มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม 2560 10:13:49 น.

กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังคงยืนตัวอยู่เหนือบริเวณ 1,210 เหรียญได้ โดยที่ราคาค่าเงินบาทนั้นยังอยู่ในทิศทางแข็งค่า สิ่งที่น่าสนใจคือ ราคาทองคำสามารถทะลุเหนือแนวต้านแรก 1,230 เหรียญได้ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาเมื่อคืน เกี่ยวกับภาคที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯนั้นออกมาดีกว่าที่คาดแต่กลับไม่ได้ส่งผลใดๆต่อราคาทองคำ ดังนั้น ราคาทองคำจึงเป็นลักษณะของการหยุดตกและมี Rebound ในระยะสั้น ขณะที่ SPDR เป็นผู้ขายต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันทำการที่ผ่านมา ประเด็นที่สำคัญคือตลาดจับตาไปยัง Healthcare ของทรัมป์ ที่อาจจะถูกตีตกในสภา จึงจะทำให้ความน่าเชื่อถือของรัฐบาลลดน้อยลงและค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงนั่นเอง

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ภาพทางเทคนิคของราคาทองคำในระยะสั้นเป็นแนวโน้มทิศทางขาขึ้น หลังจากที่ยืนเหนือระดับ 1,210 เหรียญขึ้นมาได้ โดยมีแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,247 เหรียญ และมีแนวรับ 1,230 เหรียญ ยังแนะนำให้เล่นสั้นๆในกรอบไปก่อน

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

เน้นเก็งกำไรขาขึ้นในระยะสั้นขาขึ้นในกรอบ 1,230 – 1,247 เหรียญ

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และขายปิดทำกำไรบริเวณแนวต้าน

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ทยอยปิดสถานะลดความเสี่ยงของตลาด

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ยังแนะนำให้ทยอยเข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว

Gold Futures Q17 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,780 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,980 บาท

Gold Futures V17 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,830 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,030 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2681718

 

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.61 รอลุ้นผลประชุมนโยบายการเงินของ ECB-BOJ วันนี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม 2560 09:24:52 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.61 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อย

 

 

 

จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.62 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดรอดูผลประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)และธนาคารกลางยุโรป

 

(ECB)

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 33.55-33.65 บาท/ดอลลาร์

"บาททรงตัวในทิศทางแข็งค่า วันนี้น่าจะแกว่งตัวในกรอบ รอดูผลประชุม BOJ วันนี้ และ ECB ตอนช่วงค่ำๆ ...

 

ตลาดคาดว่าผลประชุม BOJ จะไม่มีผลกระทบ ส่วน ECB ต้องรอดูว่าจะส่งสัญญาณเรื่อง QE อย่างไร ซึ่งหากส่งสัญญาณลดวงเงินใน

 

ช่วงปลายปีนี้จะกดดันให้มีแรงเทขายดอลลาร์ออกมา ส่งผลให้ตลาดมีความผันผวน" นักบริหารเงิน กล่าว

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ 111.83 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 112.07 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1524 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1544 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.6460 บาท/

 

ดอลลาร์

- นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ออกประกาศแจงรายละเอียด เรื่อง การจัดทำและการ

 

ประกาศงบการเงินของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (ธนาคารรัฐ) เพื่อจะต้องเปิดเผยต่อสาธารณะให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และใช้

 

หลักการเดียวกันกับการรายงานงบการเงินของธนาคารพาณิชย์ แต่ให้เพิ่มเติมในการแยกรายงานการดำเนินธุรกรรมตามโครงการ

 

นโยบายรัฐ (Public Service Account หรือ PSA) เพื่อให้ เกิดความโปร่งใสในการทำงาน

- นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในงานสัมมนาหัวข้อแนว

 

โน้มอันดับเครดิตของภาคธุรกิจอุตสาหกรรมของประเทศไทย ว่า การที่วัฏจักรเครดิต (credit cycle)อยู่ในช่วงที่เข้มงวดเรื่อง

 

คุณภาพเครดิตมากขึ้น น่าจะทำให้ส่วนต่างระหว่างคุณภาพเครดิตที่ต่างกัน (credit spread) กว้างขึ้น ซึ่งบริษัทที่ออกหุ้นกู้ควรมีการ

 

ปรับตัวเพื่อรับมือกับต้นทุนทางการเงินที่จะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต

- บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี เปิดเผยว่า หากภาครัฐออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคต

 

ประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) จะช่วยดึงสภาพคล่องออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยในระดับหนึ่ง เนื่องจากนักลงทุนจะโยกเงิน

 

ออมระยะยาวไปลงทุน เพราะเชื่อมั่นในฝีมือรัฐบาล ประกอบกับโครงการที่นำเข้ามาในกองทุนเป็นโครงการที่สร้างรายได้แล้วทำให้

 

นักลงทุนเห็นถึงรายได้และกระแสเงินที่จะไหลเข้ากองทุนอย่างต่อเนื่อง

- นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า มาตรการช่วยเหลือผู้มีราย

 

ได้น้อยช่วยให้เศรษฐกิจฐานรากขยายตัวและมีความเข้มแข็งขึ้น จากการอัดฉีดเงินผ่านสินเชื่อของสถาบันการเงินของรัฐและเงินจาก

 

งบประมาณ ถือเป็นมาตรการดำเนินการมาถูกทางแล้ว เพราะทำให้เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็งขึ้น สะท้อนได้จากการขยายตัว

 

การบริโภคภาคเอกชนที่ดีขั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคสินค้าคงทน ได้แก่ รถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์ที่ขยายตัวได้ดีทุกภูมิภาค

 

- นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า เดิมคาดว่าปริมาณหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิด

 

รายได้ (เอ็นพีแอล) ของระบบธนาคารพาณิชย์จะเริ่มลดลงในปลายปีที่ผ่านมา แต่หนี้เสียกลับเพิ่มขึ้นเพราะเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้น

 

ตัวอย่างช้าๆ แม้จะต่อเนื่องแต่เติบโตกระจุกตัวทำให้หนี้เสียไม่ลดลง อย่างไรก็ดีเศรษฐกิจดีขึ้นอย่างชัดเจน จึงคาดว่าเอ็นพีแอลจะ

 

เริ่มลดลงในปลายปีนี้

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ รายงานตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านของสหรัฐพุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบราย

 

เดือน สู่ระดับ 1.22 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. จากระดับ 1.12 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์

 

คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.16 ล้านยูนิตในเดือนมิ.ย.

