ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ขอบคุณมากนะคะ อ่านแล้วรู้สึกดีจังเลย :Kk

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ยินดีต้อนรับน้องใหม่ครับ(โพสครั้งแรกเลย) มาช่วยๆกันโพสบทความดีๆครับ

 

ขอบคุณ..ยินดีต้อนรับครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้สนุกจังค๊าบ ส่วนผมก็แอบอ่านอย่างเดียว

 

ขอบคุณสำหรับการแลกเปลี่ยนนะครับ

เหมือนกันเลย แอบอ่านอย่างเดียว สนุกด้วย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แต่ละเรื่อง แต่ละบท..ขอบอกว่า"สุดยอด"ครับ!! เยี่ยมจริงๆ :_Rd

ขอบคุณค่ะ ขอให้คุณไข่นุ้ยฯ ได้รับพรนี้เช่นกัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:Kk เห็นด้วยกับเรื่อง EURO 1.25 แล้วอเมริกาจะพิมพ์ QE3 ครับ

 

QE3 --> usd index = 65 --> EURO ลดค่าเงิน PEG DOLLAR --> USD index 75 --> USD ลดค่าเงิน PEG GBP --> USD index 58

 

the begining of the end

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554ชีวิตนี้เป็นหนี้ทองคำ

 

คุณวรวรรณ ธาราภูมิ

CEO บลจ. บัวหลวง

 

 

18 ธันวาคม 2554

 

 

 

บทวิเคราะห์ Gloom, Boom and Doom (ความหมดหวัง ความเจริญรุ่งเรือง และความหายนะ) ของ ลุงมาร์ค ฟาเบอร์ เจ้าของฉายา Dr.Doom ล่าสุดนี้ ลุงมาร์ค เล่าเรื่องของ Marion Szablicki ผู้เป็นปู้ของลุงมาร์ค และเราจะเรียกท่านว่า "ปู่มาคิยง" ซึ่งหากเป็นคนจีนเราก็คงจะเรียกท่านว่า "ย้งเล่ากง"

 

 

ลุงมาร์ค เล่าว่า การเรียนรู้เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ของลุงเนี่ยะเริ่มตั้งแต่ลุงยังเป็นลูกเจี๊ยบ และครูคนแรกก็คือ ย้งเล่ากง นี่เอง

 

 

น่าสนใจจริงๆ เพราะปู่มาคิยง หรือ ย้งเล่ากง สอนลุงมาร์ค เรื่อง “คุณค่าของทองคำ” เป็นเรื่องหลักเลยละ

 

 

ทำให้นึกไปถึงคุณทวดของเราเองที่บ้านอยุธยา เพราะตอนเรายังเป็นลูกเจี๊ยบ คุณทวดจะจับไปนั่งตัก ปั้นข้าวสุกร้อนๆ เป็นคำเล็กๆ ใส่ปาก แล้วตามด้วยเกลือเม็ดเล็กๆ ให้แทะ ในระหว่างนั้น คุณทวดก็จะเล่าเรื่องพระพุทธเจ้าหลวง (รัชกาลที่ ๕) เล่าเรื่องชาดกเก่าๆ แบบสุวรรณสาม ยอพระกลิ่น เล่าเรื่องประวัติบรรพบุรุษ และเรื่องการรู้จักหากับวิธีเก็บรักษาเงินโดยสั่งสอนให้สะสมเป็นทองคำไว้เผื่อเกิดสงคราม เพราะค่าเงินจะลดฮวบฮาบ แต่ค่าทองตรงกันข้าม

 

 

ใครที่เคยเหยียดหยาม ดูหมิ่น ว่าคนโบราณเป็นไดโนเสาร์เต่าล้านปี ก็จงคุกเข่า เอาหัวไปโขกพื้นแรงๆ พร้อมกับพูดว่า ผู้น้อยสมควรตายๆๆๆ ได้แล้ว

 

 

ลุงมาร์ค บอกว่า ในช่วงบั้นปลายชีวิตของปู่มาคิยง ปู่รู้สึกว่าโลกนี้มีหนี้มากไป และเราทุกคนกำลังเดินไปสู่อนาคตที่มืดมนยากลำบากเหมือนกับที่ปู่เคยผ่านมาในยุคที่มีแต่เงินกระดาษอันไร้ค่า มีสงครามทั่วทุกที่ ในขณะที่ทองคำเป็นสิ่งที่มีค่ามาก

