ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 3, 2014 สัพเพ สัตตา , อะเวรา โหนตุ , อัพยาปัชฌา โหนตุ , อะนีฆา โหนตุ สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกัน อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นเถิด อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 3, 2014 วันที่ 2 ส.ค.57 คสช.ช่วยเหลือคนไทยชุดแรก กลับมาจากลิเบียถึงไทยแล้ว จากสถานการณ์สงครามกลางเมือง สู้รบกันอย่างหนักในประเทศลิเบีย ระหว่างกลุ่มติดอาวุธหัวปฏิรูป กับกลุ่มติดอาวุธสุนี่ห์ ที่หนุนหลังโดยอเมริกา ส่งผลให้บิ๊กตู่ หัวหน้า คสช.สังการกระทรวงต่างประเทศดูแลคนไทยที่นั่น ผลการประสานงานมีผู้แสดงความจำนงค์จำนวนราว 80 คน และสมัครใจกลับประเทศจำนวน 8 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่ไปเรียนต่อที่นั่น ส่วนที่เหลือยังขออยู่ต่อ ประเมินสถานการณ์ จะบอกว่าสถานการณ์นับแต่นี้ ที่ลิเบียจะยิ่งเลวร้ายหนักกว่าเดิม เพราะเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ชาวฟิลิปปินส์ ที่ไปรับจ้างที่นั่น เขาเดินทางออกมาแล้ว นั่นหมายความว่าระบบสาธารณสุขที่นั่น กำลังจะล่มสลาย เพราะหมอ พยาบาล ไปรับจ้างที่นั่นเยอะมาก หมอลิเบียเองมีน้อย ไม่มีทางพอเพียงกับการรับมือไหว ยิ่งสู้รบกันดุเดือดขนาดนี้ จะมีตาย และเจ็บอีกมาก ทุกระบบจะตกในสภาพไร้รัฐ การจับตัวเรียกค่าไถ่ การฆ่าตัดคอชาวต่างชาติ จะขยายวง รัฐไม่มีทางควบคุมสถานการณ์ได้เบ็ดเสร็จ ตราบที่อเมริกา ยังแทรกแซงลิเบีย หนุนอาวุธอยู่แบบนี้ อันตรายจนกการสู้รบจะรุนแรง และขยายวงขึ้น ทั้ง 2 กลุ่มคงไม่ตกลงจบปัญหาง่ายๆ เพราะอเมริกาเขาจะไม่ยอมให้จบ ตราบเท่าที่กลุ่มติดอาวุธของเขาคุมอำนาจประเทศลิเบียไม่ได้ @ เสธ น้ำเงิน4 วันที่ 2 ส.ค.57 อิสราเอลโหดสุดขั้ว ถล่มเละแม้โรงเรียนเด็กกำพร้า เห็นภาพนี้แล้ว แทบไม่น่าเชื่อเลย ว่าอิสราเอล กับ อเมริกา ที่ได้ชื่อว่าประเทศแล้ว และระบอบประชาธิปไตยเลือกตั้ง ทำกับชาวปาเลสไตน์ได้ลงคอขนาดนี้ ล่่าสุดมีเด็กๆ กำพร้า และผู้หญิงที่สามีตาย ไปหลบภัยในโรงเรียนแห่งหนึ่งในฉนวนกาซ่า โดยไม่มีอาวุธใดซุกซ่อนทั้งสิ้น ขณะกำลังนอนหลับกันกลางคืน อิสราเอลยิงปืนใหญ่ลงมา ตายเรียบหมดเลย ไม่มีโอกาสตื่น และรับรู้ว่าพวกเขาทำผิดอะไรด้วยซ้ำ แต่อเมริกากลับยิ่งขายกระสุนปืนใหญ่ ล็อตใหม่จำนวนมากมาให้อิสราเอลอีก โห...ตายราว 1,500 ราย เจ็บอีกราว 8,000 ราย ไฟฟ้า ประปา อาหาร ที่ซุกหัวนอน ยา ไม่เหลืออะไรสักอย่าง ไปนอนหลบตรงไหน ก็ยิงระเบิดใส่ โหดร้ายยิ่งกว่าซาตานกระหายเลือดเสียอีก ใครเห็นความจริงแบบนี้ ต่างแทบไม่เชื่อสายตา ว่าการฆ่าเด็ก มันคือการป้องกันตัวของอิสราเอลตรงไหน เพราะอาวุธของเด็กตัวเล็กๆ ก็แค่ขวดนมเปล่า ที่ไม่มีแม้นมจะกินเท่่านั้น แค่เด็กนอนในแผ่นดินของตัวเขาเอง ที่อิสราเอลอยากชิงมา โดน ยิงปืนใหญ่ใส่ ตัวขาด 2 ท่อน หัวหลุดหายไปเลย @ เสธ น้ำเงิน4 (4 photos) อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 3, 2014 วันที่ 2 ส.ค.57 สุดอึ้ง..รัฐบาลอเมริการับสารภาพ ว่าสอดแนมวุฒิสมาชิกระดับสูง ไม่นานมานี้ CIA ของอเมริกา สอดแนมนายกฯ เยอรมัน สอดแนมสภา และสอดแนมหน่วยข่าวกรองเยอรมัน จนต้องขับหัวหน้า CIA ประจำเยอรมันออกนอกประเทศมาแล้ว และความสัมพันธ์ก็มึนตึงต่อกัน นายจอห์น เบรนแนน ผู้อำนวยการ CIA ออกมาแถลงขออภัยและยอมรับว่า ซีไอเอเคยสอดแนมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ของสมาชิกระดับสูงของวุฒิสภาหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่เป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการด้านข่าวกรอง ซึ่งรับผิดชอบการทำรายงาน เปิดเผยวิธีการสอบปากคำผู้ต้องหาตาม "แบบโหดเฉพาะ" ของ CIA ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการเริ่มทำการสืบสวนการทรมานนักโทษของ CIA เมื่อปี 2552 และมีกำหนดเผยรายงานในอีกไม่ช้า ขณะที่วุฒิสมาชิกหลายคน ต้องการให้ผู้อำนวยการ CIA ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ แถลงเมื่อวันศุกร์ ยอมรับว่า วอชิงตันกระทำการหลายอย่างที่ขัดกับบรรทัดฐานแห่งศีลธรรมของตัวเอง นั่นคือการที่เจ้าหน้าที่ CIA ยังคงทรมานร่างกายผู้ต้องขังในเรือนจำกวนตานาโม ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มอัลกออิดะห์ แม้จะผ่านพ้นเหตุวินาศกรรม 9/11 มานานแล้วก็ตาม นอกจากนี้ โอบามา ยังกล่าวปกป้องนายจอห์น เบรนแนน ผู้อำนวยการ CIA ว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่ง โอ้โห..