ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
Prinkgold

กราฟทองรายวัน(ฟันธงหน้าเขียว-ถือต่อตามระบบ)

โพสต์แนะนำ

องระบบเขียว หลังจากที่ย่อตัวรายวันลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วมีแรงซื้อซ้อนกลับเข้ามาทำให้ทองคำมีแรงดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือที่ระดับ 1230 อีกครั้งทิศทางยังไม่แน่นอนครับยังไงก็อยู่ที่การตัดสินใจของตัวท่านเองว่าจะเล่นต่อดีไหมหรือหยุดแล้วนั่งดูสถานะการณ์ไปก่อนส่วนตัวผมเองก็ยังไม่มีสถานะใดๆพอตยังว่างหลังจากที่ขายตามระบบไปเมื่อวานครับ วันนี้เลยลองเสี่ยงเข้าทำระยะสั้นๆ ต่อตามระบบสักไม้ดู stop loss 1218 TP 1240 ครับใครที่ยังใหม่แนะนำนั่งดูไปก่อนนะครับเขียวแท่งนี้อาจจะเป็นเป้านิ่งล่อแมงเม่าก็เป็นไปได้ระวังกันด้วยนะครับครับwub.gif

แนวต้านวันนี้ 1232 1236 1242 1246

แนวรับ 1222 1218 1210

nwcgc.jpg

 

น้ำมันระบบแดง Dj ระบบแดง

ขอบคุณครับ :rolleyes:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สุดยอดไปเลยบวกไปหลายตังค์ละขอบคุณค่ะ !10 !01

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้ขอนั่งนิ่งๆ ดูไปก่อนแล้วกันพริ้งเมื่อเช้าลืมเข้ามาอ่านตกรถไปละ :wub:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับอาจารย์เมื่อเช้าขึ้นรถไปแย้วตามระบบเพิ่งทำงานเลิกมาครับเลยตามมา +2 :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทันข่าวตลาดหุ้นบ้านเรา

GF ระบบเขียว

nbqgf.jpg

SET50 ระบบแดงต่อเนื่องแท่งที่ 2

0set50copy.jpg

SET50 Futures มีโอกาสฟื้นตัว

นางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEST เปิดเผยถึงการซื้อขายสินค้า SET50 Futures ในตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (TFEX)

วันนี้ว่า ดัชนีฯ เคลื่อนไหวผันผวนตามดัชนี SET50 ที่อยู่ในกรอบ 607-600 จุด

หลังจากหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นมาร์เก็ตแคปใหญ่ใน SET50 ได้ขายทำกำไร (Sell on fact) รับการประการผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.25%

ด้านปัจจัยบวกมาจากนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรกลุ่ม ICT ต่อประเด็นการประมูลใบอนุญาต 3G

ส่วนภาพรวมของตลาดหุ้นต่างประเทศยังเคลื่อนไหวทรงตัว ไม่ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุน ทั้งนี้ดัชนี ฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาดที่ระดับ 20,634.98 จุด ลดลง 23.73 จุด หรือ -0.11 %

 

โดยแนวโน้มในวันพรุ่งนี้คาดว่าดัชนี SET50 Futures มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ หลังจากวันนี้ปรับตัวลดลงแรงมากแล้ว ประกอบกับสัญญาณเทคนิคยังไม่เสียรูปขาขึ้น

'มองว่าการปรับตัวลดลงของดัชนีฯ เป็นแค่การพักฐานระยะสั้นเท่านั้น แต่ทิศทางยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อได้ 'นางสาวมยุรีกล่าว

อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตาม ประเด็นโครงการอันตรายที่มาบตาพุดและคดีมอนทาร่าของ PTTEP เพราะส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุน

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำเปิดสถานะซื้อ (Long) ในสัญญา S50U10 เดือนกันยายน 2553 ประเมินแนวรับที่ 600-598 จุด ส่วนแนวต้านประเมินที่ 605-610 จุด ส่วน SET50 ประเมินแนวรับที่ 600 จุด แนวต้าน 610 จุด

 

Gold Futures พรุ่งนี้ทิศทางสดใส

นางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEST เปิดเผยถึงการซื้อขาย Gold Futures ในตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (TFEX) ในวันนี้ว่า

ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาทองคำในตลาดโลก รวมถึงสัญญาณเทคนิคฟื้นตัว

แนวโน้มในวันพรุ่งนี้คาดว่าราคาทองล่วงหน้ามีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามสัญญาณเทคนิคฟื้นตัวเพราะหมดระยะพักฐานแล้ว ด้านราคาทองคำในตลาดโลก มีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,240-1,250 ดอลลาร์/ออนซ์ เป็นปัจจัยสนับสนุนจิตวิทยาการลงทุน

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้นักลงทุนเปิดสถานะซื้อ ประเมินแนวรับที่ 18,500 บาท แนวต้าน 18,600 บาท ในสัญญา GFQ10 และ GF10Q10 สิ้นสุดสัญญาส่งมอบเดือนสิงหาคม 2553

พรุ่งนี้..มีลุ้น

นางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยวันนี้ แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยแรงซื้อของนักลงทุนกระจายไปยังหลายกลุ่ม แต่การเคลื่อนไหวไม่ได้โดดเด่นมากนัก

โดยมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก ประกอบกับ นักลงทุนรอความชัดเจนเรื่องการประกาศกิจการที่อาจจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

รวมถึงประเด็นเกี่ยวกับการเรียกร้องค่าชดเชยความเสียหายอันเนื่องมาจากเหตุการณ์น้ำมันและก๊าซธรรมชาติรั่วไหล ในแหล่งมอนทาราของบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTCH) ซึ่งเบื้องต้นบริษัทฯ ออกมาชี้แจงว่า

บริษัทฯยังไม่ได้รับการเรียกร้องค่าชดเชยความเสียหายจากเหตุการณ์ข้างต้น และ ยังไม่ได้รับหลักฐานใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายดังกล่าว ซึ่งบริษัทจะรายงานความคืบหน้าต่อไป จึงทำ

ให้ดัชนีฯ ขยับขึ้นได้ไม่มากนัก

 

'วันนี้ตลาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยพบว่าแรงซื้อกระจายไปยังหลายๆ กลุ่ม แต่ไม่ได้มีกลุ่มไหนที่โดนเด่นเป็นพิเศษ ซึ่งมองว่าน่าจะเป็นแรงซื้อหุ้นเป็นรายตัวมากกว่า และการที่กนง.ขึ้นดอกเบี้ย ก็เป็นไปตามคาดโดยในวันนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเซอร์ไพร์สนักลงทุน

แถมนักลงทุนยังรอ wait&see โครงการที่อาจจะส่งผลกระทบรุนแรงในมาบตาพุด และเป็นประเด็นที่จับตา คือ ตลาดยังคงรอความชัดเจนเรื่องค่าปรับมอนทารา และรอดูสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่จะประกาศวันนี้ เราก็น่าจะรู้คืนนี้'นางสาวอาภาภรณ์ กล่าว

พร้อมกันนี้ มองว่ากรณีที่การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.วันนี้ที่ประชุมมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย R/P 1 วันอีก 0.25% จาก1.50%มาอยู่ที่1.75% ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย และอัตราเงินเฟ้อ

ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ ไม่ได้เซอร์ไพร์สแต่อย่างใด

ด้านความเคลื่อนไหว ตลาดหุ้นในภูมิภาค ดัชนี สเตรทไทม์: ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิดตลาดที่ระดับ 2,926.55 จุด เพิ่มขึ้น 3.70 จุด หรือ 0.13 % ดัชนี คอมโพสิต: ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ปิดตลาดที่ระดับ 3,138.91 จุด เพิ่มขึ้น 23.97 จุด หรือ 0.77 %ดัชนี ฮั่งเส็ง:

ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาดที่ระดับ 20,634.98 จุด ลดลง 23.73 จุด หรือ -0.11 % ดัชนี SHI: ตลาดหุ้นจีน ปิดตลาดที่ระดับ 2,596.58 จุด ลดลง 53.73 จุด หรือ -2.03 % ดัชนี คอมโพสิต: ตลาดหุ้นโซล ปิดตลาดที่ระดับ 1,734.79 จุด ลดลง 25.74 จุด

หรือ -1.46 % ดัชนี นิกเกอิ: ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดตลาดที่ระดับ 8,845.39 จุด ลดลง 149.75 จุด หรือ -1.66 %

สำหรับแนวโน้มของดัชนีฯ ในวันพรุ่งนี้( 26 ส.ค. 2553) เชื่อว่ามีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในกรอบแคบ เพราะนักลงทุนรอความชัดเจนเรื่องการประกาศกิจการที่อาจจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม รวมถึงรอติดตามการรายงานสต็อกน้ำมันในคืนนี้ (25 ส.ค. 2553)

และทิศทางของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก เพราะอาจมีผลชี้นำต่อดัชนีฯ

ทั้งนี้ ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ คือ ตัวเลข GDP ไตรมาส 2/2553 ซึ่งจะประกาศในวันศุกร์ที่ 27 ส.ค. 53 ขณะที่ ปัจจัยในประเทศ คือ ในวันที่ 26 ส.ค.53 กระทรวงการคลังและตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)จะนำบริษัทจดทะเบียน 9 แห่ง

PTT, PTTEP, TOP,BBL, TISCO, MINT, CPALL, ADVANC และTUF รวมทั้งคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. ก็เดินทางไปด้วย

กลยุทธ์การลงทุน หากถือหุ้นที่มีต้นทุนต่ำอยู่แนะนำถือต่อ ส่วนนักลงทุนที่จะเข้าซื้อใหม่ต้องปรับกลยุทธ์ โดยควรจะเล่นรอบให้เร็วขึ้น ประเมินกรอบแนวต้านดัชนีฯ ไว้ที่ 895-900 จุด แนวรับ 890-885 จุด ซึ่งภาพของดัชนีฯ ควรจะไม่หลุด 880 จุด เพราะหากหลุดภาพของดัชนีฯไม่น่าจะดีนัก

 

 

 

 

ถูกแก้ไข โดย Prinkgold
  • ถูกใจ 11

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลรอบค่ำ !01

ถูกแก้ไข โดย LOSO

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ผู้มาเยือน
กระทู้นี้ถูกปิดรับการตอบกลับแล้ว

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...