ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ขอบคุณครับ

 

เชื่อคัวเลข เนื้อหา ตามรายงานข่าวทีเดียวมะได้ ต้องรู้ตามสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นรอบด้าน

 

ขอบคุณคับ

 

---

 

 

(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 32.74/76 แนวโน้มอ่อนค่าต่อ รอผลประชุม BOJ-ECB

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 21 มกราคม 2558 11:16:03 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.74/76 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อยจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.71/72 บาท/ดอลลาร์

วันนี้คาดว่าเงินบาทจะยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ เนื่องจากนักลงทุนยังรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) ในวันนี้ และการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ในวันพฤหัสนี้ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติมหรือไม่

 

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.70-32.80 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.7233 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(20 ม.ค.) อยู่ที่ 2.05748% และ THAI BAHT FIX 6M(20 ม.ค.) อยู่ที่ 1.93916%

 

*ปัจจัยสำคัญ

 

- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 118.40 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 118.40 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1560 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1560 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.7100 บาท/ดอลลาร์

- "ครม.-คสช." เกาะติดเศรษฐกิจ ประเมินทิศทางดีขึ้น แต่ห่วงบาทแข็ง-ทุนไหลเข้า กระทบส่งออก ด้าน "มีชัย" ชี้นโยบายรัฐยังไม่เอื้อเกษตรกร-คนมีรายได้น้อย นายกฯลั่นพร้อมใช้อำนาจทุกอย่างที่มีช่วยเหลือเกษตรกรยกระดับรายได้ ขณะไอเอ็มเอฟหั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลก เตือนรับภาวะผันผวนในตลาดเงิน

- หอการค้าไทยเตรียมหารือแบงก์ชาติ หามาตรการดูแลค่าเงินบาท ป้องกันความผันผวน เหตุกระทบทั้งภาคส่งออก การกู้เงิน และการออกพันธบัตร พร้อมแนะรัฐเร่งเจรจาเอฟทีเอไทย-อียูให้เร็ว เพื่อแก้ปัญหาถูกตัดจีเอสพี

- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และกรรมการ คสช.แนะรัฐบาลรับมือสัญญาณบาทแข็ง-เงินทุนไหลเข้า กระทบส่งออก พร้อมจับตาการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหากรายได้ไม่ลดลงแสดงว่ากำลังซื้อของประชาชนยังอยู่ในระดับปกติ แนะเร่งเครื่องช่วยกลุ่มเกษตรกรเร็วขึ้น

- ผู้จัดการตลาดยอมรับ พบหุ้นซื้อขายผิดปกติตั้งแต่ช่วงสิ้นปี 2557 ถึงปัจจุบันแม้จะมีการประกาศมาตรการคุมหุ้นร้อนแล้ว เตรียมส่งข้อมูลให้ก.ล.ต.ดำเนินการขณะที่หุ้นอสังหาเล็กที่ปรับตัวขึ้นร้อนแรงเพราะมีปัจจัยเฉพาะตัว ด้านนายกสมาคมบจ.เอ็มเอไอเตือนให้ระมัดระวังการลงทุนหุ้นบริษัทที่มีพีอี/เรโชสูงเกินไป

- ธปท.ดันแผนบาเซิล3สร้างธนาคารพาณิชย์แข็งแกร่งขึ้น ตั้งเป้าเงินกองทุนรวมขยับเป็น 11% จากปัจจุบัน 8.5% ในปี 62 เล็งนำหลักเกณฑ์ LCR ที่เพิ่มการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องรองรับเงินไหลออกยามวิกฤต ทยอยเพิ่มเป็น 60% ในเดือน ม.ค. 59 และขยับขึ้นปีละ 10% จนครบ 100% ในเดือน ม.ค. 63 เตรียมตั้งบริษัทกลางขนเงินสดในปีนี้หรือปีหน้า

- พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการจัดตั้งนาโนไฟแนนซ์ (สินเชื่อรายย่อยภายใต้การกำกับ) โดยจะปล่อยกู้ให้รายย่อยในวงเงินไม่เกินรายละ 1 แสนบาท อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 36% ต่อปี หรือไม่เกิน 3% ต่อเดือน

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบยูโรและเยนเมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีแนวโน้มมากขึ้นที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่คาดกันว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางยุโรป เตรียมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นในการประชุมในสัปดาห์นี้

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้น 100 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,960 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,295.41 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 10.83 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจอาจทำให้ความต้องการพลังงานลดน้อยลงด้วย โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 2.3 ดอลลาร์ หรือ 4.7% ปิดที่ 46.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 85 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 47.99 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ธนาคารกลางเยอรมัน (บุนเดสแบงก์) แถลงว่า ธนาคารกลางจะประมูลพันธบัตรอายุ 5 ปี วงเงิน 5 พันล้านยูโร (5.79 พันล้านดอลลาร์) ในวันนี้ โดยมีอัตราผลตอบแทนหน้าตั๋ว 0% ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การออกพันธบัตรของประเทศ

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

สรุปภาวะตลาด Futures By GT Wealth Management 21 ม.ค. 58 (ภาคบ่าย)

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 21 มกราคม 2558 17:19:47 น.

กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--GT Wealth Management

 

ดัชนี SET50 ปิดบวก 0.08 จุด ปิดที่ระดับ 1,019.07 จุด ดัชนีมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบโดยนักลงทุนยังคงรอดูการประชุม ECB ในวันพรุ่งนี้ซึ่งคาดกันว่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่ราคาทองคำมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความคาดหวังดังกล่าว รวมถึงความผันผวนในตลาดการเงินเป็นปัจจัยหนุนสินทรัพย์ปลอดภัย

 

ภาวะการซื้อขายระหว่างวัน คุณวราวุธ เบญจาพุทธารักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ความผันผวนของตลาดการเงินรวมถึงความคาดหวังในการประชุม ECB เป็นปัจจัยหนุนสำคัญต่อราคาทองคำแต่ค่าเงินบาทที่แข็งค่าจะกดดันราคาทองคำในประเทศ ส่วนดัชนี SET50 ยังเป็นแนวโน้ม Sideway

 

ว่างงานอังกฤษลดลงต่อเนื่องแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี ขณะรายได้ขยายตัว

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 21 มกราคม 2558 17:24:10 น.

สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า จำนวนผู้ไม่มีงานทำลดลง 58,000 คน สู่ระดับ 1.91 ล้านคนในช่วงสามเดือนจนถึงเดือนพ.ย. ซึ่งนับเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่าหกปี ส่งผลให้อัตราว่างงานปรับตัวลงมาอยู่ที่ 5.8% จาก 6% ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่าหกปีเช่นกันที่อัตราว่างงานต่ำกว่าระดับ 6%

 

 

สำหรับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในเดือนธ.ค.ลดลง 29,700 คน มาอยู่ที่ 867,000 คน ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 26

ขณะที่การขยายตัวของค่าจ้างยังคงอยู่เหนืออัตราเงินเฟ้อ โดยในช่วงเดือนก.ย.-พ.ย. รายได้เฉลี่ยไม่รวมโบนัส เพิ่มขึ้น 1.8% จากปีก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวเร็วที่สุดในรอบกว่าสองปี และหากรวมโบนัส รายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.7% โดยนับเป็นเดือนที่สองติดต่อกันแล้วที่รายได้เฉลี่ย ทั้งที่รวมโบนัสและไม่รวมโบนัส ขยายตัวสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษ ซึ่งวัดจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อยู่ที่ระดับ 1% ในเดือนพ.ย. ก่อนที่จะร่วงลงแตะ 0.5% ในเดือนธ.ค. เนื่องจากราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

ชาร์ปลดการผลิตจอแอลซีดีสำหรับสมาร์ทโฟน หลังยอดขายย่ำแย่

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 21 มกราคม 2558 17:08:00 น.

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า บริษัทชาร์ป คอร์ป ได้ลดการผลิตจอแอลซีดีสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตลง ท่ามกลางยอดขายที่ย่ำแย่ เนื่องจากบริษัทสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับบริษัทผู้ผลิตจากจีน

ทั้งนี้ ชาร์ป ซึ่งกำลังประสบกับปัญหา ได้ลดการผลิตหน้าจอ Igzo ที่โรงงานในเมืองคาเมยามาะ ลงราว 20% ตั้งแต่ครึ่งหลังของปีที่แล้ว โรงงานดังกล่าวตั้งอยู่ในจังหวัดมิเอะ ทางภาคกลางของญี่ปุ่น

 

 

ก่อนหน้านี้ ชาร์ปได้ผลิตหน้าจอ Igzo ที่โรงงานดังกล่าวจำนวน 1,200 จอต่อวัน แต่ในปัจจุบัน บริษัทได้จำกัดการผลิตไว้ไม่ถึง 1,000 จอต่อวัน แหล่งข่าวระบุว่า การปรับลดการผลิตดังกล่าวจะยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องในขณะนี้

ขณะเดียวกัน อัตราการดำเนินงานของโรงงานดังกล่าวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากชาร์ปได้หันไปเพิ่มการผลิตหน้าจอขนาดใหญ่สำหรับโทรทัศน์แทน ซึ่งคาดว่าการส่งออกจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ

เมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของชาร์ปรายหนึ่งกล่าวว่า ชาร์ปมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตหน้าจอ Igzo ที่โรงงานดังกล่าว

แต่สงครามราคาจอแอลซีดีที่ทวีความรุนแรงขึ้นกับคู่แข่งในญี่ปุ่นและบริษัทผู้ผลิตรายอื่นๆในเอเชีย ส่งผลให้ชาร์ปมีกำไรลดลง ซึ่งทำให้บริษัทต้องปรับปริมาณสินค้าคงคลัง

เมื่อพิจารณาจากผลประกอบการที่ซบเซาของธุรกิจหลักๆแล้ว คาดว่าชาร์ปจะมีผลประกอบการต่ำกว่าเป้าหมายในปีงบการเงินปัจจุบัน แหล่งข่าวบางรายระบุว่า กลุ่มบริษัทชาร์ปอาจจะมีกำไรจากการดำเนินงานลดลงถึงครึ่งหนึ่งในปีงบการเงินนี้ ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักเศรษฐศาสตร์สแตนชาร์ต มอง GDP ไทยปี 58 มีลุ้นโตได้ 6%รับผลดีราคาน้ำมันลง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 21 มกราคม 2558 17:03:20 น.

นางสาวอุสรา วิไลพิชญ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ ไทย มองว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย(GDP)ในปี 58 มีโอกาสจะเติบโตได้สูงถึง 6% เนื่องจากเป็นการเติบโตจากฐานต่ำในปี 57 ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองส่งผลทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวและโครงการภาครัฐหยุดชะงัก

อย่างไรก็ตาม การที่ GDP จะเติบโตไปได้ถึง 6% ต้องมีปัจจัยบวกที่ส่งผลให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้ดี อย่างเช่น ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ซึ่งส่งผลดีต่อต้นทุนในการผลิต และภาคเอกชนมีการลงทุนขยายการผลิตเพิ่มมากขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) นอกจากนี้ หากรัฐบาลมีการดำเนินโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานได้ตามแผนงาน ก็จะเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เศรษฐกิจเติบโตได้มากขึ้น

 

 

อีกทั้ง ปัจจุบันนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นและจีนได้เข้ามาตั้งโรงงานในประเทศไทยเพื่อใช้เป็นฐานการผลิต และเป็นศูนย์กลางเพื่อการส่งออกสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ และเวียดนาม (CLMV) ส่งผลทำให้ประเทศไทยได้รับผลบวกจากปัจจัยนี้ด้วย

"ทางแสตนดาร์ดชาน์เตอร์ดก็มองว่าการเติบโตในปีนี้ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ลง ซึ่งราคาที่ลดลงทุกๆ 10% จะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจเติบโตเพิ่มขึ้น 0.2% อีกทั้งหากการลงทุนภาครัฐเกิดขึ้นจริงๆ ก็จะช่วยหนุนได้อีกมาก เราคาดว่าการลงทุนภาครัฐจะมีความชัดเจนในช่วงไตรมาส 2/58 และเรายังมีงบที่ค้างท่อจากปีที่แล้วอีกแสนล้านบาท ซึ่งเราคาดว่างบนี้น่าจะเห็นชัดๆ ในครึ่งปีหลัง เรามองว่าไตรมาส 1/58 เศรษฐกิจอาจจะโต 4% ไตรมาส 2/58 โต 5% และครึ่งปีหลังโตได้ 6%"นางอุสรา กล่าว

ขณะที่คาดว่าการส่งออกของไทยในปีนี้จะมีการขยายตัวได้ราว 4-5% เนื่องจากปีก่อนการส่งออกไม่ขยายตัว แต่ในปีนี้จะได้รับปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจสหรัฐที่ฟื้นตัวขึ้น น่าจะทำให้การส่งออกของไทยเติบโตได้ดีไปด้วย อีกทั้งหากเศรษฐกิจยุโรปมีการฟื้นตัวขึ้นก็จจะช่วยการส่งออกไทยเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนี้ การส่งออกในกลุ่มประเทศ CLMV ก็ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

นางสาวอุสรา กล่าวว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในปีนี้คาดว่าทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2% ต่อไป เนื่องจากเริ่มเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยบ้างแล้ว ทำให้ ธปท. ยังไม่มีครามจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก อย่างไรก็ตาม มองว่า ธปท.อาจจะมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลังหรือก่อนปลายปี 58 มาอยู่ที่ 2.5% เพื่อสร้างความสมดุลให้กับเศรษฐกิจไทย

ด้านมุมมองต่อค่าเงินบาทในสิ้นปี 58 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ และมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในช่วงปลายปี หากราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 เหรียญ/บาร์เรลอย่างต่อเนื่อง และภาครัฐเดินหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทในปัจจุบันถือว่าแข็งค่าและมีเสถียรภาพมากกว่าเมื่อเทียบกับสกุลอื่นๆในภูมิภาค

สำหรับการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพรุ่งนี้ (22 ม.ค.58)คาดว่าผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีการใช้มาตราการผ่อนคลายทางการเงิน (QE) โดยการอัดฉีดเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องเข้าสูระบบด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป(EU) คาดว่าปริมาณเงินที่จะเข้ามาในระบบราว 5 แสนล้านยูโร อย่างไรก็ตาม ปริมาณเงินที่ ECB อัดฉีดมานั้นจะมีแนวโน้มของการกระตุ้นการบริโภคในยูโรโซน คาดว่าตลาดทุนในภูมิภาคเอเชียจะได้รับปัจจัยบวกจากการใช้มาตราการ QE จากทาง ECB น้อยมาก เนื่องจากเม็ดเงินต่างชาติที่ไหลเข้ามาในตลาดทุนเอเชีย รวมไปถึงไทยมีแนวโน้มลดลงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

อินโฟเควสท์ โดย จีรายุทธ จันทรงสกุล/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

พล.อ.ประวิตรหารือ 5 รง.ใหญ่ตกลงรับซื้อยางจากเกษตรกรผลักดันราคา 80 บ./กก.

