ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 10, 2013 อภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ชุดที่ 1 ตอน 2/12 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 10, 2013 (มีการแก้ไข) อภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ชุดที่ 1 ตอน 3/12(แนวโน้ม) ถูกแก้ไข มกราคม 10, 2013 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 10, 2013 (มีการแก้ไข) อภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ชุดที่ 1 ตอน 4/12 ถูกแก้ไข มกราคม 10, 2013 โดย ginger 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 10, 2013 humor train อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 10, 2013 อภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ชุดที่ 1 ตอน 5/12 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 10, 2013 (มีการแก้ไข) คุณทราบหรือไม่ว่า... การวิเคราะห์เชิงจิตวิทยาการลงทุน สามารถบอกได้ว่าคุณเป็นผู้ลงทุนแบบไหน และมีสไตล์การลงทุนเป็นแบบใด โดยผ่านการวิเคราะห์ 2 รูปแบบ ได้แก่ มักจะหลีกเลี่ยงการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง หรือยอมรับความเสี่ยงได้ ค่อนข้างต่ำ ดังนั้น ผู้ลงทุนประเภทรอรับผลจึงมักมอบหมายหน้าที่ในการ จัดการลงทุนให้แก่มืออาชีพที่มีนโยบายการลงทุนในโครงการที่มีความเสี่ยงต่ำ และยอมรับอัตราผลตอบแทนในระดับต่ำ มากกว่าที่จะจัดการลงทุนด้วยตนเอง ผู้ลงทุนประเภทนี้ ได้แก่... - ผู้ที่มีเงินทุนโดยไม่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคหรือสร้างด้วยมือตนเอง เช่น ได้รับเงินมรดก หรือขายที่ดินที่มีราคาสูงขึ้นจากการที่ถนนตัดผ่าน ฯลฯ - ผู้ที่มีเงินทุนน้อย และกลัวขาดทุน - ลูกจ้างที่มีหน้าที่การงานดี (ตำแหน่งสูงๆ) ในบริษัทขนาดใหญ่ - แพทย์ มักชื่นชอบความเสี่ยงมากกว่าความมั่นคงของเงินลงทุน โดยมีความเห็นว่าถ้าเงินลงทุนต้องสูญไปก็สามารถ สร้างใหม่ได้ ดังนั้น ผู้ลงทุนประเภทมุ่งหวังผลจึงมักจัดการลงทุนด้วยตนเอง เพราะมีความมั่นใจในตนเองสูง ผู้ลงทุนประเภทนี้ ได้แก่… - ผู้ที่ร่ำรวยโดยสร้างธุรกิจด้วยมือของตนเอง - ผู้ที่ทำงานอิสระ ไม่ได้เป็นลูกจ้างในสายอาชีพต่างๆ เช่น ทนายความอิสระ นักบัญชี ฯลฯ - ลูกจ้างที่มีหน้าที่การงานดี (ตำแหน่งสูงๆ) ในบริษัทขนาดใหญ่ - ศัลยแพทย์มือดี Bailard, Biehl & Kaiser (BB&K) แยกประเภทของผู้ลงทุนออกเป็น 5 ประเภท โดยดูจากระดับความมั่นใจและแนวปฏิบัติของบุคคลนั้นๆ จากการวิเคราะห์จะพบว่า... บุคคลแต่ละคนมีปฏิกิริยาในการลงทุนที่แตกต่างกัน โดยอาจมี “ความมั่นใจ” หรือมี “ความวิตกกังวล” ต่อการลงทุน ซึ่งความมั่นใจหรือความวิตกกังวลที่บุคคลมี จะสะท้อนไปยัง “แนวปฏิบัติ” ของบุคคลนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนอย่างรอบคอบ ระมัดระวัง หรือลงทุนอย่างหุนหันพลันแล่น ขาดความระมัดระวัง จึงสามารถแบ่ง แกนจิตวิทยามนุษย์ออกเป็น 2 แกน ได้แก่ แกนตั้ง (เส้นทึบ) --> ด้านบนสุดแสดงความมั่นใจสูง และด้านล่างสุดแสดงความวิตกกังวล แกนนอน (เส้นประ) --> ด้านซ้ายสุดแสดงความรอบคอบ ระมัดระวัง และด้านขวาสุดแสดงความหุนหันพลันแล่น ส่วน “พวกที่อยู่คาบเส้น” (Straight Arrow) ได้แก่ ผู้ลงทุนที่ไม่ตกอยู่ในประเภทใดประเภทหนึ่งข้างต้น แต่จะมีลักษณะกลางๆ ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงหลักเกณฑ์กว้างๆ ในขณะใดขณะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หากผู้ลงทุนตกอยู่ในสถานการณ์การลงทุน ที่แตกต่างกัน ผู้ลงทุนอาจเปลี่ยนแนวความคิดไปบ้าง แต่ก็จะไม่ต่างไปจากที่เป็นอยู่เดิมมากนัก ถูกแก้ไข มกราคม 11, 2013 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 10, 2013 (มีการแก้ไข) อภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ชุดที่ 1 ตอน 6/12 ถูกแก้ไข มกราคม 10, 2013 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 10, 2013 (มีการแก้ไข) อภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ชุดที่ 1 ตอน 7/12 ถูกแก้ไข มกราคม 10, 2013 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 10, 2013 อภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ชุดที่ 1 ตอน 8/12 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 10, 2013 ธรรมะอินเทรนด์ ธรรมะออนไลน์ shared D for Dhamma's photo. เราดี ดีกว่า ดวงดี :D for Dhamma อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 11, 2013 การเงิน - การลงทุน วันที่ 11 มกราคม 2556 07:39 แห่ซื้อหุ้นเล็ก-หุ้นปั่น ดันราคาพุ่งกระฉูด โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์ เผยปี 2555 นักลงทุนแห่ซื้อหุ้นเล็ก ทั้งหุ้นปั่นและหุ้นที่มีพื้นฐานรองรับ ดันวอลุ่มกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในเซ็ท 100 เฉียดแสนล้าน นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) เปิดเผยว่า ในปี 2555 ที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อขายหุ้นขนาดเล็ก ไม่รวมหุ้นที่เข้าจดทะเบียนใหม่ หรือหุ้นไอพีโอ เติบโตสูงมาก โดยหุ้นกลุ่มที่ไม่อยู่ในเซ็ท 100 หรือ NON-SET 100 มีมูลค่าการซื้อขาย 9.42 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.1% จากปีก่อน ขณะที่หุ้นในเอ็ม เอ ไอ มูลค่าซื้อขายโต 43.7% ส่วนมูลค่าการซื้อขายหุ้นใหญ่ ในกลุ่ม เซ็ท 50 ลดลง โดยมีสัดส่วนการซื้อขายอยู่ประมาณ 65% จากแต่ก่อนไม่ต่ำกว่า 70% ของมูลค่าซื้อขายทั้งหมด ซึ่งเงินลงทุนกระจายเข้าสู่หุ้นกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในเซ็ท 50 หรือ NON-SET50 มากขึ้น โดยสัดส่วนการซื้อขายหุ้นกลุ่มไม่อยู่ในเซ็ท 100 และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ อยู่ที่ 18.12% และ 3.78% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด สูงสุดในรอบ 5 ปี ทั้งนี้เฉพาะในเดือนธันวาคม การซื้อขายหุ้นของ 2 กลุ่มนี้มีสัดส่วนสูงถึง 32.20% กลุ่มไม่ได้อยู่ในเซ็ท 100 จำนวน 24.40% และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 7.80% หรือประมาณ 1 ใน 3 ของยอดการซื้อขายรวม ด้านการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นปี 2555 หุ้น เอ็ม เอ ไอ มีราคาเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยสูงสุดที่ 74.90% ตามด้วยหุ้นกลุ่ม SET51-100 เพิ่มขึ้น 64.66% กลุ่มที่ไม่อยู่ในเซ็ท 100 เพิ่มขึ้น 56.96% และเซ็ท 50 42.02% หากรวมหุ้นเล็กเข้าด้วยกัน (NON-SET100 และ MAI) จะมีราคาเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 59.86% สูงกว่าหุ้นขนาดใหญ่ (SET50) และใกล้เคียงกับหุ้นขนาดกลาง (SET51-100) ส่วนหุ้นราคาต่ำกว่า 1 บาท ณ สิ้นปี 2555 มีจำนวน 47 หลักทรัพย์ ลดลงจากปี 2554 ที่ 77 หลักทรัพย์ หรือลดลง 