มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

กูรูหุ้นพันล้าน โดย วิชัย วชิรพงค์ ขอบคุณผู้เขียนและทุกท่านที่เกียวข้อง

 

ตอนที่ 12 รวย

ถ้าเราไม่รู้ว่าหุ้นจะขึ้นต่อไปอีกหรือไม่ เราต้อง Let the Profit Run ปล่อยให้กำไรวิ่งเต็มสตีม เมื่อไรที่ราคาเริ่มปรับฐานลงมา "พร้อมวอลุ่ม" เราก็ล้างพอร์ตออกไปให้หมด การที่ "เสี่ยยักษ์" วิชัย วชิรพงศ์ เลือกลงทุน "หุ้นปั่น" ในช่วงแรก แทนที่จะเป็นหุ้น ปตท. "หุ้นในดวงใจ" เนื่องจากมองว่า "เชื่องช้า" ให้ผลตอบแทนไม่ทันใจ แต่หุ้น ปตท.ระหว่างรอยต่อของ Business Cycle จาก "ยุคขยายตัว" (Expansion) ไปสู่ "ยุครุ่งเรือง" (Boom) ของราคาน้ำมัน หุ้นปตท.กลับเป็น "ช้างที่ปราดเปรียว" กำไรโตพรวดพราดอย่างน่าทึ่ง "...ใครหาหุ้นอย่างนี้เจอ "แจ๊คพอตแตก" แน่นอน!!!" เสี่ยยักษ์สรุปสั้นๆ

