ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

หัวใจทองคำกับรอยหยักของสมอง

โพสต์แนะนำ

อภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ชุดที่ 1 ตอน 10/12

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Stock2morrow

PTT แจ้งว่า การควบบริษัทระหว่าง บริษัท พีทีที ยูทิลิตี้ จำกัด (PTTUT) และ บริษัท ผลิตไฟฟ้าอิสระ (ประเทศไทย) จำกัด (IPT) ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2556 โดยมีชื่อบริษัทใหม่ว่า บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด

 

http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=40000

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Inv_KnowYourself_meun2_03.jpgInv_KnowYourself_meun2_04.jpg

ก่อนการลงทุนในหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ใดๆ ผู้ลงทุนควรกำหนดวัตถุประสงค์ของการลงทุนให้ชัดเจนว่า

ลงทุนไปเพื่ออะไร และจะใช้ระยะเวลานานเท่าใด เพื่อที่จะได้วางแผนการลงทุนและเลือกสินทรัพย์หรือหลักทรัพย์

ที่จะลงทุนได้อย่างเหมาะสม

Inv_KnowYourself_meun2_07.jpgInv_KnowYourself_meun2_08.jpg Inv_KnowYourself_meun2_09.jpg คือ ต้องการให้หลักทรัพย์

หรือสินทรัพย์ที่ตนลงทุนไว้

มีีมูลค่าเพิ่มพูนขึ้นตลอด

ช่วงเวลาที่ลงทุน โดยการ

เพิ่มค่านั้นจะมาจากกำไร

(Capital Gain) จากการ

ลงทุนเป็นสำคัญ คือ ต้องการได้รับรายได้

เป็นประจำจากการลงทุน

ในหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์

ที่ตนลงทุนไว้ ส่วนใหญ่

ผู้เกษียณอายุมักมีจุดประสงค์

ในการลงทุนเพื่อวัตถุประสงค์นี้ คือ ต้องการให้เงินลงทุน

ของตนมีความมั่นคง และ

รักษามูลค่าของเงิน

หลังหักค่าเงินเฟ้อไว้

เพื่อคงอำนาจซื้อของคุณ

ให้เท่าเดิม คือ ต้องการให้ความเสี่ยง

และผลตอบแทนจากการ

ลงทุนมีความเหมาะสม

ไม่โน้มเอียงไปในเป้าหมาย

ใดเป้าหมายหนึ่งโดยเฉพาะ

แต่เป็นการผสมผสาน

ระหว่าง 3 เป้าหมาย

ข้างต้น Inv_KnowYourself_meun2_17.jpg Inv_KnowYourself_meun2_18.jpgInv_KnowYourself_meun2_19.jpgInv_KnowYourself_meun2_20.jpgInv_KnowYourself_meun2_21.jpg นอกเหนือจากการกำหนดวัตถุประสงค์ในการลงทุนแล้ว ผู้ลงทุนควรคำนึงถึง “เป้าหมายการลงทุน”

(Goal Achievement) ว่าต้องการจะนำผลตอบแทนจากเงินลงทุนไปใช้เมื่อใด และเพื่อการใดด้วย

เพื่อจะได้วางแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายการลงทุนที่วางไว้ ซึ่งตัวอย่าง

ของการกำหนดเป้าหมายในการลงทุน มีดังนี้ Inv_KnowYourself_meun2_23.jpg Inv_KnowYourself_meun2_24.jpgInv_KnowYourself_meun2_25.jpgInv_KnowYourself_meun2_26.jpg

เป้าหมายการลงทุน

ตัวอย่างเป้าหมาย

 

 

สินทรัพย์ที่เหมาะสม

1. Near-Term High Priority Goal:

เป้าหมายระยะสั้นที่มีความสำคัญ

ต่อการดำรงชีวิตของคุณ

 

- เงินดาวน์บ้าน / รถยนต์

- เงินทุนเพื่อการศึกษา

- ค่ารักษาพยาบาล

ตราสารที่ใกล้เคียงเงินสด

เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล

ระยะสั้น ฯลฯ

2. Long-Term High Priority Goal:

เป้าหมายระยะยาว และมีความสำคัญ

ในอนาคต

 

- เงินสำหรับใช้จ่ายหลังเกษียณอายุ

- เงินจุนเจือพ่อแม่ยามชรา

ควรกระจายการลงทุนในสินทรัพย์

หลายๆ ประเภท เพื่อกระจายความเสี่ยง

โดยให้น้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์

ที่มีความเสี่ยงต่ำในสัดส่วนที่สูงกว่า สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง

 

3. Short-Term Low Priority Goal:

เป้าหมายระยะสั้นที่มีระดับความสำคัญ

น้อย

- เงินสำหรับพักผ่อนและท่องเที่ยว

- เงินบริจาค

สินทรัพย์เก็งกำไรทุกประเภท แต่ต้องมี

สภาพคล่องสูง เช่น หุ้นยอดนิยม หรือ

อสังหาริมทรัพย์ที่กำลังบูม ซื้อ-ขาย

คล่องมือ ฯลฯ

 

4. Money Making Goal:

เป้าหมายระยะสั้นเพื่อทำเงิน

เป็นกอบเป็นกำ หรือทำกำไรรวม

ในระยะสั้น

 

- ทุ่มเงินลงทุนเพื่อหวังรวยใน

ระยะสั้น

หุ้นของบริษัทที่กำลังเติบโต

มีโอกาสทางธุรกิจสดใสกว่าคู่แข่ง Inv_KnowYourself_meun2_35.jpgInv_KnowYourself_meun2_36.jpgInv_KnowYourself_meun2_37.jpg

