ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 10 กรกฎาคม 2556 07:27:54 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้นแตระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือน ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท อัลโค อิงค์

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.8% ปิดที่ 294.58 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,513.08 จุด เพิ่มขึ้น 63.01 จุด หรือ +0.98% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,057.75 จุด เพิ่มขึ้น 89.21 จุด หรือ +1.12% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,843.56 จุด เพิ่มขึ้น 19.73 จุด หรือ +0.52%

 

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทเอกชน รวมถึง อัลโค อิงค์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่สหรัฐปรับลดคาดการณ์ยอดขาดดุลงบประมาณ

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,300.34 จุด เพิ่มขึ้น 75.65 จุด หรือ +0.50% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,504.26 จุด เพิ่มขึ้น 19.43 จุด หรือ +0.56% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,652.32 จุด เพิ่มขึ้น 11.86 จุด หรือ +0.72%

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) หลังจากบริษัทอัลโค อิงค์ เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลดลง

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ ปิดที่ 103.53 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ ปิดที่ 107.81 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เพราะได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นเกินคาดของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 11 ดอลลาร์ หรือ 0.89% ปิดที่ 1,245.9 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ 19.138 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1363.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.00 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 697.35 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.95 ดอลลาร์

 

-- ราคาทองคำตลาดลอนดอนปิดวันทำการล่าสุด (9 ก.ค.) ที่ 1,255.50 ดอลล์/ออนซ์

-- สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) หลังจากประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณว่าอีซีบีอาจจะคงนโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไปอีกกว่า 1 ปี

 

ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.2787 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.2875 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.4869 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4949 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะ 0.9191 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9142 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 100.95 เยน จากระดับ 100.98 เยน และขยับขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9724 ฟรังค์ จากระดับ 0.9634 ฟรังค์

 

-- ดัชนี FTSE ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ท่ามกลางมุมมองที่เป็นบวกว่า ธนาคารกลางของหลายประเทศจะเดินหน้าใช้นโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจ ซึ่งบดบังการรายงานที่ระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมอังกฤษหดตัวลงอย่างเหนือคาดหมาย

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,513.08 จุด เพิ่มขึ้น 63.01 จุด หรือ 0.98%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

[Pete 15,187]

(เพิ่มเติม) S&P ลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลงสู่ระดับ BBB และให้แนวโน้มเชิงลบ

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 10 กรกฎาคม 2556 07:50:40 น.

สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลง 1 ขั้น สู่ระดับ BBB จากระดับ BBB+ พร้อมกับให้แนวโน้มเชิงลบ

 

เอสแอนด์พีระบุในแถลงการณ์ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจของอิตาลีอ่อนแอลง และเอสแอนด์พีอาจจะลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลงอีกในปีนี้ หรือ ปีหน้า

 

ทั้งนี้ เอสแอนด์พีคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอิตาลีจะหดตัวลง 1.9% ในปีนี้ และคาดว่าสัดส่วนหนี้สินต่อตัวเลขจีดีพีจะอยู่ที่ 129%

 

เอสแอนด์พีระบุว่า สาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจอิตาลีอยู่ในภาวะชะงักงัน เนื่องจากตลาดแรงงานและตลาดสินค้าอยู่ในภาวะที่ขาดความยืดหยุ่น

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

 

 

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $11 หลัง CPI จีนเพิ่มขึ้นเกินคาด

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 10 กรกฎาคม 2556 06:57:36 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เพราะได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นเกินคาดของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 11 ดอลลาร์ หรือ 0.89% ปิดที่ 1,245.9 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ 19.138 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1363.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.00 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 697.35 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.95 ดอลลาร์

 

สัญญาทองคำพุ่งขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เผยดัชนี CPI ของจีน ขยายตัว 2.7% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. โดยเพิ่มขึ้นจาก 2.1% ในเดือนพ.ค. และออกมาเหนือคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 2.5%

 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จากมาร์เก็ตวอชคาดว่า นักลงทุนจะเทขายสัญญาทองคำในวันพุธ เมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ประจำวันที่ 18-19 มิ.ย.

