ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ขุนคลังแคนาดาเตือนนานาประเทศอย่าหวังพึ่งสหรัฐแบกรับภาระเศรษฐกิจโลก

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2558 23:53:25 น.

นายโจ โอลิเวอร์ รมว.คลังแคนาดา กล่าวในวันนี้ว่า ขณะนี้สหรัฐกำลังแบกรับเศรษฐกิจโลกไว้ แต่สิ่งนี้จะไม่สามารถดำเนินไปอย่างยั่งยืน โดยประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่จะต้องเข้ามาแบกรับภาระมากขึ้น

นายโจกล่าวว่า เศรษฐกิจโลกได้เริ่มต้นปีนี้อย่างไม่ราบรื่น และการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจจะเป็นประเด็นสำคัญในการประชุมรัฐมนตรีคลัง และผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มจี20 ที่ตุรกีในสัปดาห์หน้า

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

สหรัฐเตือนกรีซร่วมมือยุโรป,IMF แก้ไขปัญหาหนี้ ขณะเดินหน้าปฏิรูป

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2558 22:35:23 น.

สถานทูตสหรัฐประจำกรุงเอเธนส์ของกรีซเปิดเผยแถลงการณ์ในวันนี้ เรียกร้องให้กรีซให้ความร่วมมือกับยุโรป และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) พร้อมกับเดินหน้าทำการปฏิรูป และใช้มาตรการทางการคลังอย่างรอบคอบ

 

ก่อนหน้านี้ นายเดวิด เพียร์ซ เอกอัคราชทูตสหรัฐประจำกรีซ ได้พบปะกับนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ และรัฐมนตรีหลายคน เพื่อแสดงความห่วงใยต่อการแก้ไขปัญหาหนี้ของกรีซ

 

 

 

นายซิปราส และนายยานิส วารูเฟกิส รมว.คลังกรีซ กำลังเดินสายพบปะกับเจ้าหน้าที่ของยุโรปในสัปดาห์นี้เพื่อหาเสียงสนับสนุนการทำข้อตกลงฉบับใหม่เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ และยุติมาตรการรัดเข็มขัดของข้อตกลงให้ความช่วยเหลือทางการเงิน

 

เมื่อวานนี้ รมว.คลังกรีซและรมว.คลังเยอรมันได้แสดงความขัดแย้งกันอย่างเปิดเผย หลังการเจรจาอย่างเคร่งเครียดเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของกรีซที่กรุงเบอร์ลิน

 

ทั้งนี้ นายวูล์ฟกัง ชอยเบิล รมว.คลังเยอรมัน กล่าวว่า เขาได้แจ้งต่อนายยานิส วารูเฟกิส รมว.คลังกรีซ ว่า เป็นเรื่องที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงที่รัฐบาลกรีซจะดำเนินนโยบายตามที่ได้หาเสียงไว้ในการเลือกตั้ง แต่กลับสร้างภาระให้กับประเทศอื่น

 

นายชอยเบิลกล่าวว่า ทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงที่จะไม่ตกลง

อย่างไรก็ตาม นายวารูเฟกิส กล่าวว่า "เราไม่ได้แม้แต่ตกลงที่จะไม่ตกลง"

นายชอยเบิลระบุว่า ถึงแม้เขาเคารพในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของชาวกรีซ แต่เป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลใหม่จะต้องยึดมั่นในข้อตกลงที่ทำไว้กับสหภาพยุโรป (EU) และทำงานร่วมกับ IMF, ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และกรรมาธิการยุโรป (EC)

 

ทางด้านนายวารูเฟกิสต้องการทำข้อตกลงฉบับใหม่ที่จะทดแทนมาตรการรัดเข็มขัดที่กรีซถูกบังคับให้ใช้ในปัจจุบันเพื่อแลกกับเงินช่วยหลือจากต่างประเทศ

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2087901

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

blank.gif7 กุมภาพันธ์ 2558 07:19 น. blank.gif ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์(6ก.พ.) ปิดลบพอสมควร หลังนักลงทุนกังวลต่อวิกฤตหนี้สินของกรีซ ท่ามกลางเส้นตายต้องได้รับเงินกู้เพิ่มเติมใกล้เข้ามาถึง

 

ดาวโจนส์ ลดลง 60.59 จุด ปิดที่ 17,824.29 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 7.05 จุด ปิดที่ 2,055.47 จุด แนสแดค ลดลง 20.70 จุด ปิดที่ 4,744.40 จุด

 

ช่วงต้นของการซื้อขายวอลล์สตรีทขยับขึ้นสู่แดนบวก จากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯและการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของค่าแรง อย่างไรก็ตามตลาดทรุดตัวลงในช่วงบ่าย หลังเกิดความกังวลรอบใหม่ต่อวิกฤตหนี้กรีซ

 

ด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เพิ่มขึ้น 1.21 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากผันผวนต่อเนื่องมาหลายวัน ท่ามกลางความกังวลต่อปัญหาอุปทานล้นตลาดและภาวะเศรษฐกิจโลกเติบโตชะลอตัว น้ำมันดิบทั้งสองสัญญาทำสถิติเป็นสัปดาห์ที่ปิดบวกแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2011 โดยเวสต์เทกซัส ขยับขึ้นถึงร้อยละ 13.6 ส่วนเบรนท์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.4

 

ทองคำร่วงลงอย่างหนักวันศุกร์(6ก.พ.) ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 28.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,234.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ทั้งนี้ความเคลื่อนไหวในวันศุกร์ (6ก.พ.) ได้ปัจจัยหนุนจากข้อมูลกระทรวงแรงงานสหรัฐฯที่ระบุว่าเศรษฐกิจของประเทศมีการสร้างงานเพิ่มเติม 257,000 อัตราในเดือนมกราคม ขณะที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ที่ราวๆ 235,000 อัตรา ในรายงานดังกล่าวยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมของปีก่อน พร้อมบอกด้วยว่าอัตราค่าจ้างรายชั่วโมงก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ถือเป็นการฟื้นตัวอย่างมาก หลังจากลดลงในเดือนธันวาคม ข้อมูลดังกล่าวผลักให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และเมื่อประกอบกับนักลงทุนเทขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 60.59 จุด เหตุวิตกเฟดขึ้นดบ.เร็วขึ้น หลังจ้างงานแกร่ง

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2558 07:31:51 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) แม้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนม.ค.ที่เพิ่มขึ้นมากเกินคาดก็ตาม โดยภาวะการซื้อขายถูกกดดันจากการที่นักลงทุนวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจจะปรับเพิ่มดอกเบี้ยเร็วขึ้น

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กลดลง 60.59 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ 17,824.29 จุด ดัชนี S&P500 ลบ 7.05 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ 2,055.47 จุด ดัชนี NASDAQ ลบ 20.70 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 4,744.40 จุด

 

 

 

อย่างไรก็ดี แม้ปรับตัวลงในวันศุกร์ แต่ตลอดทั้งสัปดาห์ ทั้งสามดัชนียังคงปรับตัวสูงขึ้น 3.8%, 3.0% และ 2.4% ตามลำดับ

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 257,000 รายในเดือนม.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้นที่ราว 230,000 ราย โดยตัวเลขการจ้างงานในเดือนม.ค.ถือเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกันที่การจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 200,000 ราย

 

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ย.และธ.ค. โดยปรับเพิ่มขึ้น 147,000 ตำแหน่งจากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้

 

ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สู่ระดับ 5.7% จาก 5.6% ในเดือนธ.ค.

ด้านค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงของลูกจ้างภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 12 เซนต์ เป็น 24.75 ดอลลาร์ในเดือนม.ค. หลังจากที่ลดลง 5 เซนต์ในเดือนธ.ค. และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้น 2.2%

 

ข้อมูลที่สดใสดังกล่าวได้จุดกระแสการณ์ในหมู่นักลงทุนว่า เฟดอาจจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในช่วงกลางปี หลังจากที่คงดอกเบี้ยไว้ที่ใกล้ 0% มาตั้งแต่เดือนธ.ค.2551

 

สัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าบ่งชี้ว่า ขณะนี้เทรดเดอร์มองว่ามีความเป็นไปได้ 62% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในเดือนก.ย. ขณะที่มีความเป็นไปได้ 47% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่สูงเกินคาด และค่าจ้างเพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว

 

ก่อนการเปิดเผยรายงานดังกล่าว เทรดเดอร์คาดว่าเฟดจะรอจนกว่าเดือนต.ค.สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

คริส โลว์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่เอฟทีเอ็น ไฟแนนเชียล กล่าวว่า ข้อมูลจ้างงานที่แข็งแกร่งต่อเนื่องจากเดือนพ.ย.และธ.ค. ประกอบกับการคลายความกังวลเกี่ยวกับค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนม.ค.หลังจากที่ลดลงในเดือนธ.ค. เขาจึงคาดว่าเฟดอาจเริ่มพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยก่อนเดือนมิ.ย.

 

นอกจากกระแสคาดการณ์เรื่องเฟดขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กยังถูกกดดันจากการที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงสู่ระดับ B- จาก B และประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ ซึ่งยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจยุโรป

 

ในส่วนของข่าวคราวความเคลื่อนไหวภาคธุรกิจนั้น หุ้นทวิตเตอร์ทะยาน 16.36% หลังจากที่บริษัทรายงานกำไรและรายได้สูงกว่าคาดการณ์ แม้จำนวนผู้ใช้น่าผิดหวัง

 

หุ้นมูดีส์ คอร์ป พุ่ง 5.11% หลังบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือเผยผลประกอบการไตรมาส 4/2557 ที่แข็งแกร่ง พร้อมคาดการณ์แนวโน้มปี 2558 ในทิศทางเดียวกับตลาด

 

ข้อมูลล่าสุดจากทอมสัน รอยเตอร์ แสดงให้เห็นว่า บรรดาบริษัทจดทะเบียน S&P 500 อาจมีผลกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 6.4% ขณะที่คาดว่ารายได้จะโต 1.8% โดยจนถึงขณะนี้มีบริษัทรวมทั้งสิ้น 322 บริษัทในดัชนี S&P 500 ที่รายงานงบการเงินไตรมาส 4 เรียบร้อยแล้ว

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2087910

 

ดีเอสไอลุย‘โกงข้าว’ งัดกม.ฟอกเงิน ขยายผลฟันยกแก๊ง

 

 

ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- เสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2558 06:00:00 น.

