ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ป๋าคะดอย 19000 กว่าๆขายก่อนดีมั๊ย หมดหน้าตักแล้วง่ะ

อัยยะ ! หมดหน้าตัก ไม่รู้ง่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักวิเคราะห์ชี้ทองคำหมดยุคทอง ขณะมีแนวโน้มดิ่งสวนทางตลาดหุ้นปีนี้

 

 

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ถ้าหากตลาดหุ้นทั่วโลกพุ่งขึ้นต่อไปในปีนี้ราคาทองก็อาจจะร่วงลงต่อไป เนื่องจากสินทรัพย์สองประเภทนี้เริ่มปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกันอีกครั้ง

ทั้งนี้ หลังจากราคาทองปรับตัวสอดคล้องกับดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐมาเป็นเวลานานเกือบ 10 ปี ขณะนี้ราคาทองและตลาดหุ้นก็เริ่มปรับตัวในทิศทางตรงกันข้าม โดยตลาดหุ้นพุ่งขึ้นและราคาทองดิ่งลง

หลังจากดัชนี S&P 500 ทะยานขึ้นมาแล้ว 10 % จากช่วงต้นปีนี้ ราคาทองก็ได้ดิ่งลงเข้าสู่ภาวะหมี โดยขณะนี้ราคาทองทรุดตัวลงมาแล้วราว 24 % จากระดับเมื่อหนึ่งปีก่อน

ข้อมูลของสแตนดาร์ด แบงก์ รีเสิร์ชระบุว่า ดัชนี S&P 500 และราคาทองในตลาดสปอตมีค่าความสัมพันธ์เป็นบวก โดยอยู่ที่ระดับ 0.6-0.9 ในปี 2004-2012 หลังจากที่เคยมีค่าติดลบในปี 1990-2003

นายวอลเตอร์ เดอ เวท นักวิเคราะห์ของธนาคารสแตนดาร์ด กล่าวว่า "ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นจะมีบทบาทสำคัญต่อราคาทองมากกว่าในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา และราคาทองกับตลาดหุ้นจะปรับตัวสวนทางกันมากยิ่งขึ้น ในขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปยังอัตราดอกเบี้ยและค่าเงินดอลลาร์"

นักวิเคราะห์ในโพลล์รอยเตอร์คาดว่า ตลาดหุ้นสหรัฐจะปรับตัวขึ้น ต่อไปในปีนี้ และจะทำสถิติสูงสุดใหม่อีก โดยทำลายสถิติสูงสุดเดิมที่ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์กับดัชนี S&P 500 เพิ่งทำไว้ในช่วงต้นปีนี้

ราคาทองเคยปรับตัวขึ้นรายปีเป็นเวลานานติดต่อกันถึง 12 ปี จนถึงช่วงสิ้นปี 2012 โดยได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ให้ดอกเบี้ย ในขณะที่การดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลายรอบที่ผ่านมาส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยร่วงลงสู่ระดับติดลบ

อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่ระดับต่ำและมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบธนาคาร ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นด้วยเช่นกัน และส่งผลลบต่อค่าเงินดอลลาร์

หลังจากเฟดดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมาเป็นเวลานานเกือบ 6 ปี ก็มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเฟดกำลังจะปรับลดขนาดมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์ และการปรับลดนี้จะส่งผลกระทบต่อราคาทองแต่อาจจะไม่ส่งผลลบมากนักต่อตลาดหุ้น

นายวิลเลม เซลส์ หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของธนาคารเอชเอสบีซี ไพรเวท กล่าวว่า "มีการคาดการณ์กันว่า ดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นหลังจากเฟดลดขนาด QE ลง และปัจจัยนี้จะส่งผลกระทบต่อราคาทอง ในขณะที่ตลาดหุ้นจะรักษาระดับความแข็งแกร่งไว้ได้ เพราะเฟดจะลดขนาด QE ลงก็ต่อเมื่อเฟดเชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะแข็งแกร่ง"

"เราคาดการณ์ในทางลบต่อราคาทอง และคาดการณ์ในทางบวกต่อตลาดหุ้น"

ตลาดทองเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในช่วง 13 ปี ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนได้เข้ามามีความสำคัญมากยิ่งขึ้นในฐานะผู้ซื้อทอง โดยปัจจุบันนี้นักลงทุนครองสัดส่วน 35 % ของปริมาณ การใช้ทองทั่วโลก เทียบกับระดับเพียง 9 % ในช่วงต้นทศวรรษ 2000

นายโทเบียส เมราธ หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์โลกของธนาคารเครดิต สวิส กล่าวว่า "การที่นักลงทุนเข้ามามีความสำคัญมากยิ่งขึ้นในตลาดทอง คือสาเหตุหลักที่ทำให้ค่าความสัมพันธ์กับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆเปลี่ยนแปลงไป"

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความเปลี่ยนแปลงด้านความสัมพันธ์นี้ ได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากการเปิดกองทุน ETF ทองตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมาด้วย โดยกองทุน ETF ทองคือกองทุนที่จำหน่ายหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากทอง

