ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
Nexttonothing

โอกาส "เงิน" (จริงๆ) : ระยะประชิด

โพสต์แนะนำ

เก็บเพื่อสะสมหรือเพื่อลงทุนครับ ถ้าเก็บเพื่อลงทุน ช่วงเฟสสุดท้ายของMania phase ถ้าช่วงนั้นเงินเหรียญยังไม่เป็นที่ยอมรับในตลาดไทย จะออกตัวลำบากนะ ปัจจุบันนี้ขนาดเหรียญทองคำยังขายไม่ได้ราคาในเมืองไทย เหรียญทองคำบางแหล่งเขารับซื้อในราคาซื้อส่งโรงหลอม

ควรมีเงินเม็ดบ้างเพื่อสะดวกในการออกตัว ถ้าเมื่อไหร่เงินเหรียญเป็นที่ยอมรับค่อยหาจังหวะดีๆขายเปลี่ยนเป็นเงินเหรียญ ถ้าไม่ไว้ใจเงินเม็ดก็เก็บเป็นทองคำแท่งบ้างก็ดีครับ

 

จากข้อมูลที่คุณwcgนำมาแบ่งปัน ช่วงพีคสุดๆซึ่งเป็นช่วงที่สมควรขายออก ของที่ไม่อยู่ในรูปพร้อมขายแบบร้านซื้อแล้วขายต่อมือถัดไปได้เลย จะออกตัวอยากและน่าจะโดนกดราคาเยอะ

 

ถ้าตอนนั้นตลาด Silver Future ยังมีสภาพคล่องดีอยู่ละก็

น่าเก็บเหรียญเงินไว้ แล้ว SHORT Silver Future แทนดีกว่านิ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นึกถึงยุคก่อนๆ ตอนตลาดเงินในไทย peak (ประมาณปี 1970 มั้งครับ) เห็นรุ่นพ่อเล่าให้ฟังว่าโกยเหรียญเงิน หลอมเยอะแยะ สวยยังไงก็โดนหลอม

 

ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูล ยิ่งเป็นข้อมูลจริงที่เคยเกิดขึ้นแล้วน่าสนใจมาก คำว่าประวัติศาสตร์ย่อมซ้ำรอยเดิมเสมอสิ่งนี้เชื่อถือได้ สำหรับผมมีสะสมเหรียญบ้างแต่ถือว่าเป็นส่วนน้อย อยากให้เหรียญเงินเหรียญทองของประเทศไทยเป็นสิ่งที่ซื้อง่ายขายคล่องเหมือนบางประเทศจัง สะสมเป็นเหรียญเวลาเอามาดูแล้วเพลินดี

 

คุณKPTGOLDครับ ถ้ามีเหรียญเงินผ่านมือซึ่งคุณKPTGOLDคงไม่สะสม ช่วยแจ้งในกระทู้ด้วยครับ เผื่อผมหรือเพื่อนบางท่านสนใจสะสม เรื่องมุมมองที่แตกต่างหรือข้อมูลที่แตกต่าง นำมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นได้ตลอดนะครับ นักสะสมมีมุมมองของความชอบแต่คนที่มีประสพการณ์ส่งของสวยๆสู่โรงหลวมก็เป็นสิ่งจริงที่มองข้ามไม่ได้ เป็นFactที่เกิดขึ้นจริง ไม่มีมุมมองที่แตกต่างมาแย้งอาจพากันไปผิดทิศผิดทาง

คุณKPTGOLDครับ อยากทราบว่าประมาณปีที่โลหะบูมมากในไทย(ประมาณ30กว่าปีก่อน) โลหะเงินที่นักลงทุนไทยซื้อขายกันในตอนนั้น เป็นเงินเม็ดหรือเงินแท่งครับ ที่เคยอ่านมาที่เยาวราชมีคนมาซื้อเข้าและขายออกมากมาย

 

คุณKPTGOLDครับ อยากทราบว่าโลหะเงินที่ร้านคุณKPTGOLDเป็นของนำเข้าจากประเทศไหนครับ มีเพื่อนท่านนึงในเวปของที่เขาซื้่อเป็นของจากจีน ซึ่งปี2009จีนส่งออกโลหะเงิน4เดือนนำเข้า8เดือน ปี2010จีนนำเข้าโลหะเงินทุกเดือน ปี่2011ซึ่งน่าจะปีที่เพื่อนท่านนี้ซื้อเป็นของจีน ผมไม่มีข้อมูลว่าสุทธิแล้วปี2011จีนนำเข้าโลหะเงินเท่าไหร่ นำเข้าทั้ง12เดือนมั้ยหรือมีส่งออกเป็นบางเดือน

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

'อนุรัตน์ โค้วคาสัย' คนบ้าเหรียญ เฝ้ารอการสานฝัน

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 9 มกราคม 2550 09:29 น

กว่า 10 ปีที่ อนุรัตน์ โค้วคาสัย ทุ่มเททั้งกำลังใจและกำลังทรัพย์ไปกับการสะสมเหรียญกษาปณ์ของไทยอย่างเอา เป็นเอาตาย แม้ว่าเขาอาจจะไม่ใช่คนที่มีเหรียญโบราณของไทยอยู่ในมือมากที่สุด แต่เขาก็ได้สร้างคุณูปการให้แก่วงการเหรียญกษาปณ์ไทยไม่น้อย โดยเฉพาะการตามไล่ซื้อเหรียญสำคัญจำนวนมากจากฝรั่งที่กว้านเก็บเหรียญโบราณ ของไทย แต่วันนี้เขาเริ่มหมดแรงกายและกำลังทรัพย์เสียแล้ว การตัดสินใจเปิดประมูลขายเหรียญโบราณที่มีอยู่ทั้งหมดบนเว็บไซต์ www.pantavanij.com จะสร้างประวัติศาสตร์การขายครั้งใหญ่ เพื่อหวังส่งต่อของรักของหวงเหล่านี้ไปสู่เศรษฐีไทยที่เห็นคุณค่าเหรียญไทย

