ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ราคาน้ำมัน WTI ดีดขึ้น 42 เซนต์เช้านี้ หลังผลผลิตน้ำมันซาอุดิอาระเบียพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 19 มีนาคม 2555 10:17:26 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนเม.ย.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก ดีดตัวขึ้น 42 เซนต์ แตะที่ 107.48 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้าวันนี้ (19 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงฟื้นตัวขึ้น และจากรายงานที่ว่าผลผลิตน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียมีปริมาณใกล้กับระดับสูงสุดในรอบ 32 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าความต้องการพลังงานกำลังปรับตัวสูงขึ้น

ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่สุดในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ผลิตน้ำมันได้ 9.87 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนธ.ค. นอกจากนี้มีรายงานว่า ยอดส่งออกน้ำมันดิบจากซาอุดิอาระเบียเพิ่มขึ้น 2% แตะที่ 7.5 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือนม.ค.emnb_1_370236.gif

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 19 มีนาคม 2555 09:42:54 น.

กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

- ทองฟื้นหลังปรับฐานในระหว่างวัน

- ดอลลาร์อ่อน ตลาดประเมินสหรัฐยังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย

- คาดทองฟื้นตัวต่อแนวต้าน 1,665 และ 1,680 ดอลลาร์

ราคาทองคำปรับฐานลงในการซื้อขายช่วงเย็นของวันศุกร์ แต่ก็มีแรงซื้อกลับเข้มาจากแนวรับที่บริเวณ 1,635-1,640 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้นในระหว่างวัน โดยราคากลับขึ้นมาเคลื่อนไหวที่แนวต้านบริเวณ 1,660-1,665 ดอลลาร์ ในการซื้อขายช่วงค่ำก่อนที่ตลาดอนุพันธ์ของไทยจะปิดทำการ และราคาก็ยังทรงตัวอยู่ที่บริเวณดังกล่าวต่อเนื่องมาจนถึงช่วงเช้าวันนี้ ปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองดีดตัวกลับในช่วงค่ำของวันศุกร์นั้น มาจากการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อด้านผู้บริโภคของสหรัฐยังอยู่ในระดับต่ำ จนนักลงทุนต่างประเมินว่าดอกเบี้ยของสหรัฐจะยังอยู่ในระดับต่ำต่อไป และบางส่วนอาจประเมินถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินว่ายังมีโอกาสเกิดขึ้นอยู่ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆของสหรัฐโดยเฉพาะในภาคการจ้างงานจะทำให้โอกาสที่จะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินมีน้อยลง และคาดว่าราคาทองจะแกว่งตัวผันผวนตามรายงานข่าวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐต่อไป การเก็งกำไรระยะสั้นโดยเฉพาะกรณีที่เป็นการเก็งกำไรผ่านตลาดอนุพันธ์ยังไม่ควรถือสถานะนาน และหากมีกำไรหรือเข้าไปมีสถานะผิดทางควรตั้งจุดปิดสถานะที่ชัดเจน เพราะราคายังมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวผันผวน ส่วนการเคลื่อนไหวในวันนี้ คาดว่าเงินดอลลาร์จะยังอ่อนค่าลงต่อเนื่องจากวันศุกร์ จากรายงานตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังอ่อนแอของสหรัฐ รวมทั้งแรงขายทำกำไรที่คาดว่าจะมีกลับออกมาหลังจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นติดต่อกันหลายวัน และจะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองดีดตัวขึ้นได้ต่อ แนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,660-1,665 ดอลลาร์ และ 1,675-1,680 ดอลลาร์ตามลำดับ โดยคาดว่าที่แนวต้านหลังคงจะยังมีแรงขายกลับออกมามากและราคาทองจะยังไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ ส่วนแนวรับของวันยังอยู่ที่บริเวณ 1,635-1,640 ดอลลาร์ หากปรับตัวลงต่ำกว่าแนวรับคงต้องระวังแรงขายที่จะมีกลับออกมามาก ส่วนราคาโลหะเงินมีแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 32.80-33 ดอลลาร์ และ 33.50 ดอลลาร์ตามลำดับ หากผ่านแนวต้านหลังขึ้นไปได้ ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคก็จะกลับเข้าสู่ช่วงฟื้นตัว แต่ด้วยประเด็นข่าวด้านบวกต่อการเคลื่อนไหวของราคายังไม่ชัดเจน จึงยังต้องระวังว่าการดีดตัวที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงการดีดตัวทางเทคนิคและราคาก็อาจกลับปรับฐานลงได้อีก แนวรับสำหรับเก็งกำไรในระหว่างวันอยู่ที่บริเวณ 32-32.20 ดอลลาร์ เงินบาทที่คาดว่าจะกลับแข็งค่าขึ้นกดดันให้ราคาในประเทศปรับขึ้นได้น้อยกว่าปกติemnb_1_370232.gif

โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนเม.ย.55

Close chg. Support Resistance

24,250 -10 24,200/24,100 24,350/24,400

 

คาดว่าราคาทองจะแกว่งตัวอยู่ระหว่าง 1,635-1,665 ดอลลาร์ ต่อไป หากราคาฟื้นตัวขึ้นเข้าใกล้กรอบแนวต้านควรทยอยปิดสถานะเป็นบางส่วน โดยมีแนวต้านถัดไปอยู่ที่บริเวณ 1,675-1,680 ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าหากราคาฟื้นตัวเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,680 ดอลลาร์ ก็จะเริ่มมีแรงขายทำกำไรกลับออกมา ส่วนในกรณีที่ราคากลับปรับฐานลงที่แนวรับบริเวณ 1,635-1,640 ดอลลาร์ ยังเป็นระดับที่สามารถเก็งกำไรฝั่งซื้อได้ต่อ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,630 ดอลลาร์

ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนเม.ย.55

Close chg. Support Resistance

999 -3 990/980 1,010/1,020

 

ราคาโลหะเงินดีดตัวกลับขึ้นได้ในการซื้อขายช่วงค่ำหลังจากในระหว่างวันมีแรงขายออกมามาก จนราคาปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับที่ 32 ดอลลาร์ และคาดว่าราคาในวันนี้ราคาจะยังฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ หากมีสถานะซื้อในช่วงที่ราคาปรับฐาน ควรทยอยปิดสถานะเพื่อลดความเสี่ยงที่แนวต้านบริเวณ 32.70-32.80 และ 33.10-33.20 ดอลลาร์ ตามลำดับ โดยที่บริเวณ 33 ยังเป็นระดับแนวต้านสำคัญในทางเทคนิค หากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ ยังต้องระวังแรงขายที่อาจมีกลับออกมามากจนราคากลับปรับฐานลงต่อ แนวรับสำหรับเก็งกำไรระหว่างวันในกรณีที่ราคาปรับฐานลงอยู่ที่บริเวณ 31.80-32 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 31.50-31.60 ดอลลาร์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures by Classic Gold Futures

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 19 มีนาคม 2555 09:29:34 น.

กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส

Price Movement

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวันศุกณ์ปิดที่ 1,655.80 USDต่อออนซ์ ลดลง 3.70 USDต่ออออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,639.70 -1,664.90 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับลดลงเนื่องจากอินเดียประกาศจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าทองคำจาก 2% เป็น 4% แต่หลังจากนั้นราคาทองคำปรับขึ้นมาปิดที่ 1,655.80 USDต่อออนซ์ได้ โดยมีช่วงลบน้อยลงเนื่องจากค่าเงิน USD อ่อนค่าลง และราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนวันศุกร์ออกมาแย่กว่าคาด โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับลดลงสู่ระดับ 74.3 จาก 75.3 ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.พ. อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่เฟดจะคุมเข้มนโยบายการเงินในเร็วๆนี้ ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลง ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดลดลง 20.14 จุด และค่าเงิน USD อ่อนค่าลง ในช่วงเช้าวันนี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวบริเวณ 1,659 USDต่อออนซ์ คาดว่าวันนี้โมีแนวต้านแรกบริเวณ 1,663 — 1,667 และถัดไปบริเวณ1,680 — 1,685 และถัดไปบริเวณ 1,700 ถ้าผ่านแนวต้านบริเวณเส้น MA 200 วันบริเวณ 1,683 และแนวต้านทางจิตวิทยาที่บริเวณ 1,700 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่วนแนวรับมีที่บริเวณ 1,652 และถัดไป 1,640 นักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1,640 — 1,700emnb_1_370232.gif

