ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ดีจ้า

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

Ausiris Gold Investment is live now.

29 mins · คลิป

ราคาทองวันนี้ 26 ก.ค. 2560

รายการวิเคราะห์ราคาทอง 1 นาที...สด

#ราคาทอง

 

 

HSHsocial

 

 

YLGResearch

 

 

NOW26

 

 

NationTV22

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำพุธที่ 26 กรกฎาคม 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 26 กรกฎาคม 2560 10:08:47 น.

กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ภาพรวมราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงหลังจากที่ไปทำจุดสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ บริเวณ 1,258 เหรียญ และมีแรงเทขายอย่างต่อเนื่องจาก SPDR จนทำให้ราคาหลุด 1,250 เหรียญลงมา โดยเมื่อวานนี้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯออกมาดีขึ้นเกินคาดจึงทำให้ดัชนีดาวโจนส์และดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น ซึ่งดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นมาแถวระดับ 94.114 จุด ทางด้านค่าเงินบาทอ่อนค่าจาก 33.40 บาท/ดอลลาร์ มาที่ระดับ 33.49 บาท/ดอลลาร์ สำหรับวันนี้จะมีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจ ได้แก่ New Home Salesคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น โดยที่ตลาดให้ความสนใจไปยังผลการประชุมเฟดคืนนี้

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ภาพรวมราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวแถวระดับ 1,250 เหรียญ จากแรงเทขายทำกำไร โดยวันนี้คาดว่าราคาจะมีแนวรับสำคัญ 1,240 เหรียญ และมีระดับแนวต้านสำคัญ 1,257 เหรียญ ทางด้านทองคำไทยค่อนข้างทรงตัวบริเวณ 19,700 บาท/บาททองคำ จากการอ่อนค่าของค่าเงินบาทอีกเล็กน้อย จึงแนะนำให้เก็งกำไรระยะสั้น มีการ Take Profit ออกไปก่อน รอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณแนวรับ

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ทยอยลดสถานะ และหาจังหวะเข้าซื้อบริเวณแนวรับ และขายปิดทำกำไรแนวต้าน

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปิดสถานะลดความเสี่ยง

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

Wait&See ปรับพอร์ตสมดุลรอผลประชุมเฟด แต่ภาพรวมยังแนะนำให้นักลงทุนระยะยาวหาจังหวะทยอยเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว

 

Gold Futures Q17 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,850 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,050 บาท

Gold Futures V17 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,880 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,080 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2684576

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 26 กรกฎาคม 2560 07:55:01 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 ก.ค.2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึง แคทเธอร์พิลลาร์ และแมคโดนัลด์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งได้แก่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนีราคาบ้าน

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,613.43 จุด พุ่งขึ้น 100.26 จุด หรือ +0.47% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,477.13 จุด เพิ่มขึ้น 7.22 จุด หรือ +0.29% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,412.17 จุด เพิ่มขึ้น 1.37 จุด หรือ +0.02%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) หลังจาก Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากข่าวที่ว่า กรีซสามารถระดมทุนได้สูงถึง 3 พันล้านยูโร จากการจำหน่ายพันธบัตรเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปีเมื่อวานนี้

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.4% ปิดที่ 380.77 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,264.31 จุด เพิ่มขึ้น 55.36 จุด หรือ +0.45% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,161.08 จุด เพิ่มขึ้น 33.38 จุด หรือ +0.65% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,434.82 จุด เพิ่มขึ้น 57.09 จุด หรือ +0.77%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 57.09 จุด หรือ +0.77% ปิดที่ 7,434.82 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) โดยตลาดยังคงได้ปัจจัยหนุนจากซาอุดิอาระเบียให้คำมั่นว่าจะปรับลดการส่งออกน้ำมัน ขณะที่ไนจีเรียประกาศว่าจะเข้าร่วมในข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังดีดตัวขึ้นหลังจากผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐมีแนวโน้มลดลงอีกในสัปดาห์ที่แล้ว

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 1.55 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 47.89 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 50.20 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้ส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 2.20 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ระดับ 1,252.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 9.9 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 16.542 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 50 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 931.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 7.90 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 856.95 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักบางสกุล ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งเปิดฉากขึ้นเมื่อวานนี้และจะเสร็จสิ้นลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ย ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น ภายหลังจาก Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำของเยอรมนีเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค.

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 111.82 เยน จากระดับ 111.12 เยน แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9513 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9459 ฟรังก์สวิส และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2518 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2510 ดอลลาร์แคนาดา

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1649 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1641 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์ทรงตัวที่ระดับ 1.3034 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7936 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7922 ดอลลาร์

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,412.17 จุด เพิ่มขึ้น 1.37 จุด, +0.02%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 21,613.43 จุด เพิ่มขึ้น 100.26 จุด, +0.47%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,477.13 จุด เพิ่มขึ้น 7.22 จุด, +0.29%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,161.08 จุด เพิ่มขึ้น 33.38 จุด, +0.65%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,264.31 จุด เพิ่มขึ้น 55.36 จุด, +0.45%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,434.82 จุด เพิ่มขึ้น 57.09 จุด, +0.77%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 32,228.27 จุด ลดลง 17.60 จุด, -0.05%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,327.83 จุด เพิ่มขึ้น 17.03 จุด, +0.51%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,763.34 จุด เพิ่มขึ้น 1.35 จุด, +0.08%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,813.54 จุด เพิ่มขึ้น 11.95 จุด, +0.21%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 26,852.05 จุด เพิ่มขึ้น 5.22 จุด, +0.02%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 767.27 จุด เพิ่มขึ้น 7.53 จุด, +0.99%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,971.72 จุด เพิ่มขึ้น 9.08 จุด, +0.11%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,243.69 จุด ลดลง 6.91 จุด, -0.21%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,439.90 จุด ลดลง 11.63 จุด, -0.47%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,726.60 จุด เพิ่มขึ้น 38.50 จุด, +0.68%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,775.30 จุด เพิ่มขึ้น 37.30 จุด, +0.65%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,955.20 จุด ลดลง 20.47 จุด, -0.10%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,463.15 จุด เพิ่มขึ้น 1.87 จุด, +0.02%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2684530

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.46 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ ตลาดรอติดตามถ้อยแถลงเฟดภายหลังการประชุม