จุดประกาย คนบ้าเหรียญ

ความชอบของคนจำนวนไม่น้อยเริ่มขึ้นเมื่อวัยเด็ก และคงเช่นเดียวกันที่ส่วนเสี้ยวสำคัญของการเก็บสะสมของโปรดในดวงใจมักได้รับ อิทธิพลจากคนในครอบครัว อนุรัตน์ โค้วคาสัย เด็กหนุ่มจากครอบครัวร้านขายยาใน อ.สรรพยา จ. ชัยนาท นักสะสมตัวยงแห่งวงการเหรียญกษาปณ์ไทยก็ถอดพิมพ์นิยมเช่นนี้มาด้วย จุดเล็กๆ ของการเริ่มสะสมสิ่งสารพัดที่ชื่นชอบ ทั้ง แสตมป์ เหรียญ ธนบัตร ลอตเตอรี่ ฯลฯ ล้วนแต่ซึมซับมาจากผู้เป็นพ่อที่ชอบดูพระ จึงเก็บสะสมสิ่งเหล่านี้เรื่อยมาตั้งแต่ ม.ศ.4-5 ซึ่งก็คงไม่ต่างอะไรนักกับงานอดิเรกของคนทั่วไป ที่หากสนใจในสิ่งใดแล้วก็อยากจะใช้เวลากับสิ่งเหล่านั้นจนถึงขั้นเฝ้าติดตาม และเก็บสะสม

 

แต่ดีกรีความหลงใหลในของสะสมที่มีมาแต่วัยเยาว์ของเขาถึงเวลา ถูกกระตุ้นและจูงใจอีกครั้ง เมื่อถึงวันที่ต้องเดินผ่านร้านขายของเก่าแห่งหนึ่งในตลาดนัดจตุจักร แหล่งสรรพสินค้าเวอร์ชันไทยๆ ที่เต็มไปด้วยฝรั่งมังค่าสายตาแหลมคม คอยจับจ้องซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญกษาปณ์ไทยกันอย่างคึกคัก ซึ่งที่แห่งนี้เองทำให้เขารู้ว่าตัวเองหลงมนต์เสน่ห์เหรียญกษาปณ์ไทยเข้า อย่างจัง และตัดสินใจเดินหน้าต่อยอดเก็บสะสมอย่างจริงจังไปด้วย โดยเริ่มต้นจากศูนย์พร้อมกับความสนใจในเหรียญที่มีอยู่เต็มเปี่ยม

 

“ผมเดินเข้าไปในตลาดนัดจตุจักร เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นเหรียญหน้าตาประหลาด ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าในบ้านเราจะมีเหรียญแบบนี้ แล้วทำไม? ฝรั่งถึงต้องมาเลือกซื้อ จนได้พูดคุยกับฝรั่งคนหนึ่ง แลกนามบัตรกัน ทราบว่าเขาหลงใหลในประวัติศาสตร์ชาติไทย จนได้มาเจอเหรียญไทย แล้วคิดว่ามันมีคุณค่ากับเขามาก ทำให้เขาอยากสะสม เอ๊ะ! แล้วทำไมเราเป็นคนไทยถึงไม่สนใจล่ะ จึงให้พ่อค้าช่วยแนะนำ เอาหนังสือมานั่งอ่านทำความเข้าใจเกี่ยวกับเหรียญอย่างจริงจัง หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ก็เริ่มเก็บเหรียญกันใหม่แบบรู้จริง รู้ลึก นำเหรียญมาเรียงใส่เมาท์ เก็บลงสมุด โห! ช่วงนั้นเสาร์-อาทิตย์ไม่เคยไปไหน มุ่งหน้าไปที่จตุจักรทุกสัปดาห์ ใช้เวลาไม่นานนักก็ได้เหรียญสมัย ร. 9 จนครบทุกเหรียญ”

 

จุดเริ่มที่ดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง สำหรับอนุรัตน์แล้ว การเก็บเหรียญ คงไม่ใช่สักแต่ว่าเก็บให้ได้จำนวนมากที่สุดหรือเก็บเพื่อเก็งกำไร แต่จิตวิญญาณของการเก็บเหรียญของเขานั้นอยู่ที่การให้คุณค่าตามความสนใจ และด้วยเหตุนี้ จึงค้นพบว่าการเก็บเหรียญในสไตล์ของตัวเองนั้น เป็นการเก็บสะสมเชิงประวัติศาสตร์ ที่สามารถตอบโจทย์ความเป็นมาของเหรียญแต่ละเหรียญได้อย่างไม่ตกหล่นเรื่อง ที่มาของเหรียญว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร มีการใช้งานจริงในระบบเงินตราของไทยมายาวนานเท่าไหร่ และยังทำให้เขาทราบถึงพระปรีชาญาณของพระมหากษัตริย์ไทยในอดีตว่า ทรงมีพระอัจฉริยภาพในการวางระบบเงินตราให้ทัดเทียมอารยประเทศ เพื่อให้เกิดสภาพคล่องทางเศรษฐกิจต่อราษฎรของพระองค์เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

 

ซึ่งเขาบอกว่า ใช่ว่าเหตุผลของการเก็บเหรียญจะมีอยู่อย่างเดียว รูปแบบของการสะสมอื่นๆ ที่แตกต่างกันไป อาทิ การสะสมเหรียญเฉพาะยุคสมัย การสะสมเฉพาะเหรียญทองคำเพื่อให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น การเก็บเฉพาะเหรียญตัวอย่าง(Pattern) หรือแม้แต่การเก็บสะสมเพื่อวิจัยและทำออกมาเป็นหนังสือขาย ก็ยังเป็นเหตุช่วยสร้างนักสะสมเหรียญกษาปณ์อีกจำนวนมาก

 

