การลงทุนด้วยระบบ

[gaichon 0]

ไม่เคยลืม คาถาที่คุณ Seam ให้ไว้ Stop loss /Stop loss/Stop loss/แค่นี้ปลอดภัยครับ

[moshi 9]

รบกวนถามคุณใหญ่ 1600$เงินบาทเหลือ25 จะมีกำไรรึป่าวค่ะ

 

ขออนุญาติตอบแทนนะครับ

สูตรคำนวณแปลงค่า gold spot เป็น ทองน้ำหนักบาทคือ

World Spot Gold x 15.244 x 0.965 x (อัตราแลกเปลี่ยน THB/USD) / 31.1035 x 0.995

(ง่ายๆ = GS x "THB/USD" x 0.4753)

 

ปัจจุบัน GS=1346 ราคา 19050

ถ้าGS1600 บาทเหลือ25 ราคาก็ประมาณ 19000 +-นิดหน่อยครับ

 

*แต่เหลือ25บาทไม่ง่ายครับ อย่างคุณส้มโอมือบอกไว้ก่อนหน้านี้

ถูกแก้ไข ตุลาคม 6, 2010 โดย moshi moshi

[moshi 9]

ลืมไปครับ..เครดิตซะหน่อย

ที่มาจาก goldhips.com นะครับ (เมื่อก่อนเฮียกัมพลก็เคยบอก แต่ผมลืม พอดีค้นเจอที่นี่)

http://www.goldhips.com/board/viewtopic.php?t=1140

[ส้มโอมือ 4,910]

ขออนุญาติตอบแทนนะครับ

สูตรคำนวณแปลงค่า gold spot เป็น ทองน้ำหนักบาทคือ

World Spot Gold x 15.244 x 0.965 x (อัตราแลกเปลี่ยน THB/USD) / 31.1035 x 0.995

(ง่ายๆ = GS x "THB/USD" x 0.4753)

 

ปัจจุบัน GS=1346 ราคา 19050

ถ้าGS1600 บาทเหลือ25 ราคาก็ประมาณ 19000 +-นิดหน่อยครับ

 

*แต่เหลือ25บาทไม่ง่ายครับ อย่างคุณส้มโอมือบอกไว้ก่อนหน้านี้

ใครที่กลัวค่าเงินบาทจะแข็งขึ้นแต่ยังอยากมีกำไรจากการขึ้นของราคาทองคำ ลองดูกองทุนทองคำของธนาคารกสิกรไทยครับ กองนี้มีประกันอัตราแลกเปลี่ยนไว้พอสมควรเลยครับ

[Yai Carmungwed 104]

รอบนี้ผมยิงยาว1600 ตามอาจารย์เสมชี้แนะครับ

 

อนาคตไม่มีใครรู้ ผมยังเชื่อว่าทองไม่มีวันตายครับ

[amornjoy 0]

คุณเสมไปงานสัมมนาใหญ่ของคุณลุงรึเปล่าคะ ถ้าไปจะได้เข้าไปทักทายคุณเสมบ้าง

[moshi 9]

ใครที่กลัวค่าเงินบาทจะแข็งขึ้นแต่ยังอยากมีกำไรจากการขึ้นของราคาทองคำ ลองดูกองทุนทองคำของธนาคารกสิกรไทยครับ กองนี้มีประกันอัตราแลกเปลี่ยนไว้พอสมควรเลยครับ

 

ขอบคุณครับคุณส้มโอมือ ..

ลองย้อนกลับไปคำนวณ K-Gold ที่ซื้อไว้ตอนช่วงมีนา ถึงตอนนี้ให้ผลตอบแทน 15%

ลองคำนวณเปรียบเทียบกับทองแท่งช่วงเวลาเดียวกัน ได้ผลตอบแทนแค่ 10% .. ครึ่งเท่าตัวเชียว

สายไปแล้วครับ เพิ่งหวดทองแท่งไม้สุดท้ายไปตอน 12XX หมดหน้าตักแล้ว ..รู้งี้...

 

*ผมคำนวณในช่วงเวลาของผมนะครับ แต่ละช่วงเวลาผลออกมาอาจไม่เหมือนกัน

อย่าเพิ่งเชื่อว่าผลตอบแทนดีเป็นครึ่งนึงเสมอไปนะครับ

[ปุณณ์ 639]

ขอบคุณครับคุณส้มโอมือ ..