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Inv_KnowYourself_meun4_03.jpg

“เงินลงทุน” ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่ง ถ้าไม่มีเงิน ก็ไม่สามารถที่จะลงทุนได้ การกำหนดจำนวนเงินลงทุน

ที่เหมาะสมจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการลงทุน เพราะการนำเงินออมหรือเงินสำหรับการใช้จ่ายมาลงทุนมากเกินไป อาจทำให้เราประสบปัญหาการขาดสภาพคล่อง กดดันตัวเองมากเกินไป

 

ในขณะที่การจัดสรรเงินเพื่อการลงทุนที่น้อยเกินไป อาจทำให้เสียโอกาสในการสร้างผลตอบแทนตามที่ควร

จะได้รับ ซึ่งการจัดสรรเงินสำหรับการลงทุนในสัดส่วนที่เหมาะสมจะทำให้การลงทุนของเราเป็นไปอย่างสมดุล

ข้อควรคำนึงในการจัดสรรเงินเพื่อการลงทุน คือ ต้องวางแผนและจัดการกับความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐาน ตลอดจนภาระ

ทางการเงินด้านอื่นๆ ที่ตนเองมีอยู่ในชีวิตให้เรียบร้อยเสียก่อน ซึ่งได้แก่... Inv_KnowYourself_meun4_06.jpg Inv_KnowYourself_meun4_07.jpg ถือเป็นเงินก้อนแรกที่คุณควรจะกันออกจากรายได้ เพื่อเอาไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน

ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า คนเราควรมีเงินเก็บสำรองไว้เผื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน เท่ากับค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมกัน

3 - 6 เดือนเป็นอย่างน้อย ยกตัวอย่างเช่น หากเรามีภาระค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละ 10,000 บาท เราก็ควร

ที่จะมีเงินเก็บสำรองเผื่อฉุกเฉินไว้อย่างน้อย 30,000 - 60,000 บาท ซึ่งเงินสำรองดังกล่าวนี้ควรเก็บอยู่ใน

รูปแบบการออมที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด และมีสภาพคล่องสูง โดยสามารถเบิกใช้ได้ในทันทีที่เราต้องการ

เช่น ฝากไว้ในบัญชีออมทรัพย์กับธนาคารพาณิชย์ เป็นต้น Inv_KnowYourself_meun4_11.jpg Inv_KnowYourself_meun4_12.jpg Inv_KnowYourself_meun4_13.jpg เป็นรายการที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการดำเนินชีวิตของคุณและครอบครัว ซึ่งได้แก่ ค่าอาหาร ค่าโทรศัพท์

ค่าเดินทาง ค่าเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ค่าพักผ่อนหย่อนใจ เป็นต้น ถือเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะเป็น

ส่วนที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการดำรงชีวิตขั้นพื้นฐาน Inv_KnowYourself_meun4_17.jpg Inv_KnowYourself_meun4_18.jpg Inv_KnowYourself_meun4_19.jpg

เป็นรายการที่เกิดขึ้นในกรณีที่มีการกู้ยืมเงิน จึงเป็นพันธะผูกพันทางการเงินตามกฎหมายที่ผู้กู้จะต้องรับผิดชอบ

โดยต้องจ่ายคืนเงินต้นและดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่ได้ระบุอยู่ในสัญญาการกู้ยืม หากเรากู้ยืมเงินและไม่ปฏิบัติ

ตามสัญญา อาจเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาภายหลังได้ เช่น ถูกยึดทรัพย์สิน หรือถูกฟ้องล้มละลาย เป็นต้น Inv_KnowYourself_meun4_23.jpg Inv_KnowYourself_meun4_24.jpg Inv_KnowYourself_meun4_25.jpg เป็นรายการที่เกิดขึ้นในกรณีที่เราต้องการเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนหรือความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

ในอนาคต เช่น เงินประกันชีวิต เงินประกันอุบัติภัย เงินประกันสุขภาพ เป็นต้น จัดเป็นส่วนที่ใช้สำหรับ

สร้างหลักประกันในชีวิตให้แก่ทั้งตัวคุณและครอบครัวได้เป็นอย่างดี Inv_KnowYourself_meun4_29.jpg Inv_KnowYourself_meun4_30.jpg Inv_KnowYourself_meun4_31.jpg เป็นเงินอีกส่วนหนึ่งที่มีไว้สำหรับแผนการต่างๆ ที่เราคาดหวังเอาไว้ในอนาคต ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์

ความต้องการ และความจำเป็นของตัวเราเองเป็นหลัก เช่น เงินสำหรับการศึกษาต่อ เงินสำหรับการศึกษา

ของบุตร เงินสำหรับดาวน์บ้านหรือต่อเติมบ้าน เป็นต้น แน่นอนว่า... หากเรามีแผนการที่ชัดเจนเหล่านี้อยู่ในใจ

ก็ควรที่จะวางแผนเก็บเงินเพื่อทำให้แผนการนั้นๆ เสร็จเรียบร้อยไปเสียก่อน Inv_KnowYourself_meun4_35.jpg

สิ่งสำคัญคือ ไม่ควรมีความคิดจะใช้เงินที่ได้รับจากการลงทุน มาใช้เพื่อจัดการกับภาระทางการเงินดังกล่าวข้างต้น

เนื่องจากการลงทุนใดๆ ย่อมมีความไม่แน่นอนแฝงอยู่เสมอ และอาจทำให้เราประสบกับปัญหาทางการเงินได้ โดยเงินที่นำมา

