ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ขอบคุณค่ะคุณSeam888และคุณส้มโอมือกับข่าวเศรษฐกิจค่ะ :D :D

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณส้มโอมือขยันหาอะไรมาให้อ่านทุกเช้าเลย .. ขอบคุณคับ +1

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณคุณเสม และคุณส้มโอมือ คร้า !031 !thk !uu !57

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากครับ

 

แม้แต่ผู้ที่ไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ อย่างหลวงพ่อจรัญฯ วัดอัมพวัน ก็ได้พูดถึงวิบากกรรมของอเมริกาไว้นานมากแล้วครับ

 

คัดประโยคน่าสนใจจากหนังสือ "วัฏจักรชีวิต"

ธรรมนิยายอิงประวัติหลวงพ่อจรัญฯ ตีพิมพ์ครั้งแรก 2545

 

...

"ผิดอย่างไร" ท่านพระครูอยากจะเห็นด้วยกับนายทหารผู้นี้ว่า Doctor ผู้นั้นต้องตกนรกเพราะความเห็นผิด

 

"เขาบอกว่าการที่พระองค์สอนเรื่องสันโดษ เป็นเหตุให้สังคมไทยไม่พัฒนา เพราะคนมัวแต่งอมืองอเท้า จึงไม่เจริญเหมือนอเมริกา เขาจบมาจากอเมริกา อะไรๆ ก็ต้องตามอย่างอเมริกาจนผมนึกหมั่นใส้"

 

"ในอนาคตประเทศที่จะต้องรับกรรมมากที่สุดก็คืออเมริกา เพราะเที่ยวก่อกรรมทําเวรให้กับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ตอนนี้กรรมยังไม่ให้ผล คนก็พากันชื่นชมนิยมยกย่อง อีกยี่สิบปีข้างหน้าอเมริกาจะต้องได้รับกรรม" ท่านพูดเพราะ "เห็น"

 

"แล้วหลวงพ่อเชื่อตามที่นาย Doctor พูดไหมครับว่า คําสอนเรื่องสันโดษของพระพุทธเจ้าทําให้สังคมไทยไม่พัฒนา"

 

"นั่นเป็นเพราะเขาเข้าใจคําว่า สันโดษ ไม่ถูกต้อง กล่าวโดยสรุปคือ พระพุทธเจ้าทรงสอนให้คนสันโดษทางวัตถุ แต่ไม่ให้สันโดษในกุศลธรรม สันโดษให้แปลเข้าใจง่ายว่า พอใจในสิ่งที่มี ยินดีในสิ่งที่ได้ เช่น โยมเงินเดือนหมื่นห้า โยมก็ต้องพอใจ แล้วก็ใช้สอยไปตามที่ได้ แต่ถ้าโยมเงินเดือนๆ ละหมื่นห้า แล้วใช้เดือนละห้าหมื่น โดยก็ต้องคอรับชั่น เพื่อจะหาเงินมาให้พอกับรายจ่าย เมื่อคอรับชั่น โยมก็บาป เพราะอย่างนี้ พระพุทธเจ้าจึงทรงสอนให้คนสันโดษในวัตถุ เพื่อป้องกันไม่ให้ทําบาป เช่น การคอรับชั่นหรือการฉ้อราษฎ์บังหลวง ซึ่งมักเกิดกับพวกข้าราชการที่ขาดธรรมะข้อสันโดษ ถ้าถือสันโดษในวัตถุ การคอรับชั่นหรือการฉ้อราษฎ์บังหลวงก็จะไม่มีในวงราชการ"

ถูกแก้ไข โดย milo

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ย่ออีกเก็บอีก ตามใบสั่งอาจารย์เสมครับ bd2b3eb0590b6ee098f26e3b71b7733a.jpg

เพราะผมเชื่อว่าอนาคตทองไม่มีวันตายครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สำหรับผม GFV10มอบตัวไปแล้วเมื่อเช้าครับ มอบตัวไปพร้อมน้ำตา ฮือ ฮือ

 

:( :mad: :angry: ;) :wacko:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แฉโพยหุ้นกลุ่มได้-เสีย "บาทแข็งค่า" ธุรกิจนำเข้ารุ่ง-ส่งออกร่วง

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กันยายน 2553 17:03 น.