 

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) ด้วย

 

ปัจจัยหนุนจากข้อมูลตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลาง

 

ยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งจะเสร็จสิ้นลงในวันนี้ โดยยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ

 

1.1518 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1563 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.79 เยน จากระดับ

 

112.00 เยน

- นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน แอสเซท แมเนจเมนท์ คาดว่าดอลลาร์จะดีดตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากตลาดจะ

 

ทำการพิจารณาอีกครั้งต่อปัจจัยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยมีมุมมองว่าเงินเฟ้อในสหรัฐจะดีดตัวขึ้น และขณะนี้ ตลาดได้ปรับตัวรับ

 

การขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงหนึ่งครั้งจากขณะนี้จนถึงสิ้นปีหน้า

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) โดยภาวะการซื้อขายได้รับปัจจัยกดดันจากการที่

 

นักลงทุนเทขายทำกำไร นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดีดตัวขึ้นทำนิวไฮ ยังส่งผล

 

ให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

- นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันนี้

 

อย่างใกล้ชิด โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ECB จะคงนโยบายการเงินในการประชุมครั้งนี้ รวมทั้งคาดว่า ECB จะทำการประกาศ

 

ในเดือนก.ย. ถึงแผนการลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดว่า BOJ จะมีมติคงมาตรการผ่อนคลายการเงินเชิงรุกไว้ในการประชุมครั้งนี้ แม้ว่า

 

ธนาคารกลางในประเทศมหาอำนาจต่างๆจะหันไปใช้นโยบายที่มีความเข้มงวดมากขึ้น ขณะเดียวกันคาดว่า BOJ มีแนวโน้มจะยกระดับ

 

การประเมินภาวะเศรษฐกิจในประเทศ เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2681710

[ginger 11,058]

ข่าว ข้อมูล เรื่องราว

 

HSHsocial

 

 

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

NationTV22

 

 

NationTV22

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

 

[ginger 11,058]

ดึจ้า

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

Ausiris Gold Investment is live now.

16 mins · คลิป

ราคาทองวันนี้ 21 ก.ค. 2560

รายการวิเคราะห์ราคาทอง 1 นาที...สด

#ราคาทอง

#ราคาทองคำ...

 

 

HSHsocial

 

YLGResearch

 

 

NationTV22

 

ความจริงที่น่าตกตะลึง!!!“ม.จ.จุลเจิม”ออกโรงหนุนผอ.พศ.แฉ“เณรคำ”จ่ายส่วยพระผู้ใหญ่หลายล้าน

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

TNEWS.CO.TH

 

 

“เณรคำ” โฮมคัมมิ่ง! ย้อนรอยไทม์ไลน์ “อรหันต์กำมะลอ”

ย้อนรอยไทมไลน์ความฉาว! อดีตพระ “เณรคำ” จาก “พระ” สู่ “ผู้ร้าย” ข้ามแดน!! พร้อมแพ็กเก็ตคดีสะเทือนวงการสงฆ์ “พรากผู้เยาว์-กระทำอนาจาร-ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ล่าสุดถูกส่งตัวดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อย โลกโซเชียลฯ ซัดซ้ำตัดต่อภาพล้อเลียนแชร์กระจาย…

 

MANAGER.CO.TH|BY MGRONLINE LIVE

 

 

ปูระทึก!ขึ้นศาลนัดสุดท้าย จับตาเกมยื้อตีความไต่สวน"จำนำข้าว"ขัดรธน.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัดไต่สวนพยานจำเลยนัดสุดท้ายในคดีหมายเลขดำที่…

NAEWNA.COM

 

หญิงราชบุรีทุบโต๊ะฉีกหน้า'เพื่อไทย' ซัดไล่ตรวจสอบรัฐบาลปูทำ'ข้าวเจ๊ง' (ประมวลภาพ-ชมคลิป)

วุ่นหญิงวัยกลางคนชาวบ้านโป่ง ทุบโต๊ะโวยลั่น ชี้ถามเรื่องการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวในสมัยนางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อหน้า "ยุทธพงศ์"…

NAEWNA.COM

หญิงวัยกลางคนตบโต๊ะต่อหน้ายุทธพงศ์ถามเรื่องโครงการจำนำข้าว

[ginger 11,058]

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $3.50 เหตุดอลล์ร่วงเทียบยูโร หลัง ECB ส่งสัญญาณลด QE

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม 2560 07:45:39 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณเกี่ยวกับการพิจารณาปรับวงเงินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนก.ย.

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 3.50 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ระดับ 1,245.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 4.8 เซนต์ หรือ 0.29% ปิดที่ 16.345 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 9 ดอลลาร์ หรือ 0.97% ปิดที่ 933.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 11.55 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 847.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่ร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากนายดรากีส่งสัญญาณว่า ECB จะหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวงเงิน QE ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

 

ด้านนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า นายดรากีจะใช้การประชุมในเดือนก.ย. ประกาศแผนการปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนม.ค.ปีหน้า โดยคาดว่า ECB จะขยายเวลาการใช้มาตรการ QE ออกไปอีก 6 เดือน จากที่มีกำหนดสิ้นสุดในปลายปีนี้ แต่จะลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรลง

 

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการแถลงเมื่อวานนี้ นายดรากีไม่ได้ระบุวันเวลาที่แน่นอนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวงเงิน QE นอกจากนี้ ประธาน ECB ยังแย้มว่า ECB พร้อมที่จะเพิ่มวงเงินใน QE หากมีความจำเป็น

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2682297

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 33 เซนต์ เหตุนักลงทุนเทขายก่อนรมว.โอเปกประชุมที่รัสเซียสัปดาห์หน้า

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม 2560 06:59:36 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร ก่อนที่การประชุมของรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันจาก 5 ชาติของโอเปก จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 4 ก.ค.ที่ประเทศรัสเซีย

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 33 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 46.79 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสัญญาเดือนส.ค.ได้ครบกำหนดส่งมอบแล้วในวันพฤหัสบดีที่ 20 ก.ค.

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 49.30 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรก่อนที่การประชุมของรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันจาก 5 ชาติของโอเปก ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต รวมทั้งซาอุดิอาระเบีย จะมีขึ้นที่ประเทศรัสเซีย ในวันที่ 24 ก.ค.

 

ทั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันจาก 5 ชาติของโอเปกอาจจะเสนอมาตรการกระตุ้นราคาเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมโอเปกเต็มคณะในเดือนพ.ย.

 

สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดของสมาชิกกลุ่มโอเปกนั้น ซาอุดิอาระเบียกำลังพิจารณาลดการส่งออกน้ำมันอีก 1 ล้านบาร์เรล/วัน โดยการดำเนินการดังกล่าวของซาอุดิอาระเบียมีขึ้น ท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับการปรับสมดุลในตลาด

 

รายงานข่าวระบุว่า ซาอุดิอาระเบียจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นเพื่อทำให้ตลาดมีเสถียรภาพ โดยการสร้างความมั่นใจว่าสมาชิกรายอื่นของกลุ่มโอเปกจะยังคงเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2682094

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.55/57 แนวโน้มแข็งค่าต่อหลังดอลล์อ่อนจากความกังวลปัญหาการเมืองในสหรัฐฯกรณีโอบามาแคร์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม 2560 09:20:05 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.55/57 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า

 

 

 

ต่อจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.67 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่าต่อเนื่อง หลังจากที่ดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลักอื่นๆ จาก

 