ลงทุนควรเป็น “เงินส่วนที่เหลือ” หลังจากที่คุณได้เตรียมการขั้นพื้นฐานสำหรับการดำรงชีวิต รวมถึงจัดการกับภาระทาง

การเงินด้านอื่นๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

Inv_KnowYourself_meun4_37.jpgInv_KnowYourself_meun4_38.jpgInv_KnowYourself_meun4_39.jpg

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Inv_KnowYourself_meun5_03.jpg Inv_KnowYourself_meun5_04.jpg

ข้อจำกัดในการลงทุนเป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนจะต้องศึกษาให้ละเอียดถ่องแท้ก่อนเข้าไป

ลงทุนในหลักทรัพย์ต่างๆ ทั้งนี้ ก็เพื่อผลประโยชน์สูงสุดที่จะได้รับจากการลงทุนนั่นเอง

ซึ่งข้อจำกัดในการลงทุนที่ควรรู้มีดังนี้ Inv_KnowYourself_meun5_07.jpgInv_KnowYourself_meun5_08.jpg Inv_KnowYourself_meun5_09.jpg Inv_KnowYourself_meun5_10.jpg Inv_KnowYourself_meun5_11.jpg Inv_KnowYourself_meun5_12.jpg Inv_KnowYourself_meun5_13.jpg Inv_KnowYourself_meun5_14.jpg Inv_KnowYourself_meun5_15.jpg Inv_KnowYourself_meun5_16.jpg Inv_KnowYourself_meun5_17.jpg Inv_KnowYourself_meun5_18.jpg

 

http://www.tsi-thailand.org/index.php?option=com_content&task=view&id=1744&Itemid=1521

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

[/url]Inv_KnowYourself_meun1_03.jpgInv_KnowYourself_meun1_04.jpg

การจะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จ เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม... “การลงทุน” ก็เช่นเดียวกัน ก่อนที่จะเริ่มลงทุน

ในอะไรก็ตาม ควรเริ่มต้นด้วยการเตรียมตัวเองให้พร้อม โดยต้องรู้จัก 3 ต. คือ เตรียมตัว เตรียมสตางค์ และเตรียมใจ

กันก่อน

Inv_KnowYourself_meun1_07.jpgInv_KnowYourself_meun1_08.jpgInv_KnowYourself_meun1_09.jpg

“เตรียมตัว” เพื่อจะเป็นผู้ลงทุนที่ดีโดยการกำหนด “เป้าหมายการลงทุน”

ที่ชัดเจน เป้าหมายการลงทุนถือเป็นหัวใจสำคัญในการลงทุนให้ประสบความสำเร็จ

เพราะเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เรากำหนดแนวทางการลงทุนได้ง่ายขึ้น ยิ่งปัจจุบัน

ทางเลือกในการลงทุนมีมากมาย การลงทุนแบบไร้ทิศทาง ลงทุนตามข่าวสาร

ตามกระแสอาจทำให้พลาดโอกาสดีๆ ที่เหมาะกับตัวเราไปอย่างน่าเสียดาย Inv_KnowYourself_meun1_11.jpg เบื้องต้นเราจึงควรกำหนดเป้าหมายการลงทุนให้ชัดเจนว่า ต้องการลงทุน

เพื่ออะไร? ต้องการใช้เงินประมาณเท่าไหร่? และต้องการจะบรรลุเป้าหมายนั้น

เมื่อใด? ซึ่งอาจเป็นการลงทุนในระยะสั้น (ไม่เกิน 1 ปี) ระยะกลาง (1 – 5 ปี) หรือ

ระยะยาว (ตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป) ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล บางคนอาจลงทุน ระยะสั้นเพื่อเตรียมเงินไว้สำหรับดาวน์รถยนต์คันใหม่ บางคนอาจลงทุนระยะกลางเพื่อเตรียมเงินไว้ไปศึกษาต่อต่างประเทศ

หรือบางคนอาจต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อเตรียมเงินไว้ใช้จ่ายในวัยเกษียณ ฯลฯ

 

จากนั้นค่อยพิจารณา “เงื่อนไข” ในการลงทุนว่าคุณรับความเสี่ยงได้แค่ไหน ต้องการผลตอบแทนแบบไหน

อัตราผลตอบแทนเท่าไหร่ หรือมีเงินลงทุนมากน้อยเพียงใด เพราะสิ่งเหล่านี้แหละที่จะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีว่า...

ทางเลือกการลงทุนแบบไหนที่จะเหมาะกับคุณมากที่สุด

 

นอกจากนี้ ต้องเพิ่มความรู้ให้กับตัวเอง โดยศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับทางเลือกที่คิดจะลงทุน ไม่ว่าจะเป็นคุณลักษณะ

ความเสี่ยง และผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่จะลงทุนนั้น Inv_KnowYourself_meun1_13.jpg

 

“เตรียมสตางค์” หรือเตรียมเงินลงทุนในจำนวนที่เหมาะสม ซึ่งคุณควรพิจารณา

“แผนการออมและแผนการใช้จ่าย” ประกอบด้วย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสถานะทาง

การเงิน หากผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คาดหวังหรือเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน Inv_KnowYourself_meun1_17.jpg เมื่อกำหนดเงินลงทุนเริ่มต้นได้แล้ว ก็ต้องพิจารณา “สินทรัพย์ลงทุน” อย่างรอบคอบ

