ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็ง ฉุดทองคำปิดร่วง 13.7 ดอลลาร์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2560 07:14:55 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและส่งสัญญาณขยายเวลาใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเมื่อวานนี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 13.7 ดอลลาร์ หรือ 1.06% ปิดที่ระดับ 1,279.5 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 20.6 เซนต์ หรือ 1.17% ปิดที่ 17.414 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 9.5 ดอลลาร์ หรือ 1.00% ปิดที่ 938.1 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 18.30 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 846.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำร่วงลงเนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำมีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งขึ้น 0.3% แตะที่ 96.98 เมื่อคืนนี้

 

ทั้งนี้ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากที่ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าอาจจะขยายเวลาในการใช้มาตรการ QE เกินกว่าเดือนธ.ค.ปีนี้ หากมีความจำเป็น โดย ECB จะใช้มาตรการ QE ไปจนกระทั่งทิศทางของเงินเฟ้อมีความยั่งยืน

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากคำให้การของนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ และจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจในวันข้างหน้า

 

นายโคมีย์ได้เข้าให้การต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวานนี้ โดยกล่าวว่า เขาไม่มีข้อสงสัยกรณีที่รัฐบาลรัสเซียได้เข้าแทรกแซงกระบวนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีที่แล้ว หรือกรณีที่ว่ารัสเซียได้ลักลอบเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของคณะกรรมการแห่งชาติของพรรคเดโมแครต

 

ก่อนหน้านี้ นักลงทุนกังวลว่า หากคำให้การของนายโคมีย์บ่งชี้ว่าปธน.ทรัมป์ได้ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ก็จะส่งผลให้มีการดำเนินการถอดถอนปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2661668

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 8 เซนต์ เหตุดอลล์แข็ง,สต็อกน้ำมันพุ่ง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2560 06:56:33 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจัยลบจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 8 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 45.64 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 47.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันปิดตลาดปรับตัวลง เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

 

นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล

 

ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 580,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 4.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 281,000 บาร์เรล

 

ขณะเดียวกัน EIA ยังออกรายงานคาดการณ์ซึ่งระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 10 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 9.3 ล้านบาร์เรลในปัจจุบัน ส่งผลให้สหรัฐมีการผลิตน้ำมันใกล้เคียงกับซาอุดิอาระเบีย

 

ด้านเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ พบว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 11 แท่น สู่ระดับ 733 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2015 และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 20 ติดต่อกัน เทียบกับระดับ 325 แท่นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2661658

 

(เพิ่มเติม) เอ็กซิทโพลล์ชี้พรรคอนุรักษ์นิยมของ เทเรซา เมย์ อาจไม่ได้ครองเสียงข้างมากในรัฐสภาอังกฤษ

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2560 05:53:24 น.

คูหาเลือกตั้งทั่วประเทศของอังกฤษได้ปิดหีบลงแล้วในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย ขณะที่เอ็กซิทโพลล์โดย BBC, ITV และ Sky บ่งชี้ว่า แม้พรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มีแนวโน้มที่จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ก็อาจจะไม่ได้ครองเสียงข้างมากในรัฐสภาอังกฤษ

 

เอ็กซิทโพลล์ระบุว่า พรรคอนุรักษ์นิยมอาจจะได้ที่นั่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 314 ที่นั่ง พรรคแรงงาน 266 ที่นั่ง ขณะที่พรรคชาตินิยมสกอตแลนด์ (SNP) จะได้ 34 ที่นั่ง และพรรค Lib Dems 14 ที่นั่ง ส่วนพรรค UKIP คาดว่าจะไม่ได้ที่นั่งในรัฐสภา

 

ทั้งนี้ เอ็กซิทโพลล์บ่งชี้ว่า อังกฤษมีแนวโน้มสูงที่จะเข้าสู่ภาวะที่รัฐบาลมีเสียงข้างน้อยในสภา (hung parliament) อีกครั้ง โดยพรรคการเมืองจะต้องได้ที่นั่งอย่างน้อย 326 ที่นั่งจากทั้งหมด 650 ที่นั่งในสภาสามัญ จึงจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2661654

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โคมีย์เผยสาเหตุที่ถูกทรัมป์ปลดออกจากตำแหน่ง มาจากการสอบสวนกรณีรัสเซีย

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2560 22:53:18 น.

นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ได้เข้าให้การต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐในวันนี้ โดยระบุว่า เขาไม่ทราบว่าเหตุใดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จึงปลดเขาออกจากตำแหน่ง แต่จากคำพูดของปธน.ทรัมป์ ทำให้เขาเข้าใจว่าเป็นเพราะการสอบสวนของเขาในประเด็นที่ว่ารัสเซียได้เข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีที่แล้วหรือไม่ และการสอบสวนประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างนายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ กับรัฐบาลรัสเซีย

 

 

 

นายโคมีย์กล่าวว่าความสัมพันธ์ของเขาและปธน.ทรัมป์ไม่ค่อยราบรื่น หลังจากที่ทั้งสองได้มีการสนทนากันในวันที่ 6 ม.ค.

 

นายโคมีย์ระบุว่า ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ได้กล่าวกับเขาหลายครั้งว่า เขาทำงานได้ดี และควรอยู่ในตำแหน่งต่อไป

 

อย่างไรก็ดี นายโคมีย์กล่าวว่า คำร้องขอของปธน.ทรัมป์ที่ต้องการให้เขาอยู่ในตำแหน่งต่อไป ทำให้เขารู้สึกว่าปธน.ทรัมป์กำลังต้องการบางสิ่งบางอย่าง เพื่อแลกเปลี่ยนกับการให้เขาอยู่ในตำแหน่งต่อไป

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2661643

 

(เพิ่มเติม)โคมีย์พูดชัด ทรัมป์ไม่ได้เรียกร้องให้ยุติการสอบสวนประเด็นความสัมพันธ์ฟลินน์-รัสเซีย

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2560 22:11:04 น.

นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ได้เข้าให้การต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐในวันนี้ โดยเขาระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้เรียกร้องให้เขายุติการสอบสวนประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างนายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ กับรัฐบาลรัสเซีย

 

นายโคมีย์กล่าวว่า ปธน.ทรัมป์ไม่ได้สั่งให้เขายกเลิกการสอบสวนนายฟลินน์ แต่เขามองว่าคำพูดของปธน.ทรัมป์เป็นการบ่งชี้ทิศทางในการปฏิบัติหน้าที่ และเขาเข้าใจว่าปธน.ทรัมป์ต้องการให้เขายกเลิกการสอบสวน

 

นายโคมีย์กล่าวว่า เขารู้สึกกังวลในการสนทนากับปธน.ทรัมป์ แต่เขาไม่มีหน้าที่ในการตัดสินว่าปธน.ทรัมป์ได้พยายามขัดขวางกระบวนการยุติธรรมหรือไม่

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2661640

 

ลูกชายทรัมป์ทวีตทันควัน ตอบโต้โคมีย์ กรณีทรัมป์ร้องขอให้ยกเลิกสอบสวนฟลินน์

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2560 22:34:59 น.

นายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ซึ่งเป็นบุตรชายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความตอบโต้นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ที่ได้เข้าให้การต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐในวันนี้

 

"ผมรู้จักพ่อของผมเป็นเวลา 39 ปี ซึ่งเมื่อท่าน "สั่งหรือบอก" ให้คุณทำอะไร คำพูดของท่านจะไม่มีความกำกวม คุณจะรู้อย่างชัดเจนว่าท่านหมายความว่าอย่างไร" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

 

 

 

ทั้งนี้ นายโคมีย์ระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้สั่งให้เขายุติการสอบสวนประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างนายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ กับรัฐบาลรัสเซีย แต่เขามองว่าคำพูดของปธน.ทรัมป์เป็นการบ่งชี้ทิศทางในการปฏิบัติหน้าที่ และเขาเข้าใจว่าปธน.ทรัมป์ต้องการให้เขายกเลิกการสอบสวน

 

นายโคมีย์ระบุว่า เขาและเจ้าหน้าที่รายอื่นๆใน FBI ต่างก็รู้สึกช็อกและสับสน จากการที่ปธน.ทรัมป์ได้"ร้องขอ"ให้เขายกเลิกการสอบสวนนายฟลินน์

 

นายโคมีย์กล่าวเสริมว่า เขาเข้าใจว่า "คำร้องขอ"ดังกล่าวถือเป็นคำสั่ง

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2661642

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รมว.ตปท.อิหร่านเมินจดหมายแสดงความเสียใจของทรัมป์

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2560 15:00:40 น.

นายโมฮัมหมัด จาวัด ซาริฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านได้โพสต์ข้อความตอบโต้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ โดยไม่ได้ให้ความสนใจกับจดหมายแสดงความเสียใจของทรัมป์ หลังจากที่ผู้นำสหรัฐได้ส่งข้อความแสดงความเสียใจต่อเหตุโจมตีรัฐสภาอิหร่านและสุสานของนายอยาตุลเลาะห์ โคไมนี อดีตผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ซึ่งกลุ่มไอเอสได้ออกมาอ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีดังกล่าว

 

 

 

นายทรัมป์ระบุไว้ว่า เขาได้อธิษฐานให้กับเหยื่อจากเหตุโจมตีดังกล่าว พร้อมระบุด้วยว่า บรรดารัฐที่ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายกลับต้องมากลายเป็นเหยื่อของกลุ่มก่อการร้ายที่ตนเองให้การสนับสนุน

 

หลังจากนั้น รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านจึงออกมาโพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ตอบโต้ว่า "ข้อความเสแสร้ง ชาวอิหร่านขอปฏิเสธคำกล่าวอ้างแห่งมิตรภาพของสหรัฐ"

 

ก่อนหน้านี้ กองกำลังปฎิวัติอิหร่านออกแถลงการณ์ระบุว่า ซาอุดิอาระเบียอยู่เบื้องหลังการโจมตีรัฐสภาของอิหร่าน และสุสานของ อยาตุลเลาะห์ โคไมนี ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย และบาดเจ็บ 43 ราย

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จิตวัฒน์ วิจิตรถาวร/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th-

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2661505

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2560 10:17:52 น.

กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวลดลง 12 เหรียญ ท่ามกลางแรงเทขายทำกำไร โดยที่ร่วงลงจากระดับประมาณ 1,290 เหรียญ ลงมาแถวระดับ 1,278 เหรียญ ตลาดโดยทั่วไปคลายความกังวลเกี่ยวกวับการให้ปากคำของอดีตผอ. FBI ที่ยังไม่มีความคืบหน้า ขณะที่การเลือกตั้งอังกฤษดูเหมือนว่า พรรคของนางเทเรซ่า เมย์ จะได้รับชัยชนะการเลือกตั้ง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในสภาอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดนัก สำหรับข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานออกมาแย่กว่าที่คาดเล็กน้อย ทางด้านกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ซื้อเพิ่ม 2.07 ตัน ปัจจุบันเพิ่มการถือครองมาอยู่ที่ระดับ 867 ตัน และเช้านี้จะมีการประกาศข้อมูลเงินเฟ้อของจีน ขณะที่คืนนี้ไม่มีข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญใดๆ

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากแรงเทขายทำกำไร หลังจากที่ไปทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 7 เดือนบริเวณ 1,296 เหรียญโดยประมาณ โดยที่ระดับการ Retracement แรกจะอยู่ที่ 1,276 เหรียญ และระดับถัดไป 1,264 เหรียญ ซึ่งภาพรวมทางเทคนิคของทองคำยังเป็นขาขึ้น จึงแนะนำให้เข้าช้อนซื้อบริเวณดังกล่าวทั้ง 2 ระดับในลักษณะทยอยเข้าช้อนซื้อบริเวณ 1,276 เหรียญ และ 1,264 เหรียญตามลำดับ สำหรับวันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวกรอบแคบระหว่าง 1,264 – 1,285 เหรียญ ด้านราคาทองคำไทยจะมีแนวรับ 20,500 บาท/บาททองคำ และแนวต้าน 20,750 บาท/บาททองคำ ซึ่งราคาทองคำไทยน่าจะปรับลดลงได้ไม่มากนักจากเงินบาทที่อ่อนค่ามาอยู่ที่ระดับ 34.07 บาท/ดอลลาร์

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

เก็งกำไรกรอบขาขึ้น แนะนำให้ทยอยช้อนซื้อบริเวณแนวรับ 1,276 เหรียญ และ 1,264 เหรียญตามลำดับ

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

หาจังหวะเปิดสถานะเมื่อราคาย่อตัวบริเวณแนวรับ และปิดทำกำไรเมื่อราคาดีดตัว

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปิดสถานะลดความเสี่ยง จากภาพทางเทคนิคที่ยังเป็นขาขึ้น

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ทยอยเปิดสถานะ Long Position บริเวณแนวรับ 1,276 เหรียญ และ 1,264 เหรียญตามลำดับ และปิดทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวสูงขึ้น

 

Gold Futures M17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,600 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,800 บาท

Gold Futures Q17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,650 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,850 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2661913

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.04/06 รอผลเลือกตั้งอังกฤษอย่างเป็นทางการ-การประชุมเฟดสัปดาห์หน้า