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วงหลังอีซีบีส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อ

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 10 กรกฎาคม 2556 07:23:28 น.

สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) หลังจากประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณว่าอีซีบีอาจจะคงนโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไปอีกกว่า 1 ปี

 

ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.2787 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.2875 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.4869 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4949 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะ 0.9191 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9142 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 100.95 เยน จากระดับ 100.98 เยน และขยับขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9724 ฟรังค์ จากระดับ 0.9634 ฟรังค์

 

สกุลนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีว่า อัตราดอกเบี้ยของกลุ่มประเทศยูโรโซนจะยังคงอยู่ที่ระดับต่ำ เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจรอดพ้นจากภาวะอ่อนแอ พร้อมกับกล่าวว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายได้ช่วยหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในยูโรโซน และเขายังเรียกร้องให้กลุ่มประเทศยูโรโซนยังคงดำเนินการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง ด้วยการเสริมความแข็งแกร่งทางการคลัง

 

เอชเอสบีซีระบุในรายงานฉบับหนึ่งว่า แม้มีสัญญาณของความมีเสถียรภาพในยูโรโซน แต่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ก็ยังไม่มีแนวโน้มที่จะยุติหรือชะลอนโยบายกระตุ้นทางการเงินในเร็วๆนี้

 

“มีสัญญาณเบื้องต้นหลายประการเกี่ยวกับความมีเสถียรภาพ หรืออย่างน้อยที่สุดก็ภาวะถดถอยที่มีความรุนแรงน้อยลงในประเทศส่วนใหญ่ในยูโรโซน โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) และคำสั่งซื้อสินค้าส่งออกสำหรับสเปนและอิตาลีได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าการฟื้นตัวจะยังคงอ่อนแรง" เอชเอสบีซีระบุในรายงานรายไตรมาส

 

เอชเอสบีซีเปิดเผยว่า ความท้าทายทางเศรษฐกิจและการเมืองสำหรับยูโรโซนยังคงมีความรุนแรง และขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเกี่ยวกับการเริ่มชะลอนโยบายผ่อนคลายทางการเงินนั้น ภารกิจของอีซีบีในการคงดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างเหมาะสมสำหรับสหภาพการเงินนั้น จึงเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

 

เอชเอสบีซีคาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของยูโรโซนจะขยายตัวเพียง 0.6% ในปี 2557 ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ของอีซีบีอยู่ 0.5% ดังนั้น อีซีบีจึงยังไม่มีแนวโน้มที่จะยุตินโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆนี้

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

 

[เด็กสยาม 172]

ขอบคุณค่ะป๋า ตอนนี้เริ่มระแวงชีวิตแล้วค่ะ ไหนจะโดนกั๊กราคา ไหนจะโดนค่าเงินบาทบาดซะเจ็บ

ไหนจะต้องรอซื้อขายตามเวลาขาย 9โมงเช้าถึง5โมงเย็นอีก พอจะมีจังหวะก็ไม่มีเวลา พอจะมีเวลาก็

ไม่มีโอกาศ พอจะได้ราคาก็โดนกั๊ก แฮ่ๆบ่นให้ป๋าฟังค่ะ มันอึดอัด มันรกอกค่ะ เพราะมันยกไม่ออก

[Pete 15,187]

(เพิ่มเติม1) IMF ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกเป็นขยายตัว 3.1% ปีนี้ เหตุศก.กลุ่มตลาดเกิดใหม่ชะลอตัว

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 9 กรกฎาคม 2556 22:30:00 น.

