ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ตามมาหาอ่านแล้วครับ ขอมาแชร์เพิ่มเติม

บริษัท Rich Global LLC ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจของ Robert Kiyosaki นักเขียนหนังสือให้คำแนะนำด้านการเงินขายดีในชุดพ่อรวยสอนลูก (Rich Dad, Poor Dad) ได้ยื่นขอล้มละลายเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากไม่สามารถชำระหนี้ประมาณ 24 ล้านดอลลาร์ให้กับบริษัท Learning Annex ได้

 

บริษัท Learning Annex นั้นเป็นหนึ่งในผู้มีส่วนผลักดันให้ Kiyosaki มีชื่อเสียงในอดีตเมื่อหนังสือ Rich, Dad, Poor Dad เปิดตัวในปี 1997 โดยเป็นผู้วางแผนการประชาสัมพันธ์ตัวเขาในสื่อทั่วโลก อย่างไรก็ตามธุรกิจหลักของ Kiyosaki ในปัจจุบันรวมถึงหนังสือนั้นบริหารจัดการภายใต้บริษัท Rich Dad Co. ซึ่งมี Mike Sullivan ทำหน้าที่ซีอีโออยู่

 

ทั้งนี้การยื่นฟ้องล้มละลายของบริษัท Rich Global นี้ถือเป็นการล้มละลายในฐานะบริษัทจดทะเบียน จึงไม่ส่งผลกระทบต่อ Kiyosaki โดยตรง รวมทั้งซีอีโอแห่ง Rich Dad Co. ก็บอกว่าสินทรัพย์ที่มีเหลืออยู่ในบริษัท Rich Global นั้นก็มีเหลืออยู่ไม่กี่ล้านดอลลาร์เท่านั้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ด้วยการเตรียมออกเหรียญกษาปณ์ฮอบบิตทองคำ 99.99 เปอร์เซ็นต์ โดยความพิเศษของเหรียญที่ว่าคือ มันเป็นเงินตราที่สามารถนำมาชำระหนี้ได้ตามกฎหมายนับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป

 

รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลแดนกีวีเตรียมออกเหรียญกษาปณ์แบบใหม่ที่มีภาพของตัวละครเอกหลายตัวใน มหากาพยทั้ง 2 เรื่องสลักอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกานดาล์ฟ, บิลโบ, แบกกินส์ และกอลลัม พร้อมกับมีข้อความทั้งที่เป็นภาษาอังกฤษ และภาษา “ดวาร์วิช” สลักไว้ตรงขอบของเหรียญแทนคำว่า “มิดเดิลเอิร์ท” และคำว่า “นิวซีแลนด์” โดยราคาของเหรียญฮอบบิตจะมีตั้งแต่ 1-10 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (1 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ คิดเป็นเงินไทยราว 25.13 บาท)

 

อ่านจากข่าวหลายท่านจะงงครับ(อ่านข่าวอย่าเชื่อนักข่าวมาก แค่ฟังว่ามีอะไรเกิดขึ้น ส่วนอะไรที่เขาพูดแล้วไม่สมเหตุสมผมอย่าเชื่อ)

 

---- เอาราคาจำหน่ายจริงมาแจ้งครับ เหรียญเงินหนัก1ออนซ์ที่เหรียญมีคำว่า 1$ ราคาจำหน่าย 149.00$ คิดเป็นเงินไทย3,744.37บาท

----เหรียญทองคำไม่ได้ถึงน้ำหนักต่อเหรียญ(เดาว่าหนัก1ออนซ์ต่อเหรียญ) ที่เหรียญมีคำว่า 10$ ราคาจำหน่ายต่อเหรียญ 3,695$ คิดเป็นเงินไทย

92,855.35บาท

http://stamps.nzpost.co.nz/thehobbit

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เฮียๆที่สมาคมอย่ากั๊กมากนะครับเช้านี้ ลงให้สุดๆเลย ไม่ต้องอั้น :uu

 

