โอกาส"ทอง" (จริงๆ) : Safe Heaven

[leo_attack 579]

เหอๆๆ ไม่ได้อ่านมาหลายวัน

 

เลยต้องขอบคุณ K'ton ครับที่ทำให้กระทู้มีสีสรรค์ครับ....คุณต้นออกมาทีไรจะมีข้อมูลที่ซ่อนอยู่ออกมาอื้อเลย

[ton 21]

สวัสดีครับคุณ ton

ขอบคุณมากครับ ที่คอยเตือนนักลงทุนให้คอยระมัดระวังในการลงทุน ดีครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบทุ่มสุดตัว หลายครั้งก็เจ็บตัวเหมือนกัน

แต่บทความที่คุณกล่าวว่า

 

เพราะทุกอย่างในโลกใบนี้ถูกจับเข้ามาปั่นทำราคากันหมดแล้วซึ่งถ้าไม่มีการเก็งกำไรกันในตลาดทองคำนั้นโดยตัวคิดว่าราคาทองน่าจะอยู่ไม่เกิน900-1000 ไม่ใช่ถูกปั่นราคามาจนถึง1500 แบบนี้ครับและผมเคยบอกว่าทองนั่นน่าลงทุนครับแต่ไม่ใช่ราคาตอนนี้ ตอนนี้มันสูงเกินไปแล้ว

 

แต่ผมยังมองไม่ออกเลยว่า ในโลกนี้จะปราศจากนักเก็งกำไรได้อย่างไร ยิ่งเรามาลงทุนในตลาดทองคำที่ทุกคนในโลกรู้ถึงมูลค่า

ของมัน ไม่ต้องเป็นนักธุรกิจ นักการเงิน นักเศรษฐศาสตร์ หรอก แม้แต่คนป่า ชาวบ้านธรรมดา ยังรู้ถึงมูลค่าของมันเลยครับ และ

ถ้าเขามีโอกาสเขาจะไม่แสวงหาผลกำไร กับสิ่งที่คนในโลกรู้จักและมีความต้องการหรือครับ

และที่สำคัญเรากำลังลงทุนพร้อมๆ กัน กับคนทั้งโลก เป็นหลักพันล้านคนนะครับ ใครบ้างครับไม่อยากรวย ไม่อยากหาผล

กำไรสูงสุด เอาแค่ในเว็บไทยโกลด์นี้ก็พอ ไม่ต้องไปพูดถึงนักลงทุนทั้งโลกหรอก ทุกคนที่เข้ามาในนี้ ก็เพื่อหาข้อมูล ในการลงทุน

เพื่อให้ได้กำไรสูงสุดกันทั้งนั้น

 

ผมยังมองไม่ออกเลยว่า การลงทุนทุกอย่างในโลกใบนี้ จะปราศจากนักเก็งกำไรไปได้อย่างไร

 

 

ถูกต้องแล้วครับว่าบนโลกใบนี้ต่างเต็มไปด้วยการเก็งกำไร ผลประโยชน์ทับซ้อน และอื่นๆอีกมากมาย ผมจึงคอยเตือนเพื่อนๆให้ระมัดระวังการลงทุนในช่วงนี้ไงครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นราคาทอง เงิน น้ำมัน สินค้าเหล่านี้ได้ขึ้นมาเยอะเกินไปแล้วไงครับ

******แล้วแต่ความคิดตรึกตรองกันเองน่ะครับ อย่าเชื่อผม******

[cocohill 72]

ผมชอบวิธีแสดงออกของคุณนะ คุณตันแต่อยากได้เหตุผลอันนี้หน่อยครับ

 

เพราะทุกอย่างในโลกใบนี้ถูกจับเข้ามา ปั่นทำราคากันหมดแล้วซึ่งถ้าไม่มีการเก็งกำไรกันในตลาดทองคำนั้นโดยตัวคิด ว่าราคาทองน่าจะอยู่ไม่เกิน900-1000 ไม่ใช่ถูกปั่นราคามาจนถึง1500 แบบนี้ครับและผมเคยบอกว่าทองนั่นน่าลงทุนครับแต่ไม่ใช่ราคาตอนนี้ ตอนนี้มันสูงเกินไปแล้ว

