มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

[ginger 11,058]

• รับสมัครเข้าร่วมโครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ สาขาอุตสาหกรรมแฟชั่น
  
• สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 341.67 ลบ.(SET)
  
• กสิกรฯเผยสงกรานต์ปีนี้เงินสะพัดลดลง คนระวังการใช้จ่ายเหตุศก.ยังไม่ฟื้น
  
• เด้ง พีรกันต์ ซีอีโอแอร์พอร์ตลิ้งค์-เซ่นเอกสารรับรองคุณสมบัติเท็จ
  
• Turnover List ของหุ้น-วอร์แรนต์ใน SET และ MAI สัปดาห์สิ้นสุด 10 เม.ย.
  
• ภาวะข้าว AFET: ปริมาณซื้อขาย 77 สัญญา จับตาผลประมูลข้าวฟิลิปปินส์ระหว่างไทย-เวียดนาม
  
• พล.อ.เปรม อวยพรผู้นำเหล่าทัพ ขอให้ทำงานสุจริต - เป็นที่พึ่งประชาชน
  
• โปรโมชั่น “สารพันเห็ด”
  
• ภาวะยาง AFET: ราคาลดลงหลังเยนแข็งค่า วอลุ่มบางเหตุเข้าช่วงหยุดยาว-สัปดาห์หน้าจับตา GDP จีน
  
• โปรแกรมรายการพิเศษรับวันหยุด ตั้งแต่วันที่ 14-17 เมษายน 2557 ทางช่อง 4050
  
• TMB แนะเร่งขจัดข้อจำกัดด้านอุปทานดันส่งออกไทยปีนี้ฟื้นตัวได้ตามตลาดสำคัญ
  
• เชฟก้อง แห่งรายการ dish it my way ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร "แม่บ้าน"
  
• BIG LOT: วันนี้ SCB-F มูลค่าสูงสุด 394.08 ลบ.ราคาเฉลี่ย
  

 

กสิกรฯเผยสงกรานต์ปีนี้เงินสะพัดลดลง คนระวังการใช้จ่ายเหตุศก.ยังไม่ฟื้น

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 11 เมษายน 2557 17:19:15 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า แม้ทุกภาคส่วนต่างเร่งดำเนินมาตรการกระตุ้นตลาดคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อชดเชยรายได้ท่องเที่ยวจากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยที่หดตัวลงในช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 แต่สภาวะเศรษฐกิจของไทยที่ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน ส่งผลให้คนไทยระมัดระวังการใช้จ่ายในระยะนี้

โดยคาดการณ์ว่า ในช่วงวันหยุดติดต่อกัน 4 วันของเทศกาลสงกรานต์ปีนี้จะมีคนไทยประมาณ 4.2 ล้านคนเดินทางท่องเที่ยวทั้งเพื่อร่วมงานเทศกาลสงกรานต์ และเพื่อพักผ่อนตามต่างจังหวัด ซึ่งคาดว่าจะก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องคิดเป็นมูลค่าประมาณ 19,000 ล้านบาท

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนไทยในช่วงเทศกาลปีนี้ (ไม่รวมผู้ที่เดินทางกลับภูมิลำเนาเดิมในต่างจังหวัด) พบว่า นอกจากประเด็นทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองของไทยแล้ว ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลให้การเดินทางท่องเที่ยวในช่วง 4 วันเทศกาลสงกรานต์ของไทยในปีนี้ไม่คึกคักเหมือนเช่นปีที่ผ่านมา เช่น พฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปของคนไทยตามภาวะเศรษฐกิจ, จำนวนวันหยุดราชการในเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ลดลงจากปีก่อน, การจัดแคมเปญกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและพันธมิตรทางธุรกิจช่วงนอกเทศกาล และการเลื่อนเปิดภาคเรียนเพื่อรองรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ในปี 2558 (เริ่มต้นจากในระดับอุดมศึกษาซึ่งจะเปิดภาคเรียนในเดือนสิงหาคม) เป็นต้น

"ในช่วงวันหยุด 4 วันของเทศกาลสงกรานต์ปีนี้จะมีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจำนวนประมาณ 4.2 ล้านคน และมีการจับจ่ายใช้สอยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 19,000 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 12.4 เมื่อเทียบปี 2556 ซึ่งมีเม็ดเงินสะพัดมูลค่า 21,700 ล้านบาท" เอกสารเผยแพร่ระบุ

ทั้งนี้ ในภาพรวมการถดถอยลงของตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2557 คาดว่ายังคงมีบางพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางไปเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้คึกคักกว่าหรือใกล้เคียงปีที่แล้ว อาทิ เชียงใหม่ ชลบุรี (พัทยา บางแสน ศรีราชา) ซึ่งเป็นปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวคนไทยที่ต้องการร่วมกิจกรรมในเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ขณะที่หัวหินรวมทั้งชะอำยังคงเป็นปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวคนไทยที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนในช่วงวันหยุดสงกรานต์ปีนี้ ส่งผลดีต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ดังกล่าว โดยเฉพาะธุรกิจด้านที่พัก อาหารและเครื่องดื่มที่จะมีเม็ดเงินรายได้เพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติทั่วไป

แม้ว่าผู้ตอบแบบสอบถามประมาณร้อยละ 80.6 จะไม่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปี 2557 เนื่องจากเหตุปัจจัยต่างๆ อาทิ ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ ความแออัดของสถานที่ท่องเที่ยวและการเดินทาง อีกทั้งกลุ่มตัวอย่างบางส่วนเลือกที่จะเดินทางท่องเที่ยวก่อนหรือหลังเทศกาลสงกรานต์ และที่กลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามส่วนหนึ่งยังไม่ได้ตัดสินใจ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี เนื่องจากช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ในปี 2557 มีช่วงวันหยุดยาว 4 วัน ผู้ตอบแบบสอบถามกลุ่มนี้ก็อาจมีการปรับเปลี่ยนแผนการใช้ชีวิตในช่วงวันหยุดยาวนี้ โดยเฉพาะกิจกรรมการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ และการท่องเที่ยวระยะใกล้ เห็นได้ว่าภาครัฐและหน่วยงานเอกชนในหลายพื้นที่ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมสืบสานประเพณีวันสงกรานต์ดังเช่นที่เคยจัดทุกปี

ประกอบกับในปีนี้ภาครัฐยังได้ร่วมกับภาคเอกชน เช่น ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจสายการบิน จัดทำโปรโมชั่นพิเศษ (เช่น โปรโมชั่นด้านราคาในช่วงเทศกาลสงกรานต์และตลอดช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน โปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินและที่พักในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม อาทิ เชียงใหม่ ภูเก็ต หัวหิน เป็นต้น) เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการเดินทางท่องเที่ยวอย่างในปัจจุบัน

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

ราคาทองคำฮ่องกงปิดตลาดวันนี้ ลดลงแตะ 12,192 HKD/tael

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 11 เมษายน 2557 16:32:21 น.

สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 28 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,192 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,320.54 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 3.03 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

 

ผู้ว่าฯธนาคารกลางจีนเผยอาจต้องปรับเปลี่ยนนโยบายเล็กน้อยเพื่อกระตุ้นศก.

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 11 เมษายน 2557 16:45:00 น.

นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า จีนจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนนโยบายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเศรษฐกิจกลับมาขยายตัวเป็นปกติ ซึ่งนับเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ว่า รัฐบาลจะไม่ใช้มาตรการเพิ่มเติมในการยับยั้งภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง

ผู้ว่าการแบงก์ชาติจีนระบุว่า จีนไม่จำเป็นจะต้องออกนโยบายสำคัญๆเพิ่มเติม หากเศรษฐกิจขยายตัวในระดับปกติ แต่จะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายด้านการเงินเพียงเล็กน้อย ถ้าเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะที่ไม่ปกติ โดยรัฐบาลจีนตั้งเป้าอัตราขยายตัวของเศรษฐกิจไว้ที่ประมาณ 7.5% ในปีนี้

นายโจวแสดงความเห็นดังกล่าวหลังจากที่นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง กล่าวเมื่อวานนี้ว่า จีนจะใช้นโยบายเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะหลีกเลี่ยงมาตรการที่เข้มงวด

ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจจีนหลายรายการแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจของจีนในไตรมาสที่ 1 ขยายตัวในระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนจะลดสัดส่วนการกันสำรองสำหรับธนาคารพาณิชย์เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th-

 

ผู้ว่าฯธนาคารกลางจีนเผยอาจต้องปรับเปลี่ยนนโยบายเล็กน้อยเพื่อกระตุ้นศก.

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 11 เมษายน 2557 16:45:00 น.

นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า จีนจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนนโยบายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเศรษฐกิจกลับมาขยายตัวเป็นปกติ ซึ่งนับเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ว่า รัฐบาลจะไม่ใช้มาตรการเพิ่มเติมในการยับยั้งภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง

ผู้ว่าการแบงก์ชาติจีนระบุว่า จีนไม่จำเป็นจะต้องออกนโยบายสำคัญๆเพิ่มเติม หากเศรษฐกิจขยายตัวในระดับปกติ แต่จะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายด้านการเงินเพียงเล็กน้อย ถ้าเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะที่ไม่ปกติ โดยรัฐบาลจีนตั้งเป้าอัตราขยายตัวของเศรษฐกิจไว้ที่ประมาณ 7.5% ในปีนี้

นายโจวแสดงความเห็นดังกล่าวหลังจากที่นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง กล่าวเมื่อวานนี้ว่า จีนจะใช้นโยบายเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะหลีกเลี่ยงมาตรการที่เข้มงวด

ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจจีนหลายรายการแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจของจีนในไตรมาสที่ 1 ขยายตัวในระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนจะลดสัดส่วนการกันสำรองสำหรับธนาคารพาณิชย์เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th-

ข่าวต่างประเทศล่าสุด

• หัวเว่ยตอบสนองความต้องการที่ไม่หยุดนิ่งของธุรกิจสื่อและบันเทิงทั่วโลก ด้วย Media Cloud Solution ใหม่ล่าสุด
  
• รมว.สาธารณสุขลาออก เซ่นนโยบายปฏิรูประบบสาธารณสุขสหรัฐ
  
• อาร์เอส คอมโพเน็นส์ เปิดตัวนิตยสารใหม่ในรูปแบบดิจิตอล นำเสนอข่าวสารล่าสุดในแวดวงอุปกรณ์อัตโนมัติและอุปกรณ์ควบคุม
  
• Cacao Barry เปิดตัวช็อกโกแลตชนิดกูแวร์ตูร์ในเอเชีย-แปซิฟิก ชูจุดเด่นความบริสุทธิ์จากธรรมชาติตามสโลแกน Purity from Nature
  
• สารแสดงความเสียใจต่อกรณีเครื่องบินสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ MH370 สูญหาย
  
• สื่อรัสเซีย กระพืบข่าว MH370 ถูกไฮแจ็คไปอัฟกานิสถาน
  
• คิมจองอึน รับตำแหน่งผู้นำสูงสุดของกองทัพโสมแดง
  
• รองปลัดกล่าวคำปราศรัยในที่ประชุมของ European-ASEAN Business Centre
  
• FxPro เปิดตัวบัตรพรีเพด FxPro Infinite Card พร้อมให้บริการแล้ววันนี้
  
• การแถลงข่าวผ่านการประชุมทางไกล: ผู้นำ ATFA ประณามการฟอกเงินของชาวอาร์เจนตินาในรัฐเนวาดา
  
• จับกุมแล้ว นักเรียนมะกันวัย 16 คลั่งไล่แทงเด็กในโรงเรียน
  
• อับดุล บาสิต อิกเท็ต ประกาศพร้อมลงสมัครชิงตำแหน่ง
  

[ginger 11,058]

ปอกเปลือก'โกตี๋' ปอกเปลือก..."โกตี๋" สัมพันธ์ลึก แดงใต้ดิน" นปช.ยันปกป้อง'ยิ่งลักษณ์'รอ'ทักษิณ'กลับ "จตุพร" ระบุคนเสื้อแดงจะปกป้อง "ยิ่งลักษณ์" และรอ "ทักษิณ" กลับมา ด้าน "วรชัย" อดีตนายกฯไม่ได้ป่วย 'ปชป.'อัด'ยิ่งลักษณ์'เดินยุทธศาสตร์ผิด "ปชป." อัด "ยิ่งลักษณ์" เดินยุทธศาสตร์ผิดโจมตีศาลรธน.เอาตัวรอด เตือน "เสื้อแดง" เป็นเครื่องมือ "จตุพร-พท." เข้าสู่อำนาจ ศาลอนุมัติหมายจับ'โกตี๋'หมิ่นสถาบันแล้ว 'สุเทพ'ขอบคุณ'ขรก.สธ.'ต้อนรับอบอุ่น 'สงกรานต์'ฮอตจีน-ญี่ปุ่นเหมาทัวร์สาดน้ำ หุ้นอิชิตันฮอต!!ยอดจองล้น

ดูข่าว ทั้งหมด

 

