มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

สวัสดีวันจันทร์

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558 06:14:41 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 ก.ค. 2558

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (17 ก.ค.) แต่ดัชนี Nasdaq พุ่งทำสถิติสูงสุดระหว่างวันและปิดทะยานขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของกูเกิล อิงค์ ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐโดยทั่วไปที่ปรับตัวสดใส

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับลง 33.80 จุด หรือ 0.19% ปิดที่ 18,086.45 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 2.35 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 2,126.64 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 46.96 จุด หรือ 0.91% ปิดที่ 5,210.14 จุด

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อวันศุกร์ (17 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้กรีซ และหันมาให้ความสนใจกับการรายงานผลประกอบการ

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.06% ปิดที่ 405.68 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส บวกขึ้น 2.89 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 5,124.39 จุด ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ลดลง 43.34 จุด หรือ 0.37% ปิดที่ 11,673.42 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน อ่อนแรงลง 21.37 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 6,775.08 จุด

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 วันเมื่อวันศุกร์ (17 ก.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มเหมือง หลังจากการร่วงลงของราคาโลหะ

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 21.37 จุด หรือ 0.31% ที่ 6,775.08 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ (17 ก.ค.) ขณะที่ตลาดยังมีความวิตกว่าปริมาณน้ำมันในตลาดโลกจะสูงกว่าความต้องการ หลังจากที่อิหร่านและชาติมหาอำนาจบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ในสัปดาห์นี้

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดขยับลง 2 เซนต์ แตะที่ 50.89 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดเพิ่มขึ้น 18 เซนต์ ที่ 57.1 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (17 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่า และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวสดใส

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดร่วงลง 12 ดอลลาร์ หรือ 1.05% ที่ 1,131.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดปรับลง 15 เซนต์ ที่ 14.834 ดอลลาร์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดอ่อนแรงลง 10.30 ดอลลาร์ ที่ 1,001.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดรูดลง 12.95 ดอลลาร์ ที่ 619.00 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อวันศุกร์ (17 ก.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0851 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0875 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5609 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5608 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 124.09 เยน จาก 124.13 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9611 ฟรังก์ จาก 0.9578 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7378 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7406 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,086.45 จุด ลดลง 33.80 จุด, -0.19%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,210.14 จุด เพิ่มขึ้น 46.96 จุด, +0.91%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,126.64 จุด เพิ่มขึ้น 2.35 จุด, +0.11%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,124.39 จุด เพิ่มขึ้น 2.89 จุด, +0.06%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,673.42 จุด ลดลง 43.34 จุด, -0.37%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,775.08 จุด ลดลง 21.37 จุด, -0.31%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,463.31 จุด เพิ่มขึ้น 17.19 จุด, +0.06%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 25,415.27 จุด เพิ่มขึ้น 252.49 จุด, +1.00%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,957.35 จุด เพิ่มขึ้น 134.17 จุด, +3.51%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,670.10 จุด เพิ่มขึ้น 0.50 จุด, +0.01%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,652.50 จุด เพิ่มขึ้น 2.70 จุด, +0.05%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,076.79 จุด ลดลง 11.10 จุด, -0.53%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,650.92 จุด เพิ่มขึ้น 50.80 จุด, +0.25%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,045.98 จุด เพิ่มขึ้น 3.77 จุด, +0.04%

ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดทำการวันที่ 17 ก.ค. เนื่องในเทศกาลฮารีรายออีฏิ้ลฟิตริ

ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการวันที่ 17 ก.ค. เนื่องในเทศกาลฮารีรายออีฏิ้ลฟิตริ

ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันที่ 17 ก.ค. เนื่องในเทศกาลฮารีรายออีฏิ้ลฟิตริ

ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดทำการวันที่ 17 ก.ค. เนื่องในเทศกาลฮารีรายออีฏิ้ลฟิตริ

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2208384

 

ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสดใส

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558 08:37:46 น.

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,540.31 จุด เพิ่มขึ้น 125.04 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,085.00 จุด เพิ่มขึ้น 39.02 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,077.09 จุด เพิ่มขึ้น 0.30 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,370.00 จุด เพิ่มขึ้น 16.55 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,733.29 จุด เพิ่มขึ้น 6.56 จุด ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันแห่งทะเล

 

 

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันและอาหารที่ทะยานขึ้น

 

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ดีดตัวขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2557

 

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่าภาวะตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 9.8% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.17 ล้านยูนิต

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2208584

[ginger 11,058]

ร่วงลงแต่เช้า มองเป็นผลจากแรงขายที่สะสมมา แปลว่าผมให้เหตุผลทางเทคนิค เป็นสำคัญ

แต่เช้านี้ขอ No comment ละกันครับ ดูจากรูปเอาครับคงพอบอกความหมายอะไรได้ หรือต้องการคำตอบอะไรก็ส่งข้อความมาคุยกัน

by Facebook.com/Wealthstation

20/7/58

 

การเข้าซื้อในช่วงที่ตลาดผันผวนแบบนี้ มีความเสี่ยงสูง ระวังกันด้วยครับ

 

 

[meng166 131]

ขอขอบคุณครับ

[ginger 11,058]

 

 

[ginger 11,058]

ทองร่วงหนัก ลบ 350 บาท ขายออก 18,100

ราคาทองคำแท่งวันจันทร์ที่ 20 ก.ค. 58

ซื้อเข้าราคาบาทละ 18,000

ขายออกราคาบาทละ 18,100

[ginger 11,058]

หุ้นกลุ่มทองคำร่วงลงทั่วเอเชีย เหตุวิตกดอลล์แข็ง,เฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558 10:27:26 น.