นายเดอ เวทกล่าวว่า "ในช่วงที่มีการเปิดกองทุน ETF ผู้จัดการกองทุนหลายแห่งก็โยกย้ายเงินลงทุนเข้าสู่กองทุน ETF เพื่อเป็นการกระจายการลงทุนในพอร์ท โดยไม่คำนึงถึงว่าตลาดหุ้นอยู่ในสภาพใดบ้างในช่วงนั้น"

"การโยกย้ายสินทรัพย์ดังกล่าวส่งผลให้ตลาดบิดเบือนไปจากความเป็นจริง และดูเหมือนว่าการโยกย้ายแบบนี้ได้สิ้นสุดลงแล้วในปัจจุบัน"

ข้อมูลของบริษัทแบล็คร็อคระบุว่า สินทรัพย์ทั้งหมดในตราสารอ้างอิง (ETP) ราคาทองคำทั่วโลกหดตัวลง 32 % สู่ 9.62 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงสิ้นเดือนพ.ค. จาก 1.412 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2012 และถือเป็นการดิ่งลงครั้งแรกนับตั้งแต่มีการเปิดกองทุน ETF ทองเป็นต้นมา

ราคาทองไม่เพียงแค่เคยปรับตัวสอดคล้องกับตลาดหุ้นสหรัฐเท่านั้น แต่ยังพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นสหรัฐมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปีด้วย

ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้นเพียง 6.7 % ต่อปีในช่วงระหว่างปี 2003-2012 แต่ราคาทองพุ่งขึ้น 17 % ต่อปีในช่วงเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ดี ในช่วงปีนี้นั้น ดัชนี S&P 500 ทะยานขึ้นมาแล้ว 14 % จากช่วงต้นปีนี้ แต่ราคาทองดิ่งลงกว่า 20 %

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่ราคาทองกลับมาปรับตัวสวนทางกับตลาดหุ้นอีกครั้งนั้น อาจจะส่งผลให้ทองมีความน่าดึงดูดในฐานะเครื่องมือกระจายความเสี่ยงในพอร์ทลงทุน

นายเซลส์กล่าวว่า "สาเหตุที่ทำให้เรายังคงถือครองทองเอาไว้ ก็เพื่อใช้ประกันความเสี่ยงที่มีความเป็นไปได้ต่ำแต่ส่งผลกระทบสูง (tail risk) โดยมีสินทรัพย์เพียงไม่กี่ประเภทเท่านั้นที่สามารถคุ้มครองคุณจาก tail risk และทองก็เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ดังกล่าว ส่วนสินทรัพย์อื่นๆอย่างเช่นพันธบัตรได้สูญเสียความสามารถในการกระจายความเสี่ยงไปแล้ว เพราะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงอยู่ในระดับต่ำมาก"

 

ที่มา สำนักข่าวรอยเตอร์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 26 มิถุนายน 2556 โดย YLG

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 26 มิถุนายน 2556 16:56:41 น.

กรุงเทพฯ--26 มิ.ย.--PRDD

สภาวะตลาดวันที่ 26 มิถุนายน 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,230.33—1,277.79 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ13 อยู่ที่ 18,320 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 700 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,020 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVQ13 อยู่ที่ 640 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 640 บาท

 

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.19 น.ของวันที่ 26/06/13)ออกมา คือ ออกมา คือ

 

แนวโน้มวันที่ 27 มิถุนายน 2556

ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้หนุนคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะชะลอโครงการซื้อพันธบัตรภายในปีนี้ และทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยลบสำหรับราคาทองคำ ดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 5 วันติดต่อกัน หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจในเชิงบวกหนุนความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของสหรัฐ และตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 3.5% แล้ว ในปีนี้เมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน ซึ่งดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นโดยรักษาระดับอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ที่ หลังจากมีการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้นเกินคาด ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 ปี นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันหลังจาก ธนาคารหลายแห่งปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาทองคำลงโดยธนาคารเครดิต สวิสปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาทองคำเฉลี่ยปีนี้เหลือ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จาก 1,580 ดอลลาร์ ส่วนโกลด์แมน แซคส์ปรับลดคาดการณ์ว่าราคาทองคำ ณ สิ้นปี 2556 จะอยู่ที่ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งลดลง 9.4% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ และมอร์แกน สแตนลีย์ ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำปี 2556 ลงเหลือ 1,409 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากระดับ 1,487 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประกอบกับกองทุนทองคำ SPDR ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ยังคงมีการขายทองคำออกมาอย่างต่อเนื่องด้วย โดยมีถือครองทองคำในระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี โดยถือครองทองคำต่ำกว่าระดับต่ำ 969.501 ตัน โดยลดการถือครองทองคำลงภายในวันเดียวถึง 16.232 ตัน ตัวเลขดังกล่าวได้สะท้อนมุมมองที่เป็นลบในตลาดทองคำมากยิ่งขึ้น

 

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นเพื่อหวังเก็งกำไรจากดีดตัวโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,220 หรือ 1,205 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาอาจจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,255 หรือ 1,268 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,220(17,850บาท) 1,205 (17,600บาท) 1,190 (17,380บาท)

แนวต้าน 1,255 (18,440บาท) 1,268 (18,530บาท) 1,280 (18,710บาท)