38.96% ส่วนใหญ่เกิดจากหุ้นเล็กที่ราคาต่ำกว่า 1 บาทมีจำนวนลดลง นอกจากนี้ในปี 2555 ยังพบหุ้น 152 หลักทรัพย์ ไม่รวมหุ้นไอพีโอ ที่ทำสถิติราคาสูงสุดตั้งแต่เข้าจดทะเบียน โดยส่วนใหญ่เป็นหุ้นในเอ็ม เอ ไอ และหุ้นขนาดเล็กในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม อสังหาริมทรัพย์ การแพทย์ และสื่อสิ่งพิมพ์ "เงินลงทุนไหลเข้าสู่หุ้นขนาดเล็กทั้งที่มีและไม่มีพื้นฐานรองรับ หุ้นที่มีพื้นฐานรองรับ นักลงทุนต้องประเมินมูลค่ากิจการและเปรียบเทียบกับค่า P/E ที่สูงขึ้นพร้อมวิเคราะห์ว่าราคาหุ้นเต็มมูลค่าแล้วหรือยัง คุ้มกับการลงทุนหรือไม่ สำหรับหุ้นที่ไม่มีพื้นฐานรองรับหรือหุ้นเก็งกำไร นักลงทุนต้องตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบ ซึ่งในช่วงปี 2555 ที่ผ่านมาสังเกตเห็นว่า มีหุ้นของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง ที่ยังมีผลประกอบการขาดทุน แต่กลับมีการซื้อขายและราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 100%" เขากล่าวต่อว่า ในช่วงสัปดาห์แรกของการซื้อขายในปีนี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ และดัชนีตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า โดยตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 1.78% และ เอ็ม เอ ไอ เพิ่มขึ้น 1.35% มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของตลาดหลักทรัพย์ อยู่ที่ 4.57 หมื่นล้านบาท สูงสุดรอบ 9 ปี และ เอ็ม เอ ไอ อยู่ที่ 1.64 พันล้านบาท สูงสุดนับตั้งแต่ตั้งตลาด โดยหุ้น เซ็ท 50 มีสัดส่วนการซื้อขาย 51.35% ของยอดรวม กลุ่ม เซ็ท 51-100 มีสัดส่วน 24.06% กลุ่มที่ไม่อยู่ในเซ็ท 100 มีสัดส่วน 21.07% และ MAI มีสัดส่วน 3.52% Tags : ชนิตร ชาญชัยณรงค์ • ตลาดหลักทรัพย์ฯ • หุ้นปั่น อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 11, 2013 Wealth Station มาเล่าให้ฟังซักเรื่องก่อนดีกว่า เป็นเรื่องที่คาใจผมมาก่อนครับ เค้าว่าถึงเวลานี้ที่ราคาน้ำมันอยู่ในกรอบ 80 - 100 เหรียญนี้ ทำให้เกิดการคิดค้นพลังงานทดแทนออกมาเพื่อลดการพึ่งพาการใช้น้ำมันที่นับวันจะยิ่งลดน้อยถอยลง เคยได้ยินคำนี้ไหมครับ Oil Sand นึกไม่ออกลองคลิกลิ้งค์นี้ดูครับ เป็นรูปhttp://www.google.co.th/search?hl=th&tbo=d&biw=862&bih=659&site=imghp&tbm=isch&sa=1&q=oil+sand&oq=oil+sand&gs_l=img.3..0j0i24l4.4905219.4908656.0.4909812.8.7.0.1.1.0.156.828.0j7.7.0...0.0...1c.1.CXNTq-n8ssI และ Shale gas ที่ลิงค์นี้ครับ http://t1.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcTJ-bHfYj9A-_tH5OblU3H1gFarC2_QFSwzIhxR8KAZiqs1DKKY เป็นพลังงานทางเลือกที่นักค้นคว้ารู้จักมานานแล้วแต่ไม่สามารถหาทางผลิตในเชิงการค้าได้และไม่มีเทคโนโลยีที่สูงพอในการขุดขึ้นมาใช้ในก่อนหน้านี้ แต่ ณ วันนี้ด้วยราคาน้ำมันระดับนี้และเทคโนโลยีของวันนี้ เราสามารถใช้พลังงานทางเลือกเหล่านี้ได้ครับ ซึ่งมีมากในสหรัฐและจีน ทำให้เกิดซัพพลายส่วนเกินในสิ่งที่นำไปเป็นพลังงาน ซึ่งที่เกินและถูกส่งออกขายต่อตลาดโลกคือ "ถ่านหิน" ก่อนหน้านี้ถ่านหินเป็นทรัพยากร พลังงานที่สหรัฐแทบไม่ส่งออกเลย กลายเป็นส่งออกมาทำให้ราคาถ่านหินตกต่ำและสะเทือนหุ้นตัวใหญ่ๆ อย่างบ้านปู ดังที่เห็นในรูปกราฟ บ้านปู ในช่วงสองปีมานี้ปรับตัวลงมาเหลือแค่ครึ่งเดียว ท่านที่ติดตามหุ้นมานานคงรู้ว่าบ้านปูขึ้นจากราว 200 ในช่วงปี 2008 ไปสู่ 800 กว่าๆ ในปลายปี 2010 แน่นอนผมก็คนหนึ่งที่หมายมั่นว่าจะเป็นเจ้าของเหมืองถ่านหินกะเค้า แต่แย่หน่อยที่ในช่วงเวลานี้ มันช่วงขาลงของหุ้นตัวนี้เสียแล้ว จะขึ้นจะลงหลังจากนี้ผมไม่ทราบนะครับ ไม่ได้ใบ้อะไรแค่พูดถึงตามที่ได้ฟังมา เป็นเพียงเสี้ยวเดียวจากที่ฟังมาทั้งหมด จะเข็นออกมาอีกให้ครบเรื่องที่น่าสนใจครับ ซึ่งจะเกี่ยวกับพวกเราทั้งหมดคือเรื่อง "โรงไฟฟ้า" และ "ค่าไฟ" กันครับ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 11, 2013 ว.