ลองย้อนกลับไปคำนวณ K-Gold ที่ซื้อไว้ตอนช่วงมีนา ถึงตอนนี้ให้ผลตอบแทน 15%

ลองคำนวณเปรียบเทียบกับทองแท่งช่วงเวลาเดียวกัน ได้ผลตอบแทนแค่ 10% .. ครึ่งเท่าตัวเชียว

สายไปแล้วครับ เพิ่งหวดทองแท่งไม้สุดท้ายไปตอน 12XX หมดหน้าตักแล้ว ..รู้งี้...

 

*ผมคำนวณในช่วงเวลาของผมนะครับ แต่ละช่วงเวลาผลออกมาอาจไม่เหมือนกัน

อย่าเพิ่งเชื่อว่าผลตอบแทนดีเป็นครึ่งนึงเสมอไปนะครับ

 

คุณ moshi พี่ปุณณ์ยังไม่ได้ตอบเลย ธุระมาก แล้วคอมเสียอีก ตอนนี้ใช้คอมของลูกอยู่ ยังอยากได้ข้อมูลอยู่หรือเปล่าคะ

พี่ปุณณ์เก็บ K-Gold มาเรื่อยตั้งแต่ 29 ธค (ยอดนั้นได้ผลตอบแทน 17.5 ) ถึง 9เมย ราคาต่ำสุดเก็บที่ 1054 ได้ผลตอบแทน 23.7% ราคาสูงสุดที่ 1156 ได้ผลตอบแทน 13.8% เฉลี่ยทั้งกอง 18.2% (รวมปันผลที่หักภาษีแล้วเข้าไปด้วย)

[aenumac 24]

ขอบคุณค่ะคุณเสม คุณส้มโอมือ แล้วก็สวัสดีค่ะ คุณปุณณ์

[ส้มโอมือ 4,910]

‘สติกลิตซ์’ ชี้ ‘เฟด-อีซีบี’ พาศก.โลกพัง‘โซรอส’ โทษเยอรมนีทำยูโรโซนเงินฝืด

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 ตุลาคม 2553 22:27 น.

 

 

 

 

 

 

จอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินชาวอเมริกัน

 

 

เอเจนซี - ธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (เฟด) และธนาคารกลางแห่งยุโรป (อีซีบี) เป็นตัวการผลักให้โลกตกสู่ภาวะโกลาหล มากกว่าที่จะช่วยส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของโลก วาทะกล่าวโทษอย่างอุกอาจนี้เป็นข่าวไปทั่วโลก เมื่อออกมาจากคนดังอย่าง โจเซฟ สติกลิตซ์ นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของโลกที่มีรางวัลโนเบลเป็นเครื่องค้ำประกันบารมี โดยกูรูสติกลิตช์ไปกล่าวที่งานการประชุมของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (5)

 

 

นอกจากนั้น บนเวทีเดียวกัน คนดังแห่งวงการเศรษฐกิจการเงินโลก คือ จอร์จ โซรอส ก็กล่าวโทษโจมตีว่า เยอรมนีเป็นต้นเหตุของสภาวะเงินฝืดซ้ำซ้อนในระบบเศรษฐกิจยูโรโซน หลังจากที่เยอรมนีเดินมาตรการเข้มงวดด้านนโยบายการเงินการคลัง

 

สติกลิตซ์ชี้ว่ามาตรการของเฟดกับอีซีบี ในการทุ่มเทสภาพคล่องเข้าท่วมท้นระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรป ได้นำมาซึ่งภาวะไร้เสถียรภาพแก่ตลาดค้าเงินตรา พร้อมกับบีบให้ประเทศอย่างญี่ปุ่นกับบราซิลต้องออกโรงมาปกป้องภาคส่งออกของพวกตน

 

“ประเด็นที่น่าเย้ยหยันคือ เฟดพยายามสร้างสภาพคล่องด้วยความหวังว่า จะช่วยฟื้นระบบเศรษฐกิจอเมริกัน แต่มาตรการดังกล่าวมิได้เป็นประโยชน์ใดๆ ต่อระบบเศรษฐกิจอเมริกันเลย หนำซ้ำยังก่อให้เกิดความโกลาหลขึ้นในส่วนอื่นๆ ของโลกโดยทั่วกัน”