ช่วยเสริมข่าวคุณส้มโอมือ : ที่เขาว่าในข่าว น่าจะหมายถึงราคาหน้าเหรียญมั้งครับ

เหมือนกับที่เหรียญซิลเวอร์อีเกิล ๑ ออนซ์ มีราคาหน้าเหรียญ ๑ เหรียญสหรัฐ

ซึ่งสามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฏหมาย ๑ เหรียญสหรัฐจริงๆ แต่เวลาไปขอซื้อเขา ราคา

๑ เหรียญ จะโดนมองหน้าแปลกๆ :lol:

 

เหรียญทอง/เงิน ของเมืองไทยที่มีให้จองกัน ก็มีราคาหน้าเหรียญต่ำกว่ามูลค่าซื้อขายเหมือนกัน

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เทียบธนบัตรอเมริกันดอลล่าร์ กับธนบัตรจากเกมเศรษฐี

คนออกแบบธนบัตรอเมริกันดอลล่าร์ พยายามจะส่งสัญญาณอะไรหรือเปล่า :lol:

 

ที่มา : ลุงจิม http://www.jsmineset...ews-today-1337/

post-2564-0-33290500-1350266503.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ถึงไม่ได้ลงทุนในโลหะเงิน แต่ถ้าคุณลงทุนในทองคำ บทที่10นี้อยากให้อ่านครับ เนื้อหาน่าสนใจ

 

โอกาสเงินของเงินจริงๆ10

 

http://www.facebook....49932755153292/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เฮียๆที่สมาคมอย่ากั๊กมากนะครับเช้านี้ ลงให้สุดๆเลย ไม่ต้องอั้น :uu

 

ช่วยเสริมข่าวคุณส้มโอมือ : ที่เขาว่าในข่าว น่าจะหมายถึงราคาหน้าเหรียญมั้งครับ

เหมือนกับที่เหรียญซิลเวอร์อีเกิล ๑ ออนซ์ มีราคาหน้าเหรียญ ๑ เหรียญสหรัฐ

ซึ่งสามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฏหมาย ๑ เหรียญสหรัฐจริงๆ แต่เวลาไปขอซื้อเขา ราคา

๑ เหรียญ จะโดนมองหน้าแปลกๆ :lol:

 

เหรียญทอง/เงิน ของเมืองไทยที่มีให้จองกัน ก็มีราคาหน้าเหรียญต่ำกว่ามูลค่าซื้อขายเหมือนกัน

 

ไม่มีของเลย แถมสมากั๊ก ก็ยังกั๊กกันต่อปายยยยยย

 

 

T-T

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตามมาหาอ่านแล้วครับ ขอมาแชร์เพิ่มเติม

บริษัท Rich Global LLC ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจของ Robert Kiyosaki นักเขียนหนังสือให้คำแนะนำด้านการเงินขายดีในชุดพ่อรวยสอนลูก (Rich Dad, Poor Dad) ได้ยื่นขอล้มละลายเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากไม่สามารถชำระหนี้ประมาณ 24 ล้านดอลลาร์ให้กับบริษัท Learning Annex ได้

 

บริษัท Learning Annex นั้นเป็นหนึ่งในผู้มีส่วนผลักดันให้ Kiyosaki มีชื่อเสียงในอดีตเมื่อหนังสือ Rich, Dad, Poor Dad เปิดตัวในปี 1997 โดยเป็นผู้วางแผนการประชาสัมพันธ์ตัวเขาในสื่อทั่วโลก อย่างไรก็ตามธุรกิจหลักของ Kiyosaki ในปัจจุบันรวมถึงหนังสือนั้นบริหารจัดการภายใต้บริษัท Rich Dad Co. ซึ่งมี Mike Sullivan ทำหน้าที่ซีอีโออยู่

 

ทั้งนี้การยื่นฟ้องล้มละลายของบริษัท Rich Global นี้ถือเป็นการล้มละลายในฐานะบริษัทจดทะเบียน จึงไม่ส่งผลกระทบต่อ Kiyosaki โดยตรง รวมทั้งซีอีโอแห่ง Rich Dad Co. ก็บอกว่าสินทรัพย์ที่มีเหลืออยู่ในบริษัท Rich Global นั้นก็มีเหลืออยู่ไม่กี่ล้านดอลลาร์เท่านั้น