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 26 กรกฎาคม 2560 09:19:27 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.46 บาท/ดอลลาร์ ใกล้

 

เคียงจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.45 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุดเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.48 บาท/ดอลลาร์ ทิศทางวันนี้คาดว่าเงินบาทจะยังอยู่ในกรอบแคบๆ หลังจากที่ดอลลาร์

 

สหรัฐเริ่มแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจาก sentiment ของตลาดที่ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับมี Flow ช่วงสิ้นเดือนซึ่งทำให้มีความต้องการสกุล

 

 

 

เงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น พร้อมมองว่าดอลลาร์สหรัฐอาจจะพักตัวอยู่ในกรอบที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในช่วงนี้

 

อย่างไรก็ดี คงต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในคืนนี้ ว่าจะมีการกล่าวถึงทิศ

 

ทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไว้อย่างไรบ่าง

"ในส่วนของผลประชุม FOMC คืนนี้เชื่อว่าจะไม่มีผลต่อตลาดมาก เพราะไม่ได้คาดการณ์ว่าจะขึ้นดอกเบี้ย แต่สิ่งที่จะเป็น

 

ตัว drive ตลาด คือ statement ที่จะออกมาว่าจะมีการพูดถึงการคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐอย่างไร" นักบริหารเงินระบุ

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.40- 33.55 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.94 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 111.42 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1641 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1654 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.4460 บาท/

 

ดอลลาร์

- รมว.คลัง สั่ง สบน.เร่งปิดความเสี่ยงค่าเงินของหนี้สาธารณะต่างประเทศ มองโอกาสค่าบาทแข็งอำนวย พร้อมเร่ง

 

สวอปหนี้สกุลเงินต่างประเทศเป็นบาทแทน คาดคืบหน้าภายใน 2 เดือน ด้าน สศค.จี้ธนาคารช่วยเอสเอ็มอีปิดความเสี่ยงอัตราแลก

 

เปลี่ยน

- ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 26 เดือน ซึ่งแข็งค่าสุดในภูมิภาคอาเซียน

 

และแข็งค่าเป็นอันดับสองของทวีปเอเชียว่า กระทรวงการคลังได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ค่าเงินบาทร่วมกับธนาคารแห่งประเทศ

 

ไทย (ธปท.) มาแล้ว โดยยืนยันว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจภายในประเทศแย่หรือมีปัญหา แต่มาจากค่า

 

เงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ทำให้ค่าเงินบาท รวมถึงค่าเงินอื่นในภูมิภาคแข็งค่าขึ้นมา

 

- รัฐบาลกรีซ แถลงว่ารัฐบาลสามารถระดมเงินได้ 3 พันล้านยูโร (3.5 พันล้านดอลลาร์) จากการจำหน่ายพันธบัตร

 

เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี ซึ่งการเสนอขายพันธบัตรรัฐบาลกรีซในครั้งนี้ได้รับการจองซื้อจากนักลงทุนมากกว่าที่เสนอขายถึง 2

 

เท่า อีกทั้งนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ซื้อพันธบัตรเป็นนักลงทุนระดับโลกไม่ใช่นักเก็งกำไรระยะสั้น

 

- ผลสำรวจของ Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 121.1 ในเดือน

 

ก.ค. จากระดับ 117.3 ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวสู่ระดับ 117.0 ขณะที่ผลสำรวจของสแตนดาร์ด

 

แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.6% ในเดือนพ.ค.

 

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักบางสกุล ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ก.

 

ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งเปิดฉากขึ้นเมื่อวานนี้และจะเสร็จสิ้นลงใน

 

วันนี้ตามเวลาสหรัฐ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ย ขณะที่สกุล

 

เงินยูโรแข็งค่าขึ้น ภายหลังจาก Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำของเยอรมนีเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของ

 

เยอรมนีพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค.

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 111.82 เยน จากระดับ 111.12 เยน ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์

 

สหรัฐ ที่ระดับ 1.1649 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1641 ดอลลาร์

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่การประชุม

 

ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้ส่งผลให้

 

บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา

- นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย., ดุลการค้าเดือน

 

มิ.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย. และ

 

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2684560

 

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งขึ้น ขานรับดาวโจนส์พุ่ง-ราคาน้ำมันปรับขึ้น,จับตา SCC ประกาศงบฯ Q2/60

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 26 กรกฎาคม 2560 09:45:59 น.

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งซิกแซกขึ้น เนื่องจากดัชนีดาวโจนส์ได้ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา จากรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯที่ออกมาดี และราคาน้ำมันก็ปรับตัวขึ้น 2 วันติดต่อกันด้วย หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียจะลดการส่งออกน้ำมันให้ไม่เกิน 6.6 ล้านบาร์เรล/วัน และไนจีเรียก็จะเข้าร่วมการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันด้วย

 

 

 

ส่วนในประเทศก็ได้รับแรงหนุนจากการเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ และแผนพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ทำให้ช่วยหนุนภาคการลงทุน พร้อมให้ติดตามการประกาศผลประกอบการของ SCC ในวันนี้ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็ให้จับตาเรื่องการปรับลดงบดุลของสหรัฐฯจะเกิดขึ้นได้เมื่อไร

 

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะบวกราว 0.1-0.2% พร้อมให้แนวรับ 1,574 จุด ส่วนแนวต้าน 1,584-1,585 ถัดไป 1,590 จุด

 

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (25 ก.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,613.43 จุด พุ่งขึ้น 100.26 จุด (+0.47%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,412.17 จุด เพิ่มขึ้น 1.37 จุด (+0.02%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,477.13 จุด เพิ่มขึ้น 7.22 จุด (+0.29%)

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 142.94 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.77 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 108.76 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 14.00 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 6.92 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8.93 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.70 จุด

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ก.ค.60) 1,581.42 จุด เพิ่มขึ้น 4.69 จุด (+0.30%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,597.37 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ก.ค.60

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 ก.ค.60) ปิดที่ 47.89 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.55 ดอลลาร์ หรือ 3.3%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ก.ค.60) ที่ 7.44 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

 

- เงินบาทเปิด 33.46 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ ตลาดรอติดตามถ้อยแถลงเฟดภายหลังการประชุม

