ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน 2557 07:42:30 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 พ.ย.2557

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) ขานรับข้อมูลในด้านบวกของสหรัฐ รวมถึงยอดขายบ้านใหม่และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ต่างก็ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนต.ค. ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,827.75 จุด เพิ่มขึ้น 12.81 จุด หรือ +0.07% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,787.32 จุด เพิ่มขึ้น 29.07 จุด หรือ +0.61% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,072.83 จุด เพิ่มขึ้น 5.80 จุด หรือ +0.28%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดทรงตัวเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) ขณะที่ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยในขณะที่ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดในแดนบวกนั้น ตลาดหุ้นลอนดอนและฝรั่งเศสต่างก็ปิดตลาดปรับตัวลง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ทรงตัวที่ 346.28 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,373.42 จุด ลดลง 8.89 จุด หรือ -0.20% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,915.56 จุด เพิ่มขึ้น 54.35 จุด หรือ +0.55% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,729.17 จุด ลดลง 1.97 จุด หรือ -0.03%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) จากความวิตกเกี่ยวกับฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐ หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 1.97 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 6,729.17 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐพุ่งขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) อย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าโอเปคจะปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันลงหรือไม่ หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 40 เซนต์ ปิดที่ 73.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 58 เซนต์ ปิดที่ 77.75 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่ตลาดทองคำจะปิดทำการในวันที่ 27 พ.ย.นี้ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 30 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1,197.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 0.5 เซนต์ ปิดที่ 16.606 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 3.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,228.4 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 6 ดอลลาร์ ปิดที่ 801.60 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐส่วนใหญ่ปรับตัวอ่อนแรงกว่าที่คาด

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2514 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2470 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5801 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5706 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 117.75 เยน เทียบกับระดับ 117.94 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9607 ฟรังค์ จาก 0.9647 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8551 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8521 ดอลลาร์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,827.75 จุด เพิ่มขึ้น 12.81 จุด +0.07%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,787.32 จุด เพิ่มขึ้น 29.07 จุด +0.61%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,072.83 จุด เพิ่มขึ้น 5.80 จุด +0.28%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,729.17 จุด ลดลง 1.97 จุด -0.03%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,915.56 จุด เพิ่มขึ้น 54.35 จุด +0.55%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,373.42 จุด ลดลง 8.89 จุด -0.20%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,380.30 จุด เพิ่มขึ้น 59.40 จุด +1.12%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,396.20 จุด เพิ่มขึ้น 61.40 จุด +1.15%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,383.58 จุด ลดลง 24.04 จุด -0.14%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,980.84 จุด เพิ่มขึ้น 0.63 จุด +0.03%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,122.39 จุด เพิ่มขึ้น 6.15 จุด +0.07%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,604.34 จุด เพิ่มขึ้น 36.74 จุด +1.43%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,356.59 จุด เพิ่มขึ้น 69.74 จุด +0.96%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,111.98 จุด เพิ่มขึ้น 268.07 จุด +1.12%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,842.17 จุด เพิ่มขึ้น 3.61 จุด +0.20%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,133.04 จุด เพิ่มขึ้น 14.09 จุด +0.28%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,349.66 จุด เพิ่มขึ้น 4.67 จุด +0.14%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,386.19 จุด เพิ่มขึ้น 48.14 จุด +0.17%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วง หลังข้อมูลศก.สหรัฐส่วนใหญ่แย่กว่าที่คาด

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน 2557 07:21:18 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐส่วนใหญ่ปรับตัวอ่อนแรงกว่าที่คาด

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2514 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2470 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5801 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5706 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 117.75 เยน เทียบกับระดับ 117.94 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9607 ฟรังค์ จาก 0.9647 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8551 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8521 ดอลลาร์

ดอลลาร์ได้รับแรงกดดัน เนื่องข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ออกมาย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังชะลอตัวลง

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ปรับตัวลดลง 1.1% แตะที่ระดับ 104.1 ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณซึ่งแสดงให้เห็นว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐยังไม่มีความต่อเนื่อง

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 22 พ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 21,000 ราย สู่ระดับ 313,000 ราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงแตะ 289,000 ราย และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนก.ย.ที่ตัวเลขดังกล่าวพุ่งทะลุ 300,000 ราย

ขณะเดียวกัน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงท้ายเดือนพ.ย.จากรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกน อยู่ที่ระดับ 88.8 ชะลอลงจาก 89.4 ในช่วงต้นเดือนพ.ย. และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 90.0

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ 30 เซนต์ เหตุนักลงทุนชะลอซื้อขายก่อนวันหยุด

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน 2557 07:40:43 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่ตลาดทองคำจะปิดทำการในวันที่ 27 พ.ย.นี้ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 30 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1,197.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 0.5 เซนต์ ปิดที่ 16.606 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 3.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,228.4 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 6 ดอลลาร์ ปิดที่ 801.60 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่ตลาดทองคำนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการลงประชามติของชาวสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ เพื่อลงความเห็นว่าควรจะให้ธนาคารกลางสวิสปรับเพิ่มปริมาณทองคำในทุนสำรองหรือไม่

ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา แม้ว่าสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจบางรายการที่อ่อนแอเกินคาดก็ตาม รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 22 พ.ย.เพิ่มขึ้น 21,000 ราย สู่ระดับ 313,000 ราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงแตะ 289,000 ราย และดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ปรับตัวลดลง 1.1% แตะที่ระดับ 104.1 ในเดือนต.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดบวกเล็กน้อย หลังสหรัฐเผยข้อมูลเศรษฐกิจ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน 2557 00:28:59 น.

