ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2664130

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 มิถุนายน 2560 07:39:29 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 มิ.ย. 2560

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) โดยดัชนีดาวโจนส์ และ S&P500 ปิดตลาดทำนิวไฮ เพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากที่หุ้นกลุ่มดังกล่าวร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,328.47 จุด เพิ่มขึ้น 92.80 จุด หรือ +0.44% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,440.35 จุด เพิ่มขึ้น 10.96 จุด หรือ +0.45% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,220.37 จุด เพิ่มขึ้น 44.90 จุด หรือ +0.73%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งส่งผลให้เงินปอนด์ทะยานขึ้น โดยการแข็งค่าของเงินปอนด์ส่งผลให้ตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกำไรของบริษัทอังกฤษที่เข้าไปดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,500.44 จุด ลดลง 11.43 จุด หรือ -0.15%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) เนื่องจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขายในตลาดให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.6% ปิดที่ 388.75 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,764.98 จุด เพิ่มขึ้น 74.54 จุด หรือ +0.59% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,261.74 จุด เพิ่มขึ้น 21.15 จุด หรือ +0.40% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,500.44 จุด ลดลง 11.43 จุด หรือ -0.15%

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ จะปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน จากรายงานที่ว่าการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนพ.ค. แม้สมาชิกกลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงในการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้าก็ตาม

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 46.46 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 48.72 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) โดยสัญญาทองคำปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 30 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,268.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 17.7 เซนต์ หรือ 1.04% ปิดที่ 16.767 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 20.3 ดอลลาร์ หรือ 2.15% ปิดที่ 924.2 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 6.70 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 857.55 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยนักลงทุนรอดูการส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ รวมทั้งการปรับลดงบดุลบัญชีของเฟด ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปี

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.1205 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1200 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2746 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2643 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7539 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7532 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 109.97 เยน จากระดับ 109.83 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9686 ฟรังก์ จากระดับ 0.9689 ฟรังก์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 21,328.47 จุด เพิ่มขึ้น 92.80 จุด, +0.44%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,440.35 จุด เพิ่มขึ้น 10.96 จุด, +0.45%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,220.37 จุด เพิ่มขึ้น 44.90 จุด, +0.73%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,500.44 จุด ลดลง 11.43 จุด, -0.15%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,261.74 จุด เพิ่มขึ้น 21.15 จุด, +0.40%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,764.98 จุด เพิ่มขึ้น 74.54 จุด, +0.59%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 31,103.49 จุด เพิ่มขึ้น 7.79 จุด, +0.03%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,257.52 จุด เพิ่มขึ้น 9.18 จุด, +0.28%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,784.44 จุด ลดลง 4.45 จุด, -0.25%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,707.65 จุด เพิ่มขึ้น 16.21 จุด, +0.28%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 25,852.10 จุด เพิ่มขึ้น 144.06 จุด, +0.56%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,917.89 จุด ลดลง 72.35 จุด, -0.91%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,153.74 จุด เพิ่มขึ้น 13.86 จุด, +0.44%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,374.70 จุด เพิ่มขึ้น 16.83 จุด, +0.71%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,772.80 จุด เพิ่มขึ้น 95.00 จุด, +1.67%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,801.80 จุด เพิ่มขึ้น 86.30 จุด, +1.51%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,898.75 จุด ลดลง 9.83 จุด, -0.05%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,128.15 จุด เพิ่มขึ้น 18.19 จุด, +0.18%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2664271

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก ขณะตลาดจับตาประชุมเฟด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 มิถุนายน 2560 07:39:17 น.

สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยนักลงทุนรอดูการส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ รวมทั้งการปรับลดงบดุลบัญชีของเฟด ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปี

 

 

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.1205 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1200 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2746 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2643 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7539 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7532 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 109.97 เยน จากระดับ 109.83 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9686 ฟรังก์ จากระดับ 0.9689 ฟรังก์

 

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะเสร็จสิ้นการประชุมในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยนักลงทุนรอดูเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ รวมทั้งการปรับลดงบดุลจากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์

 

CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 99.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมสัปดาห์นี้

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุดและมีผลต่อความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์นั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ทรงตัวในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนเม.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PPI จะทรงตัวในเดือนพ.ค.

 

ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อ พุ่งขึ้น 2.9% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี จากระดับ 2.7% ในเดือนเม.ย.

 

นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย. ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนมิ.ย.จากเฟดนิวยอร์ก และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2664270

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.90 แนวโน้มแข็งค่า มีลุ้นหลุด 33.85 ตลาดรอความชัดเจนสัญญาณดอกเบี้ยจากเฟด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 มิถุนายน 2560 09:16:19 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ 33.90 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิด

 

 

 

ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.98 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์อ่อนค่าเนื่องจากตลาดยังไม่มั่นใจเรื่องทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลาง

 

สหรัฐในอนาคต

"บาทแข็งค่าทำนิวโลว์ในรอบเกือบสองปี (23 เดือน) หลังดอลลาร์อ่อนค่าเนื่องจากตลาดยังไม่มีความชัดเจนเรื่องทิศ

 

ทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในคราวต่อไป ถึงแม้จะมั่นใจว่าการประชุม (FOMC) รอบนี้จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย" นัก

 

บริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.85-34.00 บาท/ดอลลาร์

"บาทมีโอกาสทำนิวโลว์หลุด 33.85 (บาท/ดอลลาร์) ต้องรอดูท่าทีทางการ" นักบริหารเงิน กล่าว

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ 110.03 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 110.08 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1214 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1207 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.9920 บาท/

 

ดอลลาร์

- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ทรงตัวในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือน

 

เม.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PPI จะทรงตัวในเดือนพ.ค.

- สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) ขณะที่นัก

 

ลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยนักลงทุนรอดูการส่งสัญญาณการปรับ

 

ขึ้นดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ รวมทั้งการปรับลดงบดุลบัญชีของเฟด ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิด

 

เผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปี โดยยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.1205 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1200 ดอลลาร์ ส่วน

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 109.97 เยน จากระดับ 109.83 เยน

 

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) โดยสัญญาทองคำปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เนื่อง

 

จากนักลงทุนวิตกกังวลต่อกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมซึ่งจะเสร็จสิ้นใน

 

วันนี้ตามเวลาสหรัฐ

- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะเสร็จสิ้นการประชุมในวันนี้ตามเวลา

 

สหรัฐ โดยนักลงทุนรอดูเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ รวมทั้งการปรับลดงบดุลจากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้าน

 

ดอลลาร์

- มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส คาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปีนี้และปีหน้า จน

 

ถึงระดับ 3% ภายในปลายปี 2019 พร้อมกับคาดการณ์ว่า เฟดจะเริ่มปรับลดงบดุลภายในปีนี้ จากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ใน

 

ปัจจุบัน ถ้าหากเศรษฐกิจยังคงเดินหน้าต่อไป

- นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค., ดัชนี

 

ราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย. ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับ

 

สวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing

 

Index) เดือนมิ.ย.จากเฟดนิวยอร์ก และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.