ก่อน แล้วจึง “แบ่งเงิน” ไปลงทุนในสินทรัพย์ลงทุนหลายๆ ประเภท หรือที่เรียกว่า

“การจัดสรรสินทรัพย์ลงทุน” (Asset Allocation) เพื่อให้เกิดการกระจายความเสี่ยง

อย่างเหมาะสม

มีข้อมูลทางวิชาการและสถิติมากมายระบุว่า การจัดสรรทรัพย์สินลงทุนอย่างเหมาะสมสามารถสร้างผลตอบแทนจาก

การลงทุนได้ดีกว่าการลงทุนในสินทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะราคาของสินทรัพย์ลงทุนแต่ละประเภทจะตอบรับต่อการ

เปลี่ยนแปลงของปัจจัยเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน รวมทั้งใช้เวลาในการปรับขึ้นลงของราคาที่แตกต่างกัน ดังนั้น การลงทุนใน

สินทรัพย์หลายประเภทจึงช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดทุนจำนวนมากในคราวเดียวได้เป็นอย่างดี Inv_KnowYourself_meun1_20.jpgInv_KnowYourself_meun1_21.jpgInv_KnowYourself_meun1_22.jpg

 

สุดท้าย คือ... “เตรียมใจ” ให้พร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ที่จะมี

ผลกระทบต่อการลงทุน ถือเป็นเคล็ดลับในการลงทุนอย่างมีความสุข

เพราะผู้ลงทุนส่วนใหญ่ “ขาดความอดทน” และ “ไม่มีวินัย” ในการลงทุน

ที่ดีพอ จึงมักจะลงทุนไปตามสิ่งเร้าหรือตามกระแส ไม่ได้พิจารณาการลงทุน

ด้วยความรอบคอบ

 

เมื่อมีปัจจัยหรือเหตุการณ์ใดที่อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนเกิดขึ้น

ก็เกิดความกังวล หวาดวิตก กลัวความเสียหายจะเกิดขึ้นกับการลงทุนของตน

ทำให้เกิดความกดดันและความเครียด ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการลงทุนโดยรวม Inv_KnowYourself_meun1_24.jpg และต่อสุขภาพจิตของตนเอง ตรงกันข้าม... หากเราพิจารณาการลงทุนอย่างรอบคอบ มีความอดทน และมีวินัยในการลงทุน

เราก็จะพบว่าความผันผวนของตลาดในระยะสั้นจะไม่ส่งกระทบต่อพอร์ตการลงทุนของเรามากนัก

 

เอาเป็นว่า... ใครอยากมี "ความมั่งคั่งทางการเงิน" ควบคู่ไปกับ "ความมั่งคั่งทางอารมณ์" ก็ต้องเตรียม 3 ต. ทั้ง

เตรียมตัว เตรียมสตางค์ และเตรียมใจ ให้พร้อม จะได้ออกสตาร์ทบนเส้นทางการลงทุนแสนสุขได้อย่างผู้ลงทุนมืออาชีพ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Inv_KnowYourself_meun6_03.jpg

การที่จะเล่นกีฬาให้ชำนาญจนมีความสามารถเป็นที่ยอมรับและถึงขนาดชนะได้รางวัลนั้น นอกจากผู้เล่นจะต้องมีทักษะ

พื้นฐานที่ดีแล้ว ยังต้องฝึกฝนตัวเองอย่างสม่ำเสมออีกด้วย โดยจะเห็นว่าผู้ประสบความสำเร็จและเป็นผู้ชนะมักจะมีสไตล์

ในการเล่นที่แตกต่างกัน ไม่มีสไตล์ไหนที่ชนะตลอดหรือแพ้ตลอด

ในการลงทุนก็เช่นเดียวกัน เราจะต้องพยายามหาสไตล์การเล่นที่เหมาะกับตัวเรา และมีความเชื่อมั่นว่าจะทำให้เราชนะ ในเกมการลงทุน และค่อยๆ พัฒนาจนมีสไตล์ของตนเองที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร ใครจะรู้ สไตล์การลงทุนของ

ตัวคุณเองอาจจะประสบความสำเร็จอย่างสูงในอนาคตก็ได้

คุณทราบหรือไม่ว่า... ผู้ลงทุนระดับ “ปรมาจารย์” ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง มีคุณสมบัติที่เหมือนๆ กันอยู่

8 ประการด้วยกัน คือ Inv_KnowYourself_meun6_07.jpg Inv_KnowYourself_meun6_08.jpg ผู้ประสบความสำเร็จในการลงทุนมักมีความกระตือรือร้น สนใจเรื่องราวต่างๆ รอบตัว นอกจากข้อมูลซึ่ง

เกี่ยวข้องกับการลงทุนโดยตรงแล้ว พวกเขายังให้ความสนใจกับสิ่งอื่นๆ ด้วย นั่นเป็นเพราะโลกในปัจจุบัน

มีความเชื่อมโยงกันสูงมาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในซีกโลกหนึ่ง อาจส่งผลกระทบต่อประเทศที่อยู่ในอีก

ซีกโลกหนึ่ง เช่น กรณีวิกฤต “ต้มยำกุ้ง” ที่เกิดกับประเทศไทย ปี 2540 นั้นได้ส่งผลสะเทือนต่อระบบ

การเงินไปทั่วโลก เป็นต้น

Inv_KnowYourself_meun6_11.jpg Inv_KnowYourself_meun6_12.jpg Inv_KnowYourself_meun6_13.jpg ผู้ลงทุนที่ดีควรจะสวมวิญญาณนักสืบ เป็นคนที่ช่างสังเกต ใส่ใจในรายละเอียด รวมทั้งต้องจดจำข้อมูล

