การลงทุนด้วยระบบ

[moshi_moshi 0]

ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่พี่ปุณณ์ลองคิดดูนะคะ ที่เล่นถือสัญญากันปริมาณมหาศาลน่ะ มีทองคำอยู่จริงๆเท่าไร

การซื้อขายทั้งหมดที่กล่าวถึงกัน มีการหยิบยืมทองคำที่รับฝากไว้มาขายหากำไรกันบ้างหรือเปล่า

อนาคตอีกยาวไกล กับกองทุนที่ซื้อขายเป็น ทองกระดาษ กันเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเกิดวิกฤตจริงๆจะเหลืออะไรในมือคะ

 

ตอนนี้ที่ดูภาวะอะไรก็ดีหมด กลัวจะเป็นการหากำไรไปจ่ายหนี้มากกว่า ทั้งยุโรปทั้งอเมริกาเลย

 

คุณ wsukmaha น้องส้มโอมือคิดว่าอย่างไรคะ

 

การลงทุนมีความเสี่ยง (มากกว่าที่คิด) .. ขอบคุณ พี่ปุณณ์ คุณส้มโอมือ คุณเหมียวโจครับ ที่ให้แนวความคิดครับ

 

*พี่ปุณณ์ครับ ผมเคยซื้อกองทุนบัวแก้วเมื่อสิบกว่าปีก่อนเหมือนกัน จากset1000กว่าๆ เหลือไม่กี่ร้อย มูลค่าหายไปมากกว่าครึ่งจนต้องตัดใจขาย

[reeping 138]

!Hi สวัสดีตอนเช้าคะ ทุกๆท่าน การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง เสี่ยงน้อย เสี่ยงมาก พิจารณาตามเวลา และสถานการณ์ แม้แต่ฝากเงินกับแบงค์

ยังมีความเสี่ยงเลย อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ มูลค่าของเงินก็จะลดต่ำลงเรื่อยๆ เฮ้อ.... !034

[ปุณณ์ 639]

ไม่มีอะไรในโลกนี้จะจีรังยั่งยืนได้ 100% หรอกครับ

 

แม้แต่กองทุน hedge fund ขนาดใหญ่อายุร้อยปี อย่าง เลแมน บราเธอร์ ก็เจ๊งไปแล้ว

 

ลงทุนพันธบัตร ใครคิดว่าจะไม่มีความเสี่ยง ก็เลิกคิดได้ พันธบัตรกรีซหรือของกลุ่มประเทศ PIIGS อยากลงทุนมั้ย

 

หรือ จะฝากเงินทิ้งไว้กับแบงค์เฉยๆดอกต่ำๆ ก็คุ้มครองแค่ ล้านเดียว มีสิบล้านพันล้าน แบงค์เจ๊งให้แค่ล้านเดียว จะเอามั้ย

 

ถามไปมันไม่สิ้นสุดหรอกครับ ฟุ้งซ่านไปเปล่าๆ ทุกอย่างมีความเสี่ยงทั้งนั้นแหละครับ แม้แต่ทองคำ ราคามันก็ไม่มีนิ่ง มีขึ้นมีลง

 

 

เงินทองเป็นของนอกกาย หายไปก็หาใหม่

 

ไม่งั้นก็ปลูกผักเลี้ยงสัตว์กินเอง ไม่ต้องพึ่งพานอกระบบ จะได้ไม่ต้องคิดถึงระบบเงินตราแหละครับ

 

อืมมมม โอเคครับคุณเหมียวโจ งั้นผมก้อลงทุนต่อไปเรื่อยๆ ล่ะกัน พอมีตังเยอะขึ้น ก้ออาจจะลองไปดูเรื่องอสังหามั่ง ^^ ขอบคุณครับ

 

วันนี้ไม่วิแคะเหรอครับ (ผมก้อแอบอ่านกระทู้ของคุณเหมียวโจอยู่ประจำครับ ^^)

 

 

ก็ลงทุนไปเถิดค่ะ เพราะพี่ปุณณ์ก็ลงทุนเพราะเหตุผลนี้เหมือนกัน แต่อย่าเก็บทั้งหมดไว้ที่เดียวตลอด

พอได้กำไรเก็บออมได้พอก็ขยับขยายไปอย่างอื่นบ้าง

 

