ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ขอบคุณ คุณส้มโอมือครับ มุมมองมีประโยชน์จริงๆ :) :)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เตือน.. ! ระวังภัย ได้มีการวิจัยและพบข้อมูลที่น่าตื่นตระหนกเกี่ยวกับข้าวที่เรากินอยู่ทุกวัน

 

สมควรที่ จะให้ประชาชนชาวไทยได้ทราบโดยทั่วกัน...ดังนี้

 

1. อาชญากรชาวไทยร้อยละ 98 นิยมบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก เป็นไปได้หรือไม่ว่าในข้าวจะมีสารสำคัญบางชนิด เช่น complex carbohydrate จะมีฤทธิ์ กระตุ้นต่อมจริตคิดร้าย (น่ากลัวมาก)

 

2. เยาวชนไทยร้อยละ 50 ซึ่งเติบโตมาในครอบครัวที่กินข้าววันละ 3 มื้อ มีผลการเรียนอยู้ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกึ่งกลางในชั้นเรียน

 

3. ในช่วงสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ซึ่งยังไม่มีหม้อหุงข้าวไฟฟ้าการหุงข้าวอย่างเปิดโล่ง ที่ชานเรือน และไอจากหม้อหุงข้าวสามารถแผ่กระจายไปทั่วบ้านเรือน พบว่าอายุฉลี่ย ของคนในยุคนั้นไม่เกิน 45 ปี ผิดกับคนรุ่นใหม่ที่หุงข้าวในภาชนะที่ปิดมิดชิด มีอายุเฉลี่ย ถึง 75 ปี

 

4. การฉกชิงวิ่งราวและการปล้นสดมภ์มักเกิดภายหลังการรับประทานข้าวไม่เกิน24 ชั่วโมง

 

5. ผู้วิจัยได้ทดลองกรอกปากหนูทดลองด้วยข้าวสาร 1 กิโลกรัมต่อตัว ปรากฏว่าหนูทดลองตายเรียบ เรื่องนี้น่าวิตกมาก เพราะประชากรไทยบริโภคข้าวสาร ถึงปีละ 100 กิโลกรัมต่อคน

 

6. จากการสำรวจอย่างคร่าวๆพบว่าคนไทยที่กินข้าวทุกคนจะ เสียชีวิตภายใน 7 วัน(ระหว่างวันอาทิตย์ถึงวันเสาร์)

 

7. จากบันทึกของชาวถ้ำโบราณที่ยังไม่รู้จักปลูกข้าว อาศัยหัวเผือกหัวมันเป็นอาหาร พวกเขาไม่เคยป่วยหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางเครื่องบินและโรคเอดส์ เลยแม้ แต่คนเดียว

 

8. ผู้วิจัยสามารถพิสูจน์ได้ว่า ข้าวมีฤทธิ์เป็นยาเสพติด โดยอาสาสมัครที่อดกินข้าว 12 ชั่วโมง จะมีอาการคล้ายกับคนลงแดง คือ หงุดหงิด น้ำกรดในกระเพาะหลั่งมาก หากไม่ได้ เสพข้าวเป็นเวลานาน อาจอ่อนเพลีย ตาขวาง พูดคำหยาบ และพยายามแหกกรงออกมาหาข้าวรับประทาน บางรายถึงขนาดร้องขอข้าวกินอย่างไม่ละอายต่อบาปกรรม

 

9. ข้าวเป็นพาหะนำสารอื่นๆที่อันตรายมากเข้าสู่ร่างกาย เช่น ขาหมู เนื้อย่าง แกงส้ม ไข่เจียว และอื่นๆ (หิววววววว)

 

10. ประชาชนที่กินข้าวติดต่อกันเป็นเวลานานๆ จะขาดความสามารถในการแยกแยะว่างานวิจัยชิ้นใด... น่าเชื่อถือ งานวิจัยชิ้นใด...ไร้สาระ หลอกหลวงประชาชน

 

จึงเตือนมาด้วยความปรารถนาดี......