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายตัวซึ่งบ่งชี้ไปในทิศทางที่แตกต่างกัน

หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ขยับขึ้น 1.36 จุด หรือ 0.01% แตะ 17,816.30 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 1.71 จุด หรือ 0.08% ที่ระดับ 2,068.74 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 5.39 จุด หรือ 0.11% แตะที่ 4,763.64 จุด

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค. หลังจากที่ร่วงลง 0.9% ในเดือนก.ย. โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดสั่งซื้ออากาศยานทางทหารที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า การบริโภคส่วนบุคคลปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบรายเดือน ส่วนรายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. ซึ่งตัวเลขทั้งสองต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์

ขณะเดียวกันกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 22 พ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 21,000 ราย สู่ระดับ 313,000 ราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงแตะ 289,000 ราย และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนก.ย.ที่ตัวเลขดังกล่าวพุ่งทะลุ 300,000 ราย

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

 

08:05 รายงานการซื้อขายหุ้นผ่าน NVDR ประจำวันที่ 26 พ.ย. 2557 สรุปภาพรวมการซื้อขายหุ้นผ่าน NVDR ประจำวันที่ 26 พฤศจิกายน 2557 พบว่ามีมูลค่าการซื้อสุ…

08:00 World Economic Calendar รายสัปดาห์ ประจำวันที่ 27 พฤศจิกายน 2557 วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน 2557 (ตามเวลาประเทศไทย) ญี่ปุ่น 07.30 น. ข้อมูล…

07:54 ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: เงินเยนแข็งค่า ฉุดนิกเกอิเปิดลบ 73.09 จุด ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดลดลง 73.09 จุด หรือ 0.42% แตะที่ 17,310.49 …

07:49 รายงานหุ้นถูกชอร์ตเซล ประจำวันที่ 26 พ.ย. 2557 หลักทรัพย์ ปริมาณหุ้นที่ มูลค่าการ %ปริมาณการขายชอร์ต ขายซอร์ต ขายชอร์ต เทียบกับปริมาณการซื้อข…

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 40 เซนต์ ตลาดจับตาการประชุมโอเปค

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน 2557 07:20:49 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐพุ่งขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) อย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าโอเปคจะปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันลงหรือไม่ หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 40 เซนต์ ปิดที่ 73.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 58 เซนต์ ปิดที่ 77.75 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงกดดันหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 พ.ย.พุ่งขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล แตะ 383 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 100,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอคลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งน้ำมัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 24.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.

ประเทศสมาชิกกลุ่มโอเปคซึ่งผลิตน้ำมันดิบได้ในสัดส่วน 1 ใน 3 ของโลก จะประชุมร่วมกันในวันพฤหัสบดีนี้ที่กรุงเวียนา ประเทศออสเตรีย เพื่อประเมินว่าควรจะปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันดิบหรือไม่ หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงอย่างหนัก ในขณะที่อุปทานน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ สมาชิกกลุ่มโอเปคยังคงมีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับเพดานการผลิตน้ำมัน โดยเวเนซูเอล่าและอิหร่านต่างก็ส่งสัญญาณว่าโอเปคควรจะปรับลดการผลิต ในขณะที่ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ของกลุ่มโอเปคนั้น สนับสนุนให้มีการปรับลดราคาน้ำมันเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด แทนการปรับลดการผลิต

นายอาลี อัล-ไนมี รมว.พลังงานของซาอุดิอาระเบียคาดการณ์ว่า ตลาดน้ำมันโลกจะยังคงมีเสถียรภาพ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ซาอุดิอาระเบียจะไม่สนับสนุนให้กลุ่มโอเปคปรับลดเพดานการผลิตในการประชุมครั้งนี้

นักวิเคราะห์บางคนมองว่า โอเปคอาจจะต้องปรับลดการผลิตน้ำมันลงอย่างน้อย 3% หรือราว 1 ล้านบาร์เรล จึงจะสามารถสกัดการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบได้ แต่หากกลุ่มโอเปคยังตรึงเพดานการผลิต หรือลดการผลิตลงเพียงเล็กน้อย ก็จะยิ่งทำให้ราคาน้ำมันร่วงลงอีก

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10422100_10152912598122450_7478768945589708980_n.jpg?oh=991913a9b7897ad14b45be0558b3fb23&oe=550875DA&__gda__=1428036773_91587d94277d43e0bf1499e46a4ace2c

 

10675518_10152912598182450_7006696635621203592_n.jpg?oh=887af17ad4c32a82d223be561049c7ec&oe=5518688A

 

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดไฟประดับพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

และไฟประดับต้นคริสต์มาส ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ / ภาพโดย ธนาชัย ประมาณพาณิชย์‪#‎NationPhoto‬ ‪#‎NationTV‬