ที่เสนอความเห็นเพื่อเตือนว่า อย่าเชื่อใจตลาด กองทุนมากนัก ให้แบ่งๆลงทุนไว้หลายๆอย่าง

ที่สำคัญอย่าลืมสิ่งที่จะเปลี่ยนกลับมาเป็นเงินสดได้ดีและเร็วที่สุด เพราะชีวิตจำเป็นต้องกินต้องใช้ค่ะ

มีทรัพย์สินมากแต่ในภาวะวิกฤตจะไปขายใคร ใครจะซื้อ ทุกคนก็สงวนเงินทองไว้ใช้จ่ายเองทั้งนั้น

วิกฤตคราวที่แล้ว เคยเห็นหนูต้องช่วยราชสีห์ เพราะมีแต่ทรัพย์สินขายไม่ได้ขาดเงินสดใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

ถูกแก้ไข ตุลาคม 12, 2010 โดย ปุณณ์

[boom_b-b 6]

กระทู้ดีดีครับ

[ส้มโอมือ 4,910]

แบงก์มะกันปิดทำการหลายสาขา สอบสวนทุจริตจำนองทรัพย์ลูกค้า

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 ตุลาคม 2553 10:42 น.

 

 

 

 

 

สถาบันการเงินขนาดใหญ่หลายแห่งของสหรัฐฯ ต้องปิดทำการสาขาในหลายรัฐ ซึ่งถูกกล่าวหาว่า มีการทุจริตในการรับจำนองบ้าน ทั้งการปลอมแปลงเอกสาร และการใช้ข้อมูลเท็จ โดยขณะนี้แบงก์ออฟอเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้ประกาศระงับทำการไปแล้วใน 23 รัฐ ได้ขยายระงับทำการไปทั่วประเทศ เพื่อทำการตรวจสอบเอกสารการจำนองทรัพย์ของลูกค้าหลายแสนราย ซึ่งการระงับการทำการดังกล่าวในระยะสั้น จะส่งผลดีทั้งต่อเจ้าของบ้าน และตลาดที่อยู่อาศัย แต่คาดว่าในระยะยาวอาจจะส่งผลกระทบทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซาไปอีก 2-3 ปี

[moshi 9]

ขอบคุณครับคุณส้มโอมือ .. ปกติมีแต่ข่าวภาคเช้า วันนี้มีภาคคำ่ด้วย

[moshi 9]

อ๊ากกก .. คุณส้มโอมือครับ พอดีผมจะกด + เมาส์สะดุดเลยพลาดไปกดผิด ขอโทษอย่างแรงครับ (-/\-)

[อันอัน 12]

เค้ากดบวกให้แล้ว

[moshi 9]

ขอบคุณครับคุณ ar_cr ..... น่ารักที่สุดเลย

[jaijai&som 29]

ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่พี่ปุณณ์ลองคิดดูนะคะ ที่เล่นถือสัญญากันปริมาณมหาศาลน่ะ มีทองคำอยู่จริงๆเท่าไร

การซื้อขายทั้งหมดที่กล่าวถึงกัน มีการหยิบยืมทองคำที่รับฝากไว้มาขายหากำไรกันบ้างหรือเปล่า

อนาคตอีกยาวไกล กับกองทุนที่ซื้อขายเป็น ทองกระดาษ กันเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเกิดวิกฤตจริงๆจะเหลืออะไรในมือคะ

 

ตอนนี้ที่ดูภาวะอะไรก็ดีหมด กลัวจะเป็นการหากำไรไปจ่ายหนี้มากกว่า ทั้งยุโรปทั้งอเมริกาเลย

 

คุณ wsukmaha น้องส้มโอมือคิดว่าอย่างไรคะ

 

 

ผมเองก้อกำลังศึกษาเกี่ยวกับหารลงทุน และได้ศึกษามาแค่ปีกว่าๆ สิ่งที่ลงทุนมีเพียง หุ้น กองทุนและทอง (กองทุนทอง อย่างเดียวไม่มีทองคำแท่ง)

เพราะผมค่อยๆเก็บเอาเงินเดือนแต่ละเดือนมาลงทุน ซึ่งแต่ล่ะเดือนก้อเก็บได้น้องเลยต้องเริ่มกับสิ่งที่เริ่มจากเงินน้อยๆแต่ได้ผลใกล้เคียงกับการใช่เงินจำนวนมาก คือ หุ้นกับกองทุน

