ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

 

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 20 กรกฎาคม 2558

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558 17:08:06 น.

นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคลของเยอรมนี ยังคงไม่เห็นด้วยกับแนวคิดเรื่องการผ่อนปรนภาระหนี้สินของกรีซในวงจำกัด และยืนยันว่า จะไม่มีการปรับลดมูลค่าหนี้สิน (haircut) ของกรีซอย่างแน่นอน ในขณะที่กรีซเตรียมเปิดธนาคารทุกแห่งในวันนี้ หลังจากที่สั่งปิดธนาคารมาเป็นเวลา 3 สัปดาห์

 

--นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ NBC ทางโทรทัศน์ว่า รัฐบาลอังกฤษตัดสินใจร่วมมือกับสหรัฐในการต่อต้านกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (IS) ในซีเรียและอิรัก

 

 

 

--คณะกรรมการสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) จะจัดการประชุมที่สำนักงานใหญ่ของฟีฟ่าในวันนี้ เพื่อกำหนดวันเลือกตั้งประธานคนใหม่

 

ทั้งนี้ ยังไม่มีผู้นำจากภูมิภาคใดๆ ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานฟีฟ่า อย่างไรก็ตาม นายมิเชล พลาตินี่ ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ชาวฝรั่งเศส วัย 60 ปี กำลังพิจารณาที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้

 

--ข้อมูลจากคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) ระบุว่า ยอดส่งออกน้ำมันดิบของจีนปรับตัวสูงขึ้น 1.7% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 105.53 ล้านตัน ในช่วงครึ่งปีแรก

 

--กระทรวงการคลังของฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์มียอดเกินดุลงบประมาณ 6.73 หมื่นล้านเปโซ (1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ ซึ่งบ่งชี้ว่ารายรับของรัฐบาลมีมากกว่ารายจ่าย

 

--พรรคก๊กหมินตั๋งซึ่งเป็นพรรครัฐบาลไต้หวันได้เลือกให้นางฮุง ซิ่วชู ซึ่งเป็นนักกฎหมายระดับสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของพรรค เป็นตัวแทนพรรคลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นช่วงเดือนมกราคม

 

--สถาบันวิจัย E-house เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่ใน 20 เมืองใหญ่ของจีน พุ่งขึ้น 55% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 6.51 ล้านตารางเมตรในครึ่งแรกของเดือนก.ค. และเพิ่มขึ้น 5% จากยอดขายในช่วงครึ่งหลังของเดือนมิ.ย.

 

--ธนาคารของกรีซกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งแล้วในวันนี้ ภายหลังจากที่ทางการสั่งปิดทำการเป็นเวลานานถึง 3 สัปดาห์ เนื่องจากวิกฤตหนี้ของประเทศ

 

กรีซสามารถบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ได้ด้วยการนำเสนอแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจประเทศ เพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางการเงิน อย่างไรก็ดี กรีซยังคงใช้มาตรการคุมเข้มหลายมาตรการอยู่ เช่น การสั่งห้ามโอนเงินทุนไปต่างประเทศ

 

--ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด เปิดเผยในวันนี้ว่า ธนาคารจะปรับโครงสร้างองค์กร โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุน เพิ่มศักยภาพในการดำเนินงาน และปรับปรุงการดำเนินงานด้านต่างๆให้มีความยุ่งยากซับซ้อนน้อยลง

 

การปรับโครงสร้างองค์กรดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ปีนี้ โดยทีมผู้บริหาร 13 คนจะทำหน้านี้กำกับดูแลการดำเนินงานด้านต่างๆของธนาคาร ซึ่งทีมผู้บริหารเหล่านี้จะอยู่ภายใต้การบริหารของนายบิล วินเทอรส์ ประธานบริหารของธนาคาร

 

--สหรัฐและคิวบาได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างรูปแบบด้วยการเปิดสถานทูตในเมืองหลวงของแต่ละประเทศ หลังจากที่ตัดความสัมพันธ์กันมาเป็นเวลากว่า 5 ทศวรรษ

 

--คณะกรรมการกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) เตรียมเปิดการประชุมใหญ่รอบที่ 5 ในกรุงปักกิ่งเดือนตุลาคมนี้

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2209313

 

งินบาทปิด 34.64/66 แนวโน้มยังอ่อนค่าต่อเนื่องได้อีกตามแรงซื้อ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 22 กรกฎาคม 2558 17:44:36 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 34.64/66 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้า ระหว่างวันทำ Low สุดที่ระดับ 34.44/46 บาท/ดอลลาร์

 

"เงินบาทยังอ่อนค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้า มีแรงซื้อเข้ามาเรื่อยๆ" นักบริหารเงิน ระบุ

 

นักบริหารเงิน ยังมองเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องตามแรงซื้อ จึงไม่สามารถประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ได้

 

 

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 123.70/72 จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 123.70 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0931/0933 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.0930 ดอลลาร์/ยูโร

 

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,447.84 จุด เพิ่มขึ้น 0.40 จุด, +0.03% มูลค่าการซื้อขาย 39,970.26 ล้านบาท

 

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,297.74 ลบ.(SET+MAI)

- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ครั้งใหญ่ว่า การจะปรับ ครม.หรือไม่ ยึดหลักประสิทธิภาพการปฏิบัติงานสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ก็ติดตามการทำงานของ ครม.ทุกสัปดาห์ และพร้อมจะปรับ หากเห็นว่าไม่ทำงานตามคำสั่ง หรือทำงานแต่ไม่มีประสิทธิภาพ

 

- นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เมินกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ยันไม่ได้รู้สึกตกใจ และยังทำงานเป็นปกติ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเศรษฐกิจขณะนี้ยังมีปัญหา โดยเฉพาะจากภาคส่งออก

 

- นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวในการสัมมนา"เศรษฐกิจไทยจะไปทางไหน"ว่า โอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะกลับไปขยายตัวได้ถึง 4% ต่อปีหลังจากนี้คงเป็นไปได้ยาก เพราะที่ผ่านมาโครงสร้างเศรษฐกิจบิดเบี้ยวมานาน โดยพึ่งพาการส่งออกมากถึง 77% ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ(จีดีพี)จากปี 40 ที่มีสัดส่วนเพียง 40% ของจีดีพี ทำให้โครงสร้างเศรษฐกิจไทยอ่อนไหวมากเมื่อเศรษฐกิจโลกเปราะบาง แม้ว่าภาคท่องเที่ยวจะเติบโตได้ต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สามารถชดเชยได้ เพราะมีสัดส่วนแค่ 10% ของจีดีพีเท่านั้น

 

- น.ส.อุสรา วิไลพิชญ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิจัยธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าวในการสัมมนา"เศรษฐกิจไทยจะเดินหน้าอย่างไร"ว่า ขณะนี้ตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในวันที่ 5 ส.ค.จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกครั้งจากระดับ 1.50% โดยตลาดส่วนใหญ่ตีความจาการรับรู้ข่าวสารในช่วงที่ผ่านมาว่าประเทศไทยต้องการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนปรนเพิ่มขึ้น

 

- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี คาดว่าการส่งออกจะกลับมาในไตรมาส 4/58 นี้ตั้งแต่เดือน ก.ย.เป็นต้นไปน่าจะฟื้นตัวดีขึ้น เพราะค่าเงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือน เม.ย.58 ซึ่งเมื่ออัตราแลกเปลี่ยนอ่อนค่าลงจะต้องใช้เวลาราว 3-4 เดือนในการเสนอคำสั่งซื้อมาในราคาที่ถูกลง