เสี่ยยักษ์ย้อนเล่าว่า ช่วงนั้นตนเองมีเงินอยู่ 70 ล้านบาท ตัดสินใจซื้อหุ้น ปตท.ตัวเดียวเลย 1 ล้านหุ้น ซึ่งราคามันวิ่งขึ้นมาจาก 35 บาทมาที่ 70 บาท (ขึ้นมา 100% แล้ว) แต่ความมั่นใจของเรา ทำให้ "กู้เครดิตบาลานซ์" ซื้อเพิ่มอีก 1 ล้านหุ้นรวมเป็น 2 ล้านหุ้นมูลค่า 140 ล้านบาท ช่วงเดือนกันยายน 2546 หุ้นปตท.ขยับขึ้นไป 83 บาท นั่นคือจุดผกผันของชีวิตครั้งใหญ่ "ผมจะชอบอ้างคำพูดของ "แซม สนีด" อดีตนักกอล์ฟมือหนึ่งของโลก ที่เคยบอกว่า การตีกอล์ฟระยะไกลๆลงหลุมแบบ "โฮลอินวัน" มันเป็นเรื่องของโชคชะตา แต่ตีกอล์ฟให้ห่างธงระยะ 1-2 ฟุต ได้ทุกครั้งนี่คือฝีมือล้วนๆ" วิชัยเปรียบเทียบการเล่นหุ้นกับการตีกอล์ฟว่า คุณซื้อหุ้นให้ถูกตัว..ถูกเวลา เหมือนกับการตีกอล์ฟให้ใกล้หลุม "มันเป็นฝีมือ" แต่ผลสำเร็จสุดท้ายโชคชะตา "ฟ้า" จะเป็นผู้ลิขิต "ใครจะไปรู้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมันจะวิ่งจาก 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขึ้นไป 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตอนซื้อหุ้นปตท.ใหม่ๆ ผมก็ไม่รู้ มันทำให้หุ้น ปตท.พุ่งขึ้นจาก 70 บาทไป 190 กว่าบาท ภายในเวลาแค่ 5-6 เดือนเท่านั้น" ถ้าย้อนหลังกลับไปในเดือนมิถุนายน 2546 ราคาหุ้น ปตท.ปิดตลาดที่ 66.50 บาท อีก 6 เดือนต่อมาในเดือนธันวาคม 2546 ราคาหุ้น ปตท.ทะยานขึ้นไปสูงสุดที่ 193 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 190% ในรอบ 6 เดือน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ (ดูไบ) ค่อยๆขยับขึ้นจาก 25-27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในช่วงเดือนมิถุนายน 2546 ทะยานพุ่งขึ้นไปสูงสุด 72-73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงเดือนกรกฎาคม 2549 เป็นทิศทางขาขึ้นนานถึง 3 ปีเต็ม ระหว่างที่ราคาหุ้น ปตท.กำลังปรับขึ้นเพื่อสร้างสถิติใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยสัญชาตญาณของ "นายพราน" เสี่ยยักษ์ ขณะนั้นมีหุ้นปตท.อยู่แล้ว 2 ล้านหุ้น (กู้เครดิตบาลานซ์ 1 ล้านหุ้น เงินตัวเอง 1 ล้านหุ้น) พอหุ้น ปตท.ปรับขึ้น "อำนาจซื้อ" ก็เพิ่มขึ้น หมายความว่า วงเงินกู้เครดิตบาลานซ์ ก็เพิ่มขึ้นตาม เขาก็ใช้วิธีกู้เงินซื้อหุ้น ปตท.เพิ่มเข้าพอร์ตไปเรื่อยๆ ราคาหุ้นยิ่งปรับขึ้น อำนาจในการ (กู้) ซื้อก็ยิ่งเพิ่มขึ้น "...จาก 2 ล้านหุ้น ผมก็มีหุ้นเพิ่มเป็น 4 ล้านหุ้น" ทั้งๆ ที่เสี่ยยักษ์มีทุนซื้อหุ้นครั้งแรกเพียง 70 ล้านบาทหรือ 1 ล้านหุ้นเท่านั้น "ข้อดีของการเล่นหุ้นด้วย "เครดิตบาลานซ์" เมื่อมูลค่าหลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่มขึ้น (ราคาหุ้นสูงขึ้น) ผมก็กู้เงินซื้อหุ้น ปตท.เพิ่มเข้าพอร์ตตลอดเวลา ที่มั่นใจก็เพราะว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกมันขึ้นไปเรื่อยๆยิ่งขึ้น ผมก็ยิ่งซื้อหุ้น ปตท.เก็บ" เขาบอกว่า ขณะนั้นมีต้นทุนถัวเฉลี่ยในพอร์ต (จำนวน 4 ล้านหุ้น) อยู่ที่หุ้นละ 90 บาท จนถึงต้นปี 2547 หุ้น ปตท.ขึ้นไป 193 บาทก็ยังไม่ขาย มาขายที่ราคา 170 กว่าบาท "สาเหตุที่ยังไม่ขาย ก็เพราะว่าเราไม่รู้ว่าหุ้นจะขึ้นต่อไปอีกหรือไม่ เราต้อง Let the Profit Run ปล่อยให้กำไรวิ่งเต็มสตีม เมื่อไรที่ราคาเริ่มปรับฐานลงมาพร้อมวอลุ่ม เราก็ล้างพอร์ตออกไปให้หมด" วิชัยสรุปว่า หุ้นปตท.ถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต เพราะหุ้นปตท.ตัวเดียวทำกำไรให้รวมกันมากที่สุด ประมาณ 700 ล้านบาทจากเงินลงทุนเพียงแค่ 70 ล้านบาท

 

