ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 32.65/67 คาดแกว่งแคบตามภูมิภาค ตลาดยังรอปัจจัยใหม่

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 12:15:11 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.65/67 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.64/65 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค รอปัจจัยใหม่เข้ามา

 

"แกว่งตัวในกรอบแคบๆ ทิศทางอ่อนค่าแต่ช้ากว่าภูมิภาค" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้จะอยู่ระหว่าง 32.60-32.70 บาท/ดอลลาร์

 

 

 

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.6833 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(11 ก.พ.) อยู่ที่ 2.11616% และ THAI BAHT FIX 6M(11 ก.พ.) อยู่ที่ 2.01338%

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.00 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 119.80 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1315 ดอลลาร์/ยูโร ทรงตัวในระดับเดียวกันกับช่วงเย็นวานนี้

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.6380 บาท/ดอลลาร์

 

- นายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกมีแนวโน้มชะลอตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากภาคการส่งออกยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐยังล่าช้า จึงเป็นโจทย์ใหญ่ของรัฐบาลที่ต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและงบลงทุนในอีก 3 ไตรมาสที่เหลือ เพื่อให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 3.5% ตามที่หวัง และสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคเอกชนอีกทางหนึ่ง

 

- นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมบัญชีกลางได้จัดทำบัญชีแผ่นดินประจำปี 2557 แล้วเสร็จ โดยผลของบัญชีได้แสดงฐานะการคลังที่เข้มแข็ง กล่าวคือ รัฐบาลมีสินทรัพย์รวม 6.59 ล้านล้านบาท เป็นเงินคงคลัง 500,000 ล้านบาท ที่ราชพัสดุ 12.5 ล้านไร่ มูลค่า 3.92 ล้านล้านบาท คิดเป็น 60% ของสินทรัพย์รวม นอกจากนี้รัฐบาลลงทุนในรัฐวิสาหกิจ 62 แห่ง และกิจการอื่นๆอีก 55 แห่ง มูลค่าการลงทุนประมาณ 1.99 ล้านล้านบาท คิดเป็น 30% ของสินทรัพย์รวม

 

- นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ประเมินกรอบราคาทองคำปีนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในช่วง 1,100-1,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ โดยราคาทองยังมีโอกาสชะลอตัวลงจากปีก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้กำลังการซื้อทองคำชะลอตัวลงตาม ส่วนทิศทางราคาทองในประเทศปีนี้ ยังไม่สามารถประเมินเพราะค่าเงินบาทยังเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความผันผวนให้กับราคาทองคำในประเทศ โดยหากค่าเงินบาทอ่อนค่าลงถึง 34.50 บาท/ดอลลาร์ฯ จะส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 บาท เมื่อเทียบกับราคาทองในตลาดโลก โดยปัจจุบันค่าเงินบาทอยู่ที่ช่วง 32.60 บาท/ดอลลาร์ฯ

 

- นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ในปีนี้ กรมธนารักษ์จะจัดทำแผนปฏิบัติการหรือ Master Plan ที่ราชพัสดุ 12.5 ล้านไร่ทั่วประเทศ ซึ่งแผนปฏิบัติการดังกล่าว จะมีการวางแผนปรับปรุงการบริหารที่ราชพัสดุให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจะสำรวจการใช้ที่ราชพัสดุ ทั้งที่เป็นส่วนที่เอกชนเช่าที่จากกรมธนารักษ์ และการใช้ประโยชน์โดยส่วนราชการด้วยกันว่า มีการใช้ที่ดินตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ เพื่อปรับค่าเช่าให้เป็นปัจจุบัน

 

- China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวลง 0.18% แตะที่ 6.1333 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 150 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,300 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,223.93 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 16.25 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

 

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่าการเจรจาปัญหาหนี้ของกรีซอาจจะไม่มีความคืบหน้า โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย.ร่วงลง 12.6 ดอลลาร์ หรือ 1.02% ปิดที่ระดับ 1,219.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาเงินส่งมอบเดือน มี.ค.ลดลง 11.2 เซนต์ ปิดที่ 16.761 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน เม.ย.ร่วงลง 11.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,195.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ(EIA) เผยสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ร่วงลง 1.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.84 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน มี.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 1.77 ดอลลาร์ ปิดที่ 54.66 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนรอดูผลการหารือประเด็นหนี้สินของกรีซ โดยค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1297 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1315 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5245 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5251 ดอลลาร์ ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.29 เยน เทียบกับระดับ 119.44 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9282 ฟรังก์ จาก 0.9266 ฟรังก์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7708 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7767 ดอลลาร์

 

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2091902

 

ปิดตลาดซื้อขายหุ้นภาคเช้า ดัชนีแตะ1,600.32จุดลดลง-4.79จุด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 13:02:00 น.