ข่าวยอดนิยม

หุ้นอิชิตันฮอต!!ยอดจองล้น หุ้นไอพีโอ "บมจ.อิชิตัน" ฮอต!! แค่วันแรกหมดเกลี้ยง คาด นักลงทุนรอเก็บเพิ่มในกระดานอีกเพียบ เจาะกลยุทธ์การลงทุนหุ้นภาคบ่าย 11-4-57 Money Wise ช่วงพลิกเกม เจาะกลยุทธ์การลงทุนหุ้นภาคบ่ายสดตรงจากนักวิเคราะห์ "NowTV26" 11-4-57 ทิศทางตลาดอนุพันธ์ภาคบ่าย 11-4-57 Money Wise ช่วงพลิกเกม กลยุทธ์ทิศทางตลาดอนุพันธ์ภาคบ่ายสดตรงจากนักวิเคราะห์ "NowTV26" 11-4-57 มั่นใจหลังสงกรานต์ทองไม่ร่วงแรงเหมือนปี56 เชื่อมั่นทองเม..ย.ร่วงครั้งแรกในรอบ3เดือน สรุปภาวะซื้อขายหุ้นไทยภาคเช้า 11-4-57 หุ้นเช้าปิดร่วง4.26จุด

ดูข่าว ทั้งหมด

 

 

ข่าวยอดนิยม

• ปอกเปลือก'โกตี๋'
  
• ข่าวกรองรัสเซียชี้MH370ถูกไฮแจ็ค
  
• ตร.เปิดสายด่วนรับแจ้งเหตุอีก27จว.
  
• ธปท.เร่งดันระบบ'ชิพการ์ด'
  
• ประมูล'มะม่วงญี่ปุ่น'คู่ละเหยียบแสนบา
  

• ปอกเปลือก'โกตี๋'
  
• ข่าวกรองรัสเซียชี้MH370ถูกไฮแจ็ค
  
• ตร.เปิดสายด่วนรับแจ้งเหตุอีก27จว.
  
• ธปท.เร่งดันระบบ'ชิพการ์ด'
  
• ประมูล'มะม่วงญี่ปุ่น'คู่ละเหยียบแสนบาท
  

[ginger 11,058]

[deb99 290]

ขอบคุณครับ คุณginger คุณnews

[ginger 11,058]

 

สงกรานต์ปีใหม่ ชุ่มฉ่ำทั่วไทย

 

 

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์แข็งค่า ขณะนักลงทุนทั่วโลกเทขายหุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 12 เมษายน 2557 10:37:03 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ ท่ามกลางแรงเทขายหุ้นทั่วโลก

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐสู่ระดับ 1.3886 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3839 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.6745 ดอลลาร์ จากระดับ 1.6788 ดอลลาร์ สำหรับดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.9398 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9425 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบเยนสู่ระดับ 101.58 เยน จากระดับ 101.45 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8753 ฟรังค์ จากระดับ 0.8762 ฟรังค์ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.0962 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.0920 ดอลลาร์แคนาดา

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนเม.ย.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ 82.6 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 80 ในเดือนมี.ค. เนื่องจากการฟื้นตัวของตลาดแรงงานได้จุดประกายความหวังว่า เศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้น หลังจากที่ชะลอตัวเมื่อช่วงต้นปีจากผลกระทบของสภาพอากาศที่หนาวเย็น

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐปรับตัวสูงเกินคาดในเดือนมี.ค. ที่ระดับ 0.5% ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากต้นทุนบริการที่พุ่งสูงสุดในรอบ 4 ปี สำหรับการเพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค. ถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่แล้ว และเพิ่มขึ้นหลังจากที่ลดลงไป 0.1% ในเดือนก่อนหน้า อีกทั้งยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.1%

ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์นี้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าต่ำสุดในรอบกว่า 5 เดือน หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

รายงานการประชุมนโยบายของเฟดประจำวันที่ 18-19 มี.ค.แสดงให้เห็นว่าเฟดจะไม่เร่งรีบในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายเห็นพ้องกันที่จะพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยประเมินจากสถานการณ์ด้านการจ้างงาน ไม่ใช่ระบุเป้าหมายที่เป็นตัวเลข

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร โทร.02-2535000 อีเมล์: jongdee@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ผลประกอบการแบงก์ใหญ่ซบเซา ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 143.47 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 12 เมษายน 2557 07:44:22 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการเปิดเผยประกอบการของธนาคารรายใหญ่สหรัฐ ซึ่งไม่สามารถช่วยพยุงตลาดที่ร่วงลงจากแรงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในระยะนี้ได้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,026.75 จุด ลดลง 143.47 จุด หรือ 0.89% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,815.69 จุด ลดลง 17.39 จุด หรือ 0.95% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,999.73 จุด ลดลง 54.38 จุด หรือ 1.34%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กไม่สามารถพลิกกลับมาปิดบวกได้เมื่อคืนนี้ เนื่องจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยว่า กำไรไตรมาส 1 ปี 2557 ร่วงลง 19% เนื่องจากรายได้ที่ลดลงจากการซื้อขายตราสารหนี้ โดยกำไรไตรมาสแรกของธนาคารยังออกมาสวนทางกับการคาดการณ์ของตลาด ขณะเดียวกัน เวลส์ ฟาร์โก แอนด์ คอมพานี ซึ่งธุรกิจรับจำนองรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐ ได้เผยว่ารายสุทธิไตรมาส 1 ปี 2557 ปรับตัวขึ้น 14% เมื่อเทียบกับปีก่อน สู่ระดับ 5.9 พันล้านดอลลาร์ แต่ข้อมูลดังกล่าวก็ไม่สามารถช่วยพยุงตลาดได้

ทั้งนี้ หุ้นเจพี มอร์แกนปรับตัวลง 3.7% ขณะหุ้นเวลส์ ฟาร์โกขยับขึ้น 0.8% เมื่อคืนนี้

สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์นี้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 2.4% หลังปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3สัปดาห์ ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ ดัชนี NASDAQ ปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2555 เมื่อเทียบรายสัปดาห์ โดยลดลง 2.6% และ 3.1% ตลามลำดับ

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร โทร.02-2535000 อีเมล์: jongdee@infoquest.co.th--

• ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดร่วง 80.27 จุด ตามรอยตลาดหุ้นสหรัฐ
  
• ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์แข็งค่า ขณะนักลงทุนทั่วโลกเทขายหุ้น
  
• ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนตัวลง ขณะนักลงทุนจับตามูลค่าหุ้นและผลประกอบการ
  
• ดอลล์แข็งค่าเทียบเยน,ยูโร ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสดใส
  
• ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดอ่อนตัวลง เหตุวิตกกำไรเจพีมอร์แกนร่วง
  
• พันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้น ท่ามกลางกระแสคาดเฟดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้
  
• ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 35 จุด ขณะตลาดจับรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ
  
• ภาวะตลาดหุ้นอินเดีย: ดัชนี Sensex ปิดลบ 86.37 จุด จากปัจจัยชี้นำที่อ่อนแรง
  
• อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ในกรุงเทพมหานคร (2545-ปัจจุบัน)
  