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เกาะติดหุ้นโลก 27-11-57 vdo.gif Morning News : เกาะติดหุ้นรอบโลก "NOW26" 27-11-57 สรุปภาพรวมตลาดหุ้น 26-11-57 vdo.gif สรุปภาพรวมการลงทุนตลาดหุ้น ช่วงตรงประเด็นข่าวค่ำ "NOW26" 26-11-57 แนวโน้มราคาทอง vdo.gif ตรงประเด็นข่าวค่ำ แนวโน้มราคาทองคำ สดตรงจากนักวิเคราะห์ "NOW26" 26-11-57 พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติซื้อ109ลบ. เงินบาทปิด32.78/79ทรงตัว หุ้นไทยปิดร่วง5.80จุด Money Wise COMMODITIES 26-11-57 vdo.gif

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน 2557 10:02:24 น.

กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--MTS Gold Group

ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,199 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,197เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.77 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,550 บาท กับ 18,650บาท และกลับมาปิดที่ 18,500 บาท กับ 18,600 บาท

ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 566 คู่สัญญาแบบ 10 บาทอยู่ที่ 4,823 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 2.5% แบบ10 บาท ลดลง 6.2% GFZ14 ปิด 18,700 บาท และ GFG14 ปิด 18,760 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,720 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,790 บาท

สัญญา Comex ลดลง 0.30 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,197.5 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 0.40 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 73.69 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 718.82 ตัน (ขายออก 2.09 ตัน)

ข่าวที่สำคัญ

-เมื่อวานนี้ ทองคำยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,200 เหรียญ/ออนซ์ โดยเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยตลาดไม่ได้ตอบรับกับข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของสหรัฐฯ ขณะที่แรงซื้อจากตลาดเอเชียลดน้อยลง รวมถึงปริมาณการซื้อขายในตลาดทองคำชะลอตัวลงก่อนเข้าสู่วันหยุดของสหรัฐฯ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving)

-อย่างไรก็ดี ปัจจัยสำคัญที่ตลาดทองคำให้ความสำคัญ คือการลงประชามติเรื่องการถือครองทองคำของสวิสเซอร์แลนด์ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์นี้

-เมื่อวานนี้ SPDR กลับมาลดการถือครองทองคำเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการ โดยขายออก 2.09 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 718.82 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 23 กันยายน 2008

-ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2514 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2470 ยูโร/ดอลลาร์ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯส่วนใหญ่อ่อนแรงลงกว่าที่คาดการณ์ แสดงให้เห็นว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจเริ่มชะลอตัวในไตรมาสสุดท้ายของปี 2014 ขณะที่ค่าเงินเยนเริ่มแข็งค่าสู่ระดับ 117.75 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 117.94 เยน/ดอลลาร์

-ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือนตุลาคมปรับตัวขึ้น 0.4% เพราะได้รับแรงหนุนจากยอดสั่งซื้อของอากาศยานทางทหารที่ปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

-ตัวเลขการบริโภคส่วนบุคคล (Personal Spending) ประจำเดือนตุลาคม ปรับตัวขึ้น 0.2% จากเดิม 0.0% ซึ่งการบริโภคส่วนบุคคลจะคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยในระยะที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ภาคครัวเรือนจะมีการใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง

-อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ ระบุว่า แนวโน้มการใช้จ่ายของชาวอเมริกันจะเพิ่มขึ้น จากราคาน้ำมันที่ร่วงลงอย่างหนัก และการจ้างงานในสหรัฐฯส่งสัญญาณดีขึ้น

-จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 313,000 ราย ซึ่งเป็นการแตะระดับ 300,000 รายเป็นครั้งแรกในรอบ 10 สัปดาห์

-ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก ประจำเดือนพฤศจิกายน ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 60.8 เพราะได้รับแรงกดดันจากยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ที่ปรับตัวลดลง

-ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯประจำเดือนพฤศจิกายนของรอยเตอร์สและมหาวิทยาลัยมิชิแกน พบว่าปรับตัวลง 88.8 จากเดิม 89.4 หลังจากสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มไม่มั่นใจต่อสภาพเศรษฐกิจ

-ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯประจำเดือนตุลาคม ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย 0.7% สู่ระดับ 458,000 ยูนิต ขณะที่ยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) ปรับตัวลง 1.1% แตะระดับ 104.1 บ่งชี้ให้เห็นว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐฯมีความฟื้นตัวไม่ต่อเนื่อง

-ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ ระบุว่า ภาพรวมยอดขายบ้านใหม่ในปีนี้ค่อนข้างน่าผิดหวัง แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะยังอยู่ในระดับต่ำ และตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง น่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ความต้องการบ้านใหม่สูงขึ้น แต่ปรากฏว่าในช่วง 10 เดือนของปีนี้ ยอดบ้านใหม่ขยายตัวเพียง 1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

-นายวิเตอร์ คอนสแตนซิโอ รองประธานอีซีบี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของอีซีบีจะพิจารณาเกี่ยวกับการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติม หากมาตรการทางการเงินในปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจยูโรโซน โดยคาดว่า อีซีบีจะเริ่มต้นเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล (QE) ในช่วงต้นเดือน 2015