12 ก.พ.58 สรุปภาพรวมตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ หลังปิดตลาดภาคเช้า ที่ระดับ 1,600.32 จุด ลดลง -4.79 จุด มูลค่าซื้อขาย รวม 26,105.19 ล้านบาท

 

มูลค่าการซื้อขาย 5 อันดับ สูงสุด

TUF ปิดที่ 23.10 บาท +0.60 บาท (+2.67%)

IRPC ปิดที่ 4.36 บาท +0.18 บาท (+4.31%)

CSS ปิดที่ 9.35 บาท -0.15 บาท (-1.58%)

JAS NP>ปิดที่ 8.40 บาท +0.15 บาท (+1.82%)

PDI ปิดที่ 21.20 บาท +1.50 บาท (+7.61%)

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/nnd/2091957

 

ตลาดหุ้นเอเชียปรับลงบ่ายนี้ วิตกหนี้กรีซ ขณะเยนอ่อนหนุนหุ้นส่งออกญี่ปุ่น

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 13:07:06 น.

ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงในการซื้อขายช่วงบ่ายวันนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาหนี้กรีซที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ในขณะที่ตลาดหุ้นโตเกียวดีดตัวขึ้นจากอานิสงส์ดอลลาร์แข็งค่ากดเงินเยนให้อ่อนค่าลงและช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออก

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,458.35 จุด เพิ่มขึ้น 143.33 จุด หรือ 0.59% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,786.18 จุด ลดลง 12.77 จุด หรือ 0.71%

 

 

 

รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนในเดือนธ.ค.2557 ปรับตัวขึ้น 8.3% เมื่อเทียบรายเดือน แตะระดับ 8.536 แสนล้านเยน ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทเอกชนต้องการที่จะเพิ่มเงินลงทุน เนื่องจากความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้น

 

ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภคเนื่องจากมีความผันผวนนั้น ถือเป็นมาตรวัดการใช้จ่ายด้านทุนในอนาคตของบริษัทเอกชน

 

นายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป เปิดเผยว่า การประชุมเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของกรีซระหว่างยูโรกรุ๊ปและรัฐมนตรีคลังกรีซนั้น ยังไม่มีความคืบหน้า และจะมีการเจรจาอีกครั้งในวันจันทร์หน้า

 

"เรายังไม่สามารถตกลงกันได้ในรายละเอียดของข้อเสนอ หรือรายละเอียดของโครงการใดๆ และยังไม่มีความเห็นพ้องกันแต่อย่างใด"

 

"เราได้พยายามที่จะดำเนินการขั้นต่อไปในช่วง 2 วันข้างหน้า แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ โดยเราจะยังคงมีการเจรจากันต่อไปในวันจันทร์" นายดิจเซลโบลมกล่าวในระหว่างแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2091945

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 11:36:32 น.

กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

- ราคาทองทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 เดือน

- SPDR ไม่เปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำ

- ระยะสั้นราคาทองมีแนวรับที่ 1,215 และ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำเมื่อวานปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 และทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 เดือน โดยปรับลงไปต่ำสุดที่ 1,216 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งมีแรงเทขายออกมาในช่วงกลางคืนจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐส่งผลลบต่อราคาทอง ขณะที่ตลาดรอดูการประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนเกี่ยวกับการสนับสนุนทางการเงินต่อกรีซ

 

 

 

การประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนเมื่อวาน ทางประธานสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า การประชุมเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของกรีซระหว่างสหภาพยุโรปและรัฐมนตรีคลังกรีซนั้นยังไม่มีความคืบหน้า โดยยังไม่สามารถตกลงกันได้ในรายละเอียดของข้อเสนอหรือรายละเอียดของโครงการใดๆ และยังไม่มีความเห็นพ้องกันแต่อย่างใด ซึ่งจะมีการเจรจาอีกครั้งในวันจันทร์หน้า

 

คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนม.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดการณ์ว่ายอดค้าปลีกเดือนม.ค.จะลดลง 0.3% หลังจากที่เดือนธ.ค.2557 ลดลง 0.9% ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 4,000 ราย เป็น 282,000 ราย ทั้งนี้ในกรณีตัวเลขออกมาดีกว่าหรือแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้จะส่งผลต่อราคาทองคำผ่านการแข็งค่าหรืออ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์

 

หลังจากที่ราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,228 ดอลลาร์/ออนซ์ ทำให้ทองคำถูกแรงเทขายอีกรอบ โดยระยะสั้นราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,215 และ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,230 และ 1,245-1,250 ดอลลาร์/ออนซ์ตามลำดับ สำหรับนักลงทุนที่เตรียมเข้าซื้อทองคำอาจเข้าซื้อที่ระดับใกล้ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2091861

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดบวกเล็กน้อย หลังเจรจากรีซไม่คืบ-จับตาหารือวิกฤตยูเครน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 15:54:41 น.

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในวันนี้ เนื่องจากการเจรจาของกลุ่มรมว.คลังยูโรโซนในประเด็นหนี้สินกรีซเมื่อคืนนี้ยังไม่มีความคืบหน้า และจะมีการเจรจากันต่อในวันจันทร์หน้า

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้นไม่ถึง 0.1% แตะ 372.15 เมื่อเวลาประมาณ 8.10 น.ตามเวลาลอนดอน ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 4,670.08 จุด ลดลง 9.30 จุด หรือ 0.20% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดวันนี้ที่ 10,746.91 จุด ลดลง 5.20 จุด หรือ 0.05%

 

ทั้งนี้ นอกจากเรื่องการเจรจาปัญหาหนี้กรีซแล้ว สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียก็เป็นอีกประเด็นที่นักลงทุนจับตา โดยการเจรจา 4 ฝ่ายเรื่องวิกฤตยูเครนในวันนี้ ทางฝ่ายรัสเซียได้ยื่นเงื่อนไขที่ยูเครนไม่สามารถยอมรับได้ในการเจรจาที่จัดขึ้นที่กรุงมินสค์ ประเทศเบลารุส

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2092106

 

ราคาน้ำมันดิ่ง….นัยต่อการส่งออกของไทย

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า -- พฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 15:36:38 น.

ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลงอย่างรวดเร็วจากระดับสูงกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในช่วงกลางปี 2557 เหลือต่ำกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในปัจจุบัน ทำให้หลายฝ่ายประเมินว่า จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยปี 2558 ในภาพรวม เนื่องจากไทยเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันสุทธิ จึงทำให้ประหยัดเงินในการนำเข้าน้ำมันดิบได้กว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งจะทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการก็จะมีต้นทุนการผลิตลดลง โดยเฉพาะต้นทุนค่าขนส่ง ซึ่งทำให้สามารถนำเงินไปใช้ขยายกิจการหรือลงทุนเพิ่มได้ ขณะที่ผู้บริโภคก็จะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น จากรายจ่ายด้านพลังงานที่ลดลง ซึ่งจะหนุนให้อุปสงค์ในประเทศกระเตื้องขึ้น อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในด้านการส่งออกสินค้าและบริการ ดูเหมือนว่าราคาน้ำมันที่ลดลงจะบั่นทอนการส่งออกของไทยอยู่ไม่น้อย ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก 1. การส่งออกของไทยไปประเทศที่พึ่งพารายได้จากการส่งออกน้ำมันในสัดส่วนสูง โดยเฉพาะกลุ่มประเทศโอเปกและรัสเซียซึ่งไทยส่งออกไปคิดเป็นสัดส่วนรวมกันกว่า 5% ของมูลค่าส่งออกรวม ทั้งนี้ ประเทศเหล่านี้จัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีโดยอิงกับราคาน้ำมันเป็นหลัก ดังนั้น หากราคาน้ำมันลดต่ำลงก็เท่ากับว่าประเทศเหล่านี้ต้องปรับลดงบประมาณรายจ่ายเพื่อพัฒนาประเทศลง ซึ่งจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อของกลุ่มประเทศดังกล่าวชะลอลง ล่าสุด หน่วยงาน EIA (Energy Information Administration) ของสหรัฐฯ คาดการณ์รายได้จากการส่งออกน้ำมันของกลุ่มโอเปกจะลดลงจาก 703 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2557 เหลือ 446 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2558 หรือลดลงราว 36% ต่ำสุดในรอบ 10 ปี เช่นเดียวกับเศรษฐกิจรัสเซียปี 2558 ที่ล่าสุด IMF คาดว่าจะหดตัว 3% ต่ำสุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากรายได้จากการส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ลดลงมาก (รัสเซียพึ่งพาการส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติกว่า 68% ของมูลค่าส่งออกรวม) ทั้งนี้ สินค้าส่งออกที่ไทยพึ่งพาตลาดโอเปกและรัสเซียสูง ได้แก่ รถยนต์ (15.2% ของมูลค่าส่งออกรถยนต์รวม) ข้าว (17.1% ของมูลค่าส่งออกข้าวรวม) เครื่องปรับอากาศ (11% ของมูลค่าส่งออกเครื่องปรับอากาศรวม) 2. การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปและ ปิโตรเคมีของไทยมีแนวโน้มชะลอลง สินค้าทั้งสองรายการมีสัดส่วนรวมกันราว 10% ของมูลค่าส่งออกรวม ทั้งนี้ นอกจากราคาน้ำมันที่ลดลงจะกดดันการส่งออกสินค้าในกลุ่มดังกล่าวแล้ว ตลาดหลักอย่างจีนที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวต่ำสุดในรอบ 25 ปีและการขยายกำลังการผลิตปิโตรเคมีในจีนที่เพิ่มขึ้น จะทำให้จีนมีแนวโน้มนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากไทยลดลง 3. การส่งออกสินค้าเกษตร/ อุตสาหกรรมเกษตรไม่สดใส เนื่องจากราคาสินค้าดังกล่าวมักเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะยางพาราและน้ำตาลทราย ซึ่งมูลค่าส่งออกมีสัดส่วนรวมกันกว่า 4% ของมูลค่าส่งออกรวม ทั้งนี้ ราคายางพาราในปี 2557 ที่ลดลงราว 25% ยังบั่นทอนมูลค่าส่งออกยางพาราต่อเนื่อง ขณะที่ยังต้องจับตามองปัญหาอุปทานส่วนเกินของยางพาราและน้ำตาลทรายในตลาดโลกว่าจะคลี่คลายมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะส่งผลอย่างมากต่อมูลค่าส่งออกของสองสินค้าดังกล่าวในระยะถัดไป 4. การส่งออกบริการมีแนวโน้มชะลอลง จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวตะวันออกกลางและรัสเซียซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 10% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในไทยอาจลดลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีรายจ่ายเฉลี่ยต่อหัวสูงสุดและเป็นกลุ่มลูกค้าอันดับ 1 ที่เข้ามาท่องเที่ยวพร้อมกับใช้บริการด้านสุขภาพ (Medical Tourism) ในไทย ซึ่งจะทำให้รายรับจากธุรกิจดังกล่าวได้รับผลกระทบตามไปด้วย

 

 

 

จะเห็นได้ว่า การส่งออกของไทยในปี 2558 แม้มีแนวโน้มกระเตี้องขึ้นเล็กน้อยจากฐานที่ต่ำในปี 2557 แต่ยังต้องเผชิญกับปัจจัยรุมเร้ารอบด้านจากเศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบาง ประกอบกับผลกระทบของราคาน้ำมันที่ลดลงดังที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ ผู้ส่งออกไทย โดยเฉพาะรายที่พึ่งพาตลาดที่มีรายได้จากน้ำมันในสัดส่วนสูง รวมทั้งผู้ส่งออกสินค้าที่ราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันควรติดตามทิศทางราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิดและใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงอย่างเหมาะสม อีกทั้งควรพยายามหาตลาดใหม่ โดยเฉพาะประเทศที่เป็นผู้นำเข้าน้ำมันสุทธิที่จะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลงทดแทนให้ได้อย่างทันท่วงที

 

Disclaimer : คอลัมน์นี้เผยแพร่เพื่อให้ความรู้ด้านเศรษฐกิจมหภาค เศรษฐกิจต่างประเทศ รวมถึงภาวะธุรกิจและอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความคิดเห็นของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย

 

--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/exim/2092074

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

http://www.naewna.com/politic/144292

'บิ๊กตู่'ลั่นสั่งเองคุมรปภ.'ปู'เข้ม!! เผย'ยิ่งลักษณ์'เปรยสู้คดีถึงที่สุด

วันพฤหัสบดี ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558, 15.29 น.

