ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

(Aug 5) ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน วันที่ 5 สิงหาคม 2558 ที่ประชุม กนง. มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

นายเมธี สุภาพงษ์ เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ในวันที่ 5 สิงหาคม 2558

คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี

ประเด็นที่คณะกรรมการฯ ให้ความสำคัญในการตัดสินนโยบาย มีดังนี้

เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 และแนวโน้มทั้งปียังคงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่มีความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและภาวะภัยแล้ง โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวสูงกว่าคาดและการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐที่ทำได้ดีต่อเนื่อง ขณะที่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวได้อย่างช้าๆ แต่การส่งออกสินค้าหดตัวมากกว่าคาด ซึ่งเป็นผลจากทั้งราคาที่อยู่ในระดับต่ำและปริมาณที่ลดลงตามอุปสงค์จากประเทศคู่ค้าโดยเฉพาะจีนและเอเชีย

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบต่อเนื่องจากต้นทุนด้านพลังงานเป็นหลัก แต่ได้ผ่านจุดต่ำสุดและจะค่อยๆ ปรับสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีจากผลของฐานราคาน้ำมันสูงที่จะทยอยหมดไป อย่างไรก็ดี แรงกดดันด้านอุปสงค์ที่ยังมีจำกัด และราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นช้ากว่าประมาณการเดิม อาจทำให้ช่วงเวลาที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะกลับเป็นบวกเลื่อนออกไปจากที่ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อนเล็กน้อย ซึ่งคณะกรรมการฯ จะติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

ในการตัดสินนโยบาย คณะกรรมการฯ ประเมินว่าการดำเนินนโยบายการเงินในช่วงที่ผ่านมา ได้ช่วยผ่อนคลายภาวะการเงินเพิ่มเติม ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ในทิศทางที่เอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ และเห็นว่านโยบายการเงินยังควรอยู่ในระดับผ่อนปรนอย่างเพียงพอและต่อเนื่อง โดยพร้อมจะใช้เครื่องมือเชิงนโยบายที่มีอยู่อย่างเหมาะสมเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว

Monetary Policy Committee’s Decision on 5 August 2015

Mr. Mathee Supapongse, Secretary of the Monetary Policy Committee (MPC), announced the outcome of the meeting on 5 August 2015 as follows.

The Committee voted unanimously to maintain the policy rate at 1.50 percent per annum.

Key considerations for policy deliberation are as follows.

The Thai economy continued to recover gradually in the second quarter, and is expected to maintain the similar pace of recovery during the rest of the year. Nevertheless, downside risks increased from a slowdown in the Chinese economy and the adverse impact of domestic drought. Higher-than-expected improvement in tourism and high investment spending by the government remained the main growth drivers. Meanwhile, private consumption and investment improved at a measured pace. However, exports of goods contracted more than previously assessed due to subdued prices and reduced volume as a result of lower demand from trading partners, especially China and other Asian economies.

Headline inflation continued to stay in the negative territory due mainly to energy costs. However, it is likely to have bottomed out, and is expected to gradually pick up in the second half of the year as the base effect of high oil prices begins to wane. The Committee will continue to closely monitor domestic price development as the period at which headline inflation is expected to turn positive might be delayed as a result of limited demand-side pressure and slower-than-projected global oil price recovery.

In deliberating monetary policy, the Committee judged that the conduct of monetary policy has thus far eased monetary conditions, while the direction of exchange rate movement has stayed conducive to the economic recovery. Therefore, the policy interest rate should be kept unchanged at this meeting. The Committee were of the view that monetary policy stance should continue to be adequately accommodative, and will stand ready to utilize an appropriate mix of available policy tools in order to support the economic recovery, while maintaining long-term economic and financial stability.

คลิกข่าว ธปท. ฉบับที่ 37/2558 เรื่อง ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน วันที่ 5 สิงหาคม 2558 รายละเอียดตามแนบ

Thai Version : https://www.bot.or.th/…/…/Documents/PressMPC_52558_M1215.pdf

English Version : https://www.bot.or.th/…/…/Documents/PressMPC_52015_M1215.pdf

 

ข้อมูลเพิ่มเติม : ทีมกลยุทธ์นโยบายการเงิน 1 โทร: 0-2283-6196, 0-2356-7872

e-mail: MonetaryPolicyStrategyTeam1@bot.or.th

 

Source: BOT Website

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดี ลงทุนปลอดภัย โชคดีนะคะ เพื่่อน พี่น้อง deb wannn news meng Goldleng Google น้อย อยากเล่นด้วยคน ตังเม .....