ดีเอสไอลุย‘โกงข้าว’

งัดกม.ฟอกเงิน

ขยายผลฟันยกแก๊ง

กกต.จ่อเชือดซ้ำ‘ปู’

ทัวร์นกขมิ้นเมษานี้

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามทุจริตโครงการรับจำนำข้าวว่า คดีดังกล่าวยังอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ด้วย โดยที่ประชุมร่วมกันเห็นว่าสามารถที่จะนำ พ.ร.บ.การฟอกเงินมาใช้ดำเนินการเอาผิดต่อเนื่องกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดได้อีกในจุดที่ป.ป.ช.อาจมีช่องโหว่ ไม่สามารถขยายผลเอาผิดได้

 

 

 

ก่อนหน้านี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)ชี้มูลความผิดนักการเมืองในคดีดังกล่าวไปแล้ว ประกอบด้วยฝ่ายการเมือง ที่นำโดยนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พานิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พานิชย์ และพรรคพวกรวม 21 ราย ในประเด็นทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจีเก๊ เนื่องจากไม่มีการส่งมอบข้าวจริง

 

ประสานพาณิชย์ลุยคดีฟอกเงิน

“ขั้นตอนจากนี้ไปดีเอสไอจะประสานไปยังป.ป.ช.และกระทรวงพาณิชย์เพื่อร่วมกันทำงานดำเนินการ ไม่ให้ขาดช่วงตอนของกระบวนการยุติธรรมไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีนี้กระทรวงยุติธรรมเห็นว่าทุจริตโครงการรับจำนำข้าว เป็นเรื่องที่มีประโยชน์ต่อบ้านเมืองและจะเป็นตัวอย่างสำหรับการดำเนินคดีเอาผิดพฤติการณ์ลักษณะเดียวกันนี้ในรายอื่นๆต่อไปด้วย”พล.ต.อ.ชัชวาลย์ กล่าวย้ำ

 

บี้คลัง’ปู’เรียกคืนเงิน5แสนล.

วันเดียวกันที่กระทรวงการคลังกลุ่มสตรีศรีสยาม ในฐานะเครือข่ายประชาสังคมสตรีไทย เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายสมหมาย ภาษี รมว.คลังเพื่อขอให้ดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกคืนค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้เกี่ยวข้องเนื่องจากคณะกรรมการตรวจสอบบัญชี กระทรวงการคลังสรุปความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ตั้งแต่ปี47-56 รวมเป็นมูลค่ากว่า 682,000 ล้านบาท หากจำแนกเฉพาะโครงการจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จำนวน 4 โครงการ มีความเสียหายรวมทั้งสิ้น 519,000 ล้านบาท

 

จ่อฟัน‘ปู’คดีทัวร์นกขมิ้นเมษานี้

ทางด้านนายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึงความคืบหน้าการทำคดีเลือกตั้งว่า เหลือคดีหลักๆประมาณ 5 คดี คือ คดีทัวร์นกขมิ้นในช่วงเดือนธันวาคม 2556-มกราคม 2557 ในพื้นที่ภาคอีสานกับภาคเหนือ ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับพวกรวม 9 คน กรณีใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อให้เกิดความได้เปรียบและเสียเปรียบในการเลือกตั้ง

 

“ตอนนี้สอบพยานเสร็จและมีการวินิจฉัยแล้ว รอเพียงตรวจสอบสำนวน เรื่องนี้มีข้อกฎหมายเกี่ยวข้องหลายข้อ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ คาดว่าใกล้ที่จะเสนอเข้าที่ประชุม กกต.แล้ว และเหลือเรื่องอยู่ไม่มากนัก คาดว่าจะแล้วเสร็จทุกคดีภายในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งบางคดีที่ล่าช้าเพราะมีผู้ร้องจำนวนมาก พยานมีจำนวนมาก ทางคณะอนุวินิจฉัยที่ทำหน้าที่ไต่สวนต้องละเอียดรอบคอบ”นายบุญส่ง กล่าว

 

ดีเอสไอเร่งสอบคดีโกงมัน4พันล.

ช่วงเช้าวันเดียวกันที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการคดีเศษภาค ดีเอสไอ เป็นประธานประชุมร่วมกับองค์การคลังสินค้า(อคส.) มี พ.ต.ท.ปิยวิชญ์ วงศ์สวัสดิ์ รองผู้อำนวยการ อคส.และเจ้าหน้าที่ร่วมประชุมเพื่อหารือแนวทางการดำเนินการ และเสนอเรื่องไปยัง คณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.)กรณีทุจริตในโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง หลังที่บริษัทเกษตรพืชผล อินเตอร์เทรด จำกัด กับพวก มีพฤติการณ์ทุจริตในโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง 2 ช่วง คือปี2554-2555 และปี 2555-2556

 

ก่อนหน้านี้ดีเอสไอและอคส.ร่วมลงตรวจสอบพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่จ.ราชบุรี พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, สระบุรี และกาญจนบุรี พบว่า พฤติการณ์ของขบวนการมีการนำมันสำปะหลังของ อคส.เข้าเก็บโกดังสินค้า ตามสัญญาฝากทรัพย์โดยมีการอำพรางนำแกลบมามาวางไว้แทน ต่อมาเกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังที่เก็บมันสำปะหลังเสียหาย ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อ อคส.และภาครัฐกว่า 4,000 ล้านบาท

 

ชงกคพ.ยกขึ้นเป็นคดีพิเศษ

พ.ต.ท.ปิยวิชญ์ กล่าวว่า อคส.ได้รวบรวมข้อมูล และหลักฐานของบริษัทที่น่าเชื่อว่าเข้าข่ายกระทำผิดส่งให้ ดีเอสไอเพื่อเสนอต่อที่ประชุม กคพ.รับเป็นคดีพิเศษ ซึ่งก่อนหน้านี้ อคส.ได้แจ้งความ กรณีทุจริตในโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ในหลายพื้นที่แล้ว 90 คดี มูลค่าความเสียหาย กว่า 3,700 ล้านบาท ซึ่งคดีทั้งหมดต้องตรวจสอบอีกครั้งว่า มีความเชื่อมโยงกันเป็นขบวนการเหมือนกับบริษัทเกษตรพืชผล อินเตอร์เทรด หรือไม่

 

ทั้งนี้ดีเอสไอจะไปรับสำนวนจากพนักงานสอบสวนทั้ง 5 สถานีตำรวจที่เกี่ยวข้อง และเร่งรวบรวบข้อมูลเพื่อเสนอต่อที่ประชุม กคพ.วาระแรกที่เปิดประชุม เนื่องจากกรณีดังกล่าว ส่งผลเสียหายต่อภาครัฐมากจากเดิม พบมูลค่าความเสียหายกว่า428ล้านบาท จากการรวบรวมข้อมูลพบความเสียหายแล้วกว่า 4,000 ล้านบาท

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/nnd/2088066

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จาก เวนิสน้อยถึง เวนิสตะวันออก

โดย : ดร.ไสว บุญมา

ในช่วงนี้ มีข่าวใหญ่หลายเรื่องซึ่งคงกลบเรื่องราวน่าสนใจที่เกิดขึ้นในเวเนซุเอลาเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว

 

นั่นคือ รัฐบาลจับกุมกลุ่มพ่อค้าในข้อหาจงใจทำให้ลูกค้าต้องต่อแถวรอซื้อสินค้าเป็นเวลานาน รัฐบาลอ้างว่า พ่อค้ารวมหัวกับฝ่ายค้านสร้างสถานการณ์เพื่อหวังให้ประชาชนเกลียดชังรัฐบาลโดยการลดจำนวนช่องจ่ายเงินในร้านค้า พ่อค้าแย้งว่า ปัญหาอยู่ที่สินค้าขาดตลาดเพราะไม่สามารถนำเข้าได้ในภาวะที่ไม่ค่อยมีเงินตราเนื่องจากราคาน้ำมันตกต่ำและเศรษฐกิจถดถอย หลังจากนั้นเพียงข้ามวัน รัฐบาลอเมริกันกดดันรัฐบาลเวเนซุเอลาเพิ่มขึ้นด้วยการประกาศงดออกวีซ่าให้ชาวเวเนซุเอลาที่อเมริกาสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับความฉ้อฉลและการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง สองเรื่องนี้จะมีความเกี่ยวเนื่องกันหรือไม่อย่างไรไม่เป็นที่ประจักษ์ แต่ปัญหาของเวเนซุเอลาและการเป็นไม้เบื่อไม้เมากับอเมริกามีมานาน เหตุการณ์ทั้งสองจึงอาจมองได้ว่าเป็นอาการต่อเนื่องของโรคเรื้อรัง

เวเนซุเอลาซึ่งแปลว่า “เวนิสน้อย” เนื่องจากย่านที่ฝรั่งไปพบครั้งแรกมีบ้านเรือนของชาวพื้นเมืองสร้างไว้กระจัดกระจายอยู่ตามริมน้ำคล้ายเมืองเวนิสไม่น่าจะมีปัญหาสาหัสเนื่องจากเพียบพร้อมด้วยทรัพยากรสารพัดอย่างรวมทั้งน้ำมันปิโตรเลียมปริมาณมหาศาล แต่น้ำมันดูจะเป็นตัวสร้างปัญหามากกว่าจะเป็นพรสวรรค์จนปราชญ์ชาวเวเนซุเอลาคนหนึ่งถึงกับเรียกมันว่า “อุจจาระของปีศาจ” (Devil’s Excrement) ไม่เฉพาะน้ำมันเท่านั้นที่มักสร้างปัญหา ทรัพยากรอย่างอื่นก็เช่นกัน ฝรั่งเรียกการเชื่อมโยงกันนั้นว่าเป็น “คำสาปของทรัพยากร” (Resource Curse) เวเนซุเอลามีทรัพยากรมากมาย คำสาปจึงร้ายแรงมาก (ที่มาของปัญหาของเวเนซุเอลาและของประเทศที่มีน้ำมันปริมาณมหาศาลหาอ่านได้ในหนังสือชื่อ “เล่าเรื่องเมืองน้ำมัน” ซึ่งดาวน์โหลดได้ฟรีที่เว็บไซต์ของมูลนิธินักอ่านบ้านนา www.bannareader.com)