 

 

ปู่มาคิยง บอก ลุงมาร์ค ว่า “ผู้อยู่รอดมาได้ควรเตือนคนรุ่นหลังว่า “ใครก็ตามที่ละเลยบทเรียนที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ ก็เชิญทำไปตามลำบากด้วยความเสี่ยงของเขาเอง”

 

 

ปู่ของลุงมาร์คเล่าเรื่องรัสเซียบุกเข้ายึดโปแลนด์ในวันที่ 17 กันยายน 1939 และภายใน 1 ปีหลังจากนั้น คนโปลิชหากไม่ถูกจับส่งไปทำงานหนักที่แคมป์แรงงาน ก็จะถูกจับส่งไปตายหยังเขียดที่คาซัคสถานกับไซบีเรีย

 

 

อืม ... ล้างเผ่าพันธุ์ของแท้เลยละ หากจะพูดว่าอาชญากรรมอย่างเดียวในสมัยนั้นคือการเกิดมาเป็นโปลิช ก็ไม่ผิดหรอก ซึ่งเป็นเพราะชาวโปลิช เป็นนักรบที่เกรียงไกร กล้าหาญ จนขึ้นชื่อมาก ทำให้รัสเซีย ต้องการกำจัดให้กำลังอ่อนแอลง จึงได้ประหารชีวิต หรือส่งไปตายนอกประเทศโปแลนด์

 

 

และเมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลง รัสเซียก็ไม่เคยคืนบ้าน ที่ดิน ให้คนโปแลนด์เลย แถมในปี 1943 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง โปแลนด์ตะวันออกก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอยู่ดี

 

 

ในช่วงสงคราม ค่าของเงินกระดาษอ่อนแอและเปราะบางมาก ยิ่งประเทศใดแพ้สงคราม ค่าเงินของประเทศนั้นก็ไม่เหลือ ซึ่งลุงมาร์คเล่าว่ามันเกิดขึ้นกับปู่มาคิยงหรือย้งเล่ากงผู้อาศัยอยู่ทางโปแลนด์ตะวันออกในปี 1939

 

 

ปู่มาคิยง เล่าให้ลุงมาร์คฟังว่า ......

 

 

“ในวันที่ 18 กันยายน 1939 (1 วันหลังรัสเซียยึดโปแลนด์) ปู่ได้รู้ว่าข่าวลือที่รัสเซียจะเข้ายึดโปแลนด์ตะวันออกเป็นเรื่องจริง ทั้งที่ก่อนหน้านั้น 3 สัปดาห์เราเพิ่งถูกเยอรมันนีเข้าตี ทวดโดนเกณฑ์เข้ากองทัพเพื่อไปต่อสู้ป้องกันประเทศตั้งแต่เยอรมนีเข้าบุก แต่เมื่อรัสเซียเข้ายึดได้หลังจากนั้น เขาก็บอกพวกเราทั้งหมดที่โดนเกณฑ์ทหารไปรบกับพวกเยอรมันให้กลับบ้าน ปู่มีเมียกับลูกสาว 3 ขวบที่ต้องไปปกป้อง จึงรีบเดินเท้า 40 กิโล วันเดียวรวด เพื่อกลับหมู่บ้านที่โปแลนด์ตะวันออกทันที ด้วยความเป็นห่วงลูกเมีย”

 

 