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เตือน.. ! ระวังภัย ได้มีการวิจัยและพบข้อมูลที่น่าตื่นตระหนกเกี่ยวกับข้าวที่เรากินอยู่ทุกวัน

 

สมควรที่ จะให้ประชาชนชาวไทยได้ทราบโดยทั่วกัน...ดังนี้

 

1. อาชญากรชาวไทยร้อยละ 98 นิยมบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก เป็นไปได้หรือไม่ว่าในข้าวจะมีสารสำคัญบางชนิด เช่น complex carbohydrate จะมีฤทธิ์ กระตุ้นต่อมจริตคิดร้าย (น่ากลัวมาก)

 

2. เยาวชนไทยร้อยละ 50 ซึ่งเติบโตมาในครอบครัวที่กินข้าววันละ 3 มื้อ มีผลการเรียนอยู้ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกึ่งกลางในชั้นเรียน

 

3. ในช่วงสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ซึ่งยังไม่มีหม้อหุงข้าวไฟฟ้าการหุงข้าวอย่างเปิดโล่ง ที่ชานเรือน และไอจากหม้อหุงข้าวสามารถแผ่กระจายไปทั่วบ้านเรือน พบว่าอายุฉลี่ย ของคนในยุคนั้นไม่เกิน 45 ปี ผิดกับคนรุ่นใหม่ที่หุงข้าวในภาชนะที่ปิดมิดชิด มีอายุเฉลี่ย ถึง 75 ปี

 

4. การฉกชิงวิ่งราวและการปล้นสดมภ์มักเกิดภายหลังการรับประทานข้าวไม่เกิน24 ชั่วโมง

 

5. ผู้วิจัยได้ทดลองกรอกปากหนูทดลองด้วยข้าวสาร 1 กิโลกรัมต่อตัว ปรากฏว่าหนูทดลองตายเรียบ เรื่องนี้น่าวิตกมาก เพราะประชากรไทยบริโภคข้าวสาร ถึงปีละ 100 กิโลกรัมต่อคน

 

6. จากการสำรวจอย่างคร่าวๆพบว่าคนไทยที่กินข้าวทุกคนจะ เสียชีวิตภายใน 7 วัน(ระหว่างวันอาทิตย์ถึงวันเสาร์)

 

7. จากบันทึกของชาวถ้ำโบราณที่ยังไม่รู้จักปลูกข้าว อาศัยหัวเผือกหัวมันเป็นอาหาร พวกเขาไม่เคยป่วยหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางเครื่องบินและโรคเอดส์ เลยแม้ แต่คนเดียว

 

8. ผู้วิจัยสามารถพิสูจน์ได้ว่า ข้าวมีฤทธิ์เป็นยาเสพติด โดยอาสาสมัครที่อดกินข้าว 12 ชั่วโมง จะมีอาการคล้ายกับคนลงแดง คือ หงุดหงิด น้ำกรดในกระเพาะหลั่งมาก หากไม่ได้ เสพข้าวเป็นเวลานาน อาจอ่อนเพลีย ตาขวาง พูดคำหยาบ และพยายามแหกกรงออกมาหาข้าวรับประทาน บางรายถึงขนาดร้องขอข้าวกินอย่างไม่ละอายต่อบาปกรรม

 

9. ข้าวเป็นพาหะนำสารอื่นๆที่อันตรายมากเข้าสู่ร่างกาย เช่น ขาหมู เนื้อย่าง แกงส้ม ไข่เจียว และอื่นๆ (หิววววววว)

 

10. ประชาชนที่กินข้าวติดต่อกันเป็นเวลานานๆ จะขาดความสามารถในการแยกแยะว่างานวิจัยชิ้นใด... น่าเชื่อถือ งานวิจัยชิ้นใด...ไร้สาระ หลอกหลวงประชาชน

 

จึงเตือนมาด้วยความปรารถนาดี......