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 21 มกราคม 2558 16:25:11 น.

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ณ บ้านเกษะโกมลว่า ได้หารือร่วมกับโรงงานแปรรูปยางขนาดใหญ่ 5 แห่ง ซึ่งมีข้อตกลงที่จะรับซื้อยางพาราจากเกษตรกร เพื่อผลักดันราคาให้สูงขึ้นเป็น 80 บาท/กิโลกรัม ให้เร็วที่สุด

 

 

อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

ญี่ปุ่นยืนยันไม่สนับสนุนตะวันออกกลางด้านการทหารเพื่อรับมือกลุ่ม IS

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 21 มกราคม 2558 17:30:00 น.

ญี่ปุ่นเน้นย้ำว่า รัฐบาลได้ให้คำมั่นในการสนับสนุนกลุ่มประเทศตะวันออกกลางยกเว้นด้านการทหารเพื่อต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) หลังจากกลุ่ม IS ได้ออกมาขู่ฆ่าตัวประกันชาวญี่ปุ่น 2 ราย พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นบริจาคเงินสนับสนุนการสังหารชาวมุสลิม

ชายคนหนึ่งซึ่งอ้างตัวว่าเป็นสมาชิกกลุ่ม IS ในคลิปวิดีโอออนไลน์ได้ขู่สังหารตัวประกันชาวญี่ปุ่น 2 ราย ถ้าหากญี่ปุ่นไม่ยอมจ่ายค่าไถ่ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายใน 72 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเงินจำนวนเท่ากับที่นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ จะบริจาคเพื่อรับมือกับกลุ่ม IS ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงไคโรเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

 

"สิ่งที่ญี่ปุ่นสนับสนุนคือ ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับผู้ลี้ภัย" โยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าว "เราจะเดินหน้าทุกอย่างเพื่อให้ตัวประกันทั้งสองได้รับอิสรภาพโดยเร็วที่สุดด้วยการดำเนินงานกับประชาคมโลกอย่างใกล้ชิด"

โฆษกรัฐบาลยังกล่าวต่อว่า "จากการพูดคุยกับครอบครัวของตัวประกัน และการวิเคราะห์สถานการณ์แวดล้อม เราเชื่อว่า ตัวประกันคือนายฮารูนะ ยูกาวะ และนายเคนจิ โกโตะ"

ด้านนายฟูมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นซึ่งขณะนี้อยู่ในลอนดอนก็ได้โทรศัพท์หารัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และฝรั่งเศสเพื่อหารือเกี่ยวกับการช่วยเหลือตัวประกัน

ทั้งนี้ นายจอห์น เคอร์รี่ และนายโลรองต์ ฟาเบียส ต่างให้คำมั่นว่าจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยคลี่คลายสถานการณ์ให้เร็วที่สุด สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

'บิ๊กตู่'ชี้แยกให้ออก'ปรองดอง'คืออะไร ย้ำต้องเชื่อมั่นในระบบ

ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พุธที่ 21 มกราคม 2558 14:37:00 น.

21 ม.ค.58 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงเรื่องของความมั่นคงทางด้านการเมือง ว่า ต้องแยกให้ออกว่าปรองดองคืออะไร ปรองดองคือทุกคนอยากจะคุยกัน ไปมาหาสู่กัน ดูแลกัน ไม่มีศัตรู ไม่ได้โกรธเคืองกัน นี่คือปรองดอง อะไรคือกฎหมายก็ไปเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม วันนี้รัฐบาลมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็ให้เกียรติเขา คนมันบังคับกันไม่ได้ เขาไปทำหน้าที่แทน เราก็ต้องเชื่อมั่นในระบบ ถ้าไม่เชื่อเขา วันหลังก็ไม่ต้องเชื่อสภา ซึ่งกระบวนการยุติธรรมเขาจะบอกเองถูกหรือผิด ฟ้องก็ไปฟ้อง มีกลไกอยู่แล้ว ต่อสู้คดีได้ก็สู้ไป ถ้าติดคุกแล้วก็ไปขอพระราชทานอภัยโทษ ส่วนเรื่องนิรโทษกรรมก็ไปหาข้อมูลมา ตนไม่รู้เรื่องกฎหมาย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

 

 

Thanong Fanclub

44 mins · Edited ·

·

 

 

เฉลยQUIZ

จีนสามารถถล่มตลาดทองคำได้ ด้วยวิธีการใด?

คำตอบ: อดีตประธานเฟดนายAlan Greenspanระหว่างปี1987-2006 เขียนบทความชื่อว่า Golden Rule: Why Beijing is Buying ลงในวารสารForeign Affairs (September 29, 2014) ว่าถ้าจีนเอาเงินทุนสำรองระหว่างประเทศส่วนหนึ่งจากทั้งหมด$4ล้านล้านไปลงทุนในทอง ค่าเงินหยวนจะกลายเป็นเงินสกุลที่แข็งแกร่งในระบบการเงินโลก และถ้าหากจีนตะลุยซื้อทองจนแซงหน้าสหรัฐฯจีนจะกลายเป็นประเทศที่มีทองมากที่สุดในทุนสำรองฯ ในปี 2014 สำรองทองคำของสหรัฐฯประมาณ8,133ตันมีมูลค่า $328,000ล้าน

 

วิธีการถล่มตลาดทองของจีนคือ

1. ประกาศไล่ซื้อทองทุกราคาที่COMEXที่สหรัฐฯ London Gold Buillion Associationที่อังกฤษ พวกนี้มีทองคำแท่งเท่าใด จีนขอกวาดเรียบ ทองที่จีนมีอยู่แล้ว10,000ตันจะเพิ่มมูลค่าทันที

2. จีนมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ$4.5ล้านล้าน ถ้าจีนใช้เงิน$1ล้านล้าน หรือ1ใน 4ของความร่ำรวยซื้อทองจะได้ทองประมาณคร่าวๆ25,000ตัน จะสามารถยึดระบบการเงินโลกและทำลายระบบการเงินโลกไปในตัว