สอดแนมวุฒิสมาชิกระดับสูง ที่เป็นกรรมาธิการสอบสวน CIA ทรมาณคนอื่น ประเทศประชาธิปไตยอะไรกันเนี่ย นี่มันเผด็จการแล้ว มิน่า สมัยมิสซิสปูข้าวเน่าเป็นนายกฯ ถึงเคยมีการสอดแนมลอบดักฟังโทรศัพท์ของนักการเมือง และฝ่ายคิดต่างบ่อยครั้ง ติดโรคชอบ สอด-แนม..จากไอ้มาม่า มานี่เอง @ เสธ น้ำเงิน1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 3, 2014 (มีการแก้ไข) วันที่ 3 ส.ค.57 เป็นเรื่อง ตำรวจท่องเที่ยวหน้าแตก อายฝรั่งเชียงใหม่ ฝรั่งคนหนึ่งที่อยู่เชียงใหม่มา 20 ปี ไปทำธุระที่สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ เจอบู็ทตำรวจท่องเที่ยว มีภาพปูข้าวเน่าติดอยู่เบ่อเร่อ เขาโวยวาย และเรียกตำรวจมาบอกให้ Update ข้อมูลบ้าง และแกะภาพออกไป เพราะปูข้าวเน่าถูกศาลปกครอง ถีบตกจากตำแหน่งมาจะ 3 เดือนแล้ว..แป่ว ฝรั่งยังรู้ดีกว่าข้าราชอีก แถมที่น่าอึ้งคือ ผบ.ตำรวจ ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วยงานตำรวจเปลี่ยนไปตั้งนานแล้ว แต่ยังมีภาพ ผบ.ตำรวจเก่าติดอยู่อีก ผบ.ตำรวจคนใหม่ เขาจะรู้สึกอย่างไร จนจะเกษียณอยู่แล้ว ลูกน้องตนเองยังไม่ Update ภาพให้เป็นปัจจุบันอีก ดังนั้น หากหน่วยราชการใดยังติดภาพปูข้าวเน่าอยู่ แสดงว่าไม่ Update ข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน เพราะผู้นำประเทศตอนนี้คือบิ๊กตู่ และ สนามบินนานาชาติเป็นสถานที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางไป-มา มากมาย ก็จะเกิดความสับสนว่า ใครเป็นผู้นำประเทศไทยกันแน่ เสียชื่อข้าราชการยุคใหม่ รวดเร็วฉับไว ในสมัย คสช.หมดเลย @ เสธ น้ำเงิน2 วันที่ 3 ส.ค.57 กลุ่มการเมืองใหญ่ ไม่เข้าร่วมปฏิรูปประเทศ กลุ่มการเมืองใหญ่ 2 พรรค คือ ฟ้า และ แดง ปฏิเสธ ไม่เสนอคนเข้าในสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สภช.) แสดงว่ากระบวนการปฏิรูปประเทศไทยครั้งนี้ จะไม่มีข้อคิดเห็นจากกลุ่มการเมือง ดังนั้นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็อาจไม่จำเป็นต้องมีพรรคการเมืองก็ได้ คนสมัคร ส.ส.ในอนาคต ก็ไม่ต้องสังกัดพรรค เป็นตาสี ตาสา ก็ได้ ถ้าประชาชนเลือกเข้า ก็อาจเป็น ส.ส.ได้ สมัยที่ผ่านมารัฐธรรมนูญบังคับ ให้คนสมัคร ส.ส.ต้องสังกัดพรรคการเมือง ทำให้มีการซื้อตัวอดีต ส.ส.กันมากถึง 60 ล้านบาทต่อคน เพื่อให้ย้ายพรรค บางคนพรรคเล็ก พรรคกลาง อยากสมัครแทบตาย แต่หัวหน้าพรรคไม่เซ็นต์รับรอง เพราะไม่จ่ายเข้าพรรค บางคนอยากเป็น ส.ส.ปาตี้ลิส ลำดับต้นๆ ของพรรค ต้องประมูลจ่ายให้พรรคถึง กว่า 40 ล้านบาท ใครประมูลต่ำกว่านี้ ลำดับก็อยู่ท้ายๆ ต่อมาพวกไม่อยากจ่าย ก็ทำงานแลกเอา โดยการจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธขึ้นมาหนุนพรรค แล้วเผาเมืองเพื่อแลกลำดับที่ ส.ส.ปาตี้ลิสลำดับต้น พอจะเป็น รมต.ก็ต้องจ่ายหัวหน้าคนแดนไกล สมัยแรกๆ ต้องจ่ายถึง 250 ล้านบาท ในตำแหน่ง รมต.ค้าขาย เมื่อหัวหน้าซื้อตัว ส.ส.แล้ว , รมต.จ่ายให้หัวหน้าแล้ว , ส.ส.จ่ายเงินซื้อเสียงแล้ว เมื่อชนะเลือกตั้งได้เป็น ส.ส.ก็จะถอนทุนคืนบ้าง โดยมีงบให้กินคนละ 50 ล้านบาทต่อปี พรรคใดได้เป็นรัฐบาล จะจ่ายเงินเดือนต่างหากให้ ส.ส.อีกคนละราวกว่า 5 หมื่นต่อเดือน เทศกาลพิเศษ ปีใหม่ สงกราน อีก 1 แสนบาทต่อครั้ง ค่าเบี้ยประชุมกรรมาธิการชุดต่างๆ อีกกว่า 20 ชุด บางคนเป็นกรรมาธิการหลายคณะ วิ่งรอกเซ็นชื่อรับเงินกันบางวัน 4 รอบ ค่าไปดูงานต่างประเทศของกรรมาธิกาทุกคณะอีก , ค่าเครื่องบิน พาหนะในประเทศอีก บางคนเป็นล้านต่อปี , ค่าเงินเดือนที่ปรึกษา ส.