดการลงทุน

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 9 ธันวาคม 2557 20:49:42 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ปรับตัวขึ้น 53 เซนต์ หรือ 0.84% แตะที่ 63.58 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อเวลา 08.30 น. ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้ ท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ว่า ผู้ผลิตน้ำมันสหรัฐจะควบคุมการลงทุน ขณะที่สมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) กำลังทำสงครามราคาน้ำมันอย่างดุเดือด

 

 

โคโนโคฟิลิปส์ ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ในสหรัฐประกาศลดรายจ่ายในปีหน้าประมาณ 20% ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทจะชะลอการลงทุนขุดเจาะน้ำมันในอเมริกาเหนือออกไป

ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนให้สัญญาน้ำมันดีดตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงวานนี้ จากข่าวอิรักซึ่งเป็นสมาชิกรายใหญ่อันดับสองของโอเปค ได้ปรับลดราคาน้ำมันดิบลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี ตามหลังซาอุดิอาระเบียที่ประกาศลดราคาน้ำมันดิบครั้งใหญ่ในรอบสิบกว่าปีให้แก่ลูกค้าในเอเชีย

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ผู้ผลิตน้ำมันสหรัฐให้ความสำคัญกับการรักษาผลกำไร ขณะที่ซาอุดิอาระเบีย และอิรักให้ความสำคัญกับการรักษาส่วนแบ่งตลาด พร้อมแสดงความเห็นว่า การกำหนดราคาน้ำมันจะยังคงเป็นเรื่องยากจนกว่าอุปสงค์จะเพิ่มสูงขึ้น

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อังกฤษเผยผลผลิตภาคโรงงานปรับตัวลง 0.7% ในเดือนต.ค. สวนทางคาดการณ์

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 9 ธันวาคม 2557 19:56:51 น.

สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคการผลิตของอังกฤษลดลง 0.7% ในเดือนต.ค. จากที่ขยายตัว 0.7% ในเดือนก.ย. และผิดไปจากที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%

 

 

สำนักงานสถิติฯระบุว่า ผลผลิตภาคการผลิตเดือนต.ค. ซึ่งลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.นั้น เนื่องมาจากการผลิตคอมพิวเตอร์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ร่วงลงอย่างรุนแรงถึง 4.5%

อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลผลิตจากโรงงานเพิ่มขึ้น 1.7%

ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนต.ค.ลดลง 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบรายปี

ทั้งนี้ ผลผลิตภาคการผลิตนั้นไม่รวมอุตสาหกรรมเหมือง น้ำมันและก๊าซ และสาธารณูปโภค ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมครอบคลุมถึงทุกภาคอุตสาหกรรมที่กล่าวมา

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 09 ธันวาคม 2557

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 9 ธันวาคม 2557 17:25:40 น.

กรุงเทพฯ--9 ธ.ค.--พีอาร์ดีดี

 

สภาวะตลาดวันที่ 9 ธันวาคม 2557 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,207.80-1,199.83 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,800 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,750 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ14 อยู่ที่ 18,900 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 60 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,840 บาท

 

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.51 น. ของวันที่ 09/12/14)

 

