ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2554 19:23

ไทย-กัมพูชาหยุดยิง!ตายรวม66คน

ไทย-กัมพูชา ได้ข้อสรุป"หยุดยิงตกลง 4 เงื่อนไข "สรรเสริญ"สรุปความเสียหาย 2 วัน ไทยตาย 2 คนเจ็บ 12 ด้านเขมรทหารตาย 64 ถัง-ยานเกราะพัง 13 คัน

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 12.10 น. ของวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ข้อสรุปจากการเจรจากับทหารฝ่ายกัมพูชาซึ่งตกลงกันใน 4 ประเด็น คือ 1.ต่างฝ่ายตกลงกันว่าหยุดยิง 2.จะไม่มีการเพิ่มกำลังทั้งสองฝ่าย 3. ผู้บังคับบัญชาของแต่ละฝ่ายจะต้องกำกับดูแลกำลังพลของตัวเองไม่ให้มีอุบัติเหตุเล่นปืนลั่นกันขึ้นมาแล้วนำไปสู่การปะทะอีก และ4.ให้มีการนำทหารชุดประสานงานซึ่งเป็นทหารของทั้งสองฝ่ายออกจากพื้นที่ใกล้เขาพระวิหาร เพราะที่ผ่านมาจุดประสานงานซึ่งมีกำลังทหารของทั้งสองฝ่ายร่วมกัน แต่ฝ่ายกัมพูชามักไปออกข่าวว่า มีทหารไทยถูกจับกุมตัวอยู่ จึงยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ไม่มีการจับเชลยศึกซึ่งเป็นทหารไทยไปแต่อย่างใด มีแต่เพียงกำลังชุดประสานงานร่วมที่อยู่บริเวณดังกล่าวเท่านั้น ซึ่งจากการปะทะที่เกิดขึ้น ทำให้จุดประสานงานได้รับความเสียหาย ต่างฝ่ายจึงตกลงถอนกำลังกลับมา รอให้มีการสร้างจุดประสานงานขึ้นใหม่และมีความพร้อมก่อน จึงจะส่งกำลังกลับขึ้นไปใหม่

ทั้งนี้ในเบื้องต้นจะดำเนินการตามข้อตกลงใน 4 ประเด็นก่อน ยังไม่มีการระบุแผนการดำเนินการอื่นต่อไป อย่างไรก็ตาม หลังการเจรจาของแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ความชัดเจน จึงมีการสั่งเปิดจุดผ่านแดนได้ตามปกติ หลังได้สั่งปิดไปเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้แก่ บริเวณ ด่านที่ช่องจอม ช่องอานม้า และช่องสะงำ

พ.อ.สรรเสริญกล่าวถึงการดูแลเยียวยายาความเสียหายด้านกำลังผล โดยเฉพาะกรณีทหารไทยเสียชีวิตจากการปะทะ ว่า มีระเบียบของกองทัพในการเยียวยาอยู่แล้ว และต้องถือว่าทหารไทยที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ สละชีวิตเพื่อป้องกันบ้านเมือง ซึ่งเรายกย่องและให้เกียรติ และจะมีการดูแลอย่างเต็มที่ตามที่ผบ.ทบ.ได้พูดไปแล้ว โดยเฉพาะการดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ส่วนความเสียหายจากการปะทะของทั้งสองฝ่ายที่รับรายงานล่าสุดมีดังนี้

 

ฝ่ายไทย เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ซึ่งเริ่มมีการปะทะ มีทหารไทยบาดเจ็บ 8 นาย วันที่ 5 กุมภาพันธ์ปะทะวันที่ 2 บาดเจ็บอีก 4 นาย เสียชีวิต 1 นาย รวมทหารไทยบาดเจ็บทั้งสิ้น 12 นาย เสียชีวิต 1 นาย แต่มีพลเรือนไทยเสียชีวิตด้วย 1 ราย

 

ฝ่ายกัมพูชา ทราบว่าได้รับความเสียหายเยอะ ทหารเสียชีวิตจากการปะทะ 60-64 นาย สูญเสียรถถังและยานเกราะ 12-13 คัน แต่ไม่มีพลเรือนกัมพูชาเสียชีวิต

 

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ฝากถึงประชาชนชาวไทยที่จับตากรณีที่เกิดขึ้นด้วยความเป็นห่วง ว่า จริง ๆ แล้วกองทัพได้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ แต่ด้วยปัจจัยต่าง ๆ นั้นมีเยอะ แต่ยืนยันว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน และเราไม่สามารถห้ามการตอบโต้ไม่เกิดขึ้นได้ หากไม่มีการตอบโต้ จะไม่เกิดกระบวนการเจรจา และลำพังการใช้การเจรจาเพียงอย่างเดียวโดยไม่มีการตอบโต้ก็คงไม่สำเร็จ ดังนั้นประชาชนที่รักชาติทั้งหลาย ก็ขอให้ใช้สติคิดให้ดี เพราะการปะทะกันไม่ใช่หนทางแก้ปัญหา เพราะเหตุที่เกิดขึ้นแม้มีการปะทะกันแล้ว ก็ต้องกลับมาสู่โต๊ะเจรจาอยู่ดี ดังนั้นขอว่าใครจะทำอะไรก็ต้องใช้สติ

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปีชง ( โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน )

ปี พ.ศ. 2554 นี้เป็นปีเถาะ (กระต่ายทองคำ : ซิ้งเบ้า) บางคนก็บอกว่า กระต่ายไม้ ตามประเพณีการไหว้

ไท้ส่วยเอี๊ยเป๋าส่วยกุงเผ่งอัง ในช่วงปีใหม่ (ตรุษจีน) ของทุกๆ ปี หรือที่ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน

รู้จักกันดีในนามของ เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา

 

องค์ไท้ส่วยเชื่อกันว่าเป็นเทพผู้ทรงสิทธิ์ และมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนในแต่ละปี

โดยในรอบ 60 ปี จะมีเทพเจ้าไท้ส่วยประจำอยู่ในแต่ละปี มีชื่อเรียกขานต่างๆ ทำหน้าที่รักษา

คุ้มครองดวงปี หรือที่เรียกว่า “เฝ้าปี” อยู่

 

สำหรับปีเถาะ พ.ศ. 2554 นี้ องค์ไท้ส่วยที่ลงมาสถิตเฝ้าปี มีพระนามว่า “ห่วมเล้งไต่เจียงกุง”

 

ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน มีความเชื่อว่าเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย จะบันดาลความสุขความทุกข์ให้เกิด

แก่ใครนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเมตตาของท่าน หากใครมีเกณฑ์ชะตาที่ดีอยู่แล้วจะได้ดียิ่งขึ้น หากใครมีดวงชะตา

ที่ไม่ดีทำอะไร ก็มีปัญหาติดขัด จึงมีประเพณีในการไหว้ฝากดวงเพื่อสะเดาะเคราะห์ต่อเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย

โดยเฉพาะ “ท่านที่เกิดปีชงกับองค์ไท้ส่วย”

 

สำหรับปีนี้ ปีระกา (ไก่) ชง (ปะทะ) โดยตรงกับเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย และเป็นอริกับปีเถาะโดยตรง

 

ปีเถาะ (กระต่าย) ทับไท้ส่วย ที่รู้มาที่ชนแรงๆ ก็ต้อง อายุ 25 และ 84

 

ปีมะเมีย (ม้า) ปีร่วมชง และยัง “ผั่ว (แตกแยก)” กับปีเถาะด้วย

 

ปีชวด (หนู) ปีร่วมชง และยัง “เฮ้ง (เบียดเบียน)” กับปีเถาะด้วย

 

ผู้ที่เกิดปีชง จำเป็นต้องไปไหว้และละเว้นกิจกรรมบางอย่าง

 

ความเชื่อเหล่านี้มีนับพันปี และสืบทอดอีกต่อไป

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ทุนสำรองลดอยู่ที่ระดับ1.740แสนล้านดอลลาร์

ธปท.เผยทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ระดับ 1.740 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 400 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดลดลงตามแนวโน้มเงินบาท

 

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานฐานะทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ วันที่ 28 ม.ค.อยู่ที่ระดับ 1.740 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

หรือประมาณ 5.397 ล้านล้านบาท ลดลง 400 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ

1.744 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.346 ล้านล้านบาท ด้านฐานะสุทธิสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศแลกกับเงินบาท

ล่วงหน้า(Forward)อยู่ที่ระดับ 1.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จากสัปดาห์ก่อนหน้าอยู่ที่ 1.84 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

 

ทั้งนี้ คาดว่าสาเหตุที่ทุนสำรองระหว่างประเทศลดลงน่าจะเป็นผลมาจากความจำเป็นในการเข้าแทรกแซงเงินบาทมีน้อยลง

เนื่องจากเงินบาทมีทิศทางเคลื่อนไหวอ่อนค่า เป็นไปตามสกุลเงินในภูมิภาค ส่งผลดีต่อภาคการส่งออกและการขยายตัวโดยรวม

ของเศรษฐกิจไทย ความจำเป็นในการเข้าซื้อเงินเหรียญสหรัฐสะสมในทุนสำรองเพื่อแทรกแซงเงินบาทแข็งค่าจึงน้อยลง

 

สำหรับฐานเงินหรือเงินสดหมุนเวียนในมือภาคประชาชนและเงินฝากของสถาบันการเงินที่ธปท.อยู่ที่ระดับ 1.217 ล้านล้านบาท

เพิ่มขึ้น 6.84 หมื่นล้านบาท จากสัปดาห์ก่อนหน้าอยู่ที่ 1.149 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นตามความต้องการในการถือเงินเพื่อใช้จ่ายมากขึ้น

ตามการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและพลังงาน

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ธปท.พร้อมกลับทิศดอกเบี้ย

  • 04 กุมภาพันธ์ 2554

ผู้ว่าการ ธปท. พร้อมกลับทิศนโยบายดอกเบี้ยหากบริโภคแผ่ว ระบุไทยโตได้แน่

แต่ต้องพัฒนาการเป็นฐานผลิตสินค้าขั้นกลาง

 

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงที่ต้องติดตาม

อย่างใกล้ชิด คือ การปรับขึ้นของราคาสินค้า พลังงาน และอาหาร ที่กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

 

ขณะที่การดำเนินนโยบายการเงินหรือดอกเบี้ย คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะต้องดูเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เป็น

อุปสรรคในการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยช่วงนี้ต้องติดตามดูการบริโภคภาคเอกชนที่แผ่วลงไปในเดือน ธ.ค. ด้วยว่าจะชะลอลง

ไปอีกหรือไม่ ถ้าชะลอลงต่อเนื่องก็อาจจะต้องพิจารณาปรับทิศทางนโยบายดอกเบี้ยให้เหมาะสม

 

นายประสาร กล่าวว่า ปัจจุบันความมั่นคงทางเศรษฐกิจของเอเชีย ถือว่าขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก แม้ว่าประเทศ G3

ซึ่งเป็นเศรษฐกิจหลักของโลก และคู่ค้าสำคัญจะยังอ่อนแอ

 

ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ไทยเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการเติบโตของเอเชีย เนื่องจากเป็นฐานผลิตสินค้าขั้นกลางส่งออกไปยังประเทศต่างๆ แต่ต้องเร่งพัฒนาศักยภาพให้สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นให้ขึ้นเป็นแนวหน้าในการผลิต ไม่อย่างนั้นก็อาจตกขอบได้ และจะเป็นลูกไล่ ต้องทำตัวไม่ให้เป็นลูกไล่

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

นักวิชาการกัมพูชาชี้ไทยปลุกกระแสชาตินิยม

 

นักวิชาการกัมพูชา ชี้รัฐบาลไทยปลุกกระแสชาตินิยม หวังให้เสื้อเหลืองสงบ

 

ซอมโบ มานารา อาจารย์ด้านประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยโรยัล ในกรุงพนมเปญ ของกัมพูชา กล่าวว่า

รัฐบาลไทยอาจใช้การต่อปะทะกันครั้งล่าสุดนี้ เแสดงให้เห็นรัฐบาลไทยก็มีความเป็นชาตินิยม

เพื่อหวังจะทำให้กลุ่มคนเสื้อเหลืองสงบลง

 

นอกจากนี้ ยังมีความคิดเห็นของทางกองทัพกัมพูชาหลังจากที่ทั้งสองประเทศเจรจาหยุดยิง ด้วยกัมพูชายังเสียแข็งระบุว่า

จะเกิดความรุนแรงอีกหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของทางฝั่งไทยเท่านั้น

 

“ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นทางฝ่ายไทย การปะทะกันระลอกใหม่จะเกิดขึ้น หากทหารไทยรุกล้ำเข้ามาในดินแดนของกัมพูชา