Technical Analysis

ภาพกราฟในราย 120 นาที มีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,663 — 1,665 ถ้าผ่านไปได้มีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,675 — 1,677 ส่วนภาพกราฟในรายวันถ้ายืนเหนือเส้น MA 200 วันบริเวณ 1,683 และบริเวณแนวต้านทางจิตวิทยาบริเวณ 1,700 ได้จะส่งสัญญาณที่ดีขึ้น ส่วนการปรับลดลงต่ำกว่า 1,600 จะส่งสัญญาณ bearish มากขึ้น และมีเป้าหมายการลงลึกมากขึ้นถึงระดับ 1,522 ซึ่งเป็น low เดิมในช่วงปลายเดือนธ.ค. ภาพกราฟในรายสัปดาห์จากการปรับลดลแรงในสัปดาห์ก่อนทำให้สัญญาณทางเทคนิคแสดงทิศทางขาลง แต่มีโอกาส rebound ขึ้นบริเวณเส้น MA 4 สัปดาห์บริเวณ 1,685 ได้ ซึ่งเป็นโอกาสที่นักลงทุนที่เปิด Long ไว้ปิดสถานะทำกำไร หรือตัดขาดทุนถ้าเปิด Long ไว้ในระดับราคาที่สูง ส่วนผู้ไม่มีสถานะถ้าไม่ผ่าน 1,685 เป็นจังหวะเปิด Short ในสัปดาห์นี้โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณแนวรับ 1,640 / 1,625 โดยมีจุด Stop loss บริเวณ 1,700 ส่วนนักลงทุนที่เล่นสั้น 1 — 2 วัน Trading ในกรอบ 1,640 — 1,685

Key Point in Precious Market

- ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ โดยมีปัจจัยลบ ได้แก่ การปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าทองคำของอินเดีย ส่วนปัจจัยบวก ได้แก่ การปรับขึ้นของราคาน้ำมัน เพราะประเด็นอิหร่านตึงเครียดมากขึ้น เมื่อสมาคมสื่อสารโทรคมนาคมระหว่างธนาคารทั่วโลกจะตัดขาดธนาคารอิหร่าน ซึ่งถูกขึ้นบัญชีดำออกจากระบบธุรกรรมการเงิน การกลับมาอ่อนค่าของเงิน USD เมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวดลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ

- ประเด็นที่ต้องติดตาม การแถลงการณ์ของประธานเฟด ในวันอังคารที่ 20 มี.ค. การที่ยูโรโซนจะเพิ่มขนาดกองทุนช่วยเหลือถาวรของยุโรปก่อนสิ้นเดือนนี้หรือไม่ ในการประชุมวันที่ 30/31 มี.ค.

- การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันจันทร์ ดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์เดือนม.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมี.ค. วันอังคาร ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.พ. วันพุธ ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.พ. วันศุกร์ ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ.

- SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,293.27 ตัน

ราคาโลหะเงินปิดลดลง 0.12 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 32.60 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 32.14 — 32.76 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ถือโลหะจำนวนเท่าเดิม 9,752.67ตัน ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 32.0/ 31.7 แนวต้านบริเวณ 32.7/ 33.2 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 31.7 — 33.2

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จีนชี้ภาวะประชากรสูงอายุเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 19 มีนาคม 2555 11:01:00 น.