ส.ที่เคยเป็นหัวคะแนนอีกราว 4 หมื่นบาท ตั้งได้ถึง 2-3 คน ค่าจ้างเป็นฝักถั่วยกมือกฎหมายสำคัญที่มีผลประโยชน์อีก โดยมีวิปคอยกำกับเสียง เช่น เรื่องโทรคมนาคม แก้ไขรัฐธรรมนูญลักหลับ อันนี้ต้องจ่ายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทต่อยก 1 ฝักถั่ว แค่ช่วง 2 เดือนที่ยึดอำนาจ ประหยัดเงินงบประมาณต่างๆ ที่ต้องจ่ายให้นักการเมือง ถึงราว 1,000 ล้านบาท เฉพาะที่ตัดบำนาญ ส.ส.ทิ้ง ก็ปาเข้าไป 400 ล้านบาทเข้าไปแล้ว แล้วแบบนี้ประชาชน ได้อะไรจากพรรคการเมือง ประชาชนได้อะไรจากประชาธิปไตย เลือกตั้ง หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ราว 82 ปีผ่านมานี้ ประชาชนได้อะไร เอางี้ ให้ไปตรวจสอบดูย้อนหลัง 20 ปี ว่ามีพรรคการเมืองไหนบริจาคเงินสักบาท เวลาน้ำท่วมบ้าง ถ้าหาเจอยอมจ่ายค่าจ้างหาให้ 1 บาท @ เสธ น้ำเงิน2 ถูกแก้ไข สิงหาคม 3, 2014 โดย ginger 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 3, 2014 "เสี่ยเปี๋ยง"หายตัว!ไม่แก้ข้อกล่าวหาคดีข้าว-สยามอินฯ ยังไม่ส่งงบปี 56 "เสี่ยเปี๋ยง"หายตัวลึกลับ! ไม่ติดต่อ ป.ป.ช.แก้ข้อกล่าวหาคดีทุจริตระบายข้าวจีทูจี หลังถูกระบุชื่อเป็นหนึ่งในเอกชน 91 ราย สนับสนุนกระทำความผิด ด้าน "สยามอินดิก้า" ยังไม่ส่งงบดุลปีล่าสุด จากกรณีที่นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ "เสี่ยเปี๋ยง" นักธุรกิจชื่อดัง คนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปรากฎรายชื่อเป็นหนึ่งในเอกชนผู้สนับสนุนการกระทำความผิดคดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมกับผู้บริหารบริษัทสยามอินดิก้า จำกัด และเอกชนรายอื่น รวมจำนวนทั้งสิ้น 91 ราย นั้น (อ่านประกอบ : เช็คชื่อเอกชน 91 ราย ในบัญชีแจ้งข้อกล่าวหา ป.ป.ช. คดีระบายข้าวจีทูจี!) แหล่งข่าวระดับสูงจากคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีทุจริตระบายข้าว จีทูจี ของ ป.ป.ช. นี้ เปิดเผยสำนักข่าวอิศราwww.isranews.org ว่า ขณะนี้ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร ยังไม่ได้เข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากับทางคณะอนุฯไต่สวนคดีนี้แต่อย่างใด "หากนายอภิชาติ ไม่ติดต่อเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากับทางคณะอนุฯไต่สวน ตามระเบียบ ป.ป.ช. จะถือว่านายอภิชาติ ไม่ติดใจที่จะใช้สิทธิชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา" แหล่งข่าวระบุ (อ่านประกอบ : ชะตากรรม "เสี่ยเปี๋ยง" คนสนิท "แม้ว" หลังเจอโทษคุก 6 ปี คดียักยอกข้าว!) ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากการไม่เข้าชี้แจงข้อกล่าวหาของนายอภิชาติ แล้ว จากการตรวจสอบข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ปัจจุบัน บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ยังไม่ได้นำส่งงบดุลแสดงผลประกอบการ บริษัท ล่าสุดในปี 2556 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเกี่ยวเนื่องจากที่ปัญหาโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ถูกตรวจพบความไม่ชอบมาพากล และปรากฎชื่อบริษัทฯ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ให้กรมพัฒนาธุรกิจรับทราบแต่อย่างใด ขณะที่บริษัทเอกชนส่วนใหญ่ นำส่งงบดุลปี 2556 ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า รับทราบแล้ว ในช่วงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลงบดุล บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ที่นำส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า รับทราบ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา มีการระบุว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้า เป็นจำนวน 10,458,063,762.65 บาท มีรายได้อื่นอีกจำนวน 7,851,033.41 บาท รวมรายได้ทั้งหมด 10,534,940,779.35 บาท ส่วนรายจ่ายนั้น บริษัทฯ แจ้งว่ามีต้นทุนสินค้าที่ขาย 9,773,309,058.53 บาท มีค่าใช้จ่ายในการขาย 