แนวโน้มวันที่ 11 ธันวาคม 2557

ความหวังว่าผู้กำหนดนโยบายจีนอาจจะเริ่มต้นดำเนินมาตรการผ่อนคลายครั้งใหญ่ที่สุด โดยอาจจะใช้วิธีปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงไปอีก และปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงด้วย โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นการปล่อยกู้ถึงแม้หนี้เสียเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม ประเด็นดังกล่าวสร้างแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำ หลังจากผู้นำจีนยอมรับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ผู้นำจีนได้รับแรงกดดันมากขึ้นให้เพื่อสกัดกั้นไม่ให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างรุนแรง อย่างไรก็ดี นักลงทุนจับตาผู้นำจีนจะเข้าร่วมการประชุมประจำปีเพื่อวางแผนการปฏิรูปและวางแผนเศรษฐกิจสำหรับปี 2015 โดยที่ปรึกษาบางรายของรัฐบาลจีนแนะนำให้รัฐบาลจีนปรับลดเป้าหมายอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของปีหน้าลงสู่ระดับ 7 % ซึ่งหากรัฐบาลจีนตัดสินใจลดเป้าหมายทางเศรษฐกิจลง เม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่ตลาดทองคำอาจจะลดลงซึ่งนักลงทุนในตลาดทองคำใช้เหตุผลดังกล่าวในการแบ่งทองคำออกขายเมื่อราคาขยับขึ้นเนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนทางด้านมาตราการผ่อนคลายจากทางการจีน ประกอบกับนักเศรษฐศาสตร์รายหนึ่งในสถาบันสังคมศาสตร์จีน (CASS) กล่าวว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนส่งสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับเป้าหมายอัตราการเติบโตออกมาแล้ว เมื่อเขากล่าวว่าอัตราการเติบโตที่ 7 % ถือเป็นอัตราที่สูงที่สุดในโลก อย่างไรก็ตามแนะนำนักลงทุนจำเป็นต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะกระแสข่าวที่เข้ามาส่งผลต่อราคาทองคำอย่างชัดเจน ซึ่งวายแอลจียังคงมีมุมมองว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองคำจะเป็นไปในลักษณะ Sideway ส่งผลให้การลงทุนในช่วงนี้ค่อนข้างยาก นักลงทุนที่ไม่อยากแบกรับความเสี่ยงมากจนเกินไปควรรอการเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงมาในโซนแนวรับบริเวณ 1,185-1,177 ดอลลาร์ต่อออนซ์แต่ไม่สามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่งอาจเกิดแรงขายทำกำไรทางเทคนิคออกมา

กลยุทธ์การลงทุน งวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบและคาดว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway โดยความผันผวนของราคาและการแกว่งตัวของราคาอาจลดลงจากช่วงที่ผ่านมา โดยให้เน้นไปที่การเข้าลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,177 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเมื่อราคามีการปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,220-1,222 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่หากราคายืนเหนือแนวต้านได้มั่นคงสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,185 (18,450บาท) 1,177 (18,330บาท) 1,160 (18,060บาท)

แนวต้าน 1,222 (19,030บาท) 1,235 (19,240บาท) 1,247 (19,430บาท)

 

GOLD FUTURES (GFZ14

แนวรับ 1,185 (18,580บาท) 1,177 (18,450บาท) 1,160 (18,200บาท)

แนวต้าน 1,222 (19,160บาท) 1,235 (19,360บาท) 1,247 (19,550บาท)

 

 

ป.ป.ง.มีมติอายัดทรัพย์พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์กับพวกล็อตแรก 400 ลบ.

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 9 ธันวาคม 2557 18:46:15 น.

พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมป.ป.ง.มีมติอายัดทรัพย์สินของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการสอบสวนกลาง(ผบช.ก.) และพวก ชุดแรกจำนวน 104 รายการ มูลค่าประมาณ 400 ล้านบาท

โดยที่ประชุมได้พิจารณาสำนวนคดีการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กับพวก ซึ่งมีพฤติการณ์ร่วมกันเรียกรับผลประโยชน์จากการแต่งตั้งตำแหน่งข้าราชการ รับส่วยค้าน้ำมันเถื่อน เปิดบ่อนการพนันที่ผิดกฎหมาย หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และมีความผิดตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้พิจารณาทรัพย์สินในชุดแรกที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ส่งเรื่องมายังป.ป.ง.จำนวน 136 รายการ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงิน ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวเป็นของผู้กระทำความผิดและผู้ที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์

 

 

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าทรัพย์จำนวน 104 รายการ ซึ่งเป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท เป็นทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามมาตรา 3 ของกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ส่วนอีก 32รายการ ซึ่งเป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง คาดว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาก่อนดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ทางป.ป.ง.จะตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้งว่าเป็นทรัพย์ที่ได้จากการกระทำความผิดหรือไม่

"การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินดังกล่าวเป็นเพียงชุดแรกเท่านั้น ที่ทางสตช.ประสานมายังสำนักงาน ป.ป.ง. ซึ่งยังมีทรัพย์สินอื่นๆ กว่า 20,000 รายการ ที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ ทั้งนี้ทรัพย์สินดังกล่าวจะถูกอายัดไว้ชั่วคราวไม่เกิน 90 วัน นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมและเปิดโอกาสให้ผู้ที่ถูกอายัดทรัพย์สินหรือผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์นั้นเข้ามาชี้แจง แสดงที่มาของทรัพย์สิน"พ.ต.อ.สีหนาท กล่าว

อินโฟเควสท์ โดย รบฦ2/รัชดา/กษมาพร โทร.02-2535000 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลง เหตุวิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 9 ธันวาคม 2557 19:42:38 น.

