ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

GC, SET, S50 : แดง

 

AFET : เขียวแรก (SL 140.85)

 

TOCOM : เขียว (SL 360.50)

 

ช่วงนี้ข้อมูลมาไม่ค่อยสม่ำเสมอ หากเพื่อน ๆ ท่านใดมีข้อมูลเต็ม ๆ ก็ช่วย ๆ กันด้วยนะครับ

 

ขอบพระคุณมากครับ

 

โชคดีทุกท่าน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ช่วงนี้หลายคนคงเซ็ง ๆ ดูบอลแก้เซ็งกันนะครับ :lol: :lol:

 

คาร์ลิ่ง คัพ คืนวันอังคาร

 

01.45 น. ลีดส์ ยูไนเต็ด - แมนฯ ยูไนเต็ด ช่อง 7

 

ลา ลีกา คืนวันพุธ

 

01.00 น. ราซิ่ง ซานตานเดร์ - เรอัล มาดริด ทรูสปอร์ต 1(101)

03.00 น. บาเลนเซีย - บาร์เซโลน่า ทรูสปอร์ต 1(101)

 

ไม่เข้าใจ ไมไม่ถ่ายคู่ อาร์เซน่อล เนี่ย ฮึ ! :mad:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

'Operation Twist' ทางเลือกที่ต้องรอดของเศรษฐกิจมะกัน

20 กันยายน 2554 เวลา 08:08 น. | เปิดอ่าน 759 | ความคิดเห็น 3

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

 

นับเป็นเรื่องที่ทั่วโลกต่างจับตามองอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง กับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20–21 ก.ย.นี้ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐรอบใหม่อีกครั้ง หลังจากที่สภาพเศรษฐกิจที่ผ่านมาไม่ได้กระเตื้องขึ้นแม้แต่น้อย

 

ยืนยันได้ชัดจากตัวเลขการว่างงานของสหรัฐที่ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 9% และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แทบไม่ขยับเขยื้อนใดๆ

 

สถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้บรรดาสมาชิกเฟดเริ่มตระหนักแล้วว่า ไม่อาจจะขอประวิงเวลารอดูเหตุการณ์เหมือนที่แล้วมาได้อีกต่อไป และจำเป็นต้องหาทางนำเงินใส่เข้าไปในระบบเพื่อให้เกิดการจ้างงานขึ้นอีกครั้ง อันจะส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ภายใต้การผลักดันอย่างเต็มที่จากคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ (เอฟโอเอ็มซี)

 

อย่างไรก็ตาม สมาชิกเฟดอีกส่วนหนึ่งกลับคัดค้านที่จะให้เฟดเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะหวั่นใจกับปัญหาเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐได้เพิ่มจาก 3.6% ในเดือน ก.ค. มาอยู่ที่ 3.8% ในเดือน ส.ค. ซึ่งเกินเพดานที่เฟดตั้งไว้ที่ 2% อีกทั้งยังมีแนวโน้มจะขยับขึ้นเรื่อยๆ อันเป็นผลมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์และพลังงานที่ขยับพุ่งขึ้นทั่วโลก และเป็นช่วงที่เฟดใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ด้วยการทุ่มซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากถึง 6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

 

 

เฟด จึงได้รับเสียงตำหนิมากมายจากเหล่าสมาชิกสภาคองเกรสที่เป็นตัวการกระตุ้นภาวะเงินเฟ้อภายในประเทศ จนทำให้บรรดาผู้กำหนดนโยบายของเฟดไม่ต้องการลงมือกระทำการใดๆ ที่จะไปกระตุ้นกระแสต่อต้านเฟดภายในสภาคองเกรสให้ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

 

ปัญหาเงินเฟ้อ และภาวะเศรษฐกิจที่เดินหน้าเข้าสู่ภาวะถดถอยจึงกลายเป็นความขัดแย้งภายในของบรรดาผู้กำหนดนโยบายของเฟด ที่นักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญหลายสำนักต่างลุ้นระทึกว่า เฟดจะเลือกทางไหนระหว่างกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป หรือชะงักไว้ก่อนเพื่อชะลอเงินเฟ้อ

 

ทว่า เมื่อคำนึงถึงข้อเท็จจริงที่ว่าหน้าที่หลักของเฟดในตอนนี้ก็คือการแก้ปัญหาตัวเลขการว่างงาน ความเป็นไปได้ที่ว่าเฟดจะเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปจึงมีมากกว่า

 