“บ้านเราอยู่ใกล้ชายแดนรัสเซียซึ่งพวกมันจะเข้ามาถึงได้ในเวลาไม่นานเลย แม้ว่าปู่จะเป็นแค่คนใช้แรงงานแต่เมียของปู่มีฐานะดีกว่า เราจึงมีทองคำกับเพชรนิลจินดาของครอบครัวเธอไม่น้อย ปู่รีบขุดหลุมเอามันไปซ่อนไว้ให้ปลอดภัย เพราะปู่รู้ว่าเงินสกุล Zloty ของเราจะพังทลาย และทองคำจะเป็นสิ่งเดียวที่เป็นเงินตราได้ ซึ่งต้องเก็บไว้ใช้เพื่อดำรงชีวิตครอบครัวของเรา นี่ก็เพราะปู่จำได้ไม่ลืมเลยว่าในตอนเด็กๆ โปแลนด์เคยเจอภาวะเงินเฟ้อรุนแรงมาแล้วในปี 1923 แล้วตามมาติดๆ ด้วยภาวะเงินเฟ้อแบบ Hyperinflation ที่ประเทศเยอรมันนี ซึ่งทำให้พ่อกับพี่น้องของปู่และปู่เองต้องซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับอาหารด้วยสินค้าอื่นหรือทองคำเพราะเงินกระดาษไม่มีค่าเลย คนขายไม่ยอมรับ ทองคำได้รับการยอมรับมากที่สุดเพราะมีค่าสูงและพกพาไปแลกเปลี่ยนสินค้าได้ง่าย พ่อของปู่เคยเล่าเรื่องคล้ายๆ กันที่เคยมีประสบการณ์สมัยก่อนปฏิวัติฝรั่งเศสที่เกิดเงินเฟ้อรุนแรง ก็ได้พ่อของปู่นี่หละ ที่สอนว่า ทองคำเป็นเงินตราเพียงสกุลเดียวที่ไม่มีเส้นแบ่งของประเทศ”

 

 

 

 

“แล้วกองทัพรัสเซียก็เข้ามาถึงหมู่บ้านเราใน 2 วันหลังจากนั้น มันก็โชคดีจริงๆ ที่ปู่เกิดในไซบีเรียตะวันออก และเคยเป้นนักมวยในรัสเซียมาหลายปี เพราะมันทำให้ปู่พูดภษารัสเซียได้สบายๆ และปู่จำได้ไม่ลืมเลยว่าในช่วงปฏิวัติรัสเซียก่อนหน้านั้น ใครที่ไม่ใช่พวกมันหรือดูมีการศึกษา มีชาติตะกูลที่ดีกว่า (คงจะแบบอำมาตย์บ้านเรา) จะตกอยู่ในอันตรายจากผู้ร่วมปฎิวัติรัสเซียที่โกรธแค้น ชิงชัง ขนาดไหน”

 

 

“ปู่จึงสื่อสารกับทหารรัสเซียหลายคนเพื่อหาทางออกให้กับชะตากรรมของพวกเรา แล้ว 2 สัปดาห์ถัดมา พ่อตาของปู่ซึ่งเพิ่งเกษียณจากการเป็นทหารโปแลนด์ก็ถูกจับไป เราไม่ได้พบท่านอีกแล้ว และคาดเดาได้ว่าท่านคงถูกพวกรัสเซียประหารชีวิตไปพร้อมๆ กับข้าราชการชาวโปแลนด์อีกหลายพันคน ปู่ต้องรีบให้แม่ยายอพยพออกไปทันที แล้วเราก็ไม่ได้พบท่านอีกเลย”

 

 

“ฤดูหนาวมาถึงพร้อมกับความหนาวเย็นที่สุดและการขาดแคลนอาหารกับสินค้าต่างๆ ที่จำเป็นในชีวิต มันมาพร้อมกับข่าวว่าพวกรัสเซียจะจับคนโปลิชไปโยนทิ้งนอกแผ่นดินของเรา ในเดือนกุมภาพันธุ์ 1940 ชาวโปแลนด์ที่เป็นตำรวจ เจ้าของที่ดิน และผู้มีการศึกษามากมาย พร้อมญาติๆ โดนจับตัวไปทิ้งนอกประเทศในดินแดนที่ยากลำบาก แล้วเรื่องนี้ก็มาถึงบ้านเราในกลางดึกที่มีทหารรัสเซีย 4 นายพร้อมอาวุธสงคราม มาเคาะประตูบ้านปู่ ปู่ต้อนรับพวกเขาอย่างสุภาพด้วยภาษารัสเซีย แต่พวกเขาก็สั่งให้ปู่ใส่เสื้อโค้ทและตามพวกเขาไป ปู่ก็ทำตามโดยดี และโดนซักฟอกด้วยคำถามมากมาย”

 

 