นักข่าว คนในเนทก็ว่ากันไป เป็นแค่บริษัทล้มละลาย ไม่ใช่เจ้าตัวซะหน่อย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักข่าว คนในเนทก็ว่ากันไป เป็นแค่บริษัทล้มละลาย ไม่ใช่เจ้าตัวซะหน่อย

 

เท่าที่เคยอ่านงานของคิโยซากิ และได้อ่านคนที่วิพากษ์งานสัมนาที่จัดขึ้นโดยใช้ชื่อของเขา่แล้ว

ผมว่าเขาคงตั้งใจปล่อยให้ล้มละลายครับ เพราะหนี้บริษัทแบบนี้มันตามมาถึงตัวไม่ได้ง่ายๆ

 

แต่เท่าที่เคยได้เห็นคนเอาเรื่องงานสัมนาของคิโยซากิมาแฉ

รู้สึกว่างานนี้น่าจะเรียกได้ว่า เกลือจิ้มเกลือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ต่างประเทศ

 

 

งัดคิวอี3สู้หยวน มะกันก่อชนวนสงครามค่าเงินโลก

 

 

 

 

 

โดย...นงลักษณ์ อัจนปัญญา

ถือเป็นวาทะโต้ตอบค่อนข้างดุเดือดพอสมควรระหว่าง คริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และ เบน เบอร์แนนคี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในประเด็นแนวคิดเรื่องนโยบายผ่อนปรนทางการเงิน (คิวอี) ที่สหรัฐ และบรรดาประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลายนำออกมาใช้อยู่ในขณะนี้

เพราะสำหรับฟากไอเอ็มเอฟ สารพัดมาตรการคิวอีระลอกใหม่ รวมถึงคิวอีรอบที่ 3 จากสหรัฐ ที่บรรดานักวิเคราะห์ทั่วโลกขนานนามว่าเป็น“คิวอี อินฟีนิตี” เนื่องจากเป็นการอัดฉีดเงินเข้าระบบเดือนละ 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยไม่จำกัดระยะเวลาที่แน่นอน กำลังสร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะบรรดาประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างมาก

ไล่เรียงตั้งแต่ การไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติมหาศาล ค่าเงินของประเทศแข็งค่าขึ้นกระทบส่งออก และมีแนวโน้มจะก่อปัญหาฟองสบู่สินทรัพย์ให้ร้อนแรงเกินไป

ทว่า สำหรับฟากเฟด โดยประธานเบอร์แนนคีกลับโดดออกมาปกป้องมาตรการคิวอีเต็มที่ ด้วยเหตุผลที่ว่านโยบายผ่อนปรนที่ทำให้มีปริมาณเงินนับล้านล้านเหรียญสหรัฐ ไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไม่เพียงจะกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจทั่วโลกโดยรวมอีกด้วย

เพราะนโยบายที่มุ่งลดปัญหาการว่างงานและสร้างเสถียรภาพด้านราคา จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและการเติบโตของสหรัฐซึ่งท้ายที่สุดจะมีผลสนับสนุน เศรษฐกิจโลกไปในที่สุด

แม้ผลลัพธ์จากมาตรการผ่อนปรนนโยบายจะยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ในปัจจุบัน แต่การใช้มาตรการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องได้ส่งสัญญาณอันตรายแน่ชัดให้นัก วิเคราะห์นักลงทุน และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์หวั่นใจเรียบร้อยแล้ว

83C2D15027924F35AF1AF2AE0FD7F1E0.gif

 

และสัญญาณไม่สู้ดีที่ว่า คือแนวโน้มการปะทุขึ้นมาอีกรอบของสงครามค่าเงิน โดยนักวิเคราะห์จากศูนย์วิจัยเมลลอนในสังกัดแบงก์ออฟนิวยอร์ก ได้ออกโรงเตือนเพียงไม่นานหลังจากที่เฟดประกาศใช้คิวอี 3 ว่า นโยบายดังกล่าวจะทำให้เกิดสงครามค่าเงินอย่างที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะบรรดาประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ โดยเฉพาะจีน จะหวนกลับมาใช้นโยบายควบคุมเงินทุนขนานใหญ่กันอีกครั้ง