 

 

ว่าเหตุผลที่พื้นฐานราคาของทอง อยู่ที่ 900-1000$ คืออะไรครับ ของคุณ next บอกแล้วว่าพื้นฐานราคาทองอยู่ที่เท่าไรด้วยเหตุผลที่น่าเชื่อถิอมาก

 

แล้วเหตุผลของคุณตันละครับ บอกราคาพื้นฐานลอยๆมันขาดความน่าเชื่อถือไปนะ มีเหตุผลประกอบไหม ไม่เอาTechnicalเพราะTechnical บอกราคา

 

พื้นฐานไม่ได้ และ ทฤษฎี แมส ก็บอกราคาพื้นฐานไม่ได้ ขอบคุณครับ

[kunghdy 3,187]

ถูกต้องแล้วครับว่าบนโลกใบนี้ต่างเต็มไปด้วยการเก็งกำไร ผลประโยชน์ทับซ้อน และอื่นๆอีกมากมาย ผมจึงคอยเตือนเพื่อนๆให้ระมัดระวังการลงทุนในช่วงนี้ไงครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นราคาทอง เงิน น้ำมัน สินค้าเหล่านี้ได้ขึ้นมาเยอะเกินไปแล้วไงครับ

******แล้วแต่ความคิดตรึกตรองกันเองน่ะครับ อย่าเชื่อผม******

 

มีอะไรเป็นหลักคิดคะว่ามัน "เยอะเกินไป" จริงหรือป่าว เอาอะไรมาเป็นตัวชี้วัดคำว่า "เกินไป" ที่ว่าเหรอคะ บอกลอยๆ มันเชื่อยากอยู่นา... !38

ถูกแก้ไข พฤษภาคม 21, 2011 โดย kunghdy

[ตังเม 24]

1 ล้านวิว (1 Million view)

 

 

ดีใจกับคุณเน็กซ์ เจ้าของกระทู้ด้วยนะค่ะ

 

ps. ไม่ได้เข้ามาไม่กี่วัน ต้องตามย้อนอ่านกันเป็น 10 หน้าทีเดียว

ขอบคุณท่านอื่นๆ ด้วยนะค่ะ ที่เข้ามาให้ข้อมูลที่มีประโยชน์กับพวกเรา

ไม่ว่าจะเป็น คุณ Mor lek, คุณ Leo attack, คุณ JohnCM,

คุณส้มโอมือ,คุณ Mdaddy, คุณ Kunghdy และท่านอื่นๆ ที่ไม่ได้เอ่ยนามด้วยนะค่ะ

ถูกแก้ไข พฤษภาคม 21, 2011 โดย ตังเม

[ton 21]

มีอะไรเป็นหลักคิดคะว่ามัน "เยอะเกินไป" จริงหรือป่าว เอาอะไรมาเป็นตัวชี้วัดคำว่า "เกินไป" ที่ว่าเหรอคะ บอกลอยๆ มันเชื่อยากอยู่นา... !38

 

จริงอยู่ครับอย่างที่เพื่อนๆบอกผมว่าผมอ้างข้อมูลมาแบบลอยๆไม่มีกราฟแสดงออกมา ไม่มีหลักฐานต่างๆที่นำมาเสนอแบบเป็นเหตุเป็นผล เป็นข้อๆออกมาได้ แต่เชื่อผมเถอะครับอีกไม่นานข้อมูลต่างๆตามสื่อ บทวิเคราะห์จากหลากหลายสำนัก จะเริ่มทยอยออกมาแสดงเอง โดยที่ผมไม่ต้องสรรหามาบอกเพื่อนๆ แต่จะมีนักวิเคราะห์ เกจิอาจารย์ดังๆออกมาเองว่า สินค้าไม่ว่าจะเป็นทอง เงิน นำ้มันเหล่านี้ ได้ขึ้นมาแรงเกินไปที่เกิดจากการเก็งกำไรกันขึ้นมาเหล่านี้แล้ว (ไว้คอยติดตามกันดูน่ะครับว่าจะเป็นอย่างที่ผมบอกรึปล่าว)

