มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงห่วงใยพสกนิกรที่เดินทางมาแสดงความอาลัยกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานอาหาร ขนมไทย ของว่าง น้ำดื่มสมุนไพร และ น้ำดื่มจิตรลดา ให้บริการประชาชนตลอดทั้งวัน

วันที่ 31 พฤษภาคม 2560

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงห่วงใยพสกนิกรที่มาสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ นำอาหาร ขนม ของว่าง และน้ำดื่มพระราชทานมาแจกจ่ายให้ประชาชน

สำหรับเมนูอาหารพระราชทานแจกจ่ายประชาชน ประกอบด้วย มื้อเช้าเวลา 07.00 น. ข้าวไก่ทอดทรงเครื่อง 1,500 กล่อง ข้าวผัดไส้กรอก 1,500 กล่อง นมหนองโพ 800 กล่อง มื้อกลางวัน 11.00 น. ข้าวพระรามลงสรง 2,000 กล่อง เส้นใหญ่ผัดขี้เมาทะเล 2,000 กล่อง ขนมไทย 1,000 ถ้วย มื้อบ่าย 16.00 น. เฉาก๊วยชากังราว 1,000 ถุง น้ำสมุนไพร 700 ลิตร มื้อเย็น หมูทอดกระเทียม 3,000 กล่อง กะหรี่ปั๊บ 1,000 ชิ้น น้ำพั้นช์นำผลไม้สมุนไพร 500 แก้ว กล้วยตากอบ 500 ชิ้น และมีน้ำดื่มให้บริการตลอดทั้งวัน

Cr: http://w3.manager.co.th/OnlineSection/ViewNews.aspx…

วันที่ 31 พฤษภาคม 2560

[ginger 11,058]

๑ มิถุนายน สวัสดี เพื่อน พี่น้องทุกท่าน โชคดี แข็งแรง แจ่มใส

 

๑ มิถุนายน สวัสดี เพื่อน พี่น้องทุกท่าน

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์อ่อนหนุนทองคำปิดบวก 9.7 ดอลลาร์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน 2560 07:25:39 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (31 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ และตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ ยังกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 9.7 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ระดับ 1,275.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 2.1 เซนต์ หรือ 0.12% ปิดที่ 17.406 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 9.2 ดอลลาร์ หรือ 0.98% ปิดที่ 950.3 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 13.30 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 815.95 ดอลลาร์/ออนซ์

 

นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลง 0.30% สู่ระดับ 96.925 เมื่อคืนนี้

 

นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 1.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่เพิ่มขึ้น และสต็อกบ้านในระดับต่ำ

 

ทั้งนี้ ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย เป็นมาตรวัดจำนวนสัญญาซื้อบ้านมือสองที่มีการเซ็นสัญญาแล้วแต่ยังไม่ได้ปิดการขาย และโดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนสำหรับการเซ็นสัญญาไปจนกระทั่งปิดการขาย

 

อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำถูกสกัดลงในระหว่างวัน เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนพ.ค.ในวันพรุ่งนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.จะเพิ่มขึ้นราว 185,000 ตำแหน่ง

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2657384

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.34 วิตกลิเบียเพิ่มการผลิตน้ำมัน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน 2560 06:43:24 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (31 พ.ค.) หลังจากมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันของลิเบียในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้เกิดความกังวลว่าจะบั่นทอนความพยายามในการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 1.34 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 48.32 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.53 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 50.31 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากบรรษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียระบุว่า การผลิตน้ำมันของลิเบียมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับ 800,000 บาร์เรล/วันในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี หลังจากเผชิญปัญหาทางเทคนิคก่อนหน้านี้

 

ส่วนการผลิตน้ำมันของสหรัฐได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 9.3 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งใกล้เคียงกับระดับการผลิตของซาอุดิอาระเบีย และรัสเซีย

 

ทั้งนี้ การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของลิเบียและสหรัฐได้ส่งผลให้ตลาดวิตกกังวลว่า อาจจะเป็นปัจจัยบั่นทอนความพยายามในการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก โดยในการประชุมเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมกลุ่มโอเปก และประเทศนอกกลุ่มโอเปก มีมติเห็นพ้องให้ขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือนจนถึงเดือนมี.ค.2018 โดยไม่มีการปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น โดยโอเปกและกลุ่มนอกโอเปกจะยังคงผลิตน้ำมันราว 1.8 ล้านบาร์เรล/วันต่อไป

 

ส่วนการประชุมโอเปกครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 30 พ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาทบทวนกำลังการผลิตน้ำมัน

 

นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2657377

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.34 วิตกลิเบียเพิ่มการผลิตน้ำมัน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน 2560 06:43:24 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (31 พ.ค.) หลังจากมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันของลิเบียในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้เกิดความกังวลว่าจะบั่นทอนความพยายามในการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 1.34 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 48.32 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.53 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 50.31 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากบรรษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียระบุว่า การผลิตน้ำมันของลิเบียมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับ 800,000 บาร์เรล/วันในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี หลังจากเผชิญปัญหาทางเทคนิคก่อนหน้านี้

 

ส่วนการผลิตน้ำมันของสหรัฐได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 9.3 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งใกล้เคียงกับระดับการผลิตของซาอุดิอาระเบีย และรัสเซีย

 

ทั้งนี้ การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของลิเบียและสหรัฐได้ส่งผลให้ตลาดวิตกกังวลว่า อาจจะเป็นปัจจัยบั่นทอนความพยายามในการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก โดยในการประชุมเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมกลุ่มโอเปก และประเทศนอกกลุ่มโอเปก มีมติเห็นพ้องให้ขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือนจนถึงเดือนมี.ค.2018 โดยไม่มีการปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น โดยโอเปกและกลุ่มนอกโอเปกจะยังคงผลิตน้ำมันราว 1.8 ล้านบาร์เรล/วันต่อไป

 

ส่วนการประชุมโอเปกครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 30 พ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาทบทวนกำลังการผลิตน้ำมัน

 

นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2657377

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 20.82 จุด หลังหุ้นแบงก์ร่วง,ราคาน้ำมันดิ่ง

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน 2560 06:26:42 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 พ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากแบงก์ ออฟ อเมริกา และเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ระบุว่า รายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงกว่า 2% และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,008.65 จุด ลดลง 20.82 จุด หรือ -0.10% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,411.80 จุด ลดลง 1.11 จุด หรือ -0.05% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,198.52 จุด ลดลง 4.67 จุด หรือ -0.08%

 

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง หลังจากเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค เปิดเผยว่า ความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินอาจส่งผลให้รายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งของธนาคารร่วงลงอย่างหนักถึง 15% ในไตรมาส 2 ขณะที่แบงก์ ออฟ อเมริกา ระบุว่า รายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งมีแนวโน้มลดลงราว 10-12% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

 

ทั้งนี้ หุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 2.1% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 1.9% หุ้นแคปิตอล วัน ร่วงลง 1.7% และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 3.3%

 

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงราว 2.7% เมื่อคืนนี้ จากรายงานที่ว่า การผลิตน้ำมันของลิเบียมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ทั้งนี้ หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.1% หุ้นทรานส์โอเชียน ร่วงลง 1.9% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ลดลง 0.8% หุ้นเมอร์ฟีย์ ออยล์ ดิ่งลง 1.1%

 

หุ้นไมเคิล คอร์ โฮลดิ้งส์ ผู้จำหน่ายเสื้อผ้าชื่อดัง ร่วงลง 8.5% หลังจากบริษัทประกาศแผนการปิดร้านจำนวนมากถึง 125 แห่ง เนื่องจากยอดขายหดตัวลง

 

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 1.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่เพิ่มขึ้น และสต็อกบ้านในระดับต่ำ

 

ทั้งนี้ ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย เป็นมาตรวัดจำนวนสัญญาซื้อบ้านมือสองที่มีการเซ็นสัญญาแล้วแต่ยังไม่ได้ปิดการขาย และโดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนสำหรับการเซ็นสัญญาไปจนกระทั่งปิดการขาย

 

สำหรับรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งเป็นข้อมูลที่ตลาดจับตานั้น ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยาตัวปานกลางในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงตึงตัว และแรงกดดันด้านราคามีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

 

การเปิดเผยรายงาน Beige Book มีขึ้นก่อนการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 13-14 มิ.ย. ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค.จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ค.โดยมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนเม.ย.