สถานการณ์การเมืองในสหรัฐกรณีผลโพลล์สำรวจความนิยมของประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งพบว่า "โดนัล ทรัมป์" มีความนิยมต่ำสุดในรอบ

 

หลายสิบปี รวมทั้งกรณีของความกังวลว่ากฎหมายประกันสุขภาพ "โอบามาแคร์" อาจจะถูกยกเลิก ซึ่งจะทำให้ชาวอเมริกันหลายล้าน

 

คนอยู่ในสถานะที่ไม่มีประกันสุขภาพ

"บาทคงยังแข็งค่าต่อเนื่อง เพราะตอนนี้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าจากปัญหาการเมืองในสหรัฐกรณีโอบามาแคร์ รวมทั้งกังวล

 

ผลโพลล์ที่ความนิยมในตัวประธานาธิบดีสหรัฐออกมาต่ำสุดในรอบหลายสิบปี" นักบริหารเงินระบุ

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.40-33.60 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.04 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 112.36 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1625 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1500 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.6460 บาท/

 

ดอลลาร์

- ผลประกอบการธนาคารพาณิชย์รอบ 6 เดือนปี 60 พบว่า ธนาคารขนาดใหญ่มีผลประกอบการทรงตัว และกำไรลด

 

ลง เนื่องจากมีการตั้งสำรองเผื่อหนี้สูญ และหนี้สงสัยจะสูญจำนวนมากต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยเฉพาะธนาคารกรุงไทยที่มีกำไรลด

 

ลงสูงสุด 4,317 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางและเล็กยังมีกำไรสุทธิเติบโตในเกณฑ์ดี

 

- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ตั้งเป้าเป็นอันดับ 1 ในการขายผลิตภัณฑ์หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงภายในปี 2561 โดยช่วงครึ่งปี

 

แรกมียอดขาย 6,707 ล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาด 25% ของตลาดเป็นอันดับ 2 รองจากกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ที่มีส่วน

 

แบ่งตลาด 37% และทั้งปีคาดว่าจะมียอดขายหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งการขึ้นเป็นที่ 1 ในปีหน้าต้องมียอดขายไม่

 

ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท

- นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยว่า อยากให้ระวังในเรื่องของดีมานด์เทียมโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับบนซึ่ง

 

เริ่มเห็นแล้วในบางโครงการ หากโอนไม่ได้จะส่งผลต่ออุตสาหกรรมในระยะยาวควรมีการป้องกัน เช่น ห้ามเปลี่ยนมือก่อนโอนจะไม่

 

ได้สิทธิส่วนลด เป็นต้น

- ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) ปรับเพิ่มประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลัง

 

พัฒนาในเอเชียแปซิฟิก เป็น 5.9% ในปีนี้ และปีหน้าเป็น 5.8% จากคาดการณ์เดิมในเดือน เม.ย.ของทั้งสองปีที่ 5.7% เนื่องจากดี

 

มานด์โลกที่ฟื้นตัวและราคาน้ำมันถูกจะช่วยกระตุ้นการส่งออกของเอเชีย

- ที่ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็น

 

ประวัติการณ์ รวมทั้งคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% ในการประชุมเมื่อวานนี้

 

นอกจากนี้ ได้ประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/

 

เดือน จนถึงเดือนธ.ค. ขณะเดียวกัน ECB แถลงว่า อาจมีการขยายเวลาในการใช้มาตรการ QE เกินกว่าเดือนธ.ค.ปีนี้ หากมี

 

ความจำเป็น

- นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า นายดรากีจะใช้การประชุมในเดือนก.ย. ประกาศแผนการปรับลดวงเงินในการซื้อ

 

พันธบัตรซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนม.ค.ปีหน้า โดยคาดว่า ECB จะขยายเวลาการใช้มาตรการ QE ออกไปอีก 6 เดือน จากที่มีกำหนดสิ้น

 

สุดในปลายปีนี้ แต่จะลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรลง

- กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 15,000 รายในสัปดาห์

 

ที่แล้ว สู่ระดับ 233,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.

- Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ประจำเดือนมิ.ย.

 

ปรับตัวขึ้น 0.6% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.4%

- สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) ด้วยแรงหนุน

 

จากถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งส่งสัญญาณเกี่ยวกับการพิจารณาปรับวงเงินการซื้อ

 

พันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนก.ย. โดยยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1625

 

ดอลลาร์ จากระดับ 1.1518 ดอลลาร์ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.87 เยน จากระดับ 111.79 เยน

 

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ

 

ยูโร หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณเกี่ยวกับการพิจารณาปรับวงเงินการซื้อพันธบัตรตาม

 

มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนก.ย.

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2682336

[ginger 11,058]

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ซึมลงเล็กน้อยตามภูมิภาค หลัง ECB ส่งสัญญาณทยอยลด QE

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม 2560 09:09:03 น.

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวซึมลงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบ ตอบรับผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงวงเงินตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งก็น่าจะทยอยลดการทำ QE ในเดือนก.ย. ตรงนี้ทำให้ตลาดฯอาจจะแกว่งแคบ ส่วนผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ก็เป็นไปตามคาด ในการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

 

 

 

ส่วนบ้านเราจะเห็นได้ว่าผลประกอบการไตรมาส 2/60 ของกลุ่มแบงก์ออกมาตามคาด ถ้าไม่นับ KTB ที่มีการตั้งสำรองฯมาก อันเป็นผลจากกรณีหนี้ EARTH นอกจากนี้ให้ระวังหุ้นในกลุ่มสายการบินที่อาจมีแรงขายทำกำไรออกมาได้ เนื่องจากหุ้นในกลุ่มสายการบินในยุโรปปรับตัวลงแรงเมื่อวานนี้ ส่วนบ้านเราก็มีการเล่นเก็งกำไรกลุ่มสายการบินในช่วงก่อนหน้านี้ จากรับผลดีเงินบาทแข็งค่า โดยเฉพาะพวกที่มีหนี้ต่างประเทศมาก

 

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,570-1,580 จุด

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2682335

 

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ซึมลงเล็กน้อยตามภูมิภาค หลัง ECB ส่งสัญญาณทยอยลด QE

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม 2560 09:36:44 น.