[/size]"พอผมไปซื้อหุ้น ปตท.ใช้เครดิตบาลานซ์ ซื้อเพิ่ม เผอิญราคาน้ำมันมันขึ้น ขึ้นอย่างมากๆนั่นคือลิขิตโชคชะตา แต่ตอนแรกที่เราตีกอล์ฟไปใกล้ธงระดับ 2 ฟุตนั่นคือฝีมือ" ...แล้วเราจะค้นหาหุ้น "แจ๊คพอตแตก" อย่างนี้ได้อย่างไร? เสี่ยยักษ์สรุปไว้สั้นๆว่า คุณต้องฝึกซ้อม..คุณต้องฝึกซ้อม..คุณต้องฝึกซ้อม..คุณต้องสู้ตาย..คุณต้องทุ่มเท พร้อมทั้งบอกว่า คนเราถ้ามันจะรวย มันมีส่วนของ "ฟ้าลิขิต" มาช่วยด้วย 5 เดือนเองนะครับที่หุ้นปตท.ขึ้นจาก 70 บาทไปเป็น 190 บาท นี่คือส่วนของฟ้า ส่วนของเราคือ ต้องเลือกหุ้นให้ถูกตัว แล้วต้องซื้อให้ถูกเวลา "..นี่ไม่ง่ายนะครับ!!!" ทั้งหมดนี้คือบทพิสูจน์ว่าหุ้น ปตท.ช่วงที่กำลังเติบโต (รวมทั้งหุ้น Super Growth Company ตัวอื่นๆ) ไม่ใช่ "ช้างที่เชื่องช้า" แต่เป็น "ช้างที่ปราดเปรียว" ในบางขณะ อยู่ที่ว่า คุณ..จะหาจังหวะนั้นเจอหรือไม่ ???

[ginger 11,058]

หุ้นปั่น = ไม่ตรงไปตรงมา = จะฟูหรือแฟบตอนไหนไม่รู้ = มี่เล่ห์กลซ่อนอยู่ = ไม่ซื่อสัตย์

 

= มีเจตนาทุจริต = มีอันตราย = มีความเสี่ยงสูง = อาจหมดตัว ....ขาดทุน

 

ถ้าเขาปั่นแล้วเทขาย แต่เราขายไม่ทัน

ถูกแก้ไข สิงหาคม 10, 2011 โดย ginger

[ginger 11,058]

http://www.nanosoft.co.th/maktip32.htm

[w_pech 0]

สวัสดีคุณ news ขอคำแนะนำหน่อยคืนนี้แนวรับแนวต้านอยู่ที่ใหน

ขอบคุณครับ

[ginger 11,058]

ในที่สุดเราก็สร้างบ้านในฝันสมใจ

แต่ผู้รับเหมาไม่ค่อยสบายใจนักเรื่องติดตั้งกระจกใสบานใหญ่ตรงห้องอาบน้ำ

“ผมเกรงว่าเพื่อนบ้านจะมองเห็นชัดตอนคุณกำลังอาบน้ำในชุดวันเกิด”

ภรรยาวัยกลางคนของผมพูดปลอบใจช่างว่า “ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ” เธอบอก

“เขาจะดูแค่ครั้งเดียวเท่านั้นล่ะ”

Submitted by Gregg Barner

 

ขำมั๊ย

[ginger 11,058]

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000099579

 

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000099923

 

เอเอฟพี - สำนักงานศุลกากรจีน เผย(10 ส.ค.)ว่า ยอดเกินดุลการค้าจีนเดือนก.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเท่ากับ 31,480 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยอดการส่งออกเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นเท่ากับ 6.4167

 

สำนักงานศุลกากรจีนเผยบนเว็บไซต์ว่า ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ยอดการส่งออกจีนเพิ่มขึ้น 20.40 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี เท่ากับ 175,130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นมูลค่าการส่งออกรายเดือนที่สูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ยอดการน้ำเข้าเพิ่มขึ้น 22.90 เปอร์เซ็นต์

 

ขณะที่ยอดเกินดุลการค้าของจีนเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ขยายตัวเท่ากับ 31,480 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากยอดเกินดุลการค้าเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเท่ากับ 22,270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งยังมากกว่ายอดเกินดุลที่ดาวโจนส์ได้ทำโพลคาดการณ์ไว้เท่ากับ 26,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ข้อมูลจากธนาคาร HSBC ระบุ ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ภาคการส่งออกของจีนขยายตัวมากขึ้น แม้ว่ากิจกรรมการผลิตจีนชะลอตัวลงเป็นครั้งแรกในปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลจีนพยายามชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจและลดความต้องการสินค้าจากต่างประเทศ