ที่สำคัญๆ ของหุ้นต่างๆ ได้ ยิ่งคุณจำรายละเอียดได้มากเท่าใด คุณจะยิ่งมีความสามารถในการวิเคราะห์

แยกแยะ รวมทั้งประเมินผลกระทบภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วกว่าคนอื่น กล่าวกันว่า

Warren Buffett นั้น เป็นคนช่างสังเกตและสามารถจดจำรายละเอียดของข้อมูลต่างๆ ของบริษัทที่เขาไป

ลงทุนได้มากมายอย่างน่าทึ่ง ราวกับว่าตัวเขาเป็นเหมือน “สารานุกรมเคลื่อนที่” ทีเดียว Inv_KnowYourself_meun6_16.jpg Inv_KnowYourself_meun6_17.jpg Inv_KnowYourself_meun6_18.jpg ผู้ลงทุนที่จะประสบความสำเร็จจะต้องมีความคิดที่เป็นอิสระ และไม่ยอมให้ความคิดของตัวเองถูกครอบงำ

โดยกระแสของคนส่วนใหญ่ เพราะว่าความผิดพลาดเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกลายเป็นพฤติกรรม

ที่สามารถคาดคะเนได้ล่วงหน้า Inv_KnowYourself_meun6_21.jpg Inv_KnowYourself_meun6_22.jpg Inv_KnowYourself_meun6_23.jpg ผู้ลงทุนที่ดีจะต้องมีความอดทนในการรอคอย เพราะโอกาสดีๆ หรือความคิดดีๆ สำหรับการลงทุนที่ให้

ผลตอบแทนสูงๆ นั้นไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน เช่น Warren Buffett ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีวินัยในการลงทุนสูงมาก

เขาเคยบอกว่าเคล็ด (ไม่) ลับของความสำเร็จในการลงทุนของเขาก็คือต้องรู้จักอดทนอดกลั้น รอคอย

โอกาส ไม่ตัดสินใจตามกระแส และเมื่อโอกาสนั้นมาถึงต้อง “หวดให้สุดแรง” เพราะโอกาสดีๆ ที่จะ

ผ่านเข้ามาในชีวิตของคนเรานั้น มีไม่บ่อยครั้งนัก Inv_KnowYourself_meun6_26.jpg Inv_KnowYourself_meun6_27.jpg Inv_KnowYourself_meun6_28.jpg

โดยปกติ “ความลึก” จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคนเรามีสมาธิ ซึ่งจะทำให้เราสามารถเพ่งความคิดให้แน่วแน่อยู่ที่

สิ่งใดสิ่งหนึ่ง (Focus) และสามารถคิดได้อย่างมีอิสระ ตัวอย่างเช่น George Soros จะไม่ยอมให้ใครเข้ามา

รบกวนเวลาที่เขาทำการซื้อขายอยู่ แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงเพราะมีข่าวใหญ่บางอย่างเข้ามา

กระทบ เขาก็ยังไม่ยอมให้ใครคนไหนเข้าพบเพื่อมาสรุปข้อมูลและวิเคราะห์ผลกระทบให้ฟัง จนกว่าเขาจะได้

“จัดการ” กับการลงทุนของเขาให้เรียบร้อยเสียก่อน Inv_KnowYourself_meun6_31.jpg Inv_KnowYourself_meun6_32.jpg Inv_KnowYourself_meun6_33.jpg ในการลงทุน ผู้ลงทุนที่ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องเห็นภาพรวมของสิ่งต่างๆ เช่น สภาวะเศรษฐกิจ

ส่วนรวมของไทย เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจต่างๆ รวมถึง

ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่สำคัญต่างๆ เช่น อัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน ราคาน้ำมัน มิฉะนั้นเขาจะ

ไม่สามารถคว้าโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ หรือไม่สามารถจัดการกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นเพื่อลดทอน

ความเสียหายได้ Inv_KnowYourself_meun6_36.jpg Inv_KnowYourself_meun6_37.jpg Inv_KnowYourself_meun6_38.jpg ผู้ลงทุนระดับปรมาจารย์ทุกคน “รัก” อาชีพการลงทุน พวกเขามีความสุขกับการได้ทำในสิ่งที่ทำ มากกว่า

จะคิดเรื่องของผลตอบแทนที่ได้ Warren Buffett เคยพูดว่าตัวเขาเองว่า... Enjoy the process rather

than the proceeds… รู้สึกสนุกกับการทำให้ “ได้ผล” มากกว่าจะคำนึงถึง “ผลได้” Inv_KnowYourself_meun6_41.jpg Inv_KnowYourself_meun6_42.jpg Inv_KnowYourself_meun6_43.jpg ผู้ลงทุนที่ประสบกับความสำเร็จในการลงทุนนั้น ต้องเปิดใจพร้อมที่จะยอมรับข้อมูลใหม่ๆ และโลกทัศน์ที่

เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ต้องกล้าที่จะยอมรับความจริง ถ้าหากพบว่ามีการตัดสินใจผิดพลาดก็ต้องยอม

“ตัดขาดทุน” (Cut Losses) เสียแต่เนิ่นๆ แต่เมื่อตัดสินใจถูกต้องแล้ว ก็ต้องรู้จักปล่อยให้

“กำไรเพิ่มพูน” (Run Profits) ด้วยการไม่รีบขายหุ้นนั้นทิ้งไปด้วย Inv_KnowYourself_meun6_41.jpg ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติที่ผู้ลงทุนที่ประสบความสำเร็จมีอยู่คล้ายกัน หากคุณเป็นผู้หนึ่งที่สนใจในการลงทุนเพื่ออิสรภาพ