แต่ทว่าการปะทะกันจะไม่เกิดขึ้นหากทหารไม่ล้ำแดนเข้ามา” พล.ต.สเรย เดริก ของกัมพูชากล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลัง

การหารือร่วมกับฝ่ายไทย

 

ประธานอาเซียนพบรมต.ต่างประเทศกัมพูชา

 

ในวันเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์ระบุว่า ดร. อาร์ เอ็ม มาร์ตี มูเลียนา นาตาเลกาวา

รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ในฐานะประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)

จะเดินทางเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 1 วัน ในเร็วๆ นี้

 

และในระหว่างที่พักอยู่ในกรุงพนมเปญ ดร. นาตาเลกาวา มีกำหนดการเจรจาหารือแบบทวิภาคีกับ ฮอร์ นัมฮอง

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาด้วย

 

กัมพูชาชี้มีนักท่องเที่ยวกัมพูชาเสียชีวิต 1 ราย

 

ฟาย สีฟาน โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ของกัมพูชา ยืนยันว่า จากการปะทะกันบริเวณชายแดนของสองประเทศ

ในวันศุกร์ที่ 4 ก.พ. มีผู้เสียชีวิตเป็นทหาร 2 นาย และพลเรือน 1 คน ซึ่งเป็นนักนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาที่เดินทาง

มาเยี่ยมชมวัดทางตอนเหนือของประเทศ และมีทหารบาดเจ็บอีก 10 นาย ขณะที่การปะทะกันในวันเสาร์ที่ 5 ก.พ.

ไม่มีความเสียหายหรือบาดเจ็บ

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตร.เข้ม!เสริมลวดหนาม3ชั้นทำเนียบ

หวั่นม็อบบุกทำเนียบ เจ้าหน้าที่เข้ม เสริมแนวลวดหนาม 3 ชั้นเพิ่มความปลอดภัย

เตรียมแผนกรกฎ 52 รับมือ

ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินแก้ว รองผบช.น. รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง ในฐานะผู้บัญชาการ

เหตุการณ์ควบคุมการฝึกกำลังพลทบทวนยุทธวิธีปฏิบัติดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยภายในทำเนียบรัฐบาล

พร้อมด้วยพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น. 1 เดินสำรวจแนวรั้วรอบทำเนียบรัฐบาล หลังจากมีรายงานข่าวว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชน

เพื่อประชาธิปไตย (พธม.) อาจจะบุกเข้ามาภายในทำเนียบรัฐบาล พร้อมทั้งมีการสั่งให้เสริมแนวรั้วลวดหนาม อีก 3 ชั้น

เพื่อเสริมมาตรการความปลอดภัย โดยเฉพาะกำแพงทำเนียบรัฐบาลฝั่งถ.พิษณุโลกที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากรั้วเดิมไม่มีเครื่องกีดขวาง

นอกจากนี้ยังมีการนำรถดับเพลิงจากปภ.กทม. มาเสริมภายในทำเนียบรัฐบาลอีก 3 คัน

 

พล.ต.ต.กรีรินทร์ กล่าวว่า หลังจากมีการชุมนุมเจ้าหน้าที่ได้เตรียมพร้อมดูแลความเรียบร้อยอย่างเข้มแข็งมาโดยตลอด

ทั้งทำเนียบรัฐบาล และรอบนอกตามแผนที่วางไว้ทั้งตำรวจนครบาล ภูธร กองปราบ และตชด. วันนี้จึงเป็นการประชุมวางแผน

และทบทวนความเข้าใจในการรักษาความปลอดภัยใน ระดับผู้บังคับการ รองผู้บังคับการ และผู้กำกับการต่างๆ เพื่อเตรียมความ

พร้อมดูแลพื้นที่การชุมนุม ได้มีการซักซ้อมตำรวจผู้ปฏิบัติงานในการชุมนุมครั้งนี้ ส่วนฝ่ายสนับสนุนต่างๆก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

ส่วนผู้ชุมนุมที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นต่างทางการเมืองก็น่าจะมาด้วยความสงบ ไม่น่าจะมีการบุกเข้ามาภายในทำเนียบรัฐบาล

หรือบุกรุกสถานที่ราชการ ส่วนที่ชุมนุมก็จะต้องมีการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป ที่ผ่านมาได้มีการเจรจากับแกนนำคนต่างๆ

ขอให้เปิดเส้นทางก็ได้รับความร่วมมือแล้วบ้างบางส่วน และก็จะมีการเจรจากันต่อไป เพื่อให้มีการเปิดเส้นทางอำนวยความสะดวก

ให้กับประชาชนทั่วไปได้ใช้สัญจร ส่วนหากมีการเจรจาไม่เป็นการใช้กฎหมาย โดยให้ผู้ที่เดือดร้อนจากการชุมนุมสามารถ

ฟ้องร้องทางแพ่งเพื่อให้เปิดเส้นทางได้ เป็นการดำเนินการตามกฎหมาย

 

พล.ต.ต.กรีรินทร์ กล่าวต่อว่า ส่วนการบุกเข้ามาภายในทำเนียบนั้นยังไม่ได้มีการวิเคราะห์ว่าผู้ชุมนุมจะบุกเข้ามาหรือไม่

แต่ตำรวจทุกหน่วยมีความพร้อมในการรับมือตาม แผนกรกฎ 52 ที่พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำผู้ปฏิบัติให้ใช้แผนนี้

เพราะเป็นการทำตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก กำลังตอนนี้ก็มีอยู่ 20 กองร้อย และสามารถเรียกกำลังเสริมได้ภายใน 2 ชั่วโมง

ส่วนสถานทูตกัมพูชา ได้มอบหมายให้ผบก.น. 4 ดูแลรับผิดชอบ ส่วนสถานที่ล่อแหลมเช่นรัฐสภา หรือกระทรวงต่างประเทศก็มี

การเสริมกำลังดูแลตลอดเวลา เตรียมพร้อมตลอดเวลา และกำลังที่มีอยู่ภายในทำเนียบมั่นใจว่าจะป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมบุกเข้ามา

ภายในทำเนียบได้ ส่วนผู้ต้องการสร้างความวุ่นวายทั้งหมด ทางตำรวจเป็นห่วง และจัดชุดสอบสวนทุกนครบาลเพื่ออกหาข่าว

จัดตำรวจทั้งใน และนอกเครื่องแบบเข้าไปคลุกคลี่อยู่ก็สามารถรู้ได้ทันที แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานใดๆ

