ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 323.35 จุด ขานรับข้อมูลแรงงาน,เฟดไม่รีบขึ้นดบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มกราคม 2558 06:39:58 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) ขานรับข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงข้อมูลล่าสุดที่ระบุว่า จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่บ่งชี้ว่า เฟดจะยังไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,907.87 จุด พุ่งขึ้น 323.35 จุด หรือ +1.84% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,736.19 จุด เพิ่มขึ้น 85.72 จุด หรือ +1.84% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,062.14 จุด เพิ่มขึ้น 36.24 จุด หรือ +1.79%

 

 

ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 294,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 ม.ค.

ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่ ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานสหรัฐระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 241,000 รายในเดือนธ.ค.2557 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 226,000 ราย

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่า เฟดจะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาจากรายงานการประชุมของเฟดเมื่อวันที่ 16-17 ธ.ค. ซึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของเฟดได้แสดงความวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงช่วงขาลงที่อาจจะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่เศรษฐกิจโลกอาจเผชิญความเสี่ยง หากการลดลงของราคาน้ำมันได้ส่งผลกระทบเชิงลบอย่างรุนแรงต่อตลาดการเงินทั่วโลก หรือหากไม่มีการรับมือด้านนโยบายอย่างเพียงพอ

ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นหลังจากนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก กล่าวว่าแนวโน้มเกี่ยวกับเงินเฟ้อของสหรัฐเป็นเรื่องที่น่าวิตกมากขึ้น และสหรัฐอาจไม่สามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อได้จนกว่าจะถึงปี 2561 นอกจากนี้ นายอีแวนส์ยังแสดงความไม่เห็นด้วยกับการเร่งรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่าไม่ควรมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปจนกว่าปี 2559

หุ้นกลุ่มการขนส่งพุ่งขึ้น 2.2% โดยหุ้นยูเนียน แปซิฟิก คอร์ป หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส และหุ้นเฟดเอ็กซ์ คอร์ป ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 2.3%

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.7% หุ้นเชฟรอน คอร์ป ทะยานขึ้น 2.3% หุ้นวาเลโร เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 5.7%

ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทะยานขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นไมโครซอฟท์ และหุ้นอินเทล คอร์ป ต่างก็ปรับตัวขึ้น 1.9%

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐประจำเดือนธ.ค. ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในเวลา 20.30 น. ตามเวลาไทยในวันนี้ และจากนั้นในเวลา 22.00 น. สหรัฐจะเปิดเผยสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนพ.ย.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จอร์จ โซรอสเตือนรัสเซียอาจผิดนัดชำระหนี้ เหตุเผชิญคว่ำบาตร,ราคาน้ำมันทรุด

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มกราคม 2558 01:01:50 น.

นายจอร์จ โซรอส นักลงทุนระดับมหาเศรษฐีฉายา"พ่อมดการเงิน" ระบุในบทความที่มีการตีพิมพ์ใน New York Review of Books โดยเตือนว่า รัสเซียมีความจำเป็นที่จะให้ราคาน้ำมันอยู่ที่ระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเพื่อให้งบประมาณสมดุล และหากรัสเซียผิดนัดชำระหนี้ ก็จะส่งผลให้ระบบการเงินของโลกหยุดชะงักลง

นายโซรอสกล่าวว่า มีความจำเป็นเร่งด่วนในไตรมาสแรกนี้ที่จะต้องมีการปรับนโยบายของสหภาพยุโรป (อียู) ที่มีต่อรัสเซียและยูเครน เพื่อปรับสมดุลผลกระทบจากการคว่ำบาตรรัสเซีย ด้วยการให้ความช่วยเหลือยูเครนในขอบเขตที่กว้างขึ้น

เขากล่าวว่า การคว่ำบาตรรัสเซียมีผลกระทบที่รวดเร็วกว่าคาด เนื่องจากราคาน้ำมันที่ดิ่งลง ขณะที่รัสเซียได้ผิดนัดชำระหนี้ในปี 1998 หลังเผชิญวิกฤติการเงิน และแม้ว่าในครั้งนี้ หนี้ส่วนใหญ่ของรัสเซียอยู่ในภาคเอกชน แต่จะไม่เป็นที่น่าประหลาดใจ หากวิกฤตการณ์จะจบลงด้วยการผิดนัดชำระหนี้ของรัสเซีย ซึ่งจะกระทบระบบการเงินทั่วโลก ขณะที่ยูโรโซนจะมีความเปราะบางอย่างมาก

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

นิตยสารเหยือก่อการร้ายไม่หวั่นถูกโจมตี ประกาศเพิ่มยอดพิมพ์เป็น 1 ล้านฉบับ

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มกราคม 2558 00:39:31 น.

