ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

เชื่องช้า และ แตกแยก วิธีแก้ปัญหาแบบ ยุโรป ยุโรป

30 กันยายน 2554 เวลา 07:30 น. | เปิดอ่าน 901 | ความคิดเห็น 0

หนึ่งในวลีเด็ดที่ออกจากปากบรรดาผู้นำโลกต่อปัญหาวิกฤตหนี้ของกลุ่มยูโรโซนในขณะนี้ก็คือคำว่า “ทำเดี๋ยวนี้”

 

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

 

หนึ่งในวลีเด็ดที่ออกจากปากบรรดาผู้นำโลกต่อปัญหาวิกฤตหนี้ของกลุ่มยูโรโซนในขณะนี้ก็คือคำว่า “ทำเดี๋ยวนี้” หรือ Act Now! เพื่อคอยกระตุ้นเตือนให้บรรดากลุ่มผู้นำยุโรปเริ่มการแก้ปัญหาหนี้อย่างจริงจังได้แล้ว

 

ในเมื่อวิกฤตหนี้ส่อเค้าเรื้อรังขยายตัวลุกลามไปยังเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่กว่า จากกรีซลามไปยังอิตาลีและสเปน และอาจจะลุกลามไปจนกลายเป็นวิกฤตการเงินของยุโรปและของโลกในที่สุด

 

ต้องยอมรับกันว่าการแก้ปัญหาของยุโรปที่ผ่านมานั้นไร้ซึ่งความชัดเจน และการตอบสนองต่อปัญหานั้นเป็นไปอย่างเชื่องช้า ไม่ทันรับมือต่อปัญหาที่เกิดขึ้น จนทำให้เกิดกระแสปั่นป่วนอย่างหนักในตลาดทุนช่วงที่ผ่านมา ซึ่งตามธรรมชาติของการลงทุนแล้วจะต้องการความชัดเจนอย่างที่สุด

 

 

 

ความเคลื่อนไหวในการแก้ปัญหาวิกฤตหนี้ของยุโรปในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการขยายกองทุนช่วยเหลือ อย่าง กองทุนเพื่อเสถียรภาพทางการเงินแห่งยุโรป (European Financial Stability Fund) หรือไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาถึงความช่วยเหลือแพ็กเกจที่ 2 ที่เตรียมให้กับกรีซนั้น ล้วนแต่ไร้ภาพอันชัดเจนว่าแนวทางจะเป็นเช่นไร

 

มีแต่เพียงข่าวที่เล็ดลอดออกมาเท่านั้น ที่คอยสยบความปั่นป่วนในตลาดไปวันๆ !

 

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกนักที่โลกจะวิตกมากขึ้นว่าการแก้ไขปัญหาหนี้ของยุโรปที่แสนจะเชื่องช้าและไม่ทันการณ์นั้น จะทำให้ในที่สุดวิกฤตในยุโรปจะลุกลามออกไปจนทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่สถาวะถดถอยอีกครั้งหนึ่งได้

 

ประการแรก ความเคลื่อนไหวของการขยายขนาดกองทุนอีเอฟเอสเอฟ ซึ่งถือเป็นกองทุนที่ยุโรปก่อตั้งขึ้นหลังวิกฤตการเงินโลกเมื่อปี 2008 เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการช่วยเหลือและปกป้องกลุ่มสมาชิกประเทศยูโรโซนและภาคการเงินของกลุ่มนั้นยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร

 

ต้องยอมรับกันว่าที่ผ่านมาแม้ว่าบรรดาผู้นำยุโรปจะตกลงร่วมกันมาตั้งแต่การประชุมในเดือน ก.ค. ว่าจะขยายขนาดกองทุนดังกล่าวจากเดิมที่ 2.5 แสนล้านยูโร ไปเป็น 4.4 แสนล้านยูโร แต่ทว่าเสียงวิตกที่เกิดขึ้นนั้นกำลังเห็นว่าลำพังแค่ 4.4 แสนล้านยูโร ไม่ถือว่าพอเพียงที่ยุโรปจะสามารถรับมือกับวิกฤตได้ ถ้าหากปัญหาหนี้กรีซลุกลามไปยังอิตาลีและสเปน ที่กำลังบักโกรกกับปัญหาหนี้สาธารณะท่วมหัว และการเติบโตของเศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำอย่างหนัก

 

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีแต่เพียงข่าวลือที่ไม่ได้รับการยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ผู้กำหนดนโยบายการเงินของยุโรปกำลังหารือถึงแผนการขยายกองทุนดังกล่าวไปถึง 3 ล้านล้านยูโร

 

แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วก็ยังไม่มีการยืนยันจากยุโรปว่าข้อเสนอดังกล่าวเป็นความจริง ความหวังที่กองทุนดังกล่าวจะได้รับการขยายไปถึงขนาดนั้นหรือไม่นั้น 3 ล้านล้านยูโร จึงเป็นเพียงแค่ “ความหวัง” ต่อไป

 

ขณะเดียวกัน เมื่อกล่าวถึงวิธีการช่วยเหลือและป้องกันภาคการเงินของยุโรปไม่ให้เกิดความสูญเสียจากวิกฤตหนี้ของกรีซนั้น ก็ยังถือเป็นเรื่อง “ลึกลับ” ที่ยุโรปยังไม่มีการออกมาชี้แจงให้ชัดเจนต่อชาวโลกนัก

 

ซึ่งที่ผ่านมาก็จะเป็นเพียงแค่ข้อมูลที่ผ่านมาจากการรายงานข่าวของสื่อมวลชนเท่านั้น

 

ดังเช่นการรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี ที่เสนอข่าวอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่วงใน ที่ว่ายุโรปอาจจะใช้วิธีการเทเงินจากกองทุนอีเอฟเอสเอฟนำไปออกพันธบัตรใหม่จากธนาคารเพื่อการลงทุนแห่งยุโรป (อีไอบี) และให้บรรดาเจ้าหนี้ผู้ถือครองพันธบัตรที่มีความเสี่ยงสูง เช่น พันธบัตรกรีซ นำมาแลกเปลี่ยนเป็นพันธบัตรตัวใหม่นี้ได้ เพื่อลดความเสี่ยงให้กับบรรดาธนาคารและผู้ถือพันธบัตรของกรีซ

 

แต่ทว่าข่าวดังกล่าวก็ไม่ได้รับการยืนยันจากยุโรปแต่อย่างใดเช่นกัน หนำซ้ำเจ้าหน้าที่ยุโรปบางคนยังออกมานั่งยัน นอนยัน ปฏิเสธข่าวดังกล่าวอีกด้วย

 

ทำให้เกิดคำถามว่า ในท้ายที่สุดแล้ว มาตรการป้องกันปัญหาหนี้ของยุโรปไม่ให้ลุกลามใหญ่โตนั้นจะออกหัวออกก้อยอย่างไร

 

ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องงมหาคำตอบกันเอง !

 

นอกจากนั้น ความเคลื่อนไหวของแพ็กเกจเงินช่วยเหลือกรีซก้อนที่ 3 มูลค่า 1.09 แสนล้านยูโร ที่ผู้นำยุโรปเห็นพ้องในเบื้องต้นเมื่อครั้งการประชุมเมื่อเดือน ก.ค.นั้น ก็เริ่มมีความหวังมากขึ้น

 

แต่เมื่อพิจารณาลึกๆ แล้ว จะเห็นว่ายูโรโซนกำลังแตกแยกอย่างหนัก และกำลังซัดกันอย่างนัวเนียถึงเนื้อหารายละเอียดของแพ็กเกจก้อนที่ 2 นี้

 

ย้อนกลับไปเมื่อเดือน พ.ค. กลางปีที่แล้ว แพ็กเกจเงินช่วยเหลือของ 1.1 แสนล้านยูโรก้อนแรกที่ให้กับกรีซนั้น ส่วนหนึ่งผ่านมาจากไอเอ็มเอฟ และอีกส่วนหนึ่งมาจากอียู ผ่านการสมทบทุนของแต่ละชาติสมาชิกยูโรโซน โดยเยอรมนีเป็นผู้สมทบทุนมากที่สุดในส่วนอียูที่ 2.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

 

เพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือก้อนนั้น กรีซจะต้องปฏิบัติตามภายใต้กฎเหล็กที่ว่า จะต้องเดินหน้าลดปริมาณหนี้สาธารณะ และทำการปฏิรูปเศรษฐกิจตามที่ไอเอ็มเอฟและอียูกำหนด

 

อย่างไรก็ตาม การที่ชาติสมาชิกยูโรโซนต้องคอยควักเนื้อช่วยเหลือกรีซนั้น ก็กำลังถูกต่อต้านจากประชาชนในหลายชาติอย่างรุนแรง ว่าเพราะเหตุใดที่แต่ละประเทศจะต้องเจียดเงินภาษีจากหยาดเหงื่อแรงงานของประชาชนไปช่วยประเทศที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและไร้วินัยทางการคลังเช่นนั้นด้วย

 

ดังนั้น แพ็กเกจเงินช่วยเหลือก้อนที่ 2 นี้ จึงได้เกิดการเสนอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของเงินช่วยเหลือดังกล่าวขึ้นใหม่ โดยมีเยอรมนี พี่ใหญ่แห่งยูโรโซนเป็นผู้เสนอแนวทางขึ้นและผลักดันอย่างเต็มที่