 

 

เงินบาทเปิด 35.16 แนวโน้มอ่อนค่า รอความชัดเจนตัวเลขส่งออกไทย

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2558 09:41:20 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.16 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.15/18 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มผันผวนตามแรงซื้อขายดอลลาร์ หลังมีแรงเทขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ

 

"ทิศทางผันผวนตามแรงซื้อขายดอลลาร์ หลังเปิดตลาดก็ปรับตัวอ่อนค่ามาอยู่ที่ 35.19(บาท/ดอลลาร์)" นักบริหารเงิน กล่าว

 

 

 

นักบริหารเงินคาดวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 35.10-35.25 บาท/ดอลลาร์

 

"ทิศทางบาทยังอ่อนค่า หลังตลาดมองว่าแบงก์ชาติจะใช้อัตราแลกเปลี่ยนเป็นกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการส่งออก" นักบริหารเงิน กล่าว

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 124.72 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 124.30 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0910 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0852 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 35.1110 บาท/ดอลลาร์

 

- สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ จะสรุปตัวเลขการส่งออกอีกครั้ง จากเดิมคาดการณ์ทั้งปีจะเติบโตที่ 1.2%

 

- ธนาคารซิตี้แบงก์ ได้ปรับลดประมาณการอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยลงจาก 3.5% เป็น 2.7% เนื่องจากมีหลายปัจจัยเข้ากระทบ โดยเฉพาะจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนจากการที่แต่ละประเทศมีนโยบายการเงินที่แตกต่างกันตามการเติบโตของเศรษฐกิจ แต่ทิศทางของไทยยังอยู่ในกรอบการฟื้นตัว หากภาพรวมเศรษฐกิจโลกดีขึ้นก็จะส่งผลดีกับประเทศไทย

 

- ค่ายรถยนต์ผนึกกำลัง ส่งเสียงถึงรัฐบาลต้องลงมาช่วยอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างจริงจัง หลังกำลังซื้อหดหาย ผู้คนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย ตอกย้ำไอเดียให้นำอีโคคาร์มาทำแท็กซี่ พร้อมปลดล็อกเงื่อนไขถือครองรถยนต์คันแรกให้เหลือ 3 ปี หวังกระตุ้นตลาดรถยนต์

 

- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)เตรียมเสนอข้อมูลความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยช่วงครึ่งปีนี้ และแนวโน้มเดือนกรกฎาคม 2558 ต่อที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ (กอช.) วันนี้ เพื่อประกอบการพิจารณาในการติดตามสถานการณ์ภาคอุตสาหกรรม ผลักดันให้มีกำลังผลิตเต็มประสิทธิภาพ มีส่วนช่วยภาคเศรษฐกิจโดยรวม โดยยอมรับว่าความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมโดยรวมที่ ส.อ.ท.ทำการสำรวจยังต่ำกว่าระดับ 100 และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง จึงถือเป็นสถานการณ์ที่ซบเซาไม่ดีนัก

 

- พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมากระทรวง พาณิชย์ได้จัดกิจกรรมเชิงรุกเพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา การจัดมหกรรมการค้าชายแดน ไทย-เมียนมา ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตาก มหกรรมการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว จังหวัดมุกดาหาร มหกรรมการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย จังหวัดสงขลา การจัดคณะผู้แทน การค้าการลงทุนเยือนประเทศเวียดนาม และการอบรมสัมมนาให้ความรู้เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถ ในการแข่งขันของผู้ประกอบการค้าชายแดน

 

- วิปสปช.เคาะ 7 ก.ย.ลงมติร่าง รธน. เผยต้องใช้เสียงโหวตเห็นชอบ 125 เสียงขึ้นไป-นัดแถลงพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศ 13 ส.ค. ด้าน สนช.นัดแถลงผลงานครบ 1 ปี 9 ก.ย.นี้

 