 

จากที่ศึกษาแล้วก้อ เห็นว่าทองเป็นสิ่งที่รักษาและควบคุมความผันผวนของพอร์การลงทุนได้และให้กำไรสูง เลยเลือกที่จะลงทุนใน กองทุน k-gold กองทุนทองกองอื่นๆ ก้อ เคยลองแล้วแต่ก้อมีข้อแตกต่างค่อนข้างมากเรื่องการประกันค่าเงิน (ผมลองเฉพาะกับกองทุนธนาคารเท่านั้นยังไม่กล้าจะลงกับบริษัทที่จัดตั้งกองทุน เช่น mfcfund (i-gold) หรือ assetfund (asp-gold) ซึ่งแต่ล่ะที่มีกองทุนทองที่ให้ผลตอบแทนที่ดีทีผ่านมา)ผมเคยเทียบกับ k-gold และ bgold ซื้อวันเดียวกัน แต่ช่วงนั้นค่าเงินเริ่มจะแข็งค่าแล้ว ผลที่ออกมาคือ k-gold ได้ผลตอบแทน มากกว่า bgold ถึง 4-5 เท่า ผมเลยลงกับ k-gold อย่างเดียว

 

จากที่สาธยายมาเยอะ ผมเองก้อลงทุนมาน้อยและเห็นว่า กสิกรเป็นแบงค์ใหญ่ที่ลงทุนในกองทุนใหญ่ระดับโลก(SPDR)เลยคิดว่าถึงจะอีก 20ปี หรือ 30ปี หรือ มากกว่านี้ กองทุนนี้ก้อคงไม่ล่ม แต่พอมาอ่านข้อความข้างบนผมเลยเริ่ม ไม่มั่นใจ 100% ว่ามันจะเป็นอย่างที่ผมคิดตอนแรกรึเปล่า... หรือผมควรที่จะลงในทองแท่งจะดีกว่า - -'' แต่ทองแท่งต้นทุนการลงทุนสำหรับผมตอนนี้มันค่อนข้างสูง.... และผมชอบความสะดวกสบายในการลงทุนผ่านกองทุน (ไม่ต้องเดินทาง)

 

แล้วอย่างพวก RMF เราจะไว้ใจได้จริงเหรอที่จะลงทุนระยาวขนาดนั้น... นึกแล้วก้อยังหาคำตอบไม่ได้ - -''

 

รบกวนพี่ๆแนะนำด้วยครับ !034 !034 !034 !10 !10

 

 

ตอบเกี่ยวกับRMFครับ ช่วงที่เราเริ่มเห็นว่าเสี่ยงแล้วเราสามารถสับเปลี่ยนไปกองอื่นได้ จากกองFIFมากองที่ลงทุนในประเทศก็ได้ หรือมายังกองRMFที่ลงทุนในพันธบัตรก็ได้ หรือสับเปลี่ยนRMFของบริษัทAไปเป็นRMFของบริษัทBก็ได้ครับ ทำเรื่องสับเปลี่ยนนะครับ อย่าทำเรื่องขายแล้วค่อยซื้อนะครับ เพิ่มเติมอีกนิดครับRMFถึง10ปีก็ขายได้แล้วครับ RMFกำหนดถือถึงอายุ55(น่าจะตัวเลขนี้)แต่กฎหมายสรรพพากรมีอายุแค่10ปี ถ้าส่วนที่เกิน10ปีไปแล้วแต่ผิดเงื่อนไขRMFสรรพากรก็เรียกเงินจากเราไม่ได้แล้ว ใครที่RMFครบ10ปีแล้ว ก่อนขายต้องลองสอบถามด้วยนะว่ากฎหมายสรรพากรยังครอบคลุม10ปีหรือเปล่า เกิดแก้กฎหมายครอบคลุมมากกว่า10ปียุ่งเลยแต่ไม่น่าจะแก้ แค่10ปีก็วุ่นพออยู่แล้ว

 

 

สวัสดีค่ะ

 

ปกติเข้ามาติดตามฟอร์รัมนี้ตลอด แต่ไม่เคยแสดงความคิดเห็น เนื่องจากความรู้ยังน้อย แต่เรื่องที่คุยกันเกี่ยวกับกองทุน RMF และกองทุนทองคำ พอมีความรู้บ้าง ขอแชร์นิดนึงนะคะ