3. พวกที่ชอร์ททองจะเจ๊ง เพราะว่าเวลาจีนซื้อทอง ราคาจะสูงขึ้น พวกที่ชอ์ทจะเจอราคาทองที่แพงขึ้นเวลาส่งมอบ มาร์จิ้นจะโดนเรียก เผลอๆแบงค์เจ๊งไปด้วย จากกราฟแสดงให้เห็นว่ามีการทุบราคาทองโดยใช้ผ่านตลาดทองคำกระดาษเริ่มตั้งแต่ปี2013อย่างจริงๆจังๆ โดยที่มีคอนแทรกขายทองเพิ่มถุง50,000สัญญาเป็นครั้งแรก เดือนมิถุนายน คอนแทรกชอร์ททองสูงถึง75,000สัญญา ส่วนมากจะทุบทองตอนตลาดจะปิด หรือเวลาเทรดเดอร์คนอื่นเผลอ คนไทยที่ลงทุนทองติดดอยเพราะว่าพวกกองทุนฝรั่ง จับมือกับแบงค์ เฟดและกระทรวงการคลังสหรัฐฯร่วมมือกันทถบทองเพื่อปกป้องดอลล่าร์

4. อย่างที่บอก จีนมีหน้าตัก$4ล้านล้าน สามารถไล่ซื้อทองได้ไม่อั้นอยู่แล้ว ใช้แค่$1 ล้านล้าน แทบจะกวาดทองเกลี้ยงตู้เชฟของโลกตะวันตกแล้ว เกมโอเวอร์

5. พอกว้านทองมาได้หมดแล้ว จีนลอยค่าหยวนที่ผูกกับดอลล่าร์ โดยเอาหยวนมาผูกกับทองแทน วิธีการนี้จะทำให้ตลาดการเงินโลกป่วนหนักกว่าที่สวิสลอยค่าเงินฟรังค์อีกไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยเท่า

เรียกว่างานนี้ถล่มเละเทะตุ๊มเป๊ะ

thanong

21/1/2015

http://www.financeandeconomics.org/tag/comex/

 

 

 

 

10888468_313666385496409_5207211520327315706_n.png?oh=b3c1d2fa516bf9f6d91e32840241c3a6&oe=552A80E6

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

http://www.naewna.com/business/140731

กสทช.สั่งซิมเติมเงินลงทะเบียน ให้เวลา90ล้านเลขแค่สิ้นก.ค.58

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 21 มกราคม 2558 โดย YLG

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 21 มกราคม 2558 17:41:49 น.

กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--พีอาร์ดีดี

 

สภาวะตลาดวันที่ 21 มกราคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,290.80-1,303.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,100 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท ก่อนหน้าที่ระดับ 20,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG15 อยู่ที่ 20,210 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 30 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,180 บาท

 

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.51 น.ของวันที่ 21/01/15)

 

แนวโน้มวันที่ 22 มกราคม 2558

การประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันพฤหัสบดีนี้ นักลงทุนมุ่งความสนใจไปยังการเปิดเผยมาตรการเข้าซื้อตราสารหนี้ เพื่อสกัดกั้นภาวะเงินฝืดและกระตุ้นเศรษฐกิจในยูโรโซน ซึ่งนักลงทุนมองว่า มีความเป็นไปได้สูงที่อีซีบีจะประกาศแผนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ระดับ 5 - 5.50 แสนล้านยูโร เพื่อจุดประสงค์มุ่งเน้นในการซื้อพันธบัตรรัฐบาลและสินทรัพย์อื่นๆ ทั้งนี้ปัจจัยดังกล่าวส่งผลลบต่อสกุลเงินยูโรและราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา โดยสกุลเงินยูโรต่อดอลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ใกล้จุดต่ำสุดในรอบ 11 ปีที่ 1.14595 ดอลลาร์ที่ทำไว้ในวันที่ 16 มกราคม 2015 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามวงเงินที่สูงเป็นประวัติการณ์เพื่อผลักดันให้ยูโรโซนหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดนั้นอาจมีเม็ดเงินบ้างส่วนที่ไหลเข้ามาสู่ตลาดทองคำก็จะกลับมาเป็นปัจจัยบวกต่อแนวโน้มราคาทองคำได้ ซึ่งต้องตามดูว่านายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมผ่านนโยบายผ่อนคลายทางการเงินในรูปแบบ QE จริงหรือไม่ โดยมีวงเงินเท่าใด ขณะที่มุมเชิงบวกต่อราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้นเมื่อ กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ของโลก เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านได้ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 23.07 ตัน และเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 11.35 ตัน โดยหากนับตั้งแต่ต้นกองทุน SPDR Gold Trust ถือครองทองคำเพิ่มขึ้นถึง 33.22 ตัน เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่า หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะเกิดแรงซื้อดันราคาขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,309-1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,287 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากไม่สามารถยืนราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะไหลลงสู่ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้เก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากการเคลื่อนไหวของราคาแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้น ซึ่งหากราคาทองคำลงมาทดสอบบริเวณแนวรับ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง และยังยืนเหนือได้จะ ดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน โดยประเมินแนวต้านไว้ที่ 1,309 หรือ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากขึ้นไปทดสอบแนวต้านแล้วไม่สามารถผ่านไปได้ก็จะเห็นการย่อตัวของราคาลง โดยประเมินแนวรับที่ 1,287 แต่หากยืนไม่ได้จะมีแนวรับถัดไปที่ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การตั้งจุดตัดขาดทุนหรือจุดทำกำไรต้องชัดเจน หากราคาหลุดแนวรับนักลงทุนที่ไม่อยากรับความเสี่ยงมากนักให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูการตั้งฐานก่อนเข้าลงทุนอีกครั้ง

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,287 (19,840บาท) 1,280 (19,730บาท) 1,262 (19,450บาท)

แนวต้าน 1,309 (20,180บาท) 1,320 (20,350บาท) 1,338 (20,630บาท)

 

GOLD FUTURES (GFG15)

แนวรับ 1,287 (19,910บาท) 1,280 (19,800บาท) 1,262 (19,520บาท)

แนวต้าน 1,309 (20,250บาท) 1,320 (20,420บาท) 1,338 (20,700บาท)

 

ภาวะตลาดอนุพันธ์: ผันผวนจับตาผลประชุมอีซีบี ต่างชาติซื้อฟิวเจอร์ส3วันติด หนุนเงินไหลกลับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: แรงขายทำกำไร ฉุดทองปิดลบ 50 เซนต์

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 22 มกราคม 2558 07:39:01 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาทองคำปิดบวกติดต่อกัน 7 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 50 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 1,293.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 23.7 เซนต์ ปิดที่ 18.193 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 10.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,276.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำปรับฐานลงเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วงก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ครั้งใหญ่ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังทำให้นักลงทุนลดความต้องการถือทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 4.4% สู่ระดับ 1.09 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค. ขณะที่ตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างบ้านปรับตัวขึ้น 4.5% สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2551

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2558 สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นราว 9.2% เนื่องจากนักลงทุนมองว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองทั่วโลก รวมถึงเหตุการณ์รุนแรงในยูเครน ความไม่แน่นอนทางการเมืองในกรีซ และความผันผวนในตลาดการเงินที่เกิดขึ้นหลังจากธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ตัดสินใจยุติมาตรการควบคุมสกุลเงินฟรังก์ ด้วยการประกาศยกเลิกเพดานการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนฟรังก์สวิสเมื่อเทียบกับยูโร

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 22 มกราคม 2558 07:40:45 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ม.ค.2558