 

 

ขอแสดงความคิดเห็นครับ

 

ถามจริงๆ ว่า คิดได้ไงเนี่ย

 

เวรกรรม กรรมเวร

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอแสดงความคิดเห็นครับ

 

ถามจริงๆ ว่า คิดได้ไงเนี่ย

 

เวรกรรม กรรมเวร

copy จาก bit ครับไม่ได้คิดเอง ขำขำ :lol: :lol: :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Mr. Martin Armstrong ออกบทความใหม่ครับ เรื่อง Fate of Gold and Oil

 

เป็นอีกบทความที่สำหรับผมอ่านยากครับ เพราะมีเรื่องเก่าๆ เกี่ยวกับพวกบริษัท Investment Bank / fund / trader ยุคแรกๆ

อย่างไรก็ตาม โดยสรุป ตามบทความ เขาบอกว่า

ตลาด commodity เป็นเหมือนไพ่โป๊กเกอร์ครับ ผู้เล่นจะจับไต๋ ดูวงเงินของผู้เล่นคนอื่น

Unlike stocks, the Commodity Field was also all about WHO was doing WHAT.

 

ซึ่งพวกผู้คุมเกม รายใหญ่ ทั้งหลาย จะมีข้อมูลการเทรด ของรายย่อย รวมถึง hedge fund ต่างๆ

ทำให้สามารถ "front run" หรือแปลตรงตัวก็วิ่งนำหน้า หรือในความหมายนี้ก็คือ วางกลยุทธดักทาง รายย่อยได้

 

บทความทั้งหมด 16 หน้า 15 หน้าเป็นเรื่องอดีตที่ชี้ให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมในการล่าเหยื่อของผู้เล่นในตลาด commodity

การปล่อยข่าว การย้าย stock เพื่อหลอกลวงเรื่อง supply สินค้าที่มี ฯลฯ

 

พวก Investment Bankers ก็เหมือนอีแร้ง เมื่อเห็นเหยื่อใกล้ตายก็จะลงไปรุมทึ้งทันที พวกนี้ในอดีตพวกนี้ทำให้ Hunt Brothers เป็นเหยื่อ จนล้มมาแล้ว

และตอนนี้ Mr. Martin Armstrong ในบทความนี้ได้โยงถึง Mr. John Paulson ว่ากำลังเป็นเหยื่อรายต่อไป

 

ผมไปค้นข่าวมา เจอข่าวนี้บอกว่าการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาขาดทุนไปกว่า 20%

http://www.guardian.co.uk/business/2011/jun/16/john-paulson-subprime-hedge-funds-investments-china

 

และจากข่าวนี้ Mr. John Paulson ให้สัมภาษณ์ว่า เงินส่วนตัวของเขาส่วนใหญ่ลงทุนในทองคำ

http://www.guardian.co.uk/business/2011/may/06/george-soros-john-paulson-gold-commodities-market?INTCMP=ILCNETTXT3487

meanwhile, John Paulson, who made his hedge fund more than $20bn from betting against the US housing market by "shorting" sub-prime mortgages, this week told investors that he still has most of his personal money invested in gold.

 

Mr. Paulson จึงเป็นเหยื่อชิ้นโต ที่พวกอีแร้ง (Investment Bank) จ้องรุมทึ้งได้ง่าย และการจะโจมตี Mr. Paulson ได้ก็ต้องโจมที่ตลาดทองคำนั่นเอง

 

 

สรุปโดยรวมที่เกี่ยวกับทอง Mr. Armstrong สรุปว่า We are due for a correction – It’s Just Time.

ตรงนี้น่าจะหมายถึงทองจะปรับลง แนวรับที่แกชี้ไว้ในกราฟน่าจะประมาณ 1380 เลยครับ

 

ให้จับตาเดือนกันยา และ พฤศจิกา ให้ดี โดยเฉพาะช่วงหลังวันแรงงาน(บ้านเขา) คือหลังสัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหา

 

What we have to pay close attention to is the “hype” that comes out.