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.จะเพิ่มขึ้นราว 185,000 ตำแหน่ง

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2657376

ถูกแก้ไข มิถุนายน 1, 2017 โดย ginger

[ginger 11,058]

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

กรมประชาสัมพันธ์

 

 

HSHsocial

 

 

YLGResearch

 

 

Ausiris Group

[ginger 11,058]

อัยการเกาหลีใต้ร้องศาลจำคุก ชเว ซุน ซิล คนสนิทอดีตปธน.ปาร์คเป็นเวลา 7 ปี

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 31 พฤษภาคม 2560 17:50:55 น.

อัยการเกาหลีใต้ยื่นขอให้ศาลตัดสินจำคุกนางชเว ซุน ซิล คนสนิทของ ปาร์ค กึน เฮ อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เป็นเวลา 7 ปี ในข้อหาคอร์รัปชั่น

 

ทั้งนี้ นางชเวได้ถูกคุมขังและถูกนำตัวขึ้นศาลพิจารณาคดีคอร์รัปชั่นหลายครั้ง ซึ่งรวมถึงข้อหาติดสินบน และการแทรกแซงกิจการของรัฐโดยมิชอบ

 

สำหรับการเรียกร้องโทษจำคุกครั้งนี้ เป็นกรณีที่นางชเวช่วยให้บุตรสาวได้รับข้อเสนอเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา ในกรุงโซล โดยผิดกฎหมาย

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ศาลประจำกรุงโซล ซึ่งรับผิดชอบการพิจารณาคดีของนางชเว ได้ตัดสินให้มีการรวมคดีของนางชเวและอดีตปธน.ปาร์คเข้าด้วยกัน ซึ่งทางอัยการยังไม่มีการเรียกร้องโทษในข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่นของนางชเวและปาร์ค

 

หากศาลตัดสินว่ามีการติดสินบนเกิดขึ้น ผู้ต้องหาทั้งสองรายอาจจะต้องโทษจำคุกเป็นเวลาอย่างน้อย 10 ปี

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จิตวัฒน์ วิจิตรถาวร/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2657348

 

นายกฯอินเดียออกโรงประณามเหตุคาร์บอมบ์ใจกลางอัฟกานิสถาน

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 31 พฤษภาคม 2560 16:47:11 น.

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ออกมากล่าวประณามเหตุระเบิดรถยนต์ในพื้นที่ทางการทูตในกรุงคาบูล เมืองหลวงของประเทศอัฟกานิสถาน

 

รายงานจากรัฐบาลอัฟกานิสถานระบุว่า เหตุระเบิดดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตจำนวน 64 ราย ขณะที่บาดเจ็บอีกกว่า 320 ราย

 

นายโมดี ได้โพสต์ข้อความลงบนทวิตเตอร์ส่วนตัวระหว่างการเดินทางเยือนเยอรมนี สเปน รัสเซีย และฝรั่งเศสเป็นเวลา 6 วัน ว่า "พวกเราขอประณามเหตุก่อการร้ายในกรุงคาบูลอย่างถึงที่สุด และขอแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิต รวมถึงขอให้ผู้บาดเจ็บปลอดภัย"

 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีอินเดียยังได้เน้นย้ำถึงจุดยืนของประเทศในการต่อสู้กับการก่อการร้าย โดยระบุว่า "อินเดียจะยืนอยู่เคียงข้างอัฟกานิสถานในการต่อสู้กับการก่อการร้ายทุกรูปแบบ กองกำลังที่สนับสนุนการก่อการร้ายจำเป็นต้องถูกกำจัด"

 

 

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2657296

 

ปูติน ยืนยันรัสเซียพร้อมจับมือชาติพันธมิตรยุโรปเพื่อต่อต้านก่อการร้าย

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 31 พฤษภาคม 2560 14:04:02 น.

วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียพร้อมที่จะร่วมมือกับชาติพันธมิตรในยุโรป เพื่อต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งทุกประเทศจะพยายามร่วมมือกันอย่างเต็มที่

 

 

 

ปธน.ปูตินกล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ลา ฟิกาโร ว่า แม้การจัดเวทีหารือกับประเทศพันธมิตรในยุโรปจะเป็นเรื่องยากสำหรับรัสเซีย เนื่องจากบรรดาประเทศพันธมิตรมีการเปลี่ยนจุดยืนอยู่เสมอ แต่รัสเซียก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ

 

"เราจำเป็นต้องจัดการประชุมรอบพิเศษ โดยเราจะต้องร่วมมือกันในงานที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง" ปูตินกล่าว

 

นอกจากนี้ ปธน.ปูตินกล่าวด้วยว่า รัสเซียจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้มั่นใจว่า การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งปี 2561 จะดำเนินไปตามระเบียบรัฐธรรมนูญของรัสเซียอย่างเคร่งครัด

 

"ผู้ที่มีสิทธิลงสมัครทุกคน ซึ่งหมายถึงผู้ที่ปฏิบัติตามข้อกำหนดนั้น จะสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ทุกระดับ ตามความประสงค์" ปูตินกล่าว

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จิตวัฒน์ วิจิตรถาวร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2657103

 

(เพิ่มเติม) รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่ม IS ในซีเรียใกล้เมืองพัลไมราวันนี้

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 31 พฤษภาคม 2560 14:09:19 น.

กระทรวงกลาโหมของรัสเซียรายงานว่า เรือรบและเรือดำน้ำของรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธคาลิบ จำนวน 4 ลูกถล่มกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ใกล้ๆกับเมืองพัลไมราในประเทศซีเรียวันนี้

 

 

 

แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมระบุว่า เรือรบ Admiral Essen และเรือดำน้ำ Krasnodar ได้ยิงขีปนาวุธในกลุ่ม IS ในบริเวณเมืองพัลไมรา ซึ่งเป็นเมืองโบราณ และสามารถโจมตีคลังอาวุธรวมทั้งสมาชิกของกลุ่มได้ ในขณะที่กลุ่ม IS เคลื่อนตัวจากฐานที่มั่นในเมืองรัคคาไปยังเมืองพัลไมรา

 

ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้แจ้งให้กองทัพตุรกี สหรัฐ และอิสราเอลทราบล่วงหน้าก่อนที่จะมีการโจมตีแล้ว

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2657108

 

ทรัมป์เปิดทำเนียบขาวต้อนรับนายกรัฐมนตรีเวียดนามวันนี้

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน 2560 00:46:49 น.

นายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้เดินทางถึงสหรัฐเมื่อวานนี้ และได้พบปะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ทำเนียบขาวในวันนี้

 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามนับเป็นผู้นำคนแรกของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่ได้เข้าพบปธน.ทรัมป์ หลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค.