GOLD FUTURES (GFQ13)

แนวรับ 1,220 (18,060บาท) 1,205 (17,810บาท) 1,190 (17,590บาท)

แนวต้าน 1,255 (18,550บาท) 1,268 (18,740บาท) 1,280 (18,910บาท)

SILVER FUTURES (SVQ13)

แนวรับ 18.30 (628บาท) 18.00 (618บาท) 17.80 (612บาท)

แนวต้าน 19.05 (651บาท) 19.30 (659บาท) 19.65 (669บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

แนวรับแนวต้านฉบับปรับปรุงใหม่รับสถานการณ์

Support: - 1226.50, 1217.07, 1206.70, 1186.90, 1167.10

Resistance: - 1233.70, 1243.58, 1245.45, 1266.70 (main)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับพี่ใหญ่ ขอบคุณสำหรับ comment ก่อนหน้านี้ครับ..

 

เขาว่าให้ไปนั่งรอรับแถวๆ 1240 - 1235 - 1230 ครับ

 

เมื่อไหร่เหรอ? เขาตอบว่า เร็วๆ นี้ อาจเป็นวันศุกร์ดึกๆ มั๊ง

 

เฮ้ย..ไม่มาตามนัดนี่หว่า♡

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวยเต็มตา! เกาะกลางแผ่นดินรูปหัวใจ ทุ่งทะเลหลวง (แก้มลิง) ต.บ้านกล้วย อ.เมือง จ.สุโขทัย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่วงนี้ ฝนตกบ่อย ก่อนหยิบรองเท้ามาใส่ เขี่ยๆ สักนิดสักหน่อยนะครับ งูมันหนีน้ำหาที่ซุก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อัยยะ ! หมดหน้าตัก ไม่รู้ง่ะ

ขอบคุณค่ะป๋า แค่บ่นเฉยๆ จะเก็บดอยทองใว้เป็นที่ระลืกว่าตัวเองเป็นคนรวยทอง แต่เงินหมดแว้ว ววว ค้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Gold prices GCQ3 -3.36% dropped $44, or 3.5%, to $1,231.20 an ounce on the New York Mercantile Exchange, as investors worried that strong economic data will push the Federal Reserve to start tapering its bond-purchase program later this year.

 

The dollar rose for a sixth straight day, weighing on gold. Read also: U.S. ready for Fed taper, but rest of world isn't

 

อย่างที่กล่าวไว้ : นักลงทุนห่วงกังวล ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ดี จะเป็นตัวผลักดันให้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มที่จะลดวงเงิน QE ภายในปีนี้ ดอลล์สหรัฐฯ แข็งค่า 6 วันติดต่อกัน

http://www.marketwatch.com/story/stock-futures-higher-ahead-of-gdp-fed-speaker-2013-06-26?link=MW_home_latest_news

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

GDP (QoQ)

Actual:1.8%

Forecast:2.4%

Previous:2.4%

Importance: Currency:USDSource Of Report:Bureau of Economic Analysis (Release URL)

OverviewChartHistory

Gross Domestic Product (GDP) measures the annualized change in the inflation-adjusted value of all goods and services produced by the economy. It is the broadest measure of economic activity and the primary indicator of the economy's health.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the USD, while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the USD.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

GDP Price Index (QoQ)

 

Actual:1.3%

Forecast:1.1%

Previous:1.2%

Importance: Currency:USDSource Of Report:Bureau of Economic Analysis (Release URL)

OverviewChartHistory

The GDP Price Index measures the annualized change in the price of all goods and services included in gross domestic product.It is the broadest inflationary indicator.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the USD, while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the USD.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่วงนี้ ฝนตกบ่อย ก่อนหยิบรองเท้ามาใส่ เขี่ยๆ สักนิดสักหน่อยนะครับ งูมันหนีน้ำหาที่ซุก

 

:38 อุ๊ย !!!! น่ากลัวมาก

 

:01 ขอบคุณค่ะ คุณเด็กขายของ

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ที่บ้านสั่งมา ให้กินข้าว ยี่ห้อพวกนี้ อ้าว ! แล้วเวลากินนอกบ้าน ทำยังไงว่ะ ก่อนกินถามเขาก่อน คงโดนกระทืบแน่ๆๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ที่บ้านสั่งมา ให้กินข้าว ยี่ห้อพวกนี้ อ้าว ! แล้วเวลากินนอกบ้าน ทำยังไงว่ะ ก่อนกินถามเขาก่อน คงโดนกระทืบแน่ๆๆ

มันพิเศษตรงไหนเหรอ ไม่ได้ถามกวนนะ แต่อยากรุ้จริงๆ ที่บ้านกินหงษ์ทอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มันพิเศษตรงไหนเหรอ ไม่ได้ถามกวนนะ แต่อยากรุ้จริงๆ ที่บ้านกินหงษ์ทอง

เป็นข้าวสารผลิตใหม่ จากกลุ่มเกษตรกรรายย่อย มิใช่ ข้าวค้างโกดังฯ ครับ ......เชื่อถือ กรรมวิธีรมยาแบบ " ขอไปที " มั้ยล่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...