 

นั่นก็คือการให้บรรดาธนาคารพาณิชย์ กองทุนการเงินต่างๆ ที่ถือพันธบัตรกรีซในฐานะเจ้าหนี้อยู่นั้น จำเป็นที่จะต้องแบกรับกับความสูญเสียด้วย

 

โดยจะต้องยอมหั่นมูลค่าสินทรัพย์ของพันธบัตรกรีซที่ถือเอาไว้ในสัดส่วนที่มากขึ้น เพื่อลดภาระจากการต้องควักเงินภาษีของประชาชน

 

แน่นอนว่าข้อเสนอและแนวทางดังกล่าวถูกต่อต้านอย่างหนักจากบรรดาธนาคารพาณิชย์ทั่วยุโรป ที่ไม่ต้องการหั่นมูลค่าสินทรัพย์ลง เพราะจะกระทบต่อเสถียรภาพของธนาคารในทันที

 

รวมไปถึงธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่กำลังไม่เห็นด้วยอย่างหนักต่อข้อเสนอดังกล่าว เพราะเห็นว่าจะทำให้เสถียรภาพของภาคการเงินยุโรปลดลง และอาจจะเกิดภาวะความปั่นป่วนขึ้นจากการเทขายหุ้นธนาคารต่างๆ ที่ถือพันธบัตรของกรีซไว้เป็นจำนวนมากด้วย

 

เป็นอีกหนึ่งความแตกแยกที่ยูโรโซนกำลังปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่ในขณะนี้ และดูเหมือนว่าจะต้องคุยกันอีกยาว

 

นายกรัฐมตรี อังเกลา แมร์เกิล แห่งเยอรมนี ถึงกับกล่าวอย่างไม่สู้ดีนักว่า จำเป็นต้องรอการประเมินผลจากทีมเจ้าหน้าที่ไอเอ็มเอฟและอียู ที่เดินทางไปตรวจสภาพกรีซกลับมาเสียก่อน เพื่อจะต้องดูว่ายุโรปจำเป็นต้อง “หารือ” กันใหม่หรือไม่ต่อสภาพเงื่อนไขของเงินช่วยเหลือก้อนที่ 2

 

โลกต้องยอมรับกันว่า ปัญหาหนี้ยุโรปนั้นกำลังได้รับการแก้ไขอย่างเชื่องช้า บนความแตกแยกของบรรดาสมาชิกกลุ่มยูโรโซนอย่างไม่ควรจะเกิด

 

ไม่ว่าจะเป็นการขยายกองทุนช่วยเหลืออีเอฟเอสเอฟที่ยังไม่มีความแน่นอน ตลอดจนถึงวิธีการช่วยเหลือ รวมทั้งแพ็กเกจเงินก้อนที่ 2 ที่จะให้กับกรีซนั้นก็ยังคงตกลงกันไม่ได้

 

และต้องรอกันยาวถึงเดือนหน้ากว่าที่บรรดาเจ้าหน้าที่ยูโรโซนจะกลับมาคุยกันอีกครั้งในวันที่13 ต.ค. เพื่อลุ้นว่าในที่สุดเงินช่วยเหลือ 6,000 ล้านยูโร งวดที่ 6 จากแพ็กเกจก้อนแรกที่จะให้กรีซนั้น จะทันการณ์ก่อนที่กรีซจะถึงกำหนดชำระหนี้ในกลางเดือนหน้าหรือไม่

 

ตลอดจนถึงความคืบหน้าของแพ็กเกจก้อนที่ 2 จะออกหัวหรือก้อย และอนาคตของกองทุนอีเอฟเอสเอฟจะได้รับการขยายมากขึ้นกว่า 4.4 แสนล้านยูโรได้หรือไม่

 

ส่วนระยะนี้ก็ปล่อยให้ตลาดหุ้น ตลาดทอง ตลาดน้ำมัน เหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลงให้หวาดเสียวเล่นๆ รายวันไปพลางๆ !