 

นายเหวียน ซวน ฟุก กล่าวว่า ในการเยือนสหรัฐครั้งนี้ เขาได้ลงนามข้อตกลงซื้อสินค้าและบริการของสหรัฐวงเงินราว 1.5-1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าด้านเทคโนโลยี และบริการต่างๆ

 

 

 

นายโรเบิร์ต ไลท์ไทเซอร์ ซึ่งเป็นผู้แทนการค้าสหรัฐ แสดงความกังวลต่อการเพิ่มขึ้นของตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐที่มีต่อเวียดนาม ซึ่งเขาหวังว่านายกรัฐมนตรีเวียดนามจะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว

 

ประเด็นการค้านับเป็นสิ่งที่บั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและเวียดนาม แม้ทั้ง 2 ฝ่ายเพิ่มความร่วมมือด้านความมั่นคง หลังจากที่จีนได้อ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้

 

ทางด้านบริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) แถลงในวันนี้ว่า ทางบริษัทได้ลงนามกับภาคธุรกิจเวียดนามในข้อตกลงมูลค่า 5.58 พันล้านดอลลาร์ สำหรับการผลิตพลังงานไฟฟ้า, เครื่องยนต์ไอพ่น และบริการต่างๆ

 

ข้อตกลงดังกล่าวนับเป็นข้อตกลงฉบับเดียวที่มีวงเงินมากที่สุดของ GE ที่ทำไว้กับภาคธุรกิจเวียดนาม

 

ทั้งนี้ ข้อตกลงกับบริษัทเวียดเจ็ท เอวิเอชั่น ได้รวมถึงการผลิตเครื่องยนต์ไอพ่น 20 เครื่อง ซึ่งผลิตโดยบริษัทซีเอฟเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง GE และบริษัทซาฟรอง เอสเอ ของฝรั่งเศส นอกจากนี้ ยังรวมถึงสัญญาการให้บริการด้านเครื่องยนต์เป็นเวลา 12 ปี

 

ข้อตกลงยังรวมถึงการสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานกังหันขนาด 750 เมกะวัตต์ จำนวน 2 แห่ง และการตั้งฟาร์มกังหันลม

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2657372

[ginger 11,058]

<p><span style="font-size:18px;">ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.07 จับตาการเมืองสหรัฐฯ-ปัจจัยน้ำมัน มองกรอบวันนี้ 34.00-34.15

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน 2560 09:17:03 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 34.07 บาท/ดอลลาร์ จากปิด

 

 

 

ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.03/07 บาท/ดอลลาร์

"ล่าสุดเงินบาทขยับอ่อนค่าขึ้นมาอยู่ที่ 34.10 บาท/ดอลลาร์ จากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ปัจจัย

 

ราคาน้ำมันหลังเกิดความกังวลว่าจะบั่นทอนความพยายามในการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)" นัก

 

บริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.00-34.15 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.91 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 110.90 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1243 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1180 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.0790 บาท/

 

ดอลลาร์

- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก เตือนภาคเอกชนเร่งพัฒนาระบบป้องกันการคุก

 

คามธุรกิจทางออนไลน์ แนะร่วมมือ ISP รับแบงก์ลดดอกเบี้ยเงินกู้ช่วยลดต้นทุนเอสเอ็มอีหนุนเอกชนลงทุนเพิ่ม

 

- ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) มั่นใจสินเชื่อรายย่อยปล่อยใหม่เติบโตตามเป้าที่ร้อยละ 20 หรือ อยู่ที่

 

24,000 ล้านบาทจากยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ปี 59 ที่ 18,000-19,000 ล้านบาท โดย 5 เดือนที่ผ่านมาธนาคารปล่อยสินเชื่อไปแล้ว

 

9,000 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าสินเชื่อรายย่อยปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยสินเชื่อรายย่อยธนาคารแบ่งเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล

 

ประมาณ 8,000-10,000 ล้านบาท โดยช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาธนาคารปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลไปแล้ว 2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะ

 

เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ จากพอร์ตสินเชื่อคงค้างที่อยู่ 12,000 ล้านบาท

- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เตรียมร่วมมือกับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่จัดตั้งเป็นชมรมธุรกิจท่อง

 

เที่ยวออนไลน์(ประเทศไทย) ประกอบด้วยธุรกิจให้บริการ, แหล่งท่องเที่ยว, สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆกว่า 44 ราย แก้ไขกรณีที่ตลาด

 

นักท่องเที่ยวเดินทางด้วยตัวเอง(เอฟไอที) จากจีนเริ่มมีปัญหาปัญหาจากออนไลน์ทราเวลเอเย่นต์(โอทีเอ) ที่มีการตัดราคาหน้าเว็บ

 

ในราคาต่ำกว่าทุนอย่างเป็นรูปธรรม

- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า การใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทเอกชนญี่ปุ่นในไตรมาส 1 ปรับตัวขึ้น 4.5% เมื่อเทียบเป็น

 

รายปี ตัวเลขการลงทุนของบริษัทเอกชนญี่ปุ่นจะมีผลต่อการทบทวนตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 1 โดย

 

<span style="color: rgb(0, 0, 0); font-family: Thonburi, Tahoma, sans-serif;">รัฐบาลญี่ปุ่นจะเปิดเผยจีดีพีปร%

[ginger 11,058]

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.07 จับตาการเมืองสหรัฐฯ-ปัจจัยน้ำมัน มองกรอบวันนี้ 34.00-34.15

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน 2560 09:17:03 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 34.07 บาท/ดอลลาร์ จากปิด

 

 

 

ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.03/07 บาท/ดอลลาร์

"ล่าสุดเงินบาทขยับอ่อนค่าขึ้นมาอยู่ที่ 34.10 บาท/ดอลลาร์ จากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ปัจจัย

 

ราคาน้ำมันหลังเกิดความกังวลว่าจะบั่นทอนความพยายามในการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)" นัก

 

บริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.00-34.15 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.91 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 110.90 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1243 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1180 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.0790 บาท/

 

ดอลลาร์

- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก เตือนภาคเอกชนเร่งพัฒนาระบบป้องกันการคุก

 

คามธุรกิจทางออนไลน์ แนะร่วมมือ ISP รับแบงก์ลดดอกเบี้ยเงินกู้ช่วยลดต้นทุนเอสเอ็มอีหนุนเอกชนลงทุนเพิ่ม

 

- ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) มั่นใจสินเชื่อรายย่อยปล่อยใหม่เติบโตตามเป้าที่ร้อยละ 20 หรือ อยู่ที่

 

24,000 ล้านบาทจากยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ปี 59 ที่ 18,000-19,000 ล้านบาท โดย 5 เดือนที่ผ่านมาธนาคารปล่อยสินเชื่อไปแล้ว

 

9,000 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าสินเชื่อรายย่อยปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยสินเชื่อรายย่อยธนาคารแบ่งเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล

 

ประมาณ 8,000-10,000 ล้านบาท โดยช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาธนาคารปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลไปแล้ว 2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะ

 

เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ จากพอร์ตสินเชื่อคงค้างที่อยู่ 12,000 ล้านบาท

- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เตรียมร่วมมือกับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่จัดตั้งเป็นชมรมธุรกิจท่อง

 

เที่ยวออนไลน์(ประเทศไทย) ประกอบด้วยธุรกิจให้บริการ, แหล่งท่องเที่ยว, สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆกว่า 44 ราย แก้ไขกรณีที่ตลาด

 

นักท่องเที่ยวเดินทางด้วยตัวเอง(เอฟไอที) จากจีนเริ่มมีปัญหาปัญหาจากออนไลน์ทราเวลเอเย่นต์(โอทีเอ) ที่มีการตัดราคาหน้าเว็บ