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หุ้นไทยไม่แจกอั่งเปาวันตรุษจีนเหมือนสถิติทุกปี เอเซีย พลัส คาดสัปดาห์นี้ต่างชาติมี

โอกาสทิ้งหนักอีก 1-2 หมื่นล้านบาท

 

 

 

บทวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า นักลงทุนตื่นกับเหตุการณ์จลาจลในอียิปต์ เพราะเป็นประเทศที่มีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์

ที่มีพื้นที่ภูมิประเทศใกล้|เส้นทางการขนส่งสินค้าทางทะเล ซึ่งเป็นหัวใจหลักจากเอเชียไปยังทวีปยุโรป อาจจะทำให้การค้า

โลกสะดุดได้ อีกทั้งอาจกลายเป็นตัวจุดชนวนให้ปัญหาลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ

 

นอกจากนี้ เหตุการณ์นี้จะเป็นตัวเร่งให้ต่างชาติขายหุ้นมากขึ้นหลังจากขายมาตั้งแต่ต้นปี

 

นักวิเคราะห์ บล.โนมูระ พัฒนสิน คาดว่าปีนี้จะไม่มี Chinese New Year Effect ตามค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี

ตลาดหุ้นจีนและภูมิภาคโดยสถิติจะปรับสูงขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไรตามฤดูผลประกอบการและปันผล โดย 1-2 สัปดาห์ก่อนวันตรุษจีน

หุ้นไทยปรับสูงขึ้นเฉลี่ย 0.34-0.07% และจะปรับลดลงใน 2 สัปดาห์หลังจากนั้น

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ระวังการเก็งกำไร

หลายๆ ตลาดทุนในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นตลาดทุนจีน ไต้หวัน เกาหลี สิงคโปร์ พร้อมใจกันหยุดเทศกาลตรุษจีน

ทำให้ตลาดหุ้นหงอยเหงาต่อเนื่องอีก 12 วัน ดังนั้นเก็งกำไรไม่ได้ ระวังเก็งขาดทุนแทน สถานการณ์จลาจลในอียิปต์ ไม่มีท่าทีจบลงง่ายๆ แต่กลับทวีความรุนแรงขึ้น จะกลับมากดดันทั่วโลกได้อีก

ฉะนั้นอย่าเพิ่งวางใจกับการลงทุน รวมทั้งการเมืองไทยก็ใช่ย่อย กีฬาหลากสีออกมากดดัน

 

สินค้าโภคภัณฑ์รายตัวประเภทของกิน ทั้งน้ำตาล น้ำมันพืช หรือยางพารา กำไรปีนี้น่าจะขึ้นเท่าตัวจากราคาสินค้าพุ่งพรวดๆ

ทำให้มีแรงซื้อกองทุนพวกนี้เข้ามา

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เทศน์กัณฑ์สุดท้ายหลวงตามหาบัว"หมดธุระ"-"เราจะไม่มาเกิดอีกแล้ว"

ก่อน หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จะละสังขารในวันที่ 30 ม.ค.2554 เสียงเทศนา เทศนาโปรดฆราวาสช่วงหลังฉันเช้าของ

ทุกวันเป็นเวลาต่อเนื่องมานานหลายปีแล้ว ได้เงียบหายไปก่อนนั้นแล้วกว่า 2 เดือนตรวจสอบกับเว็บหลวงตาดอทคอม เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของวัดป่าบ้านตาดพบว่า ในเดือนพฤศจิกายน

หลวงตามหาบัวเทศน์อบรมฆราวาสครั้งสุดท้าย ณ วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2553 เทศนากัณฑ์นี้ชื่อ

"ความดีงามทั้งหมดลงในธรรมธาตุ"

 

เช้าวันนั้นหลังจากศิษย์ใกล้ชิดรายงานเรื่องความก้าวหน้าของการสร้างตึก 10 ชั้น มูลค่า 500 ล้านบาทที่โรงพยาบาลอุดรธานี

รวมทั้งยอดเงินและทองคำที่ได้บริจาคเข้าคลังหลวงแล้ว ท่านเทศน์สั้นๆ ก่อนจะบอกว่า "หมดธุระแล้ว"

 

คำเทศน์นั้นมีว่า

 

"เราก็พอใจเราที่ได้ช่วยโลกตามกำลังนะ คือการปฏิบัติของเราทั้งหมดนี้ให้ออกนอกหมดเลย

ออกเป็นประโยชน์โลก เราไม่สั่งสมไม่เก็บอะไรทั้งนั้น ออกๆ เลย ออกหมดเลย แล้วอันนั้น

(ตึกสงฆ์อาพาธ ๑๐ ชั้นที่หลวงตาเมตตา) นี่ก็ใช่แล้วตึก 10 ชั้น ตั้ง 10 ชั้นนะ ตึก 10 ชั้น

อันนั้นก็อยู่ด้วยกันจะเป็นอยู่ในบริเวณเดียวสร้างด้วยกันนะ ให้มันพอ เอาให้พอเสีย

ทุกอย่าง เวลาพอจริง ๆ มาพอที่นี่นะ สร้างที่ไหน ๆ ก็กวาดต้อนเข้ามา ๆ เวลาเข้ามาแล้วมาอยู่ที่ดวงใจ

ใจกับธรรมเป็นอันเดียวกันเรียกว่าธรรมธาตุ นั่นละสุดยอด สร้างความดีงามทั้งหมดมา

มาลงในธรรมธาตุ ให้พรนะ หมดธุระแล้วให้พร"

 

หากพิจารณาจากเทศนา 2 กัณฑ์สุดท้ายนี้ก็อาจพอสรุปได้ว่า ท่าน "หมดธุระ"แล้ว เและถ้าจะปฏิบัติก็ให้ฝึกตัว

ดัดตัวเองอย่างเอาจริงเอาจริง

 

หลวงตามหาบัวเทศน์ไว้ก่อนนี้หลายปีแล้วว่า เงินที่คนทั่วประเทศบริจาคมาที่ท่านั้นยกให้คลังหลวงหมด

ตายแล้วก็ต้องเป็นอย่างนั้น เพราะจะเป็น "วาระสุดท้ายของเราที่จะช่วยโลกอย่างเต็มหัวใจ" เพราะหลังจากนี้

"เราจะไม่มาเกิดอีกแล้ว เราบอกตรงๆเลย จะเป็นวาระสุดท้ายของเราที่ตายกองกันในวัฏจักรนี้กี่กัป