“โชคดีจริงๆ ที่ 1 ในทหาร 4 คนที่มาเอาตัวปู่ไปนั้น เป็นคนที่ปู่วิสาสะด้วยหลายครั้งในหลายๆ เดือนที่ผ่านมา ปู่จึงไม่โดนฆ่า และได้รับคำตัดสินว่า เนื่องจากปู่เกิดในไซบีเรีย พูดรัสเซีย และเป็นคนไม่มีการศึกษาเหมือนพวกเรา เขาจึงปล่อยให้กลับไปบ้านก่อน แล้วทหารคนนั้นก็มาจับข้อศอกปู่แล้วกระซิบว่า กลับไปหาครอบครัวซะ มาคิยง เตรียมตัวให้ดีเพราะพวกคุณจะถูกส่งไปไซบีเรียในวันหลัง”

 

 

“ปู่โกยแน่บกลับบ้านทันที แล้วขุดเอาทองคำกับเพชรนิลจินดาออกมาในช่วงค่ำ แล้วเอาเหรียญทองคำอันเล็กวางเรียงบนพื้นในรองเท้าบูธ เอาหนังปูทับอีกทีจะได้เดินไม่เจ็บ แล้วเอาเหรียญทองคำขนาดใหญ่ไปใส่ในส้นรองเท้า เหรีญทองคำกับสร้อยทองหลายเส้นที่เหลือซ่อนไว้หลายๆ ตำแหน่งในเสื้อโค้ทตัวใหญ่อย่างระมัดระวังไม่ให้ตรวจเจอได้”

 

 

“หลายวันหลังจากนั้น พวกมันมาเคาะประตูบ้านตอนตีสี่ บอกให้เราขนของและรีบอพยพไปไซบีเรียภายใน 15 นาทีเท่านั้น โชคดีที่นายทหารคนนั้นกระซิบบิกไว้ก่อน และตอนนี้บ้านเรา ที่ดินเรา ทรัพย์สินอื่นๆ ที่ยังอยู่ในนั้นก็ยังกลายเป็นทรัพย์สินของพวกรัสเซียจนทุกวันนี้”

 

 

“เมียและลูกสาว 3 ขวบ กับปู่ ถูกจับใส่รถบรรทุกรวมกับคนอื่นๆ ที่มีชะตากรรมเดียวกัน มันพาเราไปสถานีรถไฟเพื่อส่งไปไซบีเรีย หลังจากวันนั้นพวกเราก็ไม่เคยพบพ่อแม่พี่น้องอีก และไม่เคยกลับไปเหยียบแผ่นดินโปแลนด์อีกเลย ปู่ดีใจที่มันไม่ได้ตรวจเสื้อโค้ทกับรองเท้าของปู่ เพราะทองคำเล็กๆ น้อยๆ ที่ปู่ซ่อนไว้มันจะช่วยให้เรารอดตายได้”

 

 

“รถไฟมาถึงในหลายชั่วโมงต่อมา พวกเราถูกจับยัดไปในขบวนตู้ขนฝูงสัตว์ ที่ต้องใช้เวลาเดินทางไปถึงไซบีเรียใน 3 สัปดาห์ และนรกมีจริง ตู้ขนฝูงสัตว์ที่แออัดแน่นเอี้ยด ไม่มีห้องน้ำ พอ 2-3 วันที พวกมันก็มาให้ขนมปังแข็งโป๊กกับน้ำนิดหน่อย หลายคนตายไปแล้ว แต่ก็แค่ถูกโยนศพทิ้งออกไปนอกหน้าต่างไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง ผู้ชาย คนแก่ หรือเด็ก ไม่มีสองมาตรฐาน ปู่ร้องไห้ครั้งสุดท้ายในการเดินทางครั้งนั้นเมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งคลอดเด็กทารกออกมา ไม่นานเด็กก็ตาย แล้วทหารก็เอาศพเด็กโยนทิ้งเหมือนเศษขยะ”

 

 