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2560 09:16:14 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.04/06 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็ก

 

 

 

น้อยจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.03/05 บาท/ดอลลาร์

"เช้านี้บาทอ่อนค่าจากเย็นวานนี้เล็กน้อย ทรงตัวรอปัจจัยใหม่เข้ามา" นักบริหารเงิน กล่าว

 

ตลาดรอดูผลเลือกตั้งของอังกฤษในช่วงก่อนเที่ยงวันนี้ รวมถึงคำให้การของอดีตผู้อำนวยการเอฟบีไอที่จะมีผลต่อตำแหน่ง

 

ประธานาธิบดีสหรัฐของโดนัลด์ ทรัมป์ และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เพื่อพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยในวันที่

 

13-14 มิ.ย.60

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 33.95-34.15 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ 110.09/12 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 110.10/12 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1189/1193 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1235/1237 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.0420 บาท/

 

ดอลลาร์

- รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีปัญหาค่าเงินบาทที่มีความผันผวนขณะนี้ว่า สาเหตุมาจากตลาดเงินหลักยังมีความไม่มั่นคง นัก

 

ลงทุนจึงย้ายเงินทุนมาในไทย ซึ่งเป็นตลาดเงินทุนใหม่ที่มีความมั่นคงสูง จึงส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยเรื่องนี้ธนาคารแห่ง

 

ประเทศไทย (ธปท.) มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีมาตรการต่างๆ ออกมา เช่น การลดปริมาณการออกพันธบัตร

 

ระยะสั้น เพื่อไม่ให้มีการเก็งกำไรหรือเกิดการผันผวนมากเกินไปอย่างไรก็ดี ยืนยันว่ากระทรวงการคลังจะไม่เข้าไปแทรกแซงการทำ

 

งานของ ธปท.

- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า สศอ.ร่วมกับศูนย์การศึกษาการค้าระหว่างประเทศ

 

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ศึกษานโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา จากการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ

 

ได้ออกคำสั่งพิเศษ (เอ็กเซ็กคูทีฟ ออเดอร์) เพื่อตรวจสอบและเพ่งเล็งดุลการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ 16 ประเทศที่สหรัฐ

 

ขาดดุลการค้า รวมประเทศไทยด้วย ผลปรากฏว่าอุตสาหกรรมไทยได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย เนื่องจากสินค้าส่งออกของไทยส่วน

 

มากเป็นสินค้าที่สหรัฐมีการผลิตในประเทศน้อย จึงต้องพึ่งพาการนำเข้าจากไทยอยู่

- สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ได้หารือกับคณะที่ปรึกษาการลง

 

ทุนจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส โดย สศช.ได้ให้ข้อมูลไปว่า เศรษฐกิจไทยมีพัฒนาการในทิศทางที่ดี

 

ขึ้นตามลำดับอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจและในด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ รวมทั้งมีความพร้อมมากขึ้น

 

สำหรับการที่จะกลับเข้าสู่แนวโน้มการขยายตัวที่น่าพอใจในระยะปานกลาง โดยในปี 60 นี้ สศช. คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 3.3-

 

3.8% โดยมีค่ากลางที่ 3.5% ซึ่งจะเป็นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปี

 

- ที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะเดียวกัน ECB ยังได้

 

ส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการขยายเวลาในการใช้มาตรการ QE เกินกว่าเดือนธ.ค.ปีนี้ หากมีความจำเป็น โดย ECB จะใช้มาตรการ

 

QE ไปจนกระทั่งทิศทางของเงินเฟ้อมีความยั่งยืน

- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 10,000 ราย ใน

 

สัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 245,000 ราย โดยตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่

 

118 ติดต่อกัน

- นักลงทุนคลายกังวลต่อคำให้การของนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการ FBI เมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนมองว่า

 

คำให้การนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ และจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินนโยบาย

 

เศรษฐกิจในวันข้างหน้า

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) หลัง

 

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะเดียวกัน ECB ยังได้ส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการ

 

ขยายเวลาในการใช้มาตรการ QE เกินกว่าเดือนธ.ค.ปีนี้ หากมีความจำเป็น นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้แรงหนุน หลังนักลงทุนเริ่ม

 

คลายความวิตกเกี่ยวกับคำให้การของนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ต่อวุฒิสภาเมื่อวาน

 

นี้

โดยยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1222 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1257 ดอลลาร์ และดอลลาร์

 

แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 109.91 เยน จากระดับ 109.82 เยน

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น

 

เมื่อเทียบกับยูโร หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและส่งสัญญาณขยายเวลาใช้มาตรการผ่อนคลาย

 

เชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเมื่อวานนี้

- ตลาดรอดูผลการเลือกตั้งในอังกฤษอย่างใกล้ชิด หลังเอ็กซิทโพลล์เผยพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เม

 

ย์ อาจไม่สามารถครองเสียงข้างมากในรัฐสภาได้ ผลเอ็กซิทโพลล์โดย BBC, ITV และ Sky บ่งชี้ว่า พรรคอนุรักษ์นิยมอาจได้ที่นั่ง

 

ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 314 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ ขณะที่พรรคแรงงานของนายเจเรมี คอร์บินจะได้ 266 ที่นั่ง มาก

 

ขึ้นจาก 229 ที่นั่งในช่วงก่อนการเลือกตั้ง

การเมืองอังกฤษมีแนวโน้มเกิดภาวะ "Hung Parliament" หรือการที่ไม่มีพรรคการเมืองใดสามารถครองเสียงข้าง

 

มากในสภาสามัญชนได้ และไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้สำเร็จ หลังผลเอ็กซิทโพลล์ ระบุว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเร

 

ซา เมย์ อาจคว้าที่นั่งส.ส.ได้ไม่เกินครึ่งหนึ่งของสภา โดยได้เพียง 314 ที่นั่ง จากเดิมที่เคยมีอยู่ 330 ที่นั่งในช่วงก่อนที่จะมีการยุบ

 

สภา

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2661894

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

NationTV22

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

HSHsocial

 

Ausiris Gold Investment was live.

1 hr · คลิป

ราคาทองวันนี้ 12 มิ.ย. 2560

รายการวิเคราะห์ราคาทอง 1 นาที...สด

 

 

YLGResearch

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

NationTV22

 

 

 

 

 

NationTV22

 

NationTV22

 

 

 

NationTV22

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จับตาประชุมเฟด 13-14 มิ.ย.นี้ คาดที่ประชุมปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25%

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2560 08:39:56 น.

ตลาดการเงินจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 13-14 มิ.ย.นี้ โดยมีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้

 

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ แม้ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ก็ตาม

 

 

 

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 138,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 174,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี จากระดับ 4.4% ในเดือนเม.ย.