กี่กัลป์มา เราเคยตายมาแล้วกี่ภพกี่ชาติคราวนี้เลิกกัน"

 

ขณะที่ท่านทิ้งธาตุขันธ์ก่อนขึ้นกองฟอนเพื่อ "ประโยชน์แก่โลกนี้ เพื่ออุ้มชาติไทยให้เต็มสติกำลังความสามารถ" เป็นครั้งสุดท้าย

ที่เหลือนั้น "ดีดปั๊บในทันที ดีดแล้วก็เท่านั้นไปเลย คำว่า นิพพานธาตุหรือธรรมธาตุ เราไม่ถามใครแล้ว"

 

ท่านหมดธุระแล้วและลาโลกครั้งนี้ลาลับ"เราจะไม่มาเกิดอีกแล้ว"

 

สรุป ก็แสดงว่า ท่านหลวงตามหาบัว ได้ นิพพาน

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คิดอย่างไรดี ไม่คิดดีกว่าครับ ดูนิ่งๆ ตามสถานการณ์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554

เฟดยันนโยบายการเงินสหรัฐไม่ก่อเงินเฟ้อตลาดเกิดใหม่

"เบอร์นันเก้"แจงนโยบายการเงินเฟดไม่เป็นต้นเหตุก่อเงินเฟ้อในตลาดเกิดใหม่ นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ

(เฟด) กล่าวว่าเป็นการไม่ยุติธรรมที่จะกล่าวโทษนโยบายการเงินของสหรัฐว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นในประเทศตลาด

เกิดใหม่นายเบอร์นันเก้กล่าวต่อชมรมผู้สื่อข่าวแห่งชาติว่า "เป็นการไม่ยุติธรรมที่จะระบุว่า อุปสงค์ส่วนเกินในประเทศตลาดเกิดใหม่มี

สาเหตุมาจากนโยบายการเงินของสหรัฐ เนื่องจากประเทศตลาดเกิดใหม่มีเครื่องมือทุกอย่างที่จำเป็นในการแก้ไขอุปสงค์ส่วนเกินใน

ประเทศของตนเอง"

 

ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ(คิวอี) ของเฟดส่งผลให้มีเม็ดเงินจำนวนมากหลั่งไหล

เข้าสู่เศรษฐกิจโลก ซึ่งมีส่วนทำให้ราคาอาหารและสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งขึ้นผู้กำหนดนโยบายในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่กล่าวหาว่า

นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของเฟดทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง และกระตุ้นให้ทุนเอกชนจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ ซึ่งทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นนายเบอร์นันเก้กล่าวย้ำว่า นโยบายการเงินของเฟดมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในสหรัฐ และไม่มีใครสามารถพูดได้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะร้อนแรงจนเกินไป

เมื่อวานนี้ ดัชนีราคาอาหารขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) พุ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการจัดทำดัชนี

ดังกล่าวในปี 1990 เป็นต้นมา ในขณะที่การทะยานขึ้นของราคาอาหาร ยังไม่แสดงสัญญาณว่าจะชะลอตัวลง และทำให้เกิดความกังวลว่าอาจมี

เหตุจลาจลตามมานายเบอร์นันเก้กล่าวว่า "ประเทศตลาดเกิดใหม่บางประเทศกำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ เพราะเศรษฐกิจของประเทศกลุ่มนี้เติบโต ในอัตราที่รวดเร็วกว่าศักยภาพของตนเอง"

นายเบอร์นันเก้กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของราคาอาหารได้รับแรงกระตุ้นบางส่วนจากการที่ผู้บริโภคในประเทศตลาดเกิดใหม่ต้องการ

บริโภคเนื้อสัตว์มากยิ่งขึ้น"ในขณะที่อาหารของประชาชนมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ และในขณะที่ประชาชนกินเนื้อวัวมากขึ้น

และธัญพืชน้อยลง อุปสงค์ในอาหารและพลังงานก็จะเพิ่มสูงขึ้น และนั่นคือปัจจัยหลักในระยะยาวที่ส่งผลกระทบต่อราคาที่แท้จริง

ของสินค้าโภคภัณฑ์และอาหาร" นายเบอร์นันเก้ กล่าว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มือมืดโจมตีสำนักข่าวอัลญาซีเราะห์ในอียิปต์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์4 กุมภาพันธ์ 2554 23:26 น.

554000001667001.JPEG

 

สถานการณ์ในอียิปต์ยังคงร้อนแรงขณะที่สื่อมวลชนตกเป็นเป้าหมายโจมตีของกลุ่มคนไม่ทราบฝ่าย

 

เอเอฟพี - สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมอัลญาซีเราะห์ ซึ่งถูกทางการอียิปต์สั่งปิดไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เผยเมื่อวันศุกร์(4) ว่าสำนักงานของพวกเขาในกรุงไคโร ถูกเล่นงานจากคนร้ายไม่ทราบฝ่าย

 

"มึกลุ่มคนซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใครบุกเข้าไปในสำนักงานอัลญาซีเราะห์ในกรุงไคโรและทำลายอุปกรณ์ที่อยู่ภายใน" ถ้อยแถลงของสถานีโทรทัศน์แดนอาหรับซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ระบุ โดยปราศจากให้รายละเอียดใดๆเพิ่มเติม

 

เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว กระทรวงข้อมูลข่าวสารของไคโร มีคำสั่งห้ามอัลญาซีเราะห์ระงับปฏิบัติการในอียิปต์และเพิกถอนบัตรประจำตัวผู้สื่อข่าวทั้งหมด หลังจากสถานีโทรทัศน์ที่ออกอากาศทั่วโลกอาหรับ รายงานข่าวการชุมนุมประท้วงขับไล่ผู้นำอียิปต์ของประชาชนอย่างคึกคัก

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับอัลญาซีเราะห์นี้ นับเป็นกรณีล่าสุดที่สื่อมวลชนต่างชาติถูกโจมตีในกรุงไคโร โดยก่อนหน้านี้มีผู้สื่อข่าวหลายรายถูกจับกุมและทำร้ายร่างกาย ขณะที่ มูบารัค ปฏิเสธข้อเรียกร้องให้เขาลงจากตำแหน่งในทันที หลังจากอยู่ในอำนาจมายาวนานกว่า 3 ทศวรรษ