โดยสรุป ชนชั้นผู้นำและผู้กำนโยบายผลาญรายได้จากการขายน้ำมันทุกวิถีทางรวมทั้งนโยบายประชานิยมแบบเลวร้าย การไม่ควบคุมการใช้จ่ายของรัฐบาล การปล่อยให้รัฐวิสาหกิจเป็นอิสระจนจะใช้จ่ายอย่างไรก็ได้ และการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่โดยไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ นอกจากนั้น ทุกชนชั้นของชาวเวเนซุเอลายังผลาญน้ำมันกันอย่างสนุกมืออีกด้วย ทั้งนี้เพราะน้ำมันในเวเนซุเอลาราคาถูกยิ่งกว่าน้ำเปล่า ดังที่คอลัมน์นี้พูดถึงเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2557 ชาวเวเนซุเอลาซื้อหาน้ำมันชั้นดีได้ในราคาลิตรละ 35 สตางค์ตามอัตราแลกเปลี่ยนของรัฐบาล แต่ถ้าคิดราคาตามอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดมืดจะเป็นลิตรละราว 3 สตางค์ ราคาต่ำขนาดนี้ไม่มีที่ไหนในโลกแม้แต่ในซาอุดีอาระเบียซึ่งตอนนี้ผลิตน้ำมันได้มากกว่าเวเนซุเอลาและสะสมเงินจากการขายน้ำมันที่เหลือใช้ไว้ได้ถึงใกล้ 8 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนเวเนซุเอลานอกจากจะไม่มีเงินสะสมเช่นนั้นแล้ว ยังเคยล้มละลายจนต้องไปขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)

เป็นที่ทราบกันดี ไอเอ็มเอฟมีเงื่อนไขเมื่อให้ใครยืมเงินโดยเฉพาะในด้านการกดดันรัฐบาลและประชาชนให้รัดเข็มขัดโดยตัดการใช้จ่ายลง มาตรการของไอเอ็มเอฟอยู่ในกรอบแนวคิดที่มักเรียกกันว่า “ฉันทามติแห่งวอชิงตัน” อันมีอเมริกาเป็นหัวเรือใหญ่ที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง เนื่องจากเรื่องนี้เป็นที่รู้กันโดยทั่วไป ฉะนั้น รัฐบาลและประชาชนที่ต้องรัดเข็มขัดมักโทษไอเอ็มเอฟและอเมริกา ทั้งที่ต้นตอของปัญหาคือตนเอง เรื่องนี้จึงเป็นหนึ่งในประเด็นที่ทำให้เวเนซุเอลาเป็นไม้เบื่อไม้เมากับอเมริกามานาน

อาจเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า เวเนซุเอลาเป็นหนึ่งในหลายประเทศละตินอเมริกาที่มีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจเรื้อรัง แต่นักการเมืองในประเทศเหล่านั้นมักไม่มองว่านโยบายของตนเป็นต้นตอของปัญหา หากเลือกมองว่าอเมริกาคือต้นเหตุ หลายประเทศจึงมักสนับสนุนคิวบาให้ยืนหยัดต่อสู้กับอเมริการวมทั้งเวเนซุเอลาด้วย (ตอนนี้คิวบากับอเมริกากำลังจะคืนดีกัน ประเทศที่สนับสนุนการต่อต้านอเมริกาจะทำอย่างไรต่อไปยังไม่เป็นที่ประจักษ์) ท่ามกลางการโยนความผิดทุกอย่างให้อเมริกานี้ มีนักคิดกลุ่มหนึ่งซึ่งเสนอว่า ชาวละตินอเมริกันควรส่องกระจกชะโงกดูเงาตัวเองมากกว่าจะไปกล่าวโทษอเมริกาว่าเป็นต้นตอของปัญหาของตน คนกลุ่มนี้ได้เขียนหนังสือออกมาเล่มหนึ่งซึ่งมีชื่อเรื่องในฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Guide to the Perfect Latin American Idiot หรือ “แนะนำชาวละตินอเมริกันไร้ปัญญา” (หนังสือเล่มนี้มีบทคัดย่ออยู่ในเว็บไซต์ของมูลนิธินักอ่านบ้านนาเช่นกัน)

เมืองไทยคล้ายเวเนซุเอลาในด้านการมีทรัพยากรสำหรับด้านการเกษตร แต่มีน้ำมันน้อยกว่ามากหากดูตามข้อมูลของทางการ แต่เรื่องนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างเข้มข้นเพราะบางคนเชื่อว่าเมืองไทยมีน้ำมันปริมาณมหาศาล จะมีน้ำมันเท่าไรคงไม่สำคัญนักเพราะหากน้ำมันนำไปสู่การดำเนินนโยบายในแนวของเวเนซุเอลา ยิ่งพัฒนาก็จะยิ่งยากจน กรุงเทพฯ ถูกมองว่าเป็นเสมือนเวนิสตะวันออก แต่ ณ วันนี้ ยังไม่มีใครพูดถึงเรื่องการเกษตรของเวเนซุเอลากับของไทย

ประเด็นน่าสนใจในเรื่องนี้อยู่ที่ชาวไทยมักยังไม่ทิ้งถิ่นฐานบ้านเดิมที่เคยทำเกษตรกรรมเป็นหลักหลังจากอพยพเข้าไปทำมาหากินในเมือง เมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ชาวเมืองส่วนหนึ่งจึงกลับไปอยู่บ้านเดิมได้ชั่วคราว ส่วนชาวเวเนซุเอลาที่อพยพเข้าไปหากินในเมืองมักตัดขาดถิ่นฐานในชนบท พวกเขาจึงอดอยากเมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ เรื่องนี้น่าจะชี้ให้เห็นความสำคัญของการส่งเสริมการคงไว้ของความโยงใยอย่างใกล้ชิดระหว่างชุมชนเมืองกับชนบท ส่วนจะทำอย่างไร ขอฝากไว้เป็นการบ้านเพื่อนำมาระดมสมองกันในโอกาสหน้า

Tags : ดร.ไสว บุญมา

 

กรีซและไซปรัสกับ ทางลัดสู่ห้วงเหว

 

 

กรีซและไซปรัสกับ ทางลัดสู่ห้วงเหว

โดย : ดร.ไสว บุญมา


  •  

 

 

ในเวลาไม่ถึง 3 ปี ต้นตอของปัญหาที่ทำให้ต้องเสียเวลาและทรัพย์สินเลือกตั้งกันซ้ำแล้วซ้ำอีกได้แก่วิกฤติเศรษฐกิจแสนสาหัสถึงขั้นล้มละลายหลังเศรษฐกิจโลกเริ่มถดถอยครั้งใหญ่เมื่อปี 2551 กรีซต้องไปขอความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เป็นเงินถึง 2.68 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งมากกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ของตนเมื่อที่ 2557 เสียอีก การช่วยเหลือนั้นมาพร้อมกับเงื่อนไขหลายอย่างรวมทั้งการลดการใช้จ่ายของรัฐบาลพร้อมการขึ้นภาษีซึ่งมีผลทำให้คนตกงาน ความไม่พอใจรัฐบาลส่งผลให้ต้องจัดการเลือกตั้งบ่อย

เป็นที่ทราบกันดีว่า พื้นดินของกรีซในปัจจุบันเคยมีอารยธรรมกรีกโบราณตั้งอยู่ ชาวกรีกโบราณเป็นต้นคิดของหลักปรัชญาที่วิวัฒน์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย กรีซยุคใหม่ได้เอกราชจากอาณาจักรออตโตมานเมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่การปกครองของกรีซมักห่างไกลประชาธิปไตยจนกระทั่งรัฐบาลทหารถูกกดดันให้สละอำนาจหลังดำเนินนโยบายผิดพลาดอย่างมหันต์เมื่อปี 2517 นั่นคือ สนับสนุนให้เกิดการยึดอำนาจในไซปรัสซึ่งนำไปสู่การแทรกแซงของตุรกีและไซปรัสถูกแยกเป็นสองส่วน หลังเปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย กรีซได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปเมื่อปี 2524

การเปลี่ยนระบอบปกครองครั้งนั้นนำไปสู่การเลือกตั้งทุก 4 ปี ในการช่วงชิงอำนาจกัน รัฐบาลมักนำมาตรการประชานิยมแนวเลวร้ายมาใช้เพื่อซื้อใจประชาชน การใช้จ่ายสูงของรัฐบาลทำให้งบประมาณขาดดุลซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ต้องปิดด้วยการกู้ยืม ประชาชนพอใจเพราะมีรายได้และใช้จ่ายได้เพิ่มขึ้นอันเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวในอัตราสูงอีกแรงหนึ่ง อย่างไรก็ดี การขยายตัวนั้นมิได้ส่งผลให้รัฐบาลเก็บภาษีได้มากขึ้นจนทำให้งบประมาณขาดดุลน้อยลง ตรงข้าม การขาดดุลยังดำเนินต่อไปในอัตราสูง เนื่องจากกฎของสหภาพยุโรปห้ามสมาชิกขาดดุลงบประมาณเกิน 3% ของจีดีพี รัฐบาลกรีซจึงใช้วิธีตกแต่งบัญชีเพื่อตบตา การทำเช่นนั้นเป็นการวางยาพิษจนเศรษฐกิจต้องล้มละลาย

ผู้นำรัฐบาลใหม่ให้ค่ำมั่นสัญญากับชาวกรีกว่าจะไม่ยอมทำตามเงื่อนไขที่รัฐบาลทำไว้กับเจ้าหนี้และจะขอทำข้อตกลงใหม่ ตามข้อตกลงที่รัฐบาลก่อนทำไว้ หากรัฐบาลกรีซไม่ทำตามเงื่อนไข กรีซจะไม่มีเงินชำระหนี้ที่ถึงกำหนดในเดือนหน้า นั่นหมายความว่า กรีซจะเดินเข้าสู่ภาวะล้มละลายอีกครั้งหากเจ้าหนี้ไม่ยอมผ่อนปรน ในวันที่ร่างบทความนี้ บรรดาเจ้าหนี้ยังไม่แสดงทีท่าว่าจะยอมทำตามคำเรียกร้องของกรีซ หากตกลงกันไม่ได้ กรีซอาจต้องเลิกใช้เงินสกุลยูโร การทำเช่นนั้นจะเกิดผลเสียหายใหญ่หลวงต่อกรีซเอง อาทิเช่น ค่าเงินของตนจะตกต่ำทำให้เกิดเงินเฟ้อร้ายแรง การตกงานและความยากจนจะเพิ่มขึ้นจากอัตราที่สูงกว่า 25% และ 23% ตามลำดับอยู่แล้วในปัจจุบัน วิกฤติร้ายแรงของกรีซยืนยันว่า นโยบายประชานิยมอาจเป็นทางลัดที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวสูงและประชาชนพอใจได้ในเวลาอันสั้น แต่ไม่เพียงนาน วันใช้กรรมจะมาถึง