ทั้งนี้ เมื่อเอ่ยถึงสงครามค่าเงิน คำจำกัดความสั้น ง่าย และได้ใจความ คือ การที่บรรดาประเทศต่างๆ ทั่วโลกแข่งขันกันลดค่าเงินเพื่อช่วยกระตุ้นการส่งออกและลดการนำเข้า ซึ่งผลกระทบไม่เพียงแต่จะทำให้ค่าเงินของประเทศนั้นๆ อ่อนลงอย่างฮวบฮาบจนสร้างความได้เปรียบในภาคการส่งออกเท่านั้น แต่ยังบีบให้หลายประเทศจำต้องใช้นโยบายกีดกัน สกัดการขาดดุลและชดเชยความเสียเปรียบที่ประเทศตนเองได้รับ

กุยโด มันเตกา รัฐมนตรีคลังบราซิล หนึ่งในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ หรือที่เรียกกันว่า บริกส์ กล่าวเตือนในระหว่างการประชุมไอเอ็มเอฟที่กรุงโตเกียวเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ ผ่านมา ว่า เมื่อตลาดเกิดใหม่ทั้งหลายไม่สามารถทนทานต่อกระแสทุนขนาดใหญ่ที่มีความ เสี่ยงและการแข็งค่าของค่าเงินที่มีผลมาจากนโยบายทุ่มเงินของบรรดาประเทศ พัฒนาแล้วอีกต่อไป เมื่อนั้นประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ย่อมไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากงัดเอาทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องตัวเองจากปัญหาทุนจากสหรัฐมาใช้

สำหรับศูนย์กลางของสงครามค่าเงินในครั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ทั่วโลกต่างเห็นตรงกันว่าคงหนีไม่พ้นการต่อสู้ห้ำหั่น ระหว่างสองชาติมหาอำนาจหลักของโลกระหว่างสหรัฐกับจีนเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ บทวิเคราะห์จากอีแกน-โจนส์ หนึ่งในบริษัทจัดอันดับในสหรัฐ ซึ่งเห็นว่าคิวอี 3 ในครั้งนี้ ไม่ได้มุ่งช่วยลดหนี้สาธารณะของประเทศแต่จะลดมูลค่าของสกุลเงินเหรียญสหรัฐ เสียมากกว่า ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ตลาดหุ้นและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้นแล้วยังช่วย ให้ภาคการส่งออกของสหรัฐขยายตัว และเป็นตัวดึงดูดภาคการผลิตให้หวนกลับคืนสู่ประเทศ

ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาเศรษฐกิจการค้าของสหรัฐประสบกับภาวะขาดดุลมาโดยตลอด โดยเฉพาะกับจีน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะค่าเงินเหรียญสหรัฐที่แข็งค่ามากกว่าเมื่อเทียบกับสกุล เงินหยวน ทำให้บรรดาอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ ของสหรัฐแห่แหนไหลออกนอกประเทศไปอย่างต่อเนื่อง

แต่การที่สกุลเงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินหยวน ทำให้บรรดาผู้ประกอบการขนาดใหญ่ของสหรัฐราว 48% จากการสำรวจของบอสตัน คอลซัลติง กรุ๊ป (บีซีจี) คิดที่จะย้ายฐานการผลิตจากจีนกลับบ้านเกิด เพราะเริ่มมองเห็นแล้วว่าการผลิตในจีนกับการผลิตในสหรัฐมีต้นทุนส่วนต่างที่ ไม่แตกต่างกันมากนัก และเผลอๆ อาจจะมีมากกว่า เนื่องจากต้นทุนค่าขนส่งที่เพิ่มมากขึ้น

พร้อมกันนี้ รายงานจากบีซีจี ยังระบุชัดว่า ต้นทุนการผลิตในสหรัฐ ซึ่งรวมถึงค่าจ้าง มีแนวโน้มจะปรับลดลงเรื่อยๆ โดยภายในปี 2558 ต้นทุนการผลิตของสหรัฐจะถูกกว่าอังกฤษ 8% ถูกกว่าฝรั่งเศสและเยอรมนี 15% ถูกกว่าญี่ปุ่น 21% และถูกกว่าอิตาลี 22%