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวซึมลงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบ ตอบรับผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงวงเงินตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งก็น่าจะทยอยลดการทำ QE ในเดือนก.ย. ตรงนี้ทำให้ตลาดฯอาจจะแกว่งแคบ ส่วนผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ก็เป็นไปตามคาด ในการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

 

 

 

ส่วนบ้านเราจะเห็นได้ว่าผลประกอบการไตรมาส 2/60 ของกลุ่มแบงก์ออกมาตามคาด ถ้าไม่นับ KTB ที่มีการตั้งสำรองฯมาก อันเป็นผลจากกรณีหนี้ EARTH นอกจากนี้ให้ระวังหุ้นในกลุ่มสายการบินที่อาจมีแรงขายทำกำไรออกมาได้ เนื่องจากหุ้นในกลุ่มสายการบินในยุโรปปรับตัวลงแรงเมื่อวานนี้ ส่วนบ้านเราก็มีการเล่นเก็งกำไรกลุ่มสายการบินในช่วงก่อนหน้านี้ จากรับผลดีเงินบาทแข็งค่า โดยเฉพาะพวกที่มีหนี้ต่างประเทศมาก

 

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,570-1,580 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (20 ก.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,611.78 จุด ลดลง 28.97 จุด (-0.13%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,390.00 จุด เพิ่มขึ้น 4.96 จุด (+0.08%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,473.45 จุด ลดลง 0.38 จุด (-0.02%)

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 54.73 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 8.27 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 37.23 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 30.89 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 3.06 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.29 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.92 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 12.92 จุด

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 ก.ค.60) 1,575.28 จุด ลดลง 0.57 จุด (-0.04%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,250.74 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ก.ค.60

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (20 ก.ค.60) ปิดที่ 46.79 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 33 เซนต์ หรือ 0.7%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 ก.ค.60) ที่ 7.85 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

 

- เงินบาทเปิด 33.55/57 แนวโน้มแข็งค่าต่อหลังดอลล์อ่อนจากความกังวลปัญหาการเมืองในสหรัฐฯกรณีโอบามาแคร์

 

- ตัวเลขการส่งออกไทยเดือน มิ.ย. 2560 มีมูลค่า 2.02 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.73% เทียบกับเดือน มิ.ย. 2559 ส่วนการนำเข้าเดือน มิ.ย. 2560 มีมูลค่า 1.83 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13.74% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้าเดือน มิ.ย. 2560 มูลค่า 1,916.9 ล้านดอลลาร์

 

- ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) โดยจะแบ่งกฎหมายออกเป็น 2 ฉบับ กฎหมายฉบับแรกยังคงเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการลงทุนต่างๆ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส แต่จะเพิ่มเรื่องการเฉลี่ยความเสี่ยงในการลงทุนมากขึ้น หากโครงการลงทุนนั้นมีความเสี่ยงภาคเอกชนก็อาจจะขอความช่วยเหลือจากภาครัฐได้ เป็นต้น

 

- บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ปรับประมาณการตลาดรถยนต์ปี 2560 เป็น 8.3 แสนคัน จากต้นปีคาดว่าอยู่ที่ 8 แสนคัน จากปัจจัยการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและการเติบโตของจีดีพี

 

- ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) ปรับเพิ่มประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียแปซิฟิก เป็น 5.9% ในปีนี้ และปีหน้าเป็น 5.8% จากคาดการณ์เดิมในเดือน เม.ย.ของทั้งสองปีที่ 5.7% เนื่องจากดีมานด์โลกที่ฟื้นตัวและราคาน้ำมันถูกจะช่วยกระตุ้นการส่งออกของเอเชีย

 

- ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยการปรับแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ไม่ได้เกิดเฉพาะกับค่าเงินบาท เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการเมืองสหรัฐ บวกกับมีปัจจัยจากตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาในช่วงหลังๆ อาจไม่เป็นไปตามความคาดหวังของตลาด พร้อมมองผลประกอบการของระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 2 ปีนี้อาจมีบางธนาคารที่มีสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เป็นหนี้เสีย ทำให้มีการตั้งสำรองหนี้มากขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสแรก และทำให้ผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์บางแห่งลดลง ซึ่งเป็นเหตุการณ์เฉพาะในไตรมาส 2 ปีนี้

 

- รมว.คลัง มั่นใจขีดแข่งขันด้านลงทุน โครงสร้างพื้นฐานไทย ในอีก 2 ปี ต่ำกว่าอันดับ 40 จากปัจจุบัน 49 เหตุรัฐเร่งลงทุนต่อเนื่อง คาดสัดส่วนลงทุนรัฐต่อจีดีพีขยับเป็น 15% ของจีดีพี จากปัจจุบันเพียง 8-9% ขณะที่แอร์บัสเล็งลงนามร่วมลงทุนการบินไทย ในไตรมาสแรกปีหน้า ตั้งศูนย์ซ่อมใหญ่ ศูนย์ซ่อมลำตัวเครื่องบิน ศูนย์ฝึกอบรม

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- ERW (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 6 บาท คาดกำไรสุทธิ 2Q60 ที่ 36 ล้านบาท โตจากที่ทำได้เพียง 1 ล้านบาทใน 2Q59 จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นและการขยายโรงแรม Hop Inn แนวโน้มระยะยาวยังสดใส ตามแผนขยายห้องพักอีก 50% จากปัจจุบันไปจนถึงปี 2563 คาดกำไรสุทธิปี 2560-2561 โตเฉลี่ย 189% ต่อปี

 

- LH (โกลเบล็ก) Bloomberg Consensus 11.19 บาท คาดกำไร 2Q60 โดดเด่น YoY และ QoQ จากธุรกิจหลักที่มีโมเมนตัมดีจากการโอนโครงการแนวราบและเริ่มโอนคอนโด 2 โครงการ The Room เจริญกรุง (ขายแล้ว 48%) The Bangkok สาธร(ขายแล้ว 69%) และรายการพิเศษที่เป็นกำไรจากการขาย Grand Center Point ราชดำริเข้ากองทุน LHHOTEL ราว 1 พันล้านบาท พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 60 รวมรายการพิเศษราว 9.3 พันล้านบาท +10%YoY และคาด yield 1H60 ราว 3% (คาดเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.30 บาท)คาดการณ์เงินปันผลทั้งปี 0.68 บาท yield 6.9%

 

- TOP (ไอร่า) เป้า 96 บาท ค่าการกลั่นตลาดสิงค์โปร์ ล่าสุด 7.84 ใกล้เคียงระดับสูงสุดของปีนี้ ที่ 8.06 เมื่อต้นก.ค. ที่ผ่านมา พร้อมคาดผลการดำเนินงานปกติในช่วง 2Q/60 ยังแข็งแกร่ง คาดค่าการกลั่นรวม (GRM) ในช่วง 2Q/60 ของ TOP จะลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 6.0 USD/bbl จาก 6.5 USD/bbl ในช่วง 1Q/60 แต่ถือว่ายังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตามคาดว่าในช่วง 2Q/60 จะมีปัจจัยที่ไม่ได้มาจากการดำเนินงาน ดังนี้ 1) คาดกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 300-400 ล้านบาท 2) คาดขาดทุนจากสต็อกน้ำมันประมาณ 1,200–1,500 ล้านบาท จากราคาน้ำมันดิบดูไบที่ลดลง ในส่วนของธุรกิจปิโตรเคมีในช่วง 2Q/60 คาดผลการผลการดำเนินงานอ่อนตัวลงจาก 1Q/60 ในขณะที่ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นและยางมะตอยในช่วง 2Q/60 ฟื้นตัวขึ้นโดดเด่น ดังนั้นหากรวมทั้ง 3 ธุรกิจหลักของ TOP คาด GIM รวมในช่วง 2Q/60 ยังอยู่ในระดับสูงที่ 8.8 USD/bbl