- ครม.ไฟเขียวโครงการรถไฟฟ้าสีม่วงใต้ เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ แสนล้านบาท รฟม.เตรียมหั่นสัญญางานโยธา 5 สัญญา เปิดประมูลเดือนต.ค. นี้ คมนาคมศึกษาการรวบสัญญางานโยธาและเดินรถสายสีส้ม ประมูลแบบพีพีพี หวังลดภาระรัฐบาล

 

- กระทรวงคลัง ฉวยจังหวะ "บาทแข็ง" บริหารการเงิน เร่งคืนหนี้ต่างประเทศ พร้อมวางแผนโยกหนี้นอกเป็นสกุลเงินบาท หาแนวทางช่วยเหลือ "เอสเอ็มอี" เข้าถึงการประกันเสี่ยงค่าเงิน จี้แบงก์พาณิชย์เว้นค่าฟีให้ลูกค้า ด้าน ธปท. ยังเกาะติด สถานการณ์ใกล้ชิด ยอมรับเงินบาทแข็งเร็ว จากดอลลาร์อ่อน "เอฟดีไอ" ไหลเข้า

 

- บริษัทจดทะเบียน (บจ.) 2 รายที่ทำธุรกิจส่งออกและผลิตยางพารา รายใหญ่ของประเทศ คือ ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (TRUBB) และบริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ได้เข้าร่วมกันเพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนยางพาราไทย ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 1,200 ล้านบาท ซึ่งบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อกำหนดมาตรการขับเคลื่อนการสร้างเสถียรภาพราคายาง

 

- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2560 อนุมัติ ค่าใช้จ่ายตามแผนการพัฒนา สนามบิน อู่ตะเภาและท่าเรือพาณิชย์ สัตหีบ จำนวน 760.77 ล้านบาท ในส่วนของงบกลางปี 2560 เพื่อรองรับโครงการสำคัญภายใต้แผนงานพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก

 

- นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้คาดว่าธุรกิจประกันชีวิตยังมีเบี้ยรับรวมเติบโตประมาณ 6% ตามเป้าที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ที่ลูกค้าจะซื้อประกันเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีมากขึ้น และหากรัฐบาลเพิ่มสิทธิลดหย่อนภาษีให้กับผู้ที่ซื้อประกันสุขภาพอีก ก็จะยิ่งกระตุ้นการซื้อประกันชีวิตมากขึ้นอีก

 

- 'อภิศักดิ์' สั่ง สบน.เร่งปิดความเสี่ยงค่าเงินของหนี้สาธารณะต่างประเทศ มองโอกาสค่าบาทแข็งอำนวย พร้อมเร่งสวอปหนี้สกุลเงินต่างประเทศเป็นบาทแทน คาดคืบหน้าภายใน 2 เดือน

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- QH (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 3.40 บาท คาดการณ์ยอด Presales ใน 2Q60 อยู่ที่ราว 3.6 พันล้านบาท (+20% QoQ) จากการเปิดโครงการใหม่เพียง 1 โครงการ และคาดการณ์กำไรสุทธิอยู่ที่ 715 ล้านบาท (+9.6% QoQ, -20% YoY) โดยอัตราการทำกำไรยังคงถูกกดดันจากการโอนโครงการในต่างจังหวัดและโครงการที่ใกล้ปิดเป็นหลัก แต่ 2H60 มองว่าจะมีการเติบโตที่โดดเด่น จากการเปิดโครงการใหม่อีก 7 โครงการและการรับรู้กำไรพิเศษจากดีล LHBANK ใน 3Q60

 

- BEAUTY (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 15 บาท ราคาหุ้นที่ยัง Laggard ตลาดอยู่ 4% ตั้งแต่ต้นปีขณะที่คาดกำไร 2Q60 มีจะทำจุดสูงสุดใหม่ ที่ 218 ล้านบาท +57% y-y และ +9% q-q และ PEG ที่ 0.9x ต่ำกว่ากลุ่มที่ 1.4x ทางเทคนิค Breakout downtrend เป้าหมาย 12.3 บาท

 

- SEAFCO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 16.60 บาท ผู้นำงานก่อสร้างฐานรากที่ได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนลำดับแรกๆ แม้คาดกำไร 2Q60 ชะลอตามฤดูกาล แต่งานในมือที่เป็นสถิติสูงสุดใหม่ 2.1 พันล้านบาท จะทำให้การรับรู้รายได้เร่งตัวขึ้น 2H60 คาดกำไรปีนี้โต 47% Y-Y และโตต่อเนื่องอีก 23% Y-Y ในปีหน้า

 

- MACO (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อ" เป้า 1.92 บาท อิง P/E 27.9 เท่า สอดรับกำไรปกติที่จะขยายตัว +31% CAGR 4 ปีข้างหน้านี้ โดยการฟื้นตัวที่เร็วกว่ากลุ่ม เกิดจากการปรับลดต้นทุนค่าเช่าป้ายลงอย่างมีนัยสำคัญ และการได้ Revenue Capacity ใหม่อีก 31% ทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ ซึ่งทำให้ส่วนแบ่งตลาดจะพุ่งขึ้นเป็น 35% สูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศอย่างเด็ดขาด ขณะที่การปรับเป้า GDP โดย ธปท. ยังส่งสัญญาณบวกต่อกลุ่มสื่อฯ โดยเฉพาะสื่อกลางแจ้ง (Out of Home Media/ Outdoor) ซึ่ง YTD เติบโตแกร่ง +16.3% YoY vs อุตสาหกรรมที่ยังติดลบ -7.1% YoY พร้อมคาดว่า กำไรปกติของ MACO จะเริ่มเข้าสู่โหมดเร่งอย่างเร็วตั้งแต่ 2Q60 หลัง CEO ใหม่ใช้กลยุทธ์ในระยะแรกด้วยการลดค่าใช้จ่ายอย่างรวดเร็ว

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2684580

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 100.26 จุด รับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 26 กรกฎาคม 2560 06:41:41 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึง แคทเธอร์พิลลาร์ และแมคโดนัลด์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งได้แก่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนีราคาบ้าน