ที่เราทำได้คือให้จับตาดูข่าวลือ ข่าวปล่อย ข่าวลวง ต่างๆ ที่จะออกมาให้ดี เพื่อจะได้มีทางหนีทีไล่ให้ตัวเองได้ทัน

 

 

อ่านแล้วเครียดเลย หุ หุ !_18 !_18

บุญรักษาทุกท่านนะครับ !21 !21

post-2573-026806600 1309884358.gif

ถูกแก้ไข โดย JohnCM

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายกฯเยอรมนี'กริ้ว'บ.เครดิตเรตติ้ง'ขวาง'ช่วยบรรเทาภาระหนี้สิน'กรีซ'

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 กรกฎาคม 2554 00:34 น.

 

 

 

 

 

เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี แถลงในวันอังคาร(5) ว่า พวกบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือยักษ์ใหญ่ของโลก จะต้องเป็นผู้ที่คอยประสานรับลูกต่อจากสหภาพยุโรป(อียู), ธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี), และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เมื่อถึงเวลาแห่งการตัดสินชะตากรรมของประเทศกรีซที่ติดหนี้สินรุงรังท่วมท้น ทั้งนี้เป็นการแสดงความไม่พอใจพวกกิจการเครดิตเรตติ้งเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ที่ออกอาการคัดค้านการที่ฝรั่งเศสและเยอรมนีกำลังกดดันให้พวกแบงก์ภาคเอกชน ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ที่ถือครองพันธบัตรรัฐบาลกรีซเอาไว้จำนวนมาก ต้องเข้าร่วมในการช่วยเหลือแก้ไขไม่ให้กรีซถึงกับต้องเข้าสู่ภาวะไม่สามารถชำระหนี้ได้

 

“ดิฉันคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่พวกเราใน “ทรอยก้า” (สามฝ่าย) อันได้แก่ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ, ธนาคารกลางยุโรป, และคณะกรรมาธิการยุโรป ต้องไม่ยอมปล่อยให้พวกเราเองสูญเสียเสรีภาพในการวินิจฉัยตัดสินของพวกเราไป” แมร์เคิลกล่าวต่อที่ประชุมแถลงข่าวในกรุงเบอร์ลิน “นี่คือเหตุผลที่ทำไมดิฉันจึงมีความไว้วางใจในการประเมินของสถาบันทั้ง 3 เหล่านี้ เมื่อมาถึงเรื่องของกระบวนวิธีดำเนินการพิเศษต่างๆ” แทนที่จะเชื่อถือพวกบริษัทเครดิตเรตติ้ง

 

เยอรมนีและฝรั่งเศสกำลังเป็นแนวหน้าของบรรดาชาติอียูในการเข้าช่วยเหลือไม่ให้กรีซตกอยู่ในภาวะต้องหยุดพักชำระหนี้ ขณะที่พวกบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือเตือนว่า ความเคลื่อนไหวเช่นนั้นในหลายๆ ลักษณะอาจเข้าข่ายเป็นการหยุดพักชำระหนี้แบบเลือกสรร นั่นคือหยุดชำระหนี้เฉพาะหนี้สินบางประเภท

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอสแอนด์พีได้ออกคำแถลงเมื่อวันจันทร์(4)เตือนว่า ข้อเสนอของทางฝรั่งเศสที่จะให้พวกธนาคารภาคเอกชนที่เป็นเจ้าหนี้ถือครองตราสารหนี้ของทางการกรีซ ยอมตกลงต่ออายุตราสารหนี้หรือยอมนำเอาตราสารหนี้เก่ามาแลกกับตราสารหนี้ใหม่ คือการเสี่ยงภัยที่กำลังทำให้กรีซอยู่ในฐานะหยุดพักชำระหนี้แบบเลือกสรร

 