วชิรเมธี (W.Vajiramedhi) shared พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี'sphoto. January 5 เชิญดาวน์โหลดและแบ่งปันหนังสือธรรมะมงคล E-Book "ลายแทงแห่งความสำเร็จ" โดย ท่าน ว.วชิรเมธี (ภาษาไทย-อังกฤษ) http://www.ebooks.in.th/ebook/6584/ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 11, 2013 วรวรรณ ธาราภูมิ ผลจากการผสมผสานการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ---------------------------------------------------------- วรวรรณ ธาราภูมิ CEO กองทุนบัวหลวง 11 มกราคม 2556 Chart นี้ แสดงถึงผลตอบแทนการลงทุนในสินทรัพย์ 4 ประเภท จากสิ้นปี 2544 ถึง ณ 28 ธค 2555 โดยแยกเป็นผลตอบแทนในแต่ละปี และผลตอบแทนสะสม 10 ปี โดยสินทรัพย์ 4 ประเภท ได้แก่ 1. ตลาดหุ้นไทย 2. พันธบัตรรัฐบาลไทย 3. เงินฝากประจำ 1 ปี 4. ทองคำแท่งเยาวราช จะสังเกตุได้ว่าในปี 2547 ปี 2549 ปี 2551 และปี 2554 ตลาดหุ้นไทยติดลบ ส่วนจะลบมาก ลบน้อย ก็ดูกันเอาเองค่ะ แต่คีย์สำคัญคือการลงทุนที่ดีคือลงทุนในหุ้นหรือกองทุนหุ้นที่เราเลือกแล้ว วิเคราะห์แล้ว ว่าจะมีอัตราการเติบโตของกำไรที่ดี แม้จะมีมรสุมของตลาดหุ้นโดยรวมในบางปีที่ขาดทุนได้ เพราะในระยะยาวเราจะได้ผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำ หากเราเลือกเป็น ส่วนตารางล่าง แสดงสมมติฐานว่า ถ้าเราผสมผสานการลงทุนในสินทรัพย์ข้างต้น 4 ประเภทด้วยสัดส่วน (%) ที่ต่างกัน ผลตอบแทนสะสม 10 ปี จะเป็นเท่าไร เงินลงทุนส่วนตัวของพี่ (เงินที่เหลือจากเงินเดือนทุกเดือน) ก็ใช้วิธีกำหนดสัดส่วนการลงทุนทำนองนี้ โดยเอาไปลงทุนในกองทุนประเภทต่างๆ ทุกวันที่เงินเดือนออก และไม่เคยกลับไปดูเลยว่าซื้อได้ที่ดัชนีเท่าไร ที่ราคาทองคำเท่าไร ฯลฯ เพราะเป้าหมายเฉลี่ยในระยะยาวของพี่ตอนนี้คือผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี ไม่ต่ำกว่า 8% ซึ่งของจริงเฉลี่ยต่อปีออกมาเกิน 12% เพราะพี่ให้น้ำหนักเต็มที่ในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างกองทุนหุ้นกับกองทุนทองคำ เนื่องจากรับความเสี่ยงได้สูง ดูแล้ว ใครจะอยู่กับเงินฝาก กับพันธบัตร กันต่อไป ก็นิมนต์กันตามลำบากเลย อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่า การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง และผลตอบแทนที่นำมาแสดงนั้นแม้จะเป็นสิ่งที่เกิดจริงในอดีต 10 ปีย้อนหลัง แต่ในอนาคตไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ใครกลัวเสี่ยง รับความเสี่ยงไม่ได้ ก็คงไม่รวยเท่าคนที่เข้าใจเรื่องความเสี่ยงและมีความอดทนพอที่จะรับความผันผวนหรือการขาดทุนในบางปีในบางสินทรัพย์ที่ผสมผสานค่ะ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มกราคม 11, 2013 ต่อนะ อภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ชุดที่ 1 ตอน 9/12 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น