 

- นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ยังคงคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ 3% ในขณะที่การส่งออกอาจจะติดลบราว 2% ซึ่งได้รวมผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งไว้แล้ว แต่หากสถานการณ์ภัยแล้งทั่วประเทศมีความรุนแรงมากกว่าที่ประเมินไว้ ก็อาจจะต้องปรับลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ลงไปอีก ซึ่ง ส.อ.ท.จะประเมินภาพรวมอีกครั้งในเดือนต.ค.นี้

 

- นายวรพล โสคติยานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะอดีตเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ประเมินว่าตัวเลขการส่งออกของไทยในปีนี้จะติดลบ 1.7% ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากปัญหาฐานราก จากการไม่พัฒนาและยกระดับนวัตกรรมการผลิต ส่งผลให้สินค้าของไทยไม่เป็นที่ต้องการของตลาด แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศขนาดใหญ่จะขยายตัวขึ้น

 

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2558 สถานการณ์รายได้ของเกษตรกรยังคงน่าเป็นห่วง หากสถานการณ์ภัยแล้งรุนแรงและยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ จนส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรในวงกว้างขึ้น ก็อาจยิ่งเป็นแรงฉุดจีดีพีภาคเกษตรของไทยในปีนี้ให้อาจลดลงถึงร้อยละ 4.3 (YoY) ซึ่งอาจทำให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนภาคเกษตรต่อจีดีพีภาคเกษตรของไทยขยับขึ้นไปอยู่ที่ราวร้อยละ 85.2 (YoY)

 

- รัฐสภากรีซเปิดฉากการประชุมเพื่อถกมาตรการปฏิรูปธนาคารและกระบวนการยุติธรรมแล้วในวันนี้ ตามข้อตกลงที่นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซิปราส ได้ทำไว้กับกลุ่มเจ้าหนี้

 

- สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือกรีซขึ้น 2 ขั้น สู่ระดับ CCC+ จากระดับ CCC- เนื่องจากปัญหาหนี้สินของกรีซเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี รวมถึงการที่กลุ่มรัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป ได้ตกลงที่จะให้จัดสรรเงินกู้ระยะ 3 ปีจากกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ให้แก่กรีซ

 

- นายปา ซูซ่ง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำสมาคมการธนาคารจีนและตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ประเมินว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มจะมีการขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ 6-6.5% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า

 

- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของจีนโดย ANZ Bank-Roy Morgan ลดลง 2.5% สู่ระดับ 141.0 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มีการรายงานดัชนีเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนม.ค. 2557

 

- นายเกลน สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียยอมรับว่า ยังมีโอกาสที่ธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ในขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียที่อ่อนค่าลงนั้น ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจ

 

อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2211340

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยกเลิกเงินอุดหนุนราคาน้ำมัน เหตุวิตกกระทบเศรษฐกิจระยะยาว

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 22 กรกฎาคม 2558 17:39:49 น.

สำนักข่าว WAM รายงานว่า กระทรวงพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ เปิดเผยในวันนี้ว่า ราคาน้ำมันภายในประเทศจะเชื่อมโยงกับราคาในตลาดโลก โดยรัฐบาลจะยกเลิกการให้เงินอุดหนุนราคาน้ำมันตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2558 เป็นต้นไป

 

กระทรวงพลังงานได้ออกแถลงการณ์ ณ กรุงอาบูดาบีว่า การตัดสินใจเกี่ยวกับน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ การลดปริมาณการใช้น้ำมัน การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และการอนุรักษ์ทรัพยากรของประเทศ

 

 

 

นายซูเฮล อัล-มาซรูอี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การตัดสินใจปล่อยเสรีราคาน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น มีพื้นฐานมาจากข้อมูลการศึกษาเชิงลึกซึ่งชี้ให้เห็นถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

 

นายซูเฮลกล่าวอีกว่า มาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมด้วยวิสัยทัศน์ด้านกลยุทธ์ของรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการเพิ่มความหลากหลายของแหล่งรายได้เข้าประเทศ การสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจ และการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันเพื่อให้เศรษฐกิจมีความมั่นคง โดยไม่ต้องพึ่งความช่วยเหลือด้านการเงินจากรัฐบาล

 

หนังสือพิมพ์รายวัน The National ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์รายงานว่า ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า งบประมาณในการช่วยเหลือด้านราคาน้ำมันของรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อยู่ที่ 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จิตวัฒน์ วิจิตรถาวร/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2211336

 

บริษัทจีนทุ่มเงินกว่า 7 พันล้านดอลล์ใน 48 ประเทศรวมไทยในโครงการ Belt and Road

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 22 กรกฎาคม 2558 19:00:11 น.

นายเฉิน ตันหยาง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน เปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทจีนได้ลงทุนรวม 7.05 พันล้านดอลลาร์ใน 48 ประเทศในโครงการ Belt and Road ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยเพิ่มขึ้น 22.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

 

นายเฉินระบุว่า บริษัทดังกล่าวลงทุนส่วนใหญ่ในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย สปป.ลาว ไทย รัสเซีย และคาซัคสถาน

 

ทั้งนี้ โครงการ Belt and Road เป็นเครือข่ายด้านการค้าและสาธารณูปโภค ซึ่งรวมถึงโครงการเศรษฐกิจสายไหม (Silk Road Economic Belt) และเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 (21st Century Maritime Silk Road) ซึ่งจีนได้ริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2013 โดยเครือข่ายดังกล่าวเชื่อมต่อกับภูมิภาคเอเชีย และยุโรป รวมทั้งเชื่อมผ่านประเทศและภูมิภาคต่างๆกว่า 60 แห่ง ซึ่งมีประชากรรวมกันราว 4.4 พันล้านคน

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2211379

 

วอลมาร์ทสยายปีกขยายศูนย์กระจายสินค้าในจีน หวังรุกชิงส่วนแบ่งตลาด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 22 กรกฎาคม 2558 18:44:45 น.

วอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่ที่สุดของโลก ได้ทำการขยายศูนย์กระจายสินค้าในชุมชนเทียนจินของจีนในวันนี้

 

ทั้งนี้ สำนักงานใหญ่ของวอลมาร์ทในจีนแถลงว่า การขยายศูนย์ดังกล่าวในระยะที่ 2 ซึ่งมีพื้นที่ 80,000 ตารางเมตร จะทำให้วอลมาร์ทสามารถขยายการให้บริการด้านการกระจายสินค้าสำหรับซัพพลายเออร์ทางตอนเหนือของจีน ขณะที่การก่อสร้างศูนย์ในระยะที่ 1 รองรับการให้บริการแก่สาขาของวอลมาร์ทจำนวนกว่า 80 สาขาทางตอนเหนือของจีน

 

การขยายศูนย์กระจายสินค้าดังกล่าวบ่งชี้ถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการเพิ่มการลงทุนในตลาดจีน

 

วอลมาร์ทได้เริ่มเข้าสู่ตลาดจีนในปี 1996 โดยเปิดซูเปอร์เซ็นเตอร์แห่งแรกที่เมืองเสิ่นเจิ้น และขณะนี้บริษัทมีสาขาราว 400 แห่งทั่วประเทศจีน