 

หลังจากที่สหรัฐฯ เดินมาตรการการเงินการคลังผ่อนผันสุดโต่งมาอย่างต่อเนื่อง ค่าเงินของดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อ่อนตัวลงอย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นับจากเมื่อต้นกันยายน ดอลลาร์อ่อนค่าหายไปราว 6.5% เมื่อเทียบกับตะกร้าเงินตราสกุลสำคัญทั้งหลาย เนื่องจากนักลงทุนสามารถดึงเม็ดเงินจากสหรัฐฯ ซึ่งมีต้นทุนต่ำจัดๆ ไปแสวงผลตอบแทนที่สูงกว่ามากๆ ในตลาดอื่นๆ นอกแผ่นดินสหรัฐฯ

 

แต่ผลกระทบที่กระเพื่อมไปถึงประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศตลาดเกิดใหม่อย่างบราซิล อีกทั้งประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างญี่ปุ่น นั้น นับเป็นอะไรที่ร้ายแรง เพราะค่าเงินของประเทศเหล่านี้ทะยานสูงขึ้นมหาศาล พร้อมกับบ่อนทำลายภาคส่งออกและบั่นทอนพลังการเติบโตทางเศรษฐกิจลงไปอย่างเห็นได้ชัด

 

ในการนี้ ประเทศต่างๆ ที่ได้รับความเดือดร้อน จึงพากันออกมาดำเนินการหลายอย่างเพื่อยับยั้งไม่ให้สกุลเงินของพวกตน เดินหน้าพุ่งทะยานสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้ สติกลิตซ์เรียกว่า “เป็นความจำเป็น”

 

“เป็นเรื่องธรรมชาติที่ชาติเหล่านี้จะบอกว่า - - เราไม่อาจอยู่เฉยๆ และปล่อยให้เงินของเราพุ่งสูงขึ้น และทำลายภาคส่งออกของเรา” สติกลิตซ์กล่าวอย่างนั้น

 

ในวันจันทร์ที่ผ่านมา บราซิลโต้ตอบด้วยการเพิ่มภาษีที่เรียกเก็บจากการลงทุนของต่างชาติในพันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่น โดยเพิ่มขึ้นมาหนึ่งเท่าตัว

 

ขณะที่ญี่ปุ่นลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานลงเป็นช่วงแค่ 0.0% - 0.1% พร้อมกับประกาศจะเข้าซื้อสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ในมูลค่าถึง 5 ล้านล้านเยน หรือราว 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรการละมายกับที่เฟดเองก็ใช้ในการแทรกแซงตลาดอยู่ในขณะนี้

 

กระนั้นก็ตาม สติกลิตซ์ย้ำว่าสหรัฐฯ กับยุโรปต้องแก้ปัญหาด้วยมาตรการเชิงการคลัง โดยชี้ว่าการกระตุ้นด้วยมาตรการทางการเงินเพิ่มเข้าไปอีก เห็นชัดว่าไม่ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้จากต้นตอที่ว่าอุปสงค์ของโลกโดยรวมทั้งขาดหายไป

 

** โซรอสเชียร์ใช้มาตรการการคลัง

กระตุ้นการลงทุนแทนการบริโภค **

ด้านจอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีพันล้านและพ่อมดแห่งแวดวงการลงทุน ใช้เวทีเดียวกันกับสติกลิตซ์ ในการกล่าวโทษว่าทางการเยอรมนีซึ่งเป็นหัวหอกในการเดินมาตรการเข้มงวดทางการเงินการคลัง ได้ทำให้เศรษฐกิจของยูโรโซนตกเข้าสู่วงจรแห่งภาวะเงินตึงตัว

 

พร้อมกันนั้น โซรอส ซึ่งถูกฝ่ายต่างๆ ในโลกระบุว่าเป็นตัวการโจมตีค่าเงินของหลายๆ ประเทศเพียงเพราะเห็นโอกาสในการทำรายได้จากการเก็งกำไรในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ได้ระบุว่าสหรัฐฯ และยูโรโซน ต้องนำมาตรการกระตุ้นทางการคลังเพิ่มเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ แทนที่จะใช้ไม้เรียวทางการคลังเข้าไปกระหน่ำซ้ำเติม โดยที่ว่าวิธีนี้เป็นทางเดียวที่จะเอาตัวรอดออกจากวิกฤตได้