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลดลง 58 จุด หรือ 0.3% แตะที่ 17,793 จุด และดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าปรับตัวลง 0.3% สู่ระดับ 2,052.3 จุด เมื่อเวลาประมาณ 7.00 น. ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้ เนื่องจากมีความวิตกกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปลี่ยนท่าทีเกี่ยวกับนโยบายอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า

ตลาดกังวลว่า เฟดจะเริ่มคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์กล่าวว่า เฟดจะต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆอย่างการร่วงลงของราคาน้ำมัน และผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อด้วยเช่นกัน โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด ระบุว่า แม้เฟดใกล้จะสามารถยุติการตรึงดอกเบี้ยได้แล้ว แต่เฟดจะไม่เปลี่ยนแปลงท่าทีโดยที่ไม่คิดมาตรการอื่นมารองรับ

 

 

ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี วานนี้ ทำให้หุ้นพลังงานร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้ อุปสงค์น้ำมันที่มีแนวโน้มซบเซายังได้เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวด้วย

หุ้นเทสลา มอเตอร์ ลดลง 1.6% เนื่องจากความกังวลว่า ราคาเชื้อเพลิงที่ถูกลงอาจส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท ส่วนทีโมบาย ยูเอส อิงค์ ลดลง 3.2% หลังจากบริษัทเสนอขายหุ้นแปลงสภาพ

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1979599_967661639928853_6156329351011975878_n.jpg?oh=1062eb114dd7447d8c5a3788f10e95e4&oe=551A02AC

 

 

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์อ่อนค่า หนุนทองปิดพุ่ง 37.1 ดอลลาร์

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 10 ธันวาคม 2557 07:51:29 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 37 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ภายหลังจากนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา ได้แสดงความคิดเห็นว่าเฟดควรชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปจนกระทั่งถึงกลางปีหน้าหรือหลังจากนั้น

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 37.1 ดอลลาร์ หรือ 3.10% ปิดที่ 1,232 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.คเพิ่มขึ้น 85.8 เซนต์ ปิดที่ 17.134 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 17.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,246.80 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 13.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 811.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำทะยานขึ้นกว่า 37 ดอลลาร์เพราะได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากนายล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตากล่าวว่า เฟดควรชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปจนกระทั่งถึงกลางปีหน้าหรือหลังจากนั้น โดยระบุว่าเมื่อพิจารณาภาวะเศรษฐกิจแล้ว เขาเชื่อมั่นว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะสามารถเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในปี 2558

นายล็อคฮาร์ทกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการกล่าวสุนทรพจน์ที่แอตแลนตาว่า เขารู้สึกพอใจที่เฟดยังคงระบุในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับต่ำมากเป็น “ระยะเวลานาน" ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดบางรายต้องการให้ยกเลิกถ้อยคำดังกล่าวเพื่อให้เฟดสามารถปรับนโยบายการเงินตามภาวะเศรษฐกิจได้มากขึ้น

นอกจากนี้ นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซาน ฟรานซิสโก ยังได้ออกมาแสดงท่าทีสนับสนุนมุมมองของนายล็อคฮาร์ทด้วยเช่นกัน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: แรงซื้อเก็งกำไร หนุนน้ำมัน WTI ปิดบวก 77 เซนต์