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2211373

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ca773f1cb6fae7751e13a6eb9c148408.jpg

สวัสดีฮัปปปป

 

 

(Jul 23) 5 ปมเสี่ยง ระยะยาว ถ่วงเศรษฐกิจโลกผันผวน: ผลพวงจากการแก้วิกฤตเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ เพื่อพยุงตัวเองให้รอด แต่ก็ยังทิ้ง "ความเสี่ยง" ตกค้างเป็นลูกโซ่ของคำว่า "ภาวะผันผวน" ไว้ เพราะการค้าการลงทุนถูกผูกโยงทั่วโลก

จึงเป็นอีกประเด็นที่ได้มีการหยิบยกมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในงานสัมมนา "5th BOT Policy Forum-State of the Global Economy and Implications for Financial" ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา โดย "ดร.ฟิลลิปป์ ฮิลเดอแบรนด์" อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ และรองประธานบริษัท Blackrock ได้กล่าวปาฐกถาถึง สิ่งที่ต้องจับตาในระยะข้างหน้าดังนี้

 

ประเด็นแรก แม้ในระยะสั้นเศรษฐกิจโลกมีการฟื้นตัวระดับที่ดีขึ้น อย่างสหรัฐ แต่ในระยะยาวก็ยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา เศรษฐกิจฟื้นตัวจากการก่อหนี้ ที่สูงเพิ่มขึ้น ซึ่งหากในอนาคตไม่มีการ ทำหนี้เหล่านี้ไม่ลดลง เศรษฐกิจจะเติบโตได้สูงในระยะต่อไปเหมือนอดีตหรือไม่ การอัดฉีดมาตรการทางการเงินผ่อนคลาย (QE) ที่ยาวนานของประเทศพัฒนา จะสร้างความ บิดเบือนในราคาสินทรัพย์และจะเกิดความเสี่ยงเมื่อต้องทยอยลดสภาพคล่องในข้างหน้า พื้นฐานเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างมั่นคงหรือไม่

ประเด็นที่ 2 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกครั้งนี้ มาจากบทบาทของธนาคารกลางแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นผู้ออกแบบการแก้วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในประเทศตัวเอง จึงมีความท้าทายว่า หากแต่ละประเทศเห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวแล้ว จะถอนบทบาทตัวเองออกมา ก็จะสร้างความแตกตื่นหรือตื่นกลัวหรือไม่ เช่น การถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีน เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจจีนเปราะบาง จนทำให้ต้องไปดูแลในทุกตลาด ซึ่งหากเมื่อไหร่ทางการจีนถอนตัวออกจากมาตรการ จะเกิด อะไรขึ้นกับโลก ???

ประเด็นที่ 3 ความเสี่ยงสำคัญในระยะต่อไปของเศรษฐกิจโลก ได้แก่ ผลกระทบของการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปัญหาการปรับตัวลงแรง (Hard Landing) ของเศรษฐกิจจีน และปัญหากรีซจะออกหรือคงอยู่ในยูโรโซน ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในรอบนี้ ทำให้โครงสร้างเศรษฐกิจเปลี่ยนไป โครงสร้างธุรกิจธนาคารพาณิชย์ (แบงก์) ปรับรูปแบบไป หรือการปรับโครงสร้างการกำกับดูแลธุรกิจแบงก์ในระยะต่อไป หรือในปัจจุบัน จะสังเกตได้ว่า แบงก์ได้มีการลดซื้อคืนพันธบัตรลงจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้ จะกระทบต่อระบบแบงก์ ตลาดเงินในระยะ ต่อไปหรือไม่

ประเด็นที่ 4 คือ เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เข้ามา จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพแก่ธุรกิจได้มากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีในระยะสั้น แต่ก็ยังติดตามดูว่า ในระยะยาวจะทำให้เกิดภาวะความผันผวนมากขึ้นแก่ตลาดการเงินโลกหรือไม่

ประเด็นที่ 5 ภายใต้ความเสี่ยงเหล่านี้ และผลตอบแทนจากการลงทุนที่อยู่ระดับต่ำของธนาคารกลาง เพื่อกระจายการลงทุน โดยการดำเนินนโยบายการลงทุน ควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการดำเนินนโยบายการเงินเป็นอันดับแรก และต้องสร้างความเข้าใจกับสาธารณชนในกรณีที่เกิดผลขาดทุนจากการดำเนินนโยบายดังกล่าว ตามเป้าหมายของธนาคารกลาง เพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ

Source: ประชาชาติธุรกิจ

 

 

 

 

11745750_1031948700157955_7469594046941172445_n.jpg?oh=559737c2d14d4503f9bef3f49401c995&oe=564676DB

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2558 07:47:48 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 ก.ค.2558

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากที่บริษัทแอปเปิล ไมโครซอฟท์ และยาฮู รายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,851.04 จุด ลดลง 68.25 จุด หรือ -0.38% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,171.77 จุด ลดลง 36.35 จุด หรือ -0.70% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,114.15 จุด ลดลง 5.06 จุด หรือ -0.24%

 

 

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์ หลังจากบริษัทแอปเปิล อิงค์ เปิดเผยยอดขาย iPhone ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับลง 0.6% ปิดที่ 400.28 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,082.57 จุด ลดลง 24.00 จุด หรือ -0.47% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,520.67 จุด ลดลง 84.13 จุด หรือ -0.72% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,667.34 จุด ลดลง 101.73 จุด หรือ -1.50%

 

--ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงของหุ้นกลุ่มเหมืองและหุ้นเออาร์เอ็ม โฮลดิงส์ ขณะที่นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของภาคเอกชน รวมทั้งราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อ่อนแรงลงอย่างต่อเนื่อง

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 101.73 จุด หรือ 1.50% ที่ 6,667.34 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ลดการผลิตน้ำมัน

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 1.67 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.19 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 1.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.00 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) หลังจากยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐในเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้นเกินคาด

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0908 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0943 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5602 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5553 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 124.07 เยน จาก 123.94 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9611 ฟรังก์ จาก 0.9580 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7373 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7426 ดอลลาร์

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) โดยทองคำดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีและทำสถิติร่วงลงติดต่อกัน 10 วันทำการ เพราะได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ กระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงสร้างแรงกดดันให้กับตลาดทองคำอย่างต่อเนื่อง

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 12 ดอลลาร์ หรือ 1.09% ปิดที่ระดับ 1,091.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 5.5 เซนต์ หรือ 0.37% ปิดที่ 14.73 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 4.4 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ 979.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 2.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 626.75 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,851.04 จุด ลดลง 68.25 จุด -0.38%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,171.77 จุด ลดลง 36.35 จุด -0.70%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,114.15 จุด ลดลง 5.06 จุด -0.24%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,667.34 จุด ลดลง 101.73 จุด -1.50%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,520.67 จุด ลดลง 84.13 จุด -0.72%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,082.57 จุด ลดลง 24.00 จุด -0.47%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,918.70 จุด ลดลง 87.26 จุด -0.97%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,593.67 จุด ลดลง 248.30 จุด -1.19%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,064.73 จุด ลดลง 18.89 จุด -0.91%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,603.50 จุด ลดลง 85.00 จุด -1.49%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,614.60 จุด ลดลง 92.10 จุด -1.61%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 4,026.05 จุด เพิ่มขึ้น 8.37 จุด +0.21%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,635.62 จุด เพิ่มขึ้น 7.66 จุด +0.10%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 25,282.62 จุด ลดลง 253.81 จุด -0.99%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,906.69 จุด เพิ่มขึ้น 36.84 จุด +0.76%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,729.53 จุด ลดลง 6.66 จุด -0.38%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,359.17 จุด ลดลง 12.24 จุด -0.36%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,504.93 จุด เพิ่มขึ้น 322.79 จุด +1.15%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2211433

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ดีดขึ้น รับยอดขายบ้านมือสองสหรัฐพุ่งเกินคาด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2558 07:26:02 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) หลังจากยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐในเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้นเกินคาด

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0908 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0943 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5602 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5553 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 124.07 เยน จาก 123.94 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9611 ฟรังก์ จาก 0.9580 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7373 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7426 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลอาศัยที่สดใส หลังสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 3.2% สู่ระดับ 5.49 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2550 และบ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงสดใส และเริ่มต้นฤดูร้อนด้วยความแข็งแกร่ง

 

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายบ้านมือสองในเดือนมิ.ย.จะเพิ่มขึ้น 0.9% สู่ระดับ 5.4 ล้านยูนิต

 

ข้อมูลตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้ช่วยหนุนคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนดอลลาร์

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐในเดือนมิ.ย. ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้ เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2211428

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: แรงขายหุ้นเทคโนโลยี ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 68.25 จุด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2558 06:24:18 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากที่บริษัทแอปเปิล ไมโครซอฟท์ และยาฮู รายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,851.04 จุด ลดลง 68.25 จุด หรือ -0.38% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,171.77 จุด ลดลง 36.35 จุด หรือ -0.70% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,114.15 จุด ลดลง 5.06 จุด หรือ -0.24%

 

 

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เพราะได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นแอปเปิล ร่วงลง 4.23% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขาย iPhone เพิ่มขึ้นเพียง 35% ในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แม้ยอดขาย iPhone 6 และ iPhone 6 Plus เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในจีน

 

นอกจากนี้ แอปเปิลยังระบุว่ารายได้ในไตรมาสปัจจุบันจะต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด โดยจะอยู่ที่ 4.9-5.1 หมื่นล้านดอลลาร์

 

หุ้นไมโครซอฟท์ ดิ่งลง 3.68% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้เพียง 2.22 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ปีนี้

 

หุ้นยาฮู ปรับตัวลง 1.23% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 2 มูลค่า 21.6 ล้านดอลลาร์ หรือ 2 เซนต์ต่อหุ้น ตรงข้ามกับไตรมาส 2 ปีที่แล้วที่ทางบริษัทมีกำไร 269.7 ล้านดอลลาร์ หรือ 26 เซนต์ต่อหุ้น

 

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นไดมอนด์ ดริลลิง และหุ้นมาราธอน ออยล์ ร่าวงลงกว่า 3.5% หุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ ดิ่งลง 3.9% และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ปรับตัวลง 0.8%

 

ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นสวนทางกับการปิดลบของตลาด โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ป ปรับขึ้น 2.1% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดีดตัวขึ้น 1.7% หุ้นเรเจียนส์ ไฟแนนเชียล ทะยานขึ้น 2.8%

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างข้อมูลจากรอยเตอร์ว่า บริษัทที่จดทะเบียนในดัชนี S&P 500 มีแนวโน้มที่จะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปีนี้ลดลงราว 1.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี

 

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 3.2% สู่ระดับ 5.49 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2007 และบ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงสดใส และเริ่มต้นฤดูร้อนด้วยความแข็งแกร่ง

 

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนมิ.ย.จากเฟดชิคาโก และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมิ.ย.จาก Conference Board ส่วนในวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนก.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย.

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2211419

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบเยน หลัง BOJ ส่งสัญญาณชะลอมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 22 กรกฎาคม 2558 19:58:02 น.

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเทียบเยน แต่ยังทรงตัวอยู่เหนือระดับ 123 เยน โดยนักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่งสัญญาณชะลอมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน

 

นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐและญี่ปุ่นก็ได้เป็นปัจจัยกระทบค่าเงินดอลลาร์/เยน หลังจากพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้

 

ณ เวลา 19.40 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.12% สู่ระดับ 123.80 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.42% สู่ระดับ 134.95 เยน และร่วงลง 0.34% สู่ระดับ 1.0906 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.26% สู่ระดับ 97.562

 

นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ เปิดเผยว่า เขามองว่ายังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ BOJ จะทำการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในระยะนี้

 

ยูโรแกว่งตัวในช่วงแคบๆเทียบดอลลาร์ ขณะที่ปรับตัวไร้ทิศทางเทียบเยน

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2211392

 

ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบเยน หลัง BOJ ส่งสัญญาณชะลอมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 22 กรกฎาคม 2558 19:58:02 น.

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเทียบเยน แต่ยังทรงตัวอยู่เหนือระดับ 123 เยน โดยนักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่งสัญญาณชะลอมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน

 

นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐและญี่ปุ่นก็ได้เป็นปัจจัยกระทบค่าเงินดอลลาร์/เยน หลังจากพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้

 

ณ เวลา 19.40 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.12% สู่ระดับ 123.80 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.42% สู่ระดับ 134.95 เยน และร่วงลง 0.34% สู่ระดับ 1.0906 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.26% สู่ระดับ 97.562

 

นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ เปิดเผยว่า เขามองว่ายังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ BOJ จะทำการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในระยะนี้

 

ยูโรแกว่งตัวในช่วงแคบๆเทียบดอลลาร์ ขณะที่ปรับตัวไร้ทิศทางเทียบเยน

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2211392

 

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.67 หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่ง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2558 07:15:02 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ลดการผลิตน้ำมัน

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 1.67 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.19 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 1.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.00 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 ก.ค. เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 463.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล

 

ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

 

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากกลุ่มโอเปกระบุว่า การร่วงลงของราคาน้ำมันในเดือนนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และจะไม่ทำให้โอเปกลดกำลังการผลิตน้ำมัน

 

เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของโอเปกกล่าวว่า แม้ราคาน้ำมันดิบร่วงลงต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่หากสิ่งนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ก็จะไม่ทำให้โอเปกลดเพดานการผลิตลง

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2211427

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

แบงก์ชาตินิวซีแลนด์ลดดอกเบี้ย 0.25% ส่งสัญญาณหั่นดอกเบี้ยอีก เหตุศก.ชะลอตัว

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2558 09:07:47 น.

ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 3% ในวันนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก เนื่องจากเศรษฐกิจขยายตัวในอัตราที่ช้าลง และอัตราเงินเฟ้อยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 0%

 

การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 6 สัปดาห์ หลังจากที่ธนาคารกลางได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เมื่อต้นเดือนเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา

 

 

 

นายแกรมี วีลเลอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกยังคงขยายตัวปานกลาง และสถานการณ์ในยุโรปเมื่อไม่นานมานี้ได้นำไปสู่ความไม่แน่นอนและความผันผวนในตลาดการเงินมากขึ้น

 

ปัจจุบัน นิวซีแลนด์มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ประมาณ 2.5% ต่อปี เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากอัตราดอกเบี้ยต่ำ และกิจกรรมในภาคก่อสร้าง แต่แนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มอ่อนแรงลงในเดือนมิ.ย.