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลภาคบริการที่แข็งแกร่งในเดือน ก.ค. โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 5.1 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ระดับ 1,085.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ย.ลดลง 0.4 เซนต์ ปิดที่ 14.553 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ต.ค. ลดลง 7.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 950.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เผยปริมาณการผลิตน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานที่สูงขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ลดลง 59 เซนต์ ปิดที่ 45.15 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 40 เซนต์ ปิดที่ 49.59 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ หลังมีข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของภาคบริการสหรัฐในเดือน ก.ค.ซึ่งช่วยหนุนท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. โดยค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0898 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0891 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5599 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5568 ดอลลาร์สหรัฐ, ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 124.88 เยน จาก 124.33 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9792 ฟรังก์ จาก 0.9789 ฟรังก์, ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7348 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7383 ดอลลาร์

 

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2221755

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบ ปัจจัยหลักยังอยู่ที่ราคาน้ำมัน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2558 09:33:45 น.

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง(BLS) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบบางๆ โดยกรอบการแกว่งจะแคบลง ความผันผวนของตลาดไม่สูงมาก และตลาดฯมีปัจจัยหลักๆ จะอยู่ที่ราคาน้ำมันที่ ซึ่งขณะนี้แกว่งแถว 45 เหรียญฯ/บาร์เรล ส่วน Sector อื่นมองว่าจะไม่แกว่งมาก

 

 

 

โดยปัจจุบันนักวิเคราะห์ฯต่างรวบรวมผลประกอบการงวดไตรมาส 2/58 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่าจะมีบริษัทที่ถูกปรับลดประมาณการกำไรมากกว่าที่จะมี Surprise โดย EPS ของบริษัทฯในตลาดฯปีนี้คาดว่าจะโตประมาณ 38% ซึ่งในส่วนของบัวหลวงได้ปรับลดประมาณการลงมาแล้วคาดว่าจะโต 29% ซึ่งกลุ่มที่ถูกปรับลดประมาณการเป็นหุ้นในกลุ่มแบงก์, อาหาร, ส่งออก, ยานยนต์, ปิโตรเคมี, โรงกลั่น, น้ำมัน, ถ่านหิน ส่วนหุ้นที่นักวิเคราะห์ฯยังมีท่าทีที่จะไม่ปรับประมาณการเป็นหุ้นในกลุ่มค้าปลีก, โรงพยาบาล, โรงแรม เป็นต้น

 

สำหรับผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ที่ออกมาคงอัตราดอกเบี้ย ถือว่าเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ฯคาดไว้ ซึ่งการที่กนง.คงอัตราดอกเบี้ยอาจเป็นเพราะยังมีความคาดหวังว่าจะได้เห็นการฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/58)และธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ก็มีทิศทางที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วย

 

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ แต่ตลาดในอาเซียนจะอยู่ในแดนบวก พร้อมให้แนวรับ 1,428 จุด ส่วนแนวต้าน 1,448 จุด

 

อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2221748

 

Xinhua world news summary: นายกฯมาเลย์ยืนยันซากเครื่องบิน MH370

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2558 09:33:37 น.

รายงานข่าวระบุว่า มีผู้อพยพเสียชีวิตอย่างน้อย 25 รายจากเหตุเรือบรรทุกผู้อพยพราว 600 คนได้อับปางลงนอกชายฝั่งตอนเหนือของลิเบีย และจนถึงขณะนี้ มีผู้อพยพราว 400 คนได้รับความช่วยเหลือแล้ว

 

เจ้าหน้าที่จากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เปิดเผยว่า อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มผู้อพยพที่พยายามเดินทางข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมายังอิตาลีได้กรูกันมาอยู่ทางฟากหนึ่งของเรือเพื่อขอความช่วยเหลือเมื่อพวกเขาเห็นเรือกำลังกำลังแล่นใกล้เข้ามา

 

 

 

-- นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคของมาเลเซีย ประกาศในช่วงเช้าวันนี้ว่า ผลการตรวจสอบยืนยันแล้วว่า ซากชิ้นส่วนเครื่องบินที่พบบนเกาะเรอูนียง มาจากเครื่องบินเที่ยวบิน MH370 ของมาเลเซีย แอร์ไลนส์ที่สูญหายไป

 