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ครั้งใหญ่ ในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,554.28 จุด เพิ่มขึ้น 39.05 จุด หรือ +0.22% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,667.42 จุด เพิ่มขึ้น 12.57 จุด หรือ +0.27% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,032.12 จุด เพิ่มขึ้น 9.57 จุด หรือ +0.47%

 

 

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ครั้งใหญ่ ในการประชุมวันนี้ เพื่อหนุนเศรษฐกิจและรับมือกับภาวะเงินฝืดในยูโรโซน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.61% ปิดที่ 358.12 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,484.82 จุด เพิ่มขึ้น 38.80 จุด หรือ +0.87% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,299.23 จุด เพิ่มขึ้น 42.10 จุด หรือ +0.41% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,728.04 จุด เพิ่มขึ้น 107.94 จุด หรือ +1.63%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) ขานรับคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE เพิ่มเติมในการประชุมกำหนดนโยบายในวันนี้

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 107.94 จุด หรือ 1.63% ปิดที่ 6,728.04 จุด

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนได้เข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันร่วงลงเมื่อวานนี้ อันเนื่องมาจากข่าวกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.03 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาทองคำปิดบวกติดต่อกัน 7 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 50 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 1,293.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 23.7 เซนต์ ปิดที่ 18.193 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 10.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,276.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบยูโรเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) ก่อนที่จะลดช่วงติดลบลง ขณะที่นักลงทุนรอดูการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันนี้

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1591 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1549 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5124 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5158 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 117.94 เยน เทียบกับระดับ 118.81 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.8605 ฟรังก์ จาก 0.8790 ฟรังก์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8089 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8176 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,554.28 จุด เพิ่มขึ้น 39.05 จุด +0.22%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,667.42 จุด เพิ่มขึ้น 12.57 จุด +0.27%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,032.12 จุด เพิ่มขึ้น 9.57 จุด +0.47%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,728.04 จุด เพิ่มขึ้น 107.94 จุด +1.63%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,299.23 จุด เพิ่มขึ้น 42.10 จุด +0.41%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,484.82 จุด เพิ่มขึ้น 38.80 จุด +0.87%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,367.40 จุด เพิ่มขึ้น 80.60 จุด +1.52%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,393.40 จุด เพิ่มขึ้น 85.70 จุด +1.61%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,319.71 จุด เพิ่มขึ้น 68.02 จุด +0.74%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,280.48 จุด ลดลง 85.82 จุด -0.49%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,921.23 จุด เพิ่มขึ้น 2.92 จุด +0.15%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,323.61 จุด เพิ่มขึ้น 150.56 จุด +4.74%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,474.10 จุด เพิ่มขึ้น 21.29 จุด +0.29%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,352.58 จุด เพิ่มขึ้น 401.42 จุด +1.68%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,215.27 จุด เพิ่มขึ้น 49.18 จุด +0.95%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,770.09 จุด เพิ่มขึ้น 19.98 จุด +1.14%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,354.46 จุด เพิ่มขึ้น 20.44 จุด +0.61%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,888.86 จุด เพิ่มขึ้น 104.19 จุด +0.36%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คอลัมน์: ท่านขุนน้อย: ไปดูแขกเล่นโป๊กเกอร์

ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- พฤหัสบดีที่ 22 มกราคม 2558 00:00:01 น.

ณ ลีลาแห่งบุปผากระบี่

ทำท่าว่าจะเงยหัวขึ้นมาบ้างนิดๆ...แต่แล้วราคาน้ำมันดิบงวดส่งมอบเดือนกุมภา. ก็ร่วงลงไปอีก 2.30 ดอลลาร์ อยู่ที่ 46.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ท่าทางว่าปีนี้ทั้งปีคงไม่ต้องหวนกลับไปซื้อน้ำมันแพงๆ ระดับราคาที่เคยขึ้นไปถึง 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกต่อไปแล้ว แต่ไม่ว่าจะแพง ไม่แพง แค่ราคามันสวิงไป สวิงมา ย่อมทำให้โลกทั้งโลกปั่นป่วนตามไปด้วยอย่างมิอาจปฏิเสธได้...

 

 

ดูจากท่าทีของ แขก ต่อ แขก ที่ถือเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ด้วยกันทั้งคู่ คือระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่าน หลังๆ มานี้...ต่างฝ่ายต่างพยายามอวดโชว์ศักยภาพแห่งการยืนหยัดอยู่กับน้ำมันราคาถูก อย่างชนิดแทบไม่คิดจะหวนกลับไปหาราคาน้ำมันแพงๆ ต่อไปอีกเลย ก่อนหน้านั้นรัฐมนตรีน้ำมันของซาอุฯ นาย อาลี อัล-นายมี เคยออกมาเกทับบลัฟแหลกเอาไว้ว่า ต่อให้ราคาน้ำมันร่วงลงไปถึงระดับ 20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซาอุดีอาระเบียก็ยังคงเฉยๆ ยังพร้อมที่จะยืนหยัดผลิตน้ำมันป้อนตลาดในอัตราเช่นเดิม โดยไม่ต้องสนใจดีมง ดีมานด์ อะไรให้ต้องปวดเศียรเวียนเกล้าเอาเลยแม้แต่น้อย คือออกไปทาง One flew over the cuckoo's nest หรือ บ้าก็บ้าวะ อะไรประมาณนั้น...

ส่วนอิหร่านนั้น...หลังจากความพยายามขอร้อง วิงวอน ให้ซาอุดีอาระเบียหันมาช่วยพยุงราคาน้ำมันเอาไว้มั่ง ดูท่าว่าจะไม่เกิดผลใดๆ อีกต่อไปแล้ว ทั้งประธานาธิบดีอิหร่าน และล่าสุดรัฐมนตรีการเงินและเศรษฐกิจ นาย Ali Tayyebnir ก็ออกมาประสานเสียง แสดงอาการสบายๆ คล้ายๆ ประเภทไม่เจ็บนอนไม่หลับ คือพร้อมที่จะยืนหยัดแบบปากกล้า ขาสั่น ต่อระดับราคาน้ำมันที่ไหลทะลุดทะลาดลงมาถึงกว่า 60 เปอร์เซ็นต์เข้าไปแล้ว ตัวของรัฐมนตรีการเงินและเศรษฐกิจถึงกับออกมาแจกแจงตัวเลขให้เห็นกันชัดๆ เอาเลยว่า ถึงราคาน้ำมันจะตกต่ำลงไปเหลือแค่ 25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อิหร่านก็ยังคงอยู่ได้แบบเบิร์ดๆ ทั้งนั้น ทั้งนี้ เพราะเม็ดเงินงบประมาณในแต่ละปีของอิหร่านนั้น พึ่งพารายได้จากน้ำมันเพียงแค่ 33 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น...