 

ส่วนอัตราเงินเฟ้อของนิวซีแลนด์ในปัจจุบันยังอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายที่ธนาคารกลางกำหนดไว้ที่ 1-3% โดยส่วนใหญ่เนื่องมาจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์และการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2211619

 

ญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 6.9 หมื่นล้านเยนในเดือนมิ.ย. หลังส่งออกเพิ่ม 9.5%

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2558 08:45:05 น.

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในรายงานเบื้องต้นว่า ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้า 6.9 หมื่นล้านเยนในเดือนมิ.ย. ขณะที่การส่งออกเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 9.5% เทียบรายปี แลการนำเข้าลดลง 2.9%

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq28/2211608

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สภาพตลาดโดยรวมค่อนข้างนิ่ง สหรัฐลบไปเล็กน้อยตามผลประกอบการธุรกิจยักษ์ใหญ่ไม่ดีนักในขณะที่ราคาน้ำมันดิ่งลงจากสต็อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเกินคาด

ราคาทองปิดลบ โดยเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี

ยังมองทิศทางราคาทองเป็นลักษณะทรงตัว ไม่ต่ำกว่า 1080 -1090 และไม่เกิน 1113 1120 สำหรับสัปดาห์นี้ ส่วนสัปดาห์หน้าจะลงต่อหรือเปล่า ต้องตามไปดู

ในระหว่างวันจะมีแนวย่อยที่บริเวณ 1100 1105 1108 1115 เมื่อปรับตัวผ่านช่วง 1095 ขึ้นมาได้จะไปสู่กรอบถัดไป ซึ่งมองไม่เกิน 1120 - 1130

ด้วยอยู่ในช่วง Correction จึงเป็นการเล่นในกรอบระยะสั้น

by Facebook.com/Wealthstation

23/7/58

 

 

 

 

11742832_919979898040486_1062597058930744343_n.png?oh=465f39661c8bc758cbce349b36af258d&oe=5650AC7C&__gda__=1444404334_982a63c80dc22c941ac17d8da750b5c6

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2558 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2558 10:14:15 น.

กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวในทิศทางขาลง โดยค่าเงินดอลลาร์เองปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนมิถุนายนของสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งสินเชื่อยอดขายบ้านดีขึ้นในรอบ 8 ปี จึงบ่งชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯดีขึ้น ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องขึ้นมาแตะระดับ 34.75 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ราคาทองคำไทยปรับตัวลดลงช้าๆ เนื่องจากมีแรงพยุงจากการอ่อนค่าของเงินบาท โดยปริมาณการซื้อขายทองคำกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากราคาลงมายืนต่ำกว่า 18,000 บาท/บาททองคำ โดยมีการเข้าซื้อทั้งทองรูปพรรณและทองคำแท่ง เมื่อวานนี้ SPDRเทขายทองคำออกมาเพิ่มอีก 2.38 ตัน ปัจจุบันถือครองระดับต่ำสุดใหม่ของปี 687.31 ตัน สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯในคืนนี้ คาดว่าจะออกมาดีขึ้น ได้แก่ Jobless Claims

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาลงต่อเนื่อง โดยหลุดระดับ 1,100 เหรียญลงมาอย่างสมบูรณ์ โดยที่ราคาเมื่อวานทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,087 เหรียญ และปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,091.5 เหรียญ ขณะที่แนวโน้มระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวยังเป็นขาลง โดยราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทั่วไป ในวันนี้คาดว่าแนวรับสำคัญถัดไปของทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,070 เหรียญ โดยที่แนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,110 เหรียญ สำหรับทองคำไทยจะมีแนวรับสำคัญ 17,700 บาท/บาททองคำ และแนวต้าน 18,200 บาท/บาททองคำ

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

กลยุทธ์ทิศทางขาลง เน้นทำกำไรในระยะสั้น เพื่อลดสภาวะความผันผวนของตลาด ซึ่งอาจจะมีTechnical Rebound ได้บ้างในระยะสั้น

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

พยายามลดสถานะลงหรือตัดขาดทุน และกลับมาเล่นในทิศทางขาลง

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

หาจังหวะเปิดสถานะ Short เพิ่มบริเวณแนวต้าน

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ยังคงแนะนำกลยุทธ์ทิศทางขาลง

Gold Futures Q15 จะมีแนวรับที่ระดับ 17,980 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,180 บาท

Gold Futures V15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,030 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,230 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2211793

 

สรุปภาวะ Gold Futures By GT Wealth Management 23 ก.ค. 58 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2558 10:06:47 น.

กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำปิดที่ระดับ US$1,092.95 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ (Gold Spot) ลดลง US$ 8.06 โดยระหว่างวันราคาร่วงลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 5 ปีที่ US$1,086.91 จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นหลังยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐฯออกมาสูงสุดในรอบ 8 ปีครึ่งที่ 5.49 ล้านยูนิต จากที่คาดไว้เพียง 5.4 ล้านยูนิต และสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรลจากที่คาดว่าจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรลกดดันราคาน้ำมันลดลงต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้าน SPDR ลดสถานะทองคำลงต่อเนื่อง ขณะที่กรีซสามารถผ่านร่างกม.ฉบับที่ 2 แล้ว วันนี้ติดตามจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการสหรัฐฯ ค่าเงินบาทอ่อนค่าบริเวณ 34.71 บาท/ดอลลาร์ SPDRรายงานการถือสถานะทองคำที่ระดับ687.31 ตัน ลดลงอีก 2.38 ตัน

 

 

 

ราคาทองคำโลกเช้านี้ (Gold Spot) เคลื่อนไหวบริเวณ US$1,095 โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม 2558 (GFQ15)ราคาเปิดใกล้ระดับ 18,200 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 18,000 บาท ราคาเสนอขาย 18,100 บาท

 

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ราคาทองคำมีการทำ Technical Rebound ขึ้นมาเล็กน้อย แต่แนวโน้มยังเป็นเชิงลบ จากปัจจัยลบสำคัญอย่างค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง จากประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2211789

 

สรุปภาวะ SET50 Index Future By GT Wealth Management 23 ก.ค.58 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2558 10:07:35 น.

กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--GT Wealth Management

ดัชนี SET50 มีการฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่มีแรงซื้อกลีบเข้ามาในหุ้นกลุ่มใหญ่ ที่ปรับตัวลงอย่างหนักเมื่อวันก่อนหน้า โดยมีปริมาณการซื้อขายที่ระดับ 39,970.26 ล้านบาท ขณะที่วันี้ดัชนีมีโอกาสย่อตัวลงอีกครั้ง หลังจากที่ยังคงมีปัจจัยลบ สำคัญเข้ามากดดัน ทั้งภาวะเศรษฐกิจจีนที่ยังชะลอตัวกดดันตลาดหุ้นในเอเชีย และอาจมีแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงานกดดันอีกครั้ง หลังจากที่ราคาน้ำมันมีการปรับ ตัวลงอย่างต่อเนื่องกว่า 3% โดยยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามทั้ง การประกาศผลประกอบ การไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียน และการประกาศตัวเลขดุลการค้าในวันที่ 27 ก.ค. นี้ ซึ่งหากยังคงออกมาต่ำกว่าที่คาด จะยิ่งกดดันดัชนีต่อ ทางด้านค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.77 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง

 

 

 

แนวโน้มดัชนี SET50นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดกล่าวว่า ดัชนี SET50 ยังถูกกดดันจากปัจจัยพื้นฐานที่เป็นเชิงลบ โดยหากการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนและตัวเลขเศรษฐกิจไทยในปลายเดือนยังออกมาต่ำกว่าที่คาด จะยิ่งกดดันให้ดัชนีมีการย่อลงอีกครั้ง ทางเทคนิค แนวรับสำคัญ 945 จุด แนวต้านสำคัญ 966 จุด

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2211790

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ราคาทองฟิวเจอร์ฟื้นตัว หลังร่วงลงกว่า 1% วานนี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2558 20:19:36 น.