- นักลงทุนจับตานายเจฟฟ์ เซสชันส์ รมว.ยุติธรรมสหรัฐ ซึ่งจะเข้าให้การต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภา

 

เพื่อตอบข้อซักถามในประเด็นเกี่ยวกับข้อกล่าวหาการแทรกแซงการเลือกตั้งของรัสเซียในปีที่แล้ว โดยคาดว่าคำถามส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่

 

การติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัสเซียในช่วงระหว่างการหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

 

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2664345

 

“โกลเบล็ก” จับตาการประชุมเฟดขึ้นดอกเบี้ย13-14 มิ.ย.นี้ มองกรอบดัชนี 1,550 - 1,580 จุด - แนะเก็งกำไร หุ้นเข้าคำนวณ SET100-SET 50

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 14 มิถุนายน 2560 10:26:15 น.

 

ดูรูปทั้งหมด

กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์

บล.โกลเบล็ก เผยหุ้นไทยจับตาการประชุมฟด 13-14 มิ.ย.นี้ และราคาน้ำมันอ่อนตัวลงจากความกังวลภาวะอุปทานล้นตลาดหลังจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐเพิ่มขึ้น ให้กรอบดัชนี 1,550 - 1,580 จุด แนะลงทุนหุ้นเข้าคำนวณ SET100 - SET 50 ส่วนราคาทองคำชะลอตัวแกว่งในกรอบแคบ ขณะที่การไหลลงของราคาสู่ระดับแนวรับระยะสั้นใกล้ 1,260 ดอลลาร์ เป็นระดับที่น่าเสี่ยง trading long เพื่อเล่นรอบรีบาวด์สั้น ๆ สู่แนวต้าน 1,280 ดอลลาร์

 

 

 

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยได้แรงบวกจากกรณีความกังวลสถานการณ์การเมืองสหรัฐลดลงหลังคำให้การของนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการ FBI ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโดนัลด์ ทรัมป์

 

รวมทั้งความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของกระทรวงคมนาคม โดยรถไฟไทย-จีนมีแนวโน้มจะใช้ม.44 แก้ปัญหาความล่าช้า รถไฟ 3 เส้นทางคาดจะเสนอให้ครม.พิจารณาในอีก 2 เดือน ส่วนโครงการรถไฟฟ้า 6 สายคาดจะเสนอครม.อนุมัติในช่วงครึ่งหลังของปี 60 ประกอบกับการประกาศรายชื่อหุ้นเข้า SET50 และ SET100 รอบใหม่ในช่วงกลางเดือนมิ.ย. และการทำ Window Dressing ช่วงปลายเดือนมิ.ย.

 

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นมีปัจจัยกดดันราคาน้ำมันอ่อนตัวลงจากความกังวลภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐเพิ่มขึ้น 8 แท่นสู่ 741 แท่นโดยเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 21 ติดต่อกัน และ Fund Flow ต่างชาติผันผวนจากคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.

 

ส่วนปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาต่อไป ได้แก่ในวันที่ 13 – 14 มิ.ย. การประชุม FOMC (โพลล์คาด FED ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25%เป็น 1.25%) วันที่ 15 มิ.ย. สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ค. และในวันที่ 16 มิ.ย. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประชุมนโยบายการเงิน และกำหนดประชุมคณะกรรมการโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเพื่อพิจารณากรอบแผนงานและวิธีการคิดในการผลักดันให้อีอีซีบรรลุเป้าหมายที่กำหนดภายในสิ้นปีนี้

 

ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้คาดว่าจะมีแรงกดดันจาก Fund Flow ต่างชาติที่ผันผวนจากคาดการณ์การประชุม FOMC จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.25% รวมถึงราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงเป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงซื้อกลุ่มหุ้นที่มีประเด็นข่าวรายตัวช่วยพยุงดัชนีไม่ให้ทรุดตัวลงแรง

 

ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,550 - 1,580 จุด โดยแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในแบบ Selective Buy ในหุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณรอบใหม่ของ SET50 ได้แก่ EA, MTLS, BJC, BPP และ TISCO และ SET100 ได้แก่ BCPG, WORK, ANAN และ GFPT โดยจะประกาศผลราวปลายสัปดาห์นี้

 

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งอังกฤษเป็นไปตามโพลล์ รัฐบาลใหม่ขาดความเป็นเอกภาพ ตลาดจึงคาดหวังกับ soft Brexit ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐมีแนวโน้มจะขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้และอีกครั้งในช่วงสิ้นปี ส่วนการปรับลดงบดุลคาดว่าจะค่อย ๆ ปรับลดตามสภาวะเศรษฐกิจ เพื่อพิจารณาสถานการณ์ให้สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลและการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการ FOMC บางท่านโดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และไม่ให้ตลาดเงินตลาดทุนเกิดความผันผวน ทำให้เงินดอลลาร์ยังคงถูกกดให้อ่อนค่าต่อไป แม้สกุลยูโรและปอนด์กำลังอ่อนค่าก็ตาม

 

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าสินทรัพย์เสี่ยงจะกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังการประชุม FOMC จากความมั่นใจของนักลงทุนที่เห็นทิศทางการดำเนินมาตรการของ Fed มากขึ้น ซึ่งปัจจัยเสริมจะมาจากการที่ BOJ กล่าวเชิงสนับสนุนการขยายตัวของญี่ปุ่นตามค่าดัชนีเศรษฐกิจที่สะท้อนออกมา

 

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยข้างต้นดังกล่าวทั้งหมดล้วนส่งผลรวมให้ตลาดทองคำชะลอตัวและแกว่งแคบลง ขณะที่การไหลลงของราคาสู่ระดับแนวรับระยะสั้นใกล้ 1,260 ดอลลาร์ เป็นระดับที่น่าเสี่ยง trading long เพื่อเล่นรอบรีบาวด์สั้น ๆ สู่แนวต้าน 1,280 ดอลลาร์(ฝั่ง long ควร stop loss ถ้าราคาหลุด 1,260 ดอลลาร์) และดัก short ที่ระดับ 1,285 - 1,295 ดอลลาร์

 

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2664370

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นเก็งกลุ่มพลังงานทดแทนลุ้นผลผ่านคุณสมบัติโซลาร์ฟาร์มวันนี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 มิถุนายน 2560 09:32:01 น.

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้น โดยมองว่าน่าจะได้แรงหนุนจากหุ้นขนาดกลาง-เล็ก เนื่องจากหุ้นขนาดใหญ่ยังไม่แน่ใจในทิศทางเงินทุนเคลื่อนย้าย (Fund Flow) และยังต้องรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะการใช้นโยบายทางด้านการเงินที่เข้มงวดขึ้นหรือไม่

 

 

 

แม้ว่าวานนี้หุ้นกลุ่ม PTT ปรับตัวขึ้นมา แต่เป็นการเล่นเก็งกำไรปัจจัยเฉพาะตัวจากกรณีที่รัฐบาลอาจใช้ ม.44 เข้ามาแก้ไขปัญหาแหล่งผลิตปิโตรเลียม S1 แต่ส่วนใหญ่เป็นการปรับตัวชึ้นมาของหุ้นขนาดกลาง-เล็ก นอกจากนี้ หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว, การบริโภคภายในประเทศ และกลุ่มค้าปลีก ก็ยังมีความน่าสนใจเข้าลงทุน ส่วนที่เด่นอีกกลุ่มเมื่อวานนี้ คือ กลุ่มเดินเรือที่ขึ้นมาขานรับช่วง High Season เดือน มิ.ย.-ก.ค. และกลุ่มยางพารามีปัจจัยหนุนจากรัฐบาลขยายมาตราการช่วยเหลือชาวสวนยาง

 

สำหรับวันนี้มีปัจจัยหนุนกลุ่มพลังงานทดแทนให้เก็งกำไร คือ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะประกาศจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติโครงการโซลาร์ฟาร์มหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตรในเฟสที่ 2 ในวันนี้หลังจากที่เปิดให้ยื่นข้อเสนอขายไฟฟ้า โดยกำหนดการจับสลากและประกาศผู้ชนะการประมูลในวันที่ 28 มิ.ย.