ราคาหุ้นบริษัทผลิตทองคำร่วงลงทั่วเอเชียในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากราคาทองคำดิ่งลงหนักสุดในรอบ 2 ปี อันเป็นผลมาจากการที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งทำให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ขณะเดียวกันมีรายงานว่า จีนเปิดเผยปริมาณทองคำสำรองที่พุ่งขึ้น 57% นับตั้งแต่ปี 2552

 

 

 

เมื่อเวลาประมาณ 12.20 น.ตามเวลาซิดนีย์ หุ้นนิวเครสท์ ไมนิ่ง ร่วงลง 7.2% ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทลดลงไปกว่า 500 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่หุ้นเอโวลูชัน ไมนิ่ง ดิ่งลง 15% หุ้นนอร์เธิร์น สตาร์ รีซอร์เซส รูดลง 8.3%

 

ส่วนในตลาดหุ้นฮ่องกงนั้น หุ้นซีจิน ไมนิ่ง กรุ๊ป และหุ้นโจวจิน ไมนิ่ง อินดัสทรี ต่างก็ร่วงลงอย่างน้อย 2.9%

 

ด้านสัญญาทองคำเดือนส.ค.ที่ตลาด COMEX ร่วงลง 12 ดอลลาร์ หรือ 1.05% ปิดที่ 1,131.90 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. และกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้

 

สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับการสำรองทองคำของจีนนั้น ธนาคารกลางจีนรายงานเมื่อวันศุกร์ว่า ปริมาณทองคำสำรองของจีน ณ สิ้นเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 53.32 ล้านออนซ์ หรือพุ่งขึ้น 57% จากระดับ ณ สิ้นเดือนเม.ย.2552 ซึ่งนับเป็นการเปิดเผยปริมาณทองคำสำรองเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2208820

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558 10:13:03 น.

กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องในเช้าวันจันทร์เวลาประมาณ 08.00น. โดยหลุดแนวรับสำคัญต่อเนื่องจากระดับ 1,130 เหรียญ โดยทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบกว่า 5 ปี โดยที่ในคืนวันศุกร์ปิดที่ระดับประมาณ 1,133 เหรียญ และถูกแรงเทขายอย่างหนักในเช้าวันนี้จนหลุดระดับ 1,100 เหรียญลงมา ภาพรวมสาเหตุหลักมาจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ออกมาดีขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ จึงทำให้ตลาดคาดหวังว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เร็วขึ้น ด้านกองทุนทองคำ SPDR ลดการถือครองทองคำ 11.63 ตัน ทำให้ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 696.25 ตัน ขณะที่ MTS Gold ยังวิเคราะห์ต่อเนื่องว่า ปัจจัยบวกสำหรับทองคำ ณ ขณะนี้ยังไม่ค่อยมี จึงทำให้เป็นตัวกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่วันนี้ไม่มีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจใดๆ สำหรับภาพตลาดหุ้นเช้าวันนี้ที่เกี่ยวกับหุ้นเหมืองทองคำปรับตัวลดลงกว่า 7%

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาลงอย่างต่อเนื่อง และสร้างจุดต่ำสุดใหม่ ในเชิงการวิเคราะห์ทางเทคนิคแนวรับถัดไปอยู่ที่ระดับ 1,084 เหรียญ/ออนซ์ โดยที่ Oscillator โดยทั่วไปยังเป็นแนวโน้มทิศทางขาลง และมีเกิด Panic Selling ในช่วงเช้าวันนี้ จึงคาดว่าในวันนี้ราคาทองคำจะยังถูกดดันต่อเนื่องในกรอบ 1,090 – 1,130 เหรียญ โดยแกว่งตัวตามสภาพ Panic Selling และสภาพตลาดที่เป็นแนวโน้มขาลง

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

กลยุทธ์ทิศทางขาลง อันจะเห็นได้ว่าค่าเงินบาทเองยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ โดยเช้านี้อ่อนค่ามาที่ระดับประมาณ 34.30 บาท/ดอลลาร์ ทำให้ราคาทองคำของไทยที่ปรับตัวลดลงนั้นไม่มากเท่ากับราคาตลาดโลก โดยในวันเสาร์ราคาทองคำไทยปรับตัวลดลงมาประมาณ 100 บาท/บาททองคำ ที่ระดับ 18,350 – 18,450 บาท/บาททองคำ และคาดว่าวันนี้จะปรับตัวลดลงต่อตามแนวโน้มตลาดโลก โดยวันนี้น่าจะเคลื่อนไหวที่ระดับ 17,900 – 18,350 บาท/บาททองคำ โดยนักลงทุนของ Gold Futures แนะนำให้ทำการตัดขาดทุนหรือทำ Stop Loss ที่เหมาะสม มิฉะนั้นจะถูก Force Close ได้สูง ยังคงแนะนำให้เล่นในทิศทางแนวโน้มขาลง

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

หาจังหวะปิดสถานะ Long Position

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

เก็งกำไรทิศทางขาลง โดยหาจังหวะเปิดสถานะ Short เพิ่มเมื่อราคาดีดตัว

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

กลยุทธ์ทิศทางแนวโน้มขาลง

Gold Futures Q15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,190 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,390 บาท

Gold Futures V15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,280 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,480 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2208795

[ginger 11,058]

 

 

 

[ginger 11,058]

ราคาทองคำฮ่องกงปิดตลาดวันนี้ ร่วงแตะ 10,318 HKD/ tael

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558 16:40:49 น.

สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงร่วงลง 287 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 10,318 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,117.56 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 31.09 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จิตวัฒน์ วิจิตรถาวร/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2209283

 

 

อดีตผู้ว่าแบงก์ชาติสวิสฯ มองศก.ระยะยาวยังผันผวน แนะกระจายทุนสำรองลงทุน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558 15:59:45 น.

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้จัดเวที BOT Policy Forum ครั้งที่ 5 โดยได้เชิญนายฟิลิปป์ ฮิลเดอแบรนด์ อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางสวิสเซอร์แลนด์ ร่วมปาฐกถา ในหัวข้อ "State of the Global Economy and Implications for Financial Markets" เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก

 

 

 

นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษก ธปท.ได้สรุปคำปาฐกถาของนายฟิลิปป์ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดการเงินของโลกในขณะนี้หากมองในระยะสั้นเริ่มคลี่คลาย โดยเฉพาะในประเทศเศรษฐกิจหลัก แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนสูง จึงเป็นความท้าทายเศรษฐกิจโลกในระยะยาวทั้งจากปัจจัยบวกและลบ เช่น กระบวนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกขณะนี้ส่งผลให้ระดับหนี้สาธารณะประเทศต่างๆปรับตัวระดับสูง ซึ่งการลดหนี้(deleveraging) จะส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป

 

นอกจากนี้ ยังมีบทบาทของธนาคารกลางจากมาตรการผ่อนคลายเชิงนโยบาย(QE) ที่ยาวนานของประเทศพัฒนา สร้างความบิดเบือนในราคาสินทรัพย์ และจะเป็นความเสี่ยงสำคัญเมื่อธนาคารกลางต้องลดบาทบาทและทยอยลดสภาพคล่อง(unwind) ในระยะต่อไป ขณะเดียวกันการปฏิรูปกฎเกณฑ์การกำกับสถาบันการเงิน อาจจะส่งผลต่อโครงสร้างงบดุลและรูปแบบธุรกิจ และนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบต่อเศรษฐกิจโลกได้

 

ทั้งนี้ พัฒนาการทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา แบ่งได้เป็น 2 แนวคิด คือ ช่วงการใช้เทคโนโลยีช่วยเพิ่มผลิตภาพและลดต้นทุนการผลิต และช่วงเศรษฐกิจโลกเติบโตช้าเนื่องจากมีการลงทุนและการบริโภคน้อยกว่าที่ควรจะเป็น โดยส่วนหนึ่งมาจากการออมในระดับสูง รวมถึงนวัตกรรมที่ลดแรงจูงใจการลงทุนของธุรกิจ ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกในระยะต่อไปจะยังมีความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ปัญหา hard landing ของเศรษฐกิจจีน และปัญหา Grexit และการคงอยู่ของกลุ่มยูโร

 

นายจิรเทพ กล่าวว่า นายฟิลิปป์ได้ให้แนวคิดว่าภายใต้ความเสี่ยงเหล่านี้ และผลตอบแทนการลงทุนที่อยู่ในระดับต่ำ ธนาคารกลางต้องกระจายการลงทุน (Risk diversification) โดยอาจพิจารณาจากบทเรียนของ Swiss National Bank ที่มีการกระจายนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศลงทุนออกไปยังหลักทรัพย์ที่มีผลตอบแทนสูงกว่า เนื่องจากการแข็งค่าของฟรังก์สวิสที่ทำให้ผลตอบแทนปรับลดลง อย่างไรก็ดี SNB ไม่ลงทุนในลักษณะเฉพาะเจาะจง และไม่เข้าไปซื้อหลักทรัพย์ธนาคารพาณิชย์ เพราะจะเป็น conflict of interest

 

ขณะเดียวกัน นโยบายการลงทุนควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการดำเนินนโยบายการเงินเป็นอันดับแรก โดยต้องสร้างความเข้าใจกับสาธารณชนในกรณีที่เกิดผลขาดทุนจากการดำเนินนโยบายการเงินตามเป้าหมายของธนาคารกลางเพื่อรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจด้วย

 

อินโฟเควสท์ โดย ธปฦ/กษมาพร/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2209234

 

ธนาคารกรีซเปิดทำการอีกครั้งแล้ววันนี้ หลังปิดทำการนาน 3 สัปดาห์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558 13:33:37 น.

ธนาคารของกรีซกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งแล้วในวันนี้ ภายหลังจากที่ทางการสั่งปิดทำการเป็นเวลานานถึง 3 สัปดาห์ เนื่องจากวิกฤตหนี้ของประเทศ

 

กรีซสามารถบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ได้ด้วยการนำเสนอแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจประเทศ เพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางการเงิน อย่างไรก็ดี กรีซยังคงใช้มาตรการคุมเข้มหลายมาตรการอยู่ เช่น การสั่งห้ามโอนเงินทุนไปต่างประเทศ

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2209037

 

(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 34.25 ยังอ่อนค่าต่อเนื่อง นลท.จับตาราคาทองคำหลังลงแรง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558 12:07:54 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 34.25 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 34.15 บาท/ดอลลาร์

 

"เงินบาทอ่อนค่าทำนิวไฮอีก ช่วงนี้ทำนิวไฮตลอด เช้านี้มีประเด็นทองคำปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง ทำนิวโลว์ในรอบ 2 ปี" นักบริหารเงิน กล่าว

 

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินวันนี้จะอยู่ระหว่าง 34.25-34.35 บาท/ดอลลาร์

 

 

 

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 34.3150 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(17 ก.ค.) อยู่ที่ 1.48136% ส่วน THAI BAHT FIX 6M(17 ก.ค.) อยู่ที่ 1.44159%

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 124.05 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 124.14/16 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0891 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0890 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.วันนี้อยู่ที่ระดับ 34.1760 บาท/ดอลลาร์

 

- นายแบงก์ยอมรับ "ผู้ฝากเงิน" หนีลงทุน "หุ้น-ตราสารหนี้" เหตุดอกเบี้ยต่ำผลตอบแทนไม่จูงใจ ขณะ "มอร์นิ่งสตาร์" ชี้เงินไหลเข้ากองทุนรวมมากขึ้น เน้นกองบอนด์ ชี้แม้ผลตอบแทนต่ำแต่ดีกว่าฝากเงินแบงก์ ด้านตลาดหลักทรัพย์ยอมรับช่วงดอกเบี้ยต่ำ บัญชีเปิดใหม่พุ่งต่อเนื่อง

 

- แบงก์ชาติแจง ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อ 5-6% เป็นเรื่องปกติตามภาวะเศรษฐกิจ ยันยังไม่เข้าสู่ภาวะไม่ปล่อยสินเชื่อ หรือ Credit Crunch หลังสินเชื่อต่อเงินฝาก L/D ยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน แถมรายใหญ่แห่หันออกหุ้นกู้-ชำระเงินคืน

 

- สภาองค์การนายจ้างฯ ส่งสัญญาณรับมือเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง นายจ้างรัดเข็มขัดรอบด้าน ลูกจ้างทำใจโอทีหายเกลี้ยง ไม่รับคนเพิ่ม เหตุเศรษฐกิจไทยเจอปัจจัย 3 เด้ง จากส่งออกติดลบ แรงซื้อดิ่งทั้งจากส่งออกและภาคเกษตรที่ประสบภัยแล้ง และรายได้รัฐที่อาจไม่พอกับการกระตุ้นศก.

 

- นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงเศรษฐกิจไทยขณะนี้ว่า เป็นโจทย์ที่ยากเหมือน ถูกรุมเร้าด้วย 3 โรค คือ ไข้หวัดใหญ่ที่ได้รับเชื้อจากความผันผวน ของเศรษฐกิจโลก โรคข้อเข่าเสื่อม จากการไม่ได้ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ การผลิต และการลงทุนประเทศช่วงที่ผ่านมา และโรคขาดความเชื่อมั่น ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของการขยายตัวเศรษฐกิจ “ข่าวร้ายที่มากกว่าข่าวดี ทำให้คนในประเทศเป็นโรคขาดความเชื่อมั่น การลงทุน การใช้จ่ายชะงักหมด แต่เราได้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ไปในระดับหนึ่งแล้ว ทั้งการปฏิรูปโครงสร้างการเมือง เศรษฐกิจ เสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาคอยู่ในระดับที่ดี แต่มีปัญหาระยะยาวที่โครงสร้างการผลิต และปัญหาระยะสั้นที่รุมเร้า เช่น ภัยแล้ง แต่นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้แก้ปัญหาเร่งด่วนแล้ว

 

- กรมบัญชีกลางดึง 1.34 หมื่นล้าน จาก 18 กองทุนหมุนเวียน ช่วยเกษตรกรประสบปัญหาภัยแล้ง ทั้งขยายเวลาชำระหนี้-งดดอกเบี้ย-สนับสนุนปัจจัยการผลิต" ด้านนักเศรษฐศาสตร์หวั่นหนี้ครัวเรือนพุ่ง ฉุดการบริโภค ขณะเอกชนไม่ได้รับผลกระทบ เหตุมีระบบน้ำสำรอง ห่วงกำลังซื้อร่วง

 

- รัฐบาลเตรียมแพ็คเกจกระตุ้นรอบใหม่ หลังเศรษฐกิจไม่ฟื้นตามคาด เน้นมาตรการช่วยเหลือระดับรากหญ้า ขณะนักวิชาการนักเศรษฐศาสตร์ชี้จำเป็นต้องหามาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม หนุนนโยบายการคลัง-อัดฉีดเงินโดยตรง

 

- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) อนุมัติให้การส่งเสริมลงทุนในช่วงครึ่งแรกปีนี้มากถึง 1,254 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 412,690 ล้านบาท และเชื่อว่าการอนุมัติส่งเสริมลงทุนในปีนี้จะมากกว่าปีที่แล้วที่ให้การอนุมัติไป 1,662 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 724,740 ล้านบาท

 

- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ที่ 34.00-34.25 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ตลาดรอจับตาเพื่อช่วยประเมินจังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. และดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนก.ค. (เบื้องต้น) นอกจากนี้ ตลาดยังน่าจะยังคงติดตามปัญหาของกรีซ โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องการเจรจาเพื่อขอรับความช่วยเหลือทางการเงินรอบที่ 3 ระหว่างกรีซกับกลุ่มเจ้าหนี้ และสถานการณ์ของธนาคารพาณิชย์กรีซที่อาจจะกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง แต่ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิด

 

- ธนาคารในกรีซจะเปิดทำการอีกครั้งในวันนี้ หลังจากปิดให้บริการมาเป็นเวลา 3 สัปดาห์ แต่ยังคงมีการควบคุมหลายประการ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป การจำกัดการถอนเงินแบบรายวันจะเปลี่ยนมาเป็นรายสัปดาห์ โดยประชาชนจะสามารถถอนเงินได้ไม่เกิน 420 ยูโรต่อสัปดาห์ ซึ่งจะทำให้ชาวกรีซไม่ต้องมารอคิวเพื่อกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มทุกวัน

 

ก่อนหน้านี้ ประชาชนจะสามารถถอนเงินสดได้ไม่เกิน 60 ยูโรต่อวัน ซึ่งเป็นมาตรการที่ทางการกรีซนำมาใช้เพื่อป้องกันการแห่ถอนเงิน

 

อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2208946

[ginger 11,058]

สรุปภาวะตลาด Futures By GT Wealth Management 20 ก.ค.58 (ภาคบ่าย)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558 17:00:50 น.

กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--GT Wealth Management

ดัชนี SET50 ปิดลบ 8.32 จุด ปิดที่ 964.19 จุด ดัชนีปรับลงต่อ แรงกดดันมาจากแรงขายกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันกลับมาลดลงอีกครั้ง ด้านราคาทองคำร่วงลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 9 เดือน จากถ้อยแถลงของประธานเฟดที่ย้ำเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ และรายงานถือทองคำของธนาคารกลางจีนที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่คาด ตลาดจับติดตามการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้า

 

 

 

ภาวะการซื้อขายระหว่างวัน คุณวราวุธ เบญจาพุทธารักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ดัชนีSET50 ถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศโดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน เช่นเดียวกับราคาทองคำที่อาจมีการฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้งหลังจากปรับลงไปค่อนข้างมาก แต่เป็นเพียงการทำ Technical Rebound เท่านั้น

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2209301

 

ดัชนี SET ท้ายภาคบ่ายร่วงกว่า 10 จุด รับแรงขายหุ้นขนาดใหญ่

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558 16:17:49 น.

ตลาดหุ้นไทยท้ายภาคบ่ายไหลลงร่วงไปกว่า 10 จุด รับแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ พลังงาน และสื่อสาร จากความกังวลภาวะเศรษฐกิจในประเทศ

 

เมื่อเวลา 16.11 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,469.14 จุด ลดลง 10.17 จุด (-0.69%)

 

 

อินโฟเควสท์ โดย จีรายุทธ จันทรงสกุล/ศศิธร/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2209257

 

ประจินแจงปรับโครงสร้างบพ.ตามขั้นตอนปกติ ไม่ใช้ม. 44 เชื่อเสร็จทัน ต.ค.58

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558 16:07:56 น.

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เผยความคืบหน้าการปรับโครงสร้างกรมการบินพลเรือน(บพ.) ว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) ให้ความเห็นชอบ และเสนอไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ซึ่งได้พิจารณาปรับปรุงเพิ่มเติมและได้เรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแล้ว นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้คณะกรรมการกลั่นกรองกฎหมาย คสช. ช่วยตรวจสอบ โดยนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม และทีมงานของ บพ.ได้เข้าชี้แจง ซึ่งในภาพรวมจะพิจารณาโครงสร้างทั้ง 4 ส่วน ใน 2 ประเด็น ได้แก่ งานด้านความปลอดภัย คือ สำนักงานคณะกรรมการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย หรือผู้รอดชีวิต(National Search and Rescue) และสำนักงานคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของเรือและอากาศยานที่ประสบภัย(Accident and Incident investigations) อยู่ระหว่างพิจารณาใน 2 แนวทาง คือ ให้ขึ้นตรงต่อสำนักนายกรัฐมนตรี หรือกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กระทรวงมหาดไทย

 

 

 

ส่วนสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จะไม่จัดตั้งโดยใช้อำนาจมาตรา 44 แล้ว แต่จะพิจารณาแนวทางการจัดตั้งตามขั้นตอนปกติ เนื่องจากเห็นว่าสำนักงาน กพท. จะเป็นหน่วยงานที่ยั่งยืน และไม่กระทบต่อความรู้สึกของต่างชาติ ส่วนกรมการท่าอากาศยานนั้นไม่มีปัญหาเป็นไปตามข้อมูลเดิมที่นำเสนอ โดยจะมีการปรับข้อกฎหมายให้กระชับมากขึ้น