430,569,269.55 บาท และมีค่าใช้จ่ายในการบริหาร107,310,643.64 บาท รวมรายจ่ายทั้งหมด 10,311,188,971.72 บาท ทำให้ตัวเลขกำไรสุทธิ อยู่ที่ 76,607,716.43 บาท จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2556 บริษัท สยามอินดิก้า ได้แจ้งเพิ่มทุนจดทะเบียนใหม่ เป็นจำนวนเงิน 1,008,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมที่มีอยู่ 856,000,000 บาท ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลผลการประกอบการทางธุรกิจ บริษัทสยามอินดิก้า จำกัด พบว่า งบดุลปีล่าสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554 ระบุว่า มีรายได้จากการขายและบริการสุทธิ 4,408,552,336.04 บาท ลดลงจากรายได้ปี 2553 จำนวน 4,694,320,393.74 บาท และ รายได้ปี 2553 จำนวน 5,495,111,405.57 ขณะที่การดำเนินกิจการในช่วงปี 2554 บริษัทฯ มีต้นทุน 4,316,957,105.09 บาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 148,273,737.46 บาท ตัวเลขขาดทุนและดอกเบี้ยต่างๆทำให้ มีตัวเลขขาดทุนสุทธิอยู่ที่ -150,347,471.90 บาท (อ่านประกอบ : "สยามอินดิก้า"ตัวละครเอกระบายข้าว"จีทูจี"แจ้งรายได้ล่าสุดโกยหมื่นล้าน!) วันอาทิตย์ ที่ 03 สิงหาคม 2557 เวลา 10:00 น.โดย สำนักข่าวอิสรา ทางการออสเตรเลียเตรียมทบทวนเรื่องการว่าจ้างอุ้มบุญ นายสก๊อตต์ มอร์ริสัน รัฐมนตรีกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองของออสเตรเลียตั้งคำถามถึงความรับผิดชอบต่อชะตากรรมของทารกวัย 6 เดือน ที่มีอาการดาวน์ซินโดรมและถูกพ่อแม่ชาวออสเตรเลียทิ้งไว้กับสาวไทยที่รับจ้างอุ้มบุญ... JS100.COM อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 3, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 3, 2014 " เวลาเสด็จแปรพระราชฐานไปเยี่ยมราษฎรในท้องถิ่นทุรกันดาร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระเทพฯ ทรงรับภาระในการหาแหล่งน้ำอาสาประสานงานช่วยกับรัฐบาลของพระองค์เองจัดหาน้ำให้ราษฎรทำการเพาะปลูกและใช้สอย ส่วนงานทางด้านกุศลดูแลครอบครัวของเกษตรกรและกสิกรเป็นงานที่ทรงมอบหมายให้เป็นธุระของข้าพเจ้า " ส่วนหนึ่งของพระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๒๗ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 3, 2014 เส้นทาง...เยี่ยมประชาชนของพระเจ้าแผ่นดิน บทความ ที่จะประกาศว่า " รักพ่อ"ครั้งที่ ๑๗๘ บทความนี้จะขอลงให้ครบ ๑,๐๐๐ ครั้ง เพื่อบอกลูกๆทุกคนให้รับรู้และช่วยกันแชร์ให้ทราบว่าพ่อเหนื่อย เพื่อพวกเรามาทั้งชีวิต บทความนี้เกิดจากการพูดคุยกับคนจำนวนมากเรื่องในหลวงและเป็นเรื่องแปลกที่เรารู้สึกเหมือนกันซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะยิ้ม น้ำตาซึม ตื่นตัน ในเวลาที่รับรู้ ฟัง เรื่องราวของใครสักคนหนึ่ง แต่ ณ. ตอนนี้ความรู้สึกนี้ไม่แปลกแล้วเพราะ คนที่คนไทยทั้งโลกรู้สึกเช่นกันเมื่อได้รับรู้เรื่องราวของ....ในหลวง บทความนี้จึงเปรียบเสมือนความในใจของทุกคนที่ถูกกลั่นกรองมาเป็นตัวอักษร หวังว่าเมื่ออ่านจบคงจะรู้สึกเช่นกันว่า.....พวกเรามีความสุขที่เกิดใต้ร่มโพธิ์ทองของพ่อ พ่อ เหนื่อยเพื่อใคร ? พ่อ เคยบ่นไหม ? พ่อ ผู้มีแต่ให้ ? พ่่อ ผู้มีแต่รักไม่เคยโกรธลูกๆแสนดื้อดึง พ่อ จะเสียใจแค่ไหนที่ลูกๆ ทะเลาะกันเอง พ่อรักเราอย่างไม่มีเงื่อนไขและสิ่งตอบแทนใดๆ...อย่าทำให้พ่อเสียใจ.....ได้ไหม ในภาพคือ พ่อ ในหลวง พระเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ เจ้ามหาชีวิต พ่อหลวง THE KING ฯลฯ แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้วท่านคือ "เทวดาที่มีลมหายใจ" ภาพท่านสะพายกล้อง ตั้งแต่ตอนหนุ่มๆจนกระทั่งตอนนี้ท่านอายุมากแล้วก็ยังสะพายกล้องคล้องไว้ที่คอเสมอกว่า ๖๗ ปี ที่ทรงทำเช่นนี้ ทุกที่ที่ไปท่านจะถ่ายภาพ ถ่าย ถ่าย ถ่าย ....... และก็ถ่าย สำหรับพวกเรากล้องหนึ่งตัวมันเบามาก แต่สำหรับท่านที่อายุมากและไม่ค่อยแข็งแรงควรจะพักและเลิกถ่ายภาพ การแบกกล้องไว้คงหนักมากแต่พ่อก็ไม่เคยหยุดถ่ายภาพ ทุกครั้งที่ยกกล้องถ่ายภาพ ป่า เขา ถนนหนทางแม้แต่เวลาเสด็จไปที่ต่างๆพบเจอประชาชนพ่อจะถ่ายไว้เช่นกัน ถ่ายภาพท่ามกลางเสียงคำว่า "ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ " ถ่าย ถ่าย ถ่าย และก็วางกล้องยกมือโบกให้ทุกคนด้วยความรัก พร้อมรอยยิ้มเล็กๆผ่านดวงตาและมุมปากของพ่อ ข้าพเจ้าสงสัยเสมอว่าพ่อถ่ายทำไม ? บ้านเมืองก็เจริญแล้ว ? ทนแบกกล้องหนักๆทำไมในขณะที่ลูกหลายคนดื้อและไม่รักพ่อหรือไม่รู้จักคำว่ารักเพราะขาดหัวใจ คำตอบอยู่นี่ เพราะพ่อเคยบอกว่า...... "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" พ่อถ่ายภาพเรา เพื่อดูว่าเรายิ้มไหม อ้วนท้วนแข็งแรงหรือเปล่าอยู่ดีความสุขหรือยัง พ่อถ่ายภาพ ป่าเขา แม่น้ำ ฯลฯ เพื่อดูว่าจะป้องกันภัยน้ำท่วม ได้อย่างไรบ้าง และจะทำอย่างไรให้ ใน "น้ำมีปลา ในนามีข้าว" และไม่ให้น้ำท่วมบ้านของพวกเรา พ่อถ่ายภาพถนนหนทาง ว่าลูกๆจะเดินทางไปไหนมาไหนสะดวกสบายหรือเปล่า หากเจ็บป่วยขึ้นมาจะได้พาไปหาหมอได้ทัน ฯลฯ อีกมือหนึ่งก็มีแผนที่ใหญ่มากๆ พ่อจะพับไว้และคงเป็นแผนที่เดียวในโลกที่จะมีใครพับและถือไว้ได้ตลอดเวลา แผนที่ที่จะไปส่งความสุข ส่งความสบายให้ลูกๆ หากเปรียบแบบฝรั่งพ่อคงเหมือนซานตาครอสที่คอย มอบของขวัญและความสุขให้ผู้คนในวันคริสมาส แต่คนไทยโชคดีกว่าทุกชาติ เพราะอะไร? หน่ะหรอ ก็เพราะ " ๓๖๕ วันของคนไทยเป็นวันคริสมาสทั้งหมดเลย" พ่อมอบของขวัญและความสุขให้เราทุกวัน......... หรือแม้แต่ตอนที่พอป่วย พ่อรู้ว่าลูกๆเป็นห่วงมานั่งมานอนที่โรงพยาบาล พ่อก็ลงมา ลงมาให้ทุกคนเห็นว่าพ่อสบายดีนะ อย่าห่วงพ่อเลย แล้วพ่อก็ยกกล้องมาถ่ายรูปบรรดาลูกๆที่เปล่งเสียงว่า ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ บางคนมีน้ำตาไหล บางคนหมอบกราบกับพื้นเงยหน้ามาพร้อมรอยยิ้มที่มีน้ำตาอาบสองแก้มไหลลงมาถึงคางด้วยความปิติในใจที่ได้เห็นพ่อ... พ่อยิ้ม และโบกมือ เสียงทรงพระเจริญก็ยังคงกึกก้องจนพ่อขึ้นไปถึงห้องพัก แต่ใครจะรู้ว่า พ่อต้องหยิบกล้องมากดดูรูปที่ถ่าย ดูรอยยิ้ม ดูคราบน้ำตา พ่อดีใจนะ เพราะนั่นคือกำลังใจสำหรับพ่อ ว่าลูกๆรักพ่อนะ แต่อีกใจพ่อก็คงนึกห่วง ห่วงว่าลูกๆจะกินจะนอนอย่างไร ที่ไหน จะลำบากไหม ทุกลมหายใจของพ่อมีแต่..ลูกดื้อๆ พ่อได้เก็บความทุกข์ส่วนตัวไว้จากนั้นก็ทรงใช้ดวงตาเพียงข้างเดียว ศึกษาค้นคว้า อ่านหนังสือต่างๆมากมาย เพื่อทำงานของบ้านเมือง บำบัดทุกข์บำรุงสุข แก่ลูกๆของพ่อมาตลอดระยะเวลา ๖๖ กว่าปี เป็นอะไรที่หนักมาก สำหรับการยกกล้องแล้วกดถ่ายภาพ ถ่ายเพื่อความสุขส่วนรวมความสุขของคนทั้งประเทศและกล้องก็หนักขึ้นทุกวันๆแต่พ่อก็ไม่มีทีท่าจะหยุดถ่ายภาพหรือวางแผนที่เลย พ่อป่วย พออาการดีขึ้นพ่อก็กลับมาถ่ายภาพ กลับมามอบความสุขให้ลูกๆทันที พ่อเคยบอกว่าพ่อเป็นข้าราชการ เวลากรอกในเอกสารต่างๆ แต่ข้าราชการส่วนมาก พออายุ ๖๐ก็พักผ่อนแล้ว ไปเที่ยว หรืออยู่กับครอบครัว แต่นี่ ๘๖ ปีแล้วนะครับ พ่อก็ไม่มีทีท่าจะหยุดส่งความสุขให้ลูกแสนดื้อดึง พ่อของเราเหนื่อยมากๆ และเป็นพ่อที่ดีมากๆ ดูแลลูกตั้ง ๖๓ ล้านคน ทำได้อย่างไรหากไม่รัก แต่ว่ามีอย่างนึงที่พ่อโกหก!!! พ่อเคยบอกว่า..... "ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชนอย่างไรได้" หลายปีมานี้ลูกๆสุขสบายจากหยาดเหงื่อของพ่อในการสร้างความเจริญให้ประเทศ จนลูกๆหลายคน อยู่ดีมีสุขจนลืมพ่อและไม่รักพ่อ "ทิ้งพ่อ" และทำทุกวิถีทางให้พ่อเสียใจ พ่อบอกว่าถ้าประชาชนไม่ทิ้งพ่อ พ่อก็ไม่ทิ้ง แต่นี่ประชาชนทิ้งพ่อและทำร้ายจิตใจพ่อ แต่พ่อก็ให้อภัยและยังรัก รักเหมือนเดิม และไม่มีทีท่าว่าจะทิ้งประชาชนของพระองค์แม้แต่คนเดียว พ่อมองเห็นเราเสมอ..... ได้เวลาแล้วหรือยัง ที่จะทำให้พ่อมีความสุขบ้างแค่ไม่ทะเลาะกันพ่อก็สุขแล้วหล่ะ.... ไม่ใช่แค่พ่อที่ทำงานหนักเพื่อพวกเรา แต่หากยังมีพระราชินี แม่ของแผ่นดินอีกด้วยที่เป็นดั่งเงา คอยตามไปช่วยงานทุกที่ บุกป่า ฝ่าดง ขึ้นเขา ลงห้วย หนักมากนะครับสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องทำอะไรเช่นนี้ หากไม่รัก ท่านคงไม่ทำหรอก เราพยามมองหาหญิงเก่ง ฮีโร่ นี่ไง เรามีพร้อม ครบ ทั้งสองอย่างเลย ความสุขกายของทั้งสองพระองค์มิใช่อยู่ในวังใหญ่โตหรือสุขสบายใดๆ หากแต่ความสุขคือ เห็นประชาชนพ้นจากคำว่า "ทาสของความยากไร้และขาดการศึกษา" และทั้งสองพระองค์ก็ทำสำเร็จ ประชาชน อยู่ดี กินดี มีความรู้ บนหยาดเหงื่อของสองพระองค์ ที่ผ่านมานั้นชีวิตของสองพระองค์ท่านไม่ได้สบายและเลิศหรูเลยอย่างที่หลายคนคิด ทุกๆวัน ต้องทำงานที่หนักแสนหนัก เวลาไปต่างประเทศหลายคนคิดว่าไปเที่ยว ไม่ใช่อย่างที่คิด ท่านไปเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ วางรากฐานต่างๆไว้ให้คนไทย ให้ลูกๆมีตลาดขายของการเกษตร บ้านเราเมืองเราปลูกพืชปลูกข้าวขายไม่ได้มีเหมือง เพชร พลอย ทองคำ รวยๆแบบที่อื่น จะมีไหมพระราชา พระราชินี ประเทศไหนบนโลกใบนี้ ที่จะทำได้เช่นนี้ ขนาดในนิยาย ในการ์ตูนยังไม่มีเลยที่จะมาเกี่ยวข้าวในวัง เกี่ยวทำไม ? ท่านทรงสอนลูกๆว่าทุกคนก็ทำไร่ทำนาหาเลี้ยงตัวเองได้นะ อาชีพนี้ไม่ได้ต้อยต่ำนะ ดูซิพ่อกับแม่ยังทำเลย ความสุขใจของสองพระองค์นั้นคือรอยยิ้มของประชาชน ทุกๆวัน ทุกๆนาทีเป็นเวลา ๖๗ ปียังบอกถึงความรักที่ยิ่งใหญ่นี้มิได้อีกหรือ ?ท่านทรงสละความสุขส่วนตัวมามากพอแล้ว เมื่อไรเราๆท่านๆจะเริ่ม ตอบแทนพระคุณ ความรักที่ทั้งสองพระองค์มีต่อเรา หลายคนบอกว่าจะทำเช่นไรฉันก็แค่ประชาชนคนนึงไม่มีอำนาจอะไร ง่ายๆครับ แค่ทำตามคำสอนของพ่อที่บอกว่า...... " คนดีทำให้คนอื่นดีได้ หมายความว่าคนดี ทำให้เกิดความดีในสังคม คนอื่นก็ดีไปด้วยความเลวนั้นจะทำให้คนดีเป็นคนเลวก็ยาก แต่เป็นไปได้ ถ้าคนดีเข้มแข็งในความดี จะให้คนเลวมาทำให้คนดีเป็นคนเลวยาก สำคัญอยู่ที่ความเข้มแข็งของคนดี...." พระราชดำรัส ๔ ธันวาคม ๒๕๓๔ ข้าพเจ้ารักในหลวงและราชวงศ์ของเรามากพอๆกับที่พี่น้องชาวไทยคนอื่นรักเช่นกัน เพราะความรักของทุกพระองค์ท่าน ที่มีให้ประเทศของเราอย่างแท้จริง ได้พัฒนาให้ประเทศเราเจริญมากกว่าแต่ก่อนได้ขนาดนี้ จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่คนไทยทุกๆคน ควรจะยึดมั่น และทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ของเรายังยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคงและแข็งแรง อยู่คู่กับประเทศไทยของเราต่อไปอีกนานเท่านาน ข้าพเจ้าและคนไทยทั้งหลายไม่ได้คลั่งหรือรักในสถาบันอย่างหน้ามืดตามัว อย่างที่หลายๆคนบอก แต่พวกเราเห็น เห็นในสิ่งที่หลายคนไม่เห็นและหน้าที่ผมที่จะตอบแทนพ่อได้คือ"เล่าในสิ่งที่รู้บอกในสิ่งที่เห็น" ประเทศไทยประกอบด้วย ๓ สิ่งจึงเรียกว่าไทยอย่างภาคภูมินั่นคือ....... ร่มเงา คือชาติ ร่มเย็น คือศาสนา ร่มเกล้า คือพระมหากษัตริย์เจ้า "หากต่างปรารถนาสิ่งที่อยู่ไกลจนเหนื่อยล้า แม้เป็นดาวบนฟ้าก็ต้องทุกข์ตรม" ก็แค่อยากเล่า…แต่ด้วยใจ หาได้ใช้เหตุผล สิริเดชะกุล fb: นิทรรศการพลังแผ่นดิน อัศจรรย์งานศิลป์ แผ่นดินสยาม https://m.facebook.com/profile.php?id=388723421244 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 3, 2014 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 3, 2014 (มีการแก้ไข) แก่งหินเพิง แก่งหินเพิง ตำบลสะพานหิน อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นแก่งหินขนาดใหญ่ที่สวยงามอยู่ในลำน้ำใสใหญ่ ซึ่งมีลักษณะทางธรณีวิทยา เป็นชั้นหินทราย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่เหมาะแก่การล่องเรือยางที่ท้าทาย และสนุกสนาน ในช่วงฤดูฝนราวเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน เป็นช่วงที่มีปริมาณน้ำหลาก ล้นแก่ง และไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ เหมาะสำหรับการล่องแก่งหินเพิง หากพ้นช่วงฤดูฝนไปแล้วแก่งหินเพิงนี้จะกลายเป็นลานโขดหินกว้างใหญ่ การล่องแก่งหินเพิงจะผ่านแก่งต่าง ๆ ได้แก่ แก่งหินเพิง แก่งวังหนามล้อม แก่งวังบอน แก่งลูกเสือ แก่งวังไทร แก่งงูเห่า ถูกแก้ไข สิงหาคม 3, 2014 