 

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางรายได้เผยว่า ในอีกไม่กี่เดือนต่อจากนี้ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐฯและยุโรปอาจส่งผลกระทบทางลบต่อภาคการส่งออกของจีน แต่หากจีนใช้นโยบายที่ให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีอัตราการเติบโตสูงเป็นหลัก(Pro-Growth Policy) ก็อาจช่วยฟื้นความเชื่อมั่นผู้บริโภคทั่วโลกได้

 

ขณะที่ Alistair Thornton นักวิเคราะห์จาก IHS Global Insight เผยว่า ยอดส่งออกเดือนก.ค.ของจีนที่ดีดตัวสูง ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยตามฤดูกาล แต่จะมีผลอีกเพียงไม่กี่เดือน หลังจากนั้นยอดการส่งออกจีนจะลดลง

 

เป็นที่คาดการณ์ว่าการขยายตัวของดุลการค้าจีนจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้รัฐบาลจีนต้องปรับเงินหยวนแข็งค่าขึ้นอีก ขณะที่วันนี้(10 ส.ค.) ธนาคารประชาชนจีน หรือ ธนาคารกลาง ได้ประกาศกำหนดค่ากลางอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนต่อดอลลาร์สหรัฐอย่างเป็นทางการ เท่ากับ 6.4167 แข็งค่าถึง 168 จุดจากระดับ 6.4335ของเมื่อวันอังคาร(9 ส.ค.) ทำนิวไฮสูงสุดนับตั้งแต่รัฐบาลจีนได้มีการปรับขึ้นค่าเงินหยวนต่อดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนก.ค.ปี 2548

 

บรรดานักวิเคราะห์ชี้ว่า ในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อจากนี้ รัฐบาลจีนอาจปล่อยให้เงินหยวนต่อดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าอย่างรวดเร็วขึ้นอีก เพื่อรับมือมือกับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงต่อเนื่องโดยล่าสุดดัชนีซีพีไอ หรือ มาตรวัดเงินเฟ้อในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา แตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ 6.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯได้ประกาศว่าจะดำเนินนโยบายการเงินผ่อนปรนเชิงปริมาณ (Quantative Easing) หรือ QE3 ต่อไป เพื่ออัดสภาพคล่องให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯและกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ

 

ทั้งนี้รัฐบาลจีนกำลังพยายามคุมเข้มภาวะเงินเฟ้ออย่างสุดความสามารถ โดยนับตั้งแต่เดือนต.ค.2553 รัฐบาลได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้วถึง 5 ครั้ง อีกทั้งคุมเข้มการปล่อยกู้ของบรรดาธนาคารจีน

[ginger 11,058]

สหรัฐฯหลังโดนลดเครดิตต้องเร่งแก้ไข จีนฐานะเจ้าหนี้เตือนไม่ควรกู้เงินเพิ่มหนี้

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 สิงหาคม 2554 00:16 น.

 

Share

 

 

 

 

 

วรวรรณ ธาราภูมิ

นายกสมาคม บลจ. เผยหลังสหรัฐฯโดน S&P ลดอันดับลงเหลือแค่ AA+ จีนในฐานะเจ้าหนี้พันธบัตร ก.คลัง ชี้ ต้องยืมรับความจริง เร่งแก้ไขปัญหาหนี้สิน ยิ่งกู้เงินยิ่งเพิ่มเพดานหนี้

 

นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน (สมาคม บลจ.) และประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่าน S&P ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศลงจาก AAA เป็น AA+ ส่งผลให้คนในชาติเดียวกันต่อว่าต่อขาน และประนามจข้อบกพร่องของ S&P

 