 

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็ค่อนข้างจะอยู่ในแดนบวก ซึ่งบรรยากาศโดยรวมยังหนุนตลาดฯได้ พร้อมให้แนวรับ -1,565 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575-1,580 จุด

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2664353

 

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นเก็งกลุ่มพลังงานทดแทนลุ้นผลผ่านคุณสมบัติโซลาร์ฟาร์มวันนี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 มิถุนายน 2560 09:40:02 น.

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้น โดยมองว่าน่าจะได้แรงหนุนจากหุ้นขนาดกลาง-เล็ก เนื่องจากหุ้นขนาดใหญ่ยังไม่แน่ใจในทิศทางเงินทุนเคลื่อนย้าย (Fund Flow) และยังต้องรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะการใช้นโยบายทางด้านการเงินที่เข้มงวดขึ้นหรือไม่

 

 

 

แม้ว่าวานนี้หุ้นกลุ่ม PTT ปรับตัวขึ้นมา แต่เป็นการเล่นเก็งกำไรปัจจัยเฉพาะตัวจากกรณีที่รัฐบาลอาจใช้ ม.44 เข้ามาแก้ไขปัญหาแหล่งผลิตปิโตรเลียม S1 แต่ส่วนใหญ่เป็นการปรับตัวชึ้นมาของหุ้นขนาดกลาง-เล็ก นอกจากนี้ หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว, การบริโภคภายในประเทศ และกลุ่มค้าปลีก ก็ยังมีความน่าสนใจเข้าลงทุน ส่วนที่เด่นอีกกลุ่มเมื่อวานนี้ คือ กลุ่มเดินเรือที่ขึ้นมาขานรับช่วง High Season เดือน มิ.ย.-ก.ค. และกลุ่มยางพารามีปัจจัยหนุนจากรัฐบาลขยายมาตราการช่วยเหลือชาวสวนยาง

 

สำหรับวันนี้มีปัจจัยหนุนกลุ่มพลังงานทดแทนให้เก็งกำไร คือ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะประกาศจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติโครงการโซลาร์ฟาร์มหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตรในเฟสที่ 2 ในวันนี้หลังจากที่เปิดให้ยื่นข้อเสนอขายไฟฟ้า โดยกำหนดการจับสลากและประกาศผู้ชนะการประมูลในวันที่ 28 มิ.ย.

 

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็ค่อนข้างจะอยู่ในแดนบวก ซึ่งบรรยากาศโดยรวมยังหนุนตลาดฯได้ พร้อมให้แนวรับ -1,565 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575-1,580 จุด

 

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (13 มิ.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,328.47 จุด เพิ่มขึ้น 92.80 จุด (+0.44%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,220.37 จุด เพิ่มขึ้น 44.90 จุด (+0.73%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,440.35 จุด เพิ่มขึ้น 10.96 จุด (+0.45%)

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 75.81 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 6.99 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 63.36 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 14.65 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 9.84 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 5.30 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 4.89 จุด

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (13 มิ.ย.60) 1,572.36 จุด เพิ่มขึ้น 8.55 จุด (+0.55%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,539.77 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.60

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (13 มิ.ย.60) ปิดที่ 46.46 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.8%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (13 มิ.ย.60) ที่ 6.07 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

 

- เงินบาทเปิด 33.90 แนวโน้มแข็งค่า มีลุ้นหลุด 33.85 ตลาดรอความชัดเจนสัญญาณดอกเบี้ยจากเฟด

 

- "นายกฯ" จ่อ ออกคำสั่งมาตรา 44 สัปดาห์หน้ายกเว้นระเบียบจัดซื้อเร่งโครงการรถไฟไทย-จีน "อาคม"เผย รายงานปัญหาข้อขัดข้องต่อ"วิษณุ"แล้ว อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด ขณะนี้ส่อหลุดเป้าเสนอ ครม.อนุมัติโครงการไม่ทัน มิ.ย.เหตุยังไม่ผ่านบอร์ด สศช. ด้าน รฟท.ใช้ร่างทีโออาร์รถไฟทางคู่เป็นมาตรฐาน พร้อมประกาศประมูล 3.5 กม.คาดราคากลาง 220 ล้านบาท

 

- ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต สำนักพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เผยโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) จะส่งผลให้เกิดความต้องการใช้ชิ้นส่วนยานยนต์ในภาคอุตสาหกรรมและการผลิตเพิ่มขึ้น ทั้งระบบราง อากาศยาน และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ

 

- ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในสิ้นปี 2560 นี้ คาดจะมีการขยายตัวติดลบอยู่ที่ประมาณลบ 10-15% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ส่งผลให้เจ้าของสินค้าหันมาลดงบในการซื้อสื่อโฆษณา และแบ่งงบส่วนหนึ่งไปซื้อสื่อออนไลน์และทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเพื่อให้สามารถขายสินค้าได้

 

- นายกสมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ เผยเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา กรรมการสมาคมได้ยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อเสนอแนวทางการแก้ปัญหาการจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศหลังจากที่ใช้มานานกว่า 30 ปี โดยเสนอให้ลดภาษีอากรนำเข้าจากปัจจุบัน 80% ลงเหลือ 30% และเสนอให้สำแดงราคาสินค้าตามความเป็นจริงในอัตรา 100% ซึ่งเป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาขายปลีกที่ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ของประเทศผู้ผลิต

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- EA (ธนชาต) "ซื้อ" จะถูกเพิ่มในดัชนี FTSET วันที่ 19 มิ.ย.นี้ คาดถูกเพิ่มเข้าไปคำนวนในดัชนี SET50 สิ้น มิ.ย.นี้ ขณะที่กำไรการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากโครงการหาดกังหัน #1-#2 รวม 81MW หนุนกำไร 2Q60

 

- RS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 10.80 บาท ผู้บริหารปรับเป้ายอดขายกลุ่ม Health&Beauty ขึ้นเป็น 1.1 พันลบ. โตกว่า 4 เท่าตัว Y-Y สูงกว่าคาดการณ์เดิมของตลาดที่ 700-800 ลบ. ถ้าเป็นไปตามนั้นจะเพิ่ม Upside ต่อประมาณการของเรา 15-20% ขณะที่ กำไร 2Q60 คาดโตทั้ง Y-Y และ Q-Q

 

- PTTEP (โกลเบล็ก) เป้า Bloomberg Consensus 100.65 บาท คาดกำไรปี 60 อยู่ที่ราว 2.53 หมื่นล้านบาท +97%YoY จากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นราว 15%YoY มาสู่ 45-55 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่บริษัทพยายามลดต้นทุนอย่างต่อเนื่องราว 10%YoY สู่ 29 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีประเด็นบวก คสช.เตรียมใช้ ม.44 แก้ไขการใช้พื้นที่ ส.ป.ก.ผลิตปิโตรเลียมคาดะออกสัปดาห์หน้าหลังหารือกันแล้ว เชื่อแหล่งผลิต S1 จะกลับมาผลิตได้เร็วขึ้นจากก่อนหน้านี้คาดหยุดผลิต 7 เดือนไปจนถึง ธ.ค.60) โดยหากกลับมาผลิตได้เร็วทุก ๆ 1 เดือนจะส่งผลบวกต่อ PTTEP ราว 0.4-0.5 บาทต่อหุ้น

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2664357

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

Ausiris Gold Investment is live now.