Around the World - Manager Online -

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีราคาอาหารพุ่งทำสถิติสูงสุด FAO-ธ.โลกเตือนให้ระวัง'ผันผวน'

 

เอเจนซี/เอเอฟพี - ดัชนีราคาอาหารโลก ทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดเมื่อเดือนมกราคม นอกจากนั้น ด้วยสภาพการณ์ที่ภูมิอากาศย่ำแย่ขั้นหายนะไปทั่วโลกในระยะนี้ แรงกดดันต่อระดับราคาสินค้าอาหารจึงน่าที่จะทวีความรุนแรง โดยที่ปัญหาดังกล่าวนี้ได้พ่นพิษกลายเป็นเชื้อเพลิงโหมกระแสการประท้วงใหญ่ลุกลามไปทั่วตะวันออกกลางในเวลานี้

ในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา ดัชนีราคาสินค้าอาหารขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ไต่ระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเดือนมกราคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 231 จุด ทำสถิติสูงสุดตลอดกาลนับจากที่เริ่มมีการบันทึกสถิติในปี 1990 โดยพุ่งแซงสถิติของเดือนมิถุนายน ปี 2008 ที่เคยทะยานสูงถึง 224.1 อันเป็นช่วงวิกฤตอาหารในรอบปี 2007/2008

 

“ตัวเลขใหม่เที่ยวนี้แสดงว่าแรงกดดันต่อระดับราคาอาหารของโลกซึ่งอยู่ในทิศทางขาขึ้นมาโดยตลอดนั้น ไม่ได้บรรเทาตัวลงเลย ยิ่งกว่านั้น ยังมีแนวโน้มจะยื้อยาวไปอีกหลายเดือนข้างหน้า” บทสรุปนี้เป็นตอนหนึ่งในคำแถลงโดยอับดอลเรซา อับบาซเซียน นักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านธัญญพืชแห่งเอฟเอโอ

 

ปัญหาราคาอาหารพุ่งแพงรุนแรงได้กลับสู่ความสนใจของโลกอีกวาระหนึ่ง ในเมื่อประเด็นตรงนี้มีส่วนอย่างมากในการโหมเชื้อความโกรธเกรี้ยวของผู้คนในตูนิเซีย จนกระทั่งส่งผลให้ประธานาธิบดีของประเทศถูกโค่นจากอำนาจเมื่อเดือนมกราคม อีกทั้งยังแพร่ลามไปถึงอียิปต์และจอร์แดน

 

ในการนี้ ฝ่ายต่างๆ เก็งว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกันอาจเร่งมาตรการสร้างเสถียรภาพของสต็อกอาหาร เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ต้องประสบภาวะขาดแคลนจนกลายเป็นชนวนความรุนแรงทางการเมือง

 

ด้าน โรเบิร์ต เซลลิก ประธานธนาคารโลก ได้ออกมากระตุ้นให้ผู้นำโลกทั้งปวงหันมาเน้นความสำคัญของประเด็นอาหาร โดย “ให้เรื่องอาหารมาก่อนเรื่องอื่นๆ” พร้อมกับให้ตื่นตัวต่อความจำเป็นที่ต้องลดภาวะผันผวนของระดับราคาอาหาร ซึ่งนับวันแต่จะย่ำแย่มากขึ้น

 

**ปัญหาหลักมาจากความจำกัดด้านซัปพลาย**

 

สภาพการณ์ย่ำแย่ของดินฟ้าอากาศที่แผลงฤทธิ์มาหลายซีรีส์ จนผลผลิตด้านธัญพืชเสียหายไปมากมายแล้วนั้น มีแนวโน้มที่จะทวีแรงกดดันต่อระดับราคาอาหาร โดยเฉพาะ กรณีพายุไซโคลนขนาดยักษ์ “ยาซี” ที่เพิ่งกระหน่ำโจมตีออสเตรเลีย กรณีพายุฤดูหนาวขนาดมโหฬารที่เล่นงานเขตเพาะปลูกพืชของสหรัฐอเมริกา ตลอดจนภาวะน้ำท่วมที่โจมตีมาเลเซียประเทศผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ อีกทั้งภาวะแล้งจัดในอาร์เจนติน่า และภาวะแห้งแล้งในย่านทะเลดำเมื่อปีที่แล้ว

 

นอกจากนั้น ปรากฏการณ์ลานินญ่า ซึ่งถูกระบุว่าเป็นตัวการสร้างความผิดปกติของสภาพดินฟ้าอากาศในย่านเอเชีย-แปซิฟิก และละตินอเมริกา ก็ยังน่าจะแผลงฤทธิ์ไปถึงเดือนเมษายนหรือต้นพฤษภาคม ตามการทำนายขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก แต่กำลังแรงในการล้างผลาญน่าจะแผ่วลงตามลำดับ

 

อับบาซเซียนแห่งเอฟเอโอชี้ว่า มันเป็นปัญหาด้านซัปพลาย โดยที่โลกไม่สามารถหาซัปพลายเสริมจากแหล่งใดมาชดเชยได้ ทั้งนี้ขณะนี้ยังไม่อาจประเมินขนาดความเสียหายที่จะแห่มาเล่นงานชาวโลกได้ จนกว่าจะเห็นสภาพการณ์ผลผลิตของประเทศผู้ผลิตธัญพืชรายใหญ่ของโลกในปีนี้เสียก่อน

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผลกระทบของการปฏิวัติประชาธิปไตยอียิปต์ต่อเศรษฐกิจโลก

โดย : ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ

 

news_img_375366_1.jpg

 

การปฏิวัติประชาธิปไตยโดยพลังของประชาชนได้แพร่ขยายจากตูนิเซีย สู่อียิปต์ และคงจะลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ

ในอาหรับผมเชื่อว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในลิเบีย ซีเรีย จอห์นแดน เยเมน ซูดาน โมร็อกโก หรือแม้กระทั่งซาอุดีอาระเบีย

ในอนาคต

 

โลกอาหรับกำลังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงรวดเร็ว และลุกลามเป็นลูกระนาดรายประเทศ

 

ซาอุดีอาระเบีย เป็นจุดเสี่ยงที่สุดของเศรษฐกิจโลก ในฐานะผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันอันดับหนึ่งของโลก หากเกิดการลุกฮือ

ขึ้นของมวลมหาประชาชนเพื่อสิทธิเสรีภาพทางการเมืองถึงขั้นกลียุคแล้วละก็ ยังจินตนาการไม่ได้ว่า ราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อ