[/url]

144292.jpg

12 ก.พ.58 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เปิดเผยถึงปัญหาการเมืองในขณะนี้ว่ารบกวนการทำงานของรัฐบาลบ้าง แต่การเมืองก็คือการเมือง ซึ่งตนเองไม่ใช่การเมือง เป็นรัฐบาลที่ตั้งใจและมีเจตนาที่จะทำงานแก้ปัญหาชาติบ้านเมือง จะว่าอย่างไรก็ว่ากันไป เพราะเมื่อเข้ามาแล้ว ก็ไม่ทำให้เสียสมาธิ แต่ต้องขอโทษ บางครั้งหงุดหงิดบ้าง ก็ต้องเห็นใจ เพราะสมองใช้เยอะ

เมื่อถามว่า ต้องยอมรับว่าปัจจุบันเรื่องของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีส่วนทำให้รัฐบาลเสียสมาธิ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องของน.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งบางครั้งอยากให้ทุกอย่างสงบบ้าง น.ส.ยิ่งลักษณ์จะไปกินก๋วยเตี๋ยวหรือไปไหนก็ปล่อยให้ไป เมื่อไหร่ที่ไม่ให้ไป ไม่ให้กิน ก็กินไม่ได้ ถ้าคิดว่าที่ทำมาถูก ก็กลับมาเป็นรัฐบาล จะไปอะไรได้

เมื่อถามว่า แสดงว่า ณ เวลานี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ควรอยู่ในประเทศไทยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้ ก็ต้องไปดูขั้นตอนต่างๆ ซึ่งมีอยู่ชัดเจน ทางอัยการสูงสุดก็ได้ชี้แจงมาแล้ว ว่าระหว่างการเตรียมการเรื่องสำนวนก็ควรจะอยู่ในประเทศไทย ดังนั้นมันควรจะอยู่หรือไม่ และเมื่อคิดว่าตนเองถูกต้องก็ต้องอยู่ภายใต้กติกา ถ้าไม่เคารพกติกาแล้วมาบอกว่าสิ่งที่ทำถูกจะรับกันได้หรือไม่ ความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้นอีก

“คุณยิ่งลักษณ์ เคยบอกกับผมแล้วว่า ท่านพร้อมสู้ทุกอย่าง ซึ่งท่านก็สู้ ซึ่งผมก็บอกไปว่า ให้ดูแลท่านให้ดี อย่าให้ท่านเป็นอะไรขึ้นมา เพราะเดี๋ยวไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำก็เดือดร้อนผมอีก ก็ต้องดูแล ดังนั้นหนักนิดเบาหน่อยก็ขออภัยกันเท่านั้นเอง ผมเดินทางไปทุกประเทศก็บอกว่า ผมไม่ได้ไปทำร้ายใคร ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ใครที่ทำผิดกฎหมายชัดเจนก็ต้องถูกดำเนินคดี ลงโทษไม่ได้เลือกฝ่าย หากมีหลักฐานมากก็ทำได้ก่อน ถ้าหลักฐานน้อยก็ต้องสอบต่อไป ไม่เคยไปเข้าข้างใคร”

เมื่อถามว่า ดูเหมือนขณะนี้มีเจ้าหน้าที่คอยติดตามความเคลื่อนไหวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ตลอดเวลา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ และเรื่องการค้นรถก็ไม่ได้ค้นทุกตารางนิ้ว ส่วนที่ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ทหารติดตามความเคลื่อนไหวนั้น ไม่รู้ แต่เป็นเรื่องของเขาที่ต้องดูแล ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ดูแลทุกคนที่อันตราย ทุกคนก็ร้องกันเข้ามาว่า ไม่มีอิสระ มีตำรวจ มีทหาร แต่เจ้าหน้าที่ต้องดูแลความปลอดภัยให้ก็ดีกว่าไม่มี ไปไหนก็จะรู้สึกปลอดภัย สบายใจ อย่าไปให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้มาก ไปดูเรื่องว่าประเทศจะไปกันอย่างไร จะเอาเงินที่ไหนมาสร้างรถไฟกันดีกว่า เรื่องอื่นไม่เห็นจะสำคัญอะไรหนักหนา ทกอย่างอยู่ใน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1503389_10153130892127450_2889547410763502086_n.jpg?oh=75bc093dde7b979fc0e8734802b52707&oe=554B96A4

17881_10153130892162450_2886725789942914562_n.jpg?oh=31030fbda2eb5d18bb813e3461c1dbdc&oe=555C392C&__gda__=1431743505_55f095697d9642bc1e3582ef470dfd0c