 

 

 

 

 

 

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

 

 

 

 

 

เปิดโพยแฉหุ้นกลุ่มได้-เสีย จากกรณีบาทแข็งค่า โดยกลุ่มที่ได้ประโยชน์ คือ กลุ่มนำเข้าวัตุถดิบและเครื่องจักรจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอสังหาฯ เหล็ก ยานยนต์ และขนส่ง ส่วนกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ คือ ธุรกิจส่งออก โดยเฉพาะจำพวกสินค้าการเกษตร

 

บริษัทหลักทรัพย์พัฒนสินระบุว่า นับตั้งแต่สิ้นปี 2552 จนถึงส.ค. 2553 ค่าเงินบาทแข็งค่าแล้ว 6.18% ซึ่งเป็นอันดับ 3 รองจากญี่ปุ่นและมาเลเชียและบทสมมุติฐานว่าหากค่าเงินบาทแข็งค่ามายืนที่ 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)ในปี 2554 ขยายตัวลดลงเหลือ 3.9% จากเดิมขยายตัว 4.8%

 

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากเพราะเงินบาทที่แข็งค่าทุกๆ1% จะทำให้การส่งออกลดลง โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตรจะลดลง 0.54% หมวดที่ได้รับผลกระทบรองลงมา คือ สินค้าอุตสาหกรรมประเภท รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าจะลดลง 0.46 %

 

ส่วนกลุ่มที่จะได้รับผลดีจากบาทแข็งค่าคือ กลุ่มที่นำเข้าวัตถุดิบ เครื่องจักรจากต่างประเทศและมีรายได้หลักในประเทศรวมถึงกลุ่มที่มีหนี้ต่างประเทศ ดังนั้น จึงแนะนำ 1. กลุ่มรับเหมาฯ และอสังหา เช่น อิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์( ITD ) ชิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC)ช.การช่าง( CK) บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น (TTCL ) แอลพีเอ็นดีเวลล็อปเมนต์(LPN) พฤกษาเรียลเอสเตท( PS)เอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้( AP) เนื่อง จากต้นทุนเหล็กก่อสร้างและเครื่องจักรก่อสร้างนำเข้าที่น่าจะลดลง รวมถึงต้นทุนในการขนส่ง ค่าเงินบาทที่แข็งค่าจะช่วยสนับสนุนให้ราคาน้ำมัน และราคาวัตถุดิบถูกลง (มาร์จิ้นดีขึ้น)

 

2.กลุ่มเหล็ก ทาทาสตีล(ประเทศไทย)( TSTH) และสหวิริยาสตีล( SSI) ได้ประโยชน์จากต้นทุนวัตถุดิบที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์

 

3.กลุ่มยานยนต์ สมบูรณ์แอดวานซ์(SAT ) ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า (STANLY )อาปิโก ไฮเทค ( AH) เนื่องจากต้นทุนชิ้นส่วน และเครื่องจักรนำเข้าเป็นสกุลดอลลาร์ส่วนใหญ่ แต่ระยะยาวอาจจะมีผลกระทบหากค่าเงินบาทแข็งค่ามากเกินคาดเนื่องจาก อาจถูกแรงกดดันด้านมาร์จิ้นจาก Supplier ที่เป็นผู้ประกอบชิ้นส่วน (Assembly) ส่งออก

 

4.กลุ่มขนส่ง (ที่มีหนี้ต่างประเทศ) คาด การบินไทย( THAI) อาร์ซีแอล( RCL) ได้ประโยชน์จาก FX gain เพราะสัดส่วนสกุลเงิน EUR และ USD สูง แต่ ท่าอากาศยาน(AOT) (ผลกระทบยังไม่ชัดเจนยังต้องรอปิดงวด) ปัจจุบันน่าจะมี FX loss จากมีเงินกู้เยนสูง และ ค่าเงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบบาทในปัจจุบัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดไม่ผวากฎบาเซิล 3 โล่งใจ กรอบเวลาไม่โหด

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กันยายน 2553 22:18 น.

 

 

 

 

 

เอเจนซี/เอเอฟพี - บรรดาผู้คุมกฎการกำกับดูแลธนาคารทั่วโลก ตกลงเห็นพ้องกันเมื่อวันอาทิตย์(12) ในเรื่องข้อกำหนด “บาเซิล 3” ที่จะบังคับให้แบงก์พาณิชย์ทั้งหลายตัองเพิ่มสำรองเงินทุนชั้นคุณภาพสูงสุดของตนขึ้นมากว่า 3 เท่าตัว ทั้งนี้ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตสินเชื่อระหว่างประเทศซ้ำรอยขึ้นมาอีก อย่างไรก็ดี ปรากฏว่าเนื่องจากกฎระเบียบใหม่นี้มีการผ่อนปรนเรื่องกำหนดระยะเวลา กระทั่งบางส่วนนั้นกว่าจะบังคับใช้ก็ไปถึงตอนเริ่มต้นปี 2019 ด้วยเหตุนี้พวกธนาคารทั้งหลายจึงไม่ได้วิตกผวาอะไร และหุ้นแบงก์พากันไต่สูงขึ้นทั่วโลกด้วยซ้ำ