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2556 สู่ระดับ 3.1% ซึ่งลดลง 0.2% จากการคาดการณ์เมื่อเดือนเม.ย. เนื่องจากเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ขยายตัวช้าลง

 

ไอเอ็มเอฟระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกล่าสุดว่า การขยายตัวที่ช้าลงของเศรษฐกิจโลกเป็นผลมาจากอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่ที่สำคัญๆหลายแห่ง ตลอดจนภาวะถดถอยในยูโรโซนที่ยืดเยื้อมากขึ้น

 

 

นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2557 ลงสู่ระดับ 3.8% ซึ่งต่ำกว่าการประเมินในเดือนเม.ย.อยู่ 0.2%

 

รายงานระบุว่า ความเสี่ยงขาลงที่มีต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงมีอยู่ โดยในขณะที่ความเสี่ยงเดิมยังไม่หมดไป ก็กลับมีความเสี่ยงใหม่ๆผุดขึ้นมา ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่จะกินระยะเวลายาวนานขึ้น โดยไอเอ็มเอฟได้มุ่งเน้นไปที่ความเสี่ยงจากสินเชื่อที่ชะลอตัว และสถานการณ์ทางการเงินที่อาจตึงตัวขึ้น หากการชะลอนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในสหรัฐนำไปสู่การไหลออกของเงินทุนอย่างต่อเนื่อง

 

สำหรับตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนานั้น จำต้องเลือกระหว่างนโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่จะช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ กับนโยบายที่จะควบคุมการไหลออกของเงินทุน ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้ว ไอเอ็มเอฟแนะนำให้คงนโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่สนับสนุนการขยายตัว ผสมผสานกับการใช้มาตรการที่น่าเชื่อถือเพื่อการรักษาเสถียรภาพของหนี้ระยะกลาง และการปฏิรูปเพื่อฟื้นฟูงบดุลและช่องทางสินเชื่อ

 

ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 1.7% ในปี 2556 และจะขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นที่ 2.7% ในปี 2557 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงจาก 1.9% และ 3.0% ในการประเมินก่อนหน้านี้ตามลำดับ เนื่องจากการขาดดุลการคลังมากขึ้นได้บดบังอุปสงค์ภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น

 

เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวช้าลงที่ 7.8% และ 7.7% ในปีนี้และปีหน้าตามลำดับ ลดลงจาก 8.0% และ 8.2% ในรายงานครั้งก่อน

 

ด้านเศรษฐกิจยูโรโซน คาดว่าจะหดตัว 0.6% ในปี 2556 เทียบกับ 0.3% ในการประเมินก่อนหน้านี้ เนื่องจากอุปสงค์ที่อยู่ในระดับต่ำ ความเชื่อมั่นที่ซบเซา และงบดุลที่อ่อนแอ อย่างไรก็ดี ไอเอ็มเอฟยังคงมีมุมมองว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะพลิกกลับมาขยายตัวได้ในปีหน้า โดยคาดว่าเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรในปี 2557 จะขยายตัว 0.9% เทียบกับ 1.1% ในรายงานเดือนเม.ย.

 

ส่วนเศรษฐกิจญี่ปุ่น คาดว่าจะขยายตัว 2.0% ในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.4% จากรายงานเดือนเม.ย. แต่ไอเอ็มเอฟได้ลดคาดการณ์เศรษฐกิจญี่ปุ่นในปี 2557 เป็นขยายตัว 1.2% จากระดับ 1.4% ในรายงานก่อนหน้านี้ โดยให้เหตุผลถึงสภาพแวดล้อมทั่วโลกที่อ่อนแอลง

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

[Pete 15,187]

แรงกดดันเรื่องค่าเงินบาทลดลง-หวั่นเก็งกำไรตลาดอสังหาฯ

ชี้กนง.ไม่หั่นดอกเบี้ยรอบนี้

กูรูเศรษฐกิจ นายธนาคาร คาดการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน 10 ก.ค.นี้ จะยังไม่ตัดสนใจลดดอกเบี้ยนโยบาย หลังจากลดไปแล้วครั้งก่อน ชี้บาทเริ่มอ่อนไม่จำเป็นต้องสกัดเงินไหลเข้า? เชื่อแบงก์ชาติระมัดระวังตลาดอสังหาฯ จึงไม่รีบร้อนลดดอกเบี้ยตอนนี้