ไซปรัสเชื่อมโยงกับกรีซอย่างใกล้ชิดมานาน ชาวไซปรัสส่วนใหญ่มีเชื้อสายกรีก แม้ทั้งสองจะเป็นเอกราช แต่ชาวกรีกและชาวไซปรัสจำนวนมากยังมองว่าไซปรัสเป็นส่วนหนึ่งของกรีซ เป้าหมายพื้นฐานของการยึดอำนาจในไซปรัสเมื่อปี 2517 โดยการสนับสนุนของรัฐบาลทหารในกรีซอยู่ที่การรวมไซปรัสเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกรีซ ตุรกีมองทะลุจึงเข้าแทรกแซงเพราะชาวไซปรัสส่วนหนึ่งมีเชื้อสายตุรกี หลังจากถูกแยกออกเป็นสองส่วน ชาวไซปรัสเชื้อสายกรีกตั้งรัฐบาลอยู่ทางใต้ รัฐบาลนี้ได้รับการรับรองจากนานาประเทศและองค์การสหประชาชาติ ส่วนชาวไซปรัสเชื้อสายตุรกีตั้งรัฐบาลอยู่ทางเหนือซึ่งตุรกีเพียงประเทศเดียวรับรอง ด้วยเหตุนี้ การช่วยเหลือจากภายนอกตามกรอบขององค์การระหว่างประเทศเช่นธนาคารโลกจึงไปตกอยู่กับรัฐบาลทางใต้เพียงฝ่ายเดียว เนื่องจากรัฐบาลนั้นดำเนินนโยบายเศรษฐกิจอย่างเหมาะสม เศรษฐกิจจึงขยายตัวได้ในอัตราสูง (รายละเอียดมีอยู่ในหนังสือชื่อ “จดหมายจากวอชิงตัน” ซึ่งดาวน์โหลดได้ฟรีที่เว็บไซต์ของมูลนิธินักอ่านบ้านนา www.bannareader.com) เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน ไซปรัสก็เปลี่ยนสถานะจากประเทศกำลังพัฒนาเป็นประเทศก้าวหน้าและเข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปเมื่อปี 2547

ในช่วงที่ไซปรัสเริ่มเข้ากลุ่มประเทศก้าวหน้านั้น สหภาพโซเวียตแตกสลายก่อให้เกิดประเทศเอกราชใหม่ 14 ประเทศรวมทั้งรัสเซีย ไซปรัสปรับเปลี่ยนนโยบายเพื่อดูดเงินจากภายนอกให้ไหลเข้าไปฝากในธนาคารของตน ปรากฏว่าได้ผลดีมาก เงินฝากจากรัสเซียเพียงประเทศเดียวในปี 2554 มีจำนวนถึงเกือบ 3 เท่าของจีดีพีของไซปรัส ผู้รอบรู้สถานการณ์มักมองกันว่าเงินจำนวนมหาศาลนั้นส่วนหนึ่งมาจากธุรกิจสีเทา ธนาคารไซปรัสนำเงินฝากนั้นออกให้ชาวไซปรัสกู้ยืมไปลงทุนและใช้จ่ายส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวสูง หรือไม่ก็ฝากต่อในกรีซซึ่งให้ผลตอบแทนสูงเป็นพิเศษ เมื่อวิกฤติเกิดขึ้นในกรีซ ธนาคารไซปรัสไม่สามารถถอนเงินได้ ส่งผลให้ขาดสภาพคล่องจนหนึ่งในสองของธนาคารขนาดใหญ่ถูกปิดและเกิดวิกฤติเศรษฐกิจจนต้องไปขอความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรปและไอเอ็มเอฟเมื่อปี 2556 การช่วยเหลือนั้นมีเงื่อนไขหลายอย่างยังผลให้ชาวไซปรัสต้องรัดเข็มขัดและใช้หนี้ไปจนถึงลูกหลานเช่นเดียวกับชาวกรีก

เรื่องของกรีซและไซปรัสคงบ่งชี้ได้เป็นอย่างดีว่า การเดินลงเหวนั้นทำได้หลายวิธี ประชาชนจะต้องมีความระมัดระวัง อย่าหลงกลนักการเมืองมักง่ายเพราะผลร้ายมักจะตกกับตนและลูกหลาน มิใช่กับนักการเมือง

Tags : ดร.ไสว บุญมา

โดย : ดร.ไสว บุญมา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองคำปิดดิ่งกว่า 2% หลังเผยจ้างงานสหรัฐสดใส ทำให้นักลงทุนในตลาดกังวลว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย

 

สัญญาทองคำตลาดล่วงหน้าสหรัฐ ปิดปรับตัวลงกว่า 2% หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานสหรัฐ ที่สูงเกินคาด ซึ่งหนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในกลางปีนี้

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ สหรัฐ ส่งมอบเดือนเมษายน ร่วงลง 2.2 % ปิดตลาดที่ราคา 1,234.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์

Tags : ทอง

แอนเธม บริษัทประกันสุขภาพ รับถูกแฮคเกอร์เจาะข้อมูล เข้าถึงข้อมูลลูกค้า-พนักงาน 80 ล้านคน

 

แอนเธม บริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ในสหรัฐยอมรับว่า แฮคเกอร์เจาะข้อมูลของบริษัท และเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าและพนักงาน 80 ล้านคน รวมถึงข้อมูลของ นายโจเซฟ สวีดิช หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร แต่ยืนยันว่า ไม่กระทบกับระบบเรียกสินไหมทดแทนและผลตรวจสุขภาพ

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า บริษัทประกันสุขภาพเป็นเป้าโจมตีที่น่าสนใจ เนื่งอจากมีแหล่งข้อมูลการเงินมหาศาล

Tags : แฮคแฮคเกอร์เจาะข้อมูลสหรัฐสุขภาพ รมว.คลังเปิดมหกรรมการเงินพัทยาคาดสะพัด1.7หมื่นล. "สมหมาย"เปิดงานมหกรรมการเงินพัทยา หนุนการออม เสนอบริการทางการเงินรับเออีซี ทำธุรกรรมสะพัดกว่า1.7หมื่นล้าน 'ABICO'พร้อมกลับเข้าเทรดmai9ก.พ.58 "เอบิโก้ โฮลดิ้งส์" พร้อมกลับเข้าเทรดตลาดเอ็มเอไอ 9 ก.พ. นี้ หลังปรับปรุงผลงานตามเกณฑ์ สรุปภาพรวมตลาดหุ้น 6-2-58 vdo.gif สรุปภาพรวมการลงทุนตลาดหุ้น ช่วงตรงประเด็นข่าวค่ำ "NOW26" 6-2-58 แนวโน้มราคาทอง vdo.gif ดัชนีความเชื่อมั่นเอสเอ็มอีธ.ค.57เพิ่มขึ้น 'ปาณกาจ'ยกเลิกซื้อหุ้นPPของSLC พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติซื้อ1.7พันลบ.

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

 

ข่าวยอดนิยม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

news_img_633465_1.jpg

รมว.กลาโหมจีนพบ "ประยุทธ์" เผยนายกฯขอฝึกร่วม3เหล่าทัพ ไม่มีคุยยกเลิกอัยการศึก ระบุจีนพร้อมหนุนการปฏิรูป

 

เมื่อเวลา 12.00 น. ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังจากพล.อ.ฉาง ว่าน ฉวน (H.E. General Chang Wanquan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีว่า ทั้งสองฝ่ายได้หารือและแลกเปลี่ยนในประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะงานด้านความมั่นคง ซึ่งเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีในโอกาสครบรอบ 40 ปี ของการพัฒนาการทูตและมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองต่าง ๆ โดยได้ขอให้จีนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งขอบคุณจีนที่เข้าใจถึงสถานการณ์ทางการเมืองของไทย ซึ่งจีนก็ได้ย้ำว่าจีนเป็นมิตรประเทศที่ใกล้ชิดพร้อมที่จะสนับสนุนประเทศไทย และที่ผ่านมาก็มีการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ก้าวหน้า มีการยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน โดยมีการเยือนในระดับของผู้นำต่าง ๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันในนโยบายของรัฐบาลที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือในทุกด้าน

ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือทางด้านความมั่นคง รมว.กลาโหมจีนแสดงความประสงค์ให้สองประเทศมีความร่วมมือด้านความมั่นคงมากยิ่งขึ้น โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในเรื่องการฝึกร่วมทั้ง 3 เหล่าทัพมีความเป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งจีนได้มีการส่งนายทหารจีนมาฝึกร่วมกับไทยในคอบบร้า โกลด์ไปเมื่อเดือน ก.พ. 2557 เป็นครั้งแรกและเน้นการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งปีนี้ก็จะเป็นลักษณะเดียวกัน นอกจากนี้ทั้งสองประเทศยังมีความร่วมมือทั้งระดับ รมว.กลาโหมและในเวทีอาเซียนบวกสาม