 

ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.4%

 

นักวิเคราะห์จากเฟดเดอรัล อินชัวร์ เครดิต ยูเนียนส์ ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า แม้ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ออกมาน้อยกว่าคาดการณ์ แต่ตลาดแรงงานของสหรัฐในขณะนี้ยังคงแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้

 

ทางด้านนายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าวว่า เฟดยังคงมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ในช่วงสิ้นปีนี้ และเขาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้

 

นายฮาร์เกอร์ ซึ่งเป็นกรรมการเฟดที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงในคณะกรรมการ FOMC ในปีนี้ กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐในขณะนี้ได้ปรับตัวอยู่ในภาวะปกติ ขณะที่แทบไม่มีภาวะเฉื่อยชาเกิดขึ้นในตลาดแรงงาน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2662922

 

สื่อเผยรัฐบาลสหรัฐกำหนดเส้นตายเพดานหนี้ไม่ชัดเจน อาจกระทบการขอปรับเพิ่มเพดาน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2560 09:15:00 น.

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลของสหรัฐรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐไม่ได้มีการประกาศอย่างชัดเจนว่างบประมาณจะหมดลงเมื่อใด ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลประสบกับความยากลำบากในการโน้มน้าวให้สภาคองเกรสลงมติปรับเพิ่มเพดานหนี้เร็วๆนี้

 

อเลค ฟิลลิปส์ นักเศรษฐศาสตร์การเมืองจากโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า "สภาคองเกรสจำเป็นต้องทราบว่างบประมาณมีเส้นตายเมื่อใด เพราะหากไม่มีการกำหนดวันชัดเจนแล้ว ก็คงเป็นเรื่องยากในการหายุทธศาสตร์เพื่อดำเนินการปรับเพิ่มเพดานดังกล่าว"

 

 

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้เดินหน้าปรับโครงสร้างทางบัญชี เพื่อเปิดทางให้กระทรวงการคลังสามารถจัดสรรงบประมาณสนับสนุนโครงการต่างๆของรัฐบาลได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่รัฐบาลมียอดใช้จ่ายเต็มเพดานหนี้ตามกฎหมายเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา

 

นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ออกมาเรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาล ก่อนถึงช่วงพักสมัยการประชุมของรัฐสภาในเดือนส.ค. เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ แต่ไม่ได้ชี้แจงว่างบประมาณจะหมดลงเมื่อใด

 

นายมนูชิน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "เราจะยังไม่เป็นอะไร" หากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ก่อนเดือนส.ค.นี้ เนื่องจากทางกระทรวงมีแผนรองรับการจัดหางบประมาณให้กับรัฐบาลอยู่แล้ว

 

วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า สภาคองเกรสอาจตีความถ้อยแถลงดังกล่าวเป็นเหตุผลในการเลื่อนการพิจารณาเรื่องเพดานหนี้ออกไป จนกว่าสมาชิกรัฐสภาจะกลับมาประชุมหลังพ้นช่วงพักสมัยการประชุมอีกครั้งวันที่ 5 ก.ย.

 

ทั้งนี้ เพดานหนี้คือวงเงินสูงสุดที่กระทรวงการคลังสามารถออกตราสารหนี้ให้กับสาธารณชนและหน่วยงานรัฐบาลกลางอื่นๆ ปัจจุบันรัฐบาลมีหนี้ชนเพดานกู้อยู่ที่ประมาณ 19.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2662948

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.06/08 นลท.รอติดตามผลประชุม-สัญญาณดอกเบี้ยจากเฟดในสัปดาห์นี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2560 09:18:53 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.06/08 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวใกล้

 

 

 

เคียงกับช่วงปิดตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ ตลาดรอดูผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะออกมาช่วง

 

เช้าวันพฤหัสบดี(15 มิ.ย.)

"บาททรงตัวใกล้เคียงกับเมื่อเย็นวันศุกร์ นักลงทุนรอผลประชุม FED และแถลงการณ์ของเยเลนถึงแนวโน้มอัตรา

 

ดอกเบี้ยในการประชุมรอบต่อไป" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 34.00-34.15 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ 110.20/25 เยน/ดอลลาร์ จากวันศุกร์ที่ 110.37 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ 1.2742/2745 ดอลลาร์/ยูโร จาก 1.1178 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.0570 บาท/

 

ดอลลาร์

- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ (12-16 มิ.ย.) ที่ระดับ 33.90-

 

34.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องติดตามผลการประชุมนโยบายการเงิน ประมาณการเศรษฐกิจ และ dot plot ชุดใหม่ของ

 

ธนาคารกลางสหรัฐฯ

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ผลสำรวจกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและสาขาฟิลาเด

 

ลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนมิ.ย. ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต การ

 

ผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย. นอกจากนี้ ตลาดน่าจะรอ

 

ติดตามประเด็นต่อเนื่องหลังสถานการณ์การเลือกตั้งในอังกฤษ และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพ.ค. ของจีนด้วยเช่นกัน

 

- กระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรอบแรกอย่างเป็นทางการ โดย

 

พรรค "ออง มาร์ชี" ของประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครอง และพรรคโมเดม (Democratic Movement) ซึ่งเป็นพรรคแนวร่วม

 

รัฐบาล ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่งที่ 32.32%

- นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ โดยจะร่วมกับพรรค Democratic

 

Unionist Party (DUP) ของไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งการที่พรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งได้ 319 ที่นั่ง จับมือกับพรรค DUP ซึ่งมี 10 ที่นั่ง จะ

 

ทำให้เกิดรัฐบาลผสมที่มี 329 ที่นั่ง โดยมีจำนวนที่นั่งเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรอย่างฉิวเฉียด

 

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อ

 

วันศุกร์ (9 มิ.ย.) โดยเฉพาะเงินปอนด์ที่ร่วงลงอย่างมาก หลังผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการชี้พรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเร

 

ซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาได้ ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1197

 

ดอลลาร์ จากระดับ 1.1222 ดอลลาร์ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 110.17 เยน จากระดับ 109.91 เยน

 

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในวันศุกร์ (9 มิ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุล

 

เงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับปอนด์และยูโร โดยเฉพาะเงินปอนด์ที่ร่วงลงอย่างมาก หลังผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทาง

 

การชี้พรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาได้

 

- ตลาดการเงินจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 13-14 มิ.ย.นี้ โดยมีกระแสคาดการณ์เป็น

 

วงกว้างว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ แม้ตัวเลขจ้างงานนอกภาค

 

เกษตรเดือนพ.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ก็ตาม

- ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางญี่ปุ่นมีกำหนดประชุมในสัปดาห์นี้เช่นกัน