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 3, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 3, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 3, 2014 It' s ok, son. Everybody does it. เมื่อเปาอายุ 6 ขวบ ขณะที่นั่งรถไปกับพ่อ ถูกตำรวจจับเพราะขับรถเร็วเกินกำหนด พ่อแอบยื่นเงิน 200 บาทให้ตำรวจ และได้รับอนุญาตปล่อยตัวไป พ่อหันมาพูดกับเปาว่า "ไม่เป็นไรลูก เงินแค่นี้ซื้อเวลา ใครใครเขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละ" เมื่อเปาอายุ 8 ขวบ ป้าพาไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าเป็นเงิน 75 บาท เมื่อป้าไปชำระเงิน ยื่นธนบัตรร้อยบาทให้พนักงาน ได้รับเงินทอน 55 บาท เพราะลูกค้ามากและเข้าใจว่าธนบัตร 50 บาทคือ 20 บาท ป้ารับเงินทอนและใส่กระเป๋าทันที ทั้งที่รู้ว่าพนักงานทอนเงินผิด เมื่อออกจากร้าน ป้าก็พูดกับเปาว่า "ไม่เป็นไรหลาน ความผิดของเขาเอง ใครใครเขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละ" เมื่อเปาอายุ 9 ขวบ ครูให้การบ้านปลูกต้นหอมแดงในกระบะ 2 สัปดาห์ แล้วนำไปส่งที่โรงเรียน แม่ลืมซื้อหัวหอมแดงมาให้เปา เมื่อครบกำหนดวันส่ง แม่ให้พ่อไปซื้อต้นหอมแดงที่ตลาดและฝังลงในกระบะให้เปานำไปส่งครู และพูดว่า "ไม่เป็นไรลูก ครูไม่รู้หรอก มีส่งก็ดีแล้ว ใครใครเขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละ" เมื่อเปาอายุ 12 ขวบ เปาทำแว่นตาใหม่ราคาแพงของลุงแตก ลุงจึงนำใบเสร็จไปอ้างกับบริษัทบัตรเครดิตที่ลุงใช้บริการอยู่ว่าแว่นตาถูกขโมยได้รับเงินชดใช้มา 15,000 บาท เต็มราคาที่ซื้อมา ลุงพูดกับเปาอย่างภาคภูมิใจว่า "ไม่เป็นไรหรอกหลาน สิทธ์ของเรา ใครใครเขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละ " เมื่อเปาอายุ 15 ปี ได้เป็นนักฟุตบอลของโรงเรียน ครูฝึกได้สอนวิธีกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้ามให้บาดเจ็บโดยไม่ผิดถือว่าอยู่ในเกม ครูฝึกบอกเปาว่า "ไม่เป็นไรหรอก ได้เปรียบไว้ก่อนเป็นดี ใครใครเขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละ" เมื่อเปาอายุ 16 ปี ได้ไปทำงานระหว่างปิดเทอมที่แผนกซูปเปอร์มาร์เก็ตของห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อแห่งหนึ่ง หัวหน้าแผนกให้เปาจัดกระเช้าผลไม้ โดยแนะนำให้จัดวางผลไม่สวยจวนจะเน่าอยู่ก้นตะกร้า คัดผลสวย ใบโตสีสดจัดวางอยู่ส่วนบน หัวหน้าแผนกสอนเปาว่า "ไม่เป็นไรหรอกเปา ผู้ซื้อไม่ได้ใช้เอง แต่นำไปฝากคนอื่น ใครใครเขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละ" เมื่อเปาอายุ 18 ปี ได้สมัครสอบเพื่อเข้าขอรับทุนของมหาวิทยาลัย ปรากฏผลทราบเป็นการภายในว่ามาเป็นอันดับ 2 เมื่อพ่อรู้เข้าจึงไปพูดกับกรรมการซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน ในที่สุดเปาก็ได้รับทุน พ่อพูดกับเปาว่า "ไม่เป็นไรลูก เป็นโอกาสของเรา ใครใครถ้ามีโอกาสเขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละ " เมื่อเปาอายุ 19 ปี เพื่อนเอาข้อสอบปลายปีที่ขโมยมาขายกับเปาเป็นเงิน 1,500 บาท เปาลังเลใจและตัดสินใจซื้อในที่สุด เพราะเพื่อนพูดว่า "ไม่เป็นไรหรอกเปา เกรดมีผลกับอนาคตนะ ใครใครเขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละ " เมื่อเปาอายุ 32 ปี เปาถูกจับข้อหายักยอกเงินบริษัท 500,000 บาท และต้องติดคุก พ่อกับแม่ไปเยี่ยมและตัดพ้อต่อว่า "ทำไมลูกเปาทำอย่างนี้กับพ่อแม่ ที่บ้านเราไม่ได้สอนให้ลูกเปาเป็นคนขี้โกงเลยนะ" :::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: แนวคิดจาก It' s ok, son; everybody does it . By Jack Griffin ผู้เรียบเรียง #แนวทางการสอนลูกหลานเรา...เพื่อสังคมที่ดีขึ้น ❥ εїз︷‧¯`v´¯)︷‧:✿ Thx credit : Kitichai Taechangamlert @Life is sharing by หมอก้อย. อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 3, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 3, 2014 วันที่ 3 ส.