นายปาทริก เปลลู คอลัมนิสต์คนหนึ่งของนิตยสารชาลี เอ็บโด ซึ่งถูกกลุ่มก่อการร้ายบุกกราดยิงในสำนักงานกลางกรุงปารีสวานนี้จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย กล่าวว่า นิตยสารรายสัปดาห์ดังกล่าวจะเพิ่มยอดพิมพ์เป็น 1 ล้านฉบับในการพิมพ์ครั้งต่อไป โดยเพิ่มขึ้นจากเดิมที่พิมพ์ในจำนวน 3 หมื่นฉบับต่อสัปดาห์

"นิตยสารนี้จะยังคงพิมพ์ต่อไป เพราะกลุ่มก่อการร้ายไม่มีทางได้รับชัยชนะ" เขากล่าว

 

 

ในบรรดาผู้เสียชีวิต 12 คนนั้น รวมถึงบรรณาธิการและพนักงานของบริษัท

ทั้งนี้ รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศยกระดับการรักษาความปลอดภัยสู่ระดับสูงสุดวานนี้ หลังเกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธบุกเข้าไปยังสำนักงานในกรุงปารีสของนิตยสารชาร์ลี เฮ็บโด ซึ่งเป็นนิตยสารเสียดสีสังคม, การเมือง และศาสนา โดยได้กราดยิงผู้คนในสำนักงานด้วยปืน AK-47 ก่อนหลบหนีไป ส่งผลให้ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 12 ราย

ก่อนหน้านี้ สำนักงานใหญ่ของนิตยสารดังกล่าวได้เคยถูกกลุ่มคนร้ายวางระเบิดโจมตีในเดือนพ.ย.2011 หลังจากที่ทางนิตยสารตีพิมพ์ภาพการ์ตูนล้อเลียนศาสดามูฮัมหมัดของศาสนาอิสลาม

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มกราคม 2558 07:49:37 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 ม.ค.2558

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) ขานรับข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงข้อมูลล่าสุดที่ระบุว่า จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่บ่งชี้ว่า เฟดจะยังไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,907.87 จุด พุ่งขึ้น 323.35 จุด หรือ +1.84% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,736.19 จุด เพิ่มขึ้น 85.72 จุด หรือ +1.84% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,062.14 จุด เพิ่มขึ้น 36.24 จุด หรือ +1.79%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในช่วงต้นปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของหุ้นเทสโก้

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.8% ปิดที่ 342.35 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,260.19 จุด พุ่งขึ้น 147.46 จุด หรือ +3.59% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,837.61 จุด พุ่งขึ้น 319.43 จุด หรือ +3.36% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,569.96 จุด เพิ่มขึ้น 150.13 จุด หรือ +2.34%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) นำโดยการพุ่งขึ้นของหุ้นเทสโก้ หลังจากบริษัทประกาศมาตรการปรับลดรายจ่าย ขณะที่ราคาน้ำมันที่มีเสถียรภาพและความหวังเกี่ยวกับการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ก็เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาด

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 150.13 จุด หรือ 2.34% ปิดที่ 6,569.96 จุด

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และตลาดหุ้นสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งนั้น ได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 1,208.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 15.9 เซนต์ ปิดที่ 16.385 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 2.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,223.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ ปิดที่ 793.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานปรับตัวลดลง ซึ่งบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สหรัฐผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาดอีกครั้ง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ ปิดที่ 48.79 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 19 เซนต์ ปิดที่ 50.96 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) หลังจากข้อมูลด้านแรงงานของสหรัฐออกมาในเชิงบวก

