ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 305.36 จุด รับข่าวเจรจาหนี้กรีซ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 06:32:41 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาหนี้ของรัฐบาลกรีซชุดใหม่ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบ

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,666.40 จุด พุ่งขึ้น 305.36 จุด หรือ +1.76% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,050.03 จุด เพิ่มขึ้น 29.18 จุด หรือ +1.44% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,727.74 จุด เพิ่มขึ้น 51.05 จุด หรือ +1.09%

 

 

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นขานรับข่าวที่ว่า รัฐบาลชุดใหม่ของกรีซมีท่าทีอ่อนลงต่อการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ โดยจะไม่ขอลดมูลค่าหนี้ โดยกรีซยื่นข้อเสนอปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหม่

 

นายยานิส วารูเฟกิส รมว.คลังกรีซ กล่าวว่า กรีซจะไม่ขอให้เจ้าหนี้ลดมูลค่าหนี้ลง ขณะที่กรีซจะยื่นข้อเสนอสว็อปพันธบัตรกับฝ่ายเจ้าหนี้ โดยจะแลกเปลี่ยนพันธบัตรของรัฐบาลกรีซที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และรัฐบาลประเทศอื่นๆถือครองอยู่นั้น ให้เป็นพันธบัตรที่มีผลตอบแทนอิงกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และพันธบัตรประเภท Perpetual bonds ซึ่งจะจ่ายดอกเบี้ยเมื่อมีผลกำไร และไม่มีการสะสมดอกเบี้ยจ่าย

 

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่พุ่งขึ้น 2.78% โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิล และหุ้นเชฟรอน ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 3% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 7% อันเนื่องมาจากรายงานที่ว่า บริษัทพลังงานหลายแห่งวานแผนที่จะปรับลดการลงทุนในปีนี้

 

หุ้นเลนดิง คลับ ทะยานขึ้น 5.35% หลังจากบริษัทประกาศเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับอาลีบาบา เพื่อจัดหาเงินกู้ให้กับธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐ เพื่อให้ธุรกิจเหล่านี้สามารถซื้อสินค้าจากซัพพลายเออร์ของจีนได้อย่างคล่องตัว ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นอาลีบาบา ดีดตัวขึ้น 0.53%

 

หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) ปรับตัวขึ้น 2.63% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น 18% ในเดือนม.ค. สู่ระดับ 202,786 คัน ซึ่งเป็นยอดขายที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 7 ปี

 

หุ้นยูไนเต็ด พาร์เซล เซอร์วิส (UPS) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ ขยับขึ้น 0.44% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2557 อยู่ที่ 1.25 ดอลลาร์ ซึ่งทรงตัวจากไตรมาส 4/2556

 

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันในเดือนธ.ค. โดยลดลง 3.4% ขณะที่อุปสงค์ร่วงลงในวงกว้างในภาคอุตสาหกรรม หลังจากที่ลดลง 1.7% ในเดือนพ.ย.

 

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขจ้างงานเดือนม.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนม.ค., ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ประสิทธิภาพการผลิต-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเบื้องต้นในไตรมาส 4/2557 และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2085401

 

infoquest.gif

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $3.48 หลังบริษัทพลังงานแห่ลดการลงทุน

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 07:08:33 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) หลังจากมีรายงานว่า บริษัทพลังงานหลายแห่งได้ปรับลดการลงทุนด้านการผลิตน้ำมัน หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 3.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 3.16 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจากบริษัทพลังงานหลายแห่งประกาศปรับลดการลงทุนด้านการผลิตน้ำมัน รวมถึงบริษัทบริติช ปิโตรเลียม (BP) ที่ระบุว่า ทางบริษัทจะลดค่าใช้จ่ายในการลงทุน 13% ในปีนี้ หลังราคาน้ำมันปรับตัวลงอย่างมาก

การประกาศลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนของ BP มีขึ้นหลังจากที่บริษัทเชฟรอนประกาศเช่นเดียวกันในสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่าจะลดค่าใช้จ่ายลง 13% สู่ระดับ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์

ขณะที่เอ็กซอน โมบิลเปิดเผยว่า บริษัทมียอดการลงทุนในปี 2557 อยู่ที่ 3.85 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 4 พันล้านดอลลาร์จากปี 2556 พร้อมกับคาดว่า ทางบริษัทอาจจะใช้เงินลงทุนต่ำกว่า 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์ในอีกหลายปีข้างหน้า

ส่วนเชฟรอน คอร์ปอเรชันเปิดเผยว่า ทางบริษัทจะลดค่าใช้จ่ายลง 13% สู่ระดับ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และรอยัล ดัทช์ เชลล์ ประกาศตัดงบรายจ่ายด้านการลงทุน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 3 ปีข้างหน้า หลังเผยกำไรลดลงจากการทรุดตัวของราคาน้ำมัน

นอกจากนี้ ผลการสำรวจของเบเกอร์ ฮิวจ์ระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐ ปรับตัวลง 7% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า จำนวนแท่นขุดเจาะที่ลดลงนั้น เป็นสัญญาณว่าการร่วงลงของราคาน้ำมันจะส่งผลต่อการผลิตน้ำมันในอนาคต

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ตลาดหุ้นยุโรปพุ่งใกล้นิวไฮ 7 ปี รับข่าวกรีซยอมอ่อนข้อเจรจาหนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 00:10:58 น.