ทั้งนี้ ต่อให้ S&P ยังคงระดับ AAA ให้สหรัฐ หรือยกเกรดพิเศษที่คิดมาให้อเมริกาโดยเฉพาะให้เป็น เอหลาย ๆ ตัว หนี้สินกับอัตราการว่งงานมันก็ไม่ได้ลด คนอเมริกันจึงหลีกเลี่ยงความจริงไปไม่ได้ว่าตัวเองกำลังถังแตกสุด ๆ หากไม่ยอมรับความจริงในวันนี้ แล้วรีบแก้ไขกันอย่างจริงจัง และการกู้เงินเพิ่มโดยไม่หารายได้เพิ่มแบบที่ทำนี้ ยังมองว่าจะช่วยอะไรไม่ได้

 

"การตัดสินใจแก้ปัญหาหนี้สินแบบนี้ของสหรัฐเป็นการสายตาสั้นอย่างสิ้นเชิง รัฐบาลสหรัฐต้องยอมรับความจริงแม้จะเจ็บปวดว่าวันคืนเก่า ๆ ที่สุขสบายด้วยการกู้ยืมมาใช้ ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ในฐานะที่จีนเป็นเจ้าหนี้พันธบัตร ก.คลังของสหรัฐรายใหญ่ที่สุด จีนจะไม่ให้ความเห็นใจที่สหรัฐถูกลดความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจ และขอใช้สิทธิทุกอย่างที่เป้นเจ้าหนี้โดยชอบธรรมที่จะขอเรียกร้องให้สหรัฐเปิดเผยโครงสร้างการแก้ปัญหาหนี้สินอย่างละเอียด พร้อมให้ความมั่นใจในความปลอดภัยต่อเงินดอลลาร์ของสหรัฐที่จีนถือครองอยู่ นอกจากนั้น ยังเตือนว่าความสะดวกในการกู้เงินมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจแบบเฉพาะหน้าได้ผ่านพ้นไปแล้ว การเพิ่มเพดานหนี้นอกจากจะไม่ได้ปลดชนวนระเบิดหนี้สินแล้ว ยังทำให้อานุภาพของระเบิดรุนแรงขึ้นด้วย ดังนั้น จึงถึงเวลาแล้วที่ประชาคมโลกจะต้องร่วมกันกำหนดนโยบายเกี่ยวกับเงินดอลลาร์" นายกสมาคม บลจ. กล่าว

 

นางวรวรรณ กล่าวต่อไปว่า การลดอันดับแบบนี้มันเกิดขึ้นมาแล้วในสหรัฐช่วงยุค ‘80s มีบริษัท เอกชน 60 บริษัทที่ได้อันดับ AAA เท่าอันดับของประเทศ พอมาถึงปี 1995 เหลือเพียงครึ่งเดียว และในวันนี้ที่แม้กระทั่ง Berkshire Hathaway ของนายวอร์เรน บัฟเฟต GE และ บริษัทยาชั้นนำอย่าง Pfizer ก็ถูกลดอันดับจาก AAA ไปแล้ว มาวันนี้เหลือเพียง 4 บริษัทเท่านั้นที่ยังได้ AAA ซึ่งนับว่ามีฐานะการเงินแข็งแกร่งกว่าสหรัฐ ได้แก่ Microsoft, Exxon Mobil, Johnson & Johnson และ Automatic Data Processing

 

นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า จากปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯในขณะนี้ คาดว่ารัฐบาลสหรัฐฯ น่าจะออกมาตการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอีกแน่นอน ดังนั้นน่าจะเห็นมาตรการ QE3 ออกต่อเนื่องจาก ซึ่งเมื่อออกมาตรการ QE3 ออกมาแล้ว แนวโน้มของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ น่าจะอ่อนค่าลงมาเพื่อให้สามารถส่งออกได้

 