-นักวิเคราะห์ ระบุว่า ถ้อยแถลงของรองประธานอีซีบีที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับประธานอีซีบี เพื่อดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจและผลักดันเงินเฟ้อให้เป็นไปตามเป้าหมาย เราจึงอาจเห็นอีซีบีประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง ทั้งนี้ต้องจับตาไปยังการประชุมอีซีบีที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคมนี้

-คณะกรรมาธิการอียู เสนอแผนการลงทุนมูลค่า 3.15 แสนล้านยูโร (3.8 แสนล้านดอลลาร์ฯ) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาของยูโรโซน ซึ่งอียูจะเปิดเผยแผนการลงทุนดังกล่าวในการประชุม 18-19 ธันวาคมนี้ เพื่อเป็นเครื่องมือในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

-ผลสำรวจความคิดเห็นบริษัท โตเกียว โชโกะ รีเสิร์ช พบว่า กลุ่มบริษัทญี่ปุ่นกว่า 48.4% ได้รับผลกระทบจากการอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วของค่าเงินเยน หลังได้รับผลกระทบจากการขึ้นราคาสำหรับการนำเข้าสินค้าและราคาเชื้อเพลิงบางประเภท

-นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาการประชุมของโอเปคที่จะเริ่มต้นในวันนี้ ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อติดตามว่าโอเปคจะทำการปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันหรือไม่ หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่อุปทานน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มสู

-ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย คาดการณ์ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) ประจำปี 2014 จะอยู่ที่ระดับ 7.7-8.1% จากคาดการณ์เดิม 3.5-5.5% ภายหลังจากที่รัฐบาลประกาศขึ้นราคาเชื้อเพลิงในประเทศ

งขึ้น

-สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า HSBC และ Goldman Sachs ถูกยื่นฟ้องร้องในข้อหาวางแผนปั่นราคาสินค้าอย่างลับๆ ได้แก่ ทองคำ แพลทินัม และพาเลเดียม

-เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ปิด +0.07% และกลับมาปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 17,827.75 จุด ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านบวกของสหรัฐฯ

-เช้าวันนี้ ดัชนีนิกเกอิ เปิด -0.34% เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินเยน รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง จึงกดดันหุ้นในกลุ่มบริษัทพลังงาน

-นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทในวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70 – 32.90 บาท/ดอลลาร์ โดยมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคมีการเคลื่อนไหวผันผวน

-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ยอดส่งออกในเดือนตุลาคมมีมูลค่าทั้งสิ้น 20,163.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวสู่ระดับ 3.97% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 21 เดือน เพราะได้รับปัจจัยบวกจากการขยายตัวที่ดีขึ้นของภาคอุตสาหกรรม รวมถึงกลุ่มสินค้าเกษตรที่มีรายได้ดีขึ้น ขณะที่ยอดนำเข้าสินค้ามีมูลค่า 20,132 ล้านดอลลาร์ หรือลดลง 4.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงส่งผลให้เดือนตุลาคมนี้ ไทยมียอดเกินดุลการค้า 31.5 ล้านดอลลาร์

-ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ คาดการณ์ว่า ยอดส่งออกไทยในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ น่าจะทำการส่งออกได้ประมาณเดือนละ 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และจะทำให้ภาพรวมการส่งออกตลอดปี 2557 ขยายตัวได้ประมาณ 0.05% โดยไม่มียอดติดลบหากยอดส่งออก 2 เดือนสุดท้ายเป็นไปตามคาด

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืนนี้

- Core Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.1% ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ -0.9%

- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 292K ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 313K

- Core PCE Price Index m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.2%

- Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -1.1%ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.4%

- Personal Spending m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.0% ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ0.2%

- Chicago PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 66.2 ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ 60.8

- Revised UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 89.4 ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ88.8

- New Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 455K ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 458K

- Pending Home Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.6%ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ -1.1%

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้

-ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญเนื่องจาก ตลาด Comex ปิดเนื่องในวัน Thanksgiving Day

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยไม่ค่อยตอบรับกับข่าวตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ แม้ว่าตัวเลขสหรัฐฯส่วนใหญ่ออกมาไม่ดีนัก โดยเฉพาะอัตราคนว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น 313,000 ราย สำหรับวันนี้เป็นวันหยุด Thanksgiving จึงไม่มีตลาด COMEX ดังนั้น MTS Gold จะปิดทำการระบบ Gold Online และ Gold Phone ในช่วงเวลา 22.00น. ขณะที่เมื่อวานนี้ SPDR เมื่อวานนี้เทขายทองคำ 2.09 ตัน ปัจจุบันคงทอง 718.82 ตัน ขณะที่ภาพรวมตลาดดูจะรอคอยผลการลงประชามติของสวิสเซอร์แลนด์ว่าจะให้ธนาคารกลางสวิสฯเพิ่มการสำรองทองคำ 20%

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในเชิงเทคนิค ราคาทองคำระยะสั้นเคลื่อนตัว Sideways เป็นเวลามากว่า 4 วัน ในกรอบ 1,190-1,205 เหรียญ ซึ่งวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวในกรอบแคบที่ระดับ 1,195 – 1,205 เหรียญเท่านั้น โดยที่ตลาด COMEX หยุดทำการ อย่างไรก็ดีระยะกลางกับระยะยาวยังคงเป็นแนวโน้มขาลง เนื่องจากราคาอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันที่ระดับ 1,210 เหรียญ ขณะที่ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวกรอบแคบระหว่าง 32.77-32.82 บาท/ดอลลาร์

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น ขณะที่ตลาดมีการเคลื่อนไหวน้อย จึงอาจจะทำอะไรได้ค่อนข้างยาก

- นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปรับ Portfolio ให้สมดุลกับสภาพตลาดต่อไป ไม่ทำการ Leverage มากนัก

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

แนวโน้มขาลง

Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,590 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,760 บาท

Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,660 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,860 บาท

 

 

 

 

สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน 2557 10:02:24 น.

กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--MTS Gold Group

ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,199 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,197เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.77 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,550 บาท กับ 18,650บาท และกลับมาปิดที่ 18,500 บาท กับ 18,600 บาท

ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 566 คู่สัญญาแบบ 10 บาทอยู่ที่ 4,823 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 2.5% แบบ10 บาท ลดลง 6.2% GFZ14 ปิด 18,700 บาท และ GFG14 ปิด 18,760 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,720 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,790 บาท

สัญญา Comex ลดลง 0.30 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,197.5 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 0.40 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 73.69 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 718.82 ตัน (ขายออก 2.09 ตัน)

ข่าวที่สำคัญ

-เมื่อวานนี้ ทองคำยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,200 เหรียญ/ออนซ์ โดยเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยตลาดไม่ได้ตอบรับกับข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของสหรัฐฯ ขณะที่แรงซื้อจากตลาดเอเชียลดน้อยลง รวมถึงปริมาณการซื้อขายในตลาดทองคำชะลอตัวลงก่อนเข้าสู่วันหยุดของสหรัฐฯ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving)

-อย่างไรก็ดี ปัจจัยสำคัญที่ตลาดทองคำให้ความสำคัญ คือการลงประชามติเรื่องการถือครองทองคำของสวิสเซอร์แลนด์ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์นี้

-เมื่อวานนี้ SPDR กลับมาลดการถือครองทองคำเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการ โดยขายออก 2.09 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 718.82 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 23 กันยายน 2008

-ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2514 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2470 ยูโร/ดอลลาร์ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯส่วนใหญ่อ่อนแรงลงกว่าที่คาดการณ์ แสดงให้เห็นว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจเริ่มชะลอตัวในไตรมาสสุดท้ายของปี 2014 ขณะที่ค่าเงินเยนเริ่มแข็งค่าสู่ระดับ 117.75 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 117.94 เยน/ดอลลาร์

-ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือนตุลาคมปรับตัวขึ้น 0.4% เพราะได้รับแรงหนุนจากยอดสั่งซื้อของอากาศยานทางทหารที่ปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

-ตัวเลขการบริโภคส่วนบุคคล (Personal Spending) ประจำเดือนตุลาคม ปรับตัวขึ้น 0.2% จากเดิม 0.0% ซึ่งการบริโภคส่วนบุคคลจะคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยในระยะที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ภาคครัวเรือนจะมีการใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง

-อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ ระบุว่า แนวโน้มการใช้จ่ายของชาวอเมริกันจะเพิ่มขึ้น จากราคาน้ำมันที่ร่วงลงอย่างหนัก และการจ้างงานในสหรัฐฯส่งสัญญาณดีขึ้น

-จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 313,000 ราย ซึ่งเป็นการแตะระดับ 300,000 รายเป็นครั้งแรกในรอบ 10 สัปดาห์

-ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก ประจำเดือนพฤศจิกายน ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 60.8 เพราะได้รับแรงกดดันจากยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ที่ปรับตัวลดลง

-ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯประจำเดือนพฤศจิกายนของรอยเตอร์สและมหาวิทยาลัยมิชิแกน พบว่าปรับตัวลง 88.8 จากเดิม 89.4 หลังจากสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มไม่มั่นใจต่อสภาพเศรษฐกิจ

-ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯประจำเดือนตุลาคม ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย 0.7% สู่ระดับ 458,000 ยูนิต ขณะที่ยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) ปรับตัวลง 1.1% แตะระดับ 104.1 บ่งชี้ให้เห็นว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐฯมีความฟื้นตัวไม่ต่อเนื่อง

-ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ ระบุว่า ภาพรวมยอดขายบ้านใหม่ในปีนี้ค่อนข้างน่าผิดหวัง แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะยังอยู่ในระดับต่ำ และตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง น่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ความต้องการบ้านใหม่สูงขึ้น แต่ปรากฏว่าในช่วง 10 เดือนของปีนี้ ยอดบ้านใหม่ขยายตัวเพียง 1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

-นายวิเตอร์ คอนสแตนซิโอ รองประธานอีซีบี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของอีซีบีจะพิจารณาเกี่ยวกับการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติม หากมาตรการทางการเงินในปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจยูโรโซน โดยคาดว่า อีซีบีจะเริ่มต้นเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล (QE) ในช่วงต้นเดือน 2015