 

กองทุน RMF ซื้อเพียง 10 ปี ไม่ได้นะคะ เพราะอายุความ 10 ปีนั้น ไม่ได้เริ่มนับตอนที่เราซื้อกองทุนค่ะ แต่เริ่มนับตอนที่เราขายกองทุน เพราะเป็นช่วงที่เราทำผิดตามกฎหมายประมวลรัษฎากร ซึ่งกรมสรรพากรสามารถเข้ามาประเมินภาษีและเรียกเบี้ยปรับเงินเพิ่มได้นะคะ ไม่แนะนำให้ขายค่ะ แต่ถ้าไม่อยากซื้อติดต่อกันมากหลาย ๆ ปี เราสามารถซื้อ ปี เว้น ปี ในอัตราขั้นต่ำของรายได้คือ 3% ไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท น่าจะเลือกแนวนี้มากกว่าค่ะ และไม่ควรซื้อเกิน 15% ไม่เกิน 500,000 บาท เพราะจะไม่ได้รับประโยชน์ในการหักภาษี แถมส่วนต่างกำไรที่ได้ยังต้องนำไปเสียภาษีอีกนะคะ (เฉพาะส่วนที่เกินค่ะ)

 

ส่วนกองทุนทองคำ ตอนนี้เท่าที่ทราบมา มีเพียง k gold แห่งเดียวที่ทำการ ป้องกันความเสี่ยงเรื่องค่าของเงิน ทำให้ เวลาเงินบาทแข็งหรืออ่อนอ จึงไม่เกิดผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนค่ะ

 

ส่วนดิฉัน ใช้บริการของบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็น broker ของกองทุนเกือบทุกแห่ง สามารถซื้อขายกองทุนได้ทุกประเภท กองทุนทั่วไปซื้อขายผ่าน internet ส่วน LTF RMF ต้องซื้อขายผ่านบริษัทโดยตรงได้ สะดวกในการโยกพอร์ต และจัดทำรายงานค่ะ ไม่ต้องมีบัญชีหลายเล่ม ใครสนใจรายละเอียดก็โทร.หรือเมล์มาคุยกันได้ค่ะ เพราะกลัวทำกระดานนี้รกค่ะ

 

ขอบคุณทุกคนที่กรุณาแชร์ความรู้ในฟอร์รัมนี้นะคะ น้ำใจเหลือหลายค่ะ

โทร. 086-377-4956, 083-255-1699 Email : jaijaiservice@hotmail.com

[ส้มโอมือ 4,910]

สวัสดีค่ะ

 

ปกติเข้ามาติดตามฟอร์รัมนี้ตลอด แต่ไม่เคยแสดงความคิดเห็น เนื่องจากความรู้ยังน้อย แต่เรื่องที่คุยกันเกี่ยวกับกองทุน RMF และกองทุนทองคำ พอมีความรู้บ้าง ขอแชร์นิดนึงนะคะ

 

กองทุน RMF ซื้อเพียง 10 ปี ไม่ได้นะคะ เพราะอายุความ 10 ปีนั้น ไม่ได้เริ่มนับตอนที่เราซื้อกองทุนค่ะ แต่เริ่มนับตอนที่เราขายกองทุน เพราะเป็นช่วงที่เราทำผิดตามกฎหมายประมวลรัษฎากร ซึ่งกรมสรรพากรสามารถเข้ามาประเมินภาษีและเรียกเบี้ยปรับเงินเพิ่มได้นะคะ ไม่แนะนำให้ขายค่ะ แต่ถ้าไม่อยากซื้อติดต่อกันมากหลาย ๆ ปี เราสามารถซื้อ ปี เว้น ปี ในอัตราขั้นต่ำของรายได้คือ 3% ไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท น่าจะเลือกแนวนี้มากกว่าค่ะ และไม่ควรซื้อเกิน 15% ไม่เกิน 500,000 บาท เพราะจะไม่ได้รับประโยชน์ในการหักภาษี แถมส่วนต่างกำไรที่ได้ยังต้องนำไปเสียภาษีอีกนะคะ (เฉพาะส่วนที่เกินค่ะ)