“เราถูกต้อนลงที่คาซัคสถานใกล้ชายแดนไซบีเรีย ที่นี่จะเป็นแหล่งที่อยู่ใหม่ของเรา เพราะชาวโปแลนด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มีชีวิตอยู่ต่อไปเนื่องจากโดนโทษประหารให้หมด เราหนาวจนจะแข็งตายเพราะอุณหภูมิที่ -20 องศาเซลเซียส คนท้องถิ่น 1 ครอบครัวโดนสั่งให้รับพวกเราเข้าไปอยู่ด้วย 3-4 ครอบครัวต่อ 1 บ้าน ทั้งๆ ที่เขายากจนมาก แต่พวกคนรัสเซียท้องถิ่นเหล่านั้นก็ดีกับพวกเราเท่าที่จะทำได้ภายใต้สถานการณ์ขณะนั้น

 

 

“ทองคำที่ปู่ซุกซ่อนมานั่นแหละที่ทำให้เรารอดมาได้ ปู่ใช้มันแลกกับที่อยู่ที่ดีขึ้น แลกเป็นเหรียญรูเบิ้ลแล้วใช้มันไปซื้ออาหารมาตุนไว้ตลอดฤดูหนาวอันทารุณ ปู่ซื้อเครื่องมือใช้สอยที่จำเป็น ใช้มันรับจ้างเลื่อยไม้ ซ่อมบันได และทำงานให้คนอื่นๆ เพื่อแลกกับเงินรูเบิ้ล หรืออาหาร บางวันปู่ต้องออกไปทำงานโดยไม่แตะอาหารเลยเพราะต้องเก็บให้ลูกเมียได้มีประทังชีวิต เราผ่านฤดูหนาวจนมาถึงฤดูร้อน ปู่เกือบตายเพราะมาเลเรีย และเมียปู่ก็เกือบตายจากไทฟอยด์ แต่ในเมื่อเรายังมีทองคำ เราก็เลยเข้าถึงยาได้ มันเป็นตามที่ปู่คิด คือเงิน Zloty ของโปแลนด์ไม่มีใครรับ รูเบิ้ลรัสเซียถึงจะใช้ได้ แต่ไม่มีอะไรดีเท่าทองคำ”

 

 

“แล้วในปี 1941 พวกเราทั้งหมดก็ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระโดยไม่รู้เหตุผล (เยอรมนีโจมตีรัสเซียวันที่ 22 มิถุนายน 1941 แล้วทำข้อตกลงให้ชาวโปแลนด์เป็นอิสระจากพวกรัสเซีย แต่ต้องไปเป็นทหารในเปอร์เซีย”

 

 

“ปู่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทหารรัสเซียบอกปู่ว่า .... มาคิยง รีบพาครอบครัวไปขึ้นรถไฟด่วนที่สุดเลย ก่อนที่พวกนั้นจะเปลี่ยนใจ .... ปู่พาครอบครัวออกจากที่นั่นในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หลายๆ คนที่โดนนำมาทิ้งที่นี่ล้วนอ่อนแอเกินกว่าจะเดินทางได้อีกแล้ว เขาเลยตัดสินใจอยู่ต่อ พอมาถึงสถานีรถไฟ ปู่ถึงรู้ว่าเขากำลังจะจัดตั้งกองกำลังโปแลนด์เพื่อส่งไปรบอีก แต่เจ้าหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนย้ายพวกเราบอกว่ารถไฟเต็มหมดแล้ว”

 

 

“ปู่จึงเดินไปหาเขาอย่างเงียบๆ และเสนอทองคำให้ 3 เหรียญทองเพื่อแลกกับที่ว่างในขบวนรถสำหรับเรา 3 คน เขาตกลง และเมื่อรถไฟมาถึง เขาค่อยๆ พาเราไปที่อีกด้านของขบวนรถ บอกกับเจ้าหน้าที่บนรถไฟว่ามีคำสั่งพิเศษให้พาพวกนี้ 3 คนขึ้นไป เราจึงรอดพ้นจากคาซัคสถานมาได้ และอยู่ในกลุ่มชาวโปแลนด์หลายพันคนที่ยินดีจะจากคาซัคสถานเพื่อลงใต้อย่างเร่งด่วนแล้วไปเข้าร่วมกับกองทัพโปแลนด์ที่เปอร์เซีย”

 