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วิธีการแก้ปัญหา

เรื่องแรก

เมื่อองค์การนาซ่าได้เริ่มปล่อยจรวดเพื่อการสำรวจอวกาศ พวกเขาพบว่า ปากกาไม่สามารถเขียนได้ที่แรงโน้มถ่วงของโลกเท่ากับ 0 (น้ำหมึกไม่สามารถไหลออกมาที่กระดาษที่ต้องการเขียนได้) การแก้ปัญหานี้ ได้ใช้เวลาราว 10 ปีและได้ใช้เงินมูลค่า 12 ล้านดอลล่าห์ (480 ล้านบาท) พวกเขาได้สร้างปากกาที่สามารถใช้งานได้ที่แรงโน้มถ่วงเป็นศูนย์ เขียนแบบคว่ำ หรือเขียนที่ใต้น้ำได้ สามารถเขียนได้ ไม่ว่าสภาพผิวเป็นเช่นไร รวมทั้ง ผิว crystal และที่อุณหภูมิช่วงต่ำกว่าจุดเยือกแข็งจนถึงที่มากกว่า 300 องศาเซลเซียลได้ด้วยปัญหาแบบเดียวกัน ทางรัสเซีย ใช้ ดินสอ

 

เรื่องที่สอง

หนึ่งในเรื่องที่นิยมใช้ในการสอนที่ประเทศญี่ปุ่นได้แก่ เรื่องของการเกิดปัญหาที่ว่าสบู่ที่ลูกค้าซื้อไม่มีสบู่มาด้วย คือได้แต่กล่องเปล่าๆมา เรื่องนี้มาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ในการผลิตเครื่องสำอางของญี่ปุ่น ได้รับการร้องเรียนจากทางลูกค้าถึงปัญหาดังกล่าว ทางด้านวิศวกรที่รับผิดชอบ ได้แก้ปัญหาโดยการสร้างเครื่อง X-ray เพื่อการตรวจดูว่าภายในของกล่องสบู่มีสบู่หรือไม่ และเพื่อการนี้ก็ได้ให้คน 2 คนคอยเฝ้าที่จอ เพื่อดูให้แน่ใจได้ว่าไม่มีการหลุดของกล่องที่ไม่ได้บรรจุสบู่ไป แน่นอนว่าคน 2 คนที่ดูจอมอนิเตอร์คงไม่สนุกในการทำงานนี้เท่าไหร่

 

ด้วยปัญหาเดียวกัน พนักงานหน้างานที่บริษัทเล็กแห่งหนึ่ง เขาไม่ได้แก้ปัญหาโดยการสร้างเครื่อง X-ray แต่สิ่งที่เขาทำได้แก่ การใช้พัดลมอุตสาหกรรม(Blower) เป่าที่รางสายพานขณะที่กล่องสบู่วิ่งผ่าน กล่อง ที่ไม่ได้บรรจุสบู่เมื่อถูกลมก็จะปลิวออกนอกสายพานลำเลียงเอง

 

ในชีวิตจริงมีคนมากมายทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก เรื่องง่ายๆ ที่บางทีคนเราก็นึกไม่ถึง ปัญหาหลายอย่างไม่ได้มีทางออกแค่ทางเดียว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จาก fb คุณเสม เมื่อวันเสาร์ครับ

 

SI โลหะมีค่าตัวนี้ โดนถล่มจาก มุก เก่าๆโดยการเพิ่ม margin ทำให้ นักลงทุนเทขาย ยังลงไม่เสร็จนะงับ พี่น้อง รอมันทำ wave 2 ชัดๆด้วย A-B-C ก่อน ก่อนทะยานขึ้น wave 3 ในกลางปีหน้า รอดูงับ

 

GC ช่วงนี้ SW Down นะงับ ยังลงไม่เสร็จ ไม่ต้องรีบซื้อ ใครเล่นทองคำต้องดู DX ประกอบงับ ตัวนี้ ดีดทีเดียวสนั่นไปทั่วโลก เพราะเป็นเงินสำรองทั่วโลก ทั้วประเทศครับ ใครไม่เล่นตามระบบคงเจ๊งกันไปหลายราย นะงับ ไม่มีใครรู้อนาคตจริงหรอกครับ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาซื้อทอง กัน ตอนนี้เทรนอยู่ที่ ดอลล่า ตัวเดียวครับ

 

CL น้ำมันดิบเป็นตัว ขับเคลื่อน ศก โลก ตอนนี้น้ำมันอยู่ใน ขาลง ชัดเจนเเล้ว จะลงต่อไปเรื่อยๆ อาจจะได้เห็น $65 ในอีกไม่นานนี้ วิกฤต ศก โลกกำลังจะมาเยือนอีกครั้งเเล้วงับ

 

SET ถ้สนับ E-W ไม่ผิดยังลงได้อีก

 

SET ไทยราย Week เป็นขาลงชัดเจนหลังจาก Break SEC ลงมาเเล้ว ระวังกันดีๆนะงับ เป้าหมายอาจจะมาที่ 850 หรือ 680 ตามลำดับ

 