เมื่อเห็นอิหร่านออกมาเกทับบลัฟแหลกในแนวนี้...ประเทศที่ต้องพึ่งพารายได้จากน้ำมันถึง 85 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณประเทศ อย่างซาอุดีอาระเบีย ก็เลยออกมาเกกลับซะอีกรอบ โดยอดีตที่ปรึกษาด้านพลังงานของซาอุฯ นาย โมฮัมหมัด อัล ชับบาน ได้ออกมาป่าวประกาศเอาไว้ว่า แม้ว่าซาอุฯ จะต้องพึ่งพารายได้จากน้ำมันเกือบชนิดเต็มร้อยก็ตาม แต่ด้วยทุนสำรองของซาอุฯ ที่มีอยู่ประมาณ 799,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 26.6 ล้านล้านบาท ภายใต้ภาวะที่ราคาน้ำมันกำลังเอาหัวมุดชักโครกอยู่ในทุกวันนี้ ซาอุฯ สามารถอยู่ได้แบบเบิร์ดๆ ไปอีกไม่ต่ำกว่า 8 ปี เป็นอย่างน้อย...

นี่...แขกกับแขก ถ้าจับให้ไปนั่งเกกันในวงโป๊กเกอร์แล้ว รับ รองว่าระดับ มาเวอริก ยังน่าจะชิดซ้าย ตกคู ตกคลองเอาง่ายๆ ส่วนสุดท้าย...ใครจะอยู่ ใครจะไป ใครจะเหลือแต่กางเกงใน ใครจะวินเนอร์ เทก ออล อีกไม่นานคงได้รู้ แต่ถ้าหากไม่เอาแต่เฉพาะเรื่องเงิน เรื่องทอง มาเป็นตัววัดแต่เพียงเท่านั้น ลองเอาเรื่องชีวิต ร่างกาย หรือเรื่องของ สุขภาพ เข้ามาพิจารณาควบคู่ไปด้วย ดูเหมือนว่าฝ่ายแขกซาอุฯ จะเสียเปรียบอยู่บ้างเล็กน้อย เพราะกษัตริย์ อับดุลลาห์ ของซาอุฯ ทุกวันนี้ ยังคงต้องอาศัยเครื่องช่วยหายใจ ปะทะปะทังตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาลทหารของกรุงริยาด โอกาสจะมานั่งลุ้นหน้าไพ่แบบเต็มเม็ด เต็มหน่วย น่าจะลำบากเต็มที แถมบรรดาผู้นำของประเทศที่ยืนหยัดเคียงบ่า เคียงไหล่ กับซาอุฯ ในนโยบาย บ้าก็บ้าวะ ช่วงนี้ ก็ดูจะ เดี้ยง กันไปเป็นแถบๆ ชีก คาลิฟา แห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ หรือยูเออีนั้น เห็นว่าป่วยเป็นลมชัก ส่วนสุลต่าน คาบูส ของโอมาน ก็ดันสะเงาะสะแงะขณะเดินทางท่องเที่ยวอยู่แถวๆ เยอรมนีตั้งแต่ฤดูร้อนที่แล้ว...

แต่ยังไม่ทันที่แขกกับแขกจะเอาแพ้-เอาชนะกันให้ขาด ผู้ที่ตัดสินใจลุกจากวงโป๊กเกอร์ไปดื้อๆ กลับดูจะเป็นคุณพ่ออเมริ กา ผู้ผลิต Shale Oil หรือผลิตน้ำมันจากซากฟอสซิลในหิน ดินดาน ออกมาขายตัดราคาตลาดตั้งแต่แรกนั่นแหละ ด้วยต้น ทุนการผลิตซึ่งอยู่ที่ประมาณ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นอย่างน้อย เมื่อราคามันร่วงลงมาถึงระดับ 40 ดอลลาร์ หรืออาจไหลทะลุดทะลาดลงไปยิ่งกว่านั้น เห็นข่าวแวบๆ ว่าบริษัท Shale Oil หลายต่อหลายบริษัทในอเมริกา ถึงขั้นต้องลอยแพคนงาน ทำท่าว่าจะปิดกิจการลงไปซะดื้อๆ ต่างไปจากคู่กัดอย่างรัสเซีย ที่ถึงแม้ทุนหาย กำไรหด ราคารูเบิลร่วงลงไปกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังกำไพ่ คู่แปด เอาไว้แน่น หายใจฟืดๆ ฟาดๆ โดยมีเพื่อนฝูงชาวจีนคอยช่วยซับเหงื่ออยู่ข้างๆ อะไรประมาณนั้น...

ส่วนพี่ไทยของเรา หรือไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮานี่เอง...เรื่องของน้ำมันราคาถูก ราคาแพง ดูจะไม่ได้เป็นปัญหามาก มายซักเท่าไหร่ คือยังพร้อมที่จะแ-ก หรือพร้อมที่จะบริโภคน้ำมัน โดยไม่ต้องสนใจว่าจะแพง ไม่แพง แต่ขอให้แรงเข้าไว้ แต่ที่กลับเป็นปัญหาเอามากๆ ก็คือจะบริหารจัดการน้ำมันกันในแบบไหน อย่างไร พูดง่ายๆ ว่าถึงไม่ได้อยู่ในวงไพ่ ไม่ได้มีโอกาสเกทับบลัฟแหลกกับใครเค้าเลยแม้แต่น้อย แต่เพียงแค่การ เก็บค่าต๋ง เท่านั้น ก็เรียกว่า...แทบจะตีกันตายขึ้นมาซะแว้วว์ว์ว์ ด้วยเหตุนี้...คงต้องเอาเป็นว่า ไม่ว่าจะบริหารจัดการกันแบบไหน อย่างไร ก็แล้วแต่ ขอเพียงอย่าให้ต้องตีกันในแบบ...ตีงูให้กากิน-กากินแล้วบินหนีบาปได้แก่ผู้ตี-โทษทั้งนี้บ่เป็นคุณ ก็แล้วกัลล์ล์ล์...

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก C.S. Lewis... "What you see and hear depends a good deal on where you are standing; it also depends on what sort of people you are.- ท่านได้เห็นและได้ยินอะไร ขึ้นอยู่กับว่าท่านยืนอยู่ ณ จุดใดเป็นหลัก และขึ้นอยู่กับว่าท่านเป็นคนประเภทใด...".

 

เงินหยวนแข็งค่าแตะ 6.1247 หยวนต่อดอลลาร์เช้านี้

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 22 มกราคม 2558 08:42:14 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวขึ้น 0.21% แตะที่ 6.1247 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ปรับลงเทียบยูโร ก่อนการประชุมอีซีบีวันนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 22 มกราคม 2558 07:15:08 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบยูโรเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) ก่อนที่จะลดช่วงติดลบลง ขณะที่นักลงทุนรอดูการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันนี้

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1591 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1549 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5124 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5158 ดอลลาร์

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 117.94 เยน เทียบกับระดับ 118.81 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.8605 ฟรังก์ จาก 0.8790 ฟรังก์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8089 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8176 ดอลลาร์

ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าอีซีบีจะประกาศแผนการซื้อพันธบัตรในการประชุมวันนี้เพื่อรับมือกับภาวะเงินฝืดในยูโรโซนนั้น บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่าตลาดได้ซึมซับคาดการณ์เกี่ยวกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของอีซีบีไว้แล้ว โดยอัตรายูโร/ดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 สัปดาห์ที่ 1.1680 ดอลลาร์ ก่อนที่จะชะลอลงมาอยู่ที่ 1.1591 ดอลลาร์ในเวลาต่อมา

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า คณะกรรมการบริหารของอีซีบีจะเสนอให้ทำการซื้อพันธบัตรจำนวน 5 หมื่นล้านยูโร (5.8 หมื่นล้านดอลลาร์) ต่อเดือน เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวจะมีมูลค่าอย่างน้อย 6 แสนล้านยูโร ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าอีซีบีจะใช้วงเงินราว 5 แสนล้านยูโร หรือสูงกว่าในการซื้อพันธบัตร

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบเงินเยนเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน เนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่นไม่ได้ขยายมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในการประชุมนโยบายการเงินครั้งล่าสุดที่สิ้นสุดลงเมื่อวานนี้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นขึ้นตามตปท.ยังเก็ง ECB ออก QE-งบ บจ.,น้ำมันรีบาวด์

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 22 มกราคม 2558 09:22:10 น.