 

ส่วนกองทุนทองคำ ตอนนี้เท่าที่ทราบมา มีเพียง k gold แห่งเดียวที่ทำการ ป้องกันความเสี่ยงเรื่องค่าของเงิน ทำให้ เวลาเงินบาทแข็งหรืออ่อนอ จึงไม่เกิดผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนค่ะ

 

ส่วนดิฉัน ใช้บริการของบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็น broker ของกองทุนเกือบทุกแห่ง สามารถซื้อขายกองทุนได้ทุกประเภท กองทุนทั่วไปซื้อขายผ่าน internet ส่วน LTF RMF ต้องซื้อขายผ่านบริษัทโดยตรงได้ สะดวกในการโยกพอร์ต และจัดทำรายงานค่ะ ไม่ต้องมีบัญชีหลายเล่ม ใครสนใจรายละเอียดก็โทร.หรือเมล์มาคุยกันได้ค่ะ เพราะกลัวทำกระดานนี้รกค่ะ

 

ขอบคุณทุกคนที่กรุณาแชร์ความรู้ในฟอร์รัมนี้นะคะ น้ำใจเหลือหลายค่ะ

โทร. 086-377-4956, 083-255-1699 Email : jaijaiservice@hotmail.com

ขอบคุณมากครับที่มาช่วยแชร์ความเห็นครับ ความเห็นที่แตกต่างจะช่วยให้เราได้คิดและแลกเปลี่ยนความเห็น สุดท้ายจะได้สิ่งดีๆกลับมาครับ ขอเพิ่มเติมในประเด็นRMFครับ ต้องออกตัวครับว่าผมไม่ใช่นักกฎหมายแต่ฟังมาจากรายการที่อ.สุวรรณ วลัยเสถียรพูดเมื่อหลายปีแล้ว(อย่าเชื่อเพราะ.... อย่าเชื่อเพราะ...คนเก่งบางครั้งก็อาจจะผิดได้ แต่ให้เชื่อเพราะ) อาจารย์จะแนะนำให้คนซื้อLTFและRMFบ่อยมาก มีอยู่วันนึงอาจารย์พูดว่าเรื่องการลดหย่อนการเสียภาษีด้วยการซื้อLTFและRMFเป็นสิ่งที่อาจารย์เป็นคนเสนอเอง สมัยเป็นรัฐมนตรีช่วย อาจารย์คงพูดแล้วติดลมเลยพูดต่อว่าRMFซื้อครบ10ปีแล้วขายก็ได้ไม่ต้องรอถึงอายุ55(ที่ผมพูดว่าอ.พูดแล้วคงติดลม เพราะโดยมารยาทถ้าอ.เป็นคนเสนอความเห็นเรื่องนี้เข้าไป RMFมีข้อกำหนดให้ถือถึง55 ถ้าถือถึง10ปีแล้วขายได้จริง อ.เสนอแล้วมาชี้ช่องโหว่ในสิ่งที่ตัวเองเสนอมันดูไม่ค่อยดี แต่อาจารย์อาจจะเสนอแค่ใช้ในการลดหย่อนภาษีแต่ไม่ได้เสนอในรายละเอียดว่าให้ถึงอายุ55ก็ได้ครับ) เนื่องจากกฎหมายของสรรพากรมีอายุ10ปี

จากที่ผมฟังมาจากรายการวิทยุ(ฟังย้อนหลังจากเนทจึงฟังได้หลายรอบ) ทำให้ผมสรุปว่าถ้าเอาเงินที่จะเสียภาษีในปี2553ไปซื้อRMF เมื่อถึงปี2563หรือ2564ถ้าผมขายRMFไป ผมผิดเงื่อนไข เจ้าทุกข์คือสรรพากรไม่น่าจะเรียกร้องอะไรได้ สรรพากรเรียกเก็บภาษีที่เกิน10ปีไปแล้วไม่น่าจะได้

ผมไม่รู้กฎหมายแต่ฟังคนที่เป็นนักกฎหมายมา แต่อย่าลืมนะครับบางครั้งนักกฎหมายก็พลาดได้ ใครมีความรู้หรือความเห็นอะไรช่วยมาแชร์ก็ดีครับ ขอบคุณความเห็นที่แตกต่างนะครับ ความเห็นที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์จะทำให้เพื่อนๆได้ประโยชน์ครับ ขอบคุณนะครับ