เรียกได้ว่า การมุ่งกดค่าเงินเหรียญสหรัฐให้อ่อนลงในครั้งนี้ หวังผลให้เป็นยาแรงกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐให้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการสร้างงานเพื่อให้เกิดการใช้จ่าย

อย่างไรก็ตาม การอ่อนค่าของสหรัฐที่ส่งผลให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้น โดยเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์ที่สหรัฐประกาศใช้คิวอี 3 รอบใหม่ ค่าเงินหยวนพุ่งแข็งค่าทุบสถิติสูงสุดในรอบปีนี้เมื่อวันศุกร์ที่ 28 ก.ย. โดยอยู่ที่ 6.2849 หยวนต่อเหรียญสหรัฐ ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลจีนไม่อาจอดรนทนได้อีกเช่นกัน

ทั้งนี้ ในมุมมองของนักวิเคราะห์ที่ตามติดเศรษฐกิจของมหาอำนาจอันดับ 2 ของโลกมาอย่างต่อเนื่อง ต่างเห็นตรงกันว่า หากเป็นช่วง2-3 ปีก่อนหน้านี้ เงินหยวนที่แข็งค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐย่อมเป็นสิ่งที่จีน ยอมรับได้อย่างไม่มีปัญหา เพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อภายในประเทศที่ถีบตัวสูงลิ่วทุบสถิติ

ทว่า ท่ามกลางเศรษฐกิจของจีนที่ลดความร้อนแรงอย่างเห็นได้ชัด ยืนยันได้จากการที่เวิลด์แบงก์ปรับลดคาดการณ์ของจีนในปีนี้ลงมาอยู่ที่ 7.7% จากเดิม 8.1% เช่นเดียวกับไอเอ็มเอฟ ที่ลดคาดการณ์จีดีพีของจีนลงมาอยู่ที่ระดับ 7.8% จาก 8.2% โดยที่บรรดาตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของจีนเอง ทั้งในภาคการผลิต การบริการ และการส่งออก ต่างก็เผชิญภาวะซบเซาลงมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ไตรมาส 2–3 ในปี 2555 นี้ จนทำให้นักลงทุนต่างเกรงว่าอาจเกิดภาวะดิ่งแรง (ฮาร์ดแลนดิง) ส่งผลให้จีนไม่อาจอดทนกับค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นจนกระทบกับภาคการส่งออกหนึ่ง ในหัวใจหลักของภาคเศรษฐกิจของประเทศตนเองได้

พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือว่า มาตรการคิวอี 3 ของสหรัฐ คือยาพิษชั้นดีสำหรับเศรษฐกิจของจีนในขณะนี้

และไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสักนิด หากสถานการณ์นับต่อจากนี้ที่จีนจะหันมาดำเนินมาตรการแทรกแซงเงินหยวนบ้าง หลังจากที่ออกมายืนยันว่ารัฐบาลจีนดำเนินมาตรการปล่อยลอยตัวค่าเงินหยวนตาม อุปสงค์และอุปทานของตลาดมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากข้อกล่าวหาของสหรัฐที่โจมตีว่าจีนแทรกแซงค่าเงินหยวนให้อ่อน ค่ากับความเป็นจริงในตลาด จนทำให้รัฐบาลแดนมังกรได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐอย่างมาก

โจวเสี่ยวฉาว ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า อัตราแลกเปลี่ยน อัตราแลกเปลี่ยนทันที และอัตราแลกเปลี่ยนในอนาคตของสกุลเงินหยวนในปัจจุบันถือได้ว่าเข้าใกล้จุด สมดุลแล้ว โดยนับตั้งแต่ปี 2548 เงินหยวนแข็งค่าขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับสกุลเงินเหรียญสหรัฐ พร้อมย้ำชัดว่าที่ผ่านมาจีนเดินหน้าปฏิรูปภาคการเงินและระบบตลาดแลกเปลี่ยน เงินตราต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งต่างเห็นพ้องตรงกันว่า เมื่อสหรัฐเลือกอัดยาแรงกดค่าเงินเหรียญสหรัฐให้ต่ำ อีกทั้งยังเดินหน้าคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำแบบไม่มีกำหนด จีนก็ย่อมมีทางเลือกเหลือไม่มากนัก นอกจากงัดมาตรการหลากหลายขึ้นมารักษาระดับค่าเงินหยวน