“เราเก็บเหรียญเพื่อต่อประวัติศาสตร์ให้ครบ ถ้าได้ครบแล้วก็พอ แต่เพื่อนๆ ในวงการมีหลายประเภท บางคนเก็บเฉพาะยุคสมัย เช่น ยุคสุโขทัย พวกเงินพดด้วง ถ้าเราเอาเหรียญแบนที่หายากไปเสนอ ต่อให้ดีและราคาไม่แพง เขาจะไม่สนเลย เพราะอยู่นอกความสนใจ เขาไม่เห็นคุณค่าของเหรียญพวกนั้น ส่วนพวกที่เก็บเฉพาะเหรียญทองคำ กลุ่มนี้จะมองว่าอะไรก็ตามที่เป็นการเก็บทองมูลค่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หรือแม้แต่พวกที่เก็บสะสมเพื่องานวิจัยและต้องการทำหนังสือเกี่ยวกับเหรียญ กษาปณ์ไทยออกมา เขาก็จะทุ่มเทอย่างมากที่จะรู้จักเหรียญแต่ละเหรียญให้ลึกที่สุด”

 

ปฏิบัติการ...ไล่ล่า ตามหาเหรียญ

บนเส้นทางของนักสะสมเหรียญเก่าของอนุรัตน์นั้นช่างเต็มไปด้วยขวาก หนามและเรื่องท้าทายมากมาย ใช่ว่ามีเงินแล้วจะมีโอกาสได้ครอบครองเหรียญที่หมายตาเอาไว้

 

สำหรับอนุรัตน์แล้วเขาออกตัวว่าไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง อาศัยเป็นคนไม่ฟุ่มเฟือยกับเรื่องอื่น ๆ ตำแหน่งประธานบริหารฝ่ายการตลาดและประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการของบริษัทพรานทะเลจึง พอจะมีเงินมาหาซื้อเหรียญเก่าได้ ประกอบกับภรรยาและลูก ๆ ให้การสนับสนุนเต็มที่ เขาจึงสามารถทุ่มเทกำลังใจและกำลังเงินไปกับการค้นหาเหรียญเก่า

 

ความชื่นชอบเหรียญของอนุรัตน์คงไม่เป็นแรงขับที่เพียงพอนัก หากจะดึงดูดเหรียญไทย ที่กระจายอยู่ในมือผู้อื่นให้มาอยู่ในครอบครองของตน โดยเฉพาะกับนักสะสมเหรียญกษาปณ์ไทยชาวต่างชาติ แต่แม้จะยากเย็นเพียงใด คนบ้าเหรียญก็มุ่งมั่น ดั้งด้นเสาะแสวงหาอย่างไม่ลดละ เริ่มก้าวแรกของการสะสมจากเหรียญในสมัยรัชกาลที่ 9 ไล่เรียงย้อนกลับไปสู่หน้าประวัติศาสตร์ของเหรียญกษาปณ์ไทยในยุคสมัยที่ไกล ตัวเขามากขึ้นเรื่อยๆ ที่ดูเหมือนยิ่งย้อนยุคสมัยกลับไปยาวนานเท่าไหร่ ความพยายามก็ต้องมีเพิ่มมากขึ้น

 

โดยเฉพาะเหรียญที่ต้องการเก็บแบบเรียง พ.ศ. ให้ครบ เหรียญที่ผลิตออกมาจำนวนจำกัดและจัดทำขึ้นมาในวาระพิเศษเท่านั้น ซึ่งแต่ละรูปแบบในการตามล่าหาเหรียญของเขา นอกจากจะเดินหาซื้อเหรียญตามร้านขายของเก่าเจ้าประจำ ตามกองกษาปณ์และกองเครื่องราชย์แล้ว การตามตื๊อขอซื้อเหรียญจากเจ้าของเดิม และการทุ่มเงินประมูลเหรียญรุ่นหายากทางอินเตอร์เน็ตก็เป็นอีกหลากหลาย กลยุทธ์ในการเปลี่ยนมือเจ้าของเหรียญมาไว้ที่ตัวเขาเองเช่นกัน

 

“ของเก่ามีคติอยู่ว่า ถ้าเห็นแล้วต้องซื้อเลย จะไม่มีวันหวนมาอีกเด็ดขาด เหมือนโชคมาถึงเราแล้ว ถึงจะไม่มีเงินพอ ต่อให้ต้องกู้มาซื้อผมก็ยังเคยยอมกู้เลย”

 

จากนั้นเขาจึงมุ่งมั่นสานต่อประวัติศาสตร์ของเหรียญให้สมบูรณ์อย่าง ที่ตั้งใจ ด้วยการพาตัวเองเข้าสังกัดสมาคมเหรียญกษาปณ์ไทย ขึ้นแท่นเป็นสมาชิกแถวหน้า คอยแนะนำตัวทำความรู้จักกับเพื่อนฝูงคอเดียวกัน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับเหรียญเป็นประจำทุกเดือน

 

“เหรียญในยุคสุโขทัย อายุกว่า 800 ปี บอกตรงๆ ไม่มีใครยอมให้แม้แต่เม็ดเดียว พดด้วงสุโขทัยเม็ดแรกที่ได้มา ผมต้องตามตื๊อเค้าทุกวัน กัดฟันจนได้มาเม็ดแรก 20,000 บาท จับมาเรียงใส่กล่อง เป็นความภาคภูมิใจของเราที่เริ่มมีเหรียญในสุโขทัย เท่านั้นยังไม่พอบางเม็ดในยุคนี้ กว่าจะได้มาก็ยากไม่แพ้กันในราคา 120,000 บาท สำหรับคนทั่วไปอาจจะมองเป็นแค่เม็ดโลหะเล็กๆ เท่านั้นเอง แต่สำหรับนักสะสม มันขนลุกเลยที่เห็นพดด้วงเม็ดนี้”

ทั้งหมดนี้ หากเป็นการตามล่าเหรียญกับคนไทย หรือบางรายที่ต้องบากหน้าไปอ้อนวอนเข้าทางภรรยา หมั่นถามว่าเมื่อไหร่จะปล่อยเหรียญสักที และการยอมจ่ายในราคาที่เจ้าของเดิมพอใจจะแบ่งขายให้แบบไม่อั้น คนบ้าเหรียญคนนี้เคยทำมาหมดแล้ว มีทั้งสมหวังและผิดหวัง แต่ที่ถึงขั้นลุ้นระทึก! ต้องปาดเหงื่อกว่าจะตามเอาเหรียญมาอยู่ในมือได้นั้น เขาขอยกให้การต้องใช้พลังเงินแย่งชิงเหรียญมาจากนักสะสมชาวต่างชาติ ที่หลายครั้งก็ทำให้เขาต้องพลาดเหรียญนั้นไปอย่างน่าเสียดาย เขาเล่าว่า กว่าจะได้มาแต่ละเหรียญ สู้กันยิบตา โดยเฉพาะการเข้าไปประมูลบนเว็บไซต์eBay ซึ่งถือเป็นสนามล่าเหรียญชั้นเยี่ยมเลยของนักสะสมทั่วโลก