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1784 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1848 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5085 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5120 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.67 เยน เทียบกับระดับ 119.01 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0193 ฟรังค์ จาก 1.0138 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8110 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8078 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,907.87 จุด เพิ่มขึ้น 323.35 จุด +1.84%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,736.19 จุด เพิ่มขึ้น 85.72 จุด +1.84%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,062.14 จุด เพิ่มขึ้น 36.24 จุด +1.79%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,569.96 จุด เพิ่มขึ้น 150.13 จุด +2.34%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,837.61 จุด เพิ่มขึ้น 319.43 จุด +3.36%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,260.19 จุด เพิ่มขึ้น 147.46 จุด +3.59%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,359.40 จุด เพิ่มขึ้น 24.90 จุด +0.47%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,381.50 จุด เพิ่มขึ้น 27.90 จุด +0.52%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,238.03 จุด เพิ่มขึ้น 157.94 จุด +1.74%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,167.10 จุด เพิ่มขึ้น 281.77 จุด +1.67%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,904.65 จุด เพิ่มขึ้น 20.82 จุด +1.11%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,293.46 จุด ลดลง 80.50 จุด -2.39%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,367.63 จุด เพิ่มขึ้น 57.93 จุด +0.79%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,835.53 จุด เพิ่มขึ้น 154.27 จุด +0.65%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,211.83 จุด เพิ่มขึ้น 4.71 จุด +0.09%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,728.06 จุด เพิ่มขึ้น 18.88 จุด +1.10%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,345.11 จุด เพิ่มขึ้น 46.75 จุด +1.42%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,274.71 จุด เพิ่มขึ้น 365.89 จุด +1.36%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ปรับตัวขึ้น หลังข้อมูลแรงงานสหรัฐสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มกราคม 2558 07:28:30 น.

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) หลังจากข้อมูลด้านแรงงานของสหรัฐออกมาในเชิงบวก

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1784 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1848 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5085 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5120 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.67 เยน เทียบกับระดับ 119.01 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0193 ฟรังค์ จาก 1.0138 ฟรังค์

 

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8110 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8078 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 294,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 ม.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานส่งสัญญาณที่แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างก็จับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนธ.ค.ที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ เพื่อประเมินภาพรวมที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับตลาดแรงงานสหรัฐ

ส่วนค่าเงินยูโรอ่อนแรงลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ จากข่าวที่ว่านายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ระบุว่าอีซีบีพร้อมจะหารือเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมครั้งหน้าที่มีกำหนดจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้ ขณะที่อัตรายูโร/ดอลลาร์ร่วงแตะ 1.1754 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 9 ปี

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ $2.2 เหตุเงินดอลล์แข็ง,หุ้นสหรัฐพุ่ง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มกราคม 2558 07:35:25 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และตลาดหุ้นสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งนั้น ได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 1,208.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 15.9 เซนต์ ปิดที่ 16.385 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 2.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,223.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ ปิดที่ 793.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำปรับตัวลงเพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและตลาดหุ้นสหรัฐที่ทะยานขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 294,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 ม.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นและข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐประจำเดือนธ.ค. ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในเวลา 20.30 น. ตามเวลาไทยในวันนี้ และจากนั้นในเวลา 22.00 น. สหรัฐจะเปิดเผยสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนพ.ย.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 14 เซนต์ รับข้อมูลแรงงานสหรัฐสดใส

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มกราคม 2558 07:23:25 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานปรับตัวลดลง ซึ่งบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สหรัฐผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาดอีกครั้ง

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ ปิดที่ 48.79 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 19 เซนต์ ปิดที่ 50.96 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับปัจจัยบวกหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 294,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 ม.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่ ADP รายงานไว้ก่อนหน้านี้ว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 241,000 รายในเดือนธ.ค.2014 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 226,000 ราย

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้รับแรงกดดันจากรายงานของ EIA ที่ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 11,000 บาร์เรลต่อวัน แตะที่ 9.13 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์ที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2526

นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดยังคงซบเซาเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของประเทศสมาชิกโอเปค รวมถึงอิรักซึ่งวางแผนที่จะเพิ่มปริมาณการส่งออกในเดือนม.ค.เป็น 3.3 ล้านบาร์เรล หลังจากที่ส่งออกน้ำมันได้ถึง 2.94 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1980