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่จะปรับตัวขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ยกเว้นตลาดญี่ปุ่นที่ติดลบเล็กน้อย ขณะที่ตลาดสหรัฐฯ รวมถึงตลาดในยุโรปต่างก็ปรับตัวขึ้น ภายหลังจากที่มีความคาดหวังว่าทางธนาคารกลางยุโรป(ECB)จะออกมาตรการ QE โดยอาจจะมีอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบประมาณ 5 หมื่นล้านยูโร/เดือน โดยทาง ECB จะมีการประชุมใน 22 ม.ค.

นอกจากนี้ อาจจะมีแรงซื้อเข้ามาจากความคาดหวังผลประกอบการในปี 57 ของบริษัทจดทะเบียน ดังนั้น ตลาดฯน่าจะปรับตัวขึ้นได้ด้วย 2 ปัจจัยดังกล่าว รวมทั้งเมื่อคืนที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบก็มีการรีบาวด์ขึ้นมาด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,540-1,550 จุด

 

 

อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เกิดสัญญาณการย่อตัวจากแนวโน้มระยะสั้นแต่ในภาพหลักยังไม่ส่งสัญญาณลบ ใดๆ แต่ด้วยการคาดการณ์ทางบวกเกี่ยวกับคิวอีแล้วอาจกดให้ทองลงจากเม็ดเงินที่ขายสินทรัพย์ปลอดภัยมาซี้อสินทรัพย์เสี่ยง

ในเบื้องต้นนั้นคาดว่าหุ้นจะขึ้นเป็นอย่างมากในวันนี้ ทำให้จึงขอมองว่าทองจะลง

เนื่องด้วยการปรับตัวขึ้นแบบ Super Bullish จะทำให้มีโอกาสสูงที่ขาบีตามทฤษฎีอีเลียตเวฟ จะเด้งตัวได้ดี ซึ่งนั้นคือการ Signal ให้ว่าจะขึ้นต่อหลังพักตัวจบ จุดพักตัวมองที่ระดับ 50 - 61.8 %ในกรอบใหญ่ หรือบริเวณ 1250 1270 ส่วนในกรณีที่พักตัวลึกเกิดคาดนั้นจะลงไปถึง 1200 1220 ภาพหลักว่ากันตามนี้

-----------------------------------------------------------------------------

ภาพย่อยวันนี้ ระยะสั้นจะดักเอส แต่กรอบระหว่างวันไม่กว้างนัก 1275 1282 1285 เป็นเป้า ในขณะที่ยังต้องลุ้นราคาปิดเพื่อดูว่าจะลงตั้งหลักถึง 1250 1270 หรือไม่

ทำให้วันนี้ปักหลักที่มองลง ลงน้อยๆ หรือลงมากๆ ในกรณีที่ปรับตัวขึ้นเกิน 1295 1300 จะถือว่ามองผิด ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์กัน

by Facebook.com/Wealtstation

22/1/58

 

10410735_826908677347609_3239782506430822606_n.png?oh=0d3041207fd8fe45a2c23209b044804d&oe=55686D64&__gda__=1432011790_ba6ce4cc8acb1931c98680b03f0a544d

 

10430494_826908680680942_9188940831038489991_n.png?oh=0a479349e5ae8612f3b4e3abd03c7ef1&oe=55606A88&__gda__=1432759600_745f4ab2cb516cc09074a96af359da84

 

 

 

 

10929896_826908690680941_4142206596203696406_n.png?oh=0ea92e998a6ab94766514b85e7b5dc40&oe=552E4698

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทเปิดตลาด 32.59/60 ทิศทางแข็งค่าตามภูมิภาค มองกรอบ 32.50-32.60

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 22 มกราคม 2558 09:26:43 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.59/60 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.60/61 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามค่าเงินในภูมิภาค ก่อนปรับตัวแข็งค่าไปทำโลว์ที่ระดับ 32.53 บาท/ดอลลาร์ และเมื่อเวลา 09.05 น.เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.57/58 บาท/ดอลลาร์

"เช้านี้เงินพยายามมายืนเหนือ 32.60(บาท/ดอลลาร์) แต่ไม่ผ่านกลับมาทำโลว์ที่ระดับ 32.53(บาท/ดอลลาร์) หลังจากนั้นมีรีบาวน์ไล่ซื้อเข้ามา ทำให้บาทอ่อนค่ามาอยู่ที่ 32.57/58(บาท/ดอลลาร์) นักบริหารเงิน กล่าว

 

 

นักบริหารเงิน ประเมินการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้จะอยู่ในกรอบ 32.50-32.60 บาท/ดอลลาร์

"มีแรงเทขายดอลลาร์ทำกำไรซึ่งส่งผลให้บาทยังมีทิศทางแข็งค่า" นักบริหารเงิน กล่าว

 

*ปัจจัยสำคัญ

 

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 118 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 117.75 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1600 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1570 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.6730 บาท/ดอลลาร์

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบยูโรเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) ก่อนที่จะลดช่วงติดลบลง ขณะที่นักลงทุนรอดูการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันนี้

- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ครั้งใหญ่ในการประชุมวันนี้ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,554.28 จุด เพิ่มขึ้น 39.05 จุด หรือ +0.22%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,667.42 จุด เพิ่มขึ้น 12.57 จุด หรือ +0.27% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,032.12 จุด เพิ่มขึ้น 9.57 จุด หรือ +0.47%

- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) เพื่อหนุนเศรษฐกิจและรับมือกับภาวะเงินฝืดในยูโรโซน โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.61% ปิดที่ 358.12 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,484.82 จุด เพิ่มขึ้น 38.80 จุด หรือ +0.87%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,299.23 จุด เพิ่มขึ้น 42.10 จุด หรือ +0.41% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,728.04 จุด เพิ่มขึ้น 107.94 จุด หรือ +1.63%

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้เนื่องจากนักลงทุนได้เข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันร่วงลงเมื่อวานนี้ อันเนื่องมาจากข่าวกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน มี.ค. ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.03 ดอลลาร์/บาร์เรล

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาทองคำปิดบวกติดต่อกัน 7 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ก.พ.ลดลง 50 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 1,293.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน มี.ค.เพิ่มขึ้น 23.7 เซนต์ ปิดที่ 18.193 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน เม.ย.ร่วงลง 10.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,276.40 ดอลลาร์/ออนซ์

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบยูโรเมื่อคืนนี้ก่อนที่จะลดช่วงติดลบลง ขณะที่นักลงทุนรอดูการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันนี้ โดยค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1591 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1549 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5124 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5158 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 117.94 เยน เทียบกับระดับ 118.81 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.8605 ฟรังก์ จาก 0.8790 ฟรังก์ ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8089 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8176 ดอลลาร์

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 70 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,950 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,294.33 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 7.58 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/นิศารัตน์ โทร.02-2535000 ต่อ 322 อีเมล์: nisarat@infoquest.co.th--

 

รมว.คลังสหรัฐมองมุมบวกประเด็นปฏิรูปภาษีธุรกิจ เชื่อภาคการเมืองเห็นพ้องกัน

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 22 มกราคม 2558 10:14:00 น.