 

“เหรียญบางเหรียญได้มาง่าย เป็นจังหวะและโชคช่วย แต่ที่ต้องไปอ้อนวอนให้เขาแบ่งขายก็ต้องใช้ความอดทนกันพอสมควร บางครั้งถึงจะยอมปล่อยเหรียญมาให้ ก็อาจได้เหรียญที่แย่ที่สุดมาอีก ซึ่งหลายครั้งพลังของเงินบาทก็ต้องพ่ายเงินดอลลาร์ เหมือนที่ครั้งหนึ่งผมต้องพลาดเหรียญที่เฝ้าหามานานให้หลุดมือไป ใช่ว่าเราไม่สู้ราคานะ แต่การซื้อขายก็ต้องต่อรองกันบ้าง ถูกตัดหน้าไปเฉยๆ เพราะพวกฝรั่งทุ่มไม่อั้น”

 

เอ่ยถามว่าเหรียญไหนหายากที่สุด คนคลั่งเหรียญยอมรับว่าถ้าเป็นเหรียญที่ผลิตออกมาจำกัดและมีประวัติที่พิเศษ ในตัวเองถือว่าเหรียญนั้นเป็นเหรียญปราบเซียน ถึงจะคร่ำหวอดมานานหรือกระเป๋าหนักก็ใช่ว่าคนนั้นจะมีเหรียญครบทุกเหรียญ อาทิ เหรียญบรรณาการ , เหรียญช้าง , เหรียญดอกบัว , พดด้วงสมัยสุโขทัย , พดด้วงช่อรำเพย สมัย ร.5 ฯลฯ

ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าช่องทางในการได้เหรียญหายากและสภาพดีมาเป็นของ เราจะถึงทางตันเสมอไป การได้เป็นเจ้าของเหรียญแบบโชคช่วยก็ยังพอมีโอกาสอยู่บ้าง แม้ต้องใช้เวลาอดทน รอให้นักสะสมรุ่นใหญ่คิดว่าถึงเวลาที่จะเกษียณอายุจากวงการ โดยไม่มีลูกหลานมารับช่วงต่อ คนกลุ่มนี้ก็จะทยอยปล่อยเหรียญที่ตัวเองสะสมออกมาให้นักสะสมรุ่นใหม่ๆ ได้ชื่นใจอยู่เหมือนกัน

 

สังคมนักสะสมเหรียญ

นักสะสมเหรียญแบบมือสมัครเล่นในเมืองไทยมีอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย แต่ถ้าจะนับรวมถึงพวกที่บ้าคลั่งสะสมเหรียญแบบลงลึกแล้วแทบจะนับคนได้ เพราะทุกคนรู้ว่าการซื้อเหรียญเพื่อมาเก็บไว้เชยชมนั้นทำให้เงินจม จะขายก็เสียดายยิ่งเก็บก็ยิ่งถลำลึก ดังนั้นคนที่สะสมจริงจังไต่ระดับจนเป็นมือเซียนแล้วจำเป็นจะต้องมีกำลัง ทรัพย์สูงระดับเจ้าของกิจการทีเดียว

 

ในวงการมือเซียนที่เก็บสะสมเหรียญนั้นส่วนมาก จะรู้จักกันหมดเพราะแต่ละคนมีแหล่งซื้อขายเหมือนกันคือ แหล่งขายเหรียญเก่าที่ตลาดจตุจักรไปจนถึงชมรมเหรียญกษาปณ์แห่งประเทศไทย เพราะเมื่อใครได้เหรียญเก่าที่หายากมาแล้วก็อดไม่ได้ที่จะต้องนำไปอวดเพื่อน ๆ

ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งก้าวข้ามไปถึงสังคมอินเตอร์ที่มีเว็บไซต์ eBay เป็นศูนย์กลางในการประมูลซื้อขาย อย่างเช่นที่อนุรัตน์มีเพื่อนชาวต่างชาติที่สะสมเหรียญไทยเหมือนกันโดยการ รู้จักกันในเว็บไซต์ แม้ว่าทั้งที่คู่จะไม่เคยพบหน้ากันเลย แต่เขาก็ไปมาหาสู่กันทางอีเมลแทบทุกวันเพื่อจะอวดเหรียญใหม่ที่ได้ครอบครอง หรือให้ข้อมูลข่าวสารของวงการนักสะสมด้วยกัน

 

แต่ถ้าจะให้ระบุนักสะสมสุดยอดเซียนของเมือง ไทยนั้น ในวงการยอมรับว่ามีเพียง 3 คนเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนมีเหรียญเก่าที่หายากเป็นจำนวนมากด้วยสนนราคาที่ประเมินค่าคนละ ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท แต่คนกลุ่มนี้แทบจะไม่ออกงานและปิดตัวเองมาก

 

“ นักสะสมเหรียญเก่ามีนิสัยเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือ ถ้าปกติจะไม่ยอมขายหรอก แต่ถ้าอายุเริ่มมากขึ้นจนรู้สึกว่าสังขารไม่ไหวแล้วก็จะมองหาคนดูแลแทน ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีทายาทสืบทอด ถึงตอนนั้นจึงจะยอมทยอยปล่อยออกมาก็เป็นโอกาสของนักสะสมรุ่นใหม่ใจถึง เรียกว่าสมบัติผลัดกันชม ”

 

นิสัยอีกอย่างหนึ่งที่คนสะสมเหรียญมักจะมีเหมือนกันคือการปกปิดราคา ซื้อขายจริง เพราะกลัวครอบครัวรับไม่ได้กับเหรียญเก่า ๆ ธรรมดาในสายตาของตัวเอง