“ในทัศนะของเรา ทางเลือกด้านการเงินทั้ง 2 ทางที่บรรยายเอาไว้ในข้อเสนอ (ของฝรั่งเศส) นั้น แต่ละทางเลือกน่าจะเท่ากับการหยุดพักชำระหนี้ เมื่อพิจารณาดูจากหลักเกณฑ์ของเรา” คำแถลงของเอสแอนด์พีกล่าวไว้เช่นนี้

 

ข้อเสนอของฝรั่งเศสดังกล่าวนี้ จุดสำคัญที่สุดคือการให้แบงก์เจ้าหนี้เอกชนเหล่านี้สมัครใจยืดอายุตราสารหนี้รัฐบาลกรีซที่พวกตนถือครองอยู่ จากที่มีระยะเวลาไถ่ถอน 5 ปีให้เป็น 30 ปี เพื่อให้รัฐบาลกรีซที่กำลังประสบความลำบากได้มีเวลาพักหายใจ แม้ไม่ได้มีการลดภาระหนี้สินกันโดยตรง

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

กำลังมีความพยายามใช้อำนาจบังคับเจ้าหนี้ ให้ต่ออายุหนี้ออกไป และกำลังจะบิดเบือนว่าไม่ใช่การผิดนัดชำระ เจ้าหนี้เต็มใจยืดอายุหนี้ออกไป(เต็มใจเพราะไม่มีทางเลือกหรือโดนบังคับไม่สาระสำคัญ สาระสำคัญที่อยากให้ประชาชนรู้คือเจ้าหนี้เต็มใจยืดอายุหนี้ออกไป)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

copy จาก bit ครับไม่ได้คิดเอง ขำขำ :lol: :lol: :lol:

 

ผมคิดว่าคนเขียนที่คุณ promin ไปอ่านมา น่าจะมีความภาพภูมิใจบ้างนะ

 

คนเอเชียกินข้าวมานานมาก และจะกินต่อไป

อีกอย่าง ประเทศไทยมีกระดูกสันหลังของชาติมากมาย

 

จงภูมิใจในความเป้นไทย เป็นเกษตรกร เป้นประเทศเกษตรกรรม

 

มีส่วนในการผลิตอาหารให้คนทั้งโลก

 

ประเทศไทยจนเจริญ คนถือทอง จงร่ำรวย ตามความพอเพียง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผมคิดว่าคนเขียนที่คุณ promin ไปอ่านมา น่าจะมีความภาพภูมิใจบ้างนะ

 

คนเอเชียกินข้าวมานานมาก และจะกินต่อไป

อีกอย่าง ประเทศไทยมีกระดูกสันหลังของชาติมากมาย

 

จงภูมิใจในความเป้นไทย เป็นเกษตรกร เป้นประเทศเกษตรกรรม

 

มีส่วนในการผลิตอาหารให้คนทั้งโลก

 

ประเทศไทยจนเจริญ คนถือทอง จงร่ำรวย ตามความพอเพียง

 

ขอโทษครับถ้าทำให้กลายเป็นความเครียดไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานภาวะตลาดประจำสัปดาห์ (27 - 30 มิถุนายน 2554)

04/07/2554

 

ภาวะเศรษฐกิจ

 

สหรัฐอเมริกา: การ ใช้จ่ายของผู้บริโภคทรงตัวในเดือนพฤษภาคม หลังจากเพิ่มขึ้น 10 เดือนติดต่อกัน โดยเป็นผลจากยอดขายรถยนต์ปรับตัวลดลง ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายพุ่งขึ้นร้อยละ 8.2 ในเดือนพฤษภาคม ดัชนี ISM ภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นสู่ 55.3 ในเดือนมิถุนายน จาก 53.5 ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน โดยที่สินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ในขณะที่ ตัวชี้วัดผลผลิต ยอดสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง ทางด้านจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานลดลง 1,000 ราย สู่ 428,000 ราย ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 มิถุนายน

 