ทางการเงินในอนาคต ก็ลองนำคุณสมบัติเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้กับการลงทุนของตนเองดู

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Inv_KnowYourself_meun7_03.jpg

ก่อนที่คุณจะลงทุนในหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ไม่ว่าประเภทไหนก็ตาม

คุณจำเป็นต้องรู้ถึงสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในการลงทุนเสียก่อน

Inv_KnowYourself_meun7_07.jpgInv_KnowYourself_meun7_08.jpg

Inv_KnowYourself_meun7_14.jpg ควรลงทุนอย่างมีความรู้

 

เพราะความไม่รู้คือความเสี่ยง ความรู้จึงเป็นพื้นฐาน

สำคัญในการลงทุน

 

Inv_KnowYourself_meun7_14.jpg ควรพิจารณา Return และ Risk คู่กันเสมอ

 

เพราะผลตอบแทนและความเสี่ยงจะเกิดขึ้น

คู่กันเสมอ ดังคำกล่าวที่ว่า High Return

(always come with) High Risk การวิเคราะห์

ผลตอบแทนเพียงด้านเดียวโดยไม่สนใจความเสี่ยง

จะทำให้เข้าใจผิด หลงไปกับผลตอบแทนสูง

ที่ดูน่าลงทุน

Inv_KnowYourself_meun7_14.jpg ควรกระจายการลงทุน (Diversification)

อย่างเหมาะสม

 

การกระจายการลงทุนไปในหลักทรัพย์

หลายประเภทและหลายรายการ ยังคงเป็นวิธีที่

ช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างดีในระดับหนึ่ง เพราะจะ

ลดความเสี่ยงเฉพาะตัวของแต่ละหลักทรัพย์ลงได้

Inv_KnowYourself_meun7_14.jpg ควรจัดองค์ประกอบของหลักทรัพย์ที่ลงทุน

(Portfolio) หรือพอร์ตให้เหมาะกับตนเอง

ทั้งด้านการเงิน ไลฟ์สไตล์ แผนการในอนาคต

การวิเคราะห์และทำความเข้าใจตนเองอย่าง

รอบด้านเพื่อจัดพอร์ตการลงทุนของตนเองเป็น

เรื่องที่สำคัญ ไม่ควรลงทุนตามคนอื่น เพราะ

แต่ละคนมีลักษณะเฉพาะตัวและมีความต้องการ

แตกต่างกัน

 

 

 

 

 

Inv_KnowYourself_meun7_14.jpg ควรตัดสินใจลงทุนอย่างสมดุล

 

ไม่โลภและไม่ประมาทเกินไป ขณะเดียวกันก็ไม่กลัว

จนเกินไป ความโลภและความประมาทมักทำให้เรา

เสี่ยงมากเกินไป ในขณะที่การกลัวไม่ยอมลงทุน

ก็อาจทำให้ไม่ได้ผลตอบแทนเพียงพอตามที่ควรจะได้ Inv_KnowYourself_meun7_17.jpg Inv_KnowYourself_meun7_18.jpgInv_KnowYourself_meun7_19.jpg

Inv_KnowYourself_meun7_25.jpg อย่าลงทุนตามข่าว ตามกระแส

การลงทุนจะต้องวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้าน

ไม่ควรเชื่อตามข่าวลือ แล้วลงทุนตามๆ ไป

 

Inv_KnowYourself_meun7_25.jpg อย่าตื่นตูมตกใจไปตามความผันผวนในระยะสั้น

 

แต่ควรตัดสินใจลงทุนตามพื้นฐานที่แท้จริงของ

หลักทรัพย์และภาวะเศรษฐกิจ

 

Inv_KnowYourself_meun7_25.jpg อย่ายึดติดกับอดีต

 

การลงทุนเป็นการคาดการณ์ในอนาคตโดยอาศัย

ข้อมูลจากอดีตและปัจจุบัน ไม่ใช่การลงทุนตามอดีต

เพราะสภาวะแวดล้อมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

เราจึงไม่ควรยึดติดกับผลตอบแทนที่ดีหรือไม่ดี

ในอดีต เพราะสิ่งที่เคยเกิดขึ้น อาจจะไม่เกิดซ้ำอีก

 

 

 

Inv_KnowYourself_meun7_28.jpg

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ชุดที่ 1 ตอน 11/12

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ชุดที่ 1 ตอน 12/12

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

47639_553500391326669_1059753813_n.jpg

Coach Siriluck Tansiri

 

แต่ละคนมีจุดอ่อนในตัวเองที่แตกต่างกัน

บางคนติดวัตถุนิยม ต้องสวยหล่อดูดี ใช้ของแพงๆ

บางคนอารมณ์ร้อน หงุดหงิดง่าย

บางคนเจ้าคิดเจ้าแค้น ให้อภัยยาก

บางคนขี้เกียจ ไม่อยากทำอะไรเลย

บางคนยึดติดในความคิดตัวเอง มีอีโก้สูง

ไม่ว่าจุดอ่อนของเราจะเป็นอะไร

เราต้องหมั่นสำรวจ ขัดเกลา และเอาชนะจุดอ่อนนั้น!!