 

“ ในวงการนักสะสมจะฝากกันเลยว่า ถ้าเป็นอะไรไปแล้วให้ช่วยจัดการขายเหรียญให้ด้วย อย่าให้ครอบครัวขายเอง เพราะเคยมีตัวอย่างแล้วว่าตอนซื้อไปโกหกเมียว่าซื้อมา 500 บาทเท่านั้น กลัวเมียด่า แต่พอตายเมียเอาไปขายได้เงินพันกว่าบาทก็ดีใจใหญ่เลยว่าขายได้กำไรตั้งเท่า ตัว ทั้ง ๆที่เม็ดนั้นราคาซื้อขายจริง ๆ เป็นแสนบาท ”

ฝรั่งไล่เก็บเหรียญไทย

 

ไม่เพียงคนไทยเท่านั้นที่ชื่นชมเหรียญโบราณของไทย ยังมีฝรั่งกลุ่มหนึ่งที่หลงใหลในความงดงามและประวัติศาสตร์ของแต่ละเหรียญ เช่นกัน ทำให้ฝรั่งกลุ่มนี้สะสมอย่างจริงจังจนกลายเป็นหนึ่งในผู้ที่ไล่เก็บเหรียญ มากกว่าคนไทยเสียอีก

 

มีหลักฐานจากหนังสืองานศพของนักสะสมเหรียญท่านหนึ่งเขียนระบุเอาไว้ เมื่อปี 2506 ว่า มีฝรั่งต่างชาติเริ่มเก็บเหรียญเก่าของไทยไปเป็นจำนวนมาก และถ้านับเนื่องมาถึงปัจจุบันนี้เหรียญสำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทยหลายอัน ก็อยู่ในมือของฝรั่งกลุ่มนี้เช่นกัน

 

อย่างน้อยก็มีฝรั่ง 2 คนที่อนุรัตน์รู้จักและระบุว่าไล่เก็บเหรียญโบราณของไทยมาหลายปีจนกลายเป็น เซียนระดับแนวหน้าของเมืองไทย ซึ่งมีทุกรุ่นทุกแบบ ทั้งรุ่นที่หายากและหายากที่สุด คนหนึ่งเป็นฝรั่งชื่อแซม อยู่เมืองไทยมา 30 ปีแล้ว ขณะที่อีกคนหนึ่งชื่อรอน ขาประจำที่เขาคุยทางอีเมล

“ ฝรั่งคนนี้มีครบหมด เขาซื้อเหรียญบรรณาการตั้งแต่ราคา 80,000 บาทไล่ไปจนถึง 200,000 บาท ทุกวันนี้เขายังบอกว่าถ้าใครมีเขาจะซื้อเก็บไปเรื่อย ๆ เพราะเขาหวังจะเก็บให้หมด ” อนุรัตน์กล่าว

 

ยิ่งได้รับรู้ว่าพวกฝรั่งกลุ่มนี้ไล่เก็บเหรียญไทยไปเกือบหมด ทำให้อนุรัตน์เริ่มคิดว่าถ้าไม่ช่วงชิงกลับมาสักวันหนึ่งลูกหลานคนไทยคงต้อง ไปดูเหรียญของไทยเราเองที่เมืองนอกอย่างแน่นอน และหลายครั้งที่เขาทุ่มเทเวลาและเงินทองเพื่อไปไล่ซื้อเหรียญของไทยแข่งกับ ฝรั่งที่เมืองนอก อย่างเช่น กรณีเหรียญแบนรุ่นแรกที่ผลิตในเมืองไทยสมัยรัชกาลที่ 4 ปี พ.ศ.2399 ซึ่งเขาไปพบว่าอยู่ในมือของต่างชาติและพยายามจะประมูลซื้อกลับมาสู่แผ่นดิน ไทย จนในที่สุดเขาก็ได้เหรียญแบนอายุ 150 ปีที่ต้องเดินทางไปอยู่ไกลถึงสหรัฐอเมริกาเหรียญนี้ กลับมาอยู่ในคอลเลกชันของเขาได้เป็นผลสำเร็จ

 

หัวใจที่บอบช้ำ

 

ชีวิต 10 กว่าปีที่ทุ่มเทให้กับการสะสมเหรียญของอนุรัตน์ นอกจากความหลงใหลในประวัติศาสตร์ของเหรียญโบราณของไทยแล้ว เขายังมีความฝันอยากจะอนุรักษ์เหรียญเหล่านี้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาค้น คว้าวิวัฒนาการของเหรียญไทย เมื่อปี 2548 เขาลงทุนเขียนหนังสือชื่อ “ เหรียญกษาปณ์ กับคนรุ่นใหม่ ” หวังถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์เรื่องเหรียญโบราณเพื่อหวังสร้างแรงบันดาล ใจให้กับคนรุ่นใหม่ได้มาช่วยสานต่อปณิธานการเก็บเหรียญของไทยไว้ให้อยู่ใน เมืองไทยนาน ๆ

 

“ ความตั้งใจสูงสุดของผมคืออยากทำพิพิธภัณฑ์ ” อนุรัตน์ประกาศ เจตนารมณ์ของเขา เพื่อเดินหน้าไปหาฝันเขาจึงมองหาที่ดินประมาณ 5 ไร่ พร้อมกับเขียนแปลนอาคารที่จะใช้ทำพิพิธภัณฑ์ไว้เรียบร้อย โดยเขาวางแผนบริหารสถานที่แห่งนี้ว่าจะต้องมีรายได้เลี้ยงตัวเองได้ แต่ในที่สุดก็มาถึงจุดหักเหที่ทำให้อนุรัตน์ตัดสินใจวางมือจากสิ่งที่เขารัก และหวงแหนมากว่า 10 ปี ด้วยสาเหตุของการพลาดท่าเหรียญแพทเทิร์นเป็นรูปช้างและดอกบัวในสมัยรัชกาล ที่ 3 มูลค่า 1.5 ล้านบาทให้กับฝรั่งต่างชาติ ทั้ง ๆ ที่เขาใช้เวลาติดต่อจับจองมาหลายเดือนแล้ว แต่นายหน้ากลับแอบเอาไปเสนอขายให้ฝรั่ง