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เกาะติดหุ้นโลก 9-1-58 vdo.gif Morning News : เกาะติดหุ้นรอบโลก "NOW26" 9-1-58 สรุปภาพรวมตลาดหุ้น 8-1-58 vdo.gif สรุปภาพรวมการลงทุนตลาดหุ้น ช่วงตรงประเด็นข่าวค่ำ "NOW26" 8-1-58 แนวโน้มราคาทอง vdo.gif ตรงประเด็นข่าวค่ำ แนวโน้มราคาทองคำ สดตรงจากนักวิเคราะห์ "NOW26" 8-1-58 ธปท.อนุญาตให้ธนาคารถ่ายโอนความเสี่ยงเครดิต พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติซื้อ1.2พันลบ. หุ้นไทยปิดพุ่ง20.87จุด เงินบาทปิด32.89/90แกว่งแคบ

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

 

ข่าวยอดนิยม

เกาะติดหุ้นโลก 9-1-58 vdo.gif Morning News : เกาะติดหุ้นรอบโลก "NOW26" 9-1-58 สรุปภาพรวมตลาดหุ้น 8-1-58 vdo.gif สรุปภาพรวมการลงทุนตลาดหุ้น ช่วงตรงประเด็นข่าวค่ำ "NOW26" 8-1-58 แนวโน้มราคาทอง vdo.gif ตรงประเด็นข่าวค่ำ แนวโน้มราคาทองคำ สดตรงจากนักวิเคราะห์ "NOW26" 8-1-58 ธปท.อนุญาตให้ธนาคารถ่ายโอนความเสี่ยงเครดิต พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติซื้อ1.2พันลบ. หุ้นไทยปิดพุ่ง20.87จุด เงินบาทปิด32.89/90แกว่งแคบ

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

 

 

ข่าวยอดนิยม

 

ปกหนังสือและชื่อบทความ

 

โดย : ดร.ไสว บุญมา

 

อย่าด่วนตัดสินว่าเนื้อหาของหนังสือดีหรือไม่โดยใช้ปกเป็นเกณฑ์

ประวัติของสำนวนฝรั่งบ่งว่า นวนิยายเรื่อง The Mill on the Floss ซึ่งพิมพ์ออกมา 155 ปีแล้วเป็นต้นกำเนิดของสำนวน “Don’t judge a book by its cover.” ซึ่งอาจแปลได้ว่า “อย่าด่วนตัดสินว่าเนื้อหาของหนังสือดีหรือไม่โดยใช้ปกเป็นเกณฑ์” เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า สำนวนนี้เป็นข้อคิด หรือหลักปรัชญาที่ครอบคลุมมากกว่าเรื่องปกกับเนื้อหาของหนังสือ ในทำนองเดียวกัน เนื้อหาของบทความจะเป็นอย่างไรและมีคุณค่าหรือไม่บอกไม่ได้จากชื่อของมัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สังคมออนไลน์ได้พูดถึงบทความเรื่องหนึ่งซึ่งในสายตาของบางคนมีชื่อทำนองชวนวิวาทว่า “ลดกินข้าวเพื่อช่วยชาวนา” ในบริบทนั้น ได้มีการพูดถึงหนังสืออีกเรื่องหนึ่งซึ่งมีชื่อค่อนข้างขัดหูและชวนงุนงงว่า “ทำปลาร้าไปฝากภาคอีสาน” (ทั้งบทความและหนังสืออาจดาวน์โหลดได้ฟรีที่เว็บไซต์ของมูลนิธินักอ่านบ้านนา www.bannareader.com ช่อง “ดาวน์โหลดไฟล์เอกสาร”)

ถึงแม้จะสั้น แต่เนื้อหาของบทความนั้นครอบคลุมหลายประเด็นเช่นเดียวกับหนังสือเล่มที่กล่าวถึง ประเด็นหลักของบทความมุ่งไปที่ข้อคิดสำหรับปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหารซึ่งจะมีผลดีต่อชาวนาพร้อมกับตัวผู้รับประทานเองและอาจโยงไปถึงนโยบายบางด้านของรัฐบาลได้ด้วย ส่วนประเด็นใหญ่ของหนังสือเป็นเรื่องการต่อสู้กับอุปสรรคและหลักการบริหารจัดการองค์กรทางธุรกิจของบุคคล มองจากมุมนี้ เนื้อหาของบทความครอบคลุมกว้างกว่าเนื้อหาของหนังสือซึ่งยาวกว่าหลายเท่า เนื่องจากเหตุการณ์ในช่วงนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาของบทความมากกว่าเนื้อหาของหนังสือโดยเฉพาะเรื่องน้ำในแหล่งต่าง ๆ แห้งขอดจนสร้างปัญหาสาหัสให้แก่การทำนา จึงขออ้างถึงบางประเด็นในบทความเพื่อนำไปสู่ประเด็นอื่น