 

บางทีประสบการณ์มันเป็นสิ่งที่ซื้อกันไม่ได้จริงๆน่ะครับ ยกตัวอย่าง กรณีดัชนีหุ้นเคยขึ้นไป 1700 กว่าจุดซึ่งตอนนั้นใครๆก้อคิดว่าหุ้นจะต้องขึ้นไปถึง2000กว่าจุดได้แน่นอน สุดท้ายก้อวกกลับลงมาต่ำกว่า 1000 จุด

******สรุปแล้วน่ะครับ ตัวอุปสงค์กับอุปทานจะทำหน้าที่กำหนดราคาหรือดัชนีหุ้นที่เหมาะสมนั่นเองและที่สำคัญจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนแฝงอยู่ในทุกตลาดที่มีการเก็งกำไรด้วยน่ะครับ******

โดยส่วนตัวผมจึงคิดว่าในเมื่อผลประโยชน์ทับซ้อนได้ทำงานอย่างเต็มที่แล้วโดยจะมีการเทขายทำกำไรลงมาเรื่อยๆจนถึงราคาเหมาะสมของมันราคาทองน่าจะอยูที่900-1000$ครับ

 

 

ปล.แล้วแต่ความคิดตรึกตรองของเพื่อนๆเองน่ะครับ อย่าเชื่อผม

[ตังเม 24]

“ทองคำจะไปบาทละ 30,000-40,000 หรือในระยะยาวทองมีแต่ขึ้น”

 

ประโยคเหล่านี้นอกจากคนในกระทู้นี้แล้ว ผมแทบจะหาเพื่อนคุยด้วยไม่ได้เลยครับ.....

(นอกจากจะถูกมองว่าเป็น “คนส่วนน้อย” แล้ว ขอโทษนะครับ....หนักไปกว่านั้น บางทีถูกมองว่า “บ้าหรือเพี้ยน” ซะด้วยซ้ำ...)

 

เมื่อก่อนตังเมก็คิดว่าตัวเองเพี้ยนเหมือนกัน

แต่เมื่อมาเจอกระทู้นี้และเพื่อนๆ ในกระทู้นี้ ก็เลยดีใจว่าเจอพวกเดียวกันซะแล้ว

 

อีกอย่างก็คือตังเมโชคดี ที่คุณสามีเข้าใจ เมื่อก่อนตกรถ ติดดอย ประจำ

คุณสามีก็ไม่เคยว่าสักคำ ให้กำลังใจตลอด

แต่ตอนนี้พอร์ทส่วนใหญ่ของเราเป็นแท่งเก็บยาว เราก็เลยสบายใจกันไป

ไม่ต้องกลุ้ม มันจะลงบ้างก็ช่างมัน เพราะสุดท้ายเดี๋ยวมันก็ขึ้นอยู่ดี

ถูกแก้ไข พฤษภาคม 21, 2011 โดย ตังเม

[pomzzz 0]

สวัสดีครับ หลังจากที่แอบอ่านมานานมากๆ ก่อนอื่น ขอใช้โอกาสนี้ ขอบคุณและแสดงความนับถือ กระทู้นี้และทุกๆท่านที่หมั่นนำความรู้ใหม่ๆมาถกกันอยู่เสมอครับ

 

ผมขอแสดงความเห็นนิดนึงน่ะครับ

 

สำหรับผมลงทุน Future น่ะครับ (ช่วงก่อนนี้ก็เสียววาบๆ แต่ตอนนี้ดอยแปลงเป็นที่ราบลุ่มหมดแล้ว ) อาจจะไม่ค่อยเข้ากับกระทู้นี้เท่าไหร่ แหะๆ แต่ก็ยืนยันครับว่าสามารถประยุกต์ได้ ^^

ทฤษฎีจิตวิทยาของคุณต้น ผมก็ใช้น่ะครับ แต่ใช้ในลักษณะ TA มากกว่า คือดูภาวะ OverSold/Overbuy แต่ถ้าขึ้นถึงระดับเดือน หรือปีอย่างกระทู้นี้แล้ว ผมก็เห็นว่า ราคามักจะเป็นไปตามปัจจัยพื้นฐานครับ จิตวิทยามีผลน้อยและน้อยลงอีกถ้าถึงระดับปี