ถูกแก้ไข ตุลาคม 12, 2010 โดย ส้มโอมือ

[อันอัน 12]

ขอบคุณครับคุณ ar_cr ..... น่ารักที่สุดเลย

ไม่เป็นไรค่ะ เค้าไม่ชอบเห็นใครถูกรังแก ..ล้อเล่นน๊า

[Aekasin 20]

+1:unsure:

[farerex 13]

ขอบคุณมากครับที่มาช่วยแชร์ความเห็นครับ ความเห็นที่แตกต่างจะช่วยให้เราได้คิดและแลกเปลี่ยนความเห็น สุดท้ายจะได้สิ่งดีๆกลับมาครับ ขอเพิ่มเติมในประเด็นRMFครับ ต้องออกตัวครับว่าผมไม่ใช่นักกฎหมายแต่ฟังมาจากรายการที่อ.สุวรรณ วลัยเสถียรพูดเมื่อหลายปีแล้ว(อย่าเชื่อเพราะ.... อย่าเชื่อเพราะ...คนเก่งบางครั้งก็อาจจะผิดได้ แต่ให้เชื่อเพราะ) อาจารย์จะแนะนำให้คนซื้อLTFและRMFบ่อยมาก มีอยู่วันนึงอาจารย์พูดว่าเรื่องการลดหย่อนการเสียภาษีด้วยการซื้อLTFและRMFเป็นสิ่งที่อาจารย์เป็นคนเสนอเอง สมัยเป็นรัฐมนตรีช่วย อาจารย์คงพูดแล้วติดลมเลยพูดต่อว่าRMFซื้อครบ10ปีแล้วขายก็ได้ไม่ต้องรอถึงอายุ55(ที่ผมพูดว่าอ.พูดแล้วคงติดลม เพราะโดยมารยาทถ้าอ.เป็นคนเสนอความเห็นเรื่องนี้เข้าไป RMFมีข้อกำหนดให้ถือถึง55 ถ้าถือถึง10ปีแล้วขายได้จริง อ.เสนอแล้วมาชี้ช่องโหว่ในสิ่งที่ตัวเองเสนอมันดูไม่ค่อยดี แต่อาจารย์อาจจะเสนอแค่ใช้ในการลดหย่อนภาษีแต่ไม่ได้เสนอในรายละเอียดว่าให้ถึงอายุ55ก็ได้ครับ) เนื่องจากกฎหมายของสรรพากรมีอายุ10ปี

จากที่ผมฟังมาจากรายการวิทยุ(ฟังย้อนหลังจากเนทจึงฟังได้หลายรอบ) ทำให้ผมสรุปว่าถ้าเอาเงินที่จะเสียภาษีในปี2553ไปซื้อRMF เมื่อถึงปี2563หรือ2564ถ้าผมขายRMFไป ผมผิดเงื่อนไข เจ้าทุกข์คือสรรพากรไม่น่าจะเรียกร้องอะไรได้ สรรพากรเรียกเก็บภาษีที่เกิน10ปีไปแล้วไม่น่าจะได้

ผมไม่รู้กฎหมายแต่ฟังคนที่เป็นนักกฎหมายมา แต่อย่าลืมนะครับบางครั้งนักกฎหมายก็พลาดได้ ใครมีความรู้หรือความเห็นอะไรช่วยมาแชร์ก็ดีครับ ขอบคุณความเห็นที่แตกต่างนะครับ ความเห็นที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์จะทำให้เพื่อนๆได้ประโยชน์ครับ ขอบคุณนะครับ

 

 

ขอบคุณคุณส้มโอมือ สำหรับข่าวสารข้อมูลที่มีมาให้กันทุกวัน แต่เอ เดี่ยวนี้จารย์เสมคงงานเยอะนา มะค่อยเห็นเข้าบอร์ด รู้สึก ยังไงก้อมะรู้จิ อิอิ ขอบคุณอีกซะครั้งคุณส้มโอมือ

[moshi 9]

ไม่เป็นไรค่ะ เค้าไม่ชอบเห็นใครถูกรังแก ..ล้อเล่นน๊า

 

อิ_อิ.. น่ารักอย่างเงี้ยต้อง +1