-นักวิเคราะห์ ระบุว่า ถ้อยแถลงของรองประธานอีซีบีที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับประธานอีซีบี เพื่อดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจและผลักดันเงินเฟ้อให้เป็นไปตามเป้าหมาย เราจึงอาจเห็นอีซีบีประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง ทั้งนี้ต้องจับตาไปยังการประชุมอีซีบีที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคมนี้

-คณะกรรมาธิการอียู เสนอแผนการลงทุนมูลค่า 3.15 แสนล้านยูโร (3.8 แสนล้านดอลลาร์ฯ) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาของยูโรโซน ซึ่งอียูจะเปิดเผยแผนการลงทุนดังกล่าวในการประชุม 18-19 ธันวาคมนี้ เพื่อเป็นเครื่องมือในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

-ผลสำรวจความคิดเห็นบริษัท โตเกียว โชโกะ รีเสิร์ช พบว่า กลุ่มบริษัทญี่ปุ่นกว่า 48.4% ได้รับผลกระทบจากการอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วของค่าเงินเยน หลังได้รับผลกระทบจากการขึ้นราคาสำหรับการนำเข้าสินค้าและราคาเชื้อเพลิงบางประเภท

-นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาการประชุมของโอเปคที่จะเริ่มต้นในวันนี้ ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อติดตามว่าโอเปคจะทำการปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันหรือไม่ หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่อุปทานน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มสู

-ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย คาดการณ์ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) ประจำปี 2014 จะอยู่ที่ระดับ 7.7-8.1% จากคาดการณ์เดิม 3.5-5.5% ภายหลังจากที่รัฐบาลประกาศขึ้นราคาเชื้อเพลิงในประเทศ

งขึ้น

-สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า HSBC และ Goldman Sachs ถูกยื่นฟ้องร้องในข้อหาวางแผนปั่นราคาสินค้าอย่างลับๆ ได้แก่ ทองคำ แพลทินัม และพาเลเดียม

-เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ปิด +0.07% และกลับมาปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 17,827.75 จุด ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านบวกของสหรัฐฯ

-เช้าวันนี้ ดัชนีนิกเกอิ เปิด -0.34% เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินเยน รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง จึงกดดันหุ้นในกลุ่มบริษัทพลังงาน

-นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทในวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70 – 32.90 บาท/ดอลลาร์ โดยมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคมีการเคลื่อนไหวผันผวน

-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ยอดส่งออกในเดือนตุลาคมมีมูลค่าทั้งสิ้น 20,163.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวสู่ระดับ 3.97% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 21 เดือน เพราะได้รับปัจจัยบวกจากการขยายตัวที่ดีขึ้นของภาคอุตสาหกรรม รวมถึงกลุ่มสินค้าเกษตรที่มีรายได้ดีขึ้น ขณะที่ยอดนำเข้าสินค้ามีมูลค่า 20,132 ล้านดอลลาร์ หรือลดลง 4.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงส่งผลให้เดือนตุลาคมนี้ ไทยมียอดเกินดุลการค้า 31.5 ล้านดอลลาร์

-ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ คาดการณ์ว่า ยอดส่งออกไทยในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ น่าจะทำการส่งออกได้ประมาณเดือนละ 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และจะทำให้ภาพรวมการส่งออกตลอดปี 2557 ขยายตัวได้ประมาณ 0.05% โดยไม่มียอดติดลบหากยอดส่งออก 2 เดือนสุดท้ายเป็นไปตามคาด

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืนนี้

- Core Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.1% ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ -0.9%

- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 292K ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 313K

- Core PCE Price Index m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.2%

- Durable Goods Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -1.1%ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.4%

- Personal Spending m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.0% ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ0.2%

- Chicago PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 66.2 ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ 60.8

- Revised UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 89.4 ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ88.8

- New Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 455K ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 458K

- Pending Home Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.6%ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ -1.1%

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้

-ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญเนื่องจาก ตลาด Comex ปิดเนื่องในวัน Thanksgiving Day

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยไม่ค่อยตอบรับกับข่าวตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ แม้ว่าตัวเลขสหรัฐฯส่วนใหญ่ออกมาไม่ดีนัก โดยเฉพาะอัตราคนว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น 313,000 ราย สำหรับวันนี้เป็นวันหยุด Thanksgiving จึงไม่มีตลาด COMEX ดังนั้น MTS Gold จะปิดทำการระบบ Gold Online และ Gold Phone ในช่วงเวลา 22.00น. ขณะที่เมื่อวานนี้ SPDR เมื่อวานนี้เทขายทองคำ 2.09 ตัน ปัจจุบันคงทอง 718.82 ตัน ขณะที่ภาพรวมตลาดดูจะรอคอยผลการลงประชามติของสวิสเซอร์แลนด์ว่าจะให้ธนาคารกลางสวิสฯเพิ่มการสำรองทองคำ 20%

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในเชิงเทคนิค ราคาทองคำระยะสั้นเคลื่อนตัว Sideways เป็นเวลามากว่า 4 วัน ในกรอบ 1,190-1,205 เหรียญ ซึ่งวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวในกรอบแคบที่ระดับ 1,195 – 1,205 เหรียญเท่านั้น โดยที่ตลาด COMEX หยุดทำการ อย่างไรก็ดีระยะกลางกับระยะยาวยังคงเป็นแนวโน้มขาลง เนื่องจากราคาอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันที่ระดับ 1,210 เหรียญ ขณะที่ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวกรอบแคบระหว่าง 32.77-32.82 บาท/ดอลลาร์