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2682345

[ginger 11,058]

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม 2560 07:48:18 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 ก.ค.2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ซึ่งรวมถึงหุ้นโฮม ดีโปท์ ต่างพากันร่วงลงอย่างหนัก หลังจากบริษัทเซียร์ส โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับอเมซอน อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ยังคงปิดทำนิวไฮ เพราะได้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทไมโครซอฟท์

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,611.78 จุด ลดลง 28.97 จุด หรือ -0.13% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,473.45 จุด ลดลง 0.38 จุด หรือ -0.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,390.00 จุด เพิ่มขึ้น 4.96 จุด หรือ +0.08%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ส่งสัญญาณการปรับวงเงิน QE ในเดือนก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ECB เตรียมประกาศแผนลดวงเงิน QE ในช่วงเวลาดังกล่าว

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.4% ปิดที่ระดับ 384.07 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันที่ 12,447.25 จุด ลดลง 4.80 จุด หรือ -0.04% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,199.22 จุด ลดลง 16.85 จุด หรือ -0.32% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,487.87 จุด เพิ่มขึ้น 56.96 จุด หรือ +0.77%

 

-- ดัชนีตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำสถิติสูงสุดในรอบหนึ่งเดือนเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) ด้วยแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นยูนิลีเวอร์ หลังผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภครายใหญ่ดังกล่าวเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 56.96 จุด หรือ +0.77% แตะที่ 7,487.87 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร ก่อนที่การประชุมของรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันจาก 5 ชาติของโอเปก จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 4 ก.ค.ที่ประเทศรัสเซีย

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 33 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 46.79 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสัญญาเดือนส.ค.ได้ครบกำหนดส่งมอบแล้วในวันพฤหัสบดีที่ 20 ก.ค.

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 49.30 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณเกี่ยวกับการพิจารณาปรับวงเงินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนก.ย.

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 3.50 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ระดับ 1,245.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 4.8 เซนต์ หรือ 0.29% ปิดที่ 16.345 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 9 ดอลลาร์ หรือ 0.97% ปิดที่ 933.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 11.55 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 847.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) ด้วยแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งส่งสัญญาณเกี่ยวกับการพิจารณาปรับวงเงินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนก.ย.

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1625 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1518 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2976 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3025 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7961 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7957 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.87 เยน จากระดับ 111.79 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9515 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9553 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,390.00 จุด เพิ่มขึ้น 4.96 จุด, +0.08%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 21,611.78 จุด ลดลง 28.97 จุด, -0.13%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,473.45 จุด ลดลง 0.38 จุด, -0.02%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,447.25 จุด ลดลง 4.80 จุด, -0.04%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,199.22 จุด ลดลง 16.85 จุด, -0.32%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,487.87 จุด เพิ่มขึ้น 56.96 จุด, +0.77%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 31,904.40 จุด ลดลง 50.95 จุด, -0.16%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,293.13 จุด ลดลง 31.94 จุด, -0.96%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,825.21 จุด เพิ่มขึ้น 18.52 จุด, +0.32%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,755.63 จุด ลดลง 1.64 จุด, -0.09%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 26,740.21 จุด เพิ่มขึ้น 68.05 จุด, +0.26%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 768.41 จุด ลดลง 2.89 จุด, -0.37%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,904.34 จุด ลดลง 68.56 จุด, -0.86%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,244.86 จุด เพิ่มขึ้น 13.88 จุด, +0.43%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,441.84 จุด เพิ่มขึ้น 11.90 จุด, +0.49%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,761.50 จุด เพิ่มขึ้น 29.40 จุด, +0.51%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,805.70 จุด เพิ่มขึ้น 26.30 จุด, +0.46%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,144.59 จุด เพิ่มขึ้น 123.73 จุด, +0.62%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,499.36 จุด ลดลง 6.74 จุด, -0.06%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2682299

 

Xinhua world news summary: รัฐบาลบราซิลส่งจนท. 800 นายเข้าควบคุมสถานการณ์รุนแรงในกรุงริโอเดอจาเนโร

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม 2560 10:21:25 น.

รัฐบาลบราซิลได้ส่งเจ้าหน้าที่จากกองกำลังรักษาความปลอดภัยแห่งชาติของกระทรวงยุติธรรมจำนวน 420 นาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงของรัฐบาลกลาง 380 นาย ไปยังกรุงริโอเดอจาเนโร เพื่อควบคุมสถานการณ์รุนแรงในกรุงริโอเดอจาเนโร

 

 

 

ทั้งนี้ บราซิลกำลังเผชิญวิกฤตศรัทธาที่มีต่อผู้นำ หลังจากที่นายหลุยส์ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา อดีตประธานาธิบดีบราซิล ได้ถูกศาลตัดสินจำคุก 9 ปี 6 เดือน ในคดีคอรัปชั่น เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่นายมิเชล เตเมร์ ประธานาธิบดีบราซิลคนปัจจุบันได้ถูกตั้งข้อหาคอรัปชั่นเช่นกัน หลังจากศาลบราซิลได้เผยแพร่เทปบันทึกคำสนทนาระหว่างนายเตเมร์ และนายโฮสลีย์ บาติสตา เจ้าของบริษัท JBS ผู้ผลิตเนื้อรายใหญ่ของบราซิล โดยทั้งสองได้พูดคุยกันเกี่ยวกับการติดสินบน

 

-- VP Bank ธนาคารเอกชนระหว่างประเทศ ได้ออกรายงานล่าสุดว่า เศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวถึง 6.9% ในไตรมาสที่ 2 นั้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และคาดว่าเศรษฐกิจจะยังขยายตัวที่ระดับดังกล่าวในอีกหลายไตรมาสข้างหน้า นอกจากนี้ แรงกดดันด้านราคาในภาคอุตสาหกรรมของจีน อยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากการสต็อกสินค้าของภาคเอกชนชะลอตัวลง

 

-- นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน เปิดเผยในระหว่างการพบปะกับนายจอห์น คีย์ อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ว่า รัฐบาลจีนจะใช้มาตรการต่าง เพื่อเปิดกว้างทางเศรษฐกิจ รวมทั้งสร้างบรรยากาศการลงทุนที่เป็นธรรมและเอื้ออำนวยต่อนักธุรกิจต่างชาติ

 

-- เกิดแผ่นดินไหวที่สามารถวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.7 แมกนิจูดในทะเลอีเจียน นอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของตุรกี และใกล้กับหมู่เกาะของกรีซ ในช่วงเช้าวันนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน และมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 100 คน

 

สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐ (USGS) ระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้มีศูนย์กลางห่างจากเมืองโบดรัม ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งของตุรกี ออกไปประมาณ 10 กิโลเมตร

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย มลฑา ชัยธำรงค์กูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2682364

[ginger 11,058]

เพื่อน พี่น้อง ทุกท่าน ข้อมูล-ความเคลื่อนไหว (ไม่สนับสนุน การลงทุนที่มความเสี่ยงสูงใดๆ)

บาทแข็งสุดวันนี้

มาท่านี้ก็คงต้องสตอปลอสขาเอส แล้วตามไปดูว่าจะไปถึงเป้า 1252 1258 ไหมนะ มองว่าถ้าลงต่ำกว่า 1240 ก็สตอปขาซื้อออกมาอีกที

เงินบาทแข็งสุดๆ

 

TFEX Live by MTS TFEX WARS II วัน 21 กรกฎาคม 2560 (Rerun)

[ginger 11,058]

ดีจ้า

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

Ylg Bullion

 

 

YLGResearch

 

 

HSHsocial

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

[ginger 11,058]

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำจันทร์ที่ 24 กรกฎาคม 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 24 กรกฎาคม 2560 10:02:08 น.

กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังคงปิดปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดได้รับแรงสนับสนุนจากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ในรอบ 13 เดือนแถวระดับ 93.847 จุด ประกอบกับความล้มเหลวในการผลักดันนโยบายของนายทรัมป์ และกรณีที่ยังถูกสอบสวนว่ามีส่วนพัวพันกับรัสเซียในช่วงหาเสียงหรือไม่ และล่าสุดจากการที่โฆษกรัฐบาลสหรัฐฯประกาศลาออกก็ยิ่งตอกย้ำถึงความวุ่นวายทางการเมือง จึงได้กระตุ้นให้เกิดปริมาณความต้องการทองคำเพิ่มสูงขึ้น สำหรับคืนวันศุกร์ไม่มีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญใดๆ ขณะที่กองทุนทองคำ SPDR ยังเป็นผู้ขายต่อเนื่อง และวันศุกร์ยังขายทองคำออกอีก 2.36 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 813.76 ตัน อย่างไรก็ดี คืนนี้จะมีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อันได้แก่ Existing Home Sales ที่คาดว่าจะทรงตัวหรืออ่อนตัวลงเล็กน้อย

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำยังทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 6 สัปดาห์ ที่บริเวณ 1,255 เหรียญโดยประมาณ โดยราคายังมีการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งราคาทองคำจะมีแนวต้านบริเวณ 1,260 เหรียญ ขณะที่แนวต้านสำคัญถัดไปจะอยู่ที่ระดับ 1,272 เหรียญ และ 1,293 เหรียญตามลำดับ ขณะที่แนวรับขยับขึ้นมาบริเวณ 1,245 เหรียญ โดยที่ภาพรวมราคาทองคำกลับมาเป็นทิศทางขาขึ้นอีกครั้ง จึงแนะนำให้เก็งกำไรขาขึ้นระยะสั้น เป็นลักษณะลงซื้อขึ้นขาย ด้านทองคำไทยมีแนวรับ 19,650 บาท/บาททองคำ และแนวต้าน 19,900 บาท/บาททองคำ โดยทองคำยังขึ้นได้ไม่มากนักจากการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของค่าเงินบาท

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

เก็งกำไรขาขึ้นระยะสั้นในกรอบ หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และขายปิดทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ลงซื้อขึ้นขายในกรอบ 1,245 – 1,272 เหรียญ

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปิดสถานะออกไป และไม่แนะนำให้ถือครองสถานะเพิ่ม

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

หาจังหวะทยอยเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,272 เหรียญ และ 1,293 เหรียญตามลำดับ

 

Gold Futures Q17 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,840 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,040 บาท

Gold Futures V17 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,880 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,080 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2683212

 

เกิดคลื่นสึนามิวันนี้ หลังแผ่นดินไหวเขย่าตุรกี-กรีซ

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม 2560 19:34:25 น.

ศูนย์วิจัยแผ่นดินไหวของตุรกีเปิดเผยว่า เกิดคลื่นสึนามิความสูง 40 ซม.ในวันนี้ หลังเกิดแผ่นดินไหวที่วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.7 แมกนิจูดในทะเลอีเจียน นอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของตุรกี และใกล้กับหมู่เกาะของกรีซ ในช่วงเช้าวันนี้

 

คลื่นสึนามิดังกล่าวอยู่ห่างจากชายฝั่งเมืองโบดรัมราว 10-100 เมตร และทำให้เกิดน้ำท่วมในบริเวณดังกล่าว

 

เหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน และมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 100 คน

 

สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐ (USGS) ระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้มีศูนย์กลางห่างจากเมืองโบดรัม ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งของตุรกี ออกไปประมาณ 10 กิโลเมตร

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq38/2682655

 

สหรัฐเตรียมออกกฎห้ามพลเมืองเดินทางเยือน เกาหลีเหนือ

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 22 กรกฎาคม 2560 13:00:00 น.

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยวานนี้ว่า ทางการสหรัฐเตรียมสั่งห้ามไม่ให้ประชาชนเดินทางไปยังเกาหลีเหนือ เนื่องจากมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับกฎหมายการจับกุมตัวและกักขังผู้กระทำความผิดของเกาหลีเหนือ โดยคำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม

 

 

 

ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลสหรัฐมีขึ้น ภายหลังจากการเสียชีวิตของนายออตโต วอร์มเบียร์ นักศึกษาชาวอเมริกันที่ถูกปล่อยตัวจากเกาหลีเหนือด้วยอาการโคมา หลังจากที่ถูกคุมขังอยู่ในคุกของเกาหลีเหนือมาเป็นเวลานานถึง 17 เดือน

 

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศเตรียมที่จะออกประกาศอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า โดยมีผลบังคับใช้ในอีก 30 วันให้หลัง

 

นางฮีเธอร์ เนาเอิร์ท โฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ระบุว่า เมื่อกฎดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางของสหรัฐจะไม่สามารถเดินทางไปเกาหลีเหนือได้อีกต่อไป แต่หากผู้ใดมีความจำเป็นจะต้องเดินทางไปยังประเทศดังกล่าวก็จะมีการพิจารณาเหตุผลตามความเหมาะสม เพื่อทำการออกหนังสือเดินทางพิเศษฉบับให้เป็นรายบุคคล

 

นายวอร์มเบียร์ได้เดินทางไปยังเกาหลีเหนือกับกรุ๊ปทัวร์เมื่อเดือนมกราคม 2559 ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวและพิพากษาลงโทษให้ใช้แรงงานหนักเป็นเวลา 15 ปี โดยศาลฎีกาเกาหลีเหนือตัดสินว่า นายวอร์มเบียได้กระทำการที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลเกาหลีเหนือ หลังจากที่เขารับสารภาพว่าได้พยายามขโมยป้ายคำขวัญทางการเมืองออกจากโรงแรมที่พัก

 

หลังจากที่สหรัฐได้ทำการเจรจาทางการทูตกับเกาหลีเหนืออยู่หลายต่อหลายครั้ง ในท้ายที่สุด รัฐบาลเกาหลีเหนือก็ยอมปล่อยตัวนายวอร์มเบียร์ออกมาในขณะที่เขากำลังป่วยหนักถึงขั้นวิกฤต และได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปัทมาสน์ ชนะรัชชรักษ์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pattamas.c@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq38/2682854

[ginger 11,058]

 

Ausiris Gold Investment was live.

