ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ตลาดหุ้นเอเชีย ยังคงดิ่งลงต่อเนื่องวันนี้ จากความวิตกปัญหาเศรษฐกิจโลก หลังสหรัฐถูกเอสแอนด์พี ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ร่วงลงร้อยละ 2 ดัชนีคอมโพสิตเกาหลีใต้ ทรุดลงถึงกว่าร้อยละ 6 ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง สิงคโปร์ และอินเดีย ต่างก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน นักวิเคราะห์ เตือนว่าตลาดหุ้นโลกจะยังคงเผชิญความผันผวนเช่นนี้ต่อไปอีกหลายสัปดาห์.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำ พุ่งทะลุออนซ์ละ 1, 700 ดอลลาร์สหรัฐ สวนทางราคาน้ำมันที่ปรับลดลงจากความกังวลปัญหาเศรษฐกิจ

 

ราคาทองคำ ซื้อขายวันนี้ที่ตลาดฮ่องกง พุ่งแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ออนซ์ละ 1, 704.30 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ต่างหันความสนใจมาที่ตลาดทองคำ แทนการลงทุนในตลาดหุ้น หลังเกิดความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของสหรัฐและยุโรป ด้านราคาน้ำมันดิบเอเชีย ซื้อขายวันนี้ที่ตลาดสิงคโปร์วันนี้ ปรับลดลงกว่า 2% จากปัจจัยลบเดียวกัน โดยน้ำมันดิบไลท์ สวีต นัดส่งมอบเดือนกันยายน ราคาทรุดลงถึง 2 ดอลลาร์ 33 เซนต์ มาอยู่ที่บาร์เรลละ 84 ดอลลาร์ 55 เซนต์ เช่นเดียวกับน้ำมันดิบเบรนท์ ราคาร่วงลงเกือบ 3 ดอลลาร์ หรือ 2.66% มาอยู่ที่บาร์เรลละ 106 ดอลลาร์ 46 เซนต์.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

สื่อจีน รุมต่อว่าชาติตะวันตก ไร้ความรับผิดชอบ ทำการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหยุดชะงัก

 

หนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี สื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลจีน เขียนบทบรรณาธิการ วิจารณ์ชาติตะวันตกว่าไร้ความรับ ผิดชอบในการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะ จนเป็นเหตุให้การ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกต้องตกอยู่ภายใต้ความเสี่ยง ก่อนหน้านี้สำนักข่าวซินหัว สื่อของทางการจีน ออกมาแนะรัฐบาลวอชิงตันและพรรรริพับลิกันฝ่ายค้าน เลิกเถียงกันว่าใครเป็น ตัวการทำให้ประเทศต้องถูกลดอันดับเครดิต และควรหันมาช่วยกันแก้ปัญหาจะดีกว่า เสียงตำหนิดังกล่าวสะท้อนความ ไม่พอใจของทางการจีนเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ของสหรัฐ เนื่อง จากปัจจุบันจีนถือเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่สุดของรัฐบาล วอชิงตัน

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ออสเตรเลีย เชื่อเศรษฐกิจแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับวิกฤติครั้งใหม่ หลังตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง

 

นายเวน สวอน รัฐมนตรีคลังออสเตรเลีย กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจออสเตรเลียจะสามารถรับมือกับวิกฤติการเงินรอบใหม่ได้ ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นโลกจากความวิตกปัญหาหนี้ของสหรัฐและยุโรป โดยนายสวอน ระบุรายงานล่าสุดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ถือเป็นตัวบ่งชี้ได้เป็นอย่างดีว่าเศรษฐกิจออสเตรเลียมีความมั่นคงมากพอที่จะผ่านพ้นวิกฤติไปได้ อย่างไรก็ดี นายสวอนกล่าวว่าขณะนี้ออสเตรเลีย ยังคงต้องจับตาสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปอย่างใกล้ชิด หลังสหรัฐถูกเอสแอนด์พีลดอันดับความน่าเชื่อถือลงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
:lol: ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
:lol: ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
B) ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
B) ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมื่อร่ำรวย ต้องช่วยเหลือสังคมและผู้ยากไร้

หน้าที่ ของมนุษย์นั้นมีความแตกต่างกันไปตามสถานภาพที่เป็นอยู่ บางคนทำหน้าที่แม่ บางคนทำหน้าที่ลูก และอีกหลาย หน้าที่เพิ่มเข้ามา ตามความสามารถตามวัย ตามกาลเวลาของแต่ละคน แต่สิ่งสำคัญควรทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ถูกต้อง คนเราเกิดมาใช่ว่าจะต้องรับผิดชอบเพี่ยงตัวเองเท่านั้น สิ่งหนึ่งที่เราควรมี นอกเหนือจากชีวิตของเรานั้นคือ การรับผิดชอบ สังคม การรับผิดชอบคนที่อยู่รอบข้าง หน้าที่ทางสังคม ถึงแม้จะไม่ใช้หน้าที่โดยตรง แต่เป็นสิ่งที่เกิดจากความสำนึกดีที่จะช่วยเหลือสังคม