 

สำหรับคณะกรรมการที่จะกำกับดูแลสำนักงาน กพท.ซึ่งจะปรับจากคณะกรรมการการบินพลเรือน(กบร.) เดิม(ตาม พ.ร.บ.เดินอากาศ พ.ศ.2497) นั้นจะมีฐานะอย่างไรหลังจากปรับโครงสร้างใหม่ รวมถึงค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากสายการบินเพื่อนำมาใช้จ่ายในกิจการของสำนักงาน กพท.นั้น จะเป็นอย่างไร กำลังอยู่ระหว่างศึกษา

 

"ทางคณะกรรมการกลั่นกรองรับทราบและยืนยันว่าจะเร่งรัดการพิจารณา เพื่อจัดตั้งสำนักงาน กพท.ให้เร็วก่อนที่จะเริ่มต้นดำเนินงานตามโครงสร้างใหม่เดือน ต.ค.นี้ ซึ่งจะต้องเสร็จก่อนสัก 1-2 เดือนเพื่อมีเวลาในการเปลี่ยนผ่าน ทั้งเจ้าหน้าที่บุคลากร ซึ่งเรื่องนี้มีเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นเลขาฯ คณะกรรมการกลั่นกรอง คสช.เชื่อว่าจะเร็ว" พล.อ.อ.ประจิน กล่าว

 

รมว.คมนาคม กล่าวว่า วันนี้เอกอัครราชทูตเกาหลีได้เข้าพบเพื่อขอบคุณไทยที่สนับสนุนให้เกาหลีได้คะแนนเสียงรับเลือกตั้งเป็นเลขาธิการองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ(IMO) พร้อมทั้งเชิญไปเยือนเกาหลีอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้เกาหลียังพร้อมร่วมมือกับไทยในเรื่องการขนส่งทางน้ำ โดยพร้อมเป็น Sister Port ระหว่างการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) และการท่าเรือแห่งปูซาน รวมถึงเกาหลีได้อนุญาตการเพิ่มเที่ยวบินของสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ เส้นทางดอนเมือง-โซลเป็น 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่เดือน ต.ค.58 เป็นต้นไป หลังจากบริษัทฯได้เสนอขอทำการบินไปเมื่อต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากที่เกาหลีเชื่อมั่นมาตรการในการแก้ไขปัญหาของ บพ.ไทย ส่วนเส้นทางอื่นให้บินปกติ

 

อินโฟเควสท์ โดย คคฦ/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2209242

[ginger 11,058]

 

[ginger 11,058]

 

มุมมองภาคบ่าย 20-07-58

 

[deb99 290]

ขอบคุณครับ คุณginger

[ginger 11,058]

^ ^

ข่าวเช้าจ้าเพื่อน พี่น้อง

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดร่วง $12 เหตุดอลล์แข็ง, ข้อมูลศก.แกร่ง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 18 กรกฎาคม 2558 07:10:55 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่า และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวสดใส

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดร่วงลง 12 ดอลลาร์ หรือ 1.05% ที่ 1,131.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดปรับลง 15 เซนต์ ที่ 14.834 ดอลลาร์

 

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดอ่อนแรงลง 10.30 ดอลลาร์ ที่ 1,001.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดรูดลง 12.95 ดอลลาร์ ที่ 619.00 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ราคาทองและดอลลาร์มักจะปรับตัวสวนทางกัน เนื่องจากเมื่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้น สัญญาทองจะมีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นๆ ซึ่งจะกดดันราคาทองให้ร่วงลง

 

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่กระเตื้องขึ้น ซึ่งกระตุ้นคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ก็ทำให้ทองมีความน่าดึงดูดใจน้อยลง

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันและอาหารที่ทะยานขึ้น

 

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ดีดตัวขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2557

 

ส่วนกระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่าภาวะตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 9.8% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.17 ล้านยูนิต

 

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะแตะระดับ 1.11 ล้านยูนิตในเดือนมิ.ย.

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2207738

 

ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงวันนี้ วิตกน้ำมันล้นตลาด,ดอลล์แข็ง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558 20:13:35 น.

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงในวันนี้ จากความวิตกเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจากที่อิหร่านสามารถบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับชาติมหาอำนาจ ซึ่งจะทำให้มีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร และช่วยให้อิหร่านสามารถส่งออกน้ำมันในตลาดโลก

 

ณ เวลา 19.55 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลบ 6 เซนต์ หรือ 0.14% แตะ 51.14 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

นอกจากนี้ ราคาสัญญาน้ำมันยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ในวันนี้

ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

ดอลลาร์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อเทียบกับตะกร้าเงินในวันนี้ จากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐที่ช่วยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

 

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังดีดตัวขึ้นจากคำแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ที่ย้ำว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

 

ณ เวลา 19.35 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.17% สู่ระดับ 124.29 เยน หลังจากพุ่งแตะ 124.39 เยน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.32% สู่ระดับ 134.81 เยน และขยับขึ้น 0.14% สู่ระดับ 1.0846 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.01% สู่ระดับ 97.872 หลังดีดแตะ 98.088 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2209447

 

ซาอุดิอาระเบียเผยส่งออกน้ำมันต่ำสุดรอบ 4 เดือนในพ.ค.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558 23:35:18 น.