--อินโฟเควสท์ โดย รัชดา คงขุนเทียน/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2662950

 

ศูนย์วิจัยกสิกรฯ แนะจับตาการส่งสัญญาณดอกเบี้ยของเฟดในช่วงที่เหลือของปี เตือนภาคการเงินรับมือความผันผวน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2560 10:40:26 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% จากระดับ 0.75-1.00% สู่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมรอบสี่ของปี 2560 ในวันที่ 13-14 มิ.ย.60 หลังพัฒนาการเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะตลาดแรงงานในภาพรวมยังคงแข็งแกร่ง ทั้งนี้เฟดยังคงอยู่ในช่วงการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินให้เป็นปกติมากขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม การดำเนินนโยบายการเงินของเฟดคงเผชิญกับความท้าทายมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงจากทั้งในและนอกประเทศที่เพิ่มขึ้น

 

 

 

แม้ว่าตลาดการเงินจะมีการปรับตัวสอดคล้องกับความคาดหมายว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งสอดคล้องไปกับการส่งสัญญาณของเฟดที่มีมาอย่างต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า แต่คงต้องยอมรับว่าปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงนี้ อาจจะส่งผลต่อการด เนินนโยบายในระยะต่อไป โดยมีความเป็นไปได้ว่าเฟดอาจจะปรับเปลี่ยนท่าทีในการส่งสัญญาณถึงการดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐฯ อย่างมีความระมัดระวังมากขึ้น

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า แม้ข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ เดือน พ.ค.60 จะให้ภาพการฟื้นตัวที่ชะลอลงบ้าง โดยขยายตัวเพียง 1.38 แสนตำแหน่ง แต่ภาพรวมของพัฒนาการการฟื้นตัวของตลาดแรงงานยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีอยู่ โดยจำนวนผู้ว่างงานสหรัฐฯ ลดลดกว่า 7.7 แสนรายในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ส่งผลให้อัตราการว่างงานปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี ที่ 4.3% อันบ่งชี้ถึงสภาวะที่ตลาดแรงงานฟื้นตัวใกล้ระดับเต็มศักยภาพ ในขณะเดียวกัน รายได้ต่อชั่วโมงการทำงานก็ยังคงมีแนวโน้ม

 

ปรับเพิ่มขึ้น โดยในปี 2560 รายได้ต่อชั่วโมงการทำงานปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยที่ 2.5% ทั้งนี้ ด้วยภาพรวมของการฟื้นตัวในตลาดแรงงานที่ดี คงหนุนให้เฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในรอบการประชุมนี้

 

อย่างไรก็ดี จังหวะในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ในรอบการประชุมที่เหลือของปีนี้ อาจจะมีความไม่แน่นอนมากขึ้น โดยขึ้นกับตัวแปรที่เฟดจะมีการส่งสัญญาณต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย มีดังนี้

 

1. มุมมองต่ออัตราเงินเฟ้อของเฟด ซึ่งหากพิจารณาถึงพัฒนาการของเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาที่มี

 

ทิศทางปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานสหรัฐฯ ชะลอลงจากระดับ 1.7% ในช่วงต้นปี มาอยู่ที่ 1.5% ในเดือนพ.ค. ขณะที่คาดการณ์เงินเฟ้อในช่วง 5 ปี ข้างหน้าปรับลดลงจากระดับ 2.0% เหลือ 1.8% ส่วนหนึ่งมาจากราคาน้ำมันที่เริ่มมีทิศทางปรับลดลง ทั้งนี้ หากพัฒนาการของเงินเฟ้อยังคงทรงตัวในระดับปัจจุบัน อาจจะส่งผลให้เฟดสามารถปรับเปลี่ยนจังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงต่อไป โดยอาจจะเว้นระยะในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในจังหวะที่ยาวนานขึ้นได้

 

2. มุมมองพัฒนาการของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากความเสี่ยงปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง การเจรจา Brexit ของสหราชอาณาจักรที่คงเผชิญกับความไม่แน่นอนมากขึ้น รวมทั้งปัจจัยการเมืองในประเทศสหรัฐฯ ที่อาจจะกระทบต่อการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้นโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์อาจจะเป็นประเด็นที่ส่งผลให้เฟดมีมุมมองต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ลดลง

 

3. มุมมองอัตราดอกเบี้ย Dot-Plot รอบเดือนมิ.ย.นี้ ที่อาจจะยังไม่ได้ให้ภาพที่แตกต่างจากเดิมที่เฟดส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้

 

"ยังมีโอกาสที่เฟดจะคงคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 3 ครั้งในปีนี้อยู่ แม้ว่าจะมีปัจจัยเสี่ยงทั้งในและนอกประเทศมากขึ้น ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้คงจะไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด รวมถึงความผันผวนของการเคลื่อนย้ายเงินทุนมากนัก เนื่องจากเฟดมีการส่งสัญญาณดังกล่าวมาตั้งแต่ต้นปี" เอกสารเผยแพร่ระบุ

 

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เฟดส่งสัญญาณทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินในระยะต่อไปในเชิงระมัดระวังมากขึ้น อาจจะส่งผลต่อกระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคเกิดใหม่รวมถึงไทยอย่างต่อเนื่อง และอาจจะเป็นปัจจัยกดดันให้ค่าเงินประเทศเหล่านั้นปรับแข็งค่าขึ้น อันเป็นปัจจัยที่หลายๆ ประเทศในตลาดเกิดใหม่ อาจจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้น

 

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2663014

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

19029760_10155428832972855_6255311617100922903_n.jpg?oh=ef7d91af0ac615656e6a81d8fdf88c4b&oe=59D7B89B

ประชาชนเข้ากราบสักการะพระบรมศพ

 

ประชาชนจำนวนมากยังคงเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวังอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2560

 

ภาพ อนันต์ จันทรสูตร์ (Anant Chantarasoot)

#NationPhoto #กราบพระบรมศพ #รัชกาลที่9 #พระบรมมหาราชวัง

 

 

Ylg Bullion

 

 

Ylg Bullion

 

ทางการ!'โปรเม'สร้างประวัติศาสตร์ผงาดขึ้นมือ1โลก

12 มิ.ย. 60 'โปรเม' เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสาวไทย กลายเป็นมือ 1 ของโลกคนใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังเว็บไซต์ โรเล็กซ์แรงกิ้งส์ ด็อตคอม ได้มีการประกาศ วันที่ 12 มิถุนายน 2017 ...