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,613.43 จุด พุ่งขึ้น 100.26 จุด หรือ +0.47% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,477.13 จุด เพิ่มขึ้น 7.22 จุด หรือ +0.29% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,412.17 จุด เพิ่มขึ้น 1.37 จุด หรือ +0.02%

 

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ได้เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยแคทเธอร์ พิลลาร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องมือก่อสร้างขนาดใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 1.49 ดอลลาร์/หุ้น ในไตรมาส 2 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.26 ดอลลาร์/หุ้น ส่วนรายได้อยู่ที่ระดับ 1.133 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.093 หมื่นล้านดอลลาร์

 

ทางด้านบริษัทแมคโดนัลด์ คอร์ป รายงานว่า บริษัทมีกำไรที่ระดับ 1.70 ดอลลาร์/หุ้น ในไตรมาส 2 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 1.62 ดอลลาร์/หุ้น ส่วนรายได้อยู่ที่ระดับ 6.05 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 5.96 พันล้านดอลลาร์

 

ขณะที่เจเนอรัล มอเตอร์ (GM) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 1.89 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 2 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.69 ดอลลาร์/หุ้น อย่างไรก็ตาม รายได้อยู่ที่ระดับ 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.03 หมื่นล้านดอลลาร์

 

ทั้งนี้ หุ้นแมคโดนัลด์ พุ่งขึ้น 4.8% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ทะยานขึ้น 5.9%

หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน พุ่งขึ้น 15% หลังจากบริษัทสามารถพลิกกลับมาทำกำไรได้ในไตรมาส 2

 

หุ้นไมเคิล คอร์ส ขยับขึ้น 0.5% ขณะที่หุ้นจิมมี ชู ทะยานขึ้น 17% หลังจากไมเคิล คอร์ส ผู้ผลิตกระเป๋าและสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง ได้ตกลงเทคโอเวอร์กิจการของจิมมี ชู ผู้ผลิตรองเท้าและเครื่องประดับสุดหรู ด้วยวงเงินสูงถึง 896 ล้านปอนด์ หรือ 1.17 พันล้านดอลลาร์

 

หุ้น 3M ร่วงลง 5.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ไตรมาส 2 ที่น้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

 

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้ปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยผลสำรวจของ Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 121.5 ในเดือนมิ.ย. ยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 116.5 ขณะที่ผลสำรวจของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.6% ในเดือนพ.ค.

 

นักลงทุนจับตาบริษัทจดทะเบียนราว 180 แห่งในดัชนี S&P 500 จะประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเฟซบุ้ก, โบอิ้ง และอเมซอน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจดทะเบียนจะมีการขยายตัวของผลประกอบการเฉลี่ย 6.2%

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธที่ 26 ก.ค.ตามเวลาสหรัฐ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการ FOMC จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา

 

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย., ดุลการค้าเดือนมิ.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2684337

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเทียบเงินบางสกุล ขณะตลาดจับตาการประชุมเฟด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 26 กรกฎาคม 2560 07:26:40 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักบางสกุล ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งเปิดฉากขึ้นเมื่อวานนี้และจะเสร็จสิ้นลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ย ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น ภายหลังจาก Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำของเยอรมนีเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค.

 

 

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 111.82 เยน จากระดับ 111.12 เยน แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9513 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9459 ฟรังก์สวิส และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2518 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2510 ดอลลาร์แคนาดา

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1649 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1641 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์ทรงตัวที่ระดับ 1.3034 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7936 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7922 ดอลลาร์

 

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.09% สู่ระดับ 94.058 เมื่อคืนนี้

 

ดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยหนุนบางส่วนจากข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดย Conference Board เปิดเผยผลสำรวจว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 121.1 ในเดือนก.ค. จากระดับ 117.3 ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวสู่ระดับ 117.0 ขณะที่ผลสำรวจของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.6% ในเดือนพ.ค.

 

นักลงทุนยังจับตาการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธที่ 26 ก.ค.ตามเวลาสหรัฐ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการ FOMC จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา

 

ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นจากข้อมูลความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี โดย Ifo เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 116.0 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 115.2 ในเดือนมิ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 114.9

 

นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย., ดุลการค้าเดือนมิ.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2684352

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จีน-ฟิลิปปินส์ เล็งจับมือขุดสำรวจทรัพยากรในทะเลจีนใต้

นายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน และนายอลัน ปีเตอร์ เคย์ตาโน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของฟิลิปปินส์ ได้หารือเรื่องการขุดสำรวจทะเลจีนใต้ร่วมกัน ขณะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ณ กรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ เมื่อวันอังคาร (25 ก.ค.) ที่ผ่านมา

เคย์ตาโนกล่าวว่าภายใต้การบริหารประเทศของสองผู้นำฟิลิปปินส์-จีนคนปัจจุบัน ทั้งสองประเทศย่อมสามารถหาหนทางอันเหมาะสมในการขุดสำรวจทะเลจีนใต้ ด้วยเป้าหมายเสริมสร้างประโยชน์แก่ประชาชนของทั้งสองฝ่าย

ด้านรัฐมนตรีจีนระบุว่า ในน่านน้ำที่เกิดปัญหาสิทธิและผลประโยชน์ทับซ้อนกันนั้น หากฝ่ายหนึ่งดำเนินการพัฒนาแต่ผู้เดียว ฝ่ายอื่นๆ ก็พลอยกระทำตามแบบเดียวกัน นั่นอาจทำให้สถานการณ์ยิ่งยุ่งยากซับซ้อนจนนำไปสู่ความตึงเครียด หยั่งผลให้ไม่มีใครได้พัฒนาแหล่งทรัพยากรอันมีค่า

หวังชี้ว่าการขุดสำรวจร่วมกันไม่ได้มีผลกระทบหรือเกี่ยวข้องกับระบบกฎหมายของทั้งสองประเทศ แต่เกี่ยวพันกับการเห็นพ้องต้องกันในกฎระเบียบพื้นฐานและการจัดการซึ่งทั้งสองฝ่ายยินยอมรับ

“ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและฟิลิปปินส์ได้พัฒนาอย่างมีนัยยะ และการที่ทั้งสองฝ่ายตัดสินใจสร้างผลประโยชน์เพื่อประชาชนก็เป็นสิ่งจำเป็น” หวังกล่าว

20376134_1953574701525209_5522539074728108685_n.jpg?oh=b05ff723d5a4ec271efa522e923d1766&oe=5A026062

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

20246132_1744252702266494_3720856292038197396_n.jpg?oh=3e6a18ab2dbae4c27368abcc5d8da1e3&oe=5A05AE37

รัฐบาลขอเชิญประชาชนมาร่วมสวดมนต์ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๐ เพื่อแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๗.๐๐ น. ณ พระลานพระราชวังดุสิต

.