38 mins · คลิป

ราคาทองวันนี้ 15 มิ.ย. 2560

รายการวิเคราะห์ราคาทอง 1 นาที...สด

#ราคาทอง

 

Ylg Bullion

 

 

Ylg Bullion

 

 

HSHsocial

 

 

 

 

YLGResearch

 

 

 

Ausiris Group

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน 2560 09:53:29 น.

กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำมีความผันผวนอย่างมากเมื่อคืนนี้ ในช่วงที่มีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาในช่วง 19.30น. โดยที่ดัชนี CPI ออกมาต่ำกว่าที่คาดสู่ระดับ -0.1% ขณะที่ Core CPI ออกมาทรงตัว 0.1% ทำให้ในช่วงประมาณ 3 ทุ่มราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,280 เหรียญโดยประมาณ หลังจากนั้นราคาทองคำมีการทรงตัวบริเวณ 1,275 เหรียญ เพื่อรอข่าวเฟด ซึ่งเฟดมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาดจาก 0.75-1.00% สู่ระดับ 1.00 – 1.25% และในช่วงที่ประกาศผลประชุมเฟด ราคาทองคำและดัชนีดอลลาร์มีการแกว่งตัวอย่างมาก ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรก็มีการแกว่งตัวนับตั้งแต่ช่วงประกาศข้อมูลเศรษฐกิจ ขณะที่ถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ที่กล่าวถึงการจะปรับลดยอดงบดุลในพอร์ตของตนเอง หรือการลดพันธบัตรที่ได้ซื้อกลับไว้เพื่อให้เกิดความสมดุล แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดที่ชัดเจนต่อการปรับลดเท่าใด ทำให้ดัชนีดอลลาร์ดีดกลับมาแถว 97.10 จุด และมีแรงเทขายกลับเข้ามาอย่างหนัก จนทำให้ช่วงปลายตลาดราคาหลุด 1,260 เหรียญลงมา ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่เฟดยืนยันถึงแนวทางการปรับลดงบดุลบัญชี ซึ่งหมายความว่า ตลาดรับรู้การที่เฟดพยายามที่จะพยายามดำเนินการดังกล่าว อย่างไรก็ดี ข่าวจากประเด็นดังกล่าวที่ยังไม่ชัดเจนนั้น ทำให้ราคาทองคำกลับมาทรงตัวแถว 1,265 เหรียญ ด้านค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าอีกครั้ง โดยกลับมาแถวระดับ 33.85 บาท/ดอลลาร์อีกครั้งหนึ่ง สำหรับภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้อยู่ในเกณฑ์ทรงตัวหรือปรับขึ้นเล็กน้อย ด้านกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ ทำการเทขายทองคำออก 12.13 ตัน เป็นครั้งแรกในรอบ 4 วันทำการ ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 854.87 ตัน

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในเชิงเทคนิคราคาทองคำมีความผันผวนในระยะสั้น โดยที่แนวรับบริเวณ 1,255 เหรียญ ยังสามารถรับได้อยู่และเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง สำหรับวันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,255 – 1,275 เหรียญ ท่ามกลางตลาดที่ยังคงสับสนต่อข้อมูลยอดงบดุลที่เฟดได้เปิดเผยรายละเอียดเบื้องต้นเมื่อคืนนี้ ภาพรวมจึงทำให้ราคาทองคำในระยะกลางและระยะยาวมีความไม่ชัดเจน แต่ยังมีภาพเป็นทิศทางขาขึ้น เนื่องจากยืนอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยได้โดยทั่วไป ด้านราคาทองคำไทยจะมีแนวรับ 20,250 บาท/บาททองคำ และแนวต้าน 20,550 บาท/บาททองคำ

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะนำให้ใช้กลยุทธ์เข้าออกไว ลงซื้อขึ้นขาย ทำกำไรระยะสั้นๆจากความผันผวนของราคา

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ลงซื้อขึ้นขาย เก็งกำไรระยะสั้นๆในกรอบ

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

เล่นสั้นภายในวัน หาจังหวะทยอยอลดสถานะตามความผันผวนของตลาด

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ปรับพอร์ตสมดุลกับสภาพการแกว่งของตลาด ทยอยเข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ไม่แนะนำให้ใช้Leverage มากจนเกินไป

 

Gold Futures M17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,430 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,630 บาท

Gold Futures Q17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,480 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,680 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2665001

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นขึ้นหลังชัดเจนเฟดขึ้นดอกเบี้ย-ส่งสัญญาณปรับลดขนาดงบดุลในปีนี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน 2560 09:30:03 น.

นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้ แม้ช่วงเปิดเทรดตลาดฯอาจย่อตัวลงแต่ก็เชื่อว่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลง ยกเว้นตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ที่อยู่ในแดนบวก ภายหลังจากที่ชัดเจนผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด และยังส่งสัญญาณปรับลดขนาดงบดุลสหรัฐฯภายในปีนี้ ซึ่งน่าจะทำให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อได้

 

นอกจากนี้ ในช่วงสิ้นเดือนนี้ (มิ.ย.) เป็นช่วงปิดงบการเงินไตรมาส 2/60 น่าจะมีการทำ Window Dressing มาช่วยหนุนตลาดฯด้วย แต่อย่างไรก็ดี วันนี้หุ้นในกลุ่มพลังงานอาจจะกดดันตลาดฯ เนื่องจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวลง 3.7% แต่หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับลงก็น่าจะปรับตัวขึ้นมาช่วยหนุนตลาดฯ อีกทั้ง FTSE จะมีปรับน้ำหนักดัชนีในเร็ว ๆ นี้

 

พร้อมให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580 จุด

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2665005

 

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นขึ้นหลังชัดเจนเฟดขึ้นดอกเบี้ย-ส่งสัญญาณปรับลดขนาดงบดุลในปีนี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน 2560 09:48:07 น.

นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้ แม้ช่วงเปิดเทรดตลาดฯอาจย่อตัวลงแต่ก็เชื่อว่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลง ยกเว้นตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ที่อยู่ในแดนบวก ภายหลังจากที่ชัดเจนผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด และยังส่งสัญญาณปรับลดขนาดงบดุลสหรัฐฯภายในปีนี้ ซึ่งน่าจะทำให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อได้

 

 

 

นอกจากนี้ ในช่วงสิ้นเดือนนี้ (มิ.ย.) เป็นช่วงปิดงบการเงินไตรมาส 2/60 น่าจะมีการทำ Window Dressing มาช่วยหนุนตลาดฯด้วย แต่อย่างไรก็ดี วันนี้หุ้นในกลุ่มพลังงานอาจจะกดดันตลาดฯ เนื่องจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวลง 3.7% แต่หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับลงก็น่าจะปรับตัวขึ้นมาช่วยหนุนตลาดฯ อีกทั้ง FTSE จะมีปรับน้ำหนักดัชนีในเร็ว ๆ นี้

 

พร้อมให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (14 มิ.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,374.56 จุด เพิ่มขึ้น 46.09 จุด (+0.22%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,194.89 จุด ลดลง 25.48 จุด (-0.41%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,437.92 จุด ลดลง 2.43 จุด (-0.10%)

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 67.98 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.08 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 103.62 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 6.68 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.72 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 9.49 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.60 จุด

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (14 มิ.ย.60) 1,577.00 จุด เพิ่มขึ้น 4.64 จุด (+0.30%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,247.15 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.60

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (14 มิ.ย.60) ปิดที่ 44.73 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.73 ดอลลาร์ หรือ 3.7%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (14 มิ.ย.60) ที่ 6.42 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

 

- เงินบาทเปิด 33.92 บาท/ดอลลาร์ทิศทางยังแข็งค่า

- "แบงก์ชาติ" ชี้บาทแข็งจากทั้งปัจจัยภายใน-นอก เหตุนักลงทุนห่วงการเมืองสหรัฐ ประกอบกับเศรษฐกิจเอเชีย-ไทยเติบโตดี ดึงเงินทุนไหลเข้า รวมทั้งปัญหาความไม่แน่นอนในกาตาร์ ส่งผลนักลงทุนไทยเริ่มทยอยกลับลงทุนในประเทศ ด้าน "ทีเอ็มบี" ประเมินดอกเบี้ยเฟดจ่อแซงไทย กดดันเงินทุนไหลออก ฉุดบาทอ่อน

 

- รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยในโอกาสเป็นประธานเปิดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการคลินิกเอสเอ็มอีสัญจรแนวประชารัฐ จ.ชลบุรี ว่า ได้มอบหมายให้คณะทำงานระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เร่งจัดทำยุทธศาสตร์การลงทุน 3 จังหวัดเป้าหมาย เพื่อกำหนดกรอบการลงทุนให้ชัดเจนว่าจังหวัดใดจะส่งเสริมให้เกิดอุตสาหกรรมใด เพื่อให้นักลงทุนต่างชาติใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ง่ายขึ้น

 

- รมว.เกษตรและสหกรณ์ จะลงนามในคำสั่งใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ควบคุมยาง พ.ศ. 2542 ให้อำนาจเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรและการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เข้าตรวจสอบสต๊อกยางพาราของเอกชนทั้งหมดว่ามีปริมาณสินค้าเท่าไรและส่งออกเท่าไร

 

- ผู้อำนวยการ สคร.เผยรัฐบาลเตรียมผลักดันโครงการลงทุน PPP ของ ก.คมนาคมในปีนี้เพิ่มเติมอีก 2 โครงการ มูลค่า 1.4 แสนล้าน ส่วนความคืบหน้าการทำ PPP ในรอบ 9 เดือนของปีงบฯ 60 รัฐบาลทำผลงานไปได้ 1.9 แสนล้านบาทจากโครงการลงทุนรถไฟฟ้า 3 สาย เผยปีหน้าคมนาคมยังเตรียมทำโครงการลงทุนแบบ PPP เพิ่มอีก 6 แสนล้าน

 

- รมว.คลัง ชี้ความเสี่ยง บจ.ผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบีอีถือเป็นปัญหาที่เก่าที่เคยเกิดขึ้นมานานแล้วเพียงแต่นักลงทุนรุ่นใหม่อาจยังไม่เคยเจอ เชื่อการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทแค่เพียงแห่งเดียวไม่น่าจะส่งผลกระทบกับแบงก์พาณิชย์ที่ปัจจุบันได้มีการตั้งสำรองหนี้สูญเกิน 100% แล้ว

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- JMART-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ. เจ มาร์ท (JMART)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 163,164,057 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 15.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งออกวันที่ 6 มิถุนายน 2560 และวันครบกำหนดอายุตรงกับวันที่ 5 มิถุนายน 2562 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 31 ก.ค. 2560 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 5 มิ.ย. 2562

 

- TSF-W4 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.ทรีซิกตี้ไฟว์ (TSF)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 799,414,880 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.70 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปีนับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 18 พฤษภาคม 2560) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 17 พ.ค. 2562 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 17 พ.ค. 2562

 

- SYNEX (ฟันันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 15.50 บาท ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้ +20%Y-Y สูงกว่าคาดการณ์ของเราที่ +12%Y-Y จากยอดขายมือถือที่โตเร็วและการเพิ่มสินค้าใหม่ ขณะที่การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อให้บริการลิสซิ่งน่าจะจบปลายเดือนนี้ ส่วนกำไร Q2/60 คาดโตแรง 60%Y-Y อยู่ที่ 130 ลบ.

 

- HTECH (เคจีไอ) "เก็งกำไร"ประเมินธุรกิจผลิตเครื่องมือตัด (Cutting Tools) และอุปกรณ์สำหรับใช้ใน กระบวนการผลิตเพื่อรองรับอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (HDD) จะได้อานิสงส์ข่าวการลงทุนของ WD พร้อมประเมินยืนเหนือแนวราคา 8.70 บาทได้ มีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 10.6 บาท และ 11.2 บาท ตามลำดับ

 

- BCH (ธนชาต)"ซื้อ"ปรับพื้นฐานขึ้นเป็น 15.7 บาท ผลดีจากการปรับค่าเหมาฯจ่ายประกันสังคมมากที่สุด ผู้ป่วยเงินสดฟื้นตัว ให้เป็น top picks กลุ่มฯ

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2665016

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินบาท: เงินบาทเปิดตลาดวันนี้ที่ 33.92 บาท/ดอลลาร์ ทิศทางยังแข็งค่า

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน 2560 09:43:37 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.92 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัว

 

 

 

ใกล้เคียงกับช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ ก่อนที่จะปรับตัวแข็งค่าลงมาอยู่ที่ 33.88 บาท/ดอลลาร์ เมื่อเวลา 08.15 น. หลังดอลลาร์อ่อน

 

ค่า เนื่องจากตลาดยังไม่มั่นใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

"บาททรงตัวก่อนที่จะแข็งค่าลงมา หลังดอลลาร์อ่อนค่า เนื่องจากมีตัวเลขเศรษฐกิจบางตัวออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ทำ

 

ให้ตลาดกังวลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ส่วนการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดนั้น เป็นเรื่องที่ตลาดรับรู้ไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงเป็น

 

เพียงแค่ปัจจัยที่ช่วยพยุงไม่ให้ดอลลาร์อ่อนค่าไปมากกว่านี้" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 33.80-33.95 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ 109.54 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 110.00 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1224 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1200 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.908 บาท/ดอลลาร์

 

- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น

 

0.25% สู่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมวันนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ นับเป็นการปรับ

 

ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ของเฟดในปีนี้ หลังจากมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค.