53 mins · คลิป

ราคาทองวันนี้ 24 ก.ค. 2560

รายการวิเคราะห์ราคาทอง 1 นาที...สด

#ราคาทอง

#ราคาทองคำ..

[ginger 11,058]

Ylg Bullion

 

 

HSHsocial

 

 

Ylg Bullion

 

 

 

Ylg Bullion

 

 

 

 

 

MTS GOLD GROUP

 

NationTV22

 

 

NationTV22

 

 

NationTV22

 

[ginger 11,058]

ดีจ้า

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดขยับลง 60 เซนต์ เหตุเงินดอลล์แข็งกดดันตลาด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 กรกฎาคม 2560 07:38:46 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อันเนื่องมาจากข้อมูลภาคการผลิตและบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีขึ้นในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 60 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,254.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.4 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 16.443 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 5.1 ดอลลาร์ หรือ 0.54% ปิดที่ 932.3 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 4.70 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 849.05 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำปิดตลาดปรับตัวลง เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำมีมูลค่าที่ไม่น่าดึงดูดใจของนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

 

สำหรับปัจจัยที่ทำให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่านั้น มาจากรายงานของไอเอชเอส มาร์กิตซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นรวมภาคการผลิตและบริการของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 54.2 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน หลังจากแตะระดับ 53.9 ในเดือนมิ.ย. ทั้งนี้ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตและบริการของสหรัฐ

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะมีขึ้นในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการ FOMC จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ราคาบ้านเดือนพ.ค.โดยเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จาก Conference Board, ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย., ดุลการค้าเดือนมิ.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2683821

 

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำอังคารที่ 25 กรกฎาคม 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 25 กรกฎาคม 2560 10:06:49 น.

กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และยังทรงตัวได้เหนือระดับ 1,250 เหรียญ ท่ามกลางภาพรวมของค่าเงินดอลลาร์ที่ยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่า ขณะที่ค่าเงินยูโรปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องไปทำระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ อันได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองที่ออกมาแย่ลงสู่ระดับ 5.52 ล้านยูนิต ทางด้านกองทุน SPDR ทำการเทขายต่อเนื่องอีก 4.14 ตัน ปัจจุบันลดการถือครองทองคำลงมาที่ระดับ 809.62 ตัน อย่างไรก็ดี ตลาดให้ความสำคัญกับการประชุมเฟดระหว่าง 25-26 ก.ค.นี้ ว่าจะมีการส่งสัญญาณกรอบเวลาการเริ่มปรับลดยอดงบดุลหรือไม่ ขณะที่ในคืนนี้จะมีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อันได้แก่ CB Consumer Confidence ที่คาดการณ์ว่าจะออกมาทรงตัวหรือแย่ลงเล็กน้อย

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำยังคงทำจุดสูงสุดใหม่แถวระดับ 1,259 เหรียญ และจะยังมีเป้าหมายที่ระดับแนวต้าน 1,272 เหรียญ ขณะที่แนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 1,240 เหรียญ และโดยภาพรวมของราคาทองคำเป็นขาขึ้น แม้ว่าจะมีแรงเทขายเข้ามาเป็นช่วงๆ ขณะที่ราคาทองคำไทยจะมีแนวรับ 19,650 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ระดับ 19,900 บาท/บาททองคำ

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ลงซื้อขึ้นขาย เก็งกำไรขาขึ้นระยะสั้นในกรอบ 1,250 – 1,272 เหรียญ

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ลงซื้อขึ้นขายในกรอบ

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ไม่แนะนำให้ถือครองสถานะ Short

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ทยอยเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณแนวรับ และหาจังหวะขายปิดเมื่อราคาปรับตัวขึ้น ซึ่งคาดว่าราคาทองคำจะมีเป้าหมายถัดไปที่ระดับ 1,272 เหรียญ และ 1,293 เหรียญตามลำดับ

 

Gold Futures Q17 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,890 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,090 บาท

Gold Futures V17 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,930 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,130 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2683859

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.45 กลับมาอ่อนค่าหลังมีแรงซื้อดอลล์ มองกรอบวันนี้ 33.40-33.50

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 กรกฎาคม 2560 09:10:27 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.45 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก

 

 

 

ช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.40 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์กลับมาแข็งค่าหลังมีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาด

 

"บาทอ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่แข็งค่าสุดในรอบ 26 เดือน หลังมีแรงซื้อดอลลาร์กลับเข้ามา วันนี้บาทน่าจะปรับ

 

ฐานหลังจากแข็งค่าลงมามาก" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้อยู่ระหว่าง 33.40-33.50 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ 111.23 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 110.66 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1639 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1654 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.4290 บาท/

 

ดอลลาร์

- ผู้จัดการตลาดหุ้นไทย ย้ำปัจจัยกระตุ้นจิตวิทยาการลงทุนครึ่งหลังปี 60 มาจากการลงทุนภาครัฐ ด้าน บล.เคทีบี ย้ำ

 

ทิศทางการลงทุนไม่แน่นอนนักลงทุนรอฟัง ผลการประชุมเฟด รวมถึง OPEC กับรัสเซีย มองดัชนีผันผวนในกรอบ 1,566-1,590 จุด

 

ด้านเงินบาทยังคงแข็งค่าแตะ 33.40 จับตามองท่าทีประชุมเฟด

- ตลาดหลักทรัพย์เผยบริษัทจดทะเบียนไทยรุกลงทุนตลาดต่างประเทศ ให้ผลตอบแทนโตเฉลี่ย 8% ต่อปี สูงกว่าลงทุน

 

ในประเทศได้แค่ 3% ต่อปี พบปี'59 ใช้เงินลงทุนโตเกินเท่าตัว จาก 7.5 หมื่นล้านในปี'58 ทะลุเป็น 1.8 แสนล้าน ตรวจสอบราย

 

ชื่อ ล้วนบริษัทยักษ์ใหญ่ไทย เช่น ซีพีเอฟ ปตท.สผ.

- รมว.อุตสาหกรรม อยู่ระหว่างจัดทำแพ็คเกจช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อมเอสเอ็มอี)ด้านการเงิน โดย

 

จะใช้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ในการค้ำประกันเงินกู้ ซึ่งอาจจะเพิ่มวงเงินค้ำประกันจากเดิม

 

23% เป็น 30% เพื่อผลักดันให้ บสย.ค้ำประกันเงินกู้ได้เพิ่มขึ้นอีก 8 หมื่นล้านบาท ให้ครบตามเป้าหมาย 1 แสนล้านบาทภายในปีนี้

 

ซึ่งจะทำให้มีเงินเข้าไปหมุนเวียนให้กับเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้น

- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลง 1.8% ในเดือนมิ.