ทั้งนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพิมพ์หนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์ พระราชทานแก่ผู้เข้าร่วมพิธี และสามารถดาวน์โหลดบทเจริญพระพุทธมนต์ ได้จากเว็บไซต์กรมประชาสัมพันธ์www.prd.go.th พร้อมรับชมรับฟังการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

<p><span style="font-size:18px;">World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม 2560 07:36:26 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 ก.ค.2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันเฟดส่งสัญญาณว่าจะเริ่มปรับลดงบดุลในเดือนก.ย. หากเศรษฐกิจปรับตัวตามที่เฟดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนยักษ์ใหญ่ ซึ่งรวมถึง โคคา โคล่า และโบอิ้ง

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,711.01 จุด เพิ่มขึ้น 97.58 จุด หรือ +0.45% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,477.83 จุด เพิ่มขึ้น 0.70 จุด หรือ +0.03% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,422.75 จุด เพิ่มขึ้น 10.57 จุด หรือ +0.16%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึง เดมเลอร์ เอจี ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งคณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยผลการประชุมภายหลังจากที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการแล้ว

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.5% ปิดที่ 382.74 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,305.11 จุด เพิ่มขึ้น 40.80 จุด หรือ +0.33% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,452.32 จุด เพิ่มขึ้น 17.50 จุด หรือ +0.24% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,190.17 จุด เพิ่มขึ้น 29.09 จุด หรือ +0.56%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) ด้วยปัจจัยหนุนจากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่อย่างไอทีวี นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลตัวเลขจีดีพีของสหราชอาณาจักรในไตรมาส 2 ที่ขยายตัวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 17.50 จุด หรือ +0.24% ปิดที่ 7,452.32 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) โดยสัญญาน้ำมันปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 48.75 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 77 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 50.97 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยคณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยผลการประชุมหลังจากที่ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการแล้ว

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 2.70 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ระดับ 1,249.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 8.3 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 16.459 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 9.10 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 922.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 5.95 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 862.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) ภายหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเมื่อวานนี้

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1700 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1649 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3094 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3034 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7972 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7936 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.44 เยน จากระดับ 111.82 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9530 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9513 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,422.75 จุด เพิ่มขึ้น 10.57 จุด, +0.16%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 21,711.01 จุด เพิ่มขึ้น 97.58 จุด, +0.45%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,477.83 จุด เพิ่มขึ้น 0.70 จุด, +0.03%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,305.11 จุด เพิ่มขึ้น 40.80 จุด, +0.33%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,190.17 จุด เพิ่มขึ้น 29.09 จุด, +0.56%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,452.32 จุด เพิ่มขึ้น 17.50 จุด, +0.24%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 32,382.46 จุด เพิ่มขึ้น 154.19 จุด, +0.48%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,336.72 จุด เพิ่มขึ้น 8.89 จุด, +0.27%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,766.00 จุด เพิ่มขึ้น 2.66 จุด, +0.15%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,800.21 จุด ลดลง 13.33 จุด, -0.23%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 26,941.02 จุด เพิ่มขึ้น 88.97 จุด, +0.33%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 773.88 จุด เพิ่มขึ้น 6.61 จุด, +0.86%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 8,037.51 จุด เพิ่มขึ้น 65.79 จุด, +0.83%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,247.67 จุด เพิ่มขึ้น 3.98 จุด, +0.12%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม 2560 07:36:26 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 ก.ค.2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันเฟดส่งสัญญาณว่าจะเริ่มปรับลดงบดุลในเดือนก.ย. หากเศรษฐกิจปรับตัวตามที่เฟดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนยักษ์ใหญ่ ซึ่งรวมถึง โคคา โคล่า และโบอิ้ง

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,711.01 จุด เพิ่มขึ้น 97.58 จุด หรือ +0.45% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,477.83 จุด เพิ่มขึ้น 0.70 จุด หรือ +0.03% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,422.75 จุด เพิ่มขึ้น 10.57 จุด หรือ +0.16%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึง เดมเลอร์ เอจี ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งคณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยผลการประชุมภายหลังจากที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการแล้ว

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.5% ปิดที่ 382.74 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,305.11 จุด เพิ่มขึ้น 40.80 จุด หรือ +0.33% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,452.32 จุด เพิ่มขึ้น 17.50 จุด หรือ +0.24% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,190.17 จุด เพิ่มขึ้น 29.09 จุด หรือ +0.56%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) ด้วยปัจจัยหนุนจากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่อย่างไอทีวี นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลตัวเลขจีดีพีของสหราชอาณาจักรในไตรมาส 2 ที่ขยายตัวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 17.50 จุด หรือ +0.24% ปิดที่ 7,452.32 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) โดยสัญญาน้ำมันปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 48.75 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 77 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 50.97 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยคณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยผลการประชุมหลังจากที่ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการแล้ว

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 2.70 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ระดับ 1,249.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 8.3 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 16.459 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 9.10 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 922.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 5.95 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 862.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) ภายหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเมื่อวานนี้