 

ในราคาต่ำกว่าทุนอย่างเป็นรูปธรรม

- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า การใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทเอกชนญี่ปุ่นในไตรมาส 1 ปรับตัวขึ้น 4.5% เมื่อเทียบเป็น

 

รายปี ตัวเลขการลงทุนของบริษัทเอกชนญี่ปุ่นจะมีผลต่อการทบทวนตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 1 โดย

 

รัฐบาลญี่ปุ่นจะเปิดเผยจีดีพีประจำไตรมาส 1 ในวันที่ 8 มิ.ย.นี้

- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย

 

(pending home sales) ลดลง 1.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่เพิ่มขึ้น และสต็อก

 

บ้านในระดับต่ำ

- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ Beige Book เมื่อวานนี้ โดย

 

ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวปานกลางในช่วงเดือนเม.ย.และพ.ค. ในขณะที่ตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว และแรงกดดัน

 

ด้านราคามีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

เฟดระบุในรายงานว่า "เศรษฐกิจในเขตส่วนใหญ่ยังคงขยายตัวในอัตราพอประมาณหรือปานกลางในช่วงเดือนเม.ย.ถึง

 

เดือนพ.ค. โดยเศรษฐกิจเขตบอสตันและชิคาโกขยายตัวช้าลงสู่ระดับปานกลาง ขณะที่เขตนิวยอร์กอยู่ในภาวะทรงตัวในช่วงเดือนเม.

 

ย.ถึงพ.ค.

ทั้งนี้ การเปิดเผยรายงาน Beige Book มีขึ้นก่อนการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 13-14 มิ.ย. ซึ่งตลาด

 

คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 พ.ค.) จาก

 

ความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ

 

1.1244 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1186 ดอลลาร์ ในขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 110.62 เยน จากระดับ

 

110.76 เยน

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (31 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอก

 

จากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ และตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ ยังกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์

 

ที่ปลอดภัย

- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค.จาก ADP,

 

จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ค.โดยมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิต

 

เดือนพ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนเม.ย.

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะ

 

เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาค

 

เกษตรเดือนพ.ค.จะเพิ่มขึ้นราว 185,000 ตำแหน่ง

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2657598

 

เฟดเผยรายงาน Beige Book ชี้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวปานกลางในเดือนเม.ย.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน 2560 08:19:34 น.

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ Beige Book เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวปานกลางในช่วงเดือนเม.ย.และพ.ค. ในขณะที่ตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว และแรงกดดันด้านราคามีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

 

เฟดระบุในรายงานว่า "เศรษฐกิจในเขตส่วนใหญ่ยังคงขยายตัวในอัตราพอประมาณหรือปานกลางในช่วงเดือนเม.ย.ถึงเดือนพ.ค. โดยเศรษฐกิจเขตบอสตันและชิคาโกขยายตัวช้าลงสู่ระดับปานกลาง ขณะที่เขตนิวยอร์กอยู่ในภาวะทรงตัวในช่วงเดือนเม.ย.ถึงพ.ค.

 

 

 

รายงานระบุว่า บริษัทในเขตส่วนใหญ่มีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจในระยะอันใกล้นี้ อย่างไรก็ตาม มุมมองบวกของบริษัทในบางเขตเริ่มลดน้อยลง

 

ในด้านของตลาดแรงงานนั้น บริษัทหลายแห่งยังคงเกิดภาวะขาดแคลนแรงงาน ขณะที่เขตส่วนใหญ่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในอัตราพอประมาณถึงปานกลาง

 

เฟดระบุว่า ถึงแม้ตลาดแรงงานจะเกิดภาวะตึงตัว แต่อัตราค่าแรงยังคงขยายตัวปานกลาง ขณะที่แรงกดดันด้านราคามีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ราคาบ้านในตลาดหลายแห่งมีการปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากสต็อกบ้านที่รอขายอยู่ในระดับต่ำ

 

ทั้งนี้ การเปิดเผยรายงาน Beige Book มีขึ้นก่อนการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 13-14 มิ.ย. ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2657577

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวด์แต่ยังได้ไม่มาก-มีโอกาสลงได้ต่อ หลังไร้ปัจจัยบวกทั้งใน-นอกปท.

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน 2560 09:23:55 น.

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ไม่สามารถผ่านแนว 1,575 จุดไปได้ ทำให้มีการหักหัวลงมา ดังนั้นในวันนี้ตลาดฯก็ยังมีโอกาสที่จะลุ้นรีบาวด์ขึ้นได้แต่อาจจะไม่มาก และยังมีโอกาสปรับตัวลงได้ต่ออีก เนื่องจากตลาดฯยังไม่ได้มีปัจจัยอะไรเข้ามากระตุ้น

 

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยปัจจัยนอกประเทศก็ไม่ได้มีอะไร ดังนั้นจึงต้องหันไปดูตัวเลขเศรษฐกิจทั้งในยุโรป และสหรัฐฯ โดยให้รอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้ และรอดูการเลือกตั้งของอังกฤษในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ด้วย

 

อย่างไรก็ดี ภาพรวมของตลาดฯคงจะเป็นลักษณะแกว่งในกรอบ โดยให้แนวรับ 1,557-1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570 จุด

 

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2657602

[ginger 11,058]

<p><span style="font-size: 18px;">ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.07 จับตาการเมืองสหรัฐฯ-ปัจจัยน้ำมัน มองกรอบวันนี้ 34.00-34.15

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน 2560 09:17:03 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 34.07 บาท/ดอลลาร์ จากปิด

 

 

 

ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.03/07 บาท/ดอลลาร์

"ล่าสุดเงินบาทขยับอ่อนค่าขึ้นมาอยู่ที่ 34.10 บาท/ดอลลาร์ จากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ปัจจัย

 

ราคาน้ำมันหลังเกิดความกังวลว่าจะบั่นทอนความพยายามในการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)" นัก

 

บริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.00-34.15 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.91 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 110.90 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1243 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1180 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.0790 บาท/

 

ดอลลาร์

- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก เตือนภาคเอกชนเร่งพัฒนาระบบป้องกันการคุก

 

คามธุรกิจทางออนไลน์ แนะร่วมมือ ISP รับแบงก์ลดดอกเบี้ยเงินกู้ช่วยลดต้นทุนเอสเอ็มอีหนุนเอกชนลงทุนเพิ่ม

 

- ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) มั่นใจสินเชื่อรายย่อยปล่อยใหม่เติบโตตามเป้าที่ร้อยละ 20 หรือ อยู่ที่

 

24,000 ล้านบาทจากยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ปี 59 ที่ 18,000-19,000 ล้านบาท โดย 5 เดือนที่ผ่านมาธนาคารปล่อยสินเชื่อไปแล้ว

 

9,000 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าสินเชื่อรายย่อยปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยสินเชื่อรายย่อยธนาคารแบ่งเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล

 

ประมาณ 8,000-10,000 ล้านบาท โดยช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาธนาคารปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลไปแล้ว 2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะ

 

เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ จากพอร์ตสินเชื่อคงค้างที่อยู่ 12,000 ล้านบาท

- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เตรียมร่วมมือกับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่จัดตั้งเป็นชมรมธุรกิจท่อง

 

เที่ยวออนไลน์(ประเทศไทย) ประกอบด้วยธุรกิจให้บริการ, แหล่งท่องเที่ยว, สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆกว่า 44 ราย แก้ไขกรณีที่ตลาด

 

นักท่องเที่ยวเดินทางด้วยตัวเอง(เอฟไอที) จากจีนเริ่มมีปัญหาปัญหาจากออนไลน์ทราเวลเอเย่นต์(โอทีเอ) ที่มีการตัดราคาหน้าเว็บ

 

ในราคาต่ำกว่าทุนอย่างเป็นรูปธรรม

- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า การใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทเอกชนญี่ปุ่นในไตรมาส 1 ปรับตัวขึ้น 4.5% เมื่อเทียบเป็น

[ginger 11,058]

ศาลพิพากษาให้เครื่องดื่ม เอส จ่ายกว่า 2 ล.พบกระบวนการผลิตสินค้าไม่ปลอดภัย

ศาลแพ่งพิพากษาให้เครื่องดื่มน้ำอัดลม เอส จ่ายกว่า 2 ล้านหลังพิสูจน์พบกระบวนการผลิ ตสินค้าไม่ปลอดภัย ผู้บริโภคเสนอให้เยียวยาผู้บริโภคทันทีจะเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการ

 

ISRANEWS.ORG|BY สำนักข่าวอิศรา

 

Ylg Bullion

1075 เบื้องลึก !! วางบึ้มไปป์บอมบ์กลางกทม.

ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบภาคบ่าย นลท.จับตาข้อมูลจ้างงานสหรัฐ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน 2560 11:51:59 น.

ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ ในขณะที่ตลาดหุ้นจีนอ่อนตัวลงภายหลังจากที่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ

 

 

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 31,117.09 จุด ลดลง 28.71 จุด, -0.09% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 25,749.34 จุด เพิ่มขึ้น 88.69 จุด, +0.35% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,763.54 จุด ลดลง 2.33 จุด, -0.13%

 

ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน ปรับตัวลงสู่ระดับ 49.6 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 50.3 ในเดือนเม.ย.

 

ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ค.ดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน และอยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 50.1

 

รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า การใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทเอกชนญี่ปุ่นในไตรมาส 1 ปรับตัวขึ้น 4.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ตัวเลขการลงทุนของบริษัทเอกชนญี่ปุ่นจะมีผลต่อการทบทวนตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 1 โดยรัฐบาลญี่ปุ่นจะเปิดเผยจีดีพีประจำไตรมาส 1 ในวันที่ 8 มิ.ย.นี้

 

กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานเกาหลีใต้ รายงานว่า ยอดส่งออกเดือนพ.ค. ปรับตัวขึ้น 13.4% เทียบรายปี สู่ระดับ 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7

 

ในขณะที่ยอดการนำเข้าเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 18.2% เทียบรายปี สู่ระดับ 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เกาหลีใต้มียอดเกินดุลการค้า 6 พันล้านดอลลาร์

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญ เพิ่มขึ้น 2% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากผลิตภัณฑ์น้ำมันและสินค้าเกษตรมีราคาแพงขึ้น

 

นายจอห์น ซี วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมที่กรุงโซล ซึ่งจัดขึ้นโดยธนาคารกลางเกาหลีใต้ โดยระบุว่า เขาคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีนี้ แต่ก็มีแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้ง หากเศรษฐกิจมีการขยายตัวที่แข็งแกร่งเกินคาด

 

ทั้งนี้ นายวิลเลียมส์ได้เน้นย้ำมุมมองที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ดีมาก แม้ตัวเลขเงินเฟ้อปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหายของเฟดที่ 2% ซึ่งถือเป็นความท้าทายสำหรับนโยบายการเงินของเฟด

 

นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันศุกร์นี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.จะเพิ่มขึ้นราว 185,000 ตำแหน่ง

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2657727

 

[ginger 11,058]

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

ฉลอง250ปีกรุงธน เทิดตากสินมหาราช

 

THAIPOST.NET

 

สวัสดีวันศุกร์ ตกเฟดขึ้นดอกเบี้ยหลังจ้างงานภาคเอกชนพุ่งเกินคาด ดอลล์แข็ง โชคดี สบายใจวันหยุดนะจ๊ะ

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ $5.3 วิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ยหลังจ้างงานภาคเอกชนพุ่งเกินคาด

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 มิ.ย. 60)--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) รายงานว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า และเพิ่มน้ำหนักให้กับกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 5.3 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ระดับ 1,270.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 12.5 เซนต์ หรือ 0.72% ปิดที่ 17.281 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 21.3 ดอลลาร์ หรือ 2.24% ปิดที่ 929 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 7.15 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 823.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.นี้ หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 253,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 174,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังลดการถือครองทองคำหลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อันเนื่องมาจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. รวมทั้งรายงานของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.9 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 54.8 ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 54.5

นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนพ.ค.ในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.จะเพิ่มขึ้นราว 185,000 ตำแหน่ง

ด้านซิตี้กรุ๊ปได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ สู่ระดับ 175,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. จากเดิมที่คาดการณ์ที่ระดับ 165,000 ตำแหน่ง โดยการคาดการณ์ดังกล่าวของซิตี้กรุ๊ปมีขึ้นหลังจาก ADP เปิดเผยตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นเกินคาดเมื่อวานนี้

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 2 มิถุนายน 2560 07:29:48 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 มิ.ย..2560

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) โดยดาวโจนส์ รวมทั้งดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) รายงานว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,144.18 จุด พุ่งขึ้น 135.53 จุด หรือ +0.65% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,430.06 จุด เพิ่มขึ้น 18.26 จุด หรือ +0.76% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,246.83 จุด เพิ่มขึ้น 48.31 จุด หรือ +0.78%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) หลังจากไอเอชเอส มาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรขยายตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและรถยนต์

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.4% ปิดที่ 391.66 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,664.92 จุด เพิ่มขึ้น 49.86 จุด หรือ +0.40% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,318.67 จุด เพิ่มขึ้น 35.04 จุด หรือ +0.66% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,543.77 จุด เพิ่มขึ้น 23.82 จุด หรือ +0.32%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) หลังจากปิดในแดนลบติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ โดยตลาดได้ปัจจัยหนุนจากการที่สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ สืบเนื่องจากโพลล์สำรวจล่าสุดในอังกฤษบ่งชี้ว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ มีคะแนนนำพรรคคู่แข่งน้อยลง ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนสูงในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 23.82 จุด หรือ +0.32% ปิดที่ 7,543.77 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ตัดสินใจนำสหรัฐถอนตัวออกจาก "ความตกลงปารีสว่าด้วยปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ"

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ขยับขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 48.36 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 13 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 50.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) รายงานว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า และเพิ่มน้ำหนักให้กับกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 5.3 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ระดับ 1,270.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 12.5 เซนต์ หรือ 0.72% ปิดที่ 17.281 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 21.3 ดอลลาร์ หรือ 2.24% ปิดที่ 929 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 7.15 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 823.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) ด้วยปัจจัยหนุนจากตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐมากขึ้น

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.43 เยน จากระดับ 110.62 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9715 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9675 ฟรังก์สวิส

 

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1212 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1244 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2883 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2890 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7379 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7432 ดอลลาร์