บทความเสนอให้คนไทยลดรับประทานข้าวและรับประทานอาหารจำพวกแป้งชนิดอื่นแทน อาทิเช่น ข้าวโพด มันเทศ มันฝรั่ง มันสำปะหลัง เผือก กล้วยและฟักทอง การรับประทานอาหารเหล่านั้นแทนข้าวจะช่วยทั้งชาวนาและรักษาสิ่งแวดล้อมพร้อม ๆ กับการได้ประโยชน์มากขึ้นของผู้รับประทานเอง

ช่วยชาวนาอย่างไร? ในระบบตลาดเสรีที่เราใช้อยู่และในภูมิอากาศที่เหมาะแก่การปลูกพืชจำพวกแป้งสารพัด หากผู้บริโภคต้องการอาหารบางอย่าง เกษตรกรย่อมตอบสนองด้วยการปลูกสิ่งเหล่านั้น เมื่อชาวนาหันมาปลูกพืชชนิดอื่นมากขึ้น พวกเขาย่อมมีความเสี่ยงน้อยลงเทียบกับการปลูกข้าวเพียงอย่างเดียวไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาข้าว หรือจากศัตรูที่มักเกิดขึ้นมากจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยวติดต่อกัน ยิ่งกว่านั้น การปลูกข้าวใช้น้ำมากกว่าการปลูกพืชชนิดอื่นอย่างน้อย 6 เท่า ฉะนั้น ในฤดูแล้งที่มีน้ำไม่พอปลูกข้าว ชาวนายังปลูกพืชได้อีกหลายชนิด ส่วนเผือกนั้นมีทั้งสายพันธุ์ที่ปลูกได้ในน้ำและสายพันธุ์ที่ปลูกได้บนบก

ช่วยสิ่งแวดล้อมอย่างไร? ข้าวใช้น้ำมากกว่า จึงมักนำไปสู่การแสวงหาแหล่งน้ำจำพวกสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ซึ่งมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสูง นอกจากนั้น ข้าวยังต้องใช้พลังงานมากกว่าก่อนที่จะนำมารับประทานได้ นั่นคือ หลังจากเก็บเกี่ยวแล้ว ข้าวต้องได้รับการสีซ้อมก่อนที่จะนำมาหุง ส่วนพืชอื่นนำมาทำอาหารได้โดยไม่ต้องสีซ้อม ยิ่งเป็นกล้วยด้วยแล้ว ไม่ต้องเสียพลังงาน ปอกรับประทานได้ทันที ในกรณีที่นำข้าวมาทำเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมจีนและหมี่แห้งกึ่งสำเร็จรูป ต้องใช้พลังงานเพิ่มอีก นอกจากนั้น การปลูกพืชหลายอย่างผสมผสานกันเป็นการลดความเสี่ยงจากศัตรูพืชระบาด ฉะนั้น โอกาสที่จะมีสารเคมีตกค้างหลังใช้กำจัดศัตรูพืชย่อมลดลง

ให้ประโยชน์แก่ผู้รับประทานมากขึ้นอย่างไร? แป้งแต่ละอย่างมีธาตุอาหารต่างกัน ฉะนั้น การรับประทานอาหารหลากหลายย่อมมีโอกาสได้ธาตุอาหารที่ร่างกายต้องการครบถ้วนมากกว่าการรับประทานข้าวเพียงอย่างเดียว นอกจากนั้น ข้าวที่เรารับประทานมักเป็นข้าวขัดขาวที่ธาตุอาหารดี ๆ ถูกขัดสีออกไปหมดแล้ว ยิ่งกว่านั้น ข้าวมีแคลอรีสูงกว่าอาหารแป้งชนิดอื่น ฉะนั้น ผู้ต้องการควบคุมน้ำหนักมีโอกาสทำสำเร็จได้ง่ายกว่าการรับประทานอาหารแป้งชนิดอื่นแทนข้าว