ในส่วนของอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ ไทยต้องการให้จีนสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนามากขึ้น รวมทั้งด้านการศึกษาการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างเหล่าทัพ โดยนายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมและสนับสนุนวิสัยทัศน์ของผู้นำจีน ในเรื่องของแนวคิดเส้นทางสายไหมทางทะเล รวมถึงเส้นทางการค้าการลงทุนต่าง ๆ โดยไทยก็พร้อมที่จะมีส่วนร่วมด้วย โดยทั้งสองประเทศก็มีความร่วมมือกันในเรื่องกาพัฒนาเส้นทางรถไฟและความร่วมมือสินค้าด้านการเกษตร โดยทั้งสองฝ่ายจะผลักดันความร่วมมือกันต่อไป นอกจากนี้ทั้ง 2 ประเทศเห็นตรงกันว่ามีความก้าวหน้าในทุกระดับและทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า เนื่องจากปีนี้เป็นปีการท่องเที่ยววิถีไทย ไทยและจีนจะร่วมมือกันในการผลักดัน ซึ่งตรุษจีนปีนี้ ประเทศไทยจะมีการจัดฉลองเทศกาลตรุษจีนอย่างยิ่งใหญ่ จึงเชิญให้ทางการจีนมาร่วมด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการคุยเรื่องความร่วมมือรถไฟหรือไม่เพราะมีประเด็นที่จีนมีการปรับเพิ่มดอกเบี้ยที่แพงกว่าญี่ปุ่น โฆษกฯ กล่าวว่า ไม่มีการหารือในประเด็นนี้ เพราะวันนี้มีการหารือในประเด็นว่าตอนนี้มีความร่วมมือและการเดินหน้าการพัฒนาเส้นทางรถไฟเท่านั้น ไม่ได้ลงรายละเอียด ส่วนเรื่องดอกเบี้ยนั้นมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้เจรจา ต้องไปถามท่านว่ามีความคืบหน้าอย่างไร

เมื่อถามถึงการช่วยเหลือไทยเรื่องข้าวกับยางพารา โฆษกฯมีกรอบเวลาหรือไม่ กล่าวว่า เป็นข่าวที่ท่านทูตพิเศษของจีนได้กล่าวถึงในการเข้าพบนายกรัฐมนตรีว่าจะเร่งในเรื่องของการร่วมมือกันในการซื้อสินค้าเกษตร คือ ข้าวและยางพาราที่มีการพูดกันไว้ก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่ได้ลงรายละเอียดว่าจะดำเนินการเมื่อใดและอย่างไร แต่ก็คงมีการประสานในส่วนของคณะทำงานต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าพลเอกประยุทธ์ได้ชี้แจงสถานการณ์การเมืองไทยให้รมว.กลาโหมจีนทราบหรือไม่ ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เพราะฝ่ายจีนมีความเข้าใจในสถานการณ์เป็นอย่างดี และระบุว่าพร้อมที่จะสนับสนุนไทยในเรื่องของการปฏิรูป ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายจีนให้การสนับสนุนไทยโดยการให้ไทยไปศึกษาเรื่องของการปฏิรูป ระบบกฎหมาย และความมั่นคง ในช่วงที่นายกฯได้เดินทางไปเยือนจีน

ต่อข้อถามที่ว่ามีประเด็นการให้ยกเลิกกฎอัยการศึกหรือไม่ โฆษกฯ กล่าวว่า ไม่มีครับ

ส่วนการมาของจีนและสัปดาห์หน้าจะมีการฝึกคอบบร้าโกลด์ไทย-จีน จะมีปัญหาอะไรกับสหรัฐอเมริกาหรือไม่ ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ ทั้งนี้ความสัมพันธ์ไทยกับจีนมีมาอย่างยาวนานและเราเป็นมิตรกับจีนอย่างต่อเนื่องไม่ว่าสถานการณ์มทางการเมืองจะเปลี่ยนไปอย่างไรจีนก็มีความคงเส้นคงวามาโดยตลอด และสองฝ่ายก็มีความชื่นชมในสิ่งที่เกิดข้ึ้น และตนคิดว่าเป็นการดำเนินความสัมพันธ์ที่ต่อเนื่องกัน ไม่ได้มีอะไรที่ผิดปกติ เพราะจีนก็สนับสนุนไทยในหลาย ๆ เวที และเราก็มีความร่วมมือกันในหลายมิติ อย่างไรก็ตามในส่วนการฝึกคอบบร้าโกลด์ไทย-จีน มีขึ้นครั้งแรกเมื่อช่วง ก.พ.ปี 2557 ที่เน้นในเรื่องของการช่วยเหลือประชาชนแบบมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ และปีนี้จะมีการฝึกร่วมในลักษณะเดียวกัน แต่ต้องถามรายละเอียดกับฝ่ายทหารอีกครั้ง

"นายกรัฐมนตรีมองว่าในเรื่องของความมั่นคงจะมีความร่วมมือเพิ่มเติมได้มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งตรงนี้อยากให้จีนมาดูเรื่องของการวิจัยและพัฒนา เพราะอยากให้จีนให้ความรู้กับไทยเรื่องโนวฮาว (Know how) ก็มีการสนับสนุนไทยทั้งฝ่ายทหาร ภาคธุรกิจและเอกชน เราก็จะได้เรียนรู้จากจีนอีกมากมายนอกจากนี้นายกฯยังฝากเรื่องของการฝึกร่วม 3 เหล่าทัพในส่วนของไทยและจีน ขอให้มีการหารือเรื่องนี้ให้มีความเป็นรูปธรรมชัดเจนในระยะเวลาอันใกล้" โฆษกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการคุยเรื่องการซื้ออาวุธจากจีนเพิ่มเติม หรือจีนเสนอขายอาวุธหรือไม่ ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า ไม่มี และเรื่องนี้ไม่ได้ลงรายละเอียด แต่ที่ผ่านมาฝ่ายไทยมีการจัดซื้อยุทโธปกรณ์จากจีนอยู่บ้าง แต่เราอยากจะเรียนรู้เพิ่มเติมว่าฝ่ายจีนมีอะไรบ้าง ในอนาคตอาจจะมีการพิจารณาเพิ่มเติมหากมีงบประมาณเพียงพอจะมีการร่วมมือด้านนี้กันอย่างไร

Tags : รมว.กลาโหมจีนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาอัยการศึกร่วมฝึกซ้อม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มะกันขู่ไทยซ้ำ!จีนเข้าใจปัญหา

 

 

ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- เสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2558 00:00:57 น.

ไทยโพสต์ * สื่อต่างประเทศยัน พันธมิตรทางทหารระหว่างสหรัฐและไทยจะไม่กลับคืนมาดังเดิมอย่างเต็มที่ ตราบที่ยังมีรัฐบาลรัฐประหาร ขณะที่ รมว.กลาโหมจีนเยือนไทย เคารพการแก้ไขปัญหาภายในของไทย ไม่แทรกแซง พร้อมให้การสนับสนุนอุตสาห กรรมป้องกันประเทศ เทคโนโลยีทางการทหาร ทั้งรถถัง เรือดำน้ำ

 

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างคำกล่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐรายหนึ่งที่เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันพฤหัสบดี เตือนว่า ความเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างสหรัฐและไทยจะไม่กลับคืนมาดังเดิมอย่างเต็มที่ ตราบใดที่ประเทศซึ่งยังถูกควบคุมด้วย ทหารแห่งนี้ปฏิเสธจะรื้อฟื้นระบอบประชา ธิปไตย

 

 

 

"จะต้องมีการกลับคืนสู่สภาพเดิมโดย สมบูรณ์ทั้งในสถาบันการปกครองและสถา บันยุติธรรม รวมถึงการมีรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยอย่างถูกต้อง" นักการทูตอเมริกันผู้นี้กล่าว

 

รายงานกล่าวว่า การให้ทัศนะของ เจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐรายนี้มีขึ้นหลัง จากแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เป็นเจ้า หน้าที่ระดับสูงที่สุดของสหรัฐที่เดิน ทางมาเยือนไทยนับแต่ผู้นำกองทัพก่อ รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่ แล้ว รัฐบาลสหรัฐประณามรัฐประหารของไทยอย่างรุนแรง โดยจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเรียกร้องให้ไทยกลับสู่การปกครองโดยรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย

 

ในทางการทหาร สหรัฐและไทย เป็นพันธมิตรเก่าแก่กันมานับแต่ยุคสงครามเย็นและการต่อสู้กับลัทธิคอมมิวนิสต์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะยุคสงครามเวียดนาม กองทัพสหรัฐและไทยยังคงรักษาความสัมพันธ์เหนียวแน่นกันไว้ แต่การรัฐประหารทำให้สหรัฐยกเลิกการฝึกทหารร่วมกับไทยและได้ระงับความช่วยเหลือทางทหารเล็กๆ น้อยๆ ด้วย กระนั้นสหรัฐตัดสินใจเดินหน้าการฝึกร่วมผสมนานาชาติคอบร้าโกลด์ในไทยต่อไป แต่ลดระดับลงจากปกติ

 

แมรี ฮาร์ฟ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงชี้แจงใน เวลาต่อมาด้วยว่า ไทยเป็นเพื่อนรัก และพันธมิตร สหรัฐและไทยมีประวัติ ศาสตร์ความร่วมมือที่แข็งแกร่งกันมายาวนาน สหรัฐจะร่วมมือกับไทยต่อไปในด้านที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและสวัสดิภาพของสหรัฐและไทย

 

"แต่เรายังคงเรียกร้องต่อรัฐบาลไทยให้ดำเนินขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ เราเชื่อว่าสิ่งนี้จำเป็นต้องเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และเราจะกดดันพวกเขาเรื่องนี้ต่อไปเรื่อยๆ" แมรี ฮาร์ฟ ระบุ

 

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อคืนวันศุกร์ว่า สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น รัฐบาลดำเนินการพูดคุยอย่างแน่นแฟ้นกับทุกประเทศ ถือว่าทุกคนเป็นมิตรประเทศที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน ไม่เป็นศัตรูกัน วันนี้อาจจะมีปัญหากันอยู่บ้าง วันหน้าก็ต้องดีกันอยู่แล้ว "การค้าการลงทุนก็ยังลงทุนอยู่ หลายๆ ประเทศที่อยู่ในประเทศไทย คนไทยก็ลงทุนที่ต่างประเทศ การเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง"

 

ที่ทำเนียบรัฐบาล ช่วงสายวันเดียวกัน พล.อ.ฉางว่านฉวน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ. ประยุทธ์ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า

 

ภายหลังการเข้าพบ ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน มีการยกระดับความก้าวหน้าอย่างโดดเด่น มีการร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน การเยือนระหว่างหน้าที่ระดับผู้นำ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ

 