ทั้งนี้ หากเฟดเลือกที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ท่ามกลางเงินเฟ้อขาขึ้น นักวิเคราะห์หลายฝ่ายเห็นตรงกันว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่เฟดพอจะรอมชอมให้ประกาศใช้ออกมาได้ก็คือนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่เรียกกันว่า ปฏิบัติการ “Operation Twist” มากกว่าที่จะใช้มาตรการคิวอี เนื่องจากมาตรการพิมพ์ธนบัตรใหม่ออกมาซื้อพันธบัตรรัฐบาล ให้ผลไม่ตรงตามประโยชน์ที่วาดหวังกันไว้

 

การกระตุ้นเศรษฐกิจตามแนวทางของ Operation Twist ก็คือการปรับสัดส่วนการถือครองพันธบัตรของเฟดให้เป็นตราสารระยะยาวมากขึ้น และลดการถือครองตราสารระยะสั้น หรือก็คือการยืดอายุการชำระหนี้ออกไป โดยมีเป้าหมายเพื่อกดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น เลี่ยงการเก็งกำไร และกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น

 

พูดให้ง่ายว่า วิธีการดังกล่าวก็คือการที่เฟดจะออกพันธบัตรระยะสั้นมาเปลี่ยนกับพันธบัตรระยะยาว โดยไม่จำเป็นจะต้องใช้เงินเพิ่มเติม เพื่อกดอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะเป็นการหลีกเลี่ยงวิธีการแบบเดิมที่ต้องทุ่มเงินเข้าระบบการเงินแบบไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม จนทำให้เกิดเงินเฟ้อเหมือนที่เป็นมา

 

ทั้งนี้ สหรัฐเคยนำแนวทาง Operation Twist มาใช้แล้วครั้งหนึ่งในช่วงทศวรรษที่ 1960 หรือระหว่างปี 2504-2508 ซึ่งเป็นช่วงที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว และขายตั๋วเงินคลังระยะสั้น โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเงินผ่านจากจัดการปริมาณเงินในระบบ ก่อนที่จะประกาศใช้อีกครั้งในเดือน มี.ค. 2552 แต่มีเป้าหมายที่ต่างออกไปก็คือเพื่อทำให้ปัจจัยแวดล้อมในระบบการเงินที่ตึงตัวอยู่ผ่อนคลายลง

 

Operation Twist จึงเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุด และเหมาะสมที่สุดหลังจากที่เฟดเพิ่งจะผ่านพ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่อย่างคิวอีมาแล้วสองรอบ

 

เพราะคิวอีทำให้เฟดต้องเข้าถือพันธบัตรระยะสั้นในมือมากขึ้น ขณะที่ Operation Twist จะช่วยเปลี่ยนพันธบัตรระยะสั้นเหล่านั้นให้เป็นระยะยาวซึ่งจะลดดอกเบี้ยในระยะยาว จนทำให้ธนาคารยอมปล่อยกู้ให้กับบรรดาบริษัทห้างร้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น นอกเหนือไปจากการยืดระยะเวลาการคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับใกล้ศูนย์เพิ่มออกไปอีก 2 ปี ที่หลายฝ่ายในเฟดมองว่าอาจเป็นช่องทางให้บริษัทห้างร้านต่างๆ ฉวยโอกาสเก็บเงินสดไว้ แทนที่จะนำไปใช้ในการลงทุนและการจ้างงาน

 

สำหรับความเป็นไปได้อีกทางที่นักวิเคราะห์หลายฝ่ายคาดการณ์กันว่าเฟดอาจจะเลือกลงมือทำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจก็คือ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่จ่ายให้แก่ธนาคารพาณิชย์สำหรับทุนสำรองส่วนเกินที่นำมาฝากไว้ที่เฟด ซึ่งเท่ากับเป็นการบีบบังคับให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้มากยิ่งขึ้นเพื่อแลกกับอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว

 

ทว่า ปัญหาที่ตามมาก็คือ ธนาคารพาณิชย์ไม่อาจกำหนดดอกเบี้ยให้สูงได้ในช่วงที่เจ้าของกิจการหรือประชาชนคนธรรมดาต่างแสวงหาหนทางปรับลดต้นทุนกู้ยืมของตนเองลง

 

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า เครื่องมือทั้งหมดที่พอจะให้เฟดใช้กระตุ้นเศรษฐกิจได้ขณะนี้ ล้วนส่งผลเสียต่อเฟดแทบทั้งสิ้น

 