คนจีนมีครวาโดนเด่นในเรื่องการบริหารธุรกิจ แต่กว่าที่พวกเขาจะกลายมาเป็นนักธุระกิจนักการค้าจนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปได้ พวกเขาต้องผ่านความยากลำบากเพียงใด เห็นได้จากความเพียรพยายามของเขา และสิ่งหนึ่งที่เขาสละให้สังคมคือ การตอบแทนชาติตอบแทนแผ่นดิน ที่เขาอาศัยอยู่ในรูปแบบที่แต่งต่างกันออกไป เช่น การช่วยเหลือคนชราคนตกทุกข์ได้ยาก โดยเฉพาะในเรื่องการให้ความช่วยเหลือคนชรา คนจีนให้ความเคารพผู้อาวุโส และไม่มีการดูถูกเหยียดหยามกัน อย่างคำที่ว่า "ในขณะที่อยู่ในฐานะร่ำรวย ควรเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ที่ลำบาก ในขณะที่ยังหนุ่มมีกำลังวังชา ควรรู้ซึ้งถึงความทุกข์ทรมานของคนเฒ่าคนชรา ความหยิ่งทะนงที่เกิดจากการมีทรัพย์ มีฐานะร่ำรวยแล้วเหยียบย่ำผู้อื่น ไม่ใช่สิ่งที่ดี ไม่ใช่บ่อเกิดแห่งความเจริญรุ่งเรือง ควรรู้จักมองให้ไกลพิจารณาสิ่งรอบตัว ใหรอบคอบคิดถึงอนาคตเมื่อแก่ตัว หากไม่มีค่าในสายตาใคร ถึงร่ำรวยไม่มีใครเหลียวแล ไม่มีใครอยากคบหา ชีวิตใช่จะหยุดอยู่ที่ความร่ำรวย หรือวัยหนุ่มสาว ร่างกายย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ทุกสิ่งไม่แน่นอน รวยล้นฟ้าอาจกลับมาจนแทบไม่มีกิน จึงไม่ควรมองข้ามผู้ยากไร้

ที่มาคัมภีร์เจ้าสัวจีน อาก๋งสอนว่า........ อากู่ คนแช่จัง :เขียน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
B) ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมื่อวันที่ 8 ส.ค. นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (9 ส.ค.) บางจากฯจะปรับลดราคากลุ่มเบนซิน 60 สตางค์ต่อลิตร และอี 85 ลดลง 30 สตางค์ต่อลิตร ส่วนราคาดีเซลไม่เปลี่ยนแปลง หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงแรงทำให้ค่าการตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 2.60 บาทต่อลิตร ซึ่งหากราคาน้ำมันไม่เพิ่มขึ้นรุนแรง คาดว่าแนวโน้มราคาน้ำมันจะลดลงอีกหลังปรับลดราคาในวันพรุ่งนี้แล้ว ส่วนสาเหตุที่ไม่สามารถลดได้ครั้งละมากกว่า 60 สตางค์ต่อลิตร เนื่องจากดีลเลอร์จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนของการจำหน่ายน้ำมัน จึงจะทยอยปรับลด และส่วนของดีเซลคาดว่า คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จะประชุมเร็วๆ นี้ เพื่อเก็บเงินเข้ากองทุนเพิ่มขึ้น จากปัจจุบัน 1.90 บาทต่อลิตร ตามนโยบายดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
B) ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
:wacko: ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การ์โลส สลิม มหาเศรษฐีชาวเม็กซิกัน เจ้าของตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของโลกใน 2 ปีล่าสุดมีอันต้องสูญเสียทรัพย์สินของตนไปกว่า 6,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ  200,000 ล้านบาทภายในระยะเวลาเพียงแค่สัปดาห์เดียว  หลังจากที่ดัชนี "S&P 500"ของสหรัฐฯ ปรับตัวร่วงลงถึง 7.2 เปอร์เซ็นต์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา   จากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศยูโรโซน...

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ว่า การ์โลส สลิม เอลู มหาเศรษฐีชาวเม็กซิกัน เจ้าของตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของโลกใน 2 ปีล่าสุดมีอันต้องสูญเสียทรัพย์สินของตนไปกว่า 6,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ  200,000 ล้านบาทภายในระยะเวลาเพียงแค่สัปดาห์เดียว  หลังจากที่ดัชนี "S&P 500"ของสหรัฐฯ ปรับตัวร่วงลงถึง 7.2 เปอร์เซ็นต์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา   จากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศยูโรโซน

 

รายงานข่าวระบุว่า   สลิม วัย 71 ปี ต้องสูญเสียเงินจำนวนดังกล่าวไปในพริบตา หลังจากการตกระนาวอย่างต่อเนื่องของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์คของสหรัฐฯ  และ ดัชนี " อินดิเซ เด เปรซิโอส อี โกติซาซิโอเนส" ในตลาดหลักทรัพย์ของเม็กซิโกนับตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค . ที่ผ่านมา

 

ขณะเดียวกัน  การที่ค่าเงินเปโซของเม็กซิโกร่วงลงกว่า 2.3 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเดียวกันก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ทรัพย์สินของสลิม เจ้าของกิจการด้านโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกา ต้องหาย ออกจากกระเป๋าของเขาไปไม่น้อยเช่นกัน

 

ทั้งนี้  สลิมซึ่งรั้งตำแหน่งอภิมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันจากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์เมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา ถูกระบุว่ามีทรัพย์สินในครอบครองทั้งสิ้น 74,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือราว 2.2 ล้านล้านบาท.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
:lol: ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...