 

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14

 

มิ.ย.) หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งถือเป็นการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด

 

ครั้งที่ 4 นับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2558

- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ว่า

 

ข้อมูลที่ได้รับนับตั้งแต่ที่คณะกรรมการ FOMC ประชุมกันในเดือนพ.ค.บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง และกิจกรรมทาง

 

เศรษฐกิจปรับตัวขึ้นปานกลางตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ ส่วนการจ้างงานแม้ปรับตัวขึ้นปานกลาง แต่เมื่อพิจารณาจากภาพรวมตั้งแต่ต้นปีแล้ว การ

 

จ้างงานยังนับว่าแข็งแกร่ง และอัตราว่างงานเริ่มปรับตัวลดลง ส่วนการใช้จ่ายภาคครัวเรือนฟื้นตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และ

 

การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของภาคธุรกิจยังคงมีความแข็งแกร่ง

ส่วนเงินเฟ้อในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมานั้น ปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่ไม่นับรวมราคาพลังงานและอาหารนั้น

 

ปรับตัวลงเช่นกัน โดยยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 2% โดยข้อมูลที่ได้จากการสำรวจการคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาวบ่งชี้ว่า มีการ

 

เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย

คณะกรรมการ FOMC มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการจ้างงานให้เติบโตอย่างเต็มที่และหนุนราคาให้มีเสถียรภาพ โดยคณะ

 

กรรมการ FOMC ยังคงคาดการณ์ว่า ด้วยการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไปนั้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะขยายตัว

 

ปานกลาง และภาวะในตลาดแรงงานจะยังคงมีความแข็งแกร่ง ส่วนเงินเฟ้อนั้น คาดว่าจะยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 2% ในระยะ

 

ใกล้นี้ แต่คาดว่าในระยะกลางนั้น เงินเฟ้อจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้เป้าหมายที่ระดับ 2% ของคณะกรรมการ FOMC ขณะที่ความเสี่ยงใน

 

ระยะใกล้ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ อยู่ในระดับค่อนข้างสมดุล ทั้งนี้ คณะกรรมการ FOMC ยังคงจับตาสัญญาณบ่งชี้เงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด

 

คณะกรรมการจะจับตาดูอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับความคืบหน้าทั้งในแง่ความเป็นจริงและการคาดการณ์สู่เป้าหมายเงิน

 

เฟ้อ คณะกรรมการคาดว่าภาวะทางเศรษฐกิจจะปรับตัวในแนวทางที่จะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอย่างค่อยเป็นค่อย

 

ไป และอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นมีแนวโน้มที่จะยังคงต่ำกว่าระดับที่คาดการณ์ไว้ในระยะยาวต่อไปสักระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ทิศทางที่

 

แท้จริงของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจ ตามข้อมูลที่กำลังจะมีการเปิดเผยต่อไป

 

- China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.87% แตะที่

 

6.7852 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐในวันนี้

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3% เมื่อคืนนี้ (14 มิ.ย.) หลังจากสำนักงาน

 

สารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจาก

 

นี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานพลังงานสากลซึ่งระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน

 

(โอเปก) พุ่งขึ้นในเดือนพ.ค.

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 1.73 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 44.73 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะ

 

ที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.72 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 47.00 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/กษมาพร โทร.02-2535000 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2665012

 

เยลเลน ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดบ.แม้เงินเฟ้ออ่อนแรง ชี้แผนลดงบดุลช่วยหนุนศก.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน 2560 09:35:01 น.

นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) เมื่อวานนนี้ โดยนางเยลเลนได้กล่าวถึงประเด็นที่เฟดจะเริ่มพิจารณาการปรับลดงบดุลในปีนี้ว่า "แผนการปรับลดงบดุลมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้เกิดภาวะตึงตัวในตลาด และเชื่อว่าตลาดจะสามารถปรับตัวกับแผนการดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปและสามารถคาดการณ์ได้"

 

 

 

นางเยลเลนกล่าวว่า หากเศรษฐกิจมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีและสอดคล้องกับการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่เฟด คณะกรรมการ FOMC ก็จะเริ่มดำเนินการตามแผนการปรับลดงบดุลบัญชีทันที

 

ในการแถลงข่าวครั้งนี้ นางเยลเลนส่งสัญญาณว่า เธอมุ่งให้ความสำคัญกับการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมากกว่าการเคลื่อนไหวที่อ่อนแอของเงินเฟ้อ ดังนั้นเธอจึงเชื่อว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

 

คณะกรรมการ FOMC มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมระบุว่าจะเริ่มปรับลดงบดุลในปีนี้ หากเศรษฐกิจมีการปรับตัวตามที่เฟดคาดการณ์ ซึ่งการปรับลดงบดุลของเฟด จะส่งผลให้เฟดลดการถือครองพันธบัตร และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ที่เฟดได้เข้าซื้อในตลาดในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

 

นอกจากนี้ คณะกรรมการ FOMC ยังได้ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้สู่ระดับ 1.6% ลดลงจากระดับ 1.9% ที่คาดการณ์ในเดือนมี.ค. และต่ำกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของเฟด

 

อย่างไรก็ตาม นางเยลเลนระบุว่า เธอไม่ได้รู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเงินเฟ้อที่อ่อนแรงลงแต่อย่างใด

 

"การที่เราตัดสินใจดำเนินการปรับลดขนาดนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างค่อยเป็นค่อยไปนั้น สะท้อนให้เห็นว่าที่ผ่านมานั้น เศรษฐกิจสหรัฐมีการฟื้นตัวเป็นอย่างดี และอยู่ในทิศทางสู่ภาวะการจ้างงานที่เต็มศักยภาพและราคาผู้บริโภคที่เสถียรภาพ" นางเยลเลนกล่าวในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

 

สำหรับประเด็นคำถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า นางเยลเลนจะดำรงตำแหน่งประธานเฟดเป็นสมัยที่ 2 หรือไม่ หากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขอให้เธออยู่ในตำแหน่งต่ออีกสมัยนั้น นางเยลเลนตอบว่า "ดิฉันมีความตั้งใจจะดำรงตำแหน่งประธานเฟดจนครบวาระ แต่ดิฉันยังไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับแผนการในอนาคตกับท่านประธานาธิบดีเลย"

 

ทั้งนี้ นางเยลเลนจะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 3 ก.พ.ปีหน้า

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2665009

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ ประจำวันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน 2560

เรามองว่าการเคลื่อนไหวของตลาดทองคำตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีลักษณะ “ทรงตัวกับทรุด” จากปัจจัยลบในตลาดโดยเฉพาะคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ในครั้งต่อไป อย่างไรก็ตามปัจจัยบวกสำหรับตลาดทองคำก็ยังคงมีให้เห็นจากดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศไม่สดใส/ต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดแต่ก็ไม่สามารถพยุงให้ตลาดทองคำกลับมาเคลื่อนไหวในแดนบวกได้อย่างมีนัยสำคัญ แนะนำนักลงทุนวางกลยุทธ์ตามการเคลื่อนไหวในลักษณะ “ทรงตัวกับทรุด”

การเคลื่อนไหวของตลาดทองคำตลอดกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาดูไม่ค่อยสดใสมากนักแม้จะได้รับปัจจัยบวกบ้างแต่ไม่ต่อเนื่องและก็ไม่สามารถพยุงตลาดให้กลับมาเคลื่อนไหวในแดนบวกได้อย่างมีนัยสำคัญ สำหรับในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ได้รับปัจจัยลบกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กลับมาแข็งค่าเพิ่มขึ้น(แต่ยังถือว่าอ่อนค่าอยู่) จากคาดการณ์ของนักลงทุนในตลาดต่อประเด็นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ อีกครั้งในปีนี้ ประกอบกับแรงขายจากกองทุนหลักอย่าง SPDR ซึ่งลดสถานะการถือครองทองคำท่ำสู่ระดับ 853.68 ตัน กดดัน Sentiment ในภาพรวมของตลาดทองคำอีกครั้ง สำหรับการเคลื่อนไหวในวันนี้ไปจนถึงตลอดค่ำคืนตามเวลาประเทศไทยเราคงมุมมอง Short Position จาก Sentiment เชิงลบในตลาดโดยคาดการณ์ว่าตลาดทองคำจะเคลื่อนไหว “ทรงตัวกับทรุด” ไปก่อนจนสิ้นสัปดาห์นี้

 

คำแนะนำ : คงมุมมอง Short Position วางกลยุทธ์ตามการเคลื่อนไหวในลักษณะ “ทรงตัวกับทรุด”

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy1606201791500407…

___________________________19142909_1732241933470816_3569897347479042134_o.jpg?oh=2717248e2a5fba0d2160a46231426700&oe=59CF06C9

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์หลังราคาน้ำมันยังอ่อนตัว, จับตา Bond yield-เงินดอลลาร์สหรัฐฯที่เริ่มฟื้นขึ้น

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 16 มิถุนายน 2560 09:43:29 น.