หนังสือพิมพ์วอลสตรีต เจอร์นัล ระบุชัดว่า ค่าเงินหยวนต่อเหรียญสหรัฐแทบไม่ขยับขึ้นในปีนี้ และผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ส่วนหนึ่งต่างคาดว่า ค่าเงินหยวนจีนจะทรงตัวที่ระดับเดิมต่อไปในอีก 6 เดือนข้างหน้า ก่อนจะแข็งค่าขึ้นไม่ถึง 1%

ทั้งนี้ ผลสำรวจข้างต้นสอดรับกับความเป็นจริงของสภาพเศรษฐกิจจีนในปัจจุบัน เนื่องจากการได้เปรียบดุลบัญชีเดินสะพัดที่หดตัวลงและการเติบโตอย่างอ่อนแรง ไม่เพียงกดค่าเงินหยวนให้อ่อนค่ากว่าความเป็นจริงอยู่แล้ว แต่ยังทำให้การปล่อยเงินหยวนแข็งค่าไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้กำหนด นโยบายจีนอีกด้วย

นอกจากนี้ การที่ค่าเงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าและค่าเงินหยวนซบเซา ยังส่งผลต่อค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียให้มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่ต้องการให้ค่า เงินอ่อน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

เรียกได้ว่า ศึกหนักของเศรษฐกิจโลกต่อจากนี้ก็คือสงครามค่าเงิน ที่นานาประเทศจะแข่งขันงัดมาตรการเพื่อทำให้ค่าเงินอ่อนลง เหมือนที่รัฐมนตรีคลังบราซิลกล่าวเตือนไว้ว่า “สงครามค่าเงินรังแต่จะทำให้เศรษฐกิจโลกต้องพบกับความยากลำบากมากขึ้นเท่า นั้น”

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

“จอร์จ โซรอส” ชี้ “อียู” อาจถูกทำลายย่อยยับจากวิกฤตหนี้ แนะเยอรมนีต้องเลือก “อุ้ม” หรือ “ทิ้ง”ยูโรโซน blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 ตุลาคม 2555 17:42 น.

 

 

blank.gif 555000013376301.JPEG จอร์จ โซรอส blank.gif

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - จอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินชื่อก้องโลกเผยเมื่อวันจันทร์ (15) ระบุสหภาพยุโรป (อียู) อาจถูกทำลายย่อยยับจากวิกฤตหนี้สินของกลุ่มยูโรโซน หรือ 17 ชาติที่ใช้ “เงินยูโร” เป็นเงินตราสกุลหลัก โดยโซรอสระบุว่าวิกฤตหนี้สินดังกล่าวถือเป็น “ฝันร้าย” ของอียู พร้อมชี้ เยอรมนีจำเป็นต้องแบกความรับผิดชอบในการปกป้องเงินยูโรให้มีอายุยืนยาวต่อไป หรือไม่ก็ควรหันหลังแก่เงินสกุลยูโรโดยสิ้นเชิง

 

โซรอส วัย 82 ปี ซึ่งเกิดที่ประเทศฮังการีในยุโรปตะวันออก แต่ปัจจุบันถือสัญชาติอเมริกัน ยังให้ความเห็นว่าหากรัฐบาลเยอรมนีภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีหญิงอังเกลา แมร์เคิล และพรรคคริสเตียน เดโมเครติก ยูเนียน (ซีดียู) ไม่ต้องการนำเงินภาษีของประชาชนชาวเยอรมันมาแบกรับการแก้ปัญหาหนี้สินของ กลุ่มยูโรโซน ซึ่งถูกมองว่าเป็น “ปัญหาของประเทศอื่น” อีกต่อไปก็ยังมีอีกทางเลือกหนึ่ง นั่นคือ เยอรมนีในฐานะชาติที่มีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยูโรโซน ต้องตัดสินใจลาออกจากกลุ่มทางการเงินดังกล่าว