• ภาวะตลาดอนุพันธ์: ผันผวนบ่ายดีดขึ้นคาดสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวจำกัดระวังปัจจัยนอก-การเมือง
  
• ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย: วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 99,440 ล้านบาท
  
• สรุปภาวะตลาด Futures By GT Wealth Management 11
  

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ 1.5 ดอลลาร์ หลังดอลลาร์แข็งค่า

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 12 เมษายน 2557 09:52:04 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) หลังดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ ซึ่งทำให้ความต้องการทองคำลดลง เนื่องจากซื้อขายด้วยดอลลาร์สหรัฐ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวลง 1.5 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ 1,319 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับตัวลง 14.5 เซนต์ หรือ 0.72% ปิดที่ 19.946 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ปรับตัวขึ้น 2.50 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,462.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวขึ้น 14.50 ดอลลาร์ หรือ 1.8%ปิดที่ 806.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำขยับลง เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ หลังค่าเงินดอลลาร์ร่วงต่ำสุดรอบ 5 เดือนไปก่อนหน้านี้ หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐที่สัญญาณดีขึ้นยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำ โดยความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนเม.ย.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ 82.6 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 80 ในเดือนมี.ค. เนื่องจากการฟื้นตัวของตลาดแรงงานได้จุดประกายความหวังว่า เศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้น หลังจากที่ชะลอตัวเมื่อช่วงต้นปีจากผลกระทบของสภาพอากาศที่หนาวเย็น

สัญญาทองคำยังได้รับแรงเทขาย ภายหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐปรับตัวสูงเกินคาดในเดือนมี.ค. ที่ระดับ 0.5% ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากต้นทุนบริการที่พุ่งสูงสุดในรอบ 4 ปี สำหรับการเพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค. ถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่แล้ว และเพิ่มขึ้นหลังจากที่ลดลงไป 0.1% ในเดือนก่อนหน้า อีกทั้งยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.1%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร โทร.02-2535000 อีเมล์: jongdee@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 34 เซนต์ หลังดัชนี PPI เพิ่มขึ้นเกินคาด

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 12 เมษายน 2557 08:35:55 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปรับตัวขึ้นคืนนี้ (11 เม.ย.) หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสะท้อนว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐอยู่ในช่วงขาขึ้น ตลอดจนความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับตัวขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 103.74ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอนขยับลง 13 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 107.33 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ภายหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐปรับตัวสูงเกินคาดในเดือนมี.ค. ที่ระดับ 0.5% ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากต้นทุนบริการที่พุ่งสูงสุดในรอบ 4 ปี สำหรับการเพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค. ถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่แล้ว และเพิ่มขึ้นหลังจากที่ลดลงไป 0.1% ในเดือนก่อนหน้า อีกทั้งยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.1%

ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมัน WTI ยังได้รับแรงหนุน เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนเม.ย.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ 82.6 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 80 ในเดือนมี.ค. เนื่องจากการฟื้นตัวของตลาดแรงงานได้จุดประกายความหวังว่า เศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้น หลังจากที่ชะลอตัวเมื่อช่วงต้นปีจากผลกระทบของสภาพอากาศที่หนาวเย็น

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมัน WTI ยังได้รับปัจจัยหนุนเนื่องจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 5.2 ล้านบาร์เรล แตะที่ 210.4 ล้านลาร์เรล เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 700,000 บาร์เรล ในขณะที่ฤดูร้อนในสหรัฐนั้นใกล้เข้ามา ซึ่งจะมีผู้ใช้รถมากขึ้นและจะส่งผลให้ความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้นตาม

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร โทร.02-2535000 อีเมล์: jongdee@infoquest.co.th--

 

[ginger 11,058]

“แพทย์-พยาบาล”กระหึ่ม! หนุนปฎิรูป เปิดกระทรวงต้อนรับกปปส

ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- เสาร์ที่ 12 เมษายน 2557 06:00:00 น.

“แพทย์-พยาบาล”กระหึ่ม!

หนุนปฎิรูป

เปิดกระทรวงต้อนรับกปปส.

“ปึ้ง”ยังพล่ามขู่ข้าราชการ

ป้องนปช.แยกประเทศไม่ผิด

มวลมหาประชาชนโดยคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขหรือ กปปส.ได้มีกิจกรรมรณรงค์ไปพบปะข้าราชการอย่างต่อเนื่อง โดย เมื่อเวลา10.00น.วันที่11เมษายน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.พร้อมแกนนำ กปปส.นำมวลชนเดินทางไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเชิญชวนข้าราชการออกมายืนเคียงข้างประชาชนขับไล่ระบอบทักษิณ เพื่อปฎิรูปประเทศไทย

กปปส.บุกให้กำลังใจสธ.ชื่นมื่น

ทันทีที่คณะ กปปส.ถึงกระทรวงสาธารณสุข ได้มีข้าราชการโบกธงถือป้ายผ้าสนับสนุนแนวทางของ กปปส.อย่างคึกคักพร้อมขอถ่ายรูปกับนายสุเทพ และแกนนำเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ได้มีข้าราชการนำพวงมาลัยมาคล้อง พร้อมรดน้ำนายสุเทพเนื่องในโอกาสเทศการสงกรานต์ด้วย

จากนั้น นายสุเทพ พร้อมแกนนำ ได้เดินเข้าไปยังมายังอาคารโดยมี นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขพร้อมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุขยืนให้การต้อนรับ เมื่อทั้งสองคนพบกันต่างก็เข้าสวมกอด ก่อนที่นพ.ณรงค์พาแกนนำทุกคนและผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเดินเข้าร่วมหารือในห้องประชุมชัยนาทนเรนทร

มอบนกหวีดทองคำให้ ปลัด สธ.