 

ตอนนี้ผมยังเชื่อมั่นในเหตุผล และปัจจัยพื้นฐานเสมอครับ และคิดว่าถ้าปัจจัยเปลี่ยน คนเก่งๆในกระทู้นี้คงจะไม่พลาดหรอกครับ (มีท่านที่ผมนับถือเป็นอาจาร์ยหลายคนเลยครับ ในกระทู้นี้)

 

อ่อ ลืม ฝากตัวด้ยครับ

[nicole 101 16]

คุณTon คุณพูดเองว่า "จริงอยู่ครับอย่างที่เพื่อนๆบอกผมว่าผมอ้างข้อมูลมาแบบลอยๆไม่มีกราฟแสดงออกมา ไม่มีหลักฐานต่างๆที่นำมาเสนอแบบเป็นเหตุเป็นผล " แล้วคุณยังบอกว่าให้เชื่อคุณ มันขัดกันอยู่นะคะ การที่คนเราจะเชื่ออะไรมันต้องมีเหตุมีผลมีหลักเกณท์อะไรบางอย่างมาสนับสนุนให้การกล่าวอ้างนั้นมีน้ำหนักพอที่จะเชื่อถือได้ การที่จะกล่าวว่าเชื่อผมเถอะเพราะผมคิดว่า.. เข้าใจว่า.. มันน่าจะเป็น..ผมเดาว่า..โดยอ้างประสบการณ์ของคุณเอง คงทำให้คนอื่นเชื่อยาก ถ้าคุณมีเหตุผลดีที่น่าเชื่อถือกว่านี้คงมีคนเชื่อคุณได้ง่ายกว่าการอ้างลอยๆ

[MOR LEK 2,835]

ปีนี้ธนาคารของเมกาถูกปิดไปแล้ว 43 แห่งจ้า (แต่ไม่ยักถูกลดความน่าเชื่อถือแฮะ)

U.S. authorities closed two small banks in west-central Georgia and one in Washington state on Friday, bringing the number of foreclosures in 2011 to 43.

 

 

http://www.reuters.com/article/2011/05/21/us-bankfailures-idUSTRE74K0ET20110521?feedType=RSS&feedName=businessNews&utm_source=feedburner&utm_medium=feed&utm_campaign=Feed%3A+reuters%2FbusinessNews+%28News+%2F+US+%2F+Business+News%29

[leo_attack 579]

คุณTon คุณพูดเองว่า "จริงอยู่ครับอย่างที่เพื่อนๆบอกผมว่าผมอ้างข้อมูลมาแบบลอยๆไม่มีกราฟแสดงออกมา ไม่มีหลักฐานต่างๆที่นำมาเสนอแบบเป็นเหตุเป็นผล " แล้วคุณยังบอกว่าให้เชื่อคุณ มันขัดกันอยู่นะคะ การที่คนเราจะเชื่ออะไรมันต้องมีเหตุมีผลมีหลักเกณท์อะไรบางอย่างมาสนับสนุนให้การกล่าวอ้างนั้นมีน้ำหนักพอที่จะเชื่อถือได้ การที่จะกล่าวว่าเชื่อผมเถอะเพราะผมคิดว่า.. เข้าใจว่า.. มันน่าจะเป็น..ผมเดาว่า..โดยอ้างประสบการณ์ของคุณเอง คงทำให้คนอื่นเชื่อยาก ถ้าคุณมีเหตุผลดีที่น่าเชื่อถือกว่านี้คงมีคนเชื่อคุณได้ง่ายกว่าการอ้างลอยๆ