ยูโรโซน: ธนาคาร กลางยุโรปส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า เนื่องจากความเสี่ยงจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยที่ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือนมิถุนายน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของยูโรโซนร่วงลงสู่ 52 ในเดือนมิถุนายน จาก 54.6 ในเดือนก่อนหน้า ในเยอรมนี จำนวนผู้ว่างงานลดลง 8,000 รายในเดือนมิถุนายน โดยเป็นการลดลงเป็นเดือนที่ 24 ติดต่อกัน ในขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ร้อยละ 7 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเยอรมนีสำหรับเดือนกรกฎาคม ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนมิถุนายน โดยได้แรงหนุนจากการจ้างงานที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเศรษฐกิจที่สดใส ทางด้านรัฐบาลกรีซได้รับมติเห็นชอบให้ดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดมูลค่า 7.8 หมื่นล้านยูโร (1.12 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งประกอบไปด้วยการขึ้นภาษี และขายสินทรัพย์ ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่กรีซจะต้องปฏิบัติ เพื่อที่จะได้รับการช่วยเหลือจากสหภาพยุโรปต่อไป

 

อังกฤษ: เศรษฐกิจ ในไตรมาสแรกของปีนี้ขยายตัวร้อยละ 0.5 จากไตรมาสก่อนหน้า เท่ากับในการประเมินครั้งที่แล้ว โดยราคาอาหารและน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นส่งผลให้ผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตลดลงสู่ 51.3 ในเดือนมิถุนายน จาก 52 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2552 เนื่องจากอุปสงค์ในตลาดโลกลดลง

 

ญี่ปุ่น: ผล ผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 จากเดือนก่อนหน้าในเดือนพฤษภาคม นับเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 50 ปี เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์กลับมาเริ่มผลิตหลังจากที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวใน เดือนมีนาคม ทางด้านยอดค้าปลีกลดลงร้อยละ 1.3 ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นการลดลงน้อยกว่าที่ตลาดคาด

 

จีน: ศูนย์ สารนิเทศของจีน คาดว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวร้อยละ 9.5 ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อในช่วงครึ่งหลังของปีจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 – 5.5 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั้งปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 4.9 สำหรับดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่จัดทำโดยทางการ ลดลงสู่ 50.9 ในเดือนมิถุนายน จาก 52 ในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากนโยบายของรัฐบาลส่งผลให้อุปสงค์บ้านและรถยนต์ลดลง การขาดแคลนไฟฟ้าส่งผลให้ผลผลิตลดลง และมาตรการคุมเข้มทางการเงินส่งผลให้บริษัทต่างๆหาแหล่งเงินทุนได้ยากขึ้น

 

ไทย: ธปท. รายงาน เศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวต่อเนื่องในเดือนพฤษภาคม โดยได้แรงหนุนจากการบริโภค การลงทุน การส่งออก และการท่องเที่ยว โดยดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน และยอดส่งออกขยายตัวร้อยละ 17.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน กระทรวงการคลังคาดว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 4.0 – 5.0 เท่ากับที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ แต่ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อปีนี้ขึ้นสู่ร้อยละ 3.8 ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มสูงขึ้น สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.06 จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.13 จากเดือนก่อนหน้า ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.55 จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.18 จากเดือนก่อนหน้า

 

ตลาดตราสารหนี้

ตลาด เปลี่ยนไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ตามความคาดหวังว่ารัฐสภากรีซจะให้ความเห็นชอบมาตรการรัดเข็มขัด เพื่อให้ได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม และหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในระยะอันใกล้นี้

นักลงทุนรอดูผลการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์นี้

สำหรับ ตลาดตราสารหนี้ไทยได้แรงหนุนจากเงินทุนไหลเข้า ซึ่งเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกับสัปดาห์ที่แล้ว อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวสูงขึ้น ถึงแม้กระทรวงการคลังได้ประกาศว่า ปริมาณพันธบัตรที่จะออกขายในไตรมาสที่ 3 มีมูลค่าทั้งสิ้น 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุไม่เกิน 5 ปี ปรับขึ้นร้อยละ 0.05 – 0.11