 

“ นี่เป็นเหตุที่ทำให้ผมท้อมาก ชุดนี้ไม่มีอีกแล้วมีเพียงอันเดียว น่าจะได้อยู่ในเมืองไทย ”

 

และความคิดที่จะหยุดสะสมเหรียญโบราณจึงเริ่มแวบเข้ามาในจิตใจของเขา เขาใช้เวลาตัดสินใจอยู่เกือบปี ในที่สุดจึงประกาศขายเหรียญทั้งหมดที่เขามี โดยคาดหวังว่าผู้ซื้อจะนำไปสานฝันของเขาด้วยการทำพิพิธภัณฑ์ เพราะเขาใช้เวลาเกือบปีในการจัดคอลเลกชั่นเหรียญทั้งหมดที่มีอยู่ โดยสั่งทำกล่องพิเศษขึ้นมา 82 กล่อง แล้วเรียงเหรียญจัดวางตามประวัติศาสตร์ ทั้งนี้เพื่อหวังว่าใครก็ตามที่ประมูลไปแล้วจะสามารถนำไปจัดตั้งพิพิพธภัณฑ์ ได้เลย

 

ประมูลเหรียญประวัติศาสตร์

 

“ ผมหวังว่าจะมีคนไทยที่ร่ำรวยและเห็นคุณค่าของเหรียญไทยโบราณ หรือสถาบันการเงินสักแห่งที่จะมาเก็บเหรียญทั้งหมดของผมไปสานต่อ ”

 

วิธีการขายเหรียญของอนุรัตน์นั้นเขาได้ร่วมมือกับอีก 2 บริษัท คือ บริษัท พันธวณิช จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการประมูลผ่านเว็บไซต์ของเมืองไทย และเป็นที่ยอมรับจากทางภาครัฐและเอกชน และอีกบริษัทคือ เอื้อเสรี คอเล็กติ้ง จำกัด บริษัทที่มีความชำนาญในการคัดสรรและตรวจสอบวัตถุสิ่งของทรงคุณค่า พร้อมกับประสบการณ์ในการจัดประมูล

 

ส่วนความพร้อมในการเปิดประมูลคงจะเป็นช่วงต้นปีนี้ ซึ่งขณะนี้เขากำลังจัดทำหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่งเพื่อแนะนำเหรียญทั้งหมดของ เขา โดยภายในเล่มจะให้รายละเอียดทั้งหมดและจะส่งไปตามสถาบันการเงิน องค์กรขนาดใหญ่ของไทยทั้งหมด และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เขาจะเปิดโรงแรมดุสิตธานีเพื่อแสดงเหรียญโบราณทั้ง หมดแก่ผู้สนใจ หลังจากนั้นก็ต้องไปสู้ราคากันบนอินเทอร์เน็ตใน www.pantavanij.com ซึ่งเป็นเว็บของคนไทยเพื่อป้องกันมิให้ฝรั่งต่างชาติเข้ามาประมูล ซึ่งใครจะเข้าประมูลจะต้องลงทะเบียนในเว็บก่อน

 

ส่วนสนนราคาที่เปิดไว้เบื้องต้น 20 ล้านบาท โดยเขาหวังว่า ถ้าโชคดีจะมีเศรษฐีคนไทยสักคนที่รู้คุณค่าหรือนายแบงก์สักคนเหมาไปหมด เพียงเท่านั้นเขาจะมีความสุขที่ได้มีคนมาสานต่อภาระของเขาได้แล้ว

 

“ ความสุขที่ได้เป็นเจ้าของเหรียญเหล่านี้มา 10 กว่าปีได้ชื่นชมทุกมุมและทุกลวดลายบนหน้าเหรียญ เป็นความสุขแล้ว ยังไม่อิ่มตัวหรอกแต่ไม่มีเงินที่จะสานต่อเท่านั้น”นี่คือความในใจสุดท้าย ของคนบ้าเหรียญที่จำต้องยกธงขาว

 

* * * * * * * * * * * *

 

ข้อแนะนำ... คลื่นลูกใหม่ หัดเก็บเหรียญ

สำหรับใครก็ตามที่เริ่มหลงเสน่ห์เหรียญกษาปณ์ ไทยเข้าแล้ว ควรเริ่มเก็บสะสมตั้งแต่เหรียญสมัยรัชกาลที่ 9 ให้ครบเสียก่อน แล้วจึงไล่เรียงเก็บตามรัชสมัยย้อนกลับไปจนถึงสมัยสุโขทัย โดยไม่จำเป็นต้องหาซื้อเหรียญที่มีราคาแพง ให้เลือกสะสมตามความสนใจและกำลังทรัพย์ที่มีอยู่ ควรเลือกเก็บเหรียญที่เราสามารถเก็บได้ก่อน แล้วนำมาเรียงใส่ในสมุดหรือกล่องให้สวยงาม

 

ข้อแนะนำสำหรับการเริ่มต้นสะสมเหรียญนั้น ก่อนอื่นต้องมีคู่มือเสียก่อน ซึ่งปัจจุบัน มีการผลิตคู่มือการสะสมเหรียญออกมาพอสมควร ซึ่งมีรายละเอียดและราคาประเมินอยู่ในนั้น แต่สำหรับราคาขายจริงอาจจะถูกกว่าหรือแพงกว่า ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ขายเป็นหลัก และอัตราส่วนของความต้องการเหรียญเปรียบเทียบกับปริมาณการผลิต เพราะแม้จะเป็นเหรียญที่เพิ่งจะผลิตออกมา แต่ถ้ามีจำนวนน้อย ราคาเหรียญก็จะสูงขึ้นได้

 

การเริ่มเก็บเหรียญ อาจเริ่มเก็บเป็นรุ่นๆ ก่อน แล้วจึงเริ่มเก็บเป็น พ.ศ. หากเหรียญใดที่ผลิตออกมาน้อย มีราคาแพงก็ให้ข้ามไป เนื่องจากหน้าตาเหรียญจะเหมือนกันทุกประการ ต่างกันก็เพียงตัวเลขแสดงปีผลิตเท่านั้น ซึ่งไม่จำเป็นที่นักสะสมมือใหม่ต้องยอมเสียเงินจำนวนมากเพื่อให้ได้เหรียญมา เก็บไว้