ผู้นำมาเลเซียกล่าวว่า "นับเป็นเวลา 515 วันแล้วที่เครื่องบินหายสาบสูญไป ผมต้องแจ้งพวกคุณด้วยหัวใจที่หนักอึ้งว่า ทีมผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติได้ยืนยันว่า ซากชิ้นส่วนเครื่องบินที่พบบนเกาะเรอูนียงมาจากเที่ยวบิน MH370 ขณะนี้ เรามีวัตถุพยานแล้ว ดังที่ผมได้ประกาศเมื่อวันที่ 24 มี.ค.เมื่อปีที่แล้ว เที่ยวบิน MH370 ได้พบจุดจบอย่างน่าเศร้าบริเวณทางใต้ของมหาสมุทรอินเดีย"

 

-- กองทัพสหรัฐประกาศเมื่อวานนี้ว่า กระทรวงกลาโหมได้ส่งทหาร 450 นายไปยังคูเวตเพื่อประจำการเป็นเวลา 1 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยสู้รับกับกลุ่มหัวรุนแรงรัฐอิสลาม (IS)

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2221747

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็ง ฉุดทองปิดร่วง 5.1 ดอลลาร์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2558 07:34:27 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลภาคบริการที่แข็งแกร่งในเดือนก.ค.

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 5.1 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ระดับ 1,085.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 0.4 เซนต์ ปิดที่ 14.553 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 7.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 950.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของภาคบริการสหรัฐ

 

ทั้งนี้ ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของ ISM อยู่ที่ระดับ 60.3 ในเดือนก.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 56.0 ในเดือนมิ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 56.1

 

ขณะเดียวกัน บริษัทมาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ขั้นสุดท้ายสำหรับภาคบริการของสหรัฐ ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 55.7 ในเดือนก.ค. จากตัวเลขเบื้องต้นที่ 55.2 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 55.0 โดยได้แรงหนุนจากการขยายตัวในการจ้างงานและธุรกิจใหม่

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2221346

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 59 เซนต์ วิตกสหรัฐผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2558 07:19:23 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานที่สูงขึ้น

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 59 เซนต์ ปิดที่ 45.15 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 40 เซนต์ ปิดที่ 49.59 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจาก EIA ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 31 ก.ค. เพิ่มขึ้น 52,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.465 ล้านบาร์เรลต่อวัน

 

ขณะที่เบเกอร์ ฮิวจ์เปิดเผยในรายงานประจำสัปดาห์ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5 แห่ง เป็น 664 แท่น ซึ่งปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 สัปดาห์

 

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า อิหร่านอาจจะผลิตและส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น เมื่อการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านมีผลบังคับใช้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งทำให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นด้วย

 

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานที่สูงขึ้นนั้น ได้สกัดปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 31 ก.ค.ร่วงลง 4.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 455.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล

 

ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 542,000 บาร์เรล สู่ระดับ 57.2 ล้านบาร์เรล

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2221344

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โชคดี สบายใจ ลงทุนปลอดภัย มีภูมิคุ้มกัน นะคะ

 

 

 

 

ขอบคุณ deb +_____+

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทเปิด 35.14/16 แนวโน้มทรงตัวรอตัวเลขศก.สหรัฐ มองกรอบ 35.10-35.20

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 7 สิงหาคม 2558 09:22:13 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.14/16 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.15/18 บาท/ดอลลาร์

 

วันนี้ทิศทางเงินบาทคาดว่าจะทรงตัวอยู่ในกรอบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่จะเข้ามามีผลต่อตลาดมากนัก นักลงทุนรอดูตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่สำคัญ คือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร(Non Farm Payroll) เดือน ก.ค.

 

 

 

"วันนี้บาทคงทรงๆ ไม่เคลื่อนไหวมาก รอดูตัวเลข Non Farm ของสหรัฐคืนนี้" นักบริหารเงิน ระบุ

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.10-35.20 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เปิดตลาดเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 124.76 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 124.30 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0925 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0852 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.1730 บาท/ดอลลาร์

 

- ส่งออกช่วยพลิกสถานการณ์ค่ายรถ "ฮอนด้า" ยิ้มครึ่งปีแรกโต 27% มูลค่ารวมกว่า 4 หมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับ "มาสด้า" ที่พุ่งกว่าเท่าตัว หรือมากถึง 4 หมื่นคัน ขณะที่ในไทยเปิดตัวปิกอัพ "บีที-50 โปร" ใหม่ ผนึกกำลังมาสด้า 2 สกายแอ็กทีฟ ดันยอดพุ่งสวนตลาด หรือลุ้นแชร์ 5% แตะสูงสุดในไทยอีกครั้ง