DX ดีด เเบบนี้ ถล่มกัน ทั่วโลกเเน่นอน ทั้ง หุ้น โลหะมีค่า Commodity ทั้งหลาย ยังดีดได้ต่อเนื่องครับ เป้าเเรกที่ 82 หลังจากที่ ราคา Break SEC มาได้นั้น DX ก็วิ่งไม่หยุด เป็นขาขึ้นเเน่นอนครับ สำหรับ DX

 

เงินบาทไทยจะอ่อนค่า กว่านี้ เป้าสั้นที่ 33-32 บาทน่าจะมาให้เห็น

 

CL กดดัน TC ไหลลงกระจาย มีโอกาสลงมาถึง 270 เยนงับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วิธีการแก้ปัญหา

เรื่องแรก

เมื่อองค์การนาซ่าได้เริ่มปล่อยจรวดเพื่อการสำรวจอวกาศ พวกเขาพบว่า ปากกาไม่สามารถเขียนได้ที่แรงโน้มถ่วงของโลกเท่ากับ 0 (น้ำหมึกไม่สามารถไหลออกมาที่กระดาษที่ต้องการเขียนได้) การแก้ปัญหานี้ ได้ใช้เวลาราว 10 ปีและได้ใช้เงินมูลค่า 12 ล้านดอลล่าห์ (480 ล้านบาท) พวกเขาได้สร้างปากกาที่สามารถใช้งานได้ที่แรงโน้มถ่วงเป็นศูนย์ เขียนแบบคว่ำ หรือเขียนที่ใต้น้ำได้ สามารถเขียนได้ ไม่ว่าสภาพผิวเป็นเช่นไร รวมทั้ง ผิว crystal และที่อุณหภูมิช่วงต่ำกว่าจุดเยือกแข็งจนถึงที่มากกว่า 300 องศาเซลเซียลได้ด้วยปัญหาแบบเดียวกัน ทางรัสเซีย ใช้ ดินสอ

 

เรื่องที่สอง

หนึ่งในเรื่องที่นิยมใช้ในการสอนที่ประเทศญี่ปุ่นได้แก่ เรื่องของการเกิดปัญหาที่ว่าสบู่ที่ลูกค้าซื้อไม่มีสบู่มาด้วย คือได้แต่กล่องเปล่าๆมา เรื่องนี้มาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ในการผลิตเครื่องสำอางของญี่ปุ่น ได้รับการร้องเรียนจากทางลูกค้าถึงปัญหาดังกล่าว ทางด้านวิศวกรที่รับผิดชอบ ได้แก้ปัญหาโดยการสร้างเครื่อง X-ray เพื่อการตรวจดูว่าภายในของกล่องสบู่มีสบู่หรือไม่ และเพื่อการนี้ก็ได้ให้คน 2 คนคอยเฝ้าที่จอ เพื่อดูให้แน่ใจได้ว่าไม่มีการหลุดของกล่องที่ไม่ได้บรรจุสบู่ไป แน่นอนว่าคน 2 คนที่ดูจอมอนิเตอร์คงไม่สนุกในการทำงานนี้เท่าไหร่

 

ด้วยปัญหาเดียวกัน พนักงานหน้างานที่บริษัทเล็กแห่งหนึ่ง เขาไม่ได้แก้ปัญหาโดยการสร้างเครื่อง X-ray แต่สิ่งที่เขาทำได้แก่ การใช้พัดลมอุตสาหกรรม(Blower) เป่าที่รางสายพานขณะที่กล่องสบู่วิ่งผ่าน กล่อง ที่ไม่ได้บรรจุสบู่เมื่อถูกลมก็จะปลิวออกนอกสายพานลำเลียงเอง

 

ในชีวิตจริงมีคนมากมายทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก เรื่องง่ายๆ ที่บางทีคนเราก็นึกไม่ถึง ปัญหาหลายอย่างไม่ได้มีทางออกแค่ทางเดียว

อ่านอีกซักกี่ทีก็ยังสนุกครับกับเรื่องนี้ +1

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อ่านอีกซักกี่ทีก็ยังสนุกครับกับเรื่องนี้ +1

อีก1วิธีแก้ปัญหา

ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว

มีเศรษฐีคนหนึ่งเป็นคนเจ้าอารมณ์และมักจะปวดศีรษะอยู่เป็นประจำ

วันหนึ่งเขาได้ประกาศว่า

จะให้รางวัลอย่างงามแก่คนที่สามารถรักษาอาการปวดศีรษะของเขาได้

หลายคนรวมทั้งหมอที่เชี่ยวชาญต่างก็มา

และเสนอแนะวิธีรักษาโรคปวดศีรษะของเศรษฐีผู้นี้

แต่ไม่มีใครสามารถทำให้เขาดีขึ้นได้

 

 