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,246.83 จุด เพิ่มขึ้น 48.31 จุด, +0.78%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 21,144.18 จุด เพิ่มขึ้น 135.53 จุด, +0.65%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,430.06 จุด เพิ่มขึ้น 18.26 จุด, +0.76%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,664.92 จุด เพิ่มขึ้น 49.86 จุด, +0.40%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,318.67 จุด เพิ่มขึ้น 35.04 จุด, +0.66%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,543.77 จุด เพิ่มขึ้น 23.82 จุด, +0.32%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 31,137.59 จุด ลดลง 8.21 จุด, -0.03%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,235.96 จุด เพิ่มขึ้น 25.14 จุด, +0.78%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,763.11 จุด ลดลง 2.76 จุด, -0.16%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 25,809.22 จุด เพิ่มขึ้น 148.57 จุด, +0.58%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 741.80 จุด เพิ่มขึ้น 3.98 จุด, +0.54%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,927.49 จุด เพิ่มขึ้น 90.37 จุด, +1.15%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,102.62 จุด ลดลง 14.56 จุด, -0.47%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,344.61 จุด ลดลง 2.77 จุด, -0.12%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,738.10 จุด เพิ่มขึ้น 13.50 จุด, +0.24%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,772.50 จุด เพิ่มขึ้น 11.20 จุด, +0.19%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,087.42 จุด เพิ่มขึ้น 46.70 จุด, +0.47%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,860.03 จุด เพิ่มขึ้น 209.46 จุด, +1.07%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2658022

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเทียบเงินสกุลหลัก รับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 2 มิถุนายน 2560 06:54:26 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) ด้วยปัจจัยหนุนจากตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐมากขึ้น

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.43 เยน จากระดับ 110.62 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9715 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9675 ฟรังก์สวิส

 

 

 

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1212 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1244 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2883 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2890 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7379 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7432 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนให้แข็งค่าขึ้น หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 253,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 174,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.

 

ทั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้ และครั้งที่ 6 ในรอบ 7 เดือนที่ตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนพุ่งขึ้นเหนือระดับ 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนมีค่าเฉลี่ยต่อเดือนที่ระดับ 211,000 ตำแหน่ง

 

นักวิเคราะห์จากเฟิร์สท์ สแตนดาร์ดไฟแนนเชียลกล่าวว่า ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์นั้น สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค. ซึ่งรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้ โดยมีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน

 

ทางด้านซิตี้กรุ๊ปได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ สู่ระดับ 175,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. จากเดิมที่คาดการณ์ที่ระดับ 165,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะยังคงทรงตัวที่ระดับ 4.4% โดยการคาดการณ์ดังกล่าวของซิตี้กรุ๊ปมีขึ้นหลังจาก ADP เปิดเผยตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นเกินคาดเมื่อวานนี้

 

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้น 13,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 248,000 ราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 239,000 ราย

 

อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 117 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970

 

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขจ้างงานจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค. และดุลการค้าเดือนเม.ย.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2658002

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 135.53 จุด รับตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐสูงเกินคาด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 2 มิถุนายน 2560 06:36:12 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) โดยดาวโจนส์ รวมทั้งดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) รายงานว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,144.18 จุด พุ่งขึ้น 135.53 จุด หรือ +0.65% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,430.06 จุด เพิ่มขึ้น 18.26 จุด หรือ +0.76% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,246.83 จุด เพิ่มขึ้น 48.31 จุด หรือ +0.78%

 

ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีของตลาดหุ้นนิวยอร์กทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 253,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 174,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.

 

ทั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้ และครั้งที่ 6 ในรอบ 7 เดือนที่ตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนพุ่งขึ้นเหนือระดับ 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนมีค่าเฉลี่ยต่อเดือนที่ระดับ 211,000 ตำแหน่ง

 

นักวิเคราะห์จากเฟิร์สท์ สแตนดาร์ดไฟแนนเชียลกล่าวว่า ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์นั้น สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนตลาดพุ่งขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค.ซึ่งรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้ โดยมีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน

 

ทางด้านซิตี้กรุ๊ปได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ สู่ระดับ 175,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. จากเดิมที่คาดการณ์ที่ระดับ 165,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะยังคงทรงตัวที่ระดับ 4.4% โดยการคาดการณ์ดังกล่าวของซิตี้กรุ๊ปมีขึ้นหลังจาก ADP เปิดเผยตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นเกินคาดเมื่อวานนี้

 

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.9 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 54.8 ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 54.5 โดยดัชนีภาคการผลิตขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 96

 

หุ้นเดียร์ ซึ่งเป็นบริษัทด้านการเกษตรและการก่อสร้างรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 1.8% หลังจากประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัทเวิร์ทเจน กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างถนนของเยอรมนี ในวงเงิน 5.2 พันล้านดอลลาร์

 

หุ้นกลุ่มรถยนต์ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นฟอร์ด มอเตอร์ พุ่งขึ้น 2.6% ขณะที่หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ พุ่งขึ้น 1.5%

 

หุ้นพาโล อัลโต เน็ทเวิร์คส์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการความปลอดภัยด้านไซเบอร์ ทะยานขึ้น 17% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาสแรก

 

อย่างไรก็ตาม หุ้นฮิวเล็ต แพคการ์ด ร่วงลง 6.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอลงในไตรมาสแรก

 

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขจ้างงานจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค. และดุลการค้าเดือนเม.ย.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2657997

[ginger 11,058]

มองแนวโน้มทองเป็นลบ ตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาดีน่าจะกดดันราคาทองอย่างน้อยก็ในช่วงก่อนรายงานตัวเลข Non-Farm ในกรณีที่ตัวเลขคืนนี้ดีต่อเนื่องต้องระวังราคาทองเปลี่ยนกรอบลงไป

สำหรับทรงราคาถ้าลงต่ำกว่าเส้นแดงนี้ลงไปจะมีเป้าเบื้องต้นบริเวณ 1247 1252 ในขณะที่ถ้าสถานการณ์เปลีย่นเป็นนักลงทุนระวังเฟดมาก หรือมากกว่าในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทองจะกลับตัวลงสู่แนวราคาหลัก 1200 และ 1220 - 1230

แต่ถ้าคืนนี้ตัวเลขไม่ดี โดยเฉพาะน้อยกว่าแสนตำแหน่งสถานการณ์น่าจะยังไม่เปลี่ยนและกลยุทธ์จะยังเป็นการเทรดดิ้งในกรอบแคบต่อไป ประเด็นจึงอยู่ที่คืนนี้ ให้คอยติดตาม

2 June, 2017

www.facebook.com/Wealthstation

 

HSHsocial

 

Ausiris Group

[ginger 11,058]

เงินหยวนแข็งค่าแตะ 6.807 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 2 มิถุนายน 2560 09:09:00 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.20% แตะที่6.807 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐในวันนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่าในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

 

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2658213

[ginger 11,058]

เชิญชวนชาวไทยร่วมพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๐ เวลา ๑๖.๐๐ น. ณ พระลานพระราชวังดุสิต

 

ครั้งนี้ในหลวงทรงพระราชทานเบาะสวดมนต์สำหรับการนั่งราบ และบทสวดมนต์ฉบับใหม่เพิ่มเนื้อหาบทสวดมนต์ ๓๗บท

 

ประชาชนสามารถรับหนังสือได้ในวันสวดหรือดาวน์โหลดบทสวดมนต์ได้จากเว็บไซต์กรมประชาสัมพันธ์www.prd.go.th หรือ http://www.prd.go.th/download/article/article_20170602094510.pdf

 

พร้อมรับชมรับฟังการถ่ายทอดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT2 HD สถานีโทรทัศน์ช่อง ๑๔ MCOT Family สถานีโทรทัศน์ช่อง TGN และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

 

นอกจากนี้บริเวณสวนอัมพรมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพ ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เริ่มตั้งแต่วันที่ ๘ มิ.ย เวลา ๑๐.๐๐- ๒๐.๐๐ ส่วนวันหยุดตั้งแต่เวลา ๑๐.๐๐-๒๒.๐๐ น

 

#informationcenterforkingrama9

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

[ginger 11,058]

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

Ausiris Group

 

 