 

- นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของบริษัทครึ่งปีแรกของปีนี้อยู่ที่ 40,558 คัน เติบโตขึ้น 155% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 15,908 คัน จากปัจจัยการเริ่มต้นการส่งออก มาสด้า 2 ไปยังกลุ่มประเทศยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

 

- EIC SCB แนะผู้ประกอบการไทยมองโอกาส-กลยุทธ์ขยายลงทุนสู่ CLMV หลังเศรษฐกิจโลก-บริโภคในไทยยังอ่อนแอ เผย 4 กลยุทธ์สำหรับธุรกิจ "ลดต้นทุน-เพิ่มมูลค่า-หาตลาดใหม่-หาโอกาสจากธุรกิจเกี่ยวเนื่อง" พร้อมมองหาพันธมิตรท้องถิ่นสร้างความได้เปรียบ

 

- หม่อมอุ๋ยยืนยันประมูล 4จี ตามกรอบเดิม ไม่เชื่อทีโอที-กสทฯ จะล้มประมูล 4จี งานสื่อสารแห่งชาติวันแรกคึกคัก ส่วนดีแทคโชว์เหนือบริการวอยซ์โอเวอร์ไวไฟ-แอลทีอี

 

- นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้ต้องใช้การบริหารจัดการที่ดีแก้ไข เอาการเมืองมาจัดการไม่ได้ รัฐบาลควรทำบางอย่าง ไม่ควรทำทุกอย่าง หากยังคงทำอยู่อย่างนี้ รัฐบาลติดควรทำบางอย่าง ไม่ควรทำทุกอย่าง หากยังคงทำอยู่อย่างนี้ รัฐบาลติดกับดักความคิดตัวเอง ไทยจะไม่มีทางหลุดพ้นประเทศที่มีรายได้ปานกลางได้

 

- กองทุนประกันสังคมเผยหุ้นไทยผันผวน หันเพิ่มการลงทุนต่างประเทศ หนุนผลตอบแทนโต 11% พร้อมโชว์ครึ่งปีแรกสร้างผลตอบแทน 22,879 ล้านบาท คาดทั้งปีผลตอบแทนแตะ 45,000 ล้านบาทตามเป้าหรือ 3.9-4.7% ส่วนพอร์ตลงทุนสิ้นปีแตะ 1.4 ล้านล้านบาท

 

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและเยนเมื่อคืนนี้ (6 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนรอดูข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนก.ค.ที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ยและทิศทางของดอลลาร์สหรัฐ

 

- กระทรวงแรงงานสหรัฐ มีกำหนดจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ในคืนนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. โดยลดลงจากระดับ 223,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 5.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี

 

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินและปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่สูงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 49 เซนต์ ปิดที่ 44.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 7 เซนต์ ปิดที่ 49.52 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2222601

 

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์อ่อน หนุนทองคำปิดบวก 4.5 ดอลลาร์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 7 สิงหาคม 2558 07:40:38 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 ส.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันนี้อย่างใกล้ชิด โดยคาดว่าข้อมูลดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สามารถบ่งชี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 4.5 ดอลลาร์ หรือ 0.41% ปิดที่ระดับ 1,090.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 12.4 เซนต์ ปิดที่ 14.677 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 5.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 956.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 6.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 599.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น ปรับตัวลง 0.08% แตะที่ 97.82 ซึ่งส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

 

นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. โดยลดลงจากระดับ 223,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 5.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี

 

ส่วนข้อมูลแรงงานของสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 1 ส.ค. เพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 270,000 ราย โดยตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 21 ติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2222366

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ผันผวนทิศทางลง ตามตลาดตปท.-แนวโน้มลดเป้ากำไรบจ.ถ่วง

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 7 สิงหาคม 2558 09:13:51 น.