ผมว่าความจริงก็ถูกของคุณต้นนะครับ เพราะคุณต้นใช้หลักของจิตวิทยาตลาดมากกว่าในการเข้าซื้อครับถ้าจะมองแบบคุณต้น ซึ่งหลักง่ายๆ ของคุณต้นที่ใช้เท่าที่อ่านตามๆ มาตั้งแต่แรก(ของคุณ พิชัย จาวลา คือ คุณค่าของการกระทำจะถูกทำให้เจือจางโดยปริมาณของคนที่ตัดสินใจเหมือนๆ กันและ ถ้าจำไม่ผิดพื้นฐานของคุณต้นเป็นโบรกเกอร์หุ้น ณ.ที่แห่งหนึ่ง(ถ้าผิดขออภัย) คิดว่าถ้ายิ่งสำหรับหุ้นก็น่าจะไม่ผิดครับ ถ้ามองออกได้ว่ากลุ่มไหนคือคนส่วนใหญ่ส่วนน้อย

 

แต่ในทางกลับกันสมาชิกในห้องนี้ใช้หลักเรื่องข้อมูลพื้นฐาน หรือข้อมูลเชิงสถิติที่ถูกคำนวนด้วยหลักทางคณิตศาสตร์เป็นอุปกรณ์ครับ ซึ่งมันคนละทางกันอย่างเห็นได้ชัดครับ ดังนั้นขอเก็บข้อความของคุณ ต้นเอาไว้เตือนสติกันก็แล้วกันครับ

 

ในทางกลับกันทางคุณต้น ผมว่าทางคุณใช้ข้อความซ้ำมากไปหน่อยนะครับ เล่นก็อปวางๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ด้วยข้อความเดิม ซึ่งต้องเรียนตามตรงว่าผมเองตอนนี้เกือบท่องได้แล้ว ผมมองว่าในเมื่อทุกท่านที่มาช่วยกันตอบเป็นการพิมพ์ใหม่บทต่อบท ทางคุณต้นเองก็น่าจะพิมพ์ตอบแบบบทต่อบทเช่นกันนะครับ เพื่อให้เกิดความสดใหม่ของข้อมูล และทำให้ผู้ตอบไม่ให้รู้สึกเหมือนคุยกับ bot ด้วยครับ

 

ปีนี้ธนาคารของเมกาถูกปิดไปแล้ว 43 แห่งจ้า (แต่ไม่ยักถูกลดความน่าเชื่อถือแฮะ)

U.S. authorities closed two small banks in west-central Georgia and one in Washington state on Friday, bringing the number of foreclosures in 2011 to 43.

 

 

http://www.reuters.com/article/2011/05/21/us-bankfailures-idUSTRE74K0ET20110521?feedType=RSS&feedName=businessNews&utm_source=feedburner&utm_medium=feed&utm_campaign=Feed%3A+reuters%2FbusinessNews+%28News+%2F+US+%2F+Business+News%29

!53 ก็ถ้าหันดาบเข้าหาตัวเองได้นี่ ไม่เสียสติก็คงปิดไม่อยู่จริงๆ แล้วละครับ ยังก่อนๆ คนในประเทศยังไม่รู้หรอกครับ !uu ...อันที่จริงก็คนส่วนใหญ่ในโลกนั่นแหละ !53

[chung6 13]

ถ้าทองขึ้นต่อแล้วทำ new high ก็มีเหตุผลสนับสนุนเยอะครับ แต่ถ้าจะใช้เหตุผลมาวิเคราะห์ตรงๆอย่างนั้นก็ควรขึ้นไปนานและไกลกว่านี้แล้วน่ะ ดอลล่าห์แข็งอย่างผิดปกติมาสักพักแล้วยังหาเหตุผลแทบไม่เจอเลย แถมเมื่อคืนนี้ ก็ขึ้นแรงเหมือนกับทองอีก ต้องมีอะไรที่ขึ้นจริงและขึ้นหลอกเราล่ะ แต่เท่าที่เคยสังเกตุทุกครั้งที่มีการประมูลพันธบัตรสหรัฐ ดอลล่าห์จะแข็งช่วงนั้นแล้วหลังจากนั้นก็จะอ่อนลงทันที แต่การประมูลพันธบัตรครั้งล่าสุดไม่อ่อนแถมยังมีแนวโน้มแข็งต่อเรื่อยๆ ทองลงปรับฐานเมื่อตอนต้นปี ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนกว่าจะเจอก้นอ่างน่ะครับ และวันที่ลงวันสุดท้ายจะลงแรงๆ แบบให้รายย่อยถอดใจเลย แต่รอบนี้ยังไม่เห็นลงแรงวันสุดท้ายเลยน่ะ และทองเมื่อปีที่แล้วก็เล่นคล้ายๆปีนี้ เดือน เมย.-พค. ขึ้นแรง ไปเกือบ 2 หมื่น ได้มั้ง แล้วช่วง มิย.-กค ก็ลงไปประมาณ หมื่นแปดต้นๆ ได้มั้ง แล้วตอนนี้ ใกล้เดือนมิย.เป็นเดือนส่งมอบทองครั้งใหญ่กลางปี จะมีการทุบแบบปีที่แล้วหรือเปล่าตอนนี้คงไม่สามารถบอกได้ แต่น่าจะระวังไว้ก็ดีน่ะครับ FED มีอาวุธซ่อนไว้อีกเยอะด้วยที่ยังไม่ลงเพราะเค้าคงยังไม่ทุบหรือป่าว ผมจะรอกลาง-ปลายเดือน มิย. ดีกว่า ยอมซื้อแพงหน่อยแต่นอนหลับสบายกว่าช่วงนี้เยอะครับ เพราะตอนนั้นคงรู้แล้วว่าจะออกหัวหรือก้อย