 

“วิกฤตที่เกิดขึ้นล้วนเป็นสิ่งที่ชาติในยุโรปก่อขึ้นมาเองทั้งสิ้น และวิกฤตหนี้สินที่รุมเร้าหลายประเทศในยุโรปเวลานี้ถือเป็นอันตรายอย่าง ยิ่งยวดต่อการคงอยู่ของสหภาพยุโรป และแน่นอนว่าเยอรมนีจะต้องแสดงบทบาทในการปกป้องผลประโยชน์ของทั้งยุโรป มิใช่คำนึงถึงแต่การปกป้องตนเองเท่านั้น” โซรอสกล่าวระหว่างร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันที่จัดโดยสมาคมเศรษฐศาสตร์ ธุรกิจแห่งชาติสหรัฐฯ ที่มหานครนิวยอร์ก

 

พ่อมดการเงินชื่อดังยังย้ำว่า เยอรมนีจะต้องก้าวขึ้นมามีบทบาทนำในการปกป้องเงินยูโร และแผนการที่เกี่ยวข้องกับพันธบัตรยูโร เพราะหากเกิดความล้มเหลวใดๆ ขึ้น เศรษฐกิจของเยอรมนีก็จะถูกฉุดรั้งให้ได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน

 

อย่างไรก็ดี โซรอสยอมรับว่าเขาตระหนักดีว่ารัฐบาลเยอรมนีเองก็ต้องเผชิญกับกระแสกดดันทาง การเมืองจากประชาชนในประเทศของตัวเอง ที่เริ่มมองว่าการที่เยอรมนีเข้าไปแบกรับปัญหาที่ตนเองไม่ได้ก่อขึ้นนั้นถือ เป็นเรื่องที่มิอาจยอมรับได้อีกต่อไป ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ยุโรปอาจต้องเผชิญกับอีกทางเลือกหนึ่ง นั่นคือต้องยอมปล่อยให้เยอรมนีออกจากกลุ่มยูโรโซน รวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นตามมา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดูเหมือนว่าจะเข้าใกล้ "สงครามค่าเงิน" มาทีละนิดแล้วสินะครับแบบนี้ :)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จากตอน แรกทำเฟซเพื่อวัตถุประสงค์เดียว กระจายข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสทองให้กว้าง ขึ้น อยากให้คนไทยรู้เรื่องนี้มากขึ้น แต่เหตุการณ์พาไป

 

-----จาก ที่ตอนแรกซื้อเหรียญเงินคุณต่อเพื่อสะสม มีเหรียญMAPLEมากหน่อย 30กว่าเหรียญ ที่เหลือเป็นเหรียญอื่นๆนิดหน่อยหรือเหรียญต่างปี

ร้าน โลหะเงินเจ้าประจำโทรมาว่ามีเหรียญอีเกิ้ล2tube ซื้อมั้ย ถ้าสนใจตกลงราคากับเจ้าของเหรียญ ทางร้านออกเงินให้ก่อน ก็เลยเป็น

เหตุการณ์นำไปสู่การแบ่งจำหน่ายเหรียญในเฟซผม

 

-----เหตุการณ์พาไป2มาอีกแล้ว ญาติผมโทรมาว่ามีเหรียญแสตมป์เงินบริสุทธิ์ 99 ชุบทองคำ Swiss made น้ำหนักทั้งหมดที่มีประมาณ500กรัม เขาไม่มีตลาดขายและไม่มีข้อมูลเรื่องราคาตลาด ของแท้หลุดโรงจำนำถ้าสนใจต้องรีบล็อคของเลย ผมฟังราคาของแล้วแพงกว่า โลหะเงินเยอะพอควรแต่ถ้ารวมค่าทำเป็นSTAMPจากสวิสมั่นใจว่าจับได้ บอกน้องล็อคทั้งหมดเลย(ไม่แน่ใจจำนวนเหรียญ) เลิกงานกลับมาหาข้อมูล บางเวปขายเหรียญละ4000บาท บางเวปขายครบ ชุด25เหรียญ+กล่อง+ใบ certificate 89,000 บาท บางเวปขายครบชุด79,999บาท บางเวปบอกขายขาดทุน