ต่อมาเวลา12.40น.ได้เปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปภายในห้องประชุม โดยแกนนำกปปส.ทุกคนได้เป็นตัวแทนมวลมหาประชาชน มอบดอกไม้ให้กำลังใจ นพ.ณรงค์ ทั้งนี้นายสุเทพยัง ได้มอบนกหวีดทองคำให้กับนพ.ณรงค์

นายสุเทพกล่าวว่าเพื่อเป็นการขอบคุณที่ทางกระทรวงสาธารณะสุขมีความเข้มแข็งในการแสดงจุดยืนสนับสนุนการปฏิรูปประเทศตนจึงเป็นตัวแทนมวลมหาประชาชนมอบนกหวีดทองคำให้กับข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขโดยผ่านปลัดกระทรวง และแม้นกหวีดจะมีมูลค่าเกิน3,000บาท แต่ตนไม่ได้เจาะจงที่จะมอบให้ปลัดกระทรวงเพียงผู้เดียว แต่มอบให้กระทรวงสาธารณสุขโดยผ่านปลัดกระทรวงเท่านั้น

ย้ำชัดร่วมต่อสู้อุดมการณ์เดียวกัน

เลขาธิการ กปปส.ย้ำถึงผลการหารือว่าการที่กลุ่ม กปปส.เดินทางมาครั้งนี้เพื่อเน้นย้ำแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขและมวลมหาประชาชนได้ร่วมกันต่อสู้มาโดยตลอดในฐานะที่เรามีอุดมการณ์เดียวกันและในการต่อสู้ของมวลมหาประชาชน ไม่ได้ต่อสู้เพื่อพรรคการเมือง ไม่มีผลประโยชน์นักการเมือง หรือพรรคการเมืองมาเกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกันนานแล้วและการมาเยี่ยมพี่น้องกระทรวงสาธารณสุขเพราะทราบว่าบรรดาข้าราชการในกระทรวงก้าวหน้าไปมากแล้วในการเตรียมการปปฏิรูปประเทศไทย วันใดที่จัดตั้งรัฐบาลประชาชนได้ พิมพ์เขียวกระทรวงสาธารณสุขสามารถนนำมาใช้ปฏิรูปประเทศด้านต่างๆได้ทันที

ด้าน นพ.ณรงค์ กล่าวว่า กรอบที่วางไว้มี3เรื่อง คือ1.การปฏิรูประบบสุขภาพ เช่นเขตสุขภาพ กลไกการเงินการคลังสุขภาพ ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก 2.การปฏิรูปประเทศไทยที่บุคลากรทางการแพทย์เห็นด้วย จะต้องดำเนินการเรื่องนี้และ3.การสร้างความเข้มแข็งระบบราชการ ระบบคุณธรรม การจัดระบบและสร้างกลไกถ่วงดุล เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นประโยชน์และทำให้ระบบราชการเข้มแข็งได้

ร่วมทานมื้อเที่ยงกันอย่างอบอุ่น

หลังร่วมหารือและแถลงข่าวเสร็จสิ้นนายสุเทพ พร้อมแกนนำ กปปส. ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับผู้บริหารกระทรวงาธารณสุขโดยจัดเตรียมก๋วยเตี๋ยวไก่ไว้ให้กับแกนนำ กปปส.ด้วย ขณะที่ กปปส. ได้เตรียมข้าวกล่อง มามอบให้ข้าราชการของกระทรวงฯ ได้รับประทาน โดยมีข้าราชการมารับข้าวกล่องไปรับประทานจำนวนมาก

“ปึ้ง”ยังพล่ามขู่ข้าราชการ

วันเดียวกัน ที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ในฐานะ ประธานที่ปรึกษา ศอ.รส.กล่าวถึงการเรียกประชุมปลัดกระทรวงในวันที่17 เม.ย.นี้ว่า เพราะนายสุเทพ ไปปิดสถานที่ราชการจนเขาทำงานไม่ได้ แล้วยังไปอธิบายเรื่องรัฎฐาธิปัตย์ซึ่งข้าราชการอาจไม่เข้าใจออกมาต้อนรับ ซึ่งตนอยากขอร้องให้ข้าราชการทำหน้าที่ของตนเองให้ประเทศเดินหน้าไปได้

“อย่าเอาเวลาราชการไปร่วมชุมนุม หรือมาสนับสนุนนายสุเทพและพวกจนออกนอกหน้า เพราะนายสุเทพ และพวกไม่มีงาน เขามีเงินใช้จ่ายในการชุมนุมประท้วง แต่ข้าราชการทุกคนกินเงินเดือนและภาษีราษฎร ต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง”นายสุรพงษ์ ระบุว่าไม่เคยก้าวล่วงข้าราชการ

แต่ก่อนหน้านี้นายสุรพงษ์ ผู้นี้เคยขู่จะสอบวินัยร้ายแรงปลัดกระทรวงยุติธรรมที่เปิดกระทรวงต้อนรับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เข้าอธิบายการขับไล่ระบอบทักษิณเพื่อปฎิรูปประเทศไทย แต่นายสุรพงษ์ กล้าขู่ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม ที่ได้เปิดกระทรวงต้อนรับนายสุเทพ อย่างอบอุ่น

ชี้กำนันผิดชัดเจน ม.112อีกคดี

นายสุรพงษ์ ยังกล่าวถึงกรณีนายสุเทพ ประกาศตนเป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ว่า ถือเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเหมือน กับ นายวุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ ตนในฐานะ ประธานที่ปรึกษาศอ.รส.จะต้องเร่งดำเนินคดีด้วยเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่เช่นนั้น ศอ.รส.อาจถูกกล่าวหาได้ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ดังนั้น นายสุเทพจากเดิมที่มีข้อหากบฏอยู่แล้ว จึงจะเพิ่มความผิดในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไปอีกหนึ่งข้อหา

ชี้ชัดกว่าแดงติดป้ายแบ่งแยกปท.

เมื่อถามถึงคดีกรณีคนเสื้อแดงติดป้ายแบ่งแยกดินแดนก่อนหน้านี้มีความคืบหน้าอย่างไร นายสุรพงษ์ กล่าวว่ากรณีเสื้อแดง เป็นการประชดประชันที่มองว่าเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงขึ้นไปติดป้าย โดยตำรวจได้ดำเนินการตามที่ทหารได้มาแจ้งความไว้ซึ่งจะต้องติดตามจับกุมคนกระทำความผิดมาสอบสวนหาข้อเท็จจริง แต่กรณีนายสุเทพค่อนข้างจะชัดกว่า ที่ประกาศตั้งรัฏฐาธิปัตย์บนเวทีปราศรัย แต่กลุ่มที่มาติดป้ายของคนเสื้อแดงยังตามหาคนติดป้ายไม่ได้และไม่รู้ว่าเป็นมือที่สามนำมาติดหรือไม่ จึงต้องสืบสวนหาข้อเท็จจริงกันต่อไป

ชัยเกษมปัดตั้งกก.สอบวินัย ปลัดยธ.

นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่าคงไม่ต้องตั้งคณะกรรมการการสอบทางวินัยกับ นายกิตติพงษ์ กิตติยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กรณีไปให้การต้อนรับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.แต่หากใครไปทำในลักษณะนี้อีก หลังจากศอ.รส.ประชุมร่วมกับปลัดกระทรวงต่างๆ ในวันที่17เม.ย.นี้ ถึงจะมีความผิด ส่วนนายกิตติพงษ์ทำก่อนที่จะมีประชุม ถือว่าไม่ผิด เรื่องนี้ได้มีการตำหนิ นายกิตติพงษ์แล้วแค่นี้ถือว่าสะเทือนแล้ว

ส่วนที่มีภาพ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ถ่ายภาพคู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดิน ที่ฮ่องกงล่าสุด เหมาะสมหรือไม่จะเอาผิดได้หรือไม่ นายชัยเกษม กล่าวว่า ที่ฮ่องกงพล.ต.ท.คำรณวิทย์ไม่มีอำนาจจับ ซึ่งคงไม่ใช่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์คนเดียว ที่ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งคงจะเรียกมาตำหนิไม่ได้ ไม่ใช่ผู้บังคับบัญชา พล .ต.ท.คำรณวิทย์ แต่เผอิญ นายกิตติพงษ์ ตนเป็นผู้บังคับบัญชาจึงพูดได้

เหลิมชี้ศาลตัดสินนายกฯมีปัญหาแน่

ด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะผอ.ศอ.รส.ได้ประเมินสถานการณ์ทางการเมืองหลังสงกรานต์ว่าเป็นห่วงเรื่องการเมืองโดยเฉพาะคดีที่อยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)และศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินโยงการเมืองหรือไม่ เชื่อว่าสองส่วนนี้จะทำให้เกิดปัญหาแน่นอน เพราะอีกฝ่ายหนึ่งมองว่าคดีของพรรคประชาธิปัตย์ล่าช้า แต่พอคดีนายกฯและพรรคเพื่อไทยเร็วอย่างกับรถด่วนไฮสปีด ลักษณะแบบนี้ฝ่ายที่เชียร์พรรคเพื่อไทยมองว่า ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็มีเรื่องแน่ซึ่งไม่อยากให้เกิดเพราะเป็นคนไทยด้วยกัน

ดักคอถ้าใช้ ม.7เกิดกลียุคแน่

เมื่อถามว่าหากผลการตัดสินออกมาเป็นห่วงว่ากปปส.กับนปช.จะปะทะกันหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ถ้าตัดสินค้านสายตาคนดู มีเรื่อง 100 เปอร์เซ็นต์ ในฐานะที่ทำหน้าที่ผอ.ศอ.รส.อยากเน้นให้ใช้ความคิดความรู้หักล้างแล้วเชิญชวนคนทั้งประเทศ แสดงอาการไม่ยอมรับอารยะขัดขืน ขอให้ทุกหน่วยงานที่คิดจะล้มรัฐบาลตระหนักสำนึกและรู้สึก ไม่เห็นด้วยที่จะยกกำลังห้ำหั่นกัน เพราะเราคนไทยด้วยกัน “สถานะนายกฯจะถอดอีกไม่ได้ ต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ตามมาตรา 181 พวกใช้มาตรา7 เป็นพวกเห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว จะใช้มาตรา7 ต้องฉีกรัฐธรรมนูญ ก็ทำได้ แต่ไม่เป็นที่ยอมรับ คนจะออกมาประท้วงกันทั้งประเทศ ถ้ารู้ว่าบ้านเมืองจะเดินเข้าสู่กลียุค แต่ควรหันไปใช้วิธีการเลือกตั้งดีกว่า กกต.ควรจัดเลือกตั้งให้แล้วเสร็จ อย่าให้บ้านเมืองหายนะไปมากกว่านี้”

เย้ยจุดจบ'สุเทพ'เหมือน'สนธิ'

ร.ต.อ.เฉลิม ระบุเชื่อว่าสุดท้าย นายสุเทพจะมีจบเหมือนนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ส่วนที่นายสุเทพพูดเรื่องตั้งรัฏฐาธิปัตย์ ขอถามว่าเอาสมองส่วนไหนคิดรู้หรือไม่ว่าแปลว่าอะไร เรื่องนี้คิด ก็พูดไม่ได้ พร้อมไม่ขอให้ความเห็นเรื่องทหารจะออกมาปฏิวัติหรือไม่ ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯได้แสดงความห่วงใยข้ามประเทศแต่ยังมั่นใจแนวทางการเลือกตั้ง จะทำให้รัฐบาลได้รับชัยชนะ ร.ต.อ.เฉลิม ตอบว่า ตนมีความคิดแบบ พ.ต.ท.ทักษิณ 100%ไม่ได้เอาใจเพราะไม่มีอะไร เหนือประชาธิปไตย ล้มรัฐบาลได้ ก็อยู่ไม่ได้ ประชาชนไม่เอาด้วย

[ginger 11,058]

บาทแข็งค่าขึ้น-หุ้นไทยทรงตัว เงินบาทแข็งค่าขึ้น ขณะที่ หุ้นไทยทรงตัวจากแรงหนุนของนักลงทุนต่างชาติ อิชิตันขายเกลี้ยง เชื่อนักลงทุนเก็บเพิ่ม หุ้นอิชิตันขายวันแรกเกลี้ยง ที่ปรึกษาเชื่อนักลงทุนที่ผิดหวังจองหุ้นจะรอซื้อหุ้นในกระดาน ด้าน "เอส 11 กรุ๊ป" ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ16 ล้านหุ้น เศรษฐกิจชะลอฉุดสินเชื่อติดลบ แบงก์ทหารไทย-กรุงเทพ เผยสินเชื่อไตรมาสแรกติดลบตามภาวะเศรษฐกิจชะลอจากการเมือง "โฆสิต"คาดจุดต่ำสุดแล้ว ทองขึ้น50บ.ทองแท่งขายออก20,200 ทิศทางราคาทองคำ 11-4-57 พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติซื้อ341ลบ. หุ้นปิดร่วง0.40จุด

ดูข่าว ทั้งหมด

 

 

ข่าวยอดนิยม

• โซนี่ประกาศให้หยุดใช้แล็ปท็อปไวโอ
  
• อิชิตันขายเกลี้ยง เชื่อนักลงทุนเก็บเพิ่ม
  
• ศาลอาญาออกหมายจับโกตี๋
  
• คำถามชวนคิดสะกิด'ซุปตาร์'
  
• 'ผอ.ส.ว.2'อ้างป่วยไม่มารายงานตัว
  
• 
  
  
  • 7วันอันตรายวันแรกเสียชีวิต39รายเจ็บ402
    
  • 'นพดล'เผยไอเดียกุญแจ5ดอกทางออกประเทศ
    
  • 'ยิ่งลักษณ์-สุเทพ'ปชช.อยากเล่นสาดน้ำมากสุด
    
  • 'สุพรรณบุรี'เก๋งชนเสาไฟฟ้าตาย1เจ็บ3
    
  • ตำรวจเร่งล่า'วุฒิพงศ์'ข้อหาหมิ่นสถาบัน
    
  • สิงเทลผนึกซัมซุงดันโมบายดาต้าทั่วเอเชีย
    
  • บาทแข็งค่าขึ้น-หุ้นไทยทรงตัว
    
  • เอสเอ็มอีจ่อวิกฤติ ภาคท่องเที่ยว-เกษตรอ่วม
    
  • อิชิตันขายเกลี้ยง เชื่อนักลงทุนเก็บเพิ่ม
    
  • จำคุกตลอดชีวิตสาวใช้รองเท้าส้นสูงสังหารแฟน
    

   

[ginger 11,058]

ศึก 3 เส้า : มะกันเตือนจีน อย่าริเอาอย่าง "ไครเมียโมเดล"

 

กาแฟดำ

 

จีนเห็นรัสเซีย เข้ายึดไครเมีย ได้อย่างค่อนข้างง่ายดายแล้ว จะเอาอย่างบ้างหรือเปล่า?