10991351_10153130892122450_39186626238900188_n.jpg?oh=e0ce5fec185e4f1d09ff1e1e25310153&oe=555C57EC10991427_10153130892172450_8346892411184222886_n.jpg?oh=2dcab8fb55986c32f60520701ba36217&oe=554AA000

15.45น. คึกคัก ตลาดน้ำทำเนียบ ก่อน นายกฯ เปิด เย็นนี้ ‪#‎NationTV‬

Cr.@jeerapong_nna

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

 

 

Thanong Fanclub

11 mins ·

 

 

47. จับตาวิกฤติกรีซ & วิกฤติยูเครน &วิกฤติISIS (จบแล้วจ้า)

หลังจากเจรจากัน4ฝ่ายมานานนับ15ชั่วโมงข้ามวันข้ามคืนแบบไม่ต้องหลับไม่ต้องนอนกันเลย ในที่สุดข้อตกลงหยุดยิงในยูเครนตะวันออกได้รับการเห็นชอบจากผู้นำของรัสเซีย ยูเครน เยอรมัน และฝรั่งเศส รวมทั้งตัวแทนของDonetsk และLugansk ในการประชุมสันติภาพที่กรุงMinsk

เนื้อหาหลักของแผนสันติภาพของยูเครนคือ:

 

1. เคียฟและกบฎแบ่งแยกดินแดนจะหยุดยิงในวันที่15กุมภาพันธ์โดยไม่มีเงื่อนไข

2. ทั้ง2ฝ่ายจะถอยทหารและอาวุธหนักออกจากเขตปลอดทหาร โดยมีคณะกรรมการนานาชาติคอยสอดส่อง ใช้โดรนช่วยในการดูด้วย

3. มีการแลกเปลี่ยนเชลยศึกกันภายใน19วัน และผู้นำกบฎจะได้รับนิรโทษกรรม

4. ยูเครนต้องกระจายอำนาจ และให้อิสระแคว้นทางตะวันออก คือDonetsk และLuganskสิทธิในการปกครองตัวเองภายในสิ้นปี2015นี้ สองแคว้นนี้ได้ประกาศตัวเองเป็นสาธารณรัฐ

Donetsk และLuganskน่าจะเป็นรัฐอิสระแต่ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของยูเครนในรูปสมาพันธรัฐ (Federation)

ที่ต้องเสียเวลาเจรจานานกว่า15ชั่วโมงในแผนสันติภาพ เพราะว่าเด็กกะโปโล เชนโก้ไม่ต้องการให้ตัวแทนของDonetsk และLuganskเข้ามีส่วนร่วมในการเจรจา เพราะว่าเคียฟไม่ยอมรับพวกนี้ที่ประกาศแยกตัวเป็นรัฐอิสระ

จบไปแล้วฉากใหญ่ของยูเครนที่ความขัดแย้งในช่วงปีกว่าๆที่ผ่านมาทำให้คนตายฟรีๆไปแล้ว50,000กว่าคน ต้องดูว่าจะมีการบังคับใช้สัญญาสันติภาพอย่างจริงๆจังๆได้หรือไม่ เพราะว่าMinsk Agreementฉบับแรกเซ้นในเดือนกันยายนปีที่แล้วมีการละเมิดหหยุดยิงกันทั้ง2ฝ่าย ทำให้ต้องมีข้อตกลงสันติภาพฉบับที่2นี้

ปูตินบอกกับสื่อรัสเซียว่า "ผมมีกลางคืนที่เลวร้ายมาก แต่มีตอนเช้าที่ดี (I have a bad night, but a good morning."

thanong

12/2/2015

http://rt.com/news/231571-putin-minsk-ukraine-deal/

 

 

 

 

10931539_320880308108350_6927061793895256675_n.jpg?oh=1edc142890d7f25064cca2ceb5155357&oe=555D65C3&__gda__=1431535995_badcfb361d55469107e169a0177e738e

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

*ที่ประชุมแก้วิกฤติยูเครนบรรลุข้อตกลงสันติภาพแล้ว เริ่มหยุดยิง 15 ก.พ.

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 18:04:58 น.

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียเปิดเผยหลังเสร็จสิ้นการประชุม 4 ฝ่ายเพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์ในยูเครนว่า ที่ประชุมได้บรรลุข้อตกลงในการเจรจาสันติภาพแล้ว โดยการหยุดยิงจะเริ่มขึ้นในวันที่ 15 ก.พ.