ค.57 หลักฐานว่า ไซออนิสต์ คือเจ้านายของ รัฐบาล วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร อเมริกา หลังจากที่วุฒิสภาโหวตผ่านร่างกฎหมายนี้อย่างเป็นเอกฉันท์ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า สภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ ลงมติ 395-8 เสียง ให้จัดสรรงบประมาณ ราว 7,230 ล้านบาท อุดหนุนระบบป้องกันขีปนาวุธ “ไอรอนโดม” (Iron Dome) อิสราเอล งบประมาณก้อนนี้ จะถูกนำไปใช้จัดส่งขีปนาวุธเพิ่มเติมไปยังอิสราเอล หลังจากที่กองทัพอิสราเอลได้ระดมยิงขีปนาวุธใส่ฉนวนกาซา เพื่อตอบโต้จรวดพิสัยใกล้ของกลุ่มฮามาสในการสู้รบนองเลือดตลอดช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ร่างงบประมาณฉบับก่อนหน้านี้ ไม่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา เนื่องจาก ส.ว.รีพับลิกันคัดค้านการนำงบก้อนใหญ่ ไปใช้อุดหนุนมาตรการรับมือวิกฤตผู้อพยพบริเวณพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก แต่อย่างไรก็ดีผลการล็อบบี้ของยิงไซออนิสต์ ทำให้ทั้ง 2 สภาได้พิจารณาผ่านร่างงบประมาณอุดหนุนระบบ “ไอรอนโดม” (Iron Dome) ของอิสราเอลเป็นการเฉพาะ เนื่องจากงบประมาณดังกล่าวถูกจัดเป็น “งบฉุกเฉิน” เช่นเดียวกับค่าใช้จ่าย เพื่อการบรรเทาทุกข์ กรณีเกิดสงครามหรือภัยธรรมชาติ ดังนั้น วงเงิน ราว 7,230 ล้านบาท จะถูกรวมเป็นยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ และไม่ต้องนำเงินส่วนอื่นมาชดเชย สัปดาห์นี้มีเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ หลายคนออกมากล่าวชื่นชมประสิทธิภาพของระบบไอรอนโดม ระบบไอรอนโดมซึ่งมีสหรัฐฯเป็นผู้สนับสนุนหลัก สามารถยิงทำลายขีปนาวุธส่วนใหญ่ที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสยิงเข้าไปในดินแดนอิสราเอล ซึ่งช่วยให้อิสราเอลสูญเสียน้อยกว่าสงครามครั้งก่อนๆ ระบบไอรอนโดม ผลิตโดย 3 บริษัทคู่สัญญารายใหญ่ของกองทัพอิสราเอล ได้แก่ เอลิสรา กรุ๊ป, อิสราเอล แอโรสเปซ อินดัสตรีส์ และ ราฟาเอล แอดวานสท์ ดีเฟนซ์ ซิสเต็มส์ นอกจากนี้ยังใช้อะไหล่บางชิ้นที่ผลิตโดย บริษัทอาวุธ เรย์ธีออน ของสหรัฐฯ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ 70 ปีที่แล้ว คนยิวมาตั้งรกราก อยู่อเมริกาจำนวนมาก จนขยายอิทธิพลครอบครองธุรกิจถึง 80 % ของอเมริกา ระบบธนาคารแหล่งทุน เฟดเดอรัล วอลสตรีท ค้าอาวุธ ยา สื่อ ฯลฯ บริษัทยิวไซออนิสต์ ยึดหมด เห็นไหม..นี่คือหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ทั้งวุฒิสภา และ สภาผู้แทนราษฎร เสียงส่วนใหญ่ของอเมริกา ถูกครอบงำโดยบริษัทผลิตอาวุธยิวไซออนิสต์ สัญชาติอเมริกาไปเสียแล้ว บริษัทผลิตอาวุธในอเมริกา ก็เป็นของยิวไซออนิสต์ รัฐบาลอเมริกาไม่มีสิทธิบิดพลิ้วที่จะขัดใจยิว แม้รู้ว่าต้องฆ่าคนอีกจำนวนมาก งานนี้ยิวจึงใช้ล้อบบี้ยิสต์ จัดการสยบทั้งวุฒิสภา และ สภาผู้แทนราษฎร อเมริกาซะหมอบราบคาบเลย จากนั้นก็ให้รัฐบาลหุ่นเชิดไอ้มาม่า ทำการจัดซื้ออาวุธจากบริษัทยิวไซออนิสต์ เองนั่นแหละ ขนเอาไปให้อิสราเอล เพื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์อีกต่อหนึ่ง เห็นความสัมพันธ์ที่ไขว้ไปมา ที่ซับซ้อนหรือยัง ดังนั้นต้องทำความเข้าใจว่าเรื่องนี้มันซับซ้อน ยิวไซออนิสต์ คือ ผู้ทรงอิทธิพลทางธุรกิจ และการเมืองเหนืออิสราเอล อเมริกา และ EU ส่วนยิว คือ ประชากรธรรมดาราว 5.9 ล้านคนในอิสราเอล ซึ่งมีทั้งเห็นด้วยกับรัฐบาล และไม่เห็นด้วย แต่ส่วนใหญ่คนยิวโน้มเอียงเห็นด้วย เพราะข่าวสารที่พวกเขาได้รับ รัฐบาลอิสราเอลจะให้เห็นเฉพาะในมุมมองของสื่อไซออนิสต์ใหญ่ของโลกเท่านั้น.. นี่คือโลกแห่งความจริง ที่แม้แต่รัฐบาล วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร อเมริกา หรือแม่แต่ UN ทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากทำตามคำสั่งเป็นแค่หุ่นเชิด เพราะยิวไซออนิสต์ เป็นเจ้านายที่จ่ายเงินเดือนเลี้ยงชีพคนเหล่านี้นั่นเอง @ เสธ น้ำเงิน4 https://www.facebook.com/thailandcoup อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น