ขณะที่การแก้ปัญหาหนี้ของยุโรปนั้นน่าจะยืดเยื้อออกไป และยังต้องแก้ปัญหาอีกมาก เนื่องจากยุโรปมีหลายประเทศการแก้ปัญหาจึงล่าช้ากว่าสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุด ธนาคารกลางยุโรปเตรียที่จะซื้อพันธบัตรของอิตาลีและสเปน เพื่อกันไม่ให้ปัญหาลุกลามไปยัง 2 ประเทศนี้

 

อย่างไรก็ตาม ปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯและยุโรปนั้น ส่งผลกระทบต่อภูมิภาคเอเชียบ้างแต่ไม่รุนแรงนัก โดยภาคการส่งออกอาจได้รับผลกระทบบ้าง รวมถึงตลาดหุ้นหากคาดว่าผลประกอบการของบริษัทต่างๆ อาจจะออกมาไม่ดี ซึ่งขณะนี้นักลงทุนส่วนใหญ่จึงขายสินทรัพย์ออกมาแล้วไปถือทองคำแทน

[ginger 11,058]

นิทานเซ็น อักษรที่กล้บด้าน

 

ยังมีพระเซนรูปหนึ่ง เอ่ยปากถามอาจารย์เซนด้วยความสงสัยว่า "อาจารย์ ท่านเคยสอนว่าสมณะนั้น พึงแผ่เมตตาและกรุณาแก่สัตว์ทั้งหลายโดยไม่เจาะจง แต่หากเป็นคนชั่ว แสดงว่าเขาสูญเสียความเป็นมนุษย์ไปแล้ว เช่นนั้นยังคงต้องชี้ทางพ้นทุกข์ให้เขาหรือไม่?"

 

อาจารย์เซนมิได้ตอบคำถามในทันที เพียงหยิบพู่กันมาเขียนตัวอักษรคำว่า "ฉัน(我)" ลงบนกระดาษ แต่ตัวอักษรนั้นกลับด้าน แล้วจึงเอ่ยถามศิษย์ว่า "นี่คืออะไร?"

 

ศิษย์ตอบว่า "นี่คือตัวอักษรตัวหนึ่ง ทว่าเขียนกลับด้านแล้ว"

 

อาจารย์เซนถามต่อไปว่า "อักษรอะไร?"

 

ศิษย์ตอบว่า "อักษรคำว่า 'ฉัน' "

 

อาจารย์เซนจึงถามอีกว่า "อักษรคำว่า 'ฉัน' เมื่อเขียนกลับด้านยังนับเป็นอักษรหรือไม่?"

 

ศิษย์ตอบว่า "ไม่นับ"

 

อาจารย์ถามอีกว่า "หากไม่นับเป็นอักษร เหตใดเจ้าจึงทราบว่ามันคือคำว่า 'ฉัน' "

 

"นับ" ศิษย์รีบกลับคำตอบโดยพลัน ทว่าอาจารย์เซนกลับถามต่อว่า "ในเมื่อนับเป็นอักษร แล้วทำไมเจ้าถึงบอกว่ามันกลับด้านเล่า?"

 

คราวนี้ศิษย์นิ่งงันไร้คำตอบ อาจารย์เซนจึงอธิบายว่า "ตัวอักษรทั้งตัวที่เขียนถูกต้อง และตัวที่เขียนกลับด้าน เจ้าล้วนทราบว่ามันคือคำว่า 'ฉัน' ทั้งยังทราบด้วยว่าตัวไหนถูกต้อง ตัวไหนกลับด้าน นั่นเป็นเพราะว่าในใจเจ้ามีรูปแบบคำว่า 'ฉัน' ที่ถูกต้องอยู่ แต่ในทางกลับกัน หากเจ้าไม่รู้จักอักษรตัวนี้ เจ้าก็จะไม่สามารถแยกแยะได้ว่าตัวไหนเขียนถูก ยิ่งไปกว่านั้นหากเจ้ารู้จักตัวอักษรที่เขียนกลับด้านนั่นก่อน เมื่อพบเจออักษร 'ฉัน' ที่เขียนถูกต้อง เจ้าอาจคิดว่ามันเขียนกลับด้านก็เป็นได้"