NAEWNA.COM

LPGA%20Classic%20Golf_Suan%20(2)_resize(1).jpg?t=1497252571354

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

NationPhoto

15 hrs ·คลิป

คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล เชิญชวนประชาชนประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์เพื่อใช้ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่9

ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณะบดีคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม "ศิริราชจิตอาสาประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ด้วยหัวใจ" โดยเชิญชวนประชาชนมาร่วมกันประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์เพื่อใช้ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีผู้ฝึกสอนและจิตอาสาคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด กิจกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-23 มิถุนายน 2560 ต้ังแต่เวลา 13.00-16.00 น. (เว้นวันหยุดราชการ) ณ ศาลาศิริราช100ปี ทั้งนี้คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้รับเลือกให้เป็นสถานที่สำหรับประชาชนสามารถเข้ามาถวายดอกม้จันทน์ในพื้นที่ใกล้เคียงสนามหลวง ณ บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โรงพยาบาลศิริราช ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560

ภาพ อนันต์ จันทรสูตร์ (Anant Chantarasoot) #NationPhoto

#ประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ถวายพระเพลิงพระบรมศพ #คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล #จิตอาสา #รัชกาลที่9 #ศิริราช

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ $2.5 วิตกกระแสคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 13 มิถุนายน 2560 07:34:18 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 2.5 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ระดับ 1,268.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 27.9 เซนต์ หรือ 1.62% ปิดที่ 16.994 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 4.2 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ 944.5 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 8.05 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 864.25 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับกระแสคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันนี้และเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 95.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมสัปดาห์นี้

 

ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

 

นอกจากนี้ นักลงทุนจะจับตาดูว่าเฟดจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง หรือ 4 ครั้งในปีนี้ รวมทั้งจะปรับลดงบดุลบัญชีหรือไม่

 

อย่างไรก็ตาม การร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐ อันเนื่องมาจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ดิ่งลงอย่างหนักนั้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนบางส่วนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2663509

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: แรงซื้อเก็งกำไร หนุนน้ำมัน WTI ปิดบวก 25 เซนต์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 13 มิถุนายน 2560 06:57:36 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันร่วงลงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจากมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันของไนจีเรียและลิเบียมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 46.08 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 48.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ราคาน้ำมันร่วงลงเกือบ 4% ในสัปดาห์ที่แล้ว

 

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด โดยรายงานล่าสุดระบุว่า ไนจีเรียได้กลับมาส่งออกน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาด โดยบริษัทรอยัล ดัชท์ เชลล์เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้ยกเลิกภาวะสุดวิสัยต่อการส่งออกน้ำมันดิบของไนจีเรีย ส่งผลให้ไนจีเรียสามารถส่งออกน้ำมันเป็นครั้งแรกในรอบ 16 เดือน

 

ส่วนลิเบียจะกลับมาผลิตน้ำมันตามปกติภายใน 3 วัน โดยจะมีการเปิดบ่อน้ำมันชารารา ซึ่งมีกำลังการผลิต 270,000 บาร์เรล/วัน หลังจากที่คนงานได้ทำการประท้วงก่อนหน้านี้

 

นอกจากนี้ เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ พบว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 8 แท่น สู่ระดับ 741 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2015 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 21 ติดต่อกัน

 

นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูรายงานประจำเดือนของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในวันนี้ โดยโอเปกจะเปิดเผยตัวเลขการประเมินสต็อกน้ำมันดิบทั่วโลก ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะทำให้นักลงทุนเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่า ตลาดน้ำมันโลกอยู่ในภาวะสมดุลหรือไม่

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2663389

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 13 มิถุนายน 2560 07:38:41 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 มิ.ย.2560

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากบริษัทหลักทรัพย์มิซูโฮได้ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นบริษัทแอปเปิล อิงค์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีขึ้นในวันที่ 13-14 มิ.ย. โดยมีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,235.67 จุด ลดลง 36.30 จุด หรือ -0.17% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,429.39 จุด ลดลง 2.38 จุด หรือ -0.10% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,175.46 จุด ลดลง 32.45 จุด หรือ -0.52%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในอังกฤษ หลังจากผลการเลือกตั้งบ่งชี้ว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ ไม่ได้ครองเสียงข้างมากในรัฐสภา

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1% ปิดที่ 386.62 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,240.59 จุด ลดลง 59.12 จุด หรือ -1.12% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,690.44 จุด ลดลง 125.28 จุด หรือ -0.98% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,511.87 จุด ลดลง 15.46 จุด หรือ -0.21%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) ด้วยแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองในอังกฤษ หลังพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ สูญเสียเสียงข้างมากในสภาสามัญชนจากการเลือกตั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการผลักดันนโยบายต่างๆของรัฐบาล โดยเฉพาะในการเดินหน้าเจรจาแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

 

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 15.46 จุด หรือ -0.21% ปิดที่ 7,511.87 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันร่วงลงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจากมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันของไนจีเรียและลิเบียมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 46.08 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 48.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 2.5 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ระดับ 1,268.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 27.9 เซนต์ หรือ 1.62% ปิดที่ 16.994 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 4.2 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ 944.5 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 8.05 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 864.25 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) ก่อนหน้าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มต้นการประชุมกำหนดนโยบายเป็นเวลา 2 วันในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่มีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1200 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1197 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2643 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2730 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7532 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7528 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 109.83 เยน จากระดับ 110.17 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9689 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9690 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,175.46 จุด ลดลง 32.45 จุด, -0.52%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 21,235.67 จุด ลดลง 36.30 จุด, -0.17%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,429.39 จุด ลดลง 2.38 จุด, -0.10%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,511.87 จุด ลดลง 15.46 จุด, -0.21%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,690.44 จุด ลดลง 125.28 จุด, -0.98%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,240.59 จุด ลดลง 59.12 จุด, -1.12%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 31,095.70 จุด ลดลง 166.36 จุด, -0.53%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,248.34 จุด ลดลง 5.85 จุด, -0.18%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,691.44 จุด เพิ่มขึ้น 15.92 จุด, +0.28%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 25,708.04 จุด ลดลง 322.25 จุด, -1.24%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 751.09 จุด เพิ่มขึ้น 1.37 จุด, +0.18%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,139.88 จุด ลดลง 18.52 จุด, -0.59%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,357.87 จุด ลดลง 23.82 จุด, -1.00%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,908.58 จุด ลดลง 104.68 จุด, -0.52%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,109.96 จุด ลดลง 89.69 จุด, -0.88%

*ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดทำการวันที่ 12 มิ.ย.เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระราชินี

 

*ตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันที่ 12 มิ.ย.เนื่องในวันเผยแพร่คัมภีร์อัลกุรอ่าน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2663515