 

ทั้งนี้ ผู้นำรัสเซีย, ยูเครน, ฝรั่งเศส และเยอรมนีเข้าร่วมการประชุมเมื่อวานนี้ที่กรุงมินสค์ ประเทศเบลารุส หลังจากที่การสู้รบในยูเครนได้คร่าชีวิตประชาชนมากกว่า 5 พันคนนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2092246

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดอนุพันธ์: แกว่งในกรอบก่อนดีดตัวท้ายตลาด มีแรงซื้อกลับ ยังรอผลเจรจากรี

 

ไอเอ็มเอฟประกาศอัดฉีดยูเครน 4 หมื่นล้านดอลล์อุ้มประเทศเลี่ยงล้มละลาย

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 18:25:37 น.

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประกาศให้เงินกู้แก่ยูเครนเป็นจำนวน 4 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือประเทศให้พ้นจากภาวะล้มละลาย

 

ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางยูเครนประกาศลดค่าเงินสกุล hryvnia ลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 25.558 เทียบดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 24.84 หลังจากที่ทรุดตัวลงอย่างมากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

ค่าเงิน hryvnia ร่วงลงถึง 30% เมื่อเทียบดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว หลังจากธนาคารกลางประกาศใช้ระบบลอยตัวค่าเงิน

 

ทั้งนี้ เศรษฐกิจของยูเครนประสบภาวะวิกฤติใกล้ล้มละลาย จากความขัดแย้งทางการเมืองที่ดำเนินมายาวนานกับรัสเซีย

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2092254

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10432979_633893320078765_8050749765663407107_n.jpg?oh=5a79833c3d52a049bc2344bac1b835d4&oe=5552D3BA

 

สวัสดีวันศุกร์ รักกันทุกวันอุ่นใจ wannn deb news meng Goldleng ...

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2558 07:42:15 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 ก.พ. 2558

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) ขณะที่ดัชนี NASDAQ ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวการบรรลุข้อตกลงสันติภาพในการแก้วิกฤตการณ์ในยูเครน ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเจรจาเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของกรีซ

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,972.38 จุด พุ่งขึ้น 110.24 จุด หรือ +0.62% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,857.61 จุด เพิ่มขึ้น 56.43 จุด หรือ +1.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,088.48 จุด เพิ่มขึ้น 19.95 จุด หรือ +0.96%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปีในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวการบรรลุข้อตกลงสันติภาพในการแก้วิกฤตการณ์ในยูเครน และหลังจากนายกรัฐมนตรีกรีซได้แสดงความเชื่อมั่นว่าการเจรจาระหว่างกรีซและประเทศเจ้าหนี้จะสามารถหาทางออกร่วมกันได้

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.8% ปิดที่ 374.83 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,726.20 จุด เพิ่มขึ้น 46.82 จุด หรือ +1.00% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,919.65 จุด พุ่งขึ้น 167.54 จุด หรือ +1.56% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,828.11 จุด เพิ่มขึ้น 9.94 จุด, +0.15%

 

--ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ระบุถึงแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 9.94 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 6,828.11 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และจากข่าวที่ว่าบริษัทโททาล เอสเอ ประกาศปรับลดการลงทุนด้านพลังงาน

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 2.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.21 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 2.39 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) เพราะได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.1 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ระดับ 1,220.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 3.3 เซนต์ ปิดที่ 16.794 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 4.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,200.50 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) เนื่องจากยอดค้าปลีกสหรัฐลดลงมากกว่าที่คาดในเดือนม.ค. ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐก็ออกมาในเชิงลบ