 

นายบัณฑิต นิจถาวร ประธานกรรมการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 10 ก.ค.นี้ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย

 

เชิงนโยบายไว้ที่เดิม เนื่องจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้นเป็นเพียงการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ซึ่งถึงแม้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจในขณะนี้จะยังคงชะลอตัวและกลไกของการใช้จ่ายมีทิศทางไม่คล่องตัว แต่เชื่อว่าในครึ่งปีหลังการลงทุนของภาครัฐหากเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้จะเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตได้

 

ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทของไทย ส่วนหนึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับเงินทุนจากต่างชาติที่จะไหลเข้าว่ามีความผันผวนมากน้อยแค่ไหน ซึ่งมีโอกาสกระทบต่อค่าเงินบาทของไทยได้อีกครั้ง ทั้งนี้มองว่าในระยะยาวควรจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเป็นไปตามทิศทางของตลาดทั่วโลก

 

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากที่ทาวคณะกรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25 % เนื่องจากสถานการณ์เงินทุนไหลเข้าประเทศจำนวนมากในขณะนั้น และในวันที่ 10 กรกฏาคม 2556 ที่ทาง กนง. จะแถลงภาพรวมเศรษฐกิจ ส่วนตัวมองว่าช่วงนี้ค่าเงินอ่อนค่าลง เศรษฐกิจโดยรวมและตลาดตราสารทุนดีขึ้น คาดว่า กนง.จะคงดอกเบี้ยให้อยู่ในอัตราเดิมคือ 2.50 % ไป

 

อีกสักระยะหนึ่ง ซึ่งคิดว่าเป็นดอกเบี้ยที่เหมาะสม

หากมีการใช้ดอกเบี้ยต่ำในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรระมัดระวังใครครบทุกด้าน เพราะอาจมีการย้ายการเก็งกำไรเข้าไปในตลาดอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น ถึงแม้ช่วงนี้อาจเห็นการบริโภคที่น้อยลงแต่คาดว่าหลังจากไตรมาสสามจะเริ่มเห็นอัตราการฟื้นตัวที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ

 

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี ประเมินว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50 % ในการประชุมวันพุธที่ 10 ก.ค.นี้ ?แม้ว่าหลายฝ่ายจะปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในครึ่งหลังของปี

 

อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจจะมีสัญญาณแผ่วที่ชัดเจน แต่ก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นรับรู้ผลกระทบจากความเสี่ยงที่เกิดขึ้น โดยกนง.น่าจะรอดูเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจในเดือนมิถุนายน โดยเฉพาะด้านการส่งออก รวมถึงตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ที่จะประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนสิงหาคม ว่าเป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดหรือไม่ และกนง.ได้ลดดอกเบี้ยนโยบายไปเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมแล้ว น่าจะรอดูผลก่อนว่านโยบายที่ได้ใช้ไปนั้น มีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน

 

นอกจากนี้ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงมา ทำให้แรงกดดันในการลดดอกเบี้ยนโยบายเพื่อชะลอเงินทุนไหลเข้าลดลง โดยในเดือนมิถุนายนค่าเงินบาทโดยเฉลี่ยเท่ากับ 30.8 บาทต่อดอลลาร์ จากที่แข็งค่าในเดือนเมษายนเฉลี่ยที่ 29.1 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งค่าเงินบาทในปัจจุบันถือว่าเป็นระดับที่ผู้ส่งออกยอมรับได้ รวมทั้งสินเชื่อและหนี้ภาคครัวเรือนที่ขยายตัวในระดับสูง อาจส่งผลลบต่อการบริโภคในระยะต่อไป การตรึงดอกเบี้ยนโยบายจึงเป็นการลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากหนี้ภาคครัวเรือนในอนาคตได้

 

“หากพิจารณาอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมิถุนายนชะลอลงอยู่ที่ 2.3 % ทำให้ช่วงครึ่งปีแรกขยายตัวที่ 2.7 % ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำ โดยคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง และอยู่ในกรอบเงินเฟ้อเป้าหมายของกนง. ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนหากต้องลดดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต” ศูนย์วิจัยฯระบุ

 

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี มองว่ากนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ไว้ และจะยังคงจับตามองเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสอง และหนี้สินภาคครัว เรือน ขณะที่แรงกดดันในเรื่องของค่าเงินบาทและอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง

 

ศูนย์วิจัยฯระบุอีกว่าการฟื้นตัวอย่างเปราะบางของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการหดตัวของเศรษฐกิจยุโรปและการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนที่ต่ำกว่าคาดนั้น เป็นปัจจัยเสี่ยงภายนอกที่มีผลต่อเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจจีนที่มีปัญหาทั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสแรกที่ 7.7% ต่ำกว่าตลาดคาด และการส่งออกที่ขยายตัวชะลอลงในเดือนพฤษภาคมเพียง 0.9% อาจส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานของกิจกรรมการผลิตในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงภาคการส่งออกของไทยด้วยที่ในปีนี้อาจขยายตัวได้เพียงเล็กน้อย แม้ว่าจะเห็นการฟื้นตัวในส่วนของเศรษฐกิจสหรัฐฯและเศรษฐกิจญี่ปุ่น แต่ยังคงเป็นการฟื้นตัวที่เปราะบาง รวมถึงการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะปรับลดวงเงินนโยบายQE ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปีนี้ ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นสำคัญ อาจมีความเสี่ยงต่อตลาดเงินของไทยในอนาคต

 

สำหรับปัจจัยเสี่ยงภายใน การจับจ่ายใช้สอยของภาคเอกชนนั้นคาดว่าจะอ่อนตัว เป็นผลจากรายได้เกษตรกรที่ลดลงตามราคาสินค้าเกษตร และหลังจากการส่งมอบรถในนโยบายรถคันแรกสิ้นสุดลง ทำให้การบริโภคภาคเอกชนลดลง ขณะที่การใช้จ่ายและการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ มีความเป็นไปได้ที่จะเบิกจ่ายเบิกจ่ายไม่ทันในปีนี้ เนื่องจากยังต้องดำเนินการอีกหลายขั้นตอน โดยเฉพาะหากติดประเด็นการขัดรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ปัจจัยที่กล่าวข้างต้น จะเป็นความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยที่กนง.จะนำใช้ในพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโนบายในครั้งนี้

 

ที่มา หนังสือพิมพ์แนวหน้า (วันที่ 10 กรกฎาคม 2556)

 

[Pete 15,187]

Rumour hitting that China’s June trade is down 2%

Wed, Jul 10 2013, 01:56 GMT | Forex Live

 

By: Eamonn Sheridan

Treat with much care, just a rumour

ข่าวลือเกิดขึ้น ในเรื่องของรายงานการค้าจีนที่ ลดลง ของจริงไม่ยอมออกมาตอนนี้ ซึ่งมีการบอกว่า จะรายงานตอน 9 โมงเช้าที่ผ่านมา

[Pete 15,187]

Chinese Exports (YoY)

Actual:-3.1% ยอดส่งออกของจีนลดลง มาที่ -3.1% ต่ำกว่าเดิม และต่ำกว่าคาดการณ์มาก ส่อเศรษฐกิจชลอตัวแรง

Forecast:4.0%

Previous:1.0%

Importance: Currency:CNYSource Of Report:National Bureau of Statistics China (Release URL)

OverviewChartHistory

Exports of goods and services consist of transactions in goods and services (sales, barter, gifts or grants) from residents to non-residents.

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the CNY , while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the CNY.