HSHsocial

ข่าวเศรษฐกิจทีส่งผลต่อราคาทองคำและหุ้น 05/มิ.ย./2560

ข่าวเศรษฐกิจทีส่งผลต่อราคาทองคำและหุ้น 05/มิ.ย./2560

AUSIRIS.CO.TH

 

[ginger 11,058]

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.04 ตลาดจับตาธปท.แถลงปฏิรูปเกณฑ์แลกเปลี่ยนเงิน มองกรอบวันนี้ 34-34.15

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2560 09:22:22 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.04 บาท/ดอลลาร์ แข็ง

 

ค่าจากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.16 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทแข็งค่าไปค่อนข้างมากจากเมื่อเย็นวันศุกร์ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง หลังจากตัวเลขการจ้างงาน

 

นอกภาคเกษตร (Nonfarm Payroll) ของสหรัฐฯในเดือนพ.ค. ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งทำให้ตลาดเริ่มไม่มั่นใจต่อ

 

 

 

การตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนนี้

"ตัวเลข Nonfarm เดือนพ.ค.ออกมาแย่กว่าที่คาด อีกทั้งมีการปรับตัวเลขเดือนเม.ย.ลงไปอีก จึงทำให้ดอลลาร์สหรัฐ

 

อ่อนค่าลง ตอนนี้ทำให้ตลาดเริ่มไม่มั่นใจถึงความสามารถที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในครั้งหน้า" นักบริหารเงิน ระบุ

 

อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่ต้องจับตาวันนี้ คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะแถลงข่าวเรื่องการปฏิรูปกฎเกณฑ์การแลก

 

เปลี่ยนเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกภาคเอกชนในการทำธุรกิจ ซึ่งต้องติดตามว่า ธปท.จะมีการออกมาพูดเรื่องการดูแลค่าเงินในช่วง

 

นี้หรือไม่ หากมีพูดถึงก็อาจช่วยทำให้ดอลลาร์ไม่แข็งค่าไปมากกว่านี้ได้ และแนวรับที่ 34.00 บาท/ดอลลาร์ จะยังเป็นแนวรับที่เหนียว

 

แน่นต่อไป

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.00-34.15 บาท/ดอลลาร์

 

* ป้จจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.56 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 111.45 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1268 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1219 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.1860 บาท/

 

ดอลลาร์

- ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงข่าวการปฏิรูปกฎเกณฑ์การแลกเปลี่ยนเงิน เพื่ออำนวยความสะดวก

 

ภาคเอกชนในการทำธุรกิจ (FX regulation reform for ease of doing business)

- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ (5-9 มิ.ย.) ที่ 33.90-34.30 บาท

 

ต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องติดตามกำหนดการแถลงข่าวการปฏิรูปกฎเกณฑ์ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินของธปท. ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ขณะที่

 

ประเด็นสำคัญจากฝั่งสหรัฐฯ น่าจะอยู่ที่ประเด็นการเมืองภายใน และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ดัชนี PMI ภาคบริการ

 

เดือนพ.ค. ยอดสั่งซื้อของโรงงานและสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนเม.ย. นอกจากนี้ ตลาดน่าจะรอติดตามการเลือกตั้งในอังกฤษ ผล

 

การประชุม ECB และตัวเลขเศรษฐกิจจีนด้วยเช่นกัน

- กรมสรรพากรเร่งยกร่างกฎหมายภาษี e-Business จากธุรกิจออนไลน์ มั่นใจพร้อมส่งให้กระทรวงการคลังพิจารณา

 

ภายในเดือน มิ.ย.นี้ เปิดอำนาจให้สรรพากรเก็บภาษีจากผู้ประกอบการที่ไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในไทยได้หากเว็บไซต์มีข้อความ

 

ภาษาไทยและมีการซื้อขายสินค้าและบริการในไทย

- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นำทีม รมต.เศรษฐกิจประชุมร่วมญี่ปุ่น ลงนามความร่วมมือ 7 ฉบับ

 

พบปะเอกชนเชิญร่วมลงทุนเมกะโปรเจ็กต์รัฐบาล ก.ท่องเที่ยวตั้งเป้าโกยรายได้ 2.7 ล้านล้านบาท ปี 60

 

- ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) คงคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2560 ที่ระดับ 2.7% และคงคาดการณ์

 

เศรษฐกิจโลกในปี 2561 ที่ระดับ 2.9% โดยระบุว่า การค้าและภาคการผลิตทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ

 

ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน

- กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 138,000 ตำแหน่งในเดือนพ.

 

ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 174,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.3% จากระดับ 4.4% ในเดือนเม.

 

ย.

- ด้านนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่า

 

อัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.4% นักวิเคราะห์จากเฟดเดอรัล อินชัวร์ เครดิต ยูเนียนส์ ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า แม้ตัว

 

เลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ออกมาน้อยกว่าคาดการณ์ แต่ตลาดแรงงานของสหรัฐในขณะนี้ยังคงแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้

 

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้

 

- นายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ซึ่งเป็นกรรมการเฟดที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงในคณะกรรมการ

 

กำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในปีนี้ กล่าวว่า เฟดยังคงมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ในช่วงสิ้นปีนี้ และเขา

 

สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้

- นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน

 

นี้ แม้ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ก็ตาม

 

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวัน

 

ศุกร์ (2 มิ.ย.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการ

 

คาดการณ์ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนเม.ย.

 

โดยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 110.48 เยน จากระดับ 111.43 เยน ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ

 

1.1277 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1212 ดอลลาร์

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (2 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอก

 

จากนี้ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ยังได้ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็น

 

สินทรัพย์ที่ปลอดภัย

- นักลงทุนจับตาสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐซึ่งจะลงมติกฎหมายปฎิรูปการเงินในสัปดาห์หน้า โดยนายเควิน แมคคาร์ธี ผู้นำ

 

เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า กฎหมายดังกล่าวจะมีการยกเลิกเนื้อหาส่วนใหญ่ในกฎหมายดอดด์-แฟรงค์ปี 2010

 

ทั้งนี้ คาดว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากนั้น จะให้การอนุมัติต่อร่างกฎหมายดังกล่าว แต่

 

ก็คาดว่าร่างกฎหมายนี้จะเผชิญภาวะไม่แน่นอนในวุฒิสภา ซึ่งสมาชิกพรรคเดโมแครตแสดงท่าทีคัดค้าน ขณะที่พรรครีพับลิกันจำเป็นต้อง

 

ได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคเดโมแครต

- นายเฉิน ยูลู่ ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารกลางจีนเปิดเผยในวันนี้ ธนาคารกลางจีนจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบ

 

เป็นกลาง (neutral monetary policy) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า สภาพคล่องในตลาดการเงินยังคงมีเสถียรภาพและสอดคล้อง

 

กับปัจจัยพื้นฐาน

รายงานข่าว ระบุว่า ธนาคารกลางจีนได้เพิ่มการดำเนินการทางตลาดเงิน (Open Market Operations) หรือ

 

OMO ผ่านทางข้อตกลงซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo) เพื่ออัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาด แทนการปรับลดอัตรา

 

ดอกเบี้ย หรือปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) โดย reverse repo เป็นกระบวนการที่ธนาคารกลางจีนเข้า

 

ซื้อหลักทรัพย์จากธนาคารพาณิชย์ด้วยข้อตกลงที่จะขายคืนในอนาคต ซึ่งมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายสภาพคล่องในตลาด

 

- นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ผู้นำอังกฤษ ยืนยันกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป 8 มิถุนายน แม้เกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุโจมตี

 

ในกรุงลอนดอนเมื่อวานนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 48 คน

 

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2659095

 

เงินปอนด์ร่วงหลังเกิดเหตุโจมตีกรุงลอนดอน ก่อนอังกฤษจัดการเลือกตั้งทั่วไปวันพฤหัสบดีนี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2560 09:04:23 น.