 

นอกจากนี้ การสมัครเป็นสมาชิกของสมาคมเหรียญกษาปณ์แห่งประเทศไทย ก็เป็นช่องทางสำคัญ ช่วยให้นักสะสมทั้งมือเก่าและมือใหม่ได้รับความรู้เพิ่มเติมและยังได้พบปะ กับสมาชิกผู้มากประสบการณ์ที่จะคอยให้คำแนะนำดีๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อนักสะสมรุ่นใหม่อีกด้วย ซึ่งสามารถติดต่อได้ที่ : 16 ซ.พัฒนเวศม์ ถ.สุขุมวิท 71 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110

 

สำหรับแหล่งเหรียญโบราณยอดฮิต ที่จะพาบรรดามือใหม่ทุกคนเปิดประตูไปสู่เหรียญกษาปณ์หน้าตาแปลกๆ นั้น ได้แก่ กองกษาปณ์ กองเครื่องราชย์ ร้านขายของเก่าในตลาดนัดจตุจักร และคนเก็บเหรียญที่ตัดสินใจยอมปล่อยเหรียญให้เปลี่ยนมือเจ้าของ ซึ่งร้านขายของเก่าข้างต้นนี้ จะเป็นที่รู้กันว่า ทางร้านจะการันตีเหรียญแท้ให้ด้วย นั่นคือ หากซื้อเหรียญมาแล้วพบว่าเป็นเหรียญปลอมก็สามารถคืนเหรียญได้ทันที

 

แต่การจะเก็บเหรียญให้สนุกและมีความสุขแบบไม่รู้จบนั้น อนุรัตน์ยัง ฝากมาถึงนักสะสมมือใหม่ด้วยว่า ... ควรเก็บเหรียญเพราะรักในเหรียญกษาปณ์ของไทย หมั่นค้นคว้าหาข้อมูลของเหรียญประกอบกันไป ให้เข้าใจถึงความเป็นมาที่หลอมรวมกันเป็นประวัติศาสตร์ของเหรียญกษาปณ์ไทยใน ยุคต่างๆ ซึ่งจะทำให้ทุกคนทึ่งไปกับเบื้องหลังของเหรียญแต่ละเหรียญที่สูงค่าเสียยิ่ง กว่ามูลค่าการแลกเปลี่ยนซื้อขายใดๆ ในปัจจุบัน

 

** หมายเหตุผู้เขียน** เนื่องจากเกิดปัญหาเรื่องการเข้าใจผิด จึงขอแก้ไขข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่จะใช้ประมูลเหรียญกษาปณ์จาก eBay มาเป็น www.pantavanij.com

 

* * * * * * * * * *

 

เรื่องโดย ปาณี ชีวาภาคย์ / ภาษิตา ภิบาลญาติ

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

:wub: หวัดดีคะคุณส้มโอมือ และเพื่อนๆที่น่ารัก พักผ่อนเยอะๆนะคะ พรุ่งนี้เจอกันคะ :bye

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เหรียญเจ้าฟ้าเพชรรัตน์น่าซื้อไหมครับ

 

เหรียญเงินหรือทองดีครับ

 

ตอนนี้ทอง 24000 เหรียญ 30000 ถือว่าถูกหรือแพงครับ

ถูกแก้ไข โดย milo

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เหรียญเจ้าฟ้าเพชรรัตน์น่าซื้อไหมครับ

 

เหรียญเงินหรือทองดีครับ

 

ตอนนี้ทอง 24000 เหรียญ 30000 ถือว่าถูกหรือแพงครับ

ตอบยากครับว่าถูกหรือแพง ถ้าคุณต้องการเก็บเหรียญขององค์นายหลวงที่ผลิตออกมาทุกเหรียญ คุณขาดไป 1-2เหรียญและหาในตลาดยากพอควร ถึงแพงผมก็เชื่อว่าคุณก็อาจสู้ราคา

ถ้าคุณต้องการเก็บเหรียญของครอบครัวขององค์เหนือหัวทั้งหมด คุณก็ต้องมี เหรียญพระบิดา เหรียญสมเด็จย่า เหรียญองค์ราชีนี เหรียญพระโอรสและพระธิดา จะเก็บเหรียญพระนัดดามั้ย

ถ้าคุณต้องการเก็บเหรียญราชวงศ์จักรีทั้งหมด คุณก็ต้องมีครบทั้ง 9รัชกาล บางคนอยากเก็บละเอียดก็อาจเก็บเหรียญองค์ราชีนีของแต่รัชกาล ด้วยถ้ามีการผลิต องค์ร6 มีทายาทสายพระโลหิตเพียงพระองค์เดียวคือเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ ก็ขึ้นอยู่ กับว่าอยากเก็บมั้ย ถ้าคุณมีเหรียญร6แล้ว และมีเหรียญตอนประสูติเจ้าฟ้าเพชรรัตน์แล้ว(ไม่รู้นะว่ามีมั้ย) คุณจะ เก็บเหรียญนี้มั้ย

 

การเก็บเหรียญก็เหมือนแสตมป์ เป็นการบันทึกเหตุการณ์ต่างๆเช่น

--เหรียญ ครบรอบ100ปี การรถไฟ ที่เหรียญมีคำว่า 26 มีนาคม 2540 มีพระรูปองค์ร5 คู่กับองค์ร9 ผมก็เดาว่าการรถไฟสร้างในสมัยองค์ร5 วันที่ 26 มีนาคม 2440

--เหรียญครบรอบ100ปี โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย 29 ธันวาคม 2553 มีพระรูปองค์ร6คู่กับองค์ร9 คงเดาได้ว่า............

--เหรียญ100ปี การพยาบาลไทย 12 มกราคม 2539 มีรูปสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชีนีนาถ คงเดาได้ว่า..........