- โค้ชสิริลักษณ์ ตันศิริ -

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ikiduser-offline.png

S2M Silver Member

icon6.gif วิเคราะห์ ธุรกิจ MK สุกี้

 

 

MK Suki เป็นธุรกิจที่มีแนวคิดน่าสนใจมากๆเลย นอกจากเขาจะเก่งการตลาดที่รุกคืบไปไกลถึงญี่ปุ่นแล้วยังสามารถต่อยอดพัฒนาแนวทางการจัดทำนวัตกรรมอย่างมีรูปแบบภายใต้ปรัชญาการดำเนินธุรกิจของเขาได้ดีอีกด้วย ถ้าให้เทียบ Brand ร้านอาหารยี่ห้อนี้ มองได้เลยว่าเขามีตลาดเป็นของตัวเองที่แข็งมาก แม้แต่หลายๆร้านที่ขายสุกี้เช่นกันก็ยังมีความต่างในการ Positioning ที่ไม่ทับกัน

 

ก็กลับมาที่คำว่านวัตกรรมอีกแล้ว มันไม่ใช่แค่การคิดประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆเท่านั้น ตราบใดที่สร้างนวัตกรรมขึ้นมาแต่ไม่ได้มีผลที่เกิดขึ้น ไม่ได้สร้างองค์ความรู้ใหม่ๆในเชิงการศึกษา ไม่ได้สร้างเชิงผลผลิต การลดต้นทุน การเพิ่มผลกำไร ก็คงไม่ถือว่าเป็นนวัตกรรม มันไม่จำเป็นต้องออกมาเป็นชิ้นงานใหม่ๆ แต่อาจจะเป็นการปรับมุมมอง การสร้างกระบวนการให้ดีขึ้นก็ได้

 

 

ทีนี้ MK Restaurant นั้นมีอะไรที่เป็นนวัตกรรมบ้าง? แต่ก่อนที่เขาจะมีนวัตกรรมแล้วปรัชญาที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นแนวทาง อาจจะค้นหาและทราบกันได้โดยทั่วไปจากแหล่งความรู้อื่นๆว่า MK เจาะเรื่อง QCQS (ความรวดเร็ว, ความสะอาด, คุณภาพ, บริการ) ซึ่งพอเรื่องเหล่านี้การเป็นแนวทางที่จะนำมาสู่การปฏิบัิติขึ้นมาเราเลยจะเห็นได้ว่า สิ่งต่างๆมันเลยออกมาในรูปแบบใหม่ๆให้กับร้านอาหารแห่งนี้ ซึ่งถ้าจะกล่าวตามที่สังเกตแล้วคงต้องแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

 

1. Customer Service – การให้บริการลูกค้า

2. Restaurant Management – การจัดการร้านอาหาร

3. Supply Chain Management – การจัดการเรื่องวัตถุดิบ

 

Customer Service นั้นเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อลูกค้าเข้ามาในร้านเลย เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องจะเห็นในการบริการโดยที่ลูกค้าไม่ได้รู้ตัว อย่างเช่นการ Order นั้นจะมี PDA ที่พนักงานแต่ละคนถือไว้อยู่จะคอยรับคำสั่งไปยังครัวเพื่อจัดคิวว่าลูกค้าจัดอะไรบ้าง ซึ่งมันลด Process ได้มากกว่าการที่เราจดไว้ในกระดาษแล้วก็วิ่งไปวิ่งมา กว่าจะเสร็จมันก็เสียเวลาไปหลายนาที บางครั้งหากเกิดความผิดพลาดจดผิดจดถูกอาจจะทำให้เสียเวลาและความประทับใจต่างๆขึ้นมาอีก

 

ต่อมาเห็นว่าเขาจะเอาหุ่นยนต์มาต้นรับพร้อมเสริฟพนักงานด้วยแล้ว ถ้ามันทำแล้ว Effective ก็คงจะเป็นกรณีศึกษาที่ยิ่งใหญ่มากแล้วก็อาจจะกลายเป็นนิมิตใหม่ที่ทางบริษัทนี้จะเป็นผู้นำล่องในการสนับสนุน พัฒนา วิจัยให้กับสังคมมากยิ่งขึ้นไปอีก ต่อไปเด็กๆไทยที่เก่งด้านเทคโนโลยีก็มาทำงานกับเขา พัฒนากับเขาไม่ต้องไปทำงานเมืองนอกได้

 

 

เรื่องการนำ “การเต้น” มาใช้นี่ แรกๆมองว่าแปลก MK เป็นผู้เริ่มการเอาวิธีการเต้นเพื่อบันเทิงลูกค้ามาใช้ ซึ่งในแง่มุมการตลาดยอมรับว่าทำให้คนตื่นตาตื่นใจแล้วมันกลายเป็นวัฒนธรรมในองค์กรไป แต่ัมันไม่ใช่แค่นั้นนะซิเพราะมีหลายๆองค์กรอย่างห้าง Discount Store ก็นำ Model นี้ไปใช้ แต่มองในมุมของการบริหาร Human Development การทำกิจกรรมเข้าจังหว่ะพวกนี้จะทำให้พนักงานตื่นตัวได้พร้อมๆกับการสร้างสื่อการตลาดให้ลูกค้าไปพร้อมๆกัน ตรงนี้มีการต่อยอดไปร่วมมือกับบริษัทเกมส์ออนไลน์ที่เต้นๆอีกต่างหาก อย่างน้อยก็ในเชิงการทำตลาดร่วมกัน

 

Restaurant Management ตรงนี้สำคัญมากจริงๆ ร้านอาหารอย่าง MK นั้นสำคัญตรงไหนต่อลูกค้า บอกได้เลยว่า โต๊ะ และ อุปกรณ์ ถ้าเกิดร้านสุกี้ทั่วๆไปก็คงจะมานั่งต้มปิ้ง สั่งอะไรมาเต็มโต๊ะไปหมดแล้วก็หาที่วางกันยากมากมาย ตรงนี้ปรัชญาของเขาตีมาเป็น Action ได้อย่างยอดเยี่ยม กล่าวคือ หม้อต้องต้มได้เร็วและของต้องวางให้ได้พื้นที่ที่มีประสิทธิภาพที่สุด