สำหรับการโยงไปถึงนโยบายของรัฐบาล การส่งเสริมการเกษตรแบบผสมผสานและการบริหารจัดการน้ำตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเป็นด้านที่เชื่อมโยงกันได้เป็นอย่างดี แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ตั้งแต่ปี 2540 ยังไม่มีรัฐบาลชุดไหนจริงใจกับเรื่องนี้ จริงอยู่รัฐบาลมักประกาศออกมาว่าจะดำเนินนโยบายตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งมีการเกษตรแบบผสมผสานเป็นส่วนประกอบสำคัญด้านหนึ่งถึงกับตั้งองค์กรขึ้นมา แต่ไม่เคยทำจริง องค์กรใหม่จึงยังมิได้ทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันจนอดีตข้าราชคนหนึ่งบ่นว่า “....ข้าราชการจะมีอุดมการณ์ทำให้สำเร็จหรือเปล่า หรือแย่งกันเป็นกรรมการบริหารเอาเบี้ยประชุมตามกฎหมายไปแต่ละเดือน... เขาจะวิ่งเต้นกัน at any cost [จ่ายไม่อั้น] แล้วค่อยถอนทุนกันทีหลังในหลายรูปแบบ รวมถึงการอยู่เฉยๆ รับเงินเดือนและเบี้ยประชุมกรรมการคณะต่างๆ ... ปลัดกระทรวงบางกระทรวงเป็นกรรมการกันร่วม ๑๐ คณะ...”

การเกษตรแบบผสมผสานที่มักเรียกกันว่า “โคก หนอง นา โมเดล” ได้รับการทดลองโดยเอกชนจนประสบผลสำเร็จแล้ว แต่ภาครัฐยังไม่นำมาใช้เป็นฐานของนโยบาย หลายครั้ง คอลัมน์นี้เสนอให้ทำเมืองไทยให้เป็นเสมือนถาดหยอดขนมครก นั่นคือ ขุดสระน้ำแบบกระจัดกระจายในทุกพื้นที่เกษตรกรรมทุกแห่งที่ไม่มีแหล่งน้ำ หรือการชลประทานอยู่แล้ว หากรัฐบาลยังไม่แน่ใจ จะทำนำร่องในอำเภอใดอำเภอหนึ่งซึ่งแห้งแล้งมากก่อนก็ได้ โครงการนี้จะไม่ผลาญงบประมาณเป็นล้านล้านบาทแน่ แต่น่าจะได้ผลมากกว่าอภิมหาโครงการที่กำลังคิดกันอยู่ ส่วนชื่อของโครงการจะตั้งให้หรู หรือจะตั้งแบบชวนวิวาทแบบชื่อบทความก็ได้

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หลังจากตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนADPของสหรัฐเดือนธ.ค.และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาดีแสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐแข็งแกร่งและมีความเป็นไปได้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะประกาศในคืนนี้จะออกมาดี ทั้งนี้ตลาดคาดการณ์ว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค. จะเพิ่มขึ้น 241,000 ตำแหน่ง....

เพิ่มเติม

http://www.huasengheng.com/…/72712553cba677a7d9345fe0cfac89…

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทเปิด 32.84/86 แข็งค่าสวนทางภูมิภาคจากทุนไหลเข้า

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มกราคม 2558 09:30:38 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.84/86 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.88/90 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวสวนทางกับค่าเงินในภูมิภาค เนื่องจากมีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาในตลาดหุ้น

"แข็งค่าสวนทางกับภูมิภาคจาก flow ต่างประเทศ" นักบริหารเงิน กล่าว

นักลงทุนรอดูรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในวันนี้ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ธ.ค.57 ซึ่งคาดว่ามีแนวโน้มออกมาดี แต่อาจไม่ส่งผลต่อค่าเงินบาทมากนักเพราะมีปัจจัยสำคัญจากการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศมากกว่า

 

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.85-33.00 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.56/59 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 119.75/78 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1800/1802 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1779/1783 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.8960 บาท/ดอลลาร์

- นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ธปท.กำลังพิจารณาว่าจะอนุญาตให้มีการซื้อขายทองคำและหุ้นโดยใช้เงินตราต่างประเทศได้หรือไม่ ตามที่ก่อนหน้านี้มีผู้สนใจยื่นขอเข้ามา ซึ่งผู้ที่สนใจจะใช้เงินตราต่างประเทศซื้อขายลงทุน จะมีทั้งผู้ค้าทองคำที่สนใจซื้อลงทุนในทองคำ และนักลงทุนที่สนใจลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้ ธปท.ต้องนำไปดูให้รอบคอบว่า หากเปิดให้ใช้เงินตราต่างประเทศในการทำธุรกรรมซื้อขายเหล่านี้ได้ จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายการเงิน หรืออัตราแลกเปลี่ยนอย่างไร ก่อนจะตัดสินใจว่าจะอนุญาตหรือไม่

- ผู้ว่าการแบงก์ชาติเผยราคาน้ำมันลดลงมาก ทำให้เงินเฟ้อลดลงตาม แต่ไม่ใช่เหตุต้องปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน ระบุการลดดอกเบี้ยต้องดูหลายปัจจัยประกอบไม่ใช่แค่เงินเฟ้อ เผยถ้าเกิดเงินเฟ้อต่ำจนหลุดขอบล่างนโยบายการเงิน กนง.สามารถอธิบายได้ว่าเกิดจากด้าน ซัปพลายและถือเป็นปัจจัยชั่วคราว

- ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนจี้รัฐต่ออายุโรงไฟฟ้าเอสพีพี ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ห่วงล่าช้าอาจกระทบความมั่นคงไฟฟ้าในนิคมฯ สร้างความเสียหายให้โรงงานอุตสาหกรรม ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุน

- คณะกรรมการ "พีพีพี "ผ่านกฎหมายลูก 5 ฉบับและหลักเกณฑ์เพิ่มความคล่องตัวลงทุนภาครัฐ ตีกรอบการพิจารณาอนุมัติโครงการหวังแก้ปัญหาความล่าช้า มูลค่าต่ำกว่าพันล้าน รัฐมนตรีมีอำนาจอนุมัติหากเกิน 5 พันล้าน ต้องผ่านคณะกรรมการ "พีพีพี" "ปรีดิยาธร" คาดต้นเดือนหน้าประกาศใช้

- China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวขึ้น 0.06% แตะที่ 6.1296 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน(NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อระดับค้าส่ง ร่วงลง 3.3 % เมื่อเทียบรายปีในเดือน ธ.ค. โดยในปี 2557 ดัชนี PPI ของจีนปรับตัวลง 1.9% เทียบรายปี ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ของจีนในปี 2557 ขยายตัว 2% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาของรัฐบาลที่กำหนดไว้ที่ 3.5% ส่วนในเดือน ธ.ค.ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 1.5% เมื่อเทียบรายปี และเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 30 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,200 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,213.09 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.25 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และตลาดหุ้นสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งนั้น ได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ก.พ.ลดลง 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 1,208.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน มี.ค.ลดลง 15.9 เซนต์ ปิดที่ 16.385 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น 2.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,223.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มี.ค.เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ ปิดที่ 793.10 ดอลลาร์/ออนซ์

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้เพราะได้แรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานปรับตัวลดลง ซึ่งบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สหรัฐผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาดอีกครั้ง โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ ปิดที่ 48.79 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ก.พ.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 19 เซนต์ ปิดที่ 50.96 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้หลังจากข้อมูลด้านแรงงานของสหรัฐออกมาในเชิงบวก โดยค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1784 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1848 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5085 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5120 ดอลลาร์ ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.67 เยน เทียบกับระดับ 119.01 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0193 ฟรังค์ จาก 1.0138 ฟรังค์ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8110 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8078 ดอลลาร์

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ดีจ้า meng

โชคดี มีกำไรนะคะทุกคน

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณพรรณงาม อารยวุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแนวโน้ม ราคาทองคำและปัจจัย ที่ทำให้ราคาทองคำผันผวน The Profit ช่อง Amarin TV ในวันศุกร์ที่ 9 มกราคม 2558

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...