 

“การลดระดับการขาดดุลโดยประเทศที่มีบทบาทเป็นเจ้าหนี้ของโลก อย่างเยอรมนี เป็นการดำเนินการที่ขัดแย้งกับบทเรียนที่โลกได้ประสบมาจากยุคเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกในทศวรรษ 1930 เพราะมันจะผลักให้ยุโรปหลุดเข้าไปสู่ยุคเศรษฐกิจชะงักงันยืดเยื้อ หรืออาจเป็นหายนะอื่นที่ย่ำแย่กว่านั้น” กล่าวโดยจอร์จ โซรอส คู่ชกไม้เบื่อไม้เมาของรัฐบาลหลายๆ ประเทศ

 

โซรอสชี้ด้วยว่า นอกจากที่เยอรมนีจะเดินหน้าจริงจังกับมาตรการเข้มงวดแล้ว ในคราวที่ชาติมหาอำนาจเศรษฐกิจไปพบปะกันในการประชุมกลุ่ม จี-20 ครั้งหลังสุด เยอรมนียังใช้อิทธิพลบีบให้ประเทศอื่นพลอยต้องดำเนินไปในทางเดียวกันนี้ด้วย

 

ดังปรากฏว่าสหรัฐฯ ได้ประกาศแล้วว่าจะหั่นการขาดดุลงบประมาณลงให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในปี 2013

“นี้อาจเป็นนโยบายที่ถูกต้อง แต่มันมาผิดเวลาครับ” โซรอสกล่าว

 

โซรอสย้ำว่าสหรัฐฯ ไม่ควรเดินหน้าลดภาษี แต่ควรนำเงินภาษีส่วนเกินจากการเก็บภาษีเพิ่ม ไปใส่ในมาตรการทางการคลัง ในอันที่จะกระตุ้นภาคการลงทุน มิใช่ภาคการบริโภค

[moshi 9]

คุณ moshi พี่ปุณณ์ยังไม่ได้ตอบเลย ธุระมาก แล้วคอมเสียอีก ตอนนี้ใช้คอมของลูกอยู่ ยังอยากได้ข้อมูลอยู่หรือเปล่าคะ

พี่ปุณณ์เก็บ K-Gold มาเรื่อยตั้งแต่ 29 ธค (ยอดนั้นได้ผลตอบแทน 17.5 ) ถึง 9เมย ราคาต่ำสุดเก็บที่ 1054 ได้ผลตอบแทน 23.7% ราคาสูงสุดที่ 1156 ได้ผลตอบแทน 13.8% เฉลี่ยทั้งกอง 18.2% (รวมปันผลที่หักภาษีแล้วเข้าไปด้วย)

 

ยังอยากได้อยู่ครับ.. แต่แล้วแต่พี่สะดวกนะครับ

ผมเห็นพี่เหมือนเล่นกองทุนเป็นหลัก ที่อยากรู้จริงๆคือแนวทางอ่ะคับ จะได้ปรับใช้กับตัวเอง

ตัวผมเองเก็บยาวเป็นเงินบำนาญตัวเอง เลยไม่ค่อยชอบกับการที่ K-Gold ปันผลบ่อยๆ

ต้องเสียภาษีไปกับเงินที่ตัวเองไม่อยากได้

 

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

[moshi 9]

ขอบคุณครับคุณส้มโอมือ..

[อันอัน 12]

ขอบคุณทุกข้อมูลค่ะ !thk !thk !thk

[Yai Carmungwed 104]

ผมยังเชื่อว่าทองไม่มีวันตาย ผมจะรอทอง1600เหรียญมาถึงขายครับ

[reeping 138]

อยากรู้เหมือนกันว่า ระหว่างซื้อ ทองแท่ง กับซื้อ กองทุน K-Gold อะไรจะให้ผลตอบแทนดีกว่า ใครมีข้อมูลแนะนำหน่อยนะคะ

ขอบคุณล่วงหน้าคะ !57 !01