 

• พท.เตรียมยื่นป.ป.ช.เอาผิดปลัด สธ.รับนกหวีดทองคำ กปปส. 12:12 น.
  
• คค.สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนวันแรก ตาย 39 คน เจ็บ 402 คน12:03 น.
  
• กปปส.งดเคลื่อนไหว 4 วัน หวังให้ จนท.หยุดเที่ยวสงกรานต์11:49 น.
  
• "แม้ว"อวยพรสงกรานต์อยากเห็นคนไทยให้อภัยซึ่งกันและกัน11:45 น.
  
• ตม.ตาก เข้มเพิ่มมาตรการป้องกัน"โกตี๋"หลบหนีออกชายแดน 11:40 น.
  
• รวบนักโทษหนีขณะนำตัวส่งคุกสงขลาได้ 1 คน เหลืออีก 1 คน11:31 น.
  
• จนท.ตรวจสอบพื้นที่ปะทะแก๊งค้ายา ยึดยาบ้า 6 แสน คนร้ายดับ 7 คน 11:23 น.
  
• ดุสิตโพลชี้ ปชช.อยากเล่นสงกรานต์ ถ.ข้าวสาร-สีลมมากสุด11:18 น.
  
• อุตุฯ ออสซีเตือน"ไซโคลนอิตา"แรงระดับ 410:52 น.
  

[ginger 11,058]

เดินทางปลอดภัย นะคะ

[ginger 11,058]

เรื่องโดย Nation Channel | ภาพโดย แฟ้มภาพ

วันที่ 12 เมษายน 2557 10:57 น.

12 เม.ย.57 - กรุงเทพมหานครจัดพิธีอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ (องค์จำลอง) ออกจากพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ไปประดิษฐานบนมณฑป บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร

โดยขบวนอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ จะเคลื่อนออกจากพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เวลา 08.00 น. ผ่านสนามหลวง - กระทรวงกลาโหม กรมการรักษาดินแดน - พาหุรัด - ขึ้นสะพานพระพุทธยอดฟ้าไปถึงวงเวียนใหญ่ และจอดให้ประชาชนได้สักการะและสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ (องค์จำลอง)

จากนั้นจะเคลื่อนขบวนออกจากวงเวียนใหญ่ เข้าสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์ เลี้ยวขวา เพื่อขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า - เข้าสู่ถนนพระอาทิตย์ จอดให้ประชาชนสักการะและสรงน้ำพระฯ บริเวณสวนสันติชัยปราการ - ต่อจากนั้นขบวนเคลื่อนเข้าสู่ถนนสามเสน และจอดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสักการะและสรงน้ำพระฯ บริเวณหน้าวัดชนะสงคราม ก่อนขบวนเคลื่อนเข้าสู่ถนนราชดำเนินกลาง เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนดินสอ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยในเวลา 17.00 น. จะอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ขึ้นประดิษฐานบนมณฑป ประชาชนสามารถสักการะและสรงน้ำพระฯ ได้จนถึงวันที่ 15 เมษายน เวลา 15.00 น.

ถูกแก้ไข เมษายน 12, 2014 โดย ginger

[ginger 11,058]

 

เร่งจ่ายเงินโครงการรับจำนำให้หมดในปีนี้ คลังกู้อีก!ล้างหนี้ค่าข้าว

http://www.naewna.com/business/99063

See Translation

 

 

 

 

[deb99 290]

ขอบคุณครับคุณginger

[ginger 11,058]

โชคดี อยู่ดี มีสุข สมหวังดังใจ

[ginger 11,058]

คาดหลังสงกรานต์การเมืองเดือดฉุดหุ้นร่วง นักวิเคราะห์ระบุคาดหลังสงกรานต์การเมืองเดือดฉุดหุ้นร่วง แนะนำนักลงทุนหาจังหวะเก็งกำไรในช่วงสั้น บาทแข็งค่าขึ้น-หุ้นไทยทรงตัว เงินบาทแข็งค่าขึ้น ขณะที่ หุ้นไทยทรงตัวจากแรงหนุนของนักลงทุนต่างชาติ อิชิตันขายเกลี้ยง เชื่อนักลงทุนเก็บเพิ่ม หุ้นอิชิตันขายวันแรกเกลี้ยง ที่ปรึกษาเชื่อนักลงทุนที่ผิดหวังจองหุ้นจะรอซื้อหุ้นในกระดาน ด้าน "เอส 11 กรุ๊ป" ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ16 ล้านหุ้น เศรษฐกิจชะลอฉุดสินเชื่อติดลบ ทองขึ้น50บ.ทองแท่งขายออก20,200 ทิศทางราคาทองคำ 11-4-57 พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติซื้อ341ลบ.

ดูข่าว ทั้งหมด

 

 

ข่าวยอดนิยม

• ดวงรายสัปดาห์ 13-19 เมษายน พ.ศ.2557
  
• 'สุเทพ'กับเกมยาก สถาปนารัฏฐาธิปัตย์!
  
• ศาลรธน.รอนายกฯแจงข้อกล่าวหาปมเด้ง'ถวิล'
  
• พท.หารือข้อเสนอม.7'ชัยเกษม'หลังสงกรานต์
  
• แกนนำแดงลั่นปฏิวัติไม่มีประชาธิปไตยเกิด
  
• 
  ศึก 3 เส้า : มะกันเตือนจีน อย่าริเอาอย่าง "ไครเมียโมเดล"
  
  โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
  
• 
  จีนเห็นรัสเซีย เข้ายึดไครเมีย ได้อย่างค่อนข้างง่ายดายแล้ว จะเอาอย่างบ้างหรือเปล่า?
  