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 10 ธันวาคม 2557 06:54:58 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันก่อน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 77 เซนต์ ปิดที่ 63.82 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ ปิดที่ 66.84 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงไป 2.79 ดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ ภายหลังจาก SOMO ซึ่งเป็นบริษัทด้านการตลาดน้ำมันของรัฐบาลอิรักรายงานว่า อิรักซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับสองของกลุ่มโอเปค ได้ปรับลดราคาน้ำมันอย่างเป็นทางการให้กับลูกค้าในประเทศเอเชียและสหรัฐ โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค.ปีหน้า

ความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของอิรักมีขึ้นหลังจากซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาน้ำมันเช่นกัน โดยบริษัทซาอุดิ อาระเบียน ออยล์ เปิดเผยว่าบริษัทได้ปรับลดราคาขายน้ำมันที่จะส่งมายังเอเชียในเดือนหน้า ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าซาอุดิอาระเบียมีความกังวลเกี่ยวกับการรักษาส่วนแบ่งตลาดมากกว่าการปรับขึ้นราคาน้ำมัน และซาอุดิอาระเบียไม่มีความตั้งใจที่จะลดการผลิตแต่อย่างใด

ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ได้ปรับลดราคาน้ำมันดิบลง 15 ดอลลาร์ หลังจากที่โอเปคได้ตัดสินใจคงเพดานการผลิตน้ำมันดิบเอาไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน และหลังจากสหรัฐเพิ่มปริมาณการผลิต นอกจากนี้ EIA คาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอน จะเคลื่อนไหวโดยเฉลี่ยที่ 62.75 ดอลลาร์ และ 68.08 ดอลลาร์ ตามลำดับ ในปี 2558

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ปี’58ราคาทองคำยังอยู่ช่วงขาลง ไตรมาส2ลงแตะ1.6หมื่น เหตุศก.ไม่ฟื้น-เฟดขึ้นดบ.

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พุธที่ 10 ธันวาคม 2557 06:00:00 น.

นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่าราคาทองคำในปี 2558 คาดว่าจะแตะจุดต่ำสุดที่บาทละ 16,500-16,800 บาท บนพื้นฐานอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันที่ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ทองคำโลกจะอยู่ที่ 1,050-1,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอย์ออนซ์ ซึ่งราคาทองจะปรับลงแรงในช่วงปลายไตรมาสที่ 1/2558 หรือ ต้นไตรมาสที่ 2/2558 เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยระดับราคาดังกล่าวถือเป็นการทำจุดต่ำสุดใหม่ และต่ำกว่าช่วงต่ำสุดในปี 2557 ที่ซื้อขายทองคำที่บาทละ 17,800 บาทต่อบาททองคำ

 

 

สำหรับกรอบราคาทองคำในปี 2558 คาดว่าจะอยู่ที่ 16,500-25,000 บาทต่อบาททองคำ จากที่คาดว่าราคาทองจะปรับเพิ่มขึ้นมากในช่วงปลายปี 2557 ถึงต้นปี 2558 มาอยู่ที่ราว 25,000-17,000 บาทต่อบาททองคำ หรือราว1,100-1,350 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอย์ออนซ์ เนื่องจากในเดือนมกราคมของทุกปีจะมีอุปสงค์จากทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากเทศกาลของคนจีนที่นิยมแต่งงานช่วงต้นปี รวมถึงปัจจัยผลบวกพิเศษจากประเทศอินเดียหลังอนุมัติให้นำเข้าทองคำมากที่สุดในรอบ 2 ปี และนักลงทุนทยอยปรับพอร์ทมาซื้อทองคำมากขึ้นหลังจากราคาทองปรับลดลงมาตั้งแต่ต้นปี 2557

“ประเมินว่าปี 2558 ราคาทองจะเป็นช่วงขาลงของทองคำต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จึงแนะนำให้นักลงทุนที่ต้องการซื้อทองคำเพื่อเก็บสะสมในระยะยาวเข้าซื้อทองในช่วงดังกล่าว ส่วนนักลงทุนระยะสั้นให้ซื้อสั้นและขายสั้นเพื่อทำกำไร