ทางการซาอุดิอาระเบียเปิดเผยว่า การส่งออกน้ำมันดิบลดลงในเดือนพ.ค.แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2014 โดยอยู่ที่ระดับ 6.935 ล้านบาร์เรลต่อวัน เทียบกับ 7.737 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนเม.ย. แม้ว่าซาอุดิอาระเบียมีการผลิตน้ำมันสูงเป็นประวัติการณ์ที่ระดับมากกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน

 

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) ระบุว่า ยอดส่งออกน้ำมันดิบของจีนเพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบรายปี แตะ 105.53 ล้านตัน ในช่วงครึ่งปีแรก

 

NDRC ระบุว่า จีนกลั่นน้ำมันดิบได้ในปริมาณ 235.34 ล้านตันในช่วง 6 เดือนแรก เพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบรายปี

 

ยอดส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% อยู่ที่ 148.61 ล้านตัน ในขณะที่ยอดการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นสูงขึ้น 3.2% ที่ระดับ 135.68 ล้านตัน

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq30/2209461

[ginger 11,058]

กรณีศึกษาในเวลานี้

สิ่งทีจะช่วยกับนักลงทุนทองคำได้และน่าจะสำคัญทีเดียว

price pattern เป็นวิธีการคาดเดาทิศทางอย่างหนึ่ง ที่เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ชอบใช้ เพราะมีรูปแบบให้คาดเดาและจุดเข้าออกชัดเจน โดยเฉพาะรูปแบบที่ฟอร์มตัวมานานหรือขนาดราคาที่ฟอร์มตัวกว้างมาก

ทำให้จุดสำคัญคือเวลาและราคา

ฟอร์มตัวนาน เลือกทางจะไปในทางนั้นๆได้ไกล

หรือกรอบการฟอร์มตัวยิ่งกว้าง เบรกกรอบเลือกทางก็มีโอกาสไปแรง

ด้วยความที่ในระหว่างฟอร์มตัววิธีการทำกำไรจะเป็นแบบ Swing Trade หรือขึ้นมาก็ขายลงมาก็ซื้อ ทำให้นักลงทุนจำนวนมากพลาดกับจังหวะในวันนี้ เนื่องจากรูปแบบราคาหล่อหลอมพฤติกรรมการเทรดที่ทำกำไรได้ ให้กับนักลงทุนส่วนใหญ่ ถ้าไม่ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้อย่างทันท่วงที กำไรที่สั่งสมมาจะหายไปเป็นส่วนใหญ่ บ่อยครั้งที่มือใหม่เทรดแต่ภาพย่อยจนลืมมองภาพใหญ่ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไม่สามารถเก็บกำไรที่ค่อยๆ สะสมมาไว้ได้ต้องถอยกลับไปตั้งหลักทำใจกันใหม่

สุดท้าย สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเทรดของเทรดเดอร์คือการเอาตัวรอด รอดจากวันนี้เพื่อไปเทรดเอากำไรคืนในวันหน้า อย่าสู้จนหมดหน้าตัก การถอยออกมาตั้งหลักจะช่วยให้เรามองสถานการณ์ได้รอบมากขึ้นและยังมีเงินเพื่อไปเทรดเอากำไรคืนมาในวันหลังโอกาสยังมีเสมอ

by Facebook.com/Wealthstation

20/7/58

[ginger 11,058]

o_____0

 

ขาลง .... ... ตุ๊บหุ้นจีน ตามด้วยทอง? .... ....

ดีจัา news wann deb meng Goldleng OKorON raty น้อย ตังเม อยากเล่นด้วยคน

 

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับกรีซชำระหนี้ ECB, IMF

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 21 กรกฎาคม 2558 06:53:43 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 9 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้กรีซ หลังจากมีรายงานว่ากรีซได้ชำระหนี้ให้กับธนาคารกลางยุโรป (ECB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แล้วเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ธนาคารพาณิชย์ของกรีซกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อวานนี้ หลังจากที่รัฐบาลสั่งปิดทำการธนาคารเป็นเวลานานถึง 3 สัปดาห์

 

 

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 406.80 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,142.49 จุด เพิ่มขึ้น 18.10 จุด หรือ +0.35% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,735.72 จุด เพิ่มขึ้น 62.30 จุด หรือ +0.53% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,788.69 จุด เพิ่มขึ้น 13.61 จุด หรือ +0.20%

 

ตลาดหุ้นยุโรปทำสถิติปิดบวกติดต่อกันยาวนานถึง 9 วันทำการเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้กรีซ หลังจากมีรายงานว่าธนาคารของกรีซกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งแล้วเมื่อวานนี้ ภายหลังจากที่ทางการสั่งปิดทำการเป็นเวลานานถึง 3 สัปดาห์ เนื่องจากวิกฤตหนี้ของประเทศ

 

ทางด้านกระทรวงการคลังกรีซระบุว่า กรีซได้ชำระหนี้วงเงิน 6.8 พันล้านยูโร (7.4 พันล้านดอลลาร์) ให้กับกลุ่มเจ้าหนี้ ซึ่งประกอบด้วยธนาคารกลางยุโรป (ECB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แล้วเมื่อวานนี้