นายแจ็ค ลิว รัฐมนตรีคลังสหรัฐ มีมุมมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับการปฏิรูปภาษีธุรกิจ โดยระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่จะพรรครีพับลิกัน ซึ่งครองเสียงข้างมากในรัฐสภา จะเห็นพ้องกันในประเด็นดังกล่าว

นายลิวระบุในการกล่าวสุนทรพจน์ที่สถาบันบรูคกิ้งส์วานนี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่ทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันจะมีความเห็นสอดคล้องกันเกี่ยวกับการปฏิรูปภาษีธุรกิจ แม้ว่าจะมีความเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

 

 

ในช่วงของการตอบข้อซักถามนั้น นายลิวได้กล่าวตอบคำถามเกี่ยวกับโอกาสที่การปฏิรูปภาษีธุรกิจจะมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย โดยเขาระบุว่า "ผมมีมุมมองที่เป็นบวก ผมคิดว่ามีโอกาสมากกว่า 50-50"

นายลิวกล่าวย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ปัญหาระบบภาษีของประเทศ ซึ่งรวมถึงการปิดช่องโหว่ที่ทำให้สามารถเลี่ยงภาษีนิติบุคคล

"ระบบภาษีในปัจจุบันทำให้เป็นเรื่องยากเกินไปสำหรับภาคธุรกิจในการที่จะเริ่มต้นกิจการ ขยายธุรกิจและลงทุนในสหรัฐ นอกจากนี้ ยังเป็นเรื่องยากเกินไปที่ภาคธุรกิจจะสร้างงานสำหรับชนชั้นกลางตามที่ประเทศของเราต้องการ และเป็นเรื่องยากสำหรับภาคธุรกิจสหรัฐในการที่จะแข่งขันกับบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ในต่างประเทศ"

ทั้งนี้ นายลิวไม่ได้ให้ความสำคัญกับผลกระทบจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลกที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยระบุว่า "ปัจจุบันเราอยู่ในสถานะที่แตกต่างไปจากในปี 2555" ซึ่งมีความวิตกกังวลอย่างกว้างขวางว่า การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจยุโรปและเอเชียจะฉุดรั้งสหรัฐกลับเข้าไปสู่ภาวะถดถอย "วันนี้ ไม่มีใครเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะเกิดขึ้น" เขากล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

จีนให้คำมั่นมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์เพื่อคลี่คลายวิกฤตยูเครน

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 22 มกราคม 2558 11:03:00 น.

นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนกล่าวต่อประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโกของยูเครนว่า จีนยังยึดจุดยืนในการยุติความขัดแย้งทางการเมืองที่เกี่ยวกับวิกฤตยูเครน และจะยังคงดำเนินบทบาทที่จริงจังและสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่องในความพยายามดังกล่าว

นายหลี่แสดงความเห็นดังกล่าวในการประชุมนอกรอบกับปธน.ยูเครน ระหว่างการประชุม World Economic Forum (WEF) ประจำปีที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า จีนยึดมั่นในวัตถุประสงค์และให้การสนับสนุนในประเด็นยูเครน

 

 

นายกฯจีนเสริมว่า ความปรารถนาร่วมกันของผู้คนทั่วโลกคือความต้องการสันติภาพและต่อต้านสงคราม ต้องการการพัฒนาขณะที่ต่อต้านความยากจน และต้องการความร่วมมือกันขณะที่เลี่ยงการเผชิญหน้า

นับตั้งแต่เริ่มความร่วมมือทางการทูต จีนและยูเครนต่างเคารพและปฏิบัติต่อกันอย่างเท่าเทียม และความร่วมมือนี้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง

จีนจะเคารพอำนาจอธิปไตย อิสรภาพและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน และสนับสนุนยูเครนในการเลือกใช้แนวทางการพัฒนาที่สอดคล้องกับภาวะภายในประเทศ

นอกจากนี้ นายหลี่กล่าวว่า จีนจะยังคงดำเนินความร่วมมือในเชิงปฏิบัติร่วมกับยูเครน บนพื้นฐานของการได้รับประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปภาวะ Gold Futures By GT Wealth Management 22 ม.ค. 58 (ภาคเช้า)

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 22 มกราคม 2558 10:07:05 น.

กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--GT Wealth Management

 

ราคาทองคำลดลง US$ 0.50ต่อออนซ์ ย่อตัวเล็กน้อยบริเวณUS$1,293.06 ต่อออนซ์ (GoldSpot)ราคาทองเคลื่อนไหวผ่านระดับUS$1,300 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค. ราคาทองถูกขายทำกำไรจากรายงาน กรรมการบริหารของอีซีบีเสนอที่จะซื้อพันธบัตรวงเงิน 5หมื่นล้านยูโร(5.8 หมื่นล้านดอลลาร์) ต่อเดือนตั้งแต่เดือนมี.ค. ขณะที่ยอดการเริ่มสร้างบ้านเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 4.4% สู่ระดับ 1.09 ล้านยูนิตจากระดับ 1.04 ล้านยูนิตในเดือนพฤศจิกายน ส่วนวันนี้นักลงทุนติดตามแถลงการประชุมECB ด้านค่าเงินบาทแข็งค่าอยู่ที่บริเวณ32.57 บาทต่อดอลลาร์ SPDR ถือครองทองคำที่ 740.45 ลดลง 1.79 ตัน

 

 

ราคาทองคำโลกเช้านี้ (Gold Spot) เคลื่อนไหวบริเวณ US$1,295 โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนกุมภาพันธ์ 2558 (GFG15)ราคาเปิดใกล้ระดับ 20,060 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 19,850 บาท ราคาเสนอขาย 19,950 บาท

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ราคาทองคำวันนี้อาจจะพักตัวลงเล็กน้อยหลังประชุม ECB ถ้ามาตรการไม่ได้เกินกว่าที่คาดหมายไว้ ซึ่งจะเป็นลักษณะ sell on fact แต่แนวโน้มยังเป็นเชิงบวกตามความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจ แนวรับ US$1,282 และ US$1,270 แนวต้านUS$1,300 และ US$1,320

 

10:44 BOI เผยนักธุรกิจเกาหลีใต้สนใจลงทุนด้านพลังงานทดแทนในไทย นางหิรัญญา สุจินัย รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) กล่าวในง…

10:40 (เพิ่มเติม)ANALYST PICKS: หุ้นเด่นจากนักวิเคราะห์ วันที่ 22 ม.ค. 2558 หุ้นเด่นจากนักวิเคราะห์ (ANALYST PICKS) รวบรวมจากบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร…

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...