โดยทาง พล.อ.ฉางได้แสดงความประสงค์ให้ 2 ประเทศมีความร่วมมือด้านความมั่นคงใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น โดยทั้ง 2 ฝ่ายมีการเห็นพ้องร่วมกันในเรื่องการของฝึกทหารร่วมกันทั้ง 3 เหล่าทัพให้มีความเป็นรูปธรรมมากขึ้น รวมถึงเรื่องการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทย การศึกษา การแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างเหล่าทัพ ให้มีความเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นเช่นกัน โดยไทยมีกลไกความร่วมมือตั้งแต่ระดับ รมต.กลาโหมของทั้ง 2 ประเทศ และในส่วนของเวที ASEAN+3 ซึ่งมีความก้าวหน้าในทุกระดับ

 

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้แสดงการสนับสนุนวิสัยทัศน์ของประเทศจีนในแนวความคิดเรื่องเส้นทางสายไหมทางทะเล รวมถึงเส้นทางการค้าการลงทุนต่างๆ โดยทางฝ่ายไทยมีความประสงค์ที่จะเข้าร่วมด้วย ทางไทยและจีนยังมีความร่วมมือกันเรื่องเส้นทางรถไฟ สินค้าทางการเกษตร ซึ่งในปีนี้ประเทศไทยจะมีการจัดงานฉลองเทศกาลตรุษจีนอย่างยิ่งใหญ่และได้มีการเชิญฝ่ายจีนมาร่วมด้วย

 

ถามว่า ในเรื่องของการฝึกร่วมกันระหว่างทหารไทย-จีนมีความคืบหน้าไปอย่างไรบ้าง ร.อ.นพ.ยงยุทธตอบว่า ในปี 2557 ในช่วงเดือน ก.พ. เป็นการฝึกร่วมโดยจีนส่งนายทหารจีนมาเป็นครั้งแรก โดยเน้นที่การช่วยเหลือประชาชน เป็นการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และการบรรเทาภัยพิบัติ สำหรับการฝึกร่วมในครั้งนี้ เท่าที่ตนทราบมาคร่าวๆ จะเป็นในแนวทางเดียวกัน

 

นอกจากนี้ พล.อ.ฉางว่านฉวน ยังเข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่กระทรวงกลาโหม พร้อมรับการเคารพจากทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ ตรวจแถวทหารกองเกียรติยศและสวนสนาม และมีการหารือการฝึกระหว่างทหารไทยและทหารจีน เพื่อขยายกรอบความร่วมมือกันให้มากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาทหารไทยและจีนมีการฝึกร่วมกัน ทั้งรบพิเศษไทย-จีน หรือภายใต้รหัสการฝึก สไตรค์

 

พ.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า จีนขอวางแผนร่วมกันในการฝึกร่วมผสม ภายหลังจากที่ รมว.กลาโหมของไทยเสนอให้มีการฝึกร่วมผสมระหว่างกองทัพอากาศไทยกับกองทัพอากาศจีน ในช่วงเดินทางไปเยือนจีนครั้งล่าสุด ทางจีนจึงเสนอให้มีการฝึกร่วมผสมทางทหารของนาวิกโยธินยกพลขึ้นบก พร้อมวางเป้าหมายในการยกระดับการฝึกให้มากขึ้นในเวลา 3-5ปี เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงในภูมิภาค

 

"ทางจีนพร้อมสนับสนุนไทยในเรื่องอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางการทหาร และพร้อมสนับสนุนไทยในเรื่องของยุทโธปกรณ์ทั้งรถถัง เรือดำน้ำ ตลอดจนการฝึกกำลังพลในเรื่องการใช้เทคโนโลยีชั้นสูง เพราะประเทศจีนไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากประเทศใด เช่น เรือดำน้ำ ที่สามารถใช้เทคโนโลยีสร้างท่าเรือดำน้ำได้เอง"

 

เขากล่าวว่า จีนมีความเข้าใจถึงสถานการณ์การเมืองไทย เพราะได้ติดตามมาตลอด ทราบว่าสถานการณ์ของไทยมีการเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และชื่นชมกองทัพไทยที่เข้าควบคุมสถานการณ์ให้ประเทศเกิดความสงบ เป็นไปตามความต้องการของประชาชน ซึ่งทางจีนเคารพการแก้ไขปัญหาภายในของไทย และจีนจะไม่เข้าไปแทรกแซง รวมถึงพร้อมสนับสนุนการเมืองไทยด้วย และช่วยกันรักษาความสัมพันธ์ทุกระดับ นี้คือนโยบายของจีน

 

พ.อ.คงชีพกล่าวอีกว่า ในปีนี้ไทยจะเป็นเจ้าภาพฝึกความร่วมมือทางการแพทย์ร่วมกับรัสเซีย ส่วนการฝึกด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับลาว จึงอยากให้จีนสนับสนุนในการฝึกครั้งนี้ โดยทางจีนพร้อมที่จะเดินทางเข้ามาสนับสนุนการฝึกครั้งนี้ โดยไทยยืนยันว่าไทยพร้อมเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ทหารในอาเซียน โดยการฝึกดังกล่าวจะมีขึ้นในปี 2559

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบัญชา การกองทัพไทยได้แจกเอกสารกำหนด การการฝึกคอบร้าโกลด์ 2015 ครั้งที่ 34 หลังจากยกเลิกแถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 6 ก.พ.โดยเอกสารระบุว่า การฝึกร่วม ผสมภายใต้รหัสดังกล่าว เป็นการฝึก พหุภาคีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกที่เกิดขึ้นมาแล้วเป็นเวลา 30 ปี โดยในปีนี้ถูกจัดขึ้นในหลายพื้นที่ของราชอาณาจักรไทย ระหว่างวันที่ 9-20 กุมภาพันธ์ 2558 มี 24 ชาติเข้าร่วม ซึ่งจะเน้นในเรื่องความมั่นคงของโลก การประสานงาน ความร่วมมือและความมั่นคงในภูมิภาค รวมถึงการเพิ่มความสำคัญของการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ หรือเอชเอดีอาร์ เพื่อวัตถุประสงค์ในการขยายความร่วมมือในภูมิภาคสำหรับการเผชิญปัญหาวิกฤติ

 

จีนเข้าร่วมฝึกอย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรก จะร่วมในส่วนโครงการช่วยเหลือประชาชนเพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตและสาธารณูปโภคพื้นฐานสำหรับคนไทย และการช่วยเหลือทางการแพทย์ ซึ่งมีทั้งแพทย์พลเรือนและแพทย์ ทหารระหว่างการฝึกภาคสนาม ผู้เข้า ร่วมฝึกจะดำเนินการฝึกเพื่อเพิ่มประ สิทธิภาพการปฏิบัติการและสานสัม พันธ์ในภูมิภาค สำหรับชาติที่ได้รับเชิญเข้าร่วมสังเกตการณ์การฝึกมี 6 ชาติ

 

สำหรับประเทศที่เข้าร่วมฝึกหลักประกอบด้วย ไทย สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินเดีย และจีน

 

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวผ่านรายการมองไกล ทางพีซทีวี ว่าเคยเห็นการยึดอำนาจ 19 ก.ย.49 ไปซื้อฝูงบินโดยงบผูกพันซื้อแพงเกินจริง หรือกรณีซื้อรถหุ้มเกราะยูเครน ไม่อยากให้รัฐบาลชุดนี้ถูกข้อครหา เช่น เรื่องการสร้างทางรถไฟ ไม่รู้ว่าจีนหรือประเทศใดจะได้เอ็มโอยูที่จะลงนาม อยากให้คนไทยได้รู้ว่าเขาจะได้อะไรบ้าง จะได้ไม่เกิดความเสียหาย ไม่อยากให้เป็นเหมือนลาว พม่า เกิดกรณีพิพาทสิทธิ 2 ข้างทางนั้นต้องเป็นของประเทศใดกันแน่ ในไทยไม่อยากให้มีเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่อยากให้มีเรื่องรัฐซ้อนรัฐ

 

แหล่งข่าวนายทหารระดับสูงของกองทัพบกยอมรับว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ทหารของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ได้เชิญตัวนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย มาพูดคุยเพื่อปรับทัศนคติตามกฎอัยการศึกตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม. 2 รอ.) หลังจากที่ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายแพทริก เมอร์ฟี อุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย โดยมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์การถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และโจมตีการทำงานของรัฐบาล ซึ่งล่าสุดอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไปหรือไม่.

 

บรรยายใต้ภาพ

พล.อ.ฉางว่านฉวน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐประชาชนจีน ถ่ายรูปร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในระหว่างเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/tpd/2087914

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทเปิด 32.58/60 แนวโน้มแข็งค่า จับตาเงินทุนไหลเข้า

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 26 มกราคม 2558 09:25:58 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.58/60 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อยจากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.60/62 บาท/ดอลลาร์

 

ล่าสุดเงินบาทแข็งค่าไปอยู่ที่ระดับ 32.55/56 บาท/ดอลลาร์ วันนี้แนวโน้มยังมีโอกาสแข็งค่าได้ต่อ เนื่องจากยังมีการขายดอลลาร์ต่อเนื่อง ซึ่งการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้คงขึ้นอยู่กับ flow เป็นหลัก เพราะมีเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามามากในระยะนี้ทั้งตลาดหุ้นในเอเชียและตลาดหุ้นไทย ภายหลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป(ECB) ประกาศเพิ่มมาตรการ QE ซึ่งจะเริ่มมีผลในเดือนมี.ค.นี้

 

 

 

นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.45-32.60 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 117.71 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 118.44/45 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1168 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1234/1235 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.5930 บาท/ดอลลาร์

 

- สำนักวิจัยเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่คาด กนง. ตัดสินใจ "คง" ดอกเบี้ยนโยบายที่ 2% วันพุธนี้ ระบุรอความชัดเจนจาก สศช.ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 4 ปี 2557 ช่วง 16 ก.พ.นี้ คาด กนง.ไม่ลดดอกเบี้ย เพื่อดึงค่าเงินบาทอ่อน หวั่นได้ไม่คุ้มเสีย

 