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1414 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1297 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5413 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5245 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.86 เยน เทียบกับระดับ 120.29 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9315 ฟรังก์ จาก 0.9282 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7752 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7708 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,972.38 จุด เพิ่มขึ้น 110.24 จุด, +0.62%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,857.61 จุด เพิ่มขึ้น 56.43 จุด, +1.18%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,088.48 จุด เพิ่มขึ้น 19.95 จุด, +0.96%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,726.20 จุด เพิ่มขึ้น 46.82 จุด, +1.00%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,919.65 จุด เพิ่มขึ้น 167.54 จุด, +1.56%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,828.11 จุด เพิ่มขึ้น 9.94 จุด, +0.15%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,805.10 จุด เพิ่มขึ้น 271.13 จุด, +0.95%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,419.17 จุด ลดลง 25.40 จุด, -0.74%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,789.07 จุด ลดลง 9.88 จุด, -0.55%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,343.41 จุด เพิ่มขึ้น 6.89 จุด, +0.13%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,422.15 จุด เพิ่มขึ้น 107.13 จุด, +0.44%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,714.59 จุด เพิ่มขึ้น 28.16 จุด, +0.37%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,173.42 จุด เพิ่มขึ้น 15.71 จุด, +0.50%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,941.63 จุด ลดลง 4.07 จุด, -0.21%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,979.72 จุด เพิ่มขึ้น 327.04 จุด, +1.85%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,496.31 จุด เพิ่มขึ้น 34.09 จุด, +0.36%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,743.60 จุด ลดลง 25.50 จุด, -0.44%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,707.70 จุด ลดลง 24.00 จุด, -0.42%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2092294

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์อ่อน หนุนทองคำปิดบวก 1.1 ดอลลาร์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2558 07:33:30 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) เพราะได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.1 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ระดับ 1,220.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 3.3 เซนต์ ปิดที่ 16.794 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 4.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,200.50 dollars ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นเพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆในตะกร้าเงินนั้น ปรับตัวลง 0.88% แตะที่ 94.1520 ทั้งนี้ การอ่อนค่าดอลลาร์จะช่วยให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและดึงดูดนักลงทุนให้เข้าซื้ออย่างคึกคัก

 

ปัจจัยที่ทำให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงนั้น มาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนม.ค.ที่ร่วงลง 0.8% สู่ระดับ 4.3977 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 0.5% และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 25,000 ราย สู่ระดับ 304,000 ราย ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 290,000 ราย

 

อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำขยับขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากการบรรลุข้อตกลงสันติภาพในยูเครนได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยเมื่อช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาไทย ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียและผู้นำจากฝรั่งเศส เยอรมนี และยูเครน ได้บรรลุข้อตกลงสันติภาพแล้ว รวมถึงการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ของยูเครน และการหยุดยิงซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 15 ก.พ.นี้

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2092291

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $2.37 จากข่าวโททาลหั่นงบลงทุนพลังงาน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2558 07:22:33 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และจากข่าวที่ว่าบริษัทโททาล เอสเอ ประกาศปรับลดการลงทุนด้านพลังงาน

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 2.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.21 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 2.39 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงเพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ อันเนื่องมาจากยอดค้าปลีกเดือนม.ค.ของสหรัฐที่ปรับตัวลดลง 0.8% สู่ระดับ 4.3977 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 0.5%

 

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า บริษัทโททาล เอสเอ ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของฝรั่งเศส ประกาศลดการลงทุนลงเหลือ 2.3-2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ จากปีที่แล้วที่ระดับ 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ และยังได้ปรับลดงบประมาณด้านการสำรวจน้ำมันลง 30% สู่ระดับ 1.9 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้

 

ขณะที่บริษัทอาปาเช คอร์ปอเรชัน ประกาศลดจำนวนแท่นขุดเจาะลง 70%

ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้บริษัทพลังงานทั้งสองแห่งปรับลดงบประมาณการลงทุนนั้น เนื่องจากการร่วงลงราคาน้ำมันดิบในช่วงก่อนหน้านี้ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 4.9 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 417.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.7 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 1.214 ล้านบาร์เรล แตะที่ 42.6 ล้านบาร์เรล

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2092289

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่า หลังยอดค้าปลีกสหรัฐหดตัวมากกว่าที่คาด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2558 07:22:37 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) เนื่องจากยอดค้าปลีกสหรัฐลดลงมากกว่าที่คาดในเดือนม.ค. ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐก็ออกมาในเชิงลบ

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1414 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1297 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5413 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5245 ดอลลาร์

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.86 เยน เทียบกับระดับ 120.29 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9315 ฟรังก์ จาก 0.9282 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7752 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7708 ดอลลาร์

 

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอเป็นปัจจัยที่กดดันดอลลาร์ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกลดลง 0.8% ในเดือนม.ค. สู่ระดับ 4.3977 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากร่วงลง 0.9% ในเดือนธ.ค. ขณะที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย. โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณนี้ว่ายอดค้าปลีกลดลง 0.5% ในเดือนม.ค.

 

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 7 ก.พ. เพิ่มขึ้น 25,000 ราย สู่ระดับ 304,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 290,000 ราย

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2092290

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...