แต่เมื่อถึงเวลาจำเป็นต้องเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้เพื่อให้เกิดการจ้างงาน บรรดานักเศรษฐศาสตร์จึงเห็นตรงกันว่า Operation Twist ดูจะเป็นทางเลือกที่อันตรายน้อยที่สุดสำหรับเฟดในเวลานี้แล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผลฟุตบอลคาร์ลิง คัพ รอบสาม ประจำวันอังคารที่ 20 กันยายน 2554

 

อัลเดอร์ช็อต ทาวน์ 2-1 ร็อชเดล

อาร์เซนอล 3-1 ชูวส์บิวรี ทาวน์ :rolleyes:

แอสตัน วิลลา 0-2 โบลตัน

เบิร์นลีย์ 2-1 มิลตัส คียส์ ดอนส์

ลีดส์ ยูไนเต็ด 0-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

น็อตติงแฮม ฟอร์เรส 3-4 นิวคาสเซิล

สโต๊ค ซิตี 0-0 ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ส (ดวลจุดโทษ สโต๊คชนะ 7-6)

วูลฟ์แฮมตัน วันเดอเรอร์ส 5-0 มิลวอล

แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 3-2 เลย์ตัน โอเรียนท์

คริสตัน พาเลซ 2-1 มิดเดิลสโบรซ์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

GC : แดง (closing price > 1,814.70 ระบบจะเขียว)

 

SET : แดง (closing price > 1,033.34 ระบบจะเขียว)

 

AFET : เขียว (SL closing price < 140.85)

 

TOCOM : แดงแรก

 

 

ขออภัยด้วยครับ ข้อมูลบางตัวไม่ครบถ้วน จึงไม่สามารถอัพเดทให้ได้นะครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

GC : แดง (closing price > 1,814.70 ระบบจะเขียว)

 

SET : แดง (closing price > 1,033.34 ระบบจะเขียว)

 

AFET : เขียว (SL closing price < 140.85)

 

TOCOM : แดงแรก

 

 

ขออภัยด้วยครับ ข้อมูลบางตัวไม่ครบถ้วน จึงไม่สามารถอัพเดทให้ได้นะครับ

 

ขอบคุณมากครับ คุณ Henry

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

AFET ไม่แน่ใจ SL นะครับ อาจเลื่อนเป็น 142.50 แล้ว

 

รบกวนเพื่อน ๆ ท่านอื่นตรวจสอบให้ด้วยนะครับ

 

ขอบคุณมากครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
post-442-023701900 1316589480.gifรอไปเรื่อยๆ รอไปไม่เมื่อย ถ้า2000$มาจะไปเมื่อยทำไหม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กรีซแถลงรัดเข็มขัดเพิ่มตามเงื่อนไขอียูและไอเอ็มเอฟ

 

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 กันยายน 2554 03:04 น. Share

 

 

 

รัฐบาลกรีซเมื่อวันพุธ(21) แถลงมาตรการขัดเข็มขัดเพิ่มเติมในความพยายามลดขาดดุลงบประมาณสำหรับปลดล็อคเงินช่วยเหลือเงินกู้ก้อนต่อไปจากอียูและไอเอ็มเอฟเพื่อหลีกเลี่ยงผิดนัดชำระหนี้

 

ในมาตรการล่าสุดนี้จะมีการปรับลดเบี้ยบำนาญสำหรับผู้ได้รับเงินเกิน 1,200 ยูโรต่อเดือนลง เลิกจ้างพนักงานราชการ 30,000 ตำแหน่งเป็นการชั่วคราว และปรับลดผู้มีรายได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษีลงเหลือ 5,000 ยูโร รัฐบาลกรีซระบุในถ้อยแถลง

 

กรีซพยายามสร้างความเชื่อมั่นแก่สหภาพยุโรปและไอเอ็มเอฟว่าจะสามารถดึงเศรษฐกิจของพวกเขาคืนสู่เส้นทางแม้เป้าหมายต่างๆอาจล่าช้าออกไปสืบเนื่องจากภาวะถดถอยที่รุนแรงกว่าที่คาด

 

ทั้งนี้หลังจากประชุมทางไกลกับนายอีวานเจลอส เวนิเซลอสรัฐมนตรีคลังกรีซ ในวันจันทร์(19)และวันอังคาร(20) คณะผู้ตรวจสอบบัญชีของสหภาพยุโรปกับไอเอ็มเอฟ เห็นพ้องกลับมาทบทวนฐานะทางการคลังของกรีซอีกครั้ง ในความเป็นไปได้สำหรับอนุมัติเงินกู้งวดถัดไปอีกจำนวน 8 พันล้านยูโร