 

นักลงทุนจับตารัฐสภากรีซจะลงมติในวันพุธนี้เพื่อรับหรือไม่รับมาตรการปฏิรูปธนาคาร และกระบวนการยุติธรรมตามข้อตกลงที่นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรี ทำไว้กับกลุ่มประเทศเจ้าหนี้ เพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน

 

ทั้งนี้ คาดว่ารัฐสภากรีซจะมีมติอนุมัติมาตรการดังกล่าว แต่นายซิปราสจะต้องพึ่งคะแนนเสียงจากพรรคฝ่ายค้าน หลังจากสมาชิกพรรคไซรีซาของเขาจำนวน 39 คนหันไปยกมือคัดค้านร่างกฎหมายปฏิรูปเศรษฐกิจฉบับใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยขณะนั้นสภาผู้แทนราษฎรกรีซมีมติเห็นชอบด้วยคะแนน 229 เสียง จากจำนวนสมาชิกในสภา 300 เสียง

 

หุ้นเอวีวา กรุ๊ป ทะยานขึ้น 27% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทชไนเดอร์ อิเล็กทริก วางแผนที่จะเทคโอเวอร์กิจการของเอวิวา ซึ่งเป็นผู้จัดหาซอฟท์แวร์ด้านวิศวกรรม และข่าวดังกล่าวยังช่วยหนุนหุ้นชไนเดอร์ อิเล็กทริก ปรับขึ้น 0.6%

 

อย่างไรก็ตาม หุ้นทุลโลว์ ออยล์ ร่วงลง 5.2% หลังจากมีรายงานว่า ทางบริษัทได้ระงับการส่งออกก๊าซธรรมชาติจากบ่อ Jubilee ไปยังโรงงาน Ghana Gas เนื่องจากปัญหาทางเทคนิค

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2209476

 

ประธานเฟดเซนต์หลุยส์ชี้มีโอกาส 50% เฟดขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558 22:26:20 น.

นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้มากที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.

 

"ผมมองว่ามีโอกาส 50% ที่เฟดจะปรับขึ้นเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในเดือนก.ย." เขากล่าว

 

เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0-0.25% นับตั้งแต่ปลายปี 2008

เฟดจะประชุมนโยบายการเงินครั้งต่อไปในวันที่ 28-29 ก.ค.

คำกล่าวของนายบลูลาร์ดสอดคล้องกับนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ที่เน้นย้ำในการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นจะสนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2209456

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 13.96 จุด ขานรับผลประกอบการเอกชน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 21 กรกฎาคม 2558 06:29:02 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้กรีซ หลังจากที่กรีซสามารถชำระหนี้ให้กับธนาคารกลางยุโรป (ECB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เมื่อวานนี้

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,100.41 จุด เพิ่มขึ้น 13.96 จุด หรือ +0.08% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,218.86 จุด เพิ่มขึ้น 8.72 จุด หรือ +0.17% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,128.28 จุด เพิ่มขึ้น 1.64 จุด หรือ +0.08%

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน โดยมอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยว่า ผลกำไรในไตรมาส 2 ลดลงสู่ 1.81 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับ 1.9 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว แต่กำไรต่อหุ้นอยู่ในระดับที่สูงกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ปิดขยับลง 0.40%

 

หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 1.83% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 2 อยู่ที่ 380 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.44 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้

 

หุ้น PayPal ทะยานขึ้น 5.44% จากการซื้อขายวันแรกเมื่อคืนนี้ โดย PayPal ได้เสร็จสิ้นการแยกธุรกิจออกจาก eBay และได้จดทะเบียนซื้อขายในดัชนี NASDAQ ภายใต้สัญลักษณ์ "PYPL"

 

หุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 1.9% ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ ขณะที่หุ้นวีซ่า อิงค์ ทะยานขึ้น 2.6% หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอสปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นวีซ่า

 

หุ้นล็อคฮีด มาร์ติน พุ่งขึ้น 2% เนื่องจากข่าวที่ว่าล็อคฮีด มาร์ตินตกลงซื้อธุรกิจเฮลิคอปเตอร์ "Sikorsky" จากบริษัทยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ คอร์ป มูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์

 

นอกเหนือจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนแล้ว ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้กรีซ หลังจากกระทรวงการคลังกรีซยืนยันว่า กรีซได้ชำระหนี้วงเงิน 6.8 พันล้านยูโร (7.4 พันล้านดอลลาร์) ให้กับกลุ่มเจ้าหนี้ ซึ่งประกอบด้วย ECB และ IMF เมื่อวานนี้

 

นักลงทุนติดตามดูรัฐสภากรีซจะลงมติในวันพุธนี้เพื่อรับหรือไม่รับมาตรการปฏิรูปธนาคาร และกระบวนการยุติธรรมตามข้อตกลงที่นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรี ทำไว้กับกลุ่มประเทศเจ้าหนี้ เพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงโดยวันพุธ สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. ส่วนวันพฤหัสบดี สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนมิ.ย.จากเฟดชิคาโก และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมิ.ย.จาก Conference Board สำหรับวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนก.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย.

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2209475