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1700 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1649 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3094 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3034 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7972 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7936 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.44 เยน จากระดับ 111.82 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9530 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9513 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,422.75 จุด เพิ่มขึ้น 10.57 จุด, +0.16%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 21,711.01 จุด เพิ่มขึ้น 97.58 จุด, +0.45%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,477.83 จุด เพิ่มขึ้น 0.70 จุด, +0.03%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,305.11 จุด เพิ่มขึ้น 40.80 จุด, +0.33%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,190.17 จุด เพิ่มขึ้น 29.09 จุด, +0.56%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,452.32 จุด เพิ่มขึ้น 17.50 จุด, +0.24%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 32,382.46 จุด เพิ่มขึ้น 154.19 จุด, +0.48%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,336.72 จุด เพิ่มขึ้น 8.89 จุด, +0.27%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,766.00 จุด เพิ่มขึ้น 2.66 จุด, +0.15%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,800.21 จุด ลดลง 13.33 จุด, -0.23%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 26,941.02 จุด เพิ่มขึ้น 88.97 จุด, +0.33%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 773.88 จุด เพิ่มขึ้น 6.61 จุด, +0.86%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 8,037.51 จุด เพิ่มขึ้น 65.79 จุด, +0.83%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,247.67 จุด เพิ่มขึ้น 3.98 จุด, +0.12%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,434.51 จุด ลดลง 5.39 จุด, -0.22%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,776.60 จุด เพิ่มขึ้น 50.00 จุด, +0.87%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,823.30 จุด เพิ่มขึ้น 48.00 จุด, +0.83%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,050.16 จุด เพิ่มขึ้น 94.96 จุด, +0.48%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,419.11 จุด ลดลง 44.04 จุด, -0.42%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2685122

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่าเทียบเงินสกุลหลัก หลังเฟดมีมติคงดอกเบี้ย

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม 2560 06:57:11 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) ภายหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเมื่อวานนี้

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1700 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1649 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3094 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3034 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7972 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7936 ดอลลาร์

 

 

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.44 เยน จากระดับ 111.82 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9530 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9513 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.33% สู่ระดับ 93.739 เมื่อคืนนี้

 

สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ภายหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ตามคาด ขณะเดียวกันเฟดได้ส่งสัญญาณที่จะเริ่มปรับลดงบดุลในเดือนก.ย. จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์

 

แถลงการณ์เฟดระบุว่า "ทางคณะกรรมการคาดหวังว่าจะเริ่มทำการปรับงบดุลเข้าสู่ภาวะปกติ 'ในไม่ช้า' โดยขึ้นอยู่กับว่าเศรษฐกิจจะปรับตัวตามที่เฟดคาดการณ์ไว้"

 

ทั้งนี้ เฟดได้เปลี่ยนแปลงการใช้ถ้อยคำในแถลงการณ์จากเดิมที่ใช้คำว่า 'ในปีนี้' เป็น 'ในไม่ช้า' ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า เป็นการบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับลดงบดุลในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งต่อไป

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้นั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนมิ.ย. โดยเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 610,000 ยูนิต ขณะที่สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองเพิ่มขึ้นเพียง 0.4% ในสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ได้ปรับตัวลง

 

นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่สำคัญของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง ดุลการค้าเดือนมิ.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ โดยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลมีงบประมาณเพียงพอแค่ถึงเดือนก.ย. จึงขอเรียกร้องให้สภาคองเกรสเพิ่มเพดานหนี้ ก่อนที่จะปิดสมัยประชุมในเดือนหน้า เพื่อให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ พร้อมระบุว่า สถานการณ์ในขณะนี้กำลังส่งผลกระทบต่อเงินของผู้เสียภาษีสหรัฐ ซึ่งอาจต้องแบกรับค่าใช้จ่ายด้านอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และสร้างความผันผวนต่อตลาดการเงิน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง โทร.02-2535000 อีเมล์: kompathit.s@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2684970

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 97.58 จุด รับเฟดมีมติคงดอกเบี้ย,ผลประกอบการแข็งแกร่ง

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม 2560 06:17:29 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันเฟดส่งสัญญาณว่าจะเริ่มปรับลดงบดุลในเดือนก.ย. หากเศรษฐกิจปรับตัวตามที่เฟดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนยักษ์ใหญ่ ซึ่งรวมถึง โคคา โคล่า และโบอิ้ง

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,711.01 จุด เพิ่มขึ้น 97.58 จุด หรือ +0.45% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,477.83 จุด เพิ่มขึ้น 0.70 จุด หรือ +0.03% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,422.75 จุด เพิ่มขึ้น 10.57 จุด หรือ +0.16%

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดทำนิวไฮ หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ตามคาด ขณะเดียวกันเฟดได้ส่งสัญญาณที่จะเริ่มปรับลดงบดุลในเดือนก.ย. จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์

 

"ทางคณะกรรมการคาดหวังว่าจะเริ่มทำการปรับงบดุลเข้าสู่ภาวะปกติ 'ในไม่ช้า' โดยขึ้นอยู่กับว่าเศรษฐกิจจะปรับตัวตามที่เฟดคาดการณ์ไว้" แถลงการณ์ระบุ

 

ทั้งนี้ เฟดได้เปลี่ยนแปลงการใช้ถ้อยคำในแถลงการณ์จากเดิมที่ใช้คำว่า 'ในปีนี้' เป็น 'ในไม่ช้า' ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า เป็นการบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับลดงบดุลในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งต่อไป

 

แถลงการณ์ของเฟดในการประชุมเมื่อวานนี้ยังระบุว่า การปรับตัวของเศรษฐกิจจะสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่เฟดจะยังคงใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ส่วนความเสี่ยงในระยะใกล้นั้น เฟดระบุว่ายังคงมีความสมดุล โดยเศรษฐกิจมีการขยายตัวปานกลางในปีนี้ ขณะที่ตลาดแรงงานมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้อในระยะใกล้ยังคงปรับตัวอยู่ต่ำกว่าระดับ 2%

 

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของสหรัฐ โดยบริษัทโบอิ้งเปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไร 2.55 ดอลลาร์/หุ้น ในไตรมาส 2 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.30 ดอลลาร์/หุ้น ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นโบอิ้งปิดตลาดพุ่งขึ้นเกือบ 10%

 

ด้านบริษัทโคคา โคล่า เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรที่ระดับ 59 เซนต์/หุ้น ในไตรมาส 2 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะหี่ 57 เซนต์/หุ้น ส่วนรายได้อยู่ที่ 9.702 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าการคาดการณ์ที่ระดับ 9.652 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้หุ้นโคคา โคล่า ปิดตลาดปรับตัวขึ้น 1.1%

 

ขณะที่บริษัทฟอร์ด มอเตอร์ รายงานว่าบริษัทมีกำไร 56 เซนต์/หุ้น ในไตรมาส 2 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 43 เซนต์/หุ้น ส่วนรายได้อยู่ที่ 3.99 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 3.71 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ปิดตลาดอ่อนแรงลง 1.9%