  
  ปักกิ่ง จะคิดเลียนแบบรัสเซียเพื่อทำกับไต้หวันหรือเขตอื่นหรือเปล่า ไม่มีใครบอกได้ แต่ดูเหมือนว่า สหรัฐจะออกมา "ตีปลาหน้าไซ" เอาไว้ก่อนแล้ว
  เพราะว่าผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสำหรับเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ที่ชื่อ Daniel Russell ออกมาเตือนว่าขอให้ปักกิ่งอย่าคิดว่าจะทำอย่างที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ทำกับไครเมียแล้ว จะรอดตัวไปได้
  ทุกวันนี้ สหรัฐก็ยังส่งเสียงดังๆ บอก ปูติน ว่า เรื่องไครเมียไม่ถือว่าเป็นเรื่องเบ็ดเสร็จเรียบร้อย เพราะว่ามอสโกจะต้องเจอกับการคว่ำบาตรด้านเศรษฐกิจและการเมือง อย่างต่อเนื่อง
  ยิ่งถ้าหาก รัสเซีย ขยับเข้าไปในดินแดนของยูเครนด้วยแล้ว ได้เห็นดีกันแน่
  นายรัสเซล เพิ่งมารับตำแหน่งสำคัญสำหรับนโยบายของสหรัฐต่อเอเชีย สิ่งแรกๆ ที่ทำ ก็คือ การออกมาแสดงจุดยืนว่าบทบาทของอเมริกาในเอเชีย ตามนโยบาย Pivot to Asia ที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา เคยแถลงไว้นั้น ยังเดินหน้าต่อ
  ตอกย้ำว่า การที่ โอบามา ต้องเผชิญหน้ากับ ปูติน เรื่องยูเครนและไครเมียขณะนี้ ไม่ได้มีผลทำให้การ "ปรับดุลอำนาจใหม่" (rebalancing) ในเอเชียของวอชิงตันต้องชะงัก อย่างที่อาจจะมีนักวิเคราะห์บางค่ายทำนายเอาไว้
  ในการให้การต่อกรรมาธิการวุฒิสภาเมื่อสัปดาห์ก่อน นายรัสเซลเตือนจีนว่าอย่าได้พยายามจะใช้กำลัง หรือการข่มขู่ว่าจะใช้กำลังเพื่อที่จะขยายดินแดนของตนไปยังเพื่อนบ้าน เพราะว่าประเทศในแถบนี้เห็นรัสเซียทำกับไครเมียแล้ว ก็เริ่มจะหวาดระแวงว่าจีนอาจจะกำลังเดินตามรอยของมอสโก
  เจ้าหน้าที่ชั้นสูงในกระทรวงต่างประเทศของวอชิงตันคนนี้ บอกว่า จีน "กำลังคิดหนัก" ต่อปฏิกิริยาของประชาคมโลกต่อการกระทำของรัสเซียในไครเมีย ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าจีนมีความเกี่ยวโยงทางเศรษฐกิจกับสหรัฐและเพื่อนบ้านของตน หากทำอะไรไปในทางเดียวกับรัสเซีย อาจจะต้องเจอกับการต่อต้านจากประชาคมโลกเหมือนกันก็ได้
  สหรัฐกับสหภาพยุโรปใช้วิธีกดดันรัสเซีย ด้วยการประกาศมาตรการคว่ำบาตรเป็นขั้นเป็นตอน เริ่มต้นการระงับการทำธุรกรรมกับธนาคารบางแห่งของรัสเซีย ตามมาด้วยการอายัดทรัพย์สินและการติดต่อทางธุรกิจของคนใกล้ชิดกับปูตินในสหรัฐ และด้านอื่นๆ ทำให้ประเทศไหนก็ตามที่คิดจะเอา "ไครเมียโมเดล" ไปใช้ ต้อง "หนาว" เพราะว่าอาจจะต้องเจอกับไม้แข็งอย่างนี้จากโลกตะวันตก เช่นกัน
  ที่สหรัฐออกมาเตือนจีนอย่างนี้ เป็นช่วงจังหวะเดียวกับที่ความขัดแย้งของจีนกับฟิลิปปินส์ว่าด้วยกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ร้อนระอุขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง เมื่อมะนิลายื่นเรื่องฟ้องจีนในสหประชาชาติว่าถูกปักกิ่งรังแก
  อีกด้านหนึ่ง จีน ก็มีเรื่องกับญี่ปุ่นในทะเลจีนตะวันออกว่าด้วยกรรมสิทธิ์เหนือเกาะ ที่จีนเรียกว่า "เตียวหยู" และ ญี่ปุ่นเรียกว่า"เซนกากุ" ถึงขั้นที่มีการเผชิญหน้ากันในทะเลเป็นระยะๆ ทั้งสองกรณี
  ช่วงหลัง จีน ใช้ภาษาที่ "กร้าว" ขึ้นกว่าเดิมต่อเพื่อนบ้านที่เป็นคู่กรณี ทำให้ทั้ง ฟิลิปปินส์และญี่ปุ่น วิ่งไป "ฟ้อง" เพื่อนผู้พี่อย่างอเมริกาให้ช่วยปรามจีนในฐานะที่เป็นประเทศยักษ์ด้วยกันทั้งคู่
  จีน ยืนยันมาตลอดว่า ไม่เคยมีนโยบายที่จะรังแกเพื่อนบ้านใด ต้องการจะแก้ปัญหาด้านการเจรจาทางการทูต แต่ประเทศคู่กรณีมักจะใช้วิธีการ "ยั่วยุ" จีน อย่างไร้เหตุผล จึงทำให้เกิดความตึงเครียดในภูมิภาคนี้
  ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ของจีน เพิ่งไปเยือนยุโรป และประกาศอย่างเปิดเผยที่นั่นว่าจีนไม่รุกรานใคร แต่ "บางประเทศ"พยายามจะใส่ร้ายจีน และวาดภาพให้จีนเป็นปีศาจที่จะดูดเลือดโลกใบนี้ออกไป ซึ่งเป็นเรื่องตลกร้าย ไม่มีพื้นฐานแห่งความเป็นจริง แต่ประการใดเลย
  มะกัน ออกมาเตือน จีน อย่างนี้ มีความหมายไม่น้อย เพราะกลัวว่า ปูติน จะหันไปซบอกจีน เพื่อสร้างอำนาจต่อรองกับอเมริกา
  จีน ระมัดระวังตัวเรื่องไครเมียมาก เพราะไม่ต้องการให้ดินแดนส่วนใดของตน เช่น ซินเจียงทางตะวันตก หรือ ทิเบต ประกาศแยกตัวเองออกไปเหมือนไครเมีย ขณะเดียวกันก็ไม่ถึงกับออกมาต่อต้านรัสเซีย เพราะต้องการจะสร้างอำนาจต่อรองกับวอชิงตันเหมือนกัน
  ศึก 3 เส้าครั้งนี้ น่าตื่นตาตื่นใจ...ยิ่งนัก
  Tags : ศึก 3 เส้า • สหรัฐอเมริกา • จีน • รัสเซีย