- นักเศรษฐศาสตร์ เตือนรับมือ "สงครามค่าเงิน" หลัง "อีซีบี" อัดฉีดคิวอี ขณะที่หลายประเทศเริ่มทยอยลดดอกเบี้ย เพื่อหลบเลี่ยงผล กระทบ ห่วงส่งออกไทยสูญเสียความสามารถแข่งขัน พร้อมยืนยันไม่เห็นด้วย ลดดอกเบี้ยเพื่อดึงบาทอ่อน เกรงสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลง แนะสนับสนุนคนไทยออกไปลงทุนต่างประเทศแทน

 

- ธปท.เผยหนี้ครัวเรือน 85% ขึ้นไปเป็นจุดอันตราย แจงการก่อหนี้ใหม่ของครัวเรือนไทยเริ่มลดลง รับอาจไปโผล่ผ่านยอด NPL สูงขึ้น แต่ไม่ใช่ระเบิดเวลา เหตุแบงก์เห็นสัญญาณ ระวังปล่อยกู้ หวังเมื่อตัวเร่งหนี้จากโครงการรถยนต์หมดอายุปลายปี 59 และเมื่อเศรษฐกิจกลับดีขึ้นช่วยให้ยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนในระบบลดลง ล่าสุดยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนแตะ 10.22 ล้านล้านบาท ทุบสถิติเพิ่มขึ้นแทบทุกเดือน ทำให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนขยับ 84.7%

 

- แบงก์เกาะติดตลาดอสังหาฯ ต่างจังหวัด หลังพบบางโครงการพับแผนคืนเงินลูกค้า เหตุยอดจองไม่เข้าเป้า เสนอใช้กฎหมาย เอสโครว์ แอคเคานท์ ดูแลลูกค้า ธอส.รับคอนโด หัวเมืองใหญ่เสี่ยง เหตุเปิดตัวจำนวนมาก ซีไอเอ็มบี เผยยอดปฏิเสธสินเชื่อแตะ 30-35%

 

- นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เปิดเผยว่า หลังจากธนาคารพาณิชย์ปรับตัวสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ด้วยการเป็นดิจิทัลแบงก์กิ้งเต็มรูปแบบ ธปท.ก็จะเข้มงวดความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ (Operational Risk) ให้มากขึ้น เพื่อให้ระบบปลอดภัยมากที่สุด เพราะอาจถูกแฮ็กเกอร์เจาะระบบมาขโมยข้อมูลลูกค้าได้

 

- รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ทบทวนการจัดเก็บรายได้ของปีงบประมาณ 58 ใหม่ เพื่อใช้ในการจัดทำงบประมาณปี 59 ที่ได้รับความเห็นชอบจาก ครม. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ว่าจะเก็บรายได้ปีงบประมาณ 58 ได้จริง 2.2 ล้านล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2.32 ล้านล้านบาท หรือเก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 120,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5%

 

- กระทรวงการคลังทบทวนภาวะเศรษฐกิจไทยปีนี้ใหม่ หลังปัจจัยเปลี่ยนแปลงเพียบ ทำใจส่งออกพึ่งยาก นักเศรษฐศาสตร์ประเมิน กนง.คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ก่อน รอดูทิศทางให้ชัด

 

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (23 ม.ค.) เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักในตระกร้าเงิน อันเนื่องมาจากการปรับตัวดีขึ้นของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ในขณะที่ยูโรยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่อง จากการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางยุโรป (ECB)

 

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 30 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,000 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,299.75 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.25 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

 

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ (23 ม.ค.) เนื่องจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าการคาดการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 72 เซนต์ ปิดที่ 45.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 27 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.79 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2078869

 

กรีซย้ำจุดยืนค้านมาตรการรัดเข็มขัด-ไม่ขยายโครงการรับเงินช่วยเหลือ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2558 10:10:00 น.

นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ชี้แจงนโยบายต่อรัฐสภาว่า รัฐบาลใหม่ของกรีซจะยังคงจุดยืนคัดค้านการใช้มาตรการรัดเข็มขัด และจะไม่เรียกร้องให้มีการขยายโครงการรับเงินช่วยเหลือซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 28 กุมภาพันธ์

 

รัฐบาลกรีซจะหาทางจัดทำข้อตกลงร่วมกับกลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศ จนกว่าจะมีการลงนามในข้อตกลงอย่างสมบูรณ์ ภายหลังการเจรจาหนี้รอบใหม่

 

 

 

"รัฐบาลไม่มีสิทธิ์เรียกร้องให้มีการขยายกรอบข้อตกลงและมาตรการรัดเข็มขัด รัฐบาลไม่มีสิทธิ์เรียกร้องการขยายมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งประชาชนชาวกรีซได้แสดงจุดยืนคัดค้านไปเมื่อไม่นานมานี้" นายซิปราส กล่าว ขณะชี้แจงนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ที่นำโดยพรรคไซรีซาที่เป็นพรรคซ้ายจัดของกรีซ ซึ่งได้ก่อตัวขึ้นภายหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ก่อนที่จะเปิดการลงมติไว้วางใจในคืนวันพรุ่งนี้

 

ผู้นำกรีซเปิดเผยว่า รัฐบาลมีเป้าหมายหลักเพื่อ "กอบกู้อำนาจอธิปไตยของปวงชน รวมถึงบทบาทอันเท่าเทียมของกรีซในกรอบการดำเนินงานของสหภาพยุโรป ในการรับมือกับวิกฤติด้านมนุษยธรรม พร้อมกอบกู้ศักดิ์ศรีของประชาชนชาวกรีซ ความยุติธรรมทางสังคม และความเฟื่องฟูทางวัฒนธรรม" สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2088963

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จีนเตือนเศรษฐกิจทั่วโลกอาจเผชิญความท้าทายรุนแรงในปีนี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2558 10:48:00 น.

นายจู กวงเหยา รมช.คลังของจีนกล่าวว่า เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่และรุนแรงซึ่งเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและซับซ้อนในปี 2558

 

นายจูกล่าวแสดงความคิดเห็นดังกล่าวในระหว่างการประชุมเจ้าหน้าที่ด้านการเงินและการธนาคารจากกว่า 40 ประเทศ ก่อนการประชุมระดับรัฐมนตรีของกลุ่ม G20 ที่ประเทศตุรกี โดยนายจูได้เน้นย้ำถึงความเสี่ยงของเศรษฐกิจทั่วโลก พร้อมกับเรียกร้องให้มีความพยายามร่วมกันในการเผชิญกับความท้าทายดังกล่าว

 

 

 

"การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่เป็นไปอย่างซบเซานั้น ถือเป็นความท้าทายแท้จริงที่สมาชิกทุกประเทศของ G20 กำลังเผชิญอยู่" นายจูกล่าวโดยอ้างถึงกรณีที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลงสู่ระดับ 3.5% เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา จากเดิมที่ระดับ 3.8%

 

นอกจากนี้ นายจูกล่าวว่า นโยบายการเงินที่แตกต่างกันและราคาน้ำมันที่ร่วงลงนั้น ถือเป็นความเสี่ยงที่ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกอยู่ในภาวะผันผวนด้วย ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เสร็จสิ้นโครงการซื้อสินทรัพย์และอยู่ในระหว่างการปรับนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งคาดว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การประชุม G20 เป็นเวลา 2 วันซึ่งจัดขึ้นที่เมืองอิสตันบูลของตุรกีนั้น ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงและกลุ่มเจ้าหนี้ภาคเอกชนในประชาคมการเงินระหว่างประเทศ ได้หารือกันในหลากหลายประเด็น ตั้งแต่การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม การสร้างงาน และการสนับสนุนภาคเอกชนในการลงทุนด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2089010

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บึ้มหน้าสรรพาวุธทหารบกสะพานแดง ทหารเจ็บ9รายสาหัส1

http://www.naewna.com/local/143662

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10959579_882391331857818_6068108182089727186_n.jpg?oh=87537914751c6f1838dd51bee0f6cdbe&oe=5593BC3F&__gda__=1430988373_6aa6cfdb5256c9a18a21574890ba970d

 

สวัสดีเพื่อนๆพี่น้องนักลงทุน มธรรมะใส่ใจ แจ่มใสทุกวันนะพวกเรา

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $6.9 เหตุตลาดหุ้นร่วงหนุนแรงซื้อทอง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ 2558 07:33:18 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กและสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 6.9 ดอลลาร์ หรือ 0.56% ปิดที่ระดับ 1,241.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 37.6 เซนต์ ปิดที่ 17.07 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 1.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,220.40 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินอื่นๆ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและสกุลหลักๆในตะกร้าเงินนั้น ปรับตัวลง 0.25% แตะที่ 94.4570

นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กและยุโรปยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสาเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นอ่อนแรงลงนั้น มาจากถ้อยแถลงของนายรัฐมนตรีอเล็กซิส ซิปราสของกรีซที่ว่า รัฐบาลชุดใหม่ของกรีซจะยังคงจุดยืนในการต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด จะไม่เรียกร้องให้มีการขยายโครงการรับเงินช่วยเหลือในปัจจุบัน ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 28 ก.พ.นี้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ 2558 07:44:47 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 9 ก.พ. 2558

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าการเจรจาเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของกรีซอาจจะล้มเหลว หลังจากผู้นำกรีซยืนกรานว่าจะไม่ยอมรับมาตรการรัดเข็มขัด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากจีนเปิดเผยว่ายอดส่งออกหดตัวลงในเดือนม.ค.