ราคาทองฟิวเจอร์ฟื้นตัวขึ้นในวันนี้ หลังร่วงลงกว่า 1% วานนี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์

 

ณ เวลา 19.57 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. บวก 1.90 ดอลลาร์ หรือ 0.17% แตะ 1,095.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลง 0.47% สู่ระดับ 97.001

 

ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 1% เมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) โดยทองคำดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีและทำสถิติร่วงลงติดต่อกัน 10 วันทำการ เพราะได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ กระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงสร้างแรงกดดันให้กับตลาดทองคำอย่างต่อเนื่อง

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2212340

 

 

ผลสำรวจชี้นักลงทุนรายย่อยสหรัฐมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2558 21:41:38 น.

ผลสำรวจของสมาคมนักลงทุนรายย่อยอเมริกัน (AAII) ระบุว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 ก.ค.

 

ผลสำรวจระบุว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 32.54% จาก 30.81% ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ขณะที่ความรู้สึกไม่เชื่อมั่นขยับขึ้นสู่ระดับ 25.60% จาก 23.24%

 

นอกจากนี้ นักลงทุนที่ระบุว่ามีความรู้สึกเป็นกลางต่อตลาดหุ้น โดยไม่ได้รู้สึกเชื่อมั่นหรือวิตกต่อตลาด มีจำนวนลดลงสู่ 41.87% จาก 45.95%

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2212360

 

ดาวโจนส์ร่วง กังวลเฟดขึ้นดบ. หลังผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่ำสุดรอบ 42 ปี

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2558 20:47:45 น.

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน หลังสหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 42 ปี ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า

 

ณ เวลา 20.35 น.ตามเวลาไทย ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กอยู่ที่ 17,843.56 จุด ลบ 9.77 จุด หรือ 0.06%

 

 

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 18 ก.ค. ลดลง 26,000 ราย สู่ระดับ 255,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ของวันที่ 24 พ.ย. 1973

 

ตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 20 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2000 และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง

 

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 278,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

 

ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ซึ่งสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่าเพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์นั้น ลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 278,500 ราย

 

สำหรับจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องมีจำนวนลดลง 9,000 ราย สู่ระดับ 2,207,000 ราย ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ก.ค.

 

นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด เน้นย้ำในการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นจะสนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้

 

ด้านนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้มากที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2212349

 

 

 

จับตาทรอยก้า-กรีซเจรจาเป็นทางการพรุ่งนี้ ถกรายละเอียดข้อตกลงก่อนปล่อยเงินกู้

 

 

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2558 21:21:47 น.

รัฐบาลกรีซจะเริ่มทำการเจรจาอย่างเป็นทางการกับกลุ่มทรอยก้า ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของกรีซที่ประกอบด้วยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และกรรมาธิการยุโรป (EC) ในวันพรุ่งนี้ที่กรุงเอเธนส์ เมืองหลวงของกรีซ

 

การเจรจาดังกล่าวพุ่งเป้าไปยังรายละเอียดในเงื่อนไขของมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจในข้อตกลงที่นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ทำไว้กับทางเจ้าหนี้

 

 

 

การเจรจาในวันพรุ่งนี้มีขึ้น หลังจากที่ในสัปดาห์นี้ รัฐสภากรีซได้ให้การอนุมัติต่อมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจ 2 ฉบับเกี่ยวกับการปฏิรูประบบการจัดเก็บภาษี, เงินบำเหน็จบำนาญ, การธนาคาร และกระบวนการยุติธรรม

 

ทรอยก้าหวังว่าการเจรจาดังกล่าวกับทางการกรีซจะได้ข้อสรุปภายในวันที่ 20 ส.ค. ซึ่งจะปูทางให้กรีซได้รับเงินช่วยเหลือวงเงิน 8.6 หมื่นล้านยูโร แต่หากการเจรจายังไม่ได้ข้อสรุปก่อนเส้นตายดังกล่าว กลุ่มเจ้าหนี้ยุโรปซึ่งได้จัดเตรียมเงินกู้ระยะสั้นจำนวน 7 พันล้านยูโรให้แก่กรีซ ก็อาจจะต้องจัดเตรียมเงินกู้ระยะสั้นก้อนใหม่ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่กรีซเป็นการชั่วคราว

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq38/2212354

 

อีซูซุเรียกคืนรถบรรทุกเกือบ 1 แสนคัน เหตุมีปัญหาน้ำมันรั่ว

 

 

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2558 18:59:52 น.

บริษัทอีซูซุ มอเตอร์แถลงในวันนี้ว่า ทางบริษัทจะเรียกคืนรถบรรทุกขนาดเล็ก 4 รุ่น จำนวน 97,086 คันในญี่ปุ่น เนื่องจากมีปัญหาน้ำมันรั่วซึม

 

รถบรรทุก 4 รุ่นดังกล่าวได้แก่ Elf, Atlas, Condor และ Titan โดยรถบรรทุกเหล่านี้ผลิตระหว่างเดือนธ.ค.2006 และเดือนเม.ย. 2010

 

กระทรวงขนส่งของญี่ปุ่นรายงานว่า มีการแจ้งปัญหาดังกล่าวเป็นจำนวน 90 ครั้งนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2011 แต่ยังไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุแต่อย่างใด

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq38/2212331

 

สั่งเร่งเพิ่มเที่ยวบินทำฝนหลวง ชี้เพื่อเติมน้ำเขื่อนป่าสักฯช่วยชาวนา

 

 

ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2558 18:40:00 น.

23 ก.ค. 58 นายวราวุธ ขันติยานันท์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวถึง ความคืบหน้าในการทำฝานหลวงว่า ล่าสุดศูนย์ฝนหลวงพิเศษจังหวัดนครสวรรค์ ได้เร่งระดมในการทำในหลวงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้งเป็นการเร่งด่วนโดยตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – ปัจจุบัน (23 ก.ค. 58) ขึ้นบินไปแล้ว 22 วัน รวม 232 เที่ยวบิน จำนวนชั่วโมงบิน 336 ชั่งโมง ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 193.3 ตัน จากผลการปฏิบัติการมีฝนตกในพื้นที่เป้าหมาย จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดอุทัยธานี จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดชัยนาท จังหวัดสระบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ และมีฝนตกในพื้นที่ลุ่มรับน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีน้ำไหลเข้าอ่างฯติดต่อกันเป็นวันที่ 14 ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2558 เป็นต้นมา วัดได้รวม 10.27 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนกระเสียว มีน้ำไหลเข้าอ่างฯติดต่อกันเป็นวันที่ 14 ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2558 เป็นต้นมา วัดได้รวม 2.39 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งสามารถบรรเทาปัญหาภัยแล้งให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนั้นยังเป็นการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และทำให้มีน้ำในการผลิตน้ำประปาในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล พร้อมทั้งเป็นการผลักดันน้ำเค็มอีกทางหนึ่ง