 

ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.52 ล้านยูนิต ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลงเพียง 1% สู่ระดับ 5.58 ล้าน

 

ยูนิต หลังจากที่ราคาบ้านพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากเกิดภาวะขาดแคลนบ้านในตลาด

 

- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นรวมภาคการผลิตและบริการของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 54.2 ในเดือนก.ค.

 

ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน หลังจากแตะระดับ 53.9 ในเดือนมิ.ย. ทั้งนี้ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัว

 

ของภาคการผลิตและบริการของสหรัฐ

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) ด้วย

 

แรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตและบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1641 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1678 ดอลลาร์ และดอลลาร์แข็งค่า

 

ขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.12 เยน จากระดับ 111.07 เยน

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์

 

สหรัฐ อันเนื่องมาจากข้อมูลภาคการผลิตและบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่การประชุมของ

 

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีขึ้นในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้

- นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ราคาบ้านเดือนพ.ค.โดยเอสแอนด์พี/เคส-ชิ

 

ลเลอร์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จาก Conference Board, ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย., ดุลการค้าเดือนมิ.ย., ยอดสั่ง

 

ซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย. และผลิตภัณฑ์มวล

 

รวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2683848

[ginger 11,058]

ข่าว การเคลื่นไหวของตลาด

 

Ausiris Group

 

 

YLGResearch

 

HSHsocial

 

 

NationTV22

 

NationTV22

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

NationTV22

 

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่ง Sideway up ตามราคาน้ำมันฟื้น-ตลาดตปท.รีบาวด์,เกาะติดประชุมเฟด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 25 กรกฎาคม 2560 08:58:25 น.

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway up โดยตลาดฯมีโอกาสที่จะฟื้นตัวขึ้นได้จากราคาน้ำมันที่รีบาวด์ขึ้น และตลาดต่างประเทศเช้านี้ต่างก็รีบาวด์กันทั่วหน้า ยกเว้นตลาดหุ้นไต้หวันที่ติดลบ

 

อย่างไรก็ดี มองว่าคงเป็นแค่การเทรดดิ้ง โดยอิงการคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่จะทยอยประกาศออกมา โดยสัปดาห์นี้ก็จะมีงบฯของ SCC, ADVANC, PTTEP ซึ่งมีโอกาสที่จะหนุนดัชนีฯได้ในช่วงสั้น ทั้งนี้ตลาดฯยังรอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีขึ้นในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้ด้วย เบื้องต้นคาดว่าน่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ย แต่ที่ตลาดฯติดตามเป็นเรื่องช่วงเวลาการปรับลดงบดุลของสหรัฐฯ ซึ่งตลาดฯคาดว่าจะเริ่มในเดือนก.ย.หรือเดือนธ.ค.ปีนี้

 

ทั้งนี้ มองว่าตลาดฯคงจะเป็นแค่การรีบาวด์ในช่วงสั้น เพราะยังไม่มีปัจจัยหนุน พร้อมให้แนวรับ 1,573 จุด ส่วนแนวต้าน 1,583 จุด

 

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2683845

[ginger 11,058]

บทวิเคราะห์ Gold Futures Glitter Gold

ประจำช่วง Night Session

วันที่ 25 กรกฎคม 2560

 

SPDR ขายไม่ยั้ง

ตลาดทองคำเปิดตลาดเอเชียในภาคเช้าที่บริเวณ 1,253.75 USD/toz ปรับขึ้นระหว่างวันในกรอบแนวโน้มขาขึ้นประมาณ 4-5 ดอลลาร์ โดยภาพรวมยังคงปรับขึ้นต่อจากปัจจัยบวกในประเด็นการประชุมของคณะ FOMC ในช่วงปลายสัปดาห์ ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่ยังคงเคลื่อนไหวอ่อนค่าโดยปัจจุบันดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงเคลื่อนไหวที่บริเวณ 93-94 จุด ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบหนึ่งปี ในขณะที่ปัจจัยลบก็ยังคงเป็นกองทุน SPDR ซึ่งขายออกสุทธิอย่างต่อเนื่องกดดันบรรยากาศเชิงบวกต่อตลาด โดยที่ปัจจุบันมีสถานะถือครองทองคำอยู่ที่ระดับ 809.62 ตัน ถือว่าปรับลดลงมากอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับคืนนี้คาดการณ์ว่าตลาดทองคำอาจเคลื่อนไหวผันผวนและปรับตัวลดลงบ้างจากการปรับสถานะของนักลงทุนในตลาด ยังคงมุมมมองเดิมคือการปรับขึ้นอาจถูกจำกัดในระยะสั้น ดังนั้นให้นักลงทุนเปิดสถานะในกรอบราคาส่วน Short Position ถือว่ายังไม่น่าสนใจ

 

แนะนำ : ยังคงมุมมองเดิม, เปิดสถานะในกรอบราคาเป็นหลักและหวังกำไรระยะสั้นเป็นหลัก

 

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://classicgold.co.th/image/strategy_analysis/filestrategy240720171546054158.pdf

___________________________

[ginger 11,058]

บทวิเคราะห์ Smart Stock ประจำเช้าวันที่ี 25 กรกฎาคม 2560

ปิดบวก

ภาพรวมตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ยังคงแกว่งในกรอบแคบเเละขาดไร้ปัจจัยบวกโดยไม่ค่อยมีประเด็นให้นักลงทุนเล่นเท่าไหร่ก่อนมีแรงซื้อเข้าในช่วงท้ายตลาดจากการเก็งกำไรของนักลงทุน ในขณะที่ตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคปิดตลาดในเเดนบวกเเละเเกว่งตัวในกรอบเเคบเช่นกันเป็นส่วนใหญ่ โดยเรามองว่าหุ้นใหญ่เคลื่อนไหวในเเดนลบกดดัน Upside ของตลาดหุ้นไทยประกอบกับราคาน้ำมันดิบซึ่งทรงตัวไม่เกื้อหนุนกลุ่มพลังงานภายในประเทศทำให้การเคลื่อนไหวโดยรวมเริ่มน่าเบื่อ เเต่อย่างไรก็ตามกระเสเงินทุนต่างชาติยังคงเป็นปัจจัยหลักที่เข้ามาจำกัด Downside ของหุ้นไทยไว้สะท้อนจากค่าเงินบาทที่ยังคงเเข็งค่าเเละดอลลาร์ที่อ่อนค่า เเสดงให้เห็นว่าเงินทุนจากฝั่งสหรัฐฯ เคลื่อนย้ายเข้ามาพักไว้ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่พอสมควรอย่างไรก็ตามเรามองว่า ช่วงกลางสัปดาห์เป็นต้นไปตลาดน่าจะกลับมาผันผวนจากการประกาศดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งจีดีพีสหรัฐฯ, อัตราดอกเบี้ยนโยบาย, การประชุมของคณะกรรมการ FOMC รวมทั้งอัตราการว่างงาน

แนะนำ : เปิดสถานะในกรอบให้น้ำหนักฝั่ง Long Position

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://classicgold.co.th/…/filestrategy25072017859004159.pdf

___________________________