นักวิเคราะห์ฯคาดดัชนีหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวผันผวนในทิศทางลง ตามตลาดหุ้นต่างประเทศทั้งดัชนีดาวโจนส์ และตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลง ขณะที่ยังมีปัจจัยถ่วงจากภายในประเทศทั้งการปรับลดตัวเลขเป้าหมายส่งออกของไทยในปีนี้เป็นติดลบ จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต รวมถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/58 ของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมา ทำให้มีแนวโน้มที่อาจจะมีการปรับลดประมาณการกำไรทั้งปี โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีนวันนี้ที่ 1,420-1,440 จุด

 

 

 

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บล.เอเซีย พลัส คาดว่าตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มที่จะผันผวนในทิศทางลง หลังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามา โดยในส่วนของปัจจัยภายในประเทศยังถูกดดันจากการที่กระทรวงพาณิชย์ ปรับลดเป้าหมายตัวเลขส่งออกในปีนี้เป็นติดลบ 3% จากเดิมคาดโต 1.2% ขณะที่การทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/58 ของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ที่ทยอยออกมา มีแนวโน้มที่จะเห็นการปรับลดเป้าประมาณการกำไรของบจ.ในปีนี้

 

นอกจากนี้ในส่วนปัจจัยต่างประเทศ ยังคงเป็นไปในทิศทางเชิงลบ โดยตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดเมื่อคืนนี้ร่วงลงแรง และตลาดหุ้นภูมิภาคที่เปิดทำการเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ

 

พร้อมมองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีเคลื่อนไหวบริเวณ 1,420-1,440 จุด

อินโฟเควสท์ โดย วิลาวัลย์ พงษ์พิทักษ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2222600

 

เงินหยวนแข็งค่าแตะ 6.1174 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 7 สิงหาคม 2558 08:42:03 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.07% แตะที่ 6.1174 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

 

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2222571

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รู้ยังต่อไปนี้การไฟฟ้าไม่มีสิทธิตัดมิเตอร์-เรียกเก็บค่าไฟฟ้ามั่วแถมให้สิทธิผู้ใช�

รู้ยังต่อไปนี้การไฟฟ้าไม่มีสิทธิตัดมิเตอร์-เรียกเก็บค่าไฟฟ้ามั่วแถมให้สิทธิผู้ใช้ขอตรวจสอบข้อมูลท้วงติงการใช้ไฟได้ด้วย ประกาศ 25 กฎ คุ้มครองผู้ใช้ไฟฟ้า จาก...

AECTIMESNEWS.COM

 

 

 

เผยรายชื่อ 28 ประเทศที่ถือพาสปอร์ตไทยเดินทางเข้าไม่ต้องขอวีซ่า

กรมการกงสุลประกาศรายชื่อ 28 ประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางไทยเข้าไปไม่ต้องใช้วีซ่า แต่ละประเทศอนุญาตให้อยู่ได้จำนวนวันแตกต่างกัน

THAITRIBUNE.ORG|BY THAI TRIBUNE

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

'โอบามา'เตือนเกิดสงครามหากนิวเคลียร์อิหร่านไม่ผ่าน

ประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐ ปกป้องข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน เตือนหากสภาคองเกรสขัดขวางอาจนำไปสู่สงครามตะวันออกกลาง

ประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐ ปกป้องข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน พร้อมเตือนว่า หากสภาคองเกรสขัดขวางการจัดทำข้อตกลงดังกล่าวก็อาจนำไปสู่สงครามในตะวันออกกลาง

 

ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยอเมริกัน ว่า การปฏิเสธจากสภาคองเกรส จะทำให้รัฐบาลสหรัฐที่มีความมุ่งมั่นเพื่อป้องกันไม่ให้อิหร่านถือครองอาวุธนิวเคลียร์ เหลือเพียงทางเลือกเดียว คือการทำสงครามอีกครั้งในตะวันออกกลาง และในท้ายที่สุดแล้ว จะเหลือทางเลือกระหว่างแนวทางการทูต หรือการทำสงครามในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง

นายโอบามา เสริมด้วยว่า เขาไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะใช้กำลังในยามจำเป็น และเตือนว่าหากอิหร่านไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงนี้ สหรัฐก็คงไม่มีทางเลือกอื่น แต่หากข้อตกลงนี้ ถูกปฏิเสธจากสภาคองเกรส ก็อาจเป็นการเร่งให้อิหร่านถือครองระเบิดได้เร็วยิ่งขึ้น

ขณะนี้ สภาคองเกรส กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อตกลงดังกล่าว โดยจะมีการลงมติในเดือนก.ย.ว่าจะอนุมัติข้อตกลงนี้หรือไม่ ขณะที่นายโอบามาขู่ที่จะใช้สิทธิวีโต้หากข้อตกลงนี้ถูกปฏิเสธ

ที่มา : Bangkokbiznews

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...