 

ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดและมีผลต่อความเคลื่อนไหวในตลาดเมื่อคืนนั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนมิ.ย. โดยเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 610,000 ยูนิต ขณะที่สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองเพิ่มขึ้นเพียง 0.4% ในสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ได้ปรับตัวลง

 

นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่สำคัญของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง ดุลการค้าเดือนมิ.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ โดยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลมีงบประมาณเพียงพอแค่ถึงเดือนก.ย. จึงขอเรียกร้องให้สภาคองเกรสเพิ่มเพดานหนี้ ก่อนที่จะปิดสมัยประชุมในเดือนหน้า เพื่อให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ พร้อมระบุว่า สถานการณ์ในขณะนี้กำลังส่งผลกระทบต่อเงินของผู้เสียภาษีสหรัฐ ซึ่งอาจต้องแบกรับค่าใช้จ่ายด้านอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และสร้างความผันผวนต่อตลาดการเงิน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2684965

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ 2.70 ดอลลาร์ ก่อนตลาดรู้ผลประชุมเฟด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม 2560 07:23:34 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยคณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยผลการประชุมหลังจากที่ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการแล้ว

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 2.70 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ระดับ 1,249.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 8.3 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 16.459 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 9.10 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 922.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 5.95 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 862.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา โดยสัญญาทองคำปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟด

 

ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว ตลาดทองคำนิวยอร์กจะปิดทำการไปก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยผลการประชุม

 

นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ รวมทั้งข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำในสินทรัพย์เสี่ยง

 

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนมิ.ย. โดยเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 610,000 ยูนิต

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่สำคัญของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง ดุลการค้าเดือนมิ.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2684982

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 86 เซนต์ หลังสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม 2560 06:33:40 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) โดยสัญญาน้ำมันปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 48.75 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 77 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 50.97 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ หลังจากรายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 7.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2.6 ล้านบาร์เรล และเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกันสัปดาห์ที่ 4

 

ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล มากกว่านักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 614,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 453,000 บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบยังได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลงนั้น จะส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบมีมูลค่าที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

 

นักวิเคราะห์กล่าวว่า สถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองและภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนในเวเนซุเอลา อาจส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในประเทศ โดยขณะนี้กลุ่มแรงงานเตรียมผละงานประท้วงเพื่อกดดันให้ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ยกเลิกการเลือกตั้งที่กำหนดมีขึ้นในสุดสัปดาห์นี้

 

ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ซาอุดิอาระเบียระบุว่าจะลดการส่งออกน้ำมัน สู่ระดับ 6.6 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนหน้า ซึ่งเป็นการลดการส่งออกลงเกือบ 1 ล้านบาร์เรล/วันเมื่อเทียบกับระดับในช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว ขณะที่ไนจีเรียจะเข้าร่วมการปรับลดกำลังการผลิต หลังจากที่ได้รับการยกเว้นจากข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมัน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2684966

 

*(เพิ่มเติม)เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด ขณะส่งสัญญาณลดงบดุลในเดือนก.ย.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม 2560 01:47:12 น.

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมวันนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้

 

นอกจากนี้ ในแถลงการณ์หลังการประชุม เฟดได้ส่งสัญญาณที่จะเริ่มปรับลดงบดุลในเดือนก.ย. จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์

 

 

 

"ทางคณะกรรมการคาดหวังว่าจะเริ่มทำการปรับงบดุลเข้าสู่ภาวะปกติ'ในไม่ช้า' โดยขึ้นอยู่กับว่าเศรษฐกิจจะปรับตัวตามที่เฟดคาดการณ์ไว้" แถลงการณ์ระบุ

 

ทั้งนี้ เฟดได้เปลี่ยนแปลงการใช้ถ้อยคำในแถลงการณ์จากเดิมที่ใช้คำว่า 'ในปีนี้' เป็น 'ในไม่ช้า' ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า เป็นการบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับลดงบดุลในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งต่อไป หลังจากเฟดเสร็จสิ้นการประชุมในวันนี้

 

การปรับลดงบดุลของเฟด จะส่งผลให้เฟดลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ที่เฟดได้เข้าซื้อในตลาดในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2007-2009 เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจในขณะนั้น

 

ในการประชุมเดือนมิ.ย. เฟดเปิดเผยแผนการลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และ MBS เป็นมูลค่ารวม 1 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ก่อนที่จะเพิ่มวงเงินการลดงบดุลเป็น 5 หมื่นล้านดอลลาร์/ไตรมาส

 

คาดว่าเมื่อเฟดทำการลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และ MBS ตามเป้าที่วางไว้ จะส่งผลให้งบดุลของเฟดลดลงสู่ระดับ 2.0-2.5 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์

 

ทั้งนี้ เฟดได้ถือครองสินทรัพย์จำนวนมากในช่วงที่ดำเนินการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เป็นจำนวน 3 รอบเพื่อกระตุ้นการลงทุน และการจ้างงานในช่วงที่สหรัฐเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ และภาวะถดถอย

 

ขณะเดียวกัน แถลงการณ์เฟดในวันนี้ระบุว่า การปรับตัวของเศรษฐกิจจะสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่เฟดจะยังคงใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย

 

เฟดระบุว่าความเสี่ยงในระยะใกล้ยังคงมีความสมดุล โดยเศรษฐกิจมีการขยายตัวปานกลางในปีนี้ ส่วนตลาดแรงงานมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง ขณะที่อัตราการว่างงานลดลง และอัตราเงินเฟ้อในระยะใกล้ยังคงปรับตัวอยู่ต่ำกว่าระดับ 2%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2684962

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายกฯ เผยยังไม่มีการยึดทรัพย์ยิ่งลักษณ์ ต้องรอผลศาลตัดสิน

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 26 กรกฎาคม 2560 14:46:42 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีหน่วยราชการเตรียมความพร้อมเรื่องการยึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้เป็นขั้นตอนการเตรียมงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนและถูกต้องก่อน แต่จะต้องรอผลทางคดีออกมาก่อนจึงจะสามารถดำเนินการได้

 

 

 

"ผมยังไม่ได้บอกว่าเขาผิด จนกว่าศาลตัดสินถึงจะดำเนินการได้ ไม่ใช่ตั้งใจจะไปยึดเขาก่อน เป็นการเตรียมการของทางราชการ เขาทำงานกันแบบนี้..ถ้าไม่ผิดก็จบ จะไปยึดอะไรก็ไม่ได้ เป็นการเตรียมความพร้อมเท่านั้นเอง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ทางกรมบังคับคดีได้ชี้แจงข้อมูลเรื่องนี้ให้สาธารณชนได้เข้าใจ และหากยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องก็ไม่ควรที่จะออกมาให้ข่าว เพราะอาจถูกมองว่าต้องการที่จะกลั่นแกล้ง

 

--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2684809

 

 

 

ขุนคลังสหรัฐวอนคองเกรสปรับเพิ่มเพดานหนี้ ก่อนปิดสมัยประชุมเดือนหน้า

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม 2560 00:02:20 น.

นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ เรียกร้องให้สภาคองเกรสปรับเพิ่มเพดานหนี้ ก่อนที่จะปิดสมัยประชุมในเดือนหน้า

 

"จากการประเมินของเราพบว่า รัฐบาลมีงบประมาณเพียงพอถึงเดือนก.ย. แต่ผมขอเรียกร้องให้สภาคองเกรสเพิ่มเพดานหนี้ก่อนที่จะปิดสมัยประชุม" นายมนูชินกล่าวต่อคณะอนุกรรมการจัดสรรงบประมาณประจำวุฒิสภา

 

นายมนูชินกล่าวว่า การรักษาความน่าเชื่อถือของสหรัฐถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญสูงสุด และสหรัฐจะต้องชำระหนี้อย่างตรงเวลา

 

นายมนูชินเตือนว่า สถานการณ์ในขณะนี้กำลังส่งผลกระทบต่อเงินของผู้เสียภาษีสหรัฐ ซึ่งอาจต้องแบกรับค่าใช้จ่ายด้านอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และสร้างความผันผวนต่อตลาดการเงิน

 

ทั้งนี้ ตลาดพันธบัตรระยะสั้นของสหรัฐกำลังเกิดความวิตกว่ากระทรวงการคลังอาจใช้จ่ายงบประมาณจนหมดในกลางเดือนต.ค. ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรพุ่งขึ้น และทำให้นักลงทุนลดความต้องการเข้าประมูลพันธบัตรอายุ 3 เดือน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2684958

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า27-JUL-2017/

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า27-JUL-2017

AUSIRIS.CO.TH

'สุทิน'แฉเหลี่ยม'ยิ่งลักษณ์' จงใจบิดเบือน'บัญชีถูกถอน'

27 ก.ค.60 นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวอาวุโส และคอลัมนิสต์ชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว 'Sutin Wannabovorn' โพสต์แสดงความคิดเห็น ถึง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเป็นภาษาอังกฤษในสื่อออนไลน์ ว่า จงใจหลอกลวงหรือใช้ภาษาผิด

NAEWNA.COM

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

Ausiris Gold Investment was live.

50 mins คลิป·

ราคาทองวันนี้ 27 ก.ค. 2560

รายการวิเคราะห์ราคาทอง 1 นาที...สด

#ราคาทอง

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.37 ก่อนแข็งค่าต่อมาที่ 33.33 ทำสถิติใหม่ในรอบ 26 เดือน มองกรอบ 33.30-33.40

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม 2560 09:13:04 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.37 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า

 

 

 

จากวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.46 บาท/ดอลลาร์ ล่าสุดเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องลงมาอยู่ที่ 33.33 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าสุดในรอบ

 

26 เดือน นับตั้งแต่พ.ค.58 ที่อยู่ที่ระดับ 33.20 กว่าๆ

"ดอลลาร์โดนเทขายเมื่อเทียบทุกสกุล หลังเฟดให้ความเห็นเรื่องเงินเฟ้อที่ต่ำลง และสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยในการประ

 

ชุมเดือนธ.ค.อาจจะไม่แน่นอนแล้ว" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.30 - 33.40 บาท/ดอลลาร์

"ปัจจัยต่อไปคือวันพรุ่งนี้ที่เราหยุดสหรัฐฯจะมีประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 2 ซึ่งน่าจะมีความสำคัญต่อตลาด"นัก

 

บริหารเงิน กล่าว

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2685190

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ Gold Futures Glitter Gold

ประจำช่วง Night Session

วันที่ 27 กรกฎคม 2560

SPDR ยังไม่หยุดขาย

ตลาดทองคำเปิดตลาดเอเชียในภาคเช้าที่บริเวณ 1,262.41 USD/toz ยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นต่อแต่ถือว่าไม่มากเท่าใด ส่วนหนึ่งเรามองว่าได้รับประโยชน์จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยังคงเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 13 เดือนหลังนักลงทุนรับข่าวธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.00%-1.25% ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบก็เพิ่มขึ้นหลังสหรัฐฯ ประกาศปริมาณน้ำมันคงคลุงลดลงกว่าที่ตลาดคาดการณ์อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสะท้อนต้นทุนทางการผลิตและค่าครองชีพรวมทั้งดัชนีราคาที่แพงมากขึ้นซึ่งจะส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยที่ทั้งสองปัจจัยถือเป็นปัจจัยหลักที่ยังคงจำกัด Downside Risks และหนุน Upside Gains ของตลาดทองคำในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามด้านกองทุน SPDR ยังคงมีมุมมองลบต่อตลาดทองคำเทขายสุทธิออกทุกวันกดดันบรรยากาศเชิงบวกของการปรับขึ้นระยะสั้นโดยปัจจุบันมีสถานะถือครองทองคำอยู่ที่ระดับ 795.42 ตัน ถือว่าว่าขายออกอย่างหนักและไม่กลับมาซื้อสุทธิติดต่อกันราวเดือนกว่าๆ แล้ว

แนะนำ : ให้น้ำหนักฝั่ง Long Position, พิจาณา Upside ที่ถูกจำกัดประกอบการลงทุน

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://classicgold.co.th/…/filestrategy270720171557394168.p…

___________________________

20506886_1783097951718547_5559578835977666383_o.jpg?oh=291db59533e409adc64d6892a9008606&oe=59EECA31

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...