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น ขณะที่ตลาดมีการเคลื่อนไหวน้อย จึงอาจจะทำอะไรได้ค่อนข้างยาก

- นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปรับ Portfolio ให้สมดุลกับสภาพตลาดต่อไป ไม่ทำการ Leverage มากนัก

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

แนวโน้มขาลง

Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,590 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,760 บาท

Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,660 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,860 บาท

ข่าวหุ้น-การเงินล่าสุด

ข่าวหุ้น-การเงินล่าสุด »

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

กลยุทธ์การลงทุนราคาทองคำ

ประจำวันที่ 27 พฤศจิกายน 2557

อ่านฉบับเต็มได้ที่

www.ylgbullion.co.th...

See Translation

 

 

 

 

1271408_883040318397060_778264952654936797_o.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

18:13 ผบ.ตร.เผยมีนายตำรวจไม่ตำกว่า 50 นายพัวพันขบวนการอดีต ผบช.ก. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ได้เห็นราย…

18:08 ลุ้น"บิลเกตส์"หนุนไทยสร้างโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันเอดส์แห่งแรกของโลก-นัดถก ธ.ค. คณะผู้แทนจากประเทศไทย โดยนายนเรศ ดำรงชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความเ…

18:07 ภาวะตลาดอนุพันธ์: หุ้นเล็กเริ่มฟื้น-รอผลประชุมโอเปกเชื่อพบครึ่งทางไม่กดดันกลุ่มพลังงาน นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ลงทุน บล.เอ…

18:04 AFET เล็งตั้งกองทุนยางเฉพาะกิจ 400 ลบ. คาดดำเนินการได้ในไตรมาส 1/58 นายวิวัฒน์ ตีระวนิชพงศ์ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งปร…

17:59 ภาวะตลาดหุ้นสิงคโปร์: ดัชนี FTSE STI ปิดลบ 8.70 จุด จากแรงขายทำกำไร ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดตลาดวันนี้อ่อนตัวลง หลังจากที่ปรับตัวขึ…

 

เงินบาทปิดตลาด 32.77/78 ค่อนข้างเงียบ ยังมองกรอบเดิม 32.70-32.85

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน 2557 16:14:30 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.77/78 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 32.75/77 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันปรับตัวไปทำไฮที่ระดับ 32.80 บาท/ดอลลาร์ และทำโลว์ที่ระดับ 32.75 บาท/ดอลลาร์

"ตลาดค่อนข้างเงียบ แกว่งตัวในกรอบแคบๆ อาจเป็นเพราะตลาดสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.70-32.85 บาท/ดอลลาร์เช่นเดิม

สำหรับ THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 32.7850 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 117.49 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 117.54 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2473 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2497 ดอลลาร์/ยูโร

- นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เผยภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนตุลาคม 2557 ว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยสะท้อนสัญญาณปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าจากการใช้จ่ายภายในประเทศ ทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนและการใช้จ่ายภาครัฐ ขณะที่อุปสงค์จากต่างประเทศผ่านการส่งออกขยายตัวเช่นกัน สำหรับเศรษฐกิจด้านอุปทาน ภาคเกษตรกรรมชะลอตัว ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน

- สศค.มั่นใจว่า เศรษฐกิจไตรมาส 4/57 จะขยายตัวได้ในระดับ 4% และการส่งออกจะขยายตัวได้ไม่เกิน 3% ส่งผลให้ทั้งปีการส่งออกจะขยายตัวเพียง 0.1% ซึ่งเป็นไปตามเป้าเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ และภาพรวมเศรษฐกิจน่าจะขยายตัวราว 1.4%

- กระทรวงธุรกิจของอังกฤษเผยจำนวนบริษัทเอกชนเพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่ที่ 5.2 ล้านแห่งนับตั้งแต่ต้นปี 2557 โดยปรับตัวขึ้น 6.7% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามบริษัทจำนวน 5.2 ล้านแห่งเกือบทั้งหมดเป็นธุรกิจขนาดเล็ก และว่าจ้างพนักงานต่ำกว่า 50 คน คิดเป็นสัดส่วน 99.3% ของจำนวนบริษัททั้งหมด

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของเกาหลีใต้ เผยมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการผลักดันเศรษฐกิจเกาหลีใต้ที่ขับเคลื่อนจากธุรกิจการส่งออกปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี โดยมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และการผลิตอยู่ที่ 481.7 ล้านล้านวอน(4.377 แสนล้านดอลลาร์) ในปี 2556 ซึ่งลดลง 0.2% จากปีก่อน นับเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2541 ซึ่งเป็นปีที่เกิดวิกฤตอัตราแลกเปลี่ยนในเกาหลีใต้และส่งผลให้มูลค่าเพิ่มปรับตัวลดลง 2.4% ขณะที่การส่งออกของอุตสาหกรรมหดตัวลง 1% จากปีก่อน แตะที่ 1.4954 พันล้านล้านวอน ในปี 2556 ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2541 ซึ่งปรับตัวลดลง 1.4%

- มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เผยในรายงาน"แนวโน้มความน่าเชื่อถือในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก"ว่า คุณภาพความน่าเชื่อถือของประเทศ สถาบันการเงิน และบริษัทเอกชนทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 19 ประเทศจาก 22 ประเทศ จะมีเสถียรภาพในปี 2558 เนื่องจากการฟื้นตัวเล็กน้อยของอุปสงค์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปสงค์จากสหรัฐ รวมทั้งภาวะทางการเงินทั่วโลกที่เป็นไปในเชิงหนุนเศรษฐกิจ ความแข็งแกร่งของปัจจัยพื้นฐานในภูมิภาค และมาตรการป้องกันวิกฤตจากภายนอก ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ที่แท้จริงของจีนในปี 2558 จะขยายตัว 6.5%-7.5%

- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดแทบจะทรงตัวในวันนี้ โดยตลาดให้ความสนใจกับการกล่าวสุนทรพจน์ของนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ที่อาจจะส่งสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.1% แตะ 346.76 เมื่อเวลา 8.17 น.ตามเวลาลอนดอน ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดวันนี้ที่ 9,934.78 จุด เพิ่มขึ้น 19.22 จุด หรือ 0.19%

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 27 พฤศจิกายน 2557

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน 2557 17:18:41 น.

กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--พีอาร์ดีดี

สภาวะตลาดวันที่ 27 พฤศจิกายน 2557 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,186.20-1,199.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,600 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,600 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ14 อยู่ที่ 18,650 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,690 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 17.00 น. ของวันที่ 27/11/14)

แนวโน้มวันที่ 28 พฤศจิกายน 2557

การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้น หรือสินทรัพย์ ได้เป็นแรงกดดันการขยับขึ้นของราคาทองคำ โดยสินทรัพย์ขยายช่วงบวกต่อเนื่องจากการคาดการณ์มากขึ้นว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม ขณะที่การคาดการณ์ดังกล่าวได้ส่งลบเพราะการอัดฉีดปริมาณเงินทุนจำนวนมากเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเข้ามายังยุโรปจะกดดันให้สกุลเงินยูโรอ่อนตัวลงอีก ซึ่งทองคำมักมีทิศทางการเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับสกุลเงินยูโร ทางด้านรองประธานธนาคารกลางยุโรป ประเมินว่าไตรมาสแรกของปีหน้าจะทราบว่าอีซีบีจำเป็นต้องเริ่มซื้อพันธบัตรรัฐบาลหรือไม่ ขณะที่แรงกดดันและโอกาสที่อีซีบีจะออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนในปี 2015 และ ปี 2016 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ และ ห่างจากอัตราเป้าหมายที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ตั้งไว้ที่ระดับต่ำกว่า 2 % อย่างไรก็ตามราคาทองคำสามารถทรงตัวรักษาระดับไว้ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐชะลอตัว หลังจากการพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้มีคำสั่งขายทำกำไรดอลลาร์สหรัฐออมามาในตลาดเงิน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่อ่อนตัวลวลดความต้องการของนักลงทุนในการเข้าซื้อดอลลาร์ อย่างไรก็ดีการขยับขึ้นของราคาทองคำไปได้ไม่ไกลนักเพราะนักลงทุนยังคงคาดการณ์ในทางบวกต่อดอลลาร์ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งกว่าเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ ประกอบกับตลาดหุ้นและตลาดเงินของ สหรัฐจะเปิดทำการเเพียงครึ่งวันในวันศุกร์เนื่องในวัน Black Friday lให้ปริมาฌกรซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทั้งนี้ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวและทิศทางยังคงไม่ชัดเจน นักลงทุนระยะสั้นควรวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน มีจุดเข้าซื้อ จุดขายทำกำไร หรือจุดตัดขาดทุนอย่างเคร่งครัด

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่าโดยราคาทองคำในลักษณะ Sideway โดยราคาน่าจะพยายามขึ้นทดสอบบริเวณแนวต้าน 1,207 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านไปได้จะมีแนวต้านสำคัญถัดไปบริเวณโซน 1,216-1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำหากราคาทองคำยืนเหนือ 1,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลายชั่วโมงการเปิดสถานะขายต้องชะลอออกไปก่อน ซึ่งนักลงทุนที่มีสถานะขายอยู่ต้องลดสถานะลง แต่หากไม่สามารถผ่านแนวต้านได้ไปได้อาจเห็นการย่อตัว โดยประเมินแนวรับที่ 1,182 หรือ 1,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้ แต่การแกว่งตัวของราคาที่ยากจะประเมิน

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,190 (18,440บาท) 1,182 (18,310บาท) 1,175 (18,200บาท)

แนวต้าน 1,207 (18,700บาท) 1,216 (18,900บาท) 1,230 (19,060บาท)

GOLD FUTURES (GFZ14)

แนวรับ 1,190 (18,570บาท) 1,182 (18,450บาท) 1,175 (18,340บาท)

แนวต้าน 1,207 (18,840บาท) 1,216 (19,040บาท) 1,230 (19,200บาท)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...