ด้านการนำเข้าทองคำในไทยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันการลดลงเมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 เนื่องจากความต้องการในประเทศลดลง ลูกค้าทยอยซื้อทองคำไปแล้วในช่วงเดือนเมษายนปี 2556 เพราะราคาทองลงแรง แต่ถือว่าสูงกว่าราคาในปี 2557” นายกมลธัญ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยประเมินว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะคงดอกเบี้ย หรือลดดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ราว 1.5-2.5% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศหากผู้เกี่ยวข้องมองว่าไทยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจในภูมิภาค เช่น จีน และญี่ปุ่นชะลอตัว ขณะที่ภาพรวมอัตราดอกเบี้ยของโลกจะปรับสูงขึ้น ส่วนราคาน้ำมันนั้นเกี่ยวข้องกับราคาทองเนื่องจากมีปัจจัยอ้างอิงราคาคล้ายกัน ราคาน้ำมันเป็นตัวผลักดันเงินเฟ้อหลัก ขณะที่ราคาทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ซื้อเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ โดยประเมินว่าราคาน้ำมันในปี 2558 จะยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำและมีการแข่งขันด้านราคาสูงนายกมลธัญกล่าวอีกว่า ดัชนีความ

เชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนธันวาคม 2557 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.95 จุด จากเดือนพฤศจิกายนมาอยู่ที่ระดับ 51.72 จุด โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ทั้งนี้ จากความคิดเห็นผู้ค้าทองคำ (Gold Trader Consensus)จากผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ ผู้ค้าส่งทองคำ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 9 ตัวอย่าง พบว่าผู้ค้าส่วนใหญ่กลับมามีมุมมองต่อราคาทองคำในช่วงเดือนธันวาคมในเชิงบวก โดยมีผู้ค้า 3 รายมองทองคำเฉลี่ยจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 ราย มองราคาทองเฉลี่ยจะใกล้เคียงกับเดือนพฤศจิกายน ขณะที่อีก 2 ราย เชื่อว่าราคาทองคำเฉลี่ยจะปรับตัวลดลงระหว่างเดือน โดยราคาทองคำในตลาดโลกเดือนธันวาคม กรอบราคาสูงสุดระหว่าง 1,140-1,240 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนกรอบความเคลื่อนไหวของราคาทองในประเทศ อยู่ระหว่าง 17,500-19,500 บาทต่อบาททองคำ

“แม้ว่าดัชนีกลับมามีมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำในประเทศแต่ค่าดัชนียังอยู่ใกล้ระดับ 50 จุด สะท้อนความไม่แน่ใจในการฟื้นตัว ซ้ำแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาทำให้ความวิตกการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ยังเป็นปัจจัยเฝ้าระวัง”

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 51.28 จุด เหตุวิตกตลาดหุ้นทั่วโลกร่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 10 ธันวาคม 2557 06:25:00 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) เนื่องจากกความวิตกกังวลเกี่ยวกับการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,801.20 จุด ลดลง 51.28 จุด หรือ -0.29% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,059.82 จุด ลดลง 0.49 จุด หรือ -0.02% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,766.47 จุด เพิ่มขึ้น 25.78 จุด หรือ +0.54%

 

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเกือบทุกตลาดเมื่อวานนี้ นำโดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีน ที่ดิ่งลงกว่า 5% เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไร ภายหลังทางการจีนได้ออกมาชะลอความร้อนแรงของตลาดสินเชื่อ และตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลง 0.68% เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแข็งค่าของเงินเยน

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันเนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 0.9%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ (NFIB) รายงานว่า ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2550 เนื่องจากการคาดการณ์สภาวะธุรกิจใน 6 เดือนข้างหน้าทะยานขึ้น และการคาดการณ์เกี่ยวกับยอดขายปรับตัวขึ้นเช่นกัน

หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวลง นำโดยหุ้นซิตี้กรุ๊ป และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ต่างก็ปรับตัวลงอย่างน้อย 0.6% ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นตามราคาทองคำในตลาดโลก นำโดยหุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง ทะยานขึ้นเกือบ 5%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันพฤหัสบดี สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค. และในวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ฟิทช์ประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบแก่ญี่ปุ่น เตือนอาจลดอันดับความน่าเชื่อถือจาก A+

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 9 ธันวาคม 2557 22:15:27 น.