“เราข้ามทะเลแคสเปียนด้วยเรือ มาถึงเปอร์เซีย (อิหร่าน) เป็นพวกแรกๆ ซึ่งเป็นโชคดีจริงๆ เพราะพวกที่มาทีหลังต้องเดินเรือถอยกลับไปรัสเซียมหาโหดอีกครั้ง เนื่องจากโควต้ากองทัพเต็มแล้ว พวกเราได้รับการต้อนรับจากชาวเปอร์เซียอย่างอบอุ่น เขารักษาพยาบาลพวกเราจนฟื้นฟูเป็นปกติ ให้เราไปอยู่ในบ้านเขา ปู่พบว่าชาวเปอร์เซียเป็นคนใจดีมีเมตตาที่สุดในโลก”

 

 

ปู่เข้าร่วมในกองทัพของนายพล Anders ชีวิตเริ่มมีความหวังบ้างแล้ว ลูกเมียถูกส่งไปอยู่ที่อินเดียเพื่อความปลอดภัย ปู่ไม่ได้พบพวกเขาเลยตลอด 6 ปีในกองทัพ ไม่รู้กันเลยว่าใครจะเป็นอย่างไรกันบ้าง อยู่หรือตายก็ไม่รู้

 

 

ปู่รบในอาฟริกาและอิตาลี และทำวีรกรรมไว้ที่ Monte Cassino ไม่เคยเจอเลือดมากมายขนาดนี้มาก่อนในชีวิต แล้วเราก็ตัดสินใจเข้าตีเมือง Abbey ที่เยอรมันยึดไว้ “ปู่ภูมิใจเหลือเกินที่เป็นชาวโปลิช ได้เข้าร่วมในกองทัพโปแลนด์ที่กล้าหาญและเก่งกาจที่สุดในวันนั้น”

 

 

“สงครามสิ้นสุด แล้วปู่ก็ตามไปค้นพบลูกเมียที่อินเดีย ซึ่งด้วยเหตุที่พวกเธออยู่อินเดียจึงทำให้พวกเธอต้องถูกส่งกลับไปอยู่ใกล้ๆ ลอนดอน ปู่จะตามไปเมื่อจบภารกิจในกองทัพ แล้วปู่ก็ทำได้ใน 2 ปีถัดมา มันมหัศจรรย์ที่สุด และขอบคุณ วินสตัน เชอร์ชิล นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่ไม่ยอมให้ใครผลักดันพวกเราชาวโปลิชออกไปไหนโดยไม่เต็มใจอีกแล้ว พี่น้องผู้ชายของปู่ทุกคนตายในสงครามป้องกันโปแลนด์จนหมดสิ้น หากปู่ไม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์จากพ่อเรื่องเงินเฟ้อ สงคราม กับคุณค่าของทองคำ เราคงไม่รอด ปู่และลูกเมียเป็นหนี้ชีวิตต่อเหรียญและสร้อยคอทองคำเพียงหนึ่งกำมือ แล้วหลายวันก่อนที่พวกเราจะอพยพจากอังกฤษเพื่อไปอยู่ออสเตรเลียตามความต้องการของเราเอง ปู่ก็ได้รับโทรศัพท์ว่า ... มาคิยง เรามีที่ว่างให้พวกคุณในอเมริกา สนใจป่ะ ... ปู่บอกว่า... เอาสิ .. เขาตอบว่ามาเลย เร็วที่สุด ... ปู่วิ่งเต็มสปีดไปตลอดทางเลย แล้วเราก็เลยได้มีชีวิตที่ดีที่สุดในอเมริกา”

 

 

หมายเหตุ : Victoria Szablicki ภริยาของ มาคิยง เสียชีวิตในวันที่ 5 มิถุนายน 2011 หลังจากนั้น 11 วัน ปู่มาคิยง ของลุงมาร์ค ฟาเบอร์ ก็เสียชีวิตตามไปในวัย 100 ปี หลังจากได้รับเหรียญกล้าหาญอันสุดท้ายที่ทรงเกียรติยิ่งจากรัฐบาลโปแลนด์ คือ Siberian Cross ไปในวัย 98 ปี เขาทั้งสองคนมีชีวิตสมรสร่วมกันยาวนานถึง 76 ปี