กลยุทธ์การลงทุนตราสารหนี้ของเอวายเอฟยังคงเน้นการคงอายุเฉลี่ยของกองทุนไว้ที่ระดับค่อนข้างสั้น

 

weekly_110630.GIF

 

weeklyt_110630.GIF

ที่มา: Bloomberg

 

ตลาดตราสารทุน

ดัชนี ตลาดหลักทรัพย์ไทยปรับตัวขึ้นร้อยละ 2.7 จากสัปดาห์ก่อนหน้า ท่ามกลางปริมาณซื้อขายเบาบาง โดยตลาดตอบรับในทางบวกต่อการที่กรีซผ่านแผนการปรับลดงบประมาณ และสถาบันการเงินของเยอรมนีตกลงที่จะเปลี่ยนตราสารหนี้ระยะสั้นของกรีซเป็น ระยะยาว สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 3.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือนพฤษภาคม หลังจากหดตัวร้อยละ 8.1 ในเดือนเมษายน โดยเป็นผลจากการขาดแคลนอุปทานชิ้นส่วนรถยนต์อันเนื่องมาจากเหตุภัยพิบัติใน ญี่ปุ่น ทางด้านราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น หลังจากรัฐสภากรีซให้ความเห็นชอบแผนการรัดเข็มขัด และจากการที่สต็อกน้ำมันของสหรัฐฯลดลงอย่างมาก ทางด้านราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น จากการแข็งค่าของยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐหลังจากรัฐสภากรีซให้ความ เห็นชอบแผนการรัดเข็มขัด

 

 

ที่มา: Bloomberg

 

ของเก่าครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอาข่าวที่มีความสำคัญกับราคาทองมากพอควรมาฝากครับ

 

Government Shutdown in Minnesota: 23,000 of 36,000 State Employees Furloughed; Ohio Privatizes Prisons; Pennsylvania Slashes School Funding

 

 

รัฐมิเนโซต้าพักงานพนักงานของรัฐ 23,000คนจากทั้งหมด 36,000คน ตั้งแต่วันพฤหัส

 

นอกจากนั้นก็ยังมีรัฐอื่นๆที่ร่วมด้วยช่วยกันเจ๊ง

http://globaleconomi...sota-23000.html

 

ตัวเลขตกงานครับ

Weekly Unemployment Claims Exceed 400,000 12th Consecutive Week, Exceed 420,000 Nine out of last 10 Weeks

Initial Unemployment Claims For 2011

 

weekly-claims-2011-06-30A.png

ผมเชื่อข้อมูลนี้มากกว่าครับ เหมือนเมื่อวานจำไม่ได้ว่าฟัง หรืออ่านมาจากไหน ว่าจีนเองตอนนี้ ไม่ค่อยยอมบอก ตัวเลขทางเศรษฐกิจจริงๆออกมาแล้ว แต่ละ ปท เหมือนกั๊กอะไรไว้ แล้วที่หมอเล็กบอกว่า กองทุน หรือธนาคารก็ล้มได้ผมว่าจริงครับ ที่ถือ กองทุน หรือหุ้นถ้าเจ๊งขึ้นมาก็เหมือนปี 40 ตาบเรียบ (เครียดของจริง)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตอนนี้ที่คิดได้ ผิดถูกไม่รู้ ถ้าเราเข้าได้ถูกจังหวะจริงๆ ทองทะยานฟ้าแล้ว เก็ยบได้ทัน เราได้ 1เด้ง เสร็จพอ เศรษฐกิจทรุดจนถึงต่ำสุด โยกเงินจากทองหรือเงิน เข้าตลาดหุ้นหรือ กองทุน รออีก 2-3 ปี ได้อีก อาจถึง 2 เด้งครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...