นายหม่า เจียนถัง ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเผยว่า ภาวะประชากรสูงอายุขึ้นและการเสื่อมถอยของสภาพสิ่งแวดล้อมจะกลายเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศemnb_1_370236.gif

นายหม่ากล่าวในการประชุมเพื่อการพัฒนาประเทศจีนที่จัดขึ้นในกรุงปักกิ่งว่า "การจ่ายเงินสวัสดิการให้กับประชากรย่อมลดลงเมื่อประชากรสูงอายุขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้จีนยังเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมอยู่ ปัจจัยทั้งสองถือเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

ถ้อยแถลงของนายหม่ามีขึ้นหลังจากจีนได้ปรับลดเป้าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศสำหรับปี 2012 ลงเหลือ 7.5% ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุดในรอบ 7 ปี โดยนายหม่าคาดหวังว่า ถ้อยแถลงของเขาจะช่วยให้รัฐบาลมีพื้นที่ในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจโดยไม่กระตุ้นอัตราเงินเฟ้อ

นายหม่าชี้ว่า สัดส่วนกำลังแรงงานต่อประชากรทั้งประเทศดิ่งลงเป็นครั้งแรกในปี 2011 และยังกล่าวด้วยว่า แม้ขณะนี้ทรัพยากรธรรมชาติต่อประชากรจะมีอยู่อย่างจำกัด แต่การบริโภคทรัพยากรและพลังงานของจีนอยู่ในระดับมหาศาล ลักษณะเช่นนี้ทำให้จีนต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในการแก้ปัญหามลภาวะ

นายหม่าสรุปว่าจีนจะต้องปฏิรูปและปรับโครงสร้างระบบใหม่ เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็วและมั่นคงต่อไป สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย โศภิดา ภิญโญมิตร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

China Today: ข่าวธุรกิจธนาคารจีนประจำวันที่ 19 มีนาคม 2555

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 19 มีนาคม 2555 13:50:27 น.

ไชน่า ซิเคียวริตีส์ เจอร์นัล รายงานว่า ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ของจีนในเดือนมี.ค.คาดว่า จะมีจำนวนไม่มากนักที่ 8 แสนล้านหยวน เนื่องจาการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และความกังวลเกี่ยวกับอัตราหนี้เสียที่สูงขึ้น ขณะที่แบงก์ต่างๆก็มีแนวโน้มว่า จะควบคุมการปล่อยสินเชื่อ ดังนั้น เป้าหมายการปล่อยสินเชื่อใหม่ในช่วงไตรมาส 1 ของปีนี้ที่ 2.4 ล้านล้านหยวน จึงไม่น่าจะบรรลุผลได้

 

emnb_1_370236.gif

 

-- ธนาคารกลางจีนประกาศเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ว่า ระบบการเงินทางสังคม ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินทุนที่องค์กรต่างๆในระบบเศรษฐกิจที่แท้จริงได้ระดมทุนมานั้น อยู่ที่ 1.04 ล้านล้านหยวน หรือ 1.65 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 3.91 แสนล้านหยวนจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว

จากจำนวนทั้งหมดนั้น ยอดการปล่อยกู้สกุลเงินหยวนครั้งใหม่อยู่ที่ 7.10 แสนล้านหยวนในเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.73 แสนล้านหยวน เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่สกุลเงินต่างประเทศอยู่ที่ 5.26 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 1.79 หมื่นล้านหยวน

 

-- ข้อมูลจากธนาคารกลางจีนระบุว่า ปริมาณการซื้อสกุลเงินต่างประเทศในช่วงสิ้นเดือนก.พ.ของจีนนั้น อยู่ที่ 25.52 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 2.51 หมื่นล้านหยวนจากระดับเดือนก่อน ส่วนปริมาณการซื้อสกุลเงินต่างประเทศในเดือนม.ค.นั้น อยู่ที่ 1.40 แสนล้านหยวน นับเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 2 เดือน หลังจากที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนต.ค.จนถึงเดือนธ.ค. 2554

 