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ยุโรปสะท้านกรีซส่อแววเบี้ยวหนี้ของจริง

21 กันยายน 2554 เวลา 07:22 น. | เปิดอ่าน 897 | ความคิดเห็น 2

สําหรับบรรดานักวิเคราะห์ที่ติดตามปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรปมาโดยตลอด

 

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

 

สําหรับบรรดานักวิเคราะห์ที่ติดตามปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรปมาโดยตลอด สถานการณ์ของกรีซในขณะนี้ถือได้ว่าอันตรายอย่างยิ่งยวด

 

ถ้าเปรียบกับสัญญาณไฟก็เรียกว่ากำลังกะพริบสีแดงเตือนเป็นครั้งสุดท้ายว่ากรีซมีสิทธิชักดาบเบี้ยวหนี้ จำนวน 3.45 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ที่กู้มาเกือบ 100% เต็ม

 

หลักฐานบ่งชี้ที่ชัดเจนอันดับแรกสุดก็คือ ราคาประกันการผิดนัดชำระหนี้ (ซีดีเอส) ซึ่งเป็นหลักประกันให้กับผู้ถือพันธบัตรว่าจะได้รับเงินคืนแน่นอนหากคู่สัญญาไม่อาจจ่ายเงินที่ขอยืมไปได้ โดยผู้ซื้อต้องยอมจ่ายเงินประกันเพิ่มตามที่ตกลงไว้เป็นงวดๆ

 

พูดให้ง่ายเข้าก็คือ หากยิ่งรู้สึกว่าผู้ออกพันธบัตรไม่มีปัญญาจ่าย คนให้กู้ก็ต้องแห่หาซื้อหลักประกันมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นซีดีเอสจึงเป็นดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นและความวิตกกังวลของนักลงทุนที่มีต่อการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกพันธบัตร

 

 

 

 

 

ทั้งนี้ ราคาประกันดังกล่าวของประเทศเกือบครึ่งในยุโรปเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2553 ขณะที่ราคาซีดีเอสของพันธบัตรกรีซอยู่ในขั้นที่แพงแบบสุดขั้ว คือผู้ซื้อพันธบัตรต้องจ่ายเงินถึง 6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อปกป้องพันธบัตรกรีซมูลค่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ลงทุนซื้อไว้ ทั้งๆ ที่เมื่อปีที่ผ่านมา ผู้ซื้อประกันจ่ายเพียง 2.84 แสนเหรียญสหรัฐเท่านั้น

 

ขณะที่ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก็ถือเป็นปัจจัยที่ทำให้กรีซส่อแววชักดาบแน่ๆ โดยความไม่ลงรอยที่ว่า ส่งผลให้รัฐบาลกรีซภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี จอร์จ ปาปันดรู ไม่สามารถคลอดแผนรัดเข็มขัดตามเงื่อนไขของกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จนมีเค้าว่ากรีซอาจวืดเงินช่วยเหลือรอบใหม่ในเดือน ต.ค.เพื่อนำไปจัดการปัญหาหนี้ภายในประเทศ และกลายเป็นสัญญาณเลวร้ายตอกย้ำว่ากรีซถึงขั้นต้องผิดนัดชำระหนี้ได้ในอนาคตอันใกล้นี้

 

ความกังวลที่มีแนวโน้มเป็นจริง ส่งผลให้ไอเอ็มเอฟต้องออกมาคำรามขู่เมื่อวันที่ 19 ก.ย. เรียกร้องให้กรีซเอาจริงเอาจังเหมือนกับที่ไอเอ็มเอฟและอียูพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือกรีซไม่ให้กลายเป็นประเทศแรกของยุโรปในรอบหลายสิบปีที่ต้องเบี้ยวหนี้ จนพานให้บรรดานักลงทุนเสียความเชื่อมั่นในกลุ่มยูโรโซนทั้งหมด

 

นอกจากนี้ ผู้ครองพันธบัตรรายใหญ่ที่สุดของกรีซอย่างเยอรมนี ยังได้เดินหน้าหาแผนสำรองรับมือกับการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซอย่างเต็มที่ เพื่อลดผลกระทบร้ายแรงที่อาจจะเกิดขึ้น เช่นการตั้งธนาคารเพื่อจัดการรับมือกับทรัพย์สินเสี่ยง โดยเฉพาะ (Bad Banks) จนกลายเป็นความกังขาของนักลงทุนว่า ถ้าไม่เชื่อมั่นว่ากรีซจะเบี้ยวหนี้ ก็ไม่น่าจะหารือเรื่องแผนแบบเอาเป็นเอาตายขนาดนี้