จะพุ่งตัวสูงขนาดไหน เศรษฐกิจโลกอาจกลับมาทรุดตัวลงแม้จะไม่หนักหนาสาหัสเท่าปี พ.ศ. 2552

 

แน่นอน ระบอบการปกครองแบบอำนาจนิยมในที่อื่นๆ ของโลกย่อมถูกสั่นคลอนเช่นเดียวกัน ไม่เว้นแม้กระทั่ง

จีน เวียดนาม คิวบา พม่าและเกาหลีเหนือ เพียงแต่การเปลี่ยนผ่านอาจทอดยาวไปในอนาคต โดยเฉพาะประเทศที่มี

สภาพเป็นสังคมปิดมายาวนาน

 

ด้วยโลกที่เล็กลง ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสื่อสาร ด้วยความไร้พรมแดนทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงจะ

กระชับและเร็วขึ้นกว่าสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 19 และ 20

 

ลัทธิประชาธิปไตยจะถูกสถาปนาอย่างมั่นคงในหลายภูมิภาคของโลกในศตวรรษที่ 21 ภายใต้อิทธิพลของทุนนิยม

โลกาภิวัตน์และเครือข่ายการสื่อสารไร้พรมแดน เศรษฐกิจเสรีจะเขย่าฐานรากของระบอบการเมืองแบบอำนาจนิยม

ไม่ว่าจะเป็นอำนาจนิยมแบบขวาหรือซ้าย

 

ผมได้แต่หวังว่า โลกควรเรียนรู้ว่า เราสามารถปฏิวัติประชาธิปไตย เปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีงามขึ้นอย่างสันติและหลีกเลี่ยง

ความรุนแรงนองเลือดได้ แต่ได้แต่เพียงหวัง เพราะการจลาจลเรียกร้องประชาธิปไตยในอียิปต์มีประชาชนเสียชีวิตทะลุ 140 รายแล้ว

 

ความสูญเสียเกิดขึ้นมากมายตลอดระยะเวลาของประวัติศาสตร์มนุษยชาติในการเปลี่ยนแปลงปฏิวัติสังคม

และปฏิวัติประชาธิปไตย ช่วง ศตวรรษที่ 19 และศตวรรษที่ 20

 

หากเหตุการณ์ยังไม่สงบในเร็ววัน หรือการเมืองหลังประธานาธิบดีมูบารักลงจากอำนาจแล้วการเมืองยังไร้เสถียรภาพ

ย่อมส่งผลต่อเสถียรภาพต่อทั้งภูมิภาคตะวันออกกลางแหล่งผลิตและส่งออกน้ำมัน นอกจากนี้ บริเวณคลองสุเอซของอียิปต์ก็ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ มีน้ำมันลำเลียงผ่านบริเวณดังกล่าวประมาณ 2-3 ล้านบาร์เรลต่อวัน คลองสุเอซเป็นเส้นทางลำเลียงของน้ำมันดิบสำคัญหนึ่งในไม่กี่จุดของโลกที่ได้รับการรับรองให้เป็น "World Oil Transit Checkpoint" ที่ปลอดภัยและมีเสถียรภาพจากกระทรวงพลังงานสหรัฐอเมริกา

อียิปต์แม้ไม่ได้เป็นประเทศผลิตและส่งออกน้ำมันรายใหญ่แต่สำคัญต่อตลาดน้ำมันโลกอย่างยิ่ง เพราะเป็นเจ้าของเส้นทาง

ลำเลียงน้ำมันสำคัญของโลก

ปัจจัยดังกล่าวได้กดดันให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยเฉพาะในตลาดนิวยอร์กปรับตัวขึ้นแรง และคาดการณ์ว่าราคา

น้ำมันอาจขึ้นไปอยู่เหนือระดับ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ในไม่ช้า ราคาน้ำมันโลกที่ระดับดังกล่าวอาจทำให้กองทุนน้ำมัน

เชื้อเพลิงที่มีเงินเหลืออยู่ประมาณ 2.51 หมื่นล้านอาจไม่สามารถแบกรับภาระในการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ 30 บาทต่อลิตร

นอกจากกองทุนน้ำมันยังมีภาระที่ต้องชดเชยก๊าซแอลพีจีอีก เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์จึงควรปรับขยายเพดาน

การชดเชยจากระดับ 30 บาทต่อลิตร เป็น 32-33 บาทต่อลิตร ระดับดังกล่าวน่าจะยังควบคุมระดับเงินเฟ้อไม่ให้กระทบต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจ

 

อย่างไรก็ตาม หากราคาน้ำมันขึ้นไปสูงถึงระดับ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ย่อมทำให้เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ฟื้นตัว

ได้รับผลกระทบแรง เนื่องจากสังคมอเมริกันบริโภคน้ำมันในสัดส่วนที่สูง ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 10-20 ดอลลาร์

จะทำให้เงินหายไปจากระบบหลายหมื่นล้านดอลลาร์ ภูมิภาคที่กระทบหนัก ก็คือ ยุโรป เพราะอาศัยน้ำมันที่ลำเลียง

ผ่านคลองสุเอซเป็นหลัก

ปัญหาเศรษฐกิจย่ำแย่ในอาหรับและแอฟริกาเหนือ นอกจากเป็นผลจากปัจจัยภายในแล้ว ยังเป็นผลกระทบมาจากปัญหา

วิกฤติหนี้สินยุโรปด้วย ยุโรปเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของอียิปต์และตูนิเซีย

ผลกระทบโดยตรงจากการปฏิวัติประชาธิปไตยในอียิปต์ต่อเศรษฐกิจโดยตรงต่อไทยไม่มากนัก

หากพิจารณาจากข้อมูลทางการค้า อียิปต์เป็นคู่ค้าของไทยอันดับที่ 47 เมื่อเทียบกับการค้ากับโลก และอันดับที่ 3

ในภูมิภาคแอฟริกา ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา (2005-2009) การค้าระหว่างไทยกับอียิปต์ มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 573.99 ล้านดอลลาร์

โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ามาโดยตลอด

 

ในปี ค.ศ. 2009 (ม.ค.-ธ.ค.) การค้ารวมมีมูลค่า 642.55 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 10.11 คิดเป็นร้อยละ 0.22

ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของไทย โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 531.80 ล้านดอลลาร์ (ดูตารางประกอบ)

 

การส่งออก ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา (2005-2009) การส่งออกของไทยไปอียิปต์มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 395.48 ล้านดอลลาร์