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ ดัชนีฯเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบไม่มาก เนื่องจากราคาน้ำมันยังอ่อนตัวลงเมื่อวานนี้ลงมาต่ำสุดในรอบ 7 เดือน อีกทั้ง Bond yield และเงินดอลลาร์สหรัฐฯก็เริ่มฟื้นตัวขึ้น ซึ่งผลการฟื้นตัวมาจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาระบุว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ และจะปรับลดขนาดงบดุล ซึ่งได้มีการดำเนินการอย่างเข้มงวดกว่าที่ตลาดคาดไว้ ทำให้มีผลต่อกระแสเงินทุน (Fund Flow)

 

 

 

ทั้งนี้ หากเงินดอลลร์สหรัฐฯแข็งค่า และ Bond yield ขยับขึ้น ก็อาจจะทำให้ Fund Flow ไหลออกได้ จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

 

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบราว 0.1% พร้อมให้แนวรับ 1,570 ถัดไป 1,565-1,566 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,580 จุด

 

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (15 มิ.ย.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,359.90 จุด ลดลง 14.66 จุด (-0.07%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,165.50 จุด ลดลง 29.39 จุด (-0.47%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,432.46 จุด ลดลง 5.46 จุด (-0.22%)

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 99.33 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 6.12 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 36.47 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 9.66 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.55 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 3.09 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.30 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 2.55 จุด

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 มิ.ย.60) 1,573.53 จุด ลดลง 3.47 จุด (-0.22%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 212.92 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.60

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (15 มิ.ย.60) ปิดที่ 44.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 27 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 มิ.ย.60) ที่ 6.86 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

 

- เงินบาทเปิด 33.95 คาดวันนี้แกว่งในกรอบ 33.90-34.05 รอปัจจัยใหม่กำหนดทิศทาง

- ภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทยปีนี้ คาดจะมีอัตราการเติบโตทรงตัวจากปีก่อนที่มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 2.5 แสนล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจและการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มใหม่ตามปริมาณน้ำตาล เพราะหลังจากภาครัฐประกาศจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือภาษี น้ำหวานวันที่ 16 ก.ย.นี้ ผู้บริโภคจะเกิดอาการช็อก เนื่องจากเกรงว่าราคาสินค้าจะเพิ่มขึ้น จึงทำให้ชะลอการซื้อไป 3-6 เดือน

 

- ฟิทช์ เรทติ้งส์ บริษัทจัดอันดับเครดิตชั้นนำของโลกได้ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศและอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยที่ระดับ "BBB+" แนวโน้มมีเสถียรภาพ อันดับเครดิตตราสารหนี้สกุลเงินในประเทศที่ไม่มีหลักประกันของไทยยังคงเป็น "BBB+" อันดับเครดิตสากลระยะสั้นและสกุลเงินระยะสั้นคงไว้ที่ระดับ F2

 

- กกพ.เผยผลโซลาร์ฟาร์ม ราชการ-สหกรณ์ เฟส 2 คุณสมบัติผ่าน 639 ราย 3,119.34 เมกะวัตต์ แย้มตกรอบแรก 81 ราย ประกาศเตรียมจับสลาก 26 มิ.ย.นี้

 

- กระทรวงดีอีเร่ง "ปณท" ปั้นโลจิสติกส์ฮับ รับแผนอีอีซี เล็งขยายเป็นศูนย์กระจายสินค้า หวังเป็นเขตปลอดภาษีนำเข้า-ส่งออกประเทศที่ 3 หารือศุลกากรปลดล็อกกฎหมาย คาด 23 มิ.ย.นี้ เข้าบอร์ดพิจารณา พร้อมร่นยุทธศาสตร์องค์กรแผนเร่งด่วน 3 ปี หวังสู่ไปรษณีย์ 4.0 ปี 2563

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- FER-W3 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.เฟอร์รั่ม (FER)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 770,887,124 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ :1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 9 เดือน นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (ตั้งแต่วันออกใบสำคัญแสดงสิทธิในวันที่ 25 พฤษภาคม 2560 จนถึงวันครบกำหนดอายุใบสำคัญแสดงสิทธิในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2561) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 มิ.ย. 2560 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 23 ก.พ. 2561

 

- 2S-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.2 เอส เมทัล (2S) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 99,999,371 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 7.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 31 พฤษภาคม 2560) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 พ.ย. 2560 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 30 พ.ค. 2562

 

- STEC (ยูโอบี เคย์เฮียน) ราคาวัสดุก่อสร้างเริ่มปรับลดลง ขณะที่การประมูลโครงการใหม่ ๆ กลับมาเดินหน้า ล่าสุดเข้ายื่นซองงานรถไฟทางคู่นครปฐม-หัวหิน 1.58 หมื่นล้านบาท โดย STEC เป็นรับเหมาที่มีแนวโน้มกำไรค่อนข้างชัดเจนเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่น

 

- ASAP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 8.20 บาท คาดกำไรสุทธิปีนี้โต 127%Y-Y จากการขยายกองรถเป็น 1.1 หมื่นคันจาก 7.5 พันคันในปีก่อน และโตต่ออีก 70%Y-Y ในปี 2561 จากการเปิด ASAP Auto Parking เพื่อเพิ่มกำไรให้กับธุรกิจขายรถมือสอง ก่อนจะกลับมาโตตามปกติที่ 20% ต่อปีในปี 2562-2564

 

- EA (ธนชาต) "ซื้อ"ปรับเป้าเป็น 43 บาท กำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มหนุนกำไรเติบโต 39-12% ปี 2560-2561, ธุรกิจ Energy storage phase I ขนาด 1GWh จะเริ่ม COD สิ้นปี 2561 จะเป็นปัจจัยหนุนกำไรเติบโตในระยะยาว (ยังไม่รวม ES phase II) และโอกาสเพิ่มน้ำหนักใน SET50 และ FTSE SET หนุน fund flow ระยะสั้น

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2665500

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อังกฤษเตรียมจัดรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 21 มิ.ย.

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน 2560 17:35:45 น.

นายแอนเดรีย ลีดซัม ประธานสภาสามัญชนของอังกฤษ กล่าวในวันนี้ว่า อังกฤษจะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 21 มิ.ย.