 

----เวบนี้มีรูปพร้อมข้อมูลครบเลยครับเหรียญ แสตมป์เงินบริสุทธิ์ 99.999%ชุบทองคำ Swiss made ครบชุด 25 เหรียญ ดังแสดงในรูปที่ถ่ายมาจากสินค้าที่เปิดประมูล เป็นเหรียญสวยมากไม่ได้ใช้งานในแพคเดิม เป็นเหรียญแสตมป์สืบสานพระราชประวัติ จัดทำโดยบริษัทแสตมป์มรดกจำกัด ขนาดเท่าแสตมป์จริง เนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชสมบัติครบ 50 ปีพศ 2539 ราคาตอนจองเหรียญละ 2980บาท x25 =74500 บาท นำมาเปิดประมูลในราคาถูกมากเริ่มต้นเพียง 35000 บาท จึงไม่ควรพลาด*****ผู้ประมูลได้ชำระเงินโดยโอนเข้าบัญชี งดชำระทาง พกง รับสินค้าทางปณ EMS บวกค่าจัดส่ง 120 บาท

 

-----วัน อาทิตย์ผมจะไปรับแสตมป์ ส่วนจะตัดใจขายมั้ยและขายราคาเท่าไหร่ตัดสินใจหลังดูแสตมป์ของจริงก่อน ครับ(ไม่แน่ใจว่า500กรัมมีกี่เหรียญ) ชมภาพแสตมป์ที่นี่ครับ ใครชมภาพแล้วสนใจก็เตรียมเงินไว้นะครับ แล้วจะมาโพสบอกครับ

 

http://203.150.3.216...em.cgi?10034351

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันสำคัญของโลก (สำหรับนักเก็งกำไร และนักลงทุน) ในสามเดือนที่เหลือก่อนจะหมดปี ๒๐๑๒ จาก ซีโรเฮดจ์

เอามาฝากไว้ เผื่อใครจะรอจังหวะซื้อหมู/ขายหมู/ทำกำไร/ขึ้นดอย ครับ

 

ที่มา : http://www.zerohedge.com/news/2012-10-17/worlds-key-dates-next-three-months

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จากแบ่งขายเหรียญอีเกิ้ลเลยไปดูพระเก่าที่เก็บไว้ มีเยอะเหมือนกัน

 

ในเฟซนี้ใครนับถิือศาสนาคริสบ้าง ผมมีพระงานนอกหลุดโรงจำนำเก็บไว้หลายองค์ ส่วนมากคนขายของพวกนี้จะเลือกเฉพาะที่เขามีตลาดปล่อยของอยู่แล้ว ขายปุ๊บซื้อใหม่ ได้เงินมากกว่าซื้อแล้วหลายเดือนก ว่าขายได้ กลัวโดนเข้าโรงหลอมเสียดายของ พระทางคริสในไทยไม่มีงานสวย ขายเฉพาะคนที่นับถือคริสนะครับ ถ้ามีหลายคนผมจะลงรูปเป็นแนวทางก่อนแต่ถ้าไม่มีจะได้ไม่ต้องลงรูป แต่ต้องมาดูของจริงนะครับ(ไม่อยากมีปัญหา) ส่วนมากเป็นกางเขนทองคำขาวและทองเคของผู้ชาย มีอยู่ชิ้นเหมาะกับผู้หญิงแต่องค์ใหญ่พอควร เป็นทองคำขาว+ทองชมพูแล้วมีเพชรเม็ดสี่เหลี่ยมเล็ก(งานอิตาลี)ราคาเอาเรื่องเหมือนกันองค์นี้ ถ้ามีผมจะพยายามหาทางลงรูปในเฟซครับ(ยังลงไม่เป็นเลยป

 

ทำไปทำมา กลายเป็นเฟซข่าวสารการลงทุนและขายของไปด้วย555 เหตการณ์พาไป

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...