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,729.21 จุด ลดลง 95.08 จุด หรือ -0.53% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,726.01 จุด ลดลง 18.39 จุด หรือ -0.39% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,046.74 จุด ลดลง 8.73 จุด หรือ -0.42%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า วิกฤตเศรษฐกิจและหนี้สินของกรีซอาจจะลุกลามจนกลายเป็นปัญหาทางการเมือง หลังจากนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของกรีซประกาศกร้าวว่า รัฐบาลยังคงจุดยืนคัดค้านการใช้มาตรการรัดเข็มขัด และจะไม่ขยายโครงการรับเงินช่วยเหลือจากเจ้าหนี้ต่างประเทศ

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.7% ปิดที่ 370.55 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,651.08 จุด ลดลง 39.95 จุด หรือ -0.85% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,663.51 จุด ลดลง 182.88 จุด หรือ -1.69% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,837.15 จุด ลดลง 16.29 จุด หรือ -0.24%

 

--ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ หลังจากนายกรัฐมนตรีกรีซเน้นย้ำท่าทีในการต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล

 

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 16.29 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 6,837.15 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบของประเทศนอกกลุ่มโอเปกในปีนี้

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 52.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 54 เซนต์ ปิดที่ 58.34 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- -สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กและสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 6.9 ดอลลาร์ หรือ 0.56% ปิดที่ระดับ 1,241.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 37.6 เซนต์ ปิดที่ 17.07 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 1.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,220.40 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบยูโรและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) แม้ว่ามีความตึงเครียดมากขึ้นเกี่ยวกับการเจรจาหนี้สินของกรีซ

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1336 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1318 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5230 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5232 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.41 เยน เทียบกับระดับ 119.14 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9211 ฟรังก์ จาก 0.9269 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7814 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7792 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,729.21 จุด ลดลง 95.08 จุด, -0.53%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,726.01 จุด ลดลง 18.39 จุด, -0.39%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,046.74 จุด ลดลง 8.73 จุด, -0.42%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,651.08 จุด ลดลง 39.95 จุด, -0.85%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,663.51 จุด ลดลง 182.88 จุด, -1.69%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,837.15 จุด ลดลง 16.29 จุด, -0.24%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,227.39 จุด ลดลง 490.52 จุด, -1.71%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,418.02 จุด ลดลง 13.34 จุด, -0.39%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,811.58 จุด ลดลง 1.67 จุด, -0.09%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,348.47 จุด เพิ่มขึ้น 5.95 จุด, +0.11%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,521.00 จุด ลดลง 158.39 จุด, -0.64%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,782.57 จุด เพิ่มขึ้น 54.39 จุด, +0.70%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,095.12 จุด เพิ่มขึ้น 19.22 จุด, +0.62%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,947.00 จุด ลดลง 8.52 จุด, -0.44%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,711.93 จุด เพิ่มขึ้น 63.43 จุด, +0.36%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,421.50 จุด ลดลง 34.68 จุด, -0.37%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,814.90 จุด ลดลง 5.30 จุด, -0.09%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2089536

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบยูโร แม้ปัญหาหนี้กรีซยังตึงเครียด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ 2558 07:27:08 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบยูโรและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) แม้ว่ามีความตึงเครียดมากขึ้นเกี่ยวกับการเจรจาหนี้สินของกรีซ

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1336 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1318 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5230 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5232 ดอลลาร์

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.41 เยน เทียบกับระดับ 119.14 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9211 ฟรังก์ จาก 0.9269 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7814 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7792 ดอลลาร์

 

อนาคตของกรีซในยูโรโซนยังคงเป็นประเด็นที่ตลาดจับตา ขณะที่นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซิปราสของกรีซได้แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลใหม่ของกรีซจะยังคงจุดยืนในการต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด จะไม่เรียกร้องให้มีการขยายโครงการรับเงินช่วยเหลือในปัจจุบัน ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 28 ก.พ.นี้

 

นายซิปราสกล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลกรีซจะหาทางจัดทำข้อตกลงร่วมกับกลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศ จนกว่าจะมีการลงนามในข้อตกลงอย่างสมบูรณ์ ภายหลังการเจรจาหนี้รอบใหม่

 

ทั้งนี้ กรีซจะยื่นข้อเสนอในการประชุมฉุกเฉินของบรรดารัฐมนตรีคลังยูโรโซนที่กรุงบรัสเซลส์ในวันพุธนี้

 

ด้านนายกรัฐมนตรีอังเกล่า แมร์เคลของเยอรมนี ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐเพื่อหาทางออกประเด็นความขัดแย้งในยูเครน ได้กล่าววานนี้ว่า เยอรมนีต้องการให้กรีซยังคงอยู่ในยูโรโซนต่อไป แต่ข้อตกลงควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของพันธสัญญาการให้ความช่วยเหลือที่มีอยู่ในปัจจุบัน

 

ส่วนนายฌอง-คล้อด ยุงเกอร์ ประธานกรรมาธิการยุโรป (อีซี) กล่าวเตือนว่า กรีซอย่าได้คาดหวังว่ายูโรโซนจะยอมโอนอ่อนต่อข้อเรียกร้องในการยุติมาตรการรัดเข็มขัด

 

นอกจากนี้ เขายังคาดการณ์ว่า การเจรจาเกี่ยวกับวิกฤติหนี้กรีซในการประชุมรัฐมนตรีคลังของสหภาพยุโรป (อียู) ในวันพุธนี้ และการเจรจาสุดยอดผู้นำอียูในวันพฤหัสบดีนี้ จะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงแต่อย่างใด

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2089532

 

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 95.08 จุด หวั่นปัญหาหนี้กรีซลุกลาม

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ 2558 06:21:16 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าการเจรจาเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของกรีซอาจจะล้มเหลว หลังจากผู้นำกรีซยืนกรานว่าจะไม่ยอมรับมาตรการรัดเข็มขัด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากจีนเปิดเผยว่ายอดส่งออกหดตัวลงในเดือนม.ค.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,729.21 จุด ลดลง 95.08 จุด หรือ -0.53% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,726.01 จุด ลดลง 18.39 จุด หรือ -0.39% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,046.74 จุด ลดลง 8.73 จุด หรือ -0.42%

 

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เนื่องจากภาวะการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากปัญหาหนี้กรีซ หลังจากที่นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ประกาศกร้าวว่า รัฐบาลชุดใหม่ของกรีซจะยังคงจุดยืนคัดค้านการใช้มาตรการรัดเข็มขัด และจะไม่เรียกร้องให้มีการขยายโครงการรับเงินช่วยเหลือซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 28 ก.พ.

ถ้อยแถลงของนายซิปราสได้สร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยุโรโซน โดยนายฌอง-คล้อด ยุงเกอร์ ประธานกรรมาธิการยุโรป (อีซี) เตือนว่า กรีซอย่าได้คาดหวังว่ายูโรโซนจะยอมโอนอ่อนต่อข้อเรียกร้องในการยุติมาตรการรัดเข็มขัด

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากจีนเปิดเผยว่า ยอดส่งออกลดลง 3.2% แตะที่ 1.23 ล้านล้านหยวน ขณะที่ยอดนำเข้าร่วงลง 19.7% แตะที่ 8.60 แสนล้านหยวน ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าพุ่งขึ้น 87.5% แตะที่ 3.669 แสนล้านหยวน

หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ร่วงลง โดยหุ้นแมคเคนเซน และหุ้นเอ็ดเวิร์ดส์ ไลฟ์ซายส์ ต่างก็ร่วงลงกว่า 2%

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยหุ้นทรานส์โอเชียน และหุ้นโนเบิล ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 5.9%

นักลงทุนจับตาดูการประชุมวาระพิเศษของรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนในวันที่ 11 ก.พ. โดยที่ประชุมจะหารือเกี่ยวกับการสนับสนุนทางการเงินต่อกรีซ ขณะที่เตรียมการสำหรับผู้นำของอียูที่จะเจรจาในเรื่องดังกล่าวในวันที่ 12 ก.พ.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนธ.ค., ดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐเดือนม.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนม.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค.,ราคานำเข้าและส่งออกเดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.พ.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

หุ้นกรีซดิ่ง บอนด์ยิลด์พุ่ง หลังนายกฯย้ำจุดยืนขวางมาตรการรัดเข็มขัด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2558 19:07:38 น.

ตลาดหุ้นกรีซดิ่งลงในวันนี้ หลังผู้นำกรีซย้ำจุดยืนคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัด

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นเอเธนส์ทรุดตัวลงในวันนี้ใกล้แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มีการปรับโครงสร้างหนี้กรีซในปี 2012 และดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลงเกือบ 10% ใกล้แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลกรีซประเภท 3 ปีพุ่งขึ้นเกือบ 22%

 

 

 

นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ชี้แจงนโยบายต่อรัฐสภาว่า รัฐบาลใหม่ของกรีซจะยังคงจุดยืนคัดค้านการใช้มาตรการรัดเข็มขัด และจะไม่เรียกร้องให้มีการขยายโครงการรับเงินช่วยเหลือซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 28 ก.พ.

 

"รัฐบาลไม่มีสิทธิ์เรียกร้องให้มีการขยายกรอบข้อตกลงและมาตรการรัดเข็มขัด รัฐบาลไม่มีสิทธิ์เรียกร้องการขยายมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งประชาชนชาวกรีซได้แสดงจุดยืนคัดค้านไปเมื่อไม่นานมานี้" นายซิปราสกล่าว ขณะชี้แจงนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ที่นำโดยพรรคไซรีซาที่เป็นพรรคฝ่ายซ้ายของกรีซ

 

ผู้นำกรีซเปิดเผยว่า รัฐบาลมีเป้าหมายหลักเพื่อ "กอบกู้อำนาจอธิปไตยของปวงชน รวมถึงบทบาทอันเท่าเทียมของกรีซในกรอบการดำเนินงานของสหภาพยุโรป ในการรับมือกับวิกฤติด้านมนุษยธรรม พร้อมกอบกู้ศักดิ์ศรีของประชาชนชาวกรีซ ความยุติธรรมทางสังคม และความเฟื่องฟูทางวัฒนธรรม"

 

ทางด้านนายยานิส วารูเฟกิส รมว.คลังกรีซ กล่าวเตือนว่า หากกรีซถูกบังคับให้ออกจากยูโรโซน ประเทศอื่นก็จะออกตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งจะส่งผลให้ยูโรโซนล่มสลายลง

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2089496

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินหยวนแข็งค่าแตะ 6.1295 หยวนต่อดอลลาร์เช้านี้

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ 2558 08:44:37 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า ปรับตัวขึ้น 0.16% แตะที่ 6.1295 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ศศิประภา อัครภูติ/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดลบ 49.26 จุด เหตุวิตกปัญหาหนี้กรีซ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ 2558 07:41:19 น.

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดปรับตัวลดลง 49.26 จุด หรือ -0.28% แตะที่ 17,662.67 จุดในวันนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ในยูโรโซน ซึ่งความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวได้สกัดปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หุ้นกลุ่มที่ปรับตัวลงในเช้าวันนี้ รวมถึงหุ้นกลุ่มโลหะนอกกลุ่มเหล็ก กลุ่มเครื่องจักร และกลุ่มเภสัชภัณฑ์ ในขณะที่กลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2089534

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...