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบแก่ญี่ปุ่น เตือนบริษัทอาจตัดสินใจในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 ว่าจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นลงจากระดับ A+ หรือไม่ โดยจะรอดูแผนการคลังของรัฐบาลชุดใหม่ ตลอดจนการคาดการณ์เศรษฐกิจและการคลัง หลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจชะลอการขึ้นภาษีการขายออกไปจากกำหนดการเดิมในเดือนต.ค.ปีหน้า

 

 

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบแก่อันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ และอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศ ของญี่ปุ่น ที่ A+ ซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้ว่าญี่ปุ่นอาจถูกปรับลดอันดับเครดิตลง

ฟิทช์ระบุในแถลงการณ์ว่า การชะลอการขึ้นภาษีการบริโภค และความยากลำบากในการบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลการคลัง คือสาเหตุที่ทำให้ฟิทช์ให้เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบแก่ญี่ปุ่น

การเตือนดังกล่าวของฟิทช์มีขึ้นในขณะที่ญี่ปุ่นกำลังถูกตั้งคำถามถึงการตัดสินใจชะลอการขึ้นภาษีการบริโภคจากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนต.ค.2558 ออกไปเกือบสองปีเป็นเดือนเม.ย.2560 ซึ่งอาจส่งผลสืบเนื่องให้ญี่ปุ่นไม่สามารถลดยอดขาดดุลงบประมาณได้ตามเป้า

ฟิทช์ระบุว่า การชะลอการขึ้นภาษีนั้นหมายความว่า เกือบจะแน่นอนว่ารัฐบาลจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการลดยอดขาดดุลงบประมาณลงเหลือ 3.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศภายในปีงบประมาณ 2558 ซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนเม.ย.2558 และสิ้นสุดลงในเดือนมี.ค.2559

นอกจากนี้ ฟิทช์ยังได้อ้างถึงสัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะแตะที่ 241% ณ สิ้นปี 2557 เพิ่มขึ้นจากระดับ 184% ณ สิ้นปี 2551 นับว่าสูงสุดเป็นอันดับสองในกลุ่มประเทศที่ได้รับการจัดอันดับที่ A หรือ AA โดยเป็นรองเพียงแค่ไอร์แลนด์

สำหรับปัจจัยอื่นๆที่ฟิทช์อ้างถึงนั้น ประกอบด้วยการขาดแผนระยะกลางที่ชัดเจนในการลดยอดขาดดุลงบประมาณภายในปีงบประมาณ 2563

การประกาศเครดิตพินิจเป็นลบแก่ญี่ปุ่นในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เพิ่งปรับลบอันดับหนี้รัฐบาลญี่ปุ่นลงสู่ระดับ A1 จาก Aa3 เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยมูดีส์ได้อ้างถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความสามารถของญี่ปุ่นในการฟื้นฟูสถานะการคลัง ภายหลังจากที่รัฐบาลประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีการบริโภคออกไป

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10847931_840028802760738_8585590593465264755_n.jpg?oh=7601a2f05ef03e08a97842952079d841&oe=54FC7898

 

สวัสดีวันหยุด เพื่อนๆ พี่น้อง หม่ำให้อาหร่อย พักให้สบาย มีความสุขวันหยุดนะคะทุกคน

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับคุณginger น่าหม่่ำนะครับ ขอให้มีความสุขในวันหยุดครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ 2.6 ดอลลาร์ หลังราคาน้ำมันร่วง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2557 07:23:15 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์ก อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 2.6 ดอลลาร์ หรือ 0.21% ปิดที่ระดับ 1,229.4 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 5.3 เซนต์ ปิดที่ 17.187 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 4.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,242.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 9.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 821.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กซึ่งร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2552 หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก และรายงานที่ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวลงในกรอบที่จำกัดเท่านั้น เพราะตลาดได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปที่อ่อนแรงลงได้หนุนความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ลดลงเทียบเยน ขณะตลาดหุ้นสหรัฐร่วงหนัก

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2557 07:18:14 น.

ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบสกุลเงินเยนเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันและปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปที่อ่อนแรงลงได้หนุนความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2444 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2374 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5708 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5662 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.08 เยน เทียบกับระดับ 119.49 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9670 ฟรังค์ จาก 0.9712 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8301 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8303 ดอลลาร์

ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นที่ร่วงลง โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่ราคาน้ำมันดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์สำหรับปี 2558 ลงสู่ระดับ 28.92 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ทศวรรษ

ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดอ่อนแรงลงเช่นกันเมื่อคืนนี้ โดยมีปัจจัยถ่วงจากความวิตกเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในกรีซและราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง

ทั้งนี้ นักลงทุนได้ถอนการลงทุนจากสินทรัพย์เสี่ยง และหันมาสนใจสกุลเงินที่มีความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงฟรังค์สวิสและเงินเยนของญี่ปุ่น โดยเมื่อวานนี้ อัตราดอลลาร์/เยนร่วงลง 1.21% จากวันก่อนหน้า

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดร่วง $2.88 หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่ง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2557 07:00:17 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้ว และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ฉุดสัญญาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2552

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 2.88 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.94 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 2.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 64.24 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 ธ.ค. พุ่งขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 380.8 ล้านบาร์เรล

ด้านกลุ่มโอเปคได้ออกรายงานประจำเดือนเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดน้ำมันโลกเมื่อวานนี้ โดยคาดว่าความต้องการน้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2558 จะเพิ่มขึ้น 1.12 ล้านบาร์รเลต่อวัน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ราว 70,000 บาร์เรล

ขณะเดียวกันโอเปคคาดว่าอุปทานน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่มโอเปคจะเพิ่มขึ้น 1.36 บาร์เรลต่อวันในปี 2558 สู่ระดับเฉลี่ย 57.31 ล้านบาร์เรลต่อวัน

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยลบจากการที่ EIA ได้ปรับลดราคาน้ำมันดิบลง 15 ดอลลาร์ หลังจากที่โอเปคได้ตัดสินใจคงเพดานการผลิตน้ำมันดิบเอาไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน และหลังจากสหรัฐเพิ่มปริมาณการผลิต นอกจากนี้ EIA คาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอน จะเคลื่อนไหวโดยเฉลี่ยที่ 62.75 ดอลลาร์ และ 68.08 ดอลลาร์ ตามลำดับ ในปี 2558

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: แรงขายหุ้นพลังงาน ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 268.05 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2557 06:22:33 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนทุบขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,533.15 จุด ร่วงลง 268.05 จุด หรือ -1.51% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,684.03 จุด ลดลง 82.44 จุด หรือ -1.73% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,026.14 จุด ลดลง 33.68 จุด หรือ -1.64%

 

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากแรงขายในกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กร่วงลงรุนแรงกว่า 2.8 ดอลลาร์ ภายหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 ธ.ค. พุ่งขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 380.8 ล้านบาร์เรล และกลุ่มโอเปคได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 2558

หุ้นบริษัทพลังงานรายใหญ่ร่วงลง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ดิ่งลง 3% หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 2% และหุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ปรับตัวลง 2.2% ขณะที่หุ้นบริษัทพลังงานขนาดเล็กก็ปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นไตรแองเกิล ปิโตรเลียม ร่วงลง 8.6% หุ้นคอมสต็อก รีซอสเซส ดิ่งลง 10.8% และหุ้นกู๊ดริช ปิโตรเลียม ปรับตัวลง 8.8%

หุ้นกลุ่มธนาคารอ่อนแรงลง หลังจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค คาดการณ์ว่ารายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งจะชะลอตัวลงในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยหุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 2.8% ส่วนหุ้นโกลด์แมน แซคส์ และหุ้นซิตี้กรุ๊ป ต่างก็ปรับลงอย่างน้อย 2.5%

หุ้น Yum! Brands ซึ่งเป็นผู้ประกอบการฟาสฟู๊ด KFC และ Taco Bell ร่วงลง 6.2% หลังจากบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค. และในวันพรุ่งนี้ สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10345557_10152945567282450_7082835470563142555_n.jpg?oh=25d1180010edcba3ad0275ccb3d2d093&oe=5517AD3E

 