 

ข้อตกลงบาเซิล 3 อันเป็นกฎระเบียบใหม่ด้านทุนสำรองของแบงก์พาณิชย์ดังกล่าวนี้ เพิ่งเป็นที่สรุปกันในที่ประชุมผู้กำกับดูแลภาคการธนาคารของโลกอันประกอบด้วยผู้ว่าการธนาคารกลางและผู้กำกับดูแลภาคการเงินในระดับสูงสุดของ 27 ประเทศ ซึ่งเสร็จสิ้นการประชุมที่เมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (12)

 

ตามกระบวนการแล้ว บรรดาผู้นำของประเทศกลุ่มจี 20 ยังจะต้องให้การรับรองข้อตกลงดังกล่าวในการประชุมที่มีกำหนดการในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้เสียก่อนด้วย แม้ในทางปฏิบัติแล้ว ที่ประชุมซัมมิตจี 20 น่าจะอนุมัติโดยไม่มีปัญหาอะไร

 

ในข้อบังคับใหม่ อันเป็นที่รู้จักในนามของอนุสัญญาบาเซิล 3 ภายในวันที่ 1 มกราคม 2015 บรรดาแบงก์พาณิชย์ทั้งปวงต้องมีทุนสำรองคุณภาพสูงรวมทั้งสิ้น 4.5% ของทรัพย์สินเสี่ยง เพิ่มขึ้นจากเกณฑ์ 2% ในปัจจุบัน นอกจากนั้น ภายในวันที่ 1 มกราคม 2019 ยังจะต้องมีทุนสำรองอีก 2.5% ที่เรียกว่า “capital conservation buffer” หรือกองทุนเพื่อป้องกันแรงกระทบ รวมแล้วเท่ากับธนาคารพาณิชย์ต้องมีทุนสำรองหลักในระดับ 7%

อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาของตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก ยังคงออกมาในทางบวก โดยราคาหุ้นแบงก์ของทางยุโรปดีดตัว 1.7% ในการซื้อขายภาคเช้าวันจันทร์ (13) ขณะที่ค่าเงินยูโรต่อดอลลาร์แข็งขึ้น 1.1%

 

ทั้งนี้ อันที่จริงแล้ว ข้อกำหนดเพื่อการกำกับดูแลกิจการด้านธนาคารของโลกชุดใหม่ดังกล่าว ยังถือว่าต่ำมาก เมื่อเทียบกับตัวเลขที่ผู้คนในวงการธนาคารเคยคาดคิดและหวั่นเกรงกันในช่วงก่อนหน้านี้

ในการนี้ แบงก์ในยุโรปส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะต้องเพิ่มทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกแบงก์ในเยอรมนี สเปน และหลายประเทศที่มีปัญหาอยู่ในระบบการเงินการธนาคาร

 

“จะต้องเพิ่มทุนกันหลายแสนล้านยูโรทีเดียว” กล่าวโดย เนาท์ เวลลิงก์ สมาชิกสภาผู้กำกับดูแลธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และประธานคณะกรรมการบาเซิลด้านการกำกับดูแลภาคการธนาคาร

 

“ในส่วนหนึ่ง พวกนี้จะต้องเก็บกำไรสะสมไว้เป็นหลายปี ซึ่งทำให้พวกแบงก์เหล่านี้จะไม่สามารถนำไปจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้น หรือเอาไปจ่ายโบนัสได้ แต่ในอีกส่วนหนึ่ง แต่ละแบงก์จะดำเนินการแตกต่าง กันไป และคงต้องไปดึงเอามาจากตลาดทุน” เวลลิงก์ ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดของธนาคารกลางแห่งเนเธอร์แลนด์ วิเคราะห์ไว้อย่างนั้น ขณะให้สัมภาษณ์แก่สถานีวิทยุ Dutch NOS Radio 1 เมื่อวันจันทร์(13)

 

นักวิเคราะห์ในตลาดการเงินชี้ว่า ตลาดรับรู้ข่าวนี้ในทางบวก เพราะถือว่าธนาคารยังไม่ถูกกำหนดให้ต้องปฏิบัติตามกฎการเพิ่มการดำรงเงินกองทุนคุณภาพสูงสุด (หรือกองทุนขั้นที่ 1 - Tier 1 capital) จนกว่าจะถึงปี 2015 แล้วส่วนที่เหลืออีก 2.5% ที่เรียกว่า “capital conservation buffer” ยังไม่ถูกบังคับจนกว่าจะปี 2019