[Pete 15,187]

Chinese Imports (YoY)

Actual:-0.7% ในส่วนยอดนำเข้า ก็ลดลงเยอะ ต่ำกว่าคาด

Forecast:8.0%

Previous:-0.3%

Importance: Currency:CNYSource Of Report:National Bureau of Statistics China (Release URL)

OverviewChartHistory

Chinese Imports measures all goods and services brought into the country from another country in a legitimate fashion, typically for use in trade. Import goods or services are provided to domestic consumers by foreign producers. A lower than expected number should be taken as positive to the CNY while a higher than expected number as negative

[chaiklang 161]

สวัสดีตอนเช้าครับป๋า

 

กราฟรหัสป๋าชี้ว่า น่าเริ่มเก็บ

 

ผมล่ะกลัวใจลุงเบน อยู่คนเดียว

 

มาช่วงตลาดบ้านเรากำลังกรนได้ที่ด้วย

 

รอลุ้นด้วยกันนะครับ

 

ขอบคุณป๋าสำหรับวิเคราะห์ยามเช้าครับ

[namchiang 468]

ทองปิดพุ่ง $11 หลัง CPI จีนเพิ่มขึ้นเกินคาด

วันพุธ, 10 กรกฎาคม 2556 08:26 | อัพเดตล่าสุดเมือ วันพุธ, 10 กรกฎาคม 2556 08:26 | วันเผยแพร่ | |

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค.พุ่งขึ้น 11 ดอลลาร์ หรือ 0.89% ปิดที่ 1,245.9 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เพราะได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นเกินคาดของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน

 

สัญญาทองคำพุ่งขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เผยดัชนี CPI ของจีน ขยายตัว 2.7% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. โดยเพิ่มขึ้นจาก 2.1% ในเดือนพ.ค. และออกมาเหนือคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 2.5%

 

นักวิเคราะห์จากมาร์เก็ตวอช คาดว่า นักลงทุนจะเทขายสัญญาทองคำในวันพุธ เมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ประจำวันที่ 18-19 มิ.ย.

 

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ 19.138 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1363.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.00 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 697.35 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.95 ดอลลาร์

 

http://www.moneychannel.co.th/

[namchiang 468]

<div>ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งขึ้น หลังดอลล์อ่อน, เงินเฟ้อจีนเพิ่มสูงเกินคาด</div>

<div> </div>

<div>  </div>

<div>ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 9 กรกฎาคม 2556 20:25:39 น.</div>

<div>ราคาทองฟิวเจอร์ทะยานขึ้น หลังจีนเผยดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.ย.พุ่งสูงสุดในรอบ 4 เดือน ซึ่งช่วยกระตุ้นแรงซื้อ เนื่องจากนักลงทุนมักใช้ทองเป็นตัวปกป้องความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และมองว่าทองคำสามารถเก็บรักษามูลค่าได้</div>

<div> </div>

<div>ณ เวลาประมาณ 20.00 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 15.60 ดอลลาร์ หรือ 1.26% แตะที่ 1,250.50 ดอลลาร์/ออนซ์</div>

<div> </div>

<div> </div>

<div>  </div>

<div>สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน ขยายตัว 2.7% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. โดยเพิ่มขึ้นจาก 2.1% ในเดือนพ.ค. และออกมาเหนือคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 2.5%</div>

<div> </div>

<div>ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ ซึ่งรวมถึงยูโร ทำให้สัญญาทองคำที่ซื้อขายกันในสกุลเงินดอลลาร์มีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่นๆ</div>

<div> </div>

<div>สัญญาทองคำเดินหน้าขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ที่พุ่งขึ้น 22.2 ดอลลาร์ หรือ 1.83% ปิดที่ 1,234.9 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเพื่อเก็งกำไร หลังจากสัญญาทองคำดิ่งลงไปกว่า 3% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา</div>

<div> </div>

<div>อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--</div>

 

[auntnextdoor 4,268]

ขอบคุณป๋า

[Pete 15,187]

นักบริหารเงินจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.22/24 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.29/30 บาท/ดอลลาร์