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไม่ทราบมาก่อนเลยว่า Marc Faber มีเชื้อสาย Polish ด้วย ขอบคุณมากครับ

รู้สึกว่าแกใช้ชีิวิตอยู่ที่เชียงใหม่ด้วย เห็นออกโทรทัศน์หลายๆครั้ง จะขึ้นว่า Chiangmai, Thailand

ถ้าแกจัดสัมนาในไทย ท่าทางจะได้สมาชิก Thaigold ไปร่วมฟังกันหลายท่าน :)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สำหรับแฟนๆ ของ Martin Armstrong แกออกบทความใหม่ เกี่ยวกับทองโดยตรงเลยนะครับ ตามนี้

http://www.inflateordie.com/files/Whats%20Up%20With%20Gold%2012-15-2011.pdf

 

ไม่แน่ใจว่าจะมีโอกาสได้แปลไหม เพราะช่วงนี้ลูกค้าเยอะมาก

 

ผมยังอ่านไม่จบ แต่ขอเอาตัวเลขหลักๆ ตามบทความมาให้ดู่กอนครับ

 

Since the Yearly Bearish Reversal lies at $1058.00, only a year-end closing beneath this area would signal a prolonged decline into 2013. Our Yearly Bullish Reversal stands above the market at $1704.20. Therefore, only a closing ABOVE that would suggest a continued uptrend short-term.

 

หากผมมาช้า หรือไม่ได้เข้ามา

ยังไงคุณ WCG หรือ ท่านใดสะดวก รบกวน แปล/สรุป ให้ด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตอนนี้แปลไม่ไหวเหมือนกัน ระหว่างรอคนมาช่วยแปล

เมื่อเช้าได้มีโอาสอ่าน สรุปให้คร่าวๆได้ตามนี้ครับ

  • MA ยังยืนยันสิ่งที่เคยพูดในบทความก่อนๆ คือ การที่อ้างว่าทองคำมีค่าเพราะเงินสกุลต่างๆเป็นเงินกระดาษนั้น เป็นเรื่องไร้สาระ เพราะมันก็เป็นเงินกระดาษมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ราคาทองก็หล่นแรงๆได้ถึงสองครั้งในรอบสามสิบกว่าปีที่ผ่านมา
  • แต่ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในปัจจุบัน คือ รัฐบาล เพราะรัฐบาลสามารถ ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ และความมั่งคั่งของเราไปได้ง่ายๆ และการออกกฏหมายต่างๆที่ผ่านมาในอเมริกา เป็นเครื่องยืนยันว่ารัฐบาลสหรัฐกำัลังสร้างอำนาจเบ็ดเสร็จให้กับตนเอง
  • เพราะฉะนั้น คิดว่าทองมันกำลังราคาจะขึ้น เพราะมันเป็นเงิินกระดาษเสียเถิด สิ่งที่จะทำให้ราคาทองคำขึ้นในที่สุดคือ ปัญหาเรื่องความมั่นคงที่จะเกิดขึ้นจากศัตรูในประเทศต่างหาก

ส่วนตัวเลข ตามที่คุณ John แปะมาเลยครับ

 

ท้ายบทความ MA ขาย Trend report สำหรับปี 2012 ด้วย

ราคาตั้ง $1250 แน่ะ แต่ถ้าใครเข้าร่วมสัมนากับแกเมื่อปลายเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา

ได้รับ report ทั้งหมดฟรี :)

 

ไปปั่นงานต่อละ

สำหรับแฟนๆ ของ Martin Armstrong แกออกบทความใหม่ เกี่ยวกับทองโดยตรงเลยนะครับ ตามนี้

http://www.inflateor...012-15-2011.pdf

 

ไม่แน่ใจว่าจะมีโอกาสได้แปลไหม เพราะช่วงนี้ลูกค้าเยอะมาก

 

ผมยังอ่านไม่จบ แต่ขอเอาตัวเลขหลักๆ ตามบทความมาให้ดู่กอนครับ

 

Since the Yearly Bearish Reversal lies at $1058.00, only a year-end closing beneath this area would signal a prolonged decline into 2013. Our Yearly Bullish Reversal stands above the market at $1704.20. Therefore, only a closing ABOVE that would suggest a continued uptrend short-term.