 

ทั้งนี้ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบรัฐพิธีในวันดังกล่าว พร้อมกับจะมีพระราชดำรัสแก่สมาชิกรัฐสภา

 

พรรคอนุรักษ์นิยมหวังว่า หลังการเปิดประชุมรัฐสภา ทางพรรคจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาลผสมกับพรรคสหภาพประชาธิปไตยแห่งไอร์แลนด์เหนือ (DUP)

 

ถึงแม้พรรคอนุรักษ์นิยมเป็นพรรคที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด แต่ทางพรรคก็ได้สูญเสียเสียงข้างมากในสภา ซึ่งทำให้ต้องมีการจับมือกับพรรค DUP เพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสม

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2665335

 

อิหร่านกล่าวโทษซาอุดิอาระเบียสนับสนุนก่อการร้ายบริเวณชายแดนของประเทศ

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 มิถุนายน 2560 10:32:29 น.

หนังสือพิมพ์เตหะราน ไทมส์ รายงานว่า นายโมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่า ซาอุดิอาระเบียกำลังสนับสนุนผู้ก่อการร้ายที่อยู่ตามชายแดนของอิหร่าน

"เราได้รับข้อมูลจากหน่วยงานด้านข่าวกรองว่า "ซาอุดิอาระเบียมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย ในแถบชายแดนตะวันออกและตะวันตกของอิหร่าน" นายซารีฟกล่าวขณะเปิดการประชุม Oslo Forum ที่นอร์เวย์

 

 

 

นายซารีฟกล่าวในที่ประชุมว่า ล่าสุดทางการซาอุดิอาระเบียได้กล่าวหาอิหร่านว่าเป็น "ภัยคุกคามโดยตรงและการปลุกปั่นที่อันตรายมาก"

นอกจากนี้ เขายังอ้างถึงความเห็นของเจ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน อัล-ซาอุด ที่กล่าวไว้เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาว่า ซาอุดิอาระเบียจะนำสงครามมาสู่อิหร่าน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายอาเดล อัล-จูเบร์ รัฐมนตรีต่างประเทศของซาอุดิอาระเบียได้ออกมาระบุว่า อิหร่านเป็นผู้สนับสนุนการก่อการร้ายรายสำคัญของโลกและจะต้องถูกลงโทษ โดยการเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะเกิดเหตุโจมตีครั้งรุนแรงในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน โดยกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 17 ราย

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปาจรีย์ ธนศุภานุเวช/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Ylg Bullion

 

 

HSHsocial

 

 

NOW26

 

 

NOW26

 

 

 

วันที่ 16 มิถุนายน นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการคดีพิเศษ 3 สำนักงานอัยการสูงสุด พร้อม พ.ต.ท.ปกรณ์ สุวชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร แถลงความคืบหน้ากรณีมูลนิธิคุณยายอาจารย์ มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง รับเงินจากกรณีการทุจริต สหกรณ์เครดิตยูเนียน คลองจั่น จำกัด

โดย นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนคดีพิเศษที่ 27/2559 ที่มีการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และผู้เกี่ยวข้องในความผิดฐานร่วมกันรับของโจร ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน ซึ่งมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินจนพบหลักฐานว่า มีความเชื่อมโยงไปถึงมูลนิธิคุณยายอาจารย์ มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง ซึ่งดีเอสไอได้แยกดำเนินการเป็นคดีพิเศษที่ 24/2560 และสอบสวนต่อเนื่องมา

“ตอนนี้ได้พยานหลักฐานการดำเนินคดีครบถ้วนแล้ว ที่ประชุมพนักงานสอบสวน จึงสรุปว่าหากมีพยานหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์พอแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหา จะดำเนินการออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป ทั้งนี้ยังพบว่ามีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงมูลนิธิธรรมกายส่วนหนึ่งด้วย” นายขจรศักดิ์ กล่าว

นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำซึ่งมีอีกจำนวนหลายราย โดยจะสอบในประเด็นเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน และประเด็นอื่นๆ อีก 3-4 ประเด็น ยืนยันมีหลักฐานเส้นทางการเงินชัดเจนแล้ว ซึ่งการประชุมและเรียกเพิ่มเติมนั้นเพื่อให้มีความรัดกุมชัดเจนเพิ่มมากขึ้นและให้ครบองค์ประกอบความผิดในการแจ้งข้อกล่าวหา หลังพบว่านำเงินจากสหกรณ์ฯมาปลูกสร้างอาคารต่างๆในวัด

“ส่วนกรณีน้องสาวของ นายบุญชัย เบญจรงคกุล เจ้าสัวหมื่นล้าน ที่พบว่าเป็นกรรมการของมูลนิธิคุณยายอาจารย์ มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง ก่อนหน้านี้ได้เรียกมาสอบถามแล้วส่วนจะเรียกมาสอบสวนใหม่หรือไม่นั้นต้องดูพยานหลักฐานอีกครั้ง ส่วนกรรมการคนอื่นในมูลนิธิที่เกี่ยวข้องนอกเหนือจากน้องสาว นายบุญชัย อาจต้องเรียกมาสอบสวนเพิ่มเติม โดยดูจากเส้นทางการเงิน ยืนยันตอนนี้มีหลักฐาน 3 ใน 4 แล้ว และเงินในมูลนิธิฯนี้ส่วนเป็นเงินที่ได้จากสหกรณ์เครดิตยูเนียนฯมูลค่าหลายล้านบาท และยังมีบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก”

นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีการสอบสวนนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวน

http://www.naewna.com/local/275773

"จตุพร"ยืนยันนปช.ยึดสันติวิธี ปัดรู้จักมือบึ้มรพ.พระมงกุฎฯ

16 มิ.ย. 60 - นายจตุพร พรหมพันธ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นางธิดา ถาวรเศรษฐ นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ เดินทางเข้าเยี่ยมแกนนำเสื้อแดง13 คนที่ถูกควบคุมตัวที่เรือนจำพัทยา…

THAIPOST.NET

19146280_1687753328200351_5434479222807682223_n.jpg?oh=5ec37c363b813d8a67a94d022269e60e&oe=599D7A50

 

ยกแรกลัมโบกินี 30 คัน ชำระภาษีขาด 650 ล้าน

ดีเอสไอ-ศุลกากร ประเมินภาษีซุปเปอร์คาร์ล็อตแรก. 30 คัน สำแดงอินวอยซ์เท็จชำระภาษีขาด 650 ล้าน จ่อประเมินเพิ่มอีก 300 คันพบกลเม็ดแปลงรุ่นรถเพื่อสำแดงราคาต่ำ

KOMCHADLUEK.NET

 

บล็อคYoutube‘โกตี๋’! สมช.เผยลาวร่วมมือดี-ลุ้นช่วยปิดเฟซบุ๊กต่อ

16 มิ.ย.60 พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการประสานกับ สปป.ลาว ในการติดตามตัวนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ เเกนนำคนเสื้อเเดงปทุมธานี…

NAEWNA.COM

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีวันจันทร์ เพื่อนพี่น้องนักลงทุนทุกท่าน

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

==

 

Hua Seng Heng Morning News 19-06-2017

 

HSHsocial

 

Ausiris Gold Investment was live.

20 mins · _Y91QzmaslR.pngคลิป

ราคาทองวันนี้ 19 มิ.ย. 2560

รายการวิเคราะห์ราคาทอง 1 นาที...สด

 

สรุปข่าวชั่วโมงนี้ l 19 มิ.ย. 60

http://bit.ly/2sgDBnA

 

NOW26

 

 

NOW26

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

NOW26

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...