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบเงินสกุลหลัก ขณะตลาดจับตาการประชุมเฟด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 13 มิถุนายน 2560 07:10:16 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) ก่อนหน้าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มต้นการประชุมกำหนดนโยบายเป็นเวลา 2 วันในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่มีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1200 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1197 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2643 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2730 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7532 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7528 ดอลลาร์

 

 

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 109.83 เยน จากระดับ 110.17 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9689 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9690 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.09% สู่ระดับ 97.182 เมื่อคืนนี้

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงขณะนักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 13-14 มิ.ย. โดยมีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

 

CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 95.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมสัปดาห์นี้

 

คริส โลว์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แห่งเอฟทีเอ็น ไฟแนนเชียล คาดว่า "เฟดจะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันพุธ และจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนก.ย.หรือธ.ค.ปีนี้ แม้ว่ากิจกรรมในภาคสินเชื่อจะชะลอตัวลงอย่างมาก"

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค. ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

 

ส่งความเห็นถึงผู้สื่อข่าว

Facebook

Twitter

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์แข็งค่า-ปอนด์ร่วง หลังเลือกตั้งอังกฤษ

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเทียบเงินสกุลหลัก หลัง ECB มีมติคงดอกเบี้ย

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเทียบเงินสกุลหลัก ขณะตลาดจับตาอดีตผอ.FBI ให้การต่อวุฒิสภาสหรัฐ

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบเงินสกุลหลัก ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนในสหรัฐ

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเทียบเงินบางสกุล รับข้อมูลภาคบริการสหรัฐสดใส

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ตลาดเงินนิวยอร์ก ธนาคารกลาง เงินดอลลาร์ อัตราดอกเบี้ย เฟด ซื้อขาย สกุลเงิน ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2663390

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 36.30 จุดจากแรงขายหุ้นเทคโนฯ, ตลาดจับตาประชุมเฟด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 13 มิถุนายน 2560 06:38:44 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากบริษัทหลักทรัพย์มิซูโฮได้ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นบริษัทแอปเปิล อิงค์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีขึ้นในวันที่ 13-14 มิ.ย. โดยมีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,235.67 จุด ลดลง 36.30 จุด หรือ -0.17% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,429.39 จุด ลดลง 2.38 จุด หรือ -0.10% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,175.46 จุด ลดลง 32.45 จุด หรือ -0.52%

 

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากบริษัทหลักทรัพย์มิซูโฮได้ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของแอปเปิลลงสู่ 'neutral' จาก 'buy'

 

ทั้งนี้ หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 2.7% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ปรับตัวลง 1.4% หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 1.2% และหุ้นไมโครซอฟท์ ดิ่งลง 1.6%

 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จากบริษัทโวยา ไฟแนนเชียล กล่าวว่า แม้การร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้สร้างความวิตกกังวลต่อตลาด หลังจากที่หุ้นกลุ่มดังกล่าวนำตลาดทะยานขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปี แต่เมื่อพิจารณาจากผลประกอบการที่สดใสของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีและปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของตลาดแล้ว เชื่อว่านักลงทุนจำนวนหนึ่งจะยังคงเห็นโอกาสในการทำกำไรในหุ้นกลุ่มนี้

 

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นกว่า 1% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1% และหุ้นเชฟรอน ดีดตัวขึ้น 1.3%

 

หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (GE) พุ่งขึ้น 3.6% จากข่าวที่ว่า นายเจฟฟ์ อิมเมลท์ จะลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของบริษัท หลังจากที่ได้คุมบังเหียน GE มาเป็นเวลานานเกือบ 16 ปี โดยบริษัทจะแต่งตั้งนายจอห์น แฟลนเนรี เป็นซีอีโอคนใหม่

 

หุ้นกลุ่มผู้ผลิตเสื้อผ้าสำหรับออกกำลังกายปรับตัวขึ้น โดยหุ้นไนกี้ พุ่งขึ้น 1.1% หุ้นอันเดอร์ อาร์เมอร์ ทะยานขึ้น 5% และหุ้นฮานส์แบรนด์ส พุ่งขึ้น 3.4%

 

นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 13-14 มิ.ย.นี้ ขณะที่มีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

 

CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 95.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมสัปดาห์นี้

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค. ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2663388

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

Ausiris Gold Investment was live.

27 mins · คลิป

ราคาทองวันนี้ 13 มิ.ย. 2560

รายการวิเคราะห์ราคาทอง 1 นาที...สด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Wealth Station

ยังซึมๆ ลง แต่จะเอสตามต้องระวัง เป้าไม่ไกลมอง 1245 1252 1255 และถ้าเบรก 1265 ขึ้นมาก็ปิดเอส ซื้อตามเล่นขาเด้งกันครับ

19055219_1428866940485110_1248389914535692885_o.png?oh=0035d165438735ec9314e03498888008&oe=59A196AF

 

Ylg Bullion

 

 

 

 

HSHsocial

 

 

 

 

Ylg Bullion

 

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

NOW26

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

NOW26

 

 

NOW26

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดีจ้า

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

 

HSHsocial

 

 

 

Ausiris Gold Investment was live.

 

11 mins คลิป·

 

 

ราคาทองวันนี้ 14 มิ.ย. 2560

รายการวิเคราะห์ราคาทอง 1 นาที...สด

#ราคาทอง

 

.0 % โดยที่ผ่านคืนนี้ไปน่าจะขึ้นสู่ 1.25% ถ้าเฟดขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ไม่เกินสามครั้ง เท่ากับสิ้นปีนี้จะเป็น 1.5% และเหลือ 1.5% ไว้สำหรับ 2 ปี เป็นมุมมองที่ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยไม่มากหลังจากนี้ หรือตกปีละ 3 ครั้ง ถ้าผิดจากนี้ทองลง ปรับฐานกันใหม่ แต่เท่าที่คาดๆ กันจะออกทำนองนี้และเฟดจะยังพูดถึงการทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ประเด็นสุดท้ายเรื่องของการลดงบดุล เสียงสนับสนุนในส่วนนี้หนักแน่กว่าการขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้เสียอีก ทำให้ค่อนข้างแน่ว่าเฟดจะลดงบดุลลงในปีนี้แค่ว่าเมื่อไหร่และจะส่งผลลบต่อทองไหม ตามที่ผมเข้าใจการลดงบดุลคือการขายคืนพันธบัตรที่ซื้อไปตามโครงการคิวอีก่อนหน้านี้ ถ้าตามเหตุผลที่ว่าทำคิวอีแล้วทองขึ้น ถ้าในทางกลับกันก็น่าจะทำให้ทองลง แต่ส่วนนี้อยู่ที่ตลาดตีความและยังขึ้นอยู่กับ multiple as of ในตัวเงินซึ่งภาษาเศรษฐศาสตร์เรียกว่า M1 ,M2 และ M3 ถ้าการทำการลดงบดุลแล้วไม่ส่งผลให้ M เหล่านี้ลดลง ก็ไม่ทำให้ทองลง จึงขึ้นอยู่กับการตีความและกลไกการเงินหลังจากนั้นอีกทีเป็นเรื่องระยะยาว