 

 

 

ส่วนพื้นที่ที่ปัญหาภัยแล้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกรมฯได้จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ภาคอีสาน จำนวน 4 หน่วยโดยมีที่ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดสกลนคร เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ประสบภัยแล้งได้อย่างทั่วถึง

 

ทั้งนี้ผลรายงานการปฏิบัติการฝนหลวงพบว่า มีฝนตกกระจายในหลายพื้นที่เป้าหมายที่ประสบภัยแล้งในภาคอีสาน ทุกวัน สามารถช่วยให้เกษตรกรมีน้ำในการทำการเพาะปลูกได้ในหลายพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนสำคัญๆ เช่น เขื่อนอุบลรัตน์ มีน้ำไหลเข้าอ่างฯติดต่อกันเป็นวันที่ 18 โดยตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2558เป็นต้นมา วัดได้รวม 38.90 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนจุฬาภรณ์ มีน้ำไหลเข้าอ่างฯติดต่อกันเป็นวันที่ 18 ตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2558เป็นต้นมา วัดได้รวม 2.53 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนลำปาว มีน้ำไหลเข้าอ่างฯติดต่อกันเป็นวันที่ 15 ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2558เป็นต้นมา วัดได้รวม 70.12 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนลำตะคอง มีน้ำไหลเข้าอ่างฯติดต่อกันเป็นวันที่ 21 ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2558เป็นต้นมา วัดได้รวม 5.35 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนสิรินธร มีน้ำไหลเข้าอ่างฯติดต่อกันเป็นวันที่ 21 ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2558เป็นต้นมา วัดได้รวม 82.98 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งกรมฝนหลวงฯจะติดตามสถายดารณ์อย่างใกล้ชิดและปฏิบัติการฝนหลวงต่อไปอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน จนกว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะคลี่คลาย

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/nnd/2212328

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดียามสาย เพื่อน พี่น้อง

 

 

กองทุน SPDR ลดการถือทองต่อเนื่องเป็นวันที่6 ทองคำมีแนวรับที่ 1,085 และ 1,080 ดอลลาร์

 

 

เงินบาทเปิด 34.84/86 แนวโน้มอ่อนค่าจากแรงซื้อดอลล์ช่วงใกล้สิ้นเดือน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม 2558 09:32:38 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.84/86 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าต่อจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.70 บาท/ดอลลาร์

 

เงินบาทวันนี้ยังมีโอกาสอ่อนค่าได้ต่อ เนื่องจากวันนี้ยังมี flow ซื้อดอลลาร์ lot ใหญ่ ประกอบกับเป็นช่วงใกล้จะสิ้นเดือนที่มักจะมีแรงซื้อดอลลาร์เข้ามาเป็นปกติอยู่แล้ว นอกจากนี้จากปัจจัยต่างประเทศเองยังค่อนข้างเอื้อให้บาทไปในทิศทางที่อ่อนค่า เช่น แนวโน้มตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดี หนุนความเชื่อมั่นมากขึ้นที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้ นอกจากนี้เงินหยวนยังปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์

 

 

 

"ต้องดูว่าวันนี้ flow ซื้อดอลลาร์ lot ใหญ่จะหมดหรือยัง ประกอบกับปกติแล้วใกล้สิ้นเดือนจะมีแรงซื้อดอลลาร์อยู่แล้ว ซึ่งถ้า flow หมด ก็คาดว่าบาทจะปรับฐานได้ไม่น่าไปแตะ 34.95 บาท แต่หากหลุดจากนี้ไป บาทก็มีโอกาสแตะ 35 บาท ต้องจับตาว่าแบงก์ชาติจะทำอะไรหรือไม่" นักบริหารเงิน ระบุ

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.90-34.95 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 123.90/97 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 123.82 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0975/0978 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 1.0994 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.8270 บาท/ดอลลาร์

 

- ตลาดหลักทรัพย์ สรุปแผนงานครึ่งปีแรกรับวอลุ่มการซื้อขายอาจพลาดเป้าเหลือ 4.7 หมื่นล้านจากตั้งเป้าไว้ที่ 5.2 หมื่นล้านบาท ประเมินกระทรวงการคลังขายหุ้นไม่กระทบตลาด เหตุมีนักลงทุนสถาบันให้ความสนใจซื้อหุ้นจำนวนมาก ขณะที่เตรียมตัดสิน 20 บจ.ในกลุ่มเข้าข่ายเพิกถอนเดือนหน้า พร้อมแจงมาตรการคุมหุ้นร้อนได้ผล หุ้นติดแคชบาลานซ์ลดเหลือ 22 บริษัทจากเคยสูงสุด 73 บริษัท

 

- "สมหมาย" โวยกระแสข่าวปรับ ครม.ซ้ำเติมปัญหาความเชื่อมั่นนักลงทุน เพราะรัฐบาลมาจากการรัฐประหาร จี้หน่วยงานความมั่นคงต้องจัดการต้นตอ ที่ปล่อยข่าว ยอมรับเศรษฐกิจยังติดหล่มความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบลงทุนโครงการ โปรดเกล้าฯ 'วิรไท' เป็น ผู้ว่าฯ ธปท.

 

- ศูนย์ข้อมูลวิจัยฯ เผยตลาดรวมอสังหาฯ ปี 58 ชะลอตัวทั้งในแง่โครงการและมูลค่า เหตุจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา ความเชื่อมั่นทรุด จับตาสินค้าราคาเกิน 10 ล้าน พบยอดเปิดใหม่พุ่งกว่าเท่าตัว

 

- พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ยืนยันว่าไม่ได้มีการล่าช้าถึง 7-8 แสนล้านบาท แต่ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวไปว่า บางโครงการอาจล่าช้าแน่นอน เช่น โครงการรถไฟทางคู่จะช้าไป 3 เส้นทาง เนื่องจากรอรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) คาดจะเสร็จเดือน ธ.ค. 58-ม.ค. 59 รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เส้นทางตลิ่งชัน-มีนบุรี สายสีเหลือง เส้นทางลาดพร้าว-สำโรง และสีชมพูเส้นทางแคราย-มีนบุรี จะช้าไปเป็นปลายปี

 

- "ออมสิน-ธ.ก.ส." เดินหน้าอัดฉีดเงิน 4 หมื่นล้าน ดอกเบี้ย 5% ต่อปี ระยะเวลา 5 ปี สนับสนุนกองทุนหมู่บ้าน เพื่อแก้หนี้นอกระบบ นำเงินไปลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า

 

- ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและเยนเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากที่ดอลลาร์ทะยานขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประชุมกำหนดนโยบายการเงินเพื่อพิจารณาอัตราดอกเบี้ยและภาวะเศรษฐกิจของประเทศในสัปดาห์หน้า

 

- สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ขานรับการที่รัฐสภากรีซมีมติอนุมัติมาตรการปฏิรูปฉบับที่ 2 เมื่อวานนี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปฏิรูปด้านการธนาคารและกระบวนการยุติธรรม ตามข้อตกลงที่นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซิปราส ทำไว้กับกลุ่มประเทศเจ้าหนี้

 

- กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 18 ก.ค. ลดลง 26,000 ราย สู่ระดับ 255,000 ราย โดยเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ของวันที่ 24 พ.ย.2516

 

- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.2% แตะที่ 143.38 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.10 น.ตามเวลาโตเกียว ทั้งนี้ได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มที่ซบเซาของภาคธุรกิจ หลังจากบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งในสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่ย่ำแย่

 

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย. โดย

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 74 เซนต์ ปิดที่ 48.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 73 เซนต์ ปิดที่ 55.27 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2212748

 

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 20 กรกฎาคม 2558

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558 17:08:06 น.

นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคลของเยอรมนี ยังคงไม่เห็นด้วยกับแนวคิดเรื่องการผ่อนปรนภาระหนี้สินของกรีซในวงจำกัด และยืนยันว่า จะไม่มีการปรับลดมูลค่าหนี้สิน (haircut) ของกรีซอย่างแน่นอน ในขณะที่กรีซเตรียมเปิดธนาคารทุกแห่งในวันนี้ หลังจากที่สั่งปิดธนาคารมาเป็นเวลา 3 สัปดาห์

 

--นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ NBC ทางโทรทัศน์ว่า รัฐบาลอังกฤษตัดสินใจร่วมมือกับสหรัฐในการต่อต้านกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (IS) ในซีเรียและอิรัก

 

 

 

--คณะกรรมการสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) จะจัดการประชุมที่สำนักงานใหญ่ของฟีฟ่าในวันนี้ เพื่อกำหนดวันเลือกตั้งประธานคนใหม่

 

ทั้งนี้ ยังไม่มีผู้นำจากภูมิภาคใดๆ ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานฟีฟ่า อย่างไรก็ตาม นายมิเชล พลาตินี่ ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ชาวฝรั่งเศส วัย 60 ปี กำลังพิจารณาที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้

 

--ข้อมูลจากคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) ระบุว่า ยอดส่งออกน้ำมันดิบของจีนปรับตัวสูงขึ้น 1.7% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 105.53 ล้านตัน ในช่วงครึ่งปีแรก

 

--กระทรวงการคลังของฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์มียอดเกินดุลงบประมาณ 6.73 หมื่นล้านเปโซ (1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ ซึ่งบ่งชี้ว่ารายรับของรัฐบาลมีมากกว่ารายจ่าย

 

--พรรคก๊กหมินตั๋งซึ่งเป็นพรรครัฐบาลไต้หวันได้เลือกให้นางฮุง ซิ่วชู ซึ่งเป็นนักกฎหมายระดับสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของพรรค เป็นตัวแทนพรรคลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นช่วงเดือนมกราคม

 

--สถาบันวิจัย E-house เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่ใน 20 เมืองใหญ่ของจีน พุ่งขึ้น 55% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 6.51 ล้านตารางเมตรในครึ่งแรกของเดือนก.ค. และเพิ่มขึ้น 5% จากยอดขายในช่วงครึ่งหลังของเดือนมิ.ย.

 

--ธนาคารของกรีซกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งแล้วในวันนี้ ภายหลังจากที่ทางการสั่งปิดทำการเป็นเวลานานถึง 3 สัปดาห์ เนื่องจากวิกฤตหนี้ของประเทศ

 

กรีซสามารถบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ได้ด้วยการนำเสนอแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจประเทศ เพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางการเงิน อย่างไรก็ดี กรีซยังคงใช้มาตรการคุมเข้มหลายมาตรการอยู่ เช่น การสั่งห้ามโอนเงินทุนไปต่างประเทศ

 

--ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด เปิดเผยในวันนี้ว่า ธนาคารจะปรับโครงสร้างองค์กร โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุน เพิ่มศักยภาพในการดำเนินงาน และปรับปรุงการดำเนินงานด้านต่างๆให้มีความยุ่งยากซับซ้อนน้อยลง

 

การปรับโครงสร้างองค์กรดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ปีนี้ โดยทีมผู้บริหาร 13 คนจะทำหน้านี้กำกับดูแลการดำเนินงานด้านต่างๆของธนาคาร ซึ่งทีมผู้บริหารเหล่านี้จะอยู่ภายใต้การบริหารของนายบิล วินเทอรส์ ประธานบริหารของธนาคาร

 

--สหรัฐและคิวบาได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างรูปแบบด้วยการเปิดสถานทูตในเมืองหลวงของแต่ละประเทศ หลังจากที่ตัดความสัมพันธ์กันมาเป็นเวลากว่า 5 ทศวรรษ

 

--คณะกรรมการกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) เตรียมเปิดการประชุมใหญ่รอบที่ 5 ในกรุงปักกิ่งเดือนตุลาคมนี้

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2209313

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $2.6 เหตุดอลล์อ่อน,แรงซื้อเก็งกำไร

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม 2558 07:37:24 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร และจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวันก่อนหน้านี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 2.6 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ระดับ 1,094.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 2.9 เซนต์ ปิดที่ 14.701 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 981.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 8.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 617.85 ดอลลาร์/ออนซ์

 

นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกัน 10 วันทำการก่อนหน้านี้ อันเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจและการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

 

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ โดยยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากรัฐสภากรีซมีอนุมัติมาตรการปฏิรูปด้านการธนาคารและกระบวนการยุติธรรมเมื่อวานนี้

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2212398

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าไม่ดีเช่นเดียวกับตปท.หลังงบฯแย่-น้ำมันลง,รอปรับครม.ศก.

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม 2558 09:04:18 น.

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะไม่ดี โดยผลกรุงเทพโพลล์ออกมาอยากจะให้ปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ด้านเศรษฐกิจถึง 74.4% แต่ยังไม่มีความชัดเจน เพราะนายกรัฐมนตรีก็ยังไม่ออกมาพูดอะไร ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นจากสถานการณ์ในประเทศที่ยังอึมครึมอยู่

 

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบเช่นเดียวกับดาวโจนส์ที่ปรับตัวลง ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงของการรายงานผลประกอบการของบริษัทฯในแต่ละตลาดฯ โดยรวมออกมาแย่ลงทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป อีกทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงก็ทำให้กลุ่มพลังงานถอยลงไปด้วย

 

นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ซึ่งก็คาดว่าจะมีการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นช่วงนี้ยังไม่น่าลงทุนควรจะชะลอไปก่อน

 

พร้อมให้แนวรับ 1,420 จุด ส่วนแนวต้าน 1,460 จุด

 

 

อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2212594

 

ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงเช้านี้ หลังตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วง

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม 2558 08:47:07 น.

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มที่ซบเซาของภาคธุรกิจ หลังจากบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งในสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่ย่ำแย่

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.2% แตะที่ 143.38 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.10 น.ตามเวลาโตเกียว

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,603.63 จุด ลดลง 80.32 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 4,124.76 จุด เพิ่มขึ้น 0.84 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,279.95 จุด ลดลง 118.90 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,809.65 จุด เพิ่มขึ้น 18.53 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,060.66 จุด ลดลง 4.41 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,360.86 จุด เพิ่มขึ้น 4.49 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,720.01 จุด ลดลง 2.43 จุด

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2212587

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

68703b95d0d04ee5faba9b79cdb8667b.jpg

 

โชคดี deb ลงทุนปลอดภัย มี Lowใหม่แค่ไหนให้ติดตามต่อไป

 

===

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...