-- ข่าวประชาสัมพันธ์จากทางรัฐบาลระบุว่า จะมีการควบคุมการบริหารองค์กรด้านการเงินโดยทีมบริหารอาวุโสที่อยู่ภายใต้การดูแลของทางรัฐบาลกลางมากขึ้น

การกำกับดูแลนี้ จะช่วยชี้แนะองค์กรด้านการเงินภายใต้การดูแลของรัฐบาลเพื่อให้ความสำคัญกับการสร้างกำไรและการควบคุมความเสี่ยง เพื่อเพิ่มจำนวนนายธนาคารที่มีคุณภาพสูง

 

-- ไชน่า ซิเคียวริตีส์ เจอร์นัล รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เหวินโจวได้รับการอนุมัติให้ปรับเปลี่ยนหน้าที่เป็นสถานที่สำหรับการให้การสนับสนุนการกระจายเงินทุนส่วนเอกชน

ข้อเสนอของรัฐบาลเมืองที่ต้องการให้พัฒนาเมืองเป็นพื้นที่นำร่องสำหรับการให้บริการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กนั้น ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงต่างๆ 7 กระทรวง และจะได้รับการอนุมัติจากครม.ในเร็วๆนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

เศรษฐกิจต่างประเทศicon-arrow.gif

thb1_news_img_442345_1.jpg ศก.อิหร่านอาจล่มหลังถูกตัดขาดจากระบบการเงินโลก อิสราเอลชี้เศรษฐกิจอิหร่านอาจล่มสลายหลังสวิฟท์ตัดขาดอิหร่านจากระบบการเงินโลก

 

 

 

สถานการณ์โลกicon-arrow.gif

thb1_news_img_442415_1.jpg "ซีเรีย" นำเข้าอาวุธจากรัสเซียมากสุด ซีเรียยุค "อัสซาด" นำเข้าอาวุธเพิ่ม 6 เท่า ระหว่างปี 2550-2554 ซื้อจากรัสเซียมากสุด 72%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ซาอุดิอาระเบียผลิตน้ำมันเกือบสูงสุดในรอบ 31 ปีในเดือนม.ค.

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 19 มีนาคม 2555 14:47:00 น.

ซาอุดิอาระเบีย ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในกลุ่มโอเปก ผลิตน้ำมัน 9.87 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 0.6% จากระดับ 9.81 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนธันวาคม ส่งผลให้ผลผลิตน้ำมันเดือนดังกล่าวสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในรอบกว่า 31 ปี

Joint Organization Data Initiative (JODI) เปิดเผยข้อมูลบนเว็บไซต์ว่า ซาอุดิอาระเบียส่งออกน้ำมัน 7.51 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้นจาก 7.36 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนธันวาคม ด้านปริมาณน้ำมันดิบสำรองของประเทศอยู่ที่ระดับ 254.6 ล้านบาร์เรลในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 5.9% จากระดับ 240.6 ล้านบาร์เรลในเดือนธันวาคม

ซาอุดิอาระเบียผลิตน้ำมัน 10.05 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 31 ปี

ทั้งนี้ ซาอุดิอาระเบียผลิตน้ำมันมากขึ้นก่อนที่สหภาพยุโรป (อียู) จะห้ามชาติสมาชิกนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านอย่างสิ้นเชิงตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไปemnb_1_370236.gif

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.t

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Asia Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียประจำวันที่ 19 มีนาคม 2555

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 19 มีนาคม 2555 15:44:36 น.

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมือง อย่างไรก็ตาม ดัชนีขยับลงจากระดับการซื้อขายในช่วงแรก เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากทิศทางตลาดในภูมิภาค

ดัชนี S&P/ASX 200 บวก 14.64 จุด หรือ 0.3% ปิดที่ 4,290.80 จุด

-- ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดลดลงในวันนี้ จากที่ดีดขึ้นในช่วงเปิดตลาด โดยทิศทางการซื้อขายเป็นไปตามตลาดหุ้นในภูมิภาคที่เคลื่อนไหวผันผวน ทั้งในแดนบวกและลบemnb_1_370235.gif