วันนี้คาดว่าเงินบาทคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ แต่มีโอกาสที่จะไปในทิศทางแข็งค่าได้มากกว่าอ่อนค่า โดยวันนี้ต้องจับตาดูการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) รวมทั้งรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด(FOMC)

"ตลาดคาดว่ารอบนี้ กนง.น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.50% แต่ที่สำคัญคือต้องดูว่าจะมีถ้อยแถลงต่อมุมมองเศรษฐกิจอย่างไร ซึ่งจุดนี้น่าจะมีผลในการ drive ในประเทศได้" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงินคาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.20-31.30 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.13 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อวานนี้ที่ระดับ 101.25 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2777 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อวานนี้ที่ระดับ 1.2862 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.วันนี้อยู่ที่ 31.3550 บาท/ดอลลาร์

- จับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)วันนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าที่ประชุมกนง.รอบนี้จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.50% เนื่องจากไม่มีแรงกดดันจากทั้งเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราเงินเฟ้อ

- นายบัณฑิต นิจถาวร ประธานกรรมการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 10 ก.ค.นี้ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยเชิงนโยบายไว้ที่เดิม เนื่องจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้น เป็นเพียงการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ถึงแม้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจในขณะนี้จะยังคงชะลอตัว และกลไกของการใช้จ่ายมีทิศทางไม่คล่องตัว

- "สมาคมตลาดตราสารหนี้"ชี้ตลาดแรกยอดตราสารหนี้คงค้างเพิ่ม 3.4% แตะ 8.88 ล้านล้านบาท ขณะที่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ย ต่อวันในตลาดรองเพิ่มขึ้น 20% ประเมินครึ่งปีหลัง เอกชนออกหุ้นกู้ต่อเนื่อง ประมาณ 2 แสนล้าน หวังล็อกต้นทุนการเงิน รับดอกเบี้ยขาขึ้น เชื่อตลาดตราสาร หนี้ไทยยังน่าลงทุน คาดครึ่งหลังเงินไหล ออกต่างชาติมีแนวโน้มชะลอตัว มั่นใจทั้งปีเงินต่างชาติยังไหลเข้าสุทธิ

- สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(9 ก.ค.) หลังจากประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณว่าอีซีบีอาจจะคงนโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไปอีกกว่า 1 ปี

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เพราะได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นเกินคาดของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 11 ดอลลาร์ หรือ 0.89% ปิดที่ 1,245.9 ดอลลาร์/ออนซ์

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากมาร์เก็ตวอชคาดว่า นักลงทุนจะเทขายสัญญาทองคำในวันพุธ เมื่อธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด(FOMC) ประจำวันที่ 18-19 มิ.ย.

- สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์(เอสแอนด์พี) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลง 1 ขั้น สู่ระดับ BBB จากระดับ BBB+ พร้อมกับให้แนวโน้มเชิงลบ โดยระบุในแถลงการณ์ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจของอิตาลีอ่อนแอลง และเอสแอนด์พีอาจจะลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลงอีกในปีนี้หรือปีหน้า

- สำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยมูลค่าการส่งออกในเดือนมิ.ย.หดตัวลง 3.1% จากปีก่อน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1% ในเดือนพ.ค. ขณะที่การนำเข้าเดือนมิ.ย.ลดลง 0.7% เทียบรายปี เมื่อเทียบกับที่ขยับลง 0.3% ในเดือนพ.ค. ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 2.71 หมื่นล้านดอลลาร์จาก 2.04 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค.

- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นเช้านี้ โดยการนำของหุ้นกลุ่มบริษัทวัตถุดิบ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประชุมนโยบายการเงินเดือนก.ค.ในวันนี้ รวมถึงข้อมูลการค้าเดือนมิ.ย.ของจีน

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ หลังจากบริษัทอัลโค อิงค์ เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของ สหรัฐจะปรับตัวลดลง โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ ปิดที่ 103.53 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ ปิดที่ 107.81 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ที่มา: ทันหุ้น(วันที่ 10 กค.56)