อย่างปี 2010 เพิ่มขึ้นมาก็อยู่ที่ระดับ 700 ล้านดอลลาร์เท่านั้น

 

 

ราคาอาหารและสินค้าเกษตรจะพุ่งสูงขึ้นจากการกักตุนมากขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง นอกจากปัญหาวิกฤติพลังงานแล้ว

ความมั่นคงทางด้านอาหารจะเป็นปัญหาใหญ่อีกเรื่องหนึ่งของเศรษฐกิจโลก ภัยธรรมชาติทั้งภัยแล้งและไซโคลนจะ

ฉุดผลผลิตสินค้าเกษตร ทำให้ราคาอาหารปรับขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% ในไทย และอาจสูงกว่านี้ในส่วนอื่นๆ ของโลก

 

บทเรียนจากการจลาจลในตูนิเซียก็ดี อียิปต์ก็ดี พบว่าการปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร หรือการครอบงำโดยสื่อมวลชนของรัฐ ไม่อาจทัดทาน พลังของสื่อใหม่หรือสื่อทางเลือกได้

 

การปิดกั้นการสื่อสารก็ไม่อาจหยุดพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง เพื่อสิทธิในการปกครองตนเองของประชาชน ครับ

 

ปล. โดยเด็กขายของ ไม่เห็นให้ความสนใจเลยว่า ทอง จะพุ่งเป็นจรวด หรือเปล่า เห็นไหมล่ะครับว่า ยังไง

ปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิต ก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในโลกใบนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 01:00

นฤมล คนึงสุขเกษม นักข่าวโต๊ะต่างประเทศ กับ คอลัมภ์จับกระแส มิคสัญญีอียิปต์สะเทือนสหรัฐ

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

เหตุการณ์วุ่นวายในอียิปต์ที่ทวีความรุนแรง จนกลายเป็นการนองเลือด สร้างความกังวลให้กับเหล่าผู้นำทั่วโลก

โดยเฉพาะสหรัฐที่เรียกร้องให้นายฮอสนี มูบารัก ประธานาธิบดีอียิปต์ ลาออกจากตำแหน่งในทันที หลังครองอำนาจมานาน 30 ปี

สาเหตุที่สหรัฐต้องออกมาเคลื่อนไหว ก็เพราะความปั่นป่วนในอียิปต์ ส่งผลกระทบต่อสหรัฐทั้งในด้านเศรษฐกิจ และการเมือง

โดยปกติ ราคาน้ำมันมักผันผวนสูงเมื่อเกิดความตึงเครียดระดับโลก และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าในตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 2 สัปดาห์ จนแตะระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันที่แพงขึ้นส่งผลกระทบต่อราคาสินค้า และถ่วงการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งซบเซาอยู่แล้วในสหรัฐ

และสถานการณ์ไม่สงบยังทำให้ค่าประกันการขนส่งปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าน้ำมันและก๊าซพุ่งสูงขึ้น

เช่นเดียวกับสินค้าอื่นๆ

ขณะเดียวกัน เหตุวุ่นวายในอียิปต์ ยังก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินการของคลองสุเอซ และท่อส่งน้ำมันสุเอซ-เมดิเตอร์เรเนียน

(เอสยูเอ็มอีดี) ซึ่งคลองสุเอซ ถือเป็นจุดขนส่งสำคัญของผลิตภัณฑ์น้ำมันและสินค้าหลากหลายประเภท

แม้ขณะนี้ไม่มีเครื่องบ่งชี้ว่า คลองสุเอซ หรือท่อขนส่งน้ำมันเอสยูเอ็มอีดี ตกเป็นเป้าหมายการโจมตี แต่โอกาสเป็นไปได้ก็ยังมีอยู่ ตราบใดที่สถานการณ์ยังไม่สงบ

นอกจากผลกระทบทางเศรษฐกิจแล้ว วิกฤติในอียิปต์ยังท้าทายบทบาทและอิทธิพลของสหรัฐ ในตะวันออกกลางอีกด้วย

หากอียิปต์เกิดการถ่ายโอนอำนาจทางการเมืองอย่างมีนัยสำคัญ นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ อาจเป็นที่จดจำในฐานะผู้อยู่เบื้องหลัง

ที่ผ่านมา สหรัฐพึ่งพาความร่วมมือจากอียิปต์ในหลายด้าน ตั้งแต่การช่วยส่งกำลังบำรุงทหารอเมริกันในตะวันออกกลาง การต่อต้านลัทธิก่อการร้าย ไปจนถึงการสร้างสันติระหว่างอาหรับและอิสราเอล

ผลลัพธ์ที่จะเกิดในอียิปต์หลังความวุ่นวายครั้งนี้ จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าผลประโยชน์ของสหรัฐ จะได้รับผลกระทบเชิงบวก

หรือเชิงลบต่อไป

อิทธิพลทางทหาร การเมือง และเศรษฐกิจ ที่สหรัฐมีต่อตะวันออกกลาง อาจเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด และสหรัฐต้องปรับปรุง

กลยุทธ์ใหม่ในการติดต่อกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในภูมิภาคดังกล่าวอียิปต์ที่เป็นประชาธิปไตย อาจช่วยยกระดับความพยายามของสหรัฐ

ในการลดอิทธิพลของอิหร่านในตะวันออกกลาง เมื่อบวกกับอิรักที่กลายเป็นประชาธิปไตย ก็หมายความว่า สองประเทศที่ทรงอิทธิพล

ที่สุดในโลกอาหรับ มีการปกครองในระบบผู้แทน ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อทั้งภูมิภาค

 

อย่างไรก็ตาม สหรัฐก็ยังมีความเสี่ยง เนื่องจากระเบียบการเมืองใหม่ในอียิปต์ อาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มอิควานมุสลิมีน

หรือกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ที่ชอบวิพากษ์วิจารณ์นโยบายต่างประเทศของสหรัฐ โดยกลุ่มการเมืองกลุ่มนี้ถูกแบนในอียิปต์

แต่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน อีกทั้งยังเกี่ยวพันกับเครือข่ายต่างๆ ที่มีการดำเนินงานทั่วตะวันออกกลาง

พิจารณาจากการประท้วงที่ลุกลามไปหลายประเทศ รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของนายโอบามา คงต้องร่างยุทธศาสตร์ใหม่

ในเร็ววัน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ โดยเฉพาะด้านพลังงาน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...