[bungch 0]

 

 

 

 

 

******************************************************************************************

 

เมื่อเดือนที่แล้ว Marc Faber นักเขียนและนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังจากสวิตเซอร์แลนด์

ได้ไปบรรยายที่สิงคโปร์ให้นักลงทุนระดับ Top Class และผู้จัดการกองทุนฟังถึงทิศทางเศรษฐกิจการเงินโลกในอนาคต

Marc ถามคนในห้องประชุมที่มีกว่า 200 คนว่า

 

ในที่นี้มีใครเก็บทองคำอยู่ในพอร์ทเกิน 5% บ้าง

ปรากฎว่า ไม่-มี-แม้-แต่-คน-เดียว ที่ยกมือ.

 

 

 

 

ยินดีกับคุณ Next ด้วยครับ

ขนาดนักลงทุนนักลงทุนระดับ Top Class และผู้จัดการกองทุน ยังมีทองคำไม่ถึง 5% ของพอร์ต หรือไม่กล้ายกมือกัน? น่าจะถามว่าใครมีทองคำไม่ถึง 5%ของพอร์ตยกมือขึ้นแทนครับ อิอิ

ธนาคารกลางของหลายๆประเทศก็ยังมีทองคำไม่ถึง 5%ของทุนสำรอง เห็นว่าของไทยตามข่าวมีเพิ่มเป็น 3%แล้ว ดังนั้นคนส่วนใหญ่ก็คงยังไม่ได้ถือทองคำเป็นการลงทุนหลัก

โอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงหนักจากแรงขายของmassก็น่าจะยากอยู่ครับ

[cocohill 72]

คราวที่แล้วเส้นเดียว คราวนี้เพิ่มอีกสองเส้น ระยะสั้นถ้ายังยืนหนือเส้นเขียวได้ก็ถือต่อ หลุดแล้วดีดกลับมาเหนือเส้นเขียวไม่ได้ก็ปล่อยละครับ

 

กลางหลุดเหลืองโอกาสที่ newlow ก็มีมากครับ ส่วนตัวใช้เส้นเดียวจริงๆครับคือเส้นฟ้า ส่วนอินดี้ต่างไม่ใช้เลยเพราะใช้ไม่เป็น

[darkgold 0]

ผมมือใหม่หัดลงทุน รวมทั้งหัดpostด้วย อ่านความเห็นคุณตัน เหมือนจะสรุปว่า ให้แทงสวน ถ้าคนส่วนใหญ่ บอกขึ้น เราก็แทงลง ถ้าคนส่วนใหญ่บอกลง เราก็แทงขึ้น ปัจจัยพื้นฐานหรือเทคนงเทคนิคก็ไม่ต้องดู ง่ายๆ เข้าใจก็ไม่ยากเลย แต่..ไม่กล้้าจริงๆ ลงทุนแบบนี้...จะไม่เสี่ยงมากเกินไปหน่อยหรือครับ