อยู่มาวันหนึ่ง มีฤาษีคนหนึ่งมาเยี่ยมท่านเศรษฐี

เศรษฐีได้บอกเกี่ยวกับโรคประจำตัวของเขาให้ฤาษีทราบ

ฤาษีจึงบอกกับท่านเศรษฐีว่า

" โธ่เอ้ย วิธีรักษาอาการปวดหัวของเจ้ามันง่ายนิดเดียว

นั่นก็คือเจ้าจะต้องมองทุกอย่างให้เป็นสีเขียวตลอดเวลา

แล้วอาการโรคของเจ้าจะหายไป"

เศรษฐีดีใจมากและคิดว่าสิ่งที่ฤาษีแนะนำเขานั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายมาก

วันรุ่งขึ้นท่านเศรษฐีจึงจ้างช่างทาสีหลายร้อยคน

มาช่วยกันทาสีของหมู่บ้านให้เป็นสีเขียวทั้งหมด

นอกจากนี้ด้วยความที่รวยมาก ยังซื้อเสื้อผ้าให้กับคนในหมู่บ้านทุกคนใส่

ในตอนนี้ไม่ว่าท่านเศรษฐีมองไปทางใดก็จะเป็นสีเขียวตลอดเวลา

 

 

ตามคำแนะนำของฤาษี อาการปวดศีรษะของเขาก็เริ่มดีขึ้น ๆ

เขาเริ่มเป็นคนยิ้มง่ายและมีความสุขมากขึ้น

สองสามเดือนถัดมา ท่านฤาษีได้กลับมาเยี่ยมเศรษฐีอีกครั้งหนึ่ง

แต่ก็ต้องเผชิญกับช่างทาสีคนหนึ่งซึ่งร้องตะโกนว่า

" หยุด หยุด ท่านเข้ามาในหมู่บ้านนี้ในชุดนี้ไม่ได้ เดี๋ยวผมจะทาสีท่านให้เป็นสีเขียวก่อน"

ฤาษีก็รีบวิ่งและหนีเข้าไปในบ้านของเศรษฐีได้ในที่สุด

ฤาษีได้พบกับเศรษฐีในบ้านและตำหนิว่า

" ทำไมเจ้าถึงเสียเงินทองและเวลามากมายเพื่อเปลี่ยนสิ่งต่างๆรอบตัวเจ้าเล่า

เราไม่ได้บอกให้เจ้าไปเที่ยวทาสีทุกอย่างให้เป็นสีเขียวเลย

เจ้าเพียงแค่สวมแว่นตาสีเขียวเท่านั้น

เจ้าก็จะมองเห็นทุกสิ่งรอบตัวเป็นสีเขียวแล้ว "

 

 

หากเราต้องการเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมรอบตัว

เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทุกคนหรือทุกอย่าง

เราเพียงแต่เปลี่ยนตัวของเราเองก่อน

แล้วเราจะพบว่าทุกสิ่งรอบตัวของเราก็จะเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับคุณส้มโอมือสำหรับบทความดีๆ !gd

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แต่ละบทความอ่านแล้วถึงกับอึ้งครับ เอามาอีกเยอะๆนะครับ ขอบคุณครับ B)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วิธีการแก้ปัญหา

เรื่องแรก

เมื่อองค์การนาซ่าได้เริ่มปล่อยจรวดเพื่อการสำรวจอวกาศ พวกเขาพบว่า ปากกาไม่สามารถเขียนได้ที่แรงโน้มถ่วงของโลกเท่ากับ 0 (น้ำหมึกไม่สามารถไหลออกมาที่กระดาษที่ต้องการเขียนได้) การแก้ปัญหานี้ ได้ใช้เวลาราว 10 ปีและได้ใช้เงินมูลค่า 12 ล้านดอลล่าห์ (480 ล้านบาท) พวกเขาได้สร้างปากกาที่สามารถใช้งานได้ที่แรงโน้มถ่วงเป็นศูนย์ เขียนแบบคว่ำ หรือเขียนที่ใต้น้ำได้ สามารถเขียนได้ ไม่ว่าสภาพผิวเป็นเช่นไร รวมทั้ง ผิว crystal และที่อุณหภูมิช่วงต่ำกว่าจุดเยือกแข็งจนถึงที่มากกว่า 300 องศาเซลเซียลได้ด้วยปัญหาแบบเดียวกัน ทางรัสเซีย ใช้ ดินสอ

 