 

หากผมมาช้า หรือไม่ได้เข้ามา

ยังไงคุณ WCG หรือ ท่านใดสะดวก รบกวน แปล/สรุป ให้ด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มีตัวเลขสำคัญ ที่ไม่อยากให้พลาด เลยขอแปลสั้นๆ แล้วกันนะครับ

The weekly

closing below $1605 will confirm what

is coming down the pike. There just

has to be a cleaning out of tired longs

who have been sitting there counting

their profits like chickens based upon

unfertilized eggs. All the indicators

have been warning that a correction is

coming. The fundamental mantra

about fiat currency is getting old. The

market is poised for retest of the

1225-1325 area going into 2012 which

is the key support.

 

ราคาปิดที่ต่ำกว่า 1605 (สัปดาห์ที่ผ่านมาปิดต่ำกว่านี้แล้ว) แสดงให้เห็นว่า (กราฟวีค) จะมีการปรับตัวลงตามมา

และเราอาจได้เห็นการทดสอบแนวรับหลักที่ 1225-1325 ในปี 2012

 

December should have been a Directional Change. So far that looks to be on target. The Indicating Ranges for December are MOMENTUM 198010-163800, TREND 153950-107200, and LONG-TERM TREMD 163700-132870. This shows that the first level of support is at $1539, followed by $1328, and $1072. The Yearly number of $1405 also provides important underlining support.

 

ตามโมเดลของ MA เดือน ธันวา น่าจะเป็นจุดกลับตัวของราคา

ซึ่งเท่าที่ผ่านมาราคาก็เคลื่อนไหวสอดคล้องกับที่โมเดลได้คาดการณ์ไว้

แนวรับหลักๆ จะอยู่ที่ $1539, followed by $1328, and $1072.

 

ตามกราฟปี ตัวเลขที่สำคัญคือ 1405 (อย่าปิดต่ำกว่านี้แล้วกันปีนี้)

As it currently stands, a decline into January is the most likely course of action. We can see a intraday low form in February, however, January is still likely to be the lowest close.

 

ตามที่เป็ฯตอนนี้ ทำให้คาดการณ์ได้ว่า เดือน ม.ค. 2012 ราคาทองจะอยู่ในขาลง และเราน่าจะได้เห็นจุดต่ำสุดระหว่างวันของรอบ ในเดือน ก.พ. อย่างไรก็ตาม ราคาปิดต่ำสุด น่าจะอยู่ในเดือน ม.ค.

 

 

The world may hold together until June. From then on it appears to be starting to go nuts going into 2014.

 

เศรษฐกิจโลกน่าจะถูกประคับประคอง kick the can down the road ไปได้ถึงเดือน มิ.ย. หลังจากนั้นก็เตรียมตัวกันให้ดีพ่อแม่พี่น้องเอ๊ย

ถูกแก้ไข โดย JohnCM

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับ คุณwcg, คุณJhonCM ไม่ได้คำแปลมาช่วยนี่แย่แน่ๆ :)

 

แต่ปีหน้าเริ่มหวันไหวแล้วสิ เจอแบบนี้เข้าไป

ถูกแก้ไข โดย leo_attack

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มันจะดิ่งเหวได้ปานนั้นเลยหรือครับ

 

ตอนทองทำไฮ ตอนนั้น MA เคยเตือนไว้ล่วงหน้าหลายเดือนว่า หลังวันแรงงานทองจะลง แล้วก็เป็นตามนั้นจริงๆ

ผ่านวันแรงงานปุ๊ปทองลงปั๊ป ตอนนั้นผมไม่เชื่อ ไปซื้อทองแท่ง(สุดท้าย) ก่อนที่ทองจะปรับลงพอดี ติดดอยไปตามระเบียบ 555

 

แต่ถามว่าที่เขาพยากรณ์ไว้จะถูกต้องแน่นอนไหม ก็ต้องบอกว่าไม่แน่นอนครับ เพราะเป็นการทำนายอนาคต ความคลาดเคลื่อนย่อมเกิดขึ้นได้

แต่ความเป็นไปได้มีอยู่ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณทุกๆท่านค่ะ ได้ความรู้มากมาย :01 :10 :30

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...