10846204_10152945567457450_168899495944432519_n.jpg?oh=2229b1d358e037472d8aa48bf8903510&oe=5506003E

 

10382996_10152945567577450_1931901151760873338_n.jpg?oh=c5508bc595be7e4dc29a0c4c101453eb&oe=55129EC2&__gda__=1425935828_16a5c6168f19db3c2074e863583a3fc1

 

10429493_10152945567692450_2928970724838912879_n.jpg?oh=7f4030ee82b13d37017fdf7659510497&oe=55117A3F

 

10850103_10152945567747450_7519845256190256898_n.jpg?oh=a5de55f468a4f3638fa991b70d9db18c&oe=550C8337

 

10372099_10152945567877450_3524516758009689740_n.jpg?oh=61eb2187b92d9ed6e56de3c44012309a&oe=550C37E9

 

นักเตะทีมชาติไทยและสต๊าฟโค้ช เดินขอบคุณแฟนบอลหลังจบการแข่งขัน ที่เอาชนะทีมชาติฟิลิปปินส์ 3-0 ทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศ

ฟุตบอล AFF Suzuki Cup 2014 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน / ภาพโดย ชาลินี ถิระศุภะ ‪#‎NationPhoto‬‪#‎NationTV

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2557 07:39:38 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 ธ.ค.2557

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนทุบขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,533.15 จุด ร่วงลง 268.05 จุด หรือ -1.51% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,684.03 จุด ลดลง 82.44 จุด หรือ -1.73% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,026.14 จุด ลดลง 33.68 จุด หรือ -1.64%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลง ภายหลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบในปี 2558 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศกรีซ ซึ่งได้ฉุดตลาดหุ้นกรีซร่วงลงด้วย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.3% ปิดที่ 339.32 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,227.91 จุด ลดลง 36.03 จุด หรือ -0.84% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,500.04 จุด ลดลง 29.43 จุด หรือ -0.45% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,799.73 จุด เพิ่มขึ้น 6.02 จุด หรือ +0.06%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) ขณะที่ราคาน้ำมันยังคงปรับตัวลงต่อเนื่อง หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันดิบในปีหน้าจะลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 29.43 จุด หรือ 0.45% ปิดที่ 6,500.04 จุด

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้ว และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ฉุดสัญญาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2552

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 2.88 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.94 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 2.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 64.24 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์ก อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 2.6 ดอลลาร์ หรือ 0.21% ปิดที่ระดับ 1,229.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 5.3 เซนต์ ปิดที่ 17.187 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 4.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,242.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 9.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 821.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบสกุลเงินเยนเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันและปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปที่อ่อนแรงลงได้หนุนความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2444 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2374 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5708 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5662 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.08 เยน เทียบกับระดับ 119.49 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9670 ฟรังค์ จาก 0.9712 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8301 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8303 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,533.15 จุด ลดลง 268.05 จุด -1.51%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,684.03 จุด ลดลง 82.44 จุด -1.73%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,026.14 จุด ลดลง 33.68 จุด -1.64%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,500.04 จุด ลดลง 29.43 จุด -0.45%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,799.73 จุด เพิ่มขึ้น 6.02 จุด +0.06%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,227.91 จุด ลดลง 36.03 จุด -0.84%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,237.10 จุด ลดลง 21.20 จุด -0.40%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,259.00 จุด ลดลง 23.70 จุด -0.45%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,032.16 จุด ลดลง 96.74 จุด -1.06%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,412.58 จุด ลดลง 400.80 จุด -2.25%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,945.56 จุด ลดลง 25.39 จุด -1.29%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,940.01 จุด เพิ่มชึ้น 83.74 จุด +2.93%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,175.08 จุด ลดลง 8.79 จุด -0.12%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,524.52 จุด เพิ่มขึ้น 38.69 จุด +0.16%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,165.41 จุด เพิ่มขึ้น 43.10 จุด +0.84%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,325.81 จุด เพิ่มขึ้น 5.97 จุด +0.18%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,765.52 จุด เพิ่มขึ้น 27.42 จุด +1.58%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,831.10 จุด เพิ่มขึ้น 34.09 จุด +0.12%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...