--เหรียญUNDP มี ข้อความว่า 26 พฤษภาคม 2549 มีพระรูปองค์ร9 ประมาณว่า 26 พฤษภาคม 2549ยูเอ็นดีพี ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลเกียรตินี้ยศแด่องค์ร9

 

ถ้ามีคนสะสมแนวไหนเยอะและของมีน้อย ราคาของก็จะแพง บางแนวไม่มีคนสะสมก็ไม่ได้ราคา ผลิตมากหรือน้อยก็มีผล สุดท้ายเราอาจสะสมไม่ตรงกับคนอื่นก็ได้ เหรียญ2สี10บาทที่เราใช้กันอยู่นี้ เหรียญเหมือนกันเลยแต่ต่างปีพ.ศ. เท่านั้น จำปีพ.ศ.ไม่ได้แล้วมีราคาถึงระดับแสนอัพ(ถ้าจำไม่ผิด) คือทำบล็อคของปีนั้นมาแล้วแต่สุดท้ายปริมาณเหรียญพอใช้ในท้องตลาด ก็เลยผลิตมานิดหน่อยน่าจะร้อยกว่าเหรียญแล้วแจกจ่ายให้ผู้เข้าประชุมอะไรสักอย่าง ทีนี้มีคนสะสมเหรียญ2สี10บาททุกปีพ.ศ.มากพอสมควร มีการปั่นกระแสให้คนอยากมีให้ครบทุกปีพ.ศ.ด้วย สุดท้ายเหรียญหายากเลยอัพราคาไปแพงมากมาย

 

อย่างผมมีเหรียญกาญจนาภิเษก 50 ปีองค์นายหลวง เหรียญกษาปณ์ทองคำที่ระลึกมีครบ3เหรียญ(ราคาหน้าเหรียญ1500บาท 3000บาท 6000บาท) เหรียญทองคำที่ระลึกกาญจนาภิเษกมี1เหรียญ(หนัก15กรัม) มีเหรียญกษาปณ์เงินที่ระลึกกาญจนาภิเษก3เหรียญ(ราคาหน้าเหรียญ 150บาท 300บาท 600บาท) สรุปผมมีทั้งหมด7เหรียญ ถ้าผมไปเจอเหรียญกาญจนาภิเษกที่ผมไม่มี ผมก็คงสนใจอยากเก็บเพิ่มเหมือนกันถ้าราคาไม่แพง

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

------

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Seam Arsenal

Silver price pattern จบ wave C เเล้วรอ corection wave II ก่อนนะครับ เเล้ว SI จะขึ้นครั้งใหญ่อีกรอบหนึ่งประมาณ เดือนเมษา - พฤษา

 

430685_345176335528953_100001097679177_1039020_1606196597_n.jpg

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เหรียญเจ้าฟ้าเพชรรัตน์น่าซื้อไหมครับ

 

เหรียญเงินหรือทองดีครับ

 

ตอนนี้ทอง 24000 เหรียญ 30000 ถือว่าถูกหรือแพงครับ

 

ต้องตรวจสอบดูว่าเหรียญอื่นที่ยังสามารถแลกกรมธนารักษ์ได้ มีเหรียญอะไรบ้างและราคาเท่าไหร่ เช่นเหรียญเงินสมเด็จย่า 21 ตุลาคม2551 เหรียญเงินสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เฉลิมพระชนมพรรษา75 พรรษา เหรียญเงินสมเด็จพระเทพฯ พระชนมมายุ 50พรรษาและ36พรรษา เช่นเหรียญเงินองค์ร9 พระชนมพรรษา6รอบ ทั้งหมดทีกล่าวมาผมซื้อกับกรมธนารักษ์ที่ศูนย์สิริกิติ์เมื่อปีที่ผ่านมา

เมื่อทราบราคาแล้วก็ชั่งใจว่าอยากได้เหรียญไหน แต่ถ้าคุณมีแล้วอยากได้เหรียญผลิตแบบใหม่ที่ยังไม่มีก็โอเค

ต้องถามว่าซื้อเพื่อสะสมหรือเพื่อลงทุน

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับ

 

ซื้อเพื่อลงทุนน่ะครับ

 

อยากรู้ว่าถ้าเทียบกับทองคำ เงินแท่งแล้ว ผลตอบแทนจะดีกว่าไหม

ถูกแก้ไข โดย milo

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับ

 

ซื้อเพื่อลงทุนน่ะครับ

 

อยากรู้ว่าถ้าเทียบกับทองคำ เงินแท่งแล้ว ผลตอบแทนจะดีกว่าไหม

 

ถ้าไม่ใช่เหรียญที่ผลิตจำนวนน้อยและมีคนต้องการมาก ไม่ใช่เหรียญที่ตลาดสร้างกระแสให้คนอยากได้จุดติด ไม่คุ้มการลงทุนครับ ขนาดเหรียญทองคำขององค์นายหลวง ซึ่งน่าจะเป็นเหรียญที่มีคนต้องการมากสุด ญาติซื้อจากโรงจำนำมาให้ผมซึ่งส่วนมากจะเป็นเหรียญทองคำ90% แต่คิดในราคาทองคำ96.5และบวกเพิ่มอีก5%

เหรียญเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ เป็นเหรียญทองคำ90% หนัก15กรัม ขายในราคา30000บาท ถ้าเพื่อลงทุนฟันธงว่าไม่คุ้มครับ แต่ถ้าเป็นเหรียญสะสมก็ต้องแล้วแต่ความชอบครับ

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เหรียญที่ผมซื้อทั้งหมด(เงินและทอง) 99.9% ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เหรียญที่ผมซื้อทั้งหมด(เงินและทอง) 99.9% ครับ

 

เหรียญทองคำของไทยที่ทราบมา ถ้าไม่ใช่วาระพิเศษมากและเกี่ยวเนื่องกับองค์เหนือหัวแล้ว จะเป็นทองคำ90% ของคุณ ee16053 น่าจะเป็นเหรียญนอก เป็นเหรียญธรรมดาหรือขัดเงาครับ เหรียญทองคำของคุณee16053 บวกประมาณกี่%จากราคาทองคำครับ

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...