เงินปอนด์อ่อนค่าลงหลังจากที่เกิดเหตุโจมตีขึ้นในกรุงลอนดอนใกล้สะพานลอนดอนบริดจ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนที่การเลือกตั้งทั่วของอังกฤษจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 8 มิ.ย.นี้

 

ทั้งนี้ เงินปอนด์ร่วงลง 0.3% เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ ในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียช่วงเช้านี้

 

นักลงทุนต่างจับตาดูผลสำรวจการเลือกตั้งวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากที่เกิดเหตุโจมตีในใจกลางกรุงลอนดอนเมื่อวันเสาร์ โดยคนร้ายได้ขับรถแวนพุ่งเข้าใส่ฝูงชนและไล่แทงประชาชนบริเวณสะพานลอนดอนบริดจ์ และตลาดโบโรห์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิสามัญผู้ก่อเหตุจำนวน 3 คนขณะทำการไล่ล่า

 

ทางด้านกลุ่ม IS ได้ออกมาอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คน และบาดเจ็บ 48 คน โดยในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 21 คน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จิตวัฒน์ วิจิตรถาวร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq28/2659085

 

(เพิ่มเติม) เวิลด์แบงก์คงคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้ที่ 2.7% ชี้การค้า-ภาคการผลิตเริ่มฟื้นตัว

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2560 07:17:46 น.

ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) คงคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2560 ที่ระดับ 2.7% และคงคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2561 ที่ระดับ 2.9% โดยระบุว่า การค้าและภาคการผลิตทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน

 

 

 

ธนาคารโลกเปิดเผยการคาดการณ์ดังกล่าวในรายงาน "Global Economic Prospects (GEP)" โดยระบุว่า การค้าทั่วโลกมีแนวโน้มขยายตัวราว 4% ในปีนี้ หลังจากที่ขยายตัวเพียง 2.5% ในปีที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของอุปสงค์การนำเข้าสินค้าจากกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว รวมทั้งการหมุนเวียนทางการค้าที่สูงขึ้นของจีนทั้งในด้านขาเข้าและขาออก และการฟื้นตัวของอุปสงค์จากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์

 

อย่างไรก็ตาม ธนาคารโลกเตือนว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังคงมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง จากการที่หลายประเทศหันมาดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้า และความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจ โดยรายงานดังกล่าวอ้างอิงถึงนโยบาย "America First" ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

 

ทั้งนี้ ธนาคารโลกคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2.1% ในปี 2560 ซึ่งแม้ว่าลดลง 0.1% จากการคาดการณ์เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา แต่ก็ขยายตัวแข็งแกร่งกว่าปี 2559 ที่ระดับ 1.6% ส่วนในปี 2561 คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2.2% เพิ่มขึ้น 0.1% จากการคาดการณ์เมื่อเดือนม.ค. และในปี 2562 คาดว่าจะขยายตัว 1.9% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการคาดการณ์ในเดือนม.ค.

 

ขณะที่เศรษฐกิจยูโรโซนคาดว่าจะมีการขยายตัว 1.7% ในปี 2560 และ 1.5% ในปี 2561 ส่วนในปี 2562 คาดว่าจะขยายตัว 1.5% เช่นกัน โดยคาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะได้ปัจจัยหนุนจากการขยายตัวของการส่งออกและกิจกรรมการผลิต

 

ด้านเศรษฐกิจจีนคาดว่าจะขยายตัว 6.5% ในปี 2560 ส่วนในปี 2561 และ 2562 คาดว่าจะขยายตัวในอัตราเดียวกันคือ 6.3% โดยลดลงจากปี 2559 ที่มีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง 6.7%

 

ธนาคารโลกคาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัว 1.5% ในปี 2560 ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.6% จากการคาดการณ์เมื่อเดือนม.ค. เนื่องจากการส่งออกที่ปรับตัวสูงขึ้น และจากการใช้จ่ายด้านทุนที่เพิ่มขึ้นในระหว่างการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน "2020 Tokyo Olympics"

 

นอกจากนี้ ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วจะขยายตัว 1.9% ในปี 2560 แต่จะขยายตัวเพียง 1.8% ในปี 2561 และขยายตัว 1.7% ในปี 2562

 

ส่วนเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา คาดว่าจะขยายตัว 4.1% ในปี 2560 ก่อนที่จะขยายตัวอย่างรวดเร็วขึ้นสู่ระดับ 4.5% ในปี 2561 และ 4.7% ในปี 2562

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2658880

ถูกแก้ไข มิถุนายน 5, 2017 โดย ginger

[ginger 11,058]

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

NOW26

 

 

NOW26

 

Xinhua world news summary: IS อ้างเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีกรุงลอนดอน มีผู้เสียชีวิต 7 คน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2560 09:30:00 น.

กลุ่ม IS ได้ออกมาอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีกรุงลอนดอนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คน และบาดเจ็บ 48 คน โดยในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 21 คน

 

สำนักข่าวบีบีซีรายงานบนเว็บไซต์ว่า สำนักข่าว Amaq ของกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ได้เผยแพร่ข่าวสารผ่านแอพพลิเคชั่นเทเลแกรมของทางกลุ่ม โดยระบุว่า สมาชิกกลุ่ม IS เป็นผู้ลงมือก่อเหตุโจมตีกรุงลอนดอนเมื่อวันเสาร์ นอกจากนี้ ข้อความที่ถูกส่งออกไปทางแอพพลิเคชั่นดังกล่าวยังมีการเรียกร้องให้บรรดาสมาชิกออกมาก่อเหตุโจมตีในช่วงเดือนรอมาฎอน ซึ่งรวมถึงการขับรถพุ่งเข้าใส่ฝูงชน

 

 

 

-- นายฌอง อีฟ เลอ ดริออง รัฐมนตรีฝ่ายกิจการยุโรปของฝรั่งเศส เปิดเผยว่า มีชาวฝรั่งเศส 1 คนเสียชีวิตจากเหตุการณ์โจมตีกรุงลอนดอนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

 

"เหตุการณ์โจมตีกรุงลอนดอนครั้งนี้ส่งผลให้ชาวฝรั่งเศสเสียชีวิต 1 คน และมีผู้บาดเจ็บ 7 คนซึ่งได้รับการส่งตัวไปยังโรงพยาบาลแล้ว โดยในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 4 คน และยังมีชาวฝรั่งเศสอีก 1 คนที่สูญหาย" นายฌองกล่าว

 

-- อาเรียนา แกรนเด นักร้องเพลงป๊อปชาวอเมริกันชื่อดัง ได้จัดคอนเสิร์ตการกุศลเพื่อหารายได้สมทบทุนช่วยเหลือเหยื่อในเหตุระเบิดที่เมืองแมนเชสเตอร์เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

คอนเสิร์ต "One Love Manchester" ถูกจัดขึ้นที่สนามคริกเก็ตโอลด์แทรฟฟอร์ดวานนี้ เพื่อหารายได้สมทบทุนช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 22 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 116 ราย หลังเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่แมนเชสเตอร์ อารีนา ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงทัวร์คอนเสิร์ต "Dangerous Woman Tour" ของอาเรียนา แกรนเด เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา

 

-- ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศว่า อังกฤษจะจัดพิธีไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีกรุงลอนดอนในวันพรุ่งนี้ โดยชาวอังกฤษจะร่วมยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาที ในเวลา 11.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย มลฑา ชัยธำรงค์กูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2659100