 

"ตรรกกะเดียวกัน คนดีคือคน คนชั่วก็คือคน สำคัญที่ว่าเจ้าสามารถมองเห็นเนื้อแท้ของเขาหรือไม่ หากเจ้าพบคนเลวแล้วสามารถมองเห็นเนื้อแท้ของเขา มีเมตตาจิตต่อเขา ก็จะสามารถช่วยชี้ทางให้เขาพ้นทุกข์ได้"

 

ที่มา : หนังสือ 《禅的故事精华版》, 慕云居 เรียบเรียง, สำนักพิมพ์ 地震出版社, 2006.12, ISBN 7-5028-2995-4

[happy-go-lucky 5]

+1 ให้คุณ Ginger ที่ขยันเอาบทความดีดีมาแบ่งปันค่ะ

 

ขอบคุณค่ะ

[Nicky 43]

รูปแบบกราฟ จะมีออก แนว triple top (เพียงแค่ในเวลา 2 วัน) เป็นไปได้หรือเปล่าครับเนี่ย

หรือว่าจะทำ นิวไฮ

รอดูครับ

 

เริ่มเห็นลาง ๆ ครับ (อาจเป็นช่วงใกล้ปิดตลาด ลอนดอน ก็ได้ครับ)

 

 

 

ถ้ามาจริง มีหวังคงถึง 1678 (สงสัยจะไกลไป รอดูที่ 1720 ว่ามีแวว หรือเปล่าค่อยมาว่ากันใหม่ครับ)

ถูกแก้ไข สิงหาคม 10, 2011 โดย GoldofCourse

[Nicky 43]

สวัสดีครับ เฮียกัมพล

[NEWS 2,613]

สวัสดีคุณ news ขอคำแนะนำหน่อยคืนนี้แนวรับแนวต้านอยู่ที่ใหน

ขอบคุณครับ

ขออภัยครับ เพิ่งกลับจากที่ทำงานเข้ามาบ้าน

ปรากฎว่าหุ้นร่วง ทองขึ้น ตอนนี้ 1774.xx

แนวต้าน 1778 1789 1800

แนวรับ 1752 1741 1723 ครับ

ซื้อไปปล่อยตามแนวต้านเลยครับ น่าจะมีนิวไฮ ครับคืนนี้

ขอให้โชคดีครับ

ถูกแก้ไข สิงหาคม 10, 2011 โดย news

[ginger 11,058]

คำตอบสุดท้าย การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ริจะลองลงทุน ควรศึกษาข้อมูล ก่อนการตัดสินใจลงทุน...

 

 

ขอบคุณ ถูกต้อง

 

ยังมีอีกมากมายเนอะ

[put42 92]

ขออภัยครับ เพิ่งกลับจากที่ทำงานเข้ามาบ้าน

ปรากฎว่าหุ้นร่วง ทองขึ้น ตอนนี้ 1774.xx

แนวต้าน 1778 1789 1800

แนวรับ 1752 1741 1723 ครับ

ซื้อไปปล่อยตามแนวต้านเลยครับ น่าจะมีนิวไฮ ครับคืนนี้

ขอให้โชคดีครับ

 

 

รอพรุ่งนี้เช้า จะทันไหมคะ...

[NEWS 2,613]

รอพรุ่งนี้เช้า จะทันไหมคะ...

น่าจะทันนะครับ แต่เสี่ยงน้อย ก็กำไรน้อยครับ

แต่ตอนนี้จรวดพุ่งแล้ว จะโดดเกาะยากหน่อยนะครับ

ขอให้โชคดีครับ

ถูกแก้ไข สิงหาคม 10, 2011 โดย news