 

ลองดูหม้อ MK จะเห็นได้ว่าเขาพัฒนากว่ารุ่นเดิมๆ ใช้เวลาต้มน้อยลง (แต่ไม่แน่ใจว่าน้ำซุปเขาต้มมาก่อนแล้วด้วยไหม) ต้มแป็ปๆก็กินได้แล้ว ตรงนี้มันทำให้ของลงหม้อเร็วทำให้งานใช้เวลาในการนั่งของลูกค้าน้อยลง และของมัน Flow เร็วขึ้นได้ บางคนอาจจะบอกว่าลูกค้าก็นั่งลงเท่าเดิม แต่ลึกๆแล้วอะไรที่ได้เร็วมาเร็วนั้นมันก็ยังได้ในเชิงความประทับใจเบื้องต้น

 

เรื่องของโต๊ะที่ต้องวางให้ได้พื้นที่มากขึ้น หลายปีที่ผ่านมาเวลาไปทาน MK นั้นจะเห็นเขาใส่จานๆมา ถ้าจานกลมๆมันจะกินที่กันต่อมาเขาก็เปลี่ยนเป็นแบบเปลี่ยมๆตั้งๆกันไว้ จนมาถึงตอนนี้พวกที่ยังต้องใช้จานกลมๆเขาก็ออกแบบเป็นลักษณะ Condo ซะเลย ตั้งขึ้นไปในมุมสูงแถมยังมี Space สำรองให้เป็นเก้าอี้เล็กๆ ตรงนี้มองว่ามันสำคัญมากๆเพราะการที่อาหารมันส่งไปวางไม่ได้มันจะทำให้เกิด Process ที่เป็นคอขวดและจะเสียเวลาทั้งพนักงานและลูกค้า การมีระบบต้มเร็ววางเยอะมันก็ทำให้ Flow ในการทานดีขึ้นเป็นลำดับ ตรงนี้มันก็เลยเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ

 

 

 

การเช็ดโต๊ะนี่ก็เช่นกัน เช็ดยังไงให้สะอาด นี่เขาก็มีวิธีการและเครื่องมือเหมือนกัน ตรงนี้เป็น Knowledge ที่เขาก็ใช้สอนพนักงานเช่นเดียวกันว่าจะต้องเช็ดอย่างไรให้สะอาด ถ้าไปเป็นร้านข้าวในร้านค้าทั่วไปเขาก็เอาน้ำชุบ ถู เป็นวงๆ แต่ลองสังเกตที่ MK นะ เขาจะมีวิธีการทำของเขาให้ได้ประสิทธิภาพและประหยัดทรัพยากรเขาด้วย

 

Supply Chain Management เรื่องนี้อาจจะเป็นสิ่งที่เราไม่ค่อยได้สังเกตเพราะมันอยู่ในครัวเป็นส่วนใหญ่ หลักการของเรื่องนี้เป็นหัวใจหนึ่งเช่นกัน MK ใช้หลักการเดียวกับร้านสุกี้อย่าง Shabushi ที่ใช้ครัวกลางในการกระจายสินค้าไปยังสาขา ระบบ Logistic ของร้านอาหารนั้นถ้าไม่ดีจะทำให้ขาดทุนได้ง่ายๆเพราะของบางอย่างมันอยู่ได้ไม่กี่วัน การจัดระบบ FIFO และการออกแบบให้สินค้ามันไหลไปได้นั้นควบคุุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ทั้งร้านแล้วก็ไป Link กับพวก PDA เพื่อเอามาให้เรากิน

 

แต่ถ้าเรื่องที่จะสังเกตง่ายๆบนโต๊ะเรา ลองดูที่น้ำมะนาวซิ เมื่อก่อนจะเป็นมะนาวแบ่งครึ่งลูกให้บีบเอง ตอนนี้ไม่ใช่แล้วเขาทำเป็นขวดๆ ระบบการคิดเพื่อทำ Supply ตรงนี้เขาคงคำนวณมาแล้วว่าหากเราหั่นครึ่งให้ลูกค้า บางคนใช้มะนาวบางคนไม่ใช้ บางคนบีบนิด บางคนบีบมาก บางคนขอเพิ่ม มันจะมีทั้งส่วนเกินและส่วนขาดและ้ต้นทุนในเรื่องนี้มันจะประเมิณได้ยาก เขาก็เลยเอามารวมกันใส่ขวดซะเลย ใครใส่มากก็หยดใส่ไปใครไ่ม่กินก็ไม่ต้องใช้ เล็กๆน้อยๆแบบนี้ก็ทำให้เขาประหยัดต้นทุนได้อย่างมหาศาลแล้ว

 

จริงๆเรื่องราวของ MK Innovation ยังมีอีกมากมาย อาจจะต้องศึกษากันต่อไปว่าเขาจะมีอะไรออกมาอีก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

425407_233752516716629_864768594_n.jpg

สมองมีไว้ให้เรียนรู้ ออกกำลังสมอง

โตแล้วจะได้กลิ้ง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

394278_260485907349876_135515632_n.jpg

บินได้หากใจพร้อม(แต่ต้องฉลาดพอ และมีสัญชาตญาณติดเครื่องนำทางไว้ถ้าไม่รู้)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

420012_233027233455824_619906803_n.jpg

วันเด็ก เด็กคิดเป็น ทำดี เด็กเจริญ พ่อแม่สบายใจ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...