เรื่องที่สอง

หนึ่งในเรื่องที่นิยมใช้ในการสอนที่ประเทศญี่ปุ่นได้แก่ เรื่องของการเกิดปัญหาที่ว่าสบู่ที่ลูกค้าซื้อไม่มีสบู่มาด้วย คือได้แต่กล่องเปล่าๆมา เรื่องนี้มาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ในการผลิตเครื่องสำอางของญี่ปุ่น ได้รับการร้องเรียนจากทางลูกค้าถึงปัญหาดังกล่าว ทางด้านวิศวกรที่รับผิดชอบ ได้แก้ปัญหาโดยการสร้างเครื่อง X-ray เพื่อการตรวจดูว่าภายในของกล่องสบู่มีสบู่หรือไม่ และเพื่อการนี้ก็ได้ให้คน 2 คนคอยเฝ้าที่จอ เพื่อดูให้แน่ใจได้ว่าไม่มีการหลุดของกล่องที่ไม่ได้บรรจุสบู่ไป แน่นอนว่าคน 2 คนที่ดูจอมอนิเตอร์คงไม่สนุกในการทำงานนี้เท่าไหร่

 

ด้วยปัญหาเดียวกัน พนักงานหน้างานที่บริษัทเล็กแห่งหนึ่ง เขาไม่ได้แก้ปัญหาโดยการสร้างเครื่อง X-ray แต่สิ่งที่เขาทำได้แก่ การใช้พัดลมอุตสาหกรรม(Blower) เป่าที่รางสายพานขณะที่กล่องสบู่วิ่งผ่าน กล่อง ที่ไม่ได้บรรจุสบู่เมื่อถูกลมก็จะปลิวออกนอกสายพานลำเลียงเอง

 

ในชีวิตจริงมีคนมากมายทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก เรื่องง่ายๆ ที่บางทีคนเราก็นึกไม่ถึง ปัญหาหลายอย่างไม่ได้มีทางออกแค่ทางเดียว

เยี่ยมมาก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วิธีการแก้ปัญหา

เรื่องแรก

เมื่อองค์การนาซ่าได้เริ่มปล่อยจรวดเพื่อการสำรวจอวกาศ พวกเขาพบว่า ปากกาไม่สามารถเขียนได้ที่แรงโน้มถ่วงของโลกเท่ากับ 0 (น้ำหมึกไม่สามารถไหลออกมาที่กระดาษที่ต้องการเขียนได้) การแก้ปัญหานี้ ได้ใช้เวลาราว 10 ปีและได้ใช้เงินมูลค่า 12 ล้านดอลล่าห์ (480 ล้านบาท) พวกเขาได้สร้างปากกาที่สามารถใช้งานได้ที่แรงโน้มถ่วงเป็นศูนย์ เขียนแบบคว่ำ หรือเขียนที่ใต้น้ำได้ สามารถเขียนได้ ไม่ว่าสภาพผิวเป็นเช่นไร รวมทั้ง ผิว crystal และที่อุณหภูมิช่วงต่ำกว่าจุดเยือกแข็งจนถึงที่มากกว่า 300 องศาเซลเซียลได้ด้วยปัญหาแบบเดียวกัน ทางรัสเซีย ใช้ ดินสอ

 

เรื่องที่สอง

หนึ่งในเรื่องที่นิยมใช้ในการสอนที่ประเทศญี่ปุ่นได้แก่ เรื่องของการเกิดปัญหาที่ว่าสบู่ที่ลูกค้าซื้อไม่มีสบู่มาด้วย คือได้แต่กล่องเปล่าๆมา เรื่องนี้มาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ในการผลิตเครื่องสำอางของญี่ปุ่น ได้รับการร้องเรียนจากทางลูกค้าถึงปัญหาดังกล่าว ทางด้านวิศวกรที่รับผิดชอบ ได้แก้ปัญหาโดยการสร้างเครื่อง X-ray เพื่อการตรวจดูว่าภายในของกล่องสบู่มีสบู่หรือไม่ และเพื่อการนี้ก็ได้ให้คน 2 คนคอยเฝ้าที่จอ เพื่อดูให้แน่ใจได้ว่าไม่มีการหลุดของกล่องที่ไม่ได้บรรจุสบู่ไป แน่นอนว่าคน 2 คนที่ดูจอมอนิเตอร์คงไม่สนุกในการทำงานนี้เท่าไหร่

 

ด้วยปัญหาเดียวกัน พนักงานหน้างานที่บริษัทเล็กแห่งหนึ่ง เขาไม่ได้แก้ปัญหาโดยการสร้างเครื่อง X-ray แต่สิ่งที่เขาทำได้แก่ การใช้พัดลมอุตสาหกรรม(Blower) เป่าที่รางสายพานขณะที่กล่องสบู่วิ่งผ่าน กล่อง ที่ไม่ได้บรรจุสบู่เมื่อถูกลมก็จะปลิวออกนอกสายพานลำเลียงเอง

 

ในชีวิตจริงมีคนมากมายทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก เรื่องง่ายๆ ที่บางทีคนเราก็นึกไม่ถึง ปัญหาหลายอย่างไม่ได้มีทางออกแค่ทางเดียว

 

เรื่องดีจริงๆๆๆ อยากบวกให้ 10 เลยอ่ะค่ะ :rolleyes: :)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อีก1วิธีแก้ปัญหา

ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว

มีเศรษฐีคนหนึ่งเป็นคนเจ้าอารมณ์และมักจะปวดศีรษะอยู่เป็นประจำ

วันหนึ่งเขาได้ประกาศว่า

จะให้รางวัลอย่างงามแก่คนที่สามารถรักษาอาการปวดศีรษะของเขาได้

หลายคนรวมทั้งหมอที่เชี่ยวชาญต่างก็มา

และเสนอแนะวิธีรักษาโรคปวดศีรษะของเศรษฐีผู้นี้

แต่ไม่มีใครสามารถทำให้เขาดีขึ้นได้

 

 

อยู่มาวันหนึ่ง มีฤาษีคนหนึ่งมาเยี่ยมท่านเศรษฐี

เศรษฐีได้บอกเกี่ยวกับโรคประจำตัวของเขาให้ฤาษีทราบ

ฤาษีจึงบอกกับท่านเศรษฐีว่า

" โธ่เอ้ย วิธีรักษาอาการปวดหัวของเจ้ามันง่ายนิดเดียว

นั่นก็คือเจ้าจะต้องมองทุกอย่างให้เป็นสีเขียวตลอดเวลา

แล้วอาการโรคของเจ้าจะหายไป"

เศรษฐีดีใจมากและคิดว่าสิ่งที่ฤาษีแนะนำเขานั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายมาก

วันรุ่งขึ้นท่านเศรษฐีจึงจ้างช่างทาสีหลายร้อยคน

มาช่วยกันทาสีของหมู่บ้านให้เป็นสีเขียวทั้งหมด

นอกจากนี้ด้วยความที่รวยมาก ยังซื้อเสื้อผ้าให้กับคนในหมู่บ้านทุกคนใส่

ในตอนนี้ไม่ว่าท่านเศรษฐีมองไปทางใดก็จะเป็นสีเขียวตลอดเวลา

 

 

ตามคำแนะนำของฤาษี อาการปวดศีรษะของเขาก็เริ่มดีขึ้น ๆ

เขาเริ่มเป็นคนยิ้มง่ายและมีความสุขมากขึ้น

สองสามเดือนถัดมา ท่านฤาษีได้กลับมาเยี่ยมเศรษฐีอีกครั้งหนึ่ง

แต่ก็ต้องเผชิญกับช่างทาสีคนหนึ่งซึ่งร้องตะโกนว่า

" หยุด หยุด ท่านเข้ามาในหมู่บ้านนี้ในชุดนี้ไม่ได้ เดี๋ยวผมจะทาสีท่านให้เป็นสีเขียวก่อน"

ฤาษีก็รีบวิ่งและหนีเข้าไปในบ้านของเศรษฐีได้ในที่สุด

ฤาษีได้พบกับเศรษฐีในบ้านและตำหนิว่า

" ทำไมเจ้าถึงเสียเงินทองและเวลามากมายเพื่อเปลี่ยนสิ่งต่างๆรอบตัวเจ้าเล่า

เราไม่ได้บอกให้เจ้าไปเที่ยวทาสีทุกอย่างให้เป็นสีเขียวเลย

เจ้าเพียงแค่สวมแว่นตาสีเขียวเท่านั้น

เจ้าก็จะมองเห็นทุกสิ่งรอบตัวเป็นสีเขียวแล้ว "

 

 

หากเราต้องการเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมรอบตัว

เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทุกคนหรือทุกอย่าง

เราเพียงแต่เปลี่ยนตัวของเราเองก่อน

แล้วเราจะพบว่าทุกสิ่งรอบตัวของเราก็จะเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน

 

โดนมากเลยค่ะ ณ ขณะนี้เป็นอยู่เลย ขอบคุณ มาก ๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับ คุณส้มโอมือ อยากให้รวบรวมไว้สักกระทู้จะได้ตามไปอ่านได้ เยี่ยมจริง ๆ ชอบมาก ๆ ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ด้วยคน +1 ให้ด้วยแล้วนะและเห็นด้วยว่า น่าจะรวบรวมไว้สักหนึ่งหรือรวมเป็นหนังสือก็ได้อยากเก็บไว้อ่านเหมือนกัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ยอดเยี่มมากคะ

นึกถึงคำกล่าวของ Einstein ที่ว่า. imagine is more important than knowledge

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...