ในการนี้ ดอยช์แบงก์ ธนาคารชั้นนำแห่งเยอรมนีเตรียมออกตัวแซงหน้าคู่แข่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีการประกาศแผนระดมทุนเพื่อเพิ่มทุนกันอย่างคึกคักเกือบ 10,000 ล้านยูโรทีเดียว ทั้งนี้ ดอยช์แบงก์บอกว่าจะทำให้ได้ตามมาตรฐานของกฎบาเซิล 3 ภายในปลายปี 2013

 

ด้านหุ้นของธนาคารในย่านเอเชียก็ปรับตัวสูงขึ้น แม้กระทั่งหุ้นแบงก์ของญี่ปุ่น ซึ่งมีระดับฐานทุนต่ำที่สุดในภูมิภาคนี้ โดยที่ว่ากลุ่มมิซูโฮ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ดีดขึ้นได้ 2% และมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ก็พุ่งขึ้นถึง 3%

 

“ไม่ใช่ความเปลี่ยนแปลงใหญ่โต ไม่ได้เป็นบิ๊กแบงอะไรสำหรับพวกแบงก์ครับ ในเมื่อมีการเผื่อเวลาให้เตรียมตัวได้ถึงห้าปี” เกร็ก เจมส์ นักวิเคราะห์ค่ายคอมมอนเวลธ์ ซีเคียวริตีส์ ให้ความเห็น

 

ด้านนักวิเคราะห์ค่ายแมคควอรี่ ประเมินว่า อันที่จริงแล้ว พวกธนาคารในญี่ปุ่นน่าจะมีสัดส่วนของทุนอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 6.3% เรียกว่าเพิ่มอีกนิดเดียวก็สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดเรื่อง 7% ได้แล้ว

“ผมไม่คิดว่าจะมีแบงก์ญี่ปุ่นรายใดต้องเดือดร้อนวิ่งเต้นเพิ่มทุนเพื่อการนี้ จึงน่าจะตัดปัญหาเรื่องการผนวกรวมกิจการรายการใหญ่ยักษ์ใดๆ” อิสมาเอล พิลี ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยการเงินตลาดเอเชียของค่ายแมคควอรี่ ประเมินไว้อย่างนั้น

 

สำหรับจีน นายธนาคารระดับสูงของประเทศรายหนึ่งให้ความเห็นว่า อาจจะต้องใช้เวลาอยู่บ้างกว่าที่จะไปถึงจุดนั้น

 

“คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งเลยครับ กว่าที่จะบังคับใช้กฎบาเซิล 3 ได้” เสี่ยว กัง ประธานธนาคารแบงก์ออฟไชน่า กล่าวกับรอยเตอร์ในระหว่างให้สัมภาษณ์ด้านนอกเวทีการประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ภาคฤดูร้อนที่นครเทียนจิน ประเทศจีน ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13-15 กันยายน

 

** มีทุนส่วนเกินอยู่แล้วกระมัง? **

ถ้าไม่นับธนาคารในญี่ปุ่นและจีน พวกธนาคารส่วนใหญ่ในประเทศอื่นๆ ของเอเชียส่วนใหญ่มีระดับทุนอยู่เหนือระดับขั้นต่ำของกฎบาเซิล 3 มากพอใช้ได้เลย

ในทำนองเดียวกัน พวกแบงก์ชั้นนำในทางสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ตลอดจนในภูมิภาคยุโรปเหนือกับกลุ่มเบเนลักซ์ อีกทั้งในอังกฤษ กับสวิตเซอร์แลนด์ ล้วนแต่มีระดับทุนอยู่เหนือระดับขั้นต่ำของกฎบาเซิล 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ดังนั้น เมื่อกฎบาเซิลมีความชัดเจนออกมาเช่นนี้ แบงก์เหล่านี้จึงสามารถกล้าหาญที่จะดึงดูดนักลงทุนด้วยการเพิ่งเงินปันผล

 

กระนั้นก็ตาม ยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องที่ว่า จะมีการเพิ่มมาตรการพิเศษมาบังคับใช้อีกหรือไม่

 

โดยที่ว่าคณะกรรมการว่าด้วยเสถียรภาพทางการเงิน หรือ Financial Stability Board มีกำหนดที่จะออกข้อแนะนำชุดหนึ่งภายในเดือนพฤศจิกายน เพื่อเป็นทางเลือก ซึ่งรวมถึงการกำหนดเก็บค่าเซอร์ชาร์จ เพื่อรับมือกับปัญหาเดิมๆ ว่าด้วยสถาบันการเงินที่ “ใหญ่โตเกินกว่าจะปล่อยให้ล้ม”

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...