ทำให้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ตลาดไปทางไหนก็ไปทางนั้น ขึ้นก็ขึ้น ขึ้นแล้วลงก็ลง หรือลงไปเลยก็ลงไปเลย เป็นไปได้หมด

ซึ่งทรงกราฟฟอร์มตัวพร้อม ซึ่งในกรณีแรก ขึ้นแล้วลง คือขึ้นไปทำไหล่ก่อนโดยระยะทำไหล่คือไม่เกิน 1278 1282 แล้วลงมา 1260 ก็ต้องระวังร่วงไปเทสต์ neck line ภาพหลักที่ 1220 1230 ในกรณีที่ขึ้นได้จะตั้งหลักซื้อเพื่อลุ้นเบรกไฮกันเมื่อได้เห็น 1285 1295 อีกครั้งเสียก่อน ทำให้เมื่อเข้าใกล้แถวๆนั้นยังขายดีกว่า จะเบรกค่อยว่ากัน ในขณะที่ถ้าร่วงลงต่ำกว่า 1260 หรือจริง ๆ คือโลว์ที่ 1259 ยังไม่ถึงกับจะลงยาว คงต้องไปดูอาการที่แนวราคาสำคัญอย่าง 1245 และ 1230 แต่ลงต่ำกว่า 1259 ก็อาจจะเอสตามไปเพื่อเก็บกำไรโดยอย่าเพิ่งไปคาดหวังการลงยาว ให้ตลาดส่งสัญญาณเสียก่อนค่อยว่ากันอีกทีครับ เตือนสำหรับขาซื้อว่าคืนนี้ถือเป็นคืนที่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยยะสำคัญ ตรงจุดราคาที่เคยรู้สึกว่ามันถูก มันอาจไม่ใช่ราคาที่ควรซื้อเนื่องจากคนทั้งตลาดมองเปลี่ยนไป ตั้งหลักเปิดใจให้กว้างๆ เข้าไว้ครับ

14 June, 2017

www.facebook.com/Wealthstation


  •  

    19105610_1429651447073326_8111278436561323995_n.png?oh=f93ae7880a0339d3079dc2ba504b7a86&oe=59A5D402



  •  

    19105613_1429656000406204_2041073953828871960_n.png?oh=5b3fdd85abcaba626b9236014f9a87dc&oe=59E87E14


แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำพุธที่ 14 มิถุนายน 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 14 มิถุนายน 2560 10:08:33 น.

กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำทรงตัวบริเวณ 1,260 เหรียญ หลังจากที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 5 วัน จากแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในคืนนี้ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำได้ทำจุดต่ำสุดแถวระดับ 1,260 เหรียญ และดีดกลับขึ้นมาได้ในช่วงปลายตลาด COMEX จึงเห็นราคาทองคำเช้าวันนี้ปรับตัวขึ้นมาทรงตัวบริเวณ 1,267 เหรียญ ขณะที่เมื่อคืนนี้ ดัชนี PPI ออกลดลงกว่าที่คาด และ Core PPI ที่ออกมาดีขึ้นเกินคาด สำหรับตลาดน่าจะรอทิศทางการดำเนินนโยบายของเฟดและถ้อยแถลงเกี่ยวกับมุมมองเศรษฐกิจของเฟด ขณะที่การประชุมในวันนี้คาดว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับ 1.00% สู่ระดับ 1.25% สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯที่ต้องติดตามในคืนนี้ได้แก่ CPI ที่คาดว่าจะทรงตัว ขณะที่ Core CPI คาดว่าจะปรับตัวขึ้น แต่ Retail Sales และ Core Retail Sales คาดว่าจะปรับตัวลงเล็กน้อยหรือค่อนข้างทรงตัว

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในเชิงเทคนิคราคาทองคำเข้าสู่สภาวะของการปรับฐาน หลังจากที่ทำจุดสุงสุดบริเวณ 1,290 เหรียญ ภาพโดยรวมยังเป็นทิศทางขาขึ้น โดยมีแนวรับ 1,255 เหรียญ เป็นจุด Fibonacci Trigger จึงคาดว่าราคาน่าจะรับอยู่ และวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,255 – 1,275 เหรียญ เป็นแนวต้าน ยังคงแนะนำให้นักลงทุนทยอยช้อนซื้อบริเวณ 1,260-1,265 เหรียญ ด้านทองคำไทยจะมีแนวรับสำคัญ 20,250 บาท/บาททองคำ และแนวต้าน 20,600 บาท/บาททองคำ

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ เป็นลักษณะลงซื้อขึ้นขาย

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ลงซื้อขึ้นขาย รอช้อนซื้อแถวระดับ 1,260 – 1,265 เหรียญ

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ทยอยลดสถานะ เพื่อปรับพอร์ตให้สมดุล

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

Wait&See บริหารพอร์ตสมดุล รอความชัดเจนและสัญญาณการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยอนาคตของเฟดประกอบกับการประเมินทิศทางเศรษฐกิจ

 

Gold Futures M17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,370 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,570 บาท

Gold Futures Q17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,430 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,630 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2664354

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดขยับลง 30 เซนต์ นักลงทุนวิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ย

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 มิถุนายน 2560 07:28:45 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) โดยสัญญาทองคำปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 30 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,268.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 17.7 เซนต์ หรือ 1.04% ปิดที่ 16.767 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 20.3 ดอลลาร์ หรือ 2.15% ปิดที่ 924.2 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 6.70 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 857.55 ดอลลาร์/ออนซ์

 

นักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายทองคำหลังจากมีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 99.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมสัปดาห์นี้

 

ทางด้านมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส คาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปีนี้และปีหน้า จนถึงระดับ 3% ภายในปลายปี 2019 พร้อมกับคาดการณ์ว่า เฟดจะเริ่มปรับลดงบดุลภายในปีนี้ จากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน ถ้าหากเศรษฐกิจยังคงเดินหน้าต่อไป

 

ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตานายเจฟฟ์ เซสชันส์ รมว.ยุติธรรมสหรัฐ ซึ่งจะเข้าให้การต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภา เพื่อตอบข้อซักถามในประเด็นเกี่ยวกับข้อกล่าวหาการแทรกแซงการเลือกตั้งของรัสเซียในปีที่แล้ว โดยคาดว่าคำถามส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่การติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัสเซียในช่วงระหว่างการหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2664130

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...