ดัชนีเวทเต็ดลบ 11.02 จุด หรือ 0.14% ปิดที่ 8,043.92 จุด หลังหุ้นกลุ่มพลาสติกและยานยนต์ร่วงลง

-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการในวันนี้ (19 มี.ค.) โดยนิกเกอิปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิเมื่อเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงิน ซึ่งรวมถึงหุ้นธนาคารรายใหญ่ของญี่ปุ่น นำตลาดพุ่งขึ้น ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่คึกคัก

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปรับตัวขึ้น 12.16 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 10,141.99 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. 2554

-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศออกมาระบุว่า จีนจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจทรุดตัวลงอย่างฉับพลันได้ เนื่องจากการลงทุนที่แข็งแกร่ง

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตบวก 5.45 จุด หรือ 0.23% ปิดที่ 2,410.18 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นบวก 16.86 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 10,296.17 จุด

-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดตลาดวันนี้ขยับสูงขึ้น 0.62% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน จากสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใส รวมทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในเชิงบวกได้กระตุ้นผู้ส่งออกที่ถือหลักทรัพย์ขณะที่ค่าเงินวอนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ขยับขึ้น 2.56 จุด หรือ 2,047 จุด เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีปริมาณการซื้อขายปานกลาง 541 ล้านหุ้น มูลค่า 4.74 ล้านล้านวอน (4.22 พันล้านดอลลาร์) โดยมีหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตรา 434 ต่อ 385

-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหลักทรัพย์ลาวปิดปรับตัวขึ้นในวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี LSX Composite Index ปิดบวก 2.66 จุด หรือ 0.28% ที่ระดับ 953.69 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 37,670 หุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 232 ล้านกีบ (ราว 29,000 ดอลลาร์สหรัฐ)

-- ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดตลาดปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันนี้ ในขณะที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคปรับตัวเพิ่มขึ้น ขานรับสัญญาณทางเศรษฐกิจที่เป็นบวกของประเทศต่างๆ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี VN ลดลง 0.45 จุด หรือ 0.1% ปิดที่ 438.07 จุด

-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวลดลงในวันนี้ หลังหุ้นกลุ่มธนาคารจีนร่วงลง เนื่องจากมีความกังวลว่าอัตราการปล่อยเงินกู้อาจขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมายรายไตรมาส

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งลบ 202.56 จุด หรือ 0.95% ปิดที่ 21,115.29 จุด หลังจากเคลื่อนไหวระหว่าง 21,075.38-21,454.01 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 5.577 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 7.19 พันล้านดอลลาร์หรัฐ)

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เวิลด์แบงก์ชี้ฟิลิปปินส์ต้องเร่งปฏิรูปเพื่อแก้ปัญหาความยากจน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 19 มีนาคม 2555 14:41:59 น.

ธนาคารโลกระบุว่า ฟิลิปปินส์จำเป็นต้องเร่งการปฏิรูปในด้านต่างๆ เพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวในระดับที่สูงกว่า 5% เพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ยากจน

emnb_1_370236.gif

รายงานของธนาคารระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของฟิลิปปินส์ยังอยู่ในระดับต่ำและรัฐบาลสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ ในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางของฟิลลิปปินส์มีเงินสกุลดอลลาร์ในระดับที่สูง และรัฐบาลมีพันธกิจที่ต้องส่งเสริมการปกครองและขจัดความยากจน

ทั้งนี้ ธนาคารโลกคาดว่า เศรษฐกิจฟิลิปปินส์จะขยายตัว 4.2% ในปี 2555 และ 5% ในปี 2556 เมื่อเทียบกับ 3.7% ในปี 2554 พร้อมกับระบุว่า ฟิลิปปินส์ต้องสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคการเงินสาธารณะและศักยภาพด้านการแข่งขันเพื่อให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงกว่าระดับ 5% โดยเร็ว โดยระดับดังกล่าวเป็นตัวเลขที่ประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศสามารถทำได้และนำไปสู่การลดปัญหาความยากจนลง

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...