 

ยิ่งเมื่อบวกกับข่าวคราวของบรรดาธนาคารพาณิชย์สัญชาติเยอรมนี เช่น คอมเมิร์ซแบงก์ ที่เดินหน้าลดการถือครองพันธบัตรกรีซ ก็ยิ่งทำให้นักลงทุนในตลาดเริ่มเชื่อมั่นว่ากรีซมีแววเบี้ยวหนี้ในเร็ววันนี้

 

ขณะที่ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มูดี้ส์ได้ออกมาปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารโซซิเอเต เจนเนราล และเครดิต อะกริโกลในฝรั่งเศส เนื่องจากถือพันธบัตรกรีซไว้จำนวนมาก จนกลายเป็นภาระเสี่ยงสำหรับธนาคาร

 

ทั้งนี้ สิ่งที่นักลงทุนในตลาดหวาดหวั่นกันมากที่สุดเมื่อกรีซผิดนัดชำระหนี้ก็คือ การล้มครืนของกลุ่มอียู เพราะเจ้าหนี้รายใหญ่ของกรีซไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นสองหัวเรือใหญ่ของอียูอย่างเยอรมนีและฝรั่งเศส

 

ข้อมูลของธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (บิส) ระบุว่า ธนาคารและสถาบันทางการเงินในฝรั่งเศสเป็นเจ้าหนี้คนสำคัญที่ควักสตางค์ให้กรีซสูงถึง 7.78 หมื่นล้านยูโร ขณะที่เยอรมนีควักให้กรีซไปทั้งสิ้น 1.746 หมื่นล้านยูโร

 

คลอส ไฟลเชอร์ ศาสตราจารย์ด้านการเงินและการธนาคารจากมหาวิทยาลัยในมิวนิกถึงกับระบุว่า จำนวนเงินมหาศาลดังกล่าวจะกระทบกับธนาคาร Bad Banks ของรัฐบาลโดยตรง จนรัฐไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากนำเงินภาษีของประชาชนมาใช้ และกลายเป็นการผลักภาระให้ชาวเยอรมันในที่สุด

 

ขณะที่ฝรั่งเศสยืนอยู่บนปากเหวมากยิ่งกว่า เพราะไม่มีการจัดหามาตรการใดๆ มาสำรองไว้เหมือนเยอรมนี แถมพันธบัตรกรีซที่กระจายอยู่ในประเทศส่วนใหญ่อยู่ในมือของภาคเอกชน เมื่อเทียบกับเยอรมนีที่อยู่กับรัฐบาลมากกว่า

 

เท่ากับว่า ทันทีที่กรีซผิดนัดชำระหนี้เมื่อใด ภาคการเงินการธนาคารของยูโรโซนทั้งหมดย่อมผจญกับหายนะครั้งใหญ่โดยไม่ต้องสงสัย

 

แม้ว่า นักวิเคราะห์หลายฝ่ายจะคาดการณ์ในแง่ดีว่า การผิดนัดชำระหนี้ของกรีซไม่น่าจะเกิดขึ้นภายในปีนี้แน่นอน แต่มากกว่า 94% ของผู้เชี่ยวชาญมองว่า ตราบใดที่กรีซไม่สามารถแก้ปัญหาขัดแย้ง เสนอแผนรัดเข็มขัด ลดการขาดดุลงบประมาณอย่างจริงจัง กรีซก็ยังมีแววผิดนัดชำระหนี้ต่อไป

 

อย่างน้อย ก็ภายใน 5 ปี นับจากนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

AFET ไม่แน่ใจ SL นะครับ อาจเลื่อนเป็น 142.50 แล้ว

 

รบกวนเพื่อน ๆ ท่านอื่นตรวจสอบให้ด้วยนะครับ

 

ขอบคุณมากครับ

 

 

SL AFET ที่เดิมนะครับ คือ 140.85

 

ช่วงนี้การโหลดข้อมูลไม่ค่อยต่อเนื่อง ต้องขออภัยด้วยหากไม่ได้มาอัพเดทให้ทุกวัน

 

เพราะข้อมูลไม่ชัดเจน เกรงว่าจะทำให้เข้าใจผิดกันครับ :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...