ตลาดหุ้นยุโรปพุ่งขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีในวันนี้ ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาหนี้กรีซ หลังจากที่รัฐบาลกรีซมีท่าทีอ่อนลงจากจุดยืนที่แข็งกร้าวก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ดัชนี FTSEurofirst 300 บวก 0.8% สู่ 1,479.23 จุด ใกล้ระดับ 1,490.02 ที่ทำไว้ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ส่วนตลาดหุ้นเยอรมันดีดตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ตลาดหุ้นสเปน และอิตาลีพุ่งขึ้นเช่นกัน

 

 

ยูโรแข็งค่าขึ้น 1% สู่ระดับ 1.15 ดอลลาร์ ขณะที่ตลาดหุ้นกรีซทะยานขึ้นเกือบ 10% โดยหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น

รัฐบาลใหม่ของกรีซมีท่าทีอ่อนลงต่อการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ โดยจะไม่ขอลดมูลค่าหนี้ ขณะที่ยื่นข้อเสนอปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหม่

ทั้งนี้ นายยานิส วารูเฟกิส รมว.คลังกรีซ ระบุว่า กรีซจะไม่ขอให้เจ้าหนี้ลดมูลค่าหนี้ลง ขณะที่กรีซจะยื่นข้อเสนอสว็อปพันธบัตรกับฝ่ายเจ้าหนี้ โดยจะแลกเปลี่ยนพันธบัตรของรัฐบาลกรีซที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และรัฐบาลประเทศอื่นๆถือครองอยู่นั้น ให้เป็นพันธบัตรที่มีผลตอบแทนอิงกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และพันธบัตรประเภท Perpetual bonds ซึ่งจะจ่ายดอกเบี้ยเมื่อมีผลกำไร และไม่มีการสะสมดอกเบี้ยจ่าย

นอกจากนี้ นายวารูเฟกิสยังระบุว่าเขาไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งกับสหภาพยุโรป (EU) เกี่ยวกับการทำข้อตกลงหนี้ฉบับใหม่

นายวารูเฟกิส มีกำหนดเข้าพบนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพรุ่งนี้ และจะเข้าหารือกับรมว.คลังเยอรมันในวันพฤหัสบดี

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

 

 

Thanong Fanclub

2 hrs · Edited ·

 

 

แบงค์ชาติแทรกแซงหนักเพื่อดันบาทให้อ่อน

นักข่าวThe Nationรายงานว่า มรว ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีได้เปิดเผยว่าธนาคารแห่งประเทศไทยได้อัดฉีดเงินบาทมหาศาลเพื่อให้บาทยืนอยู่ในระดับ32บาทต่อดอลล่าร์ในระยะ2สัปดาห์ที่ผ่านมา

หม่อมอุ๋ยชมแบงค์ชาติว่าทำได้ดีมาก มิเช่นนั้นแล้ว เงินบาทจะแข็งไปอยู่ที่30บาทต่อดอลล่าร์ เพราะว่าเงินไหลเข้าประเทศไทยมาก

 

เงินทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมาเนื่องจากทางEuropean Central Bankประกาศว่าจะเตรียมการทำคิวอีด้วยการอัดฉีดสภาพคล่อง$70,000ต่อเดือน

หลายๆประเทศรวมทั้งสิงคโปร์ล่าสุดแข่งกันลดค่าเงิน หลังจากทั้งญี่ปุ่นและยุโรปทำคิวอีเพื่อลดค่าเงินตัวเอง เพิ่มสภาพคล่องและรบกับภาวะเงินฝืด ออสเตรเลียเพิ่งลดดอกเบี้ยไป0.25% เป็น2.25%.

แบงค์ชาติไทยไม่เลือกที่จะลดดอกเบี้ย ซึ่งอยู่ในระดับต่ำอยู่แล้ว แต่หันมาลดค่าเงินแทนผ่านการขายบาทซื้อดอลล่าร์

สรุปแล้วไทยก็เข้าร่วมสงครามค่าเงินกับเขาแล้วด้วย โดยที่ผู้ส่งออกได้ประโยชน์เพราะว่าได้ได้เพิ่มอีก2บาทจากทุกๆ1ดอลล่าร์ที่ขายของได้ในช่วงนี้ เนื่องจากนโยบายสมนาคุณของแบงค์ชาติ แต่สำหรับประชาชนทั่วไปอำนาจซื้อจะลดลงไป2บาทจากทุกๆ1 ดอลล่าร์ เพราะว่าค่าเงินบาทอ่อนค่าลงไป โดยที่cost หรือภาระทางการเงินอื่นๆ หรือดอกเบี้ยไม่ได้ลด รวมทั้งค่าน้ำมันที่ควรจะซื้อเข้ามาถูกๆ เพราะว่าราคาน้ำมันตกต่ำ แต่จะต้องจ่ายแพงขึ้นเพราะว่าบาทอ่อน

หักลบกลบหนี้ออกมาแล้ว ประเทศไทยโดยรวมได้ประโยชน์ที่สุดหรือไม่จากนโยบายแทรกแซงให้บาทอ่อนของแบงค์ชาติ ให้คิดเอาเองก็แล้วกัน

thanong

4/2/2015

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 07:47:01 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 ก.พ.2558

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาหนี้ของรัฐบาลกรีซชุดใหม่ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบ

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,666.40 จุด พุ่งขึ้น 305.36 จุด หรือ +1.76% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,050.03 จุด เพิ่มขึ้น 29.18 จุด หรือ +1.44% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,727.74 จุด เพิ่มขึ้น 51.05 จุด หรือ +1.09%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ) เพราะได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่ารัฐบาลชุดใหม่ของกรีซมีท่าทีอ่อนลงต่อการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ โดยที่กรีซจะไม่ขอลดมูลค่าหนี้ ซึ่งความคืบหน้าดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า กรีซอาจจะไม่เผชิญกับปัญหาหนี้สินจนถึงกับต้องถูกบีบให้ออกจากกลุ่มยูโรโซน

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.8% ปิดที่ 370.28 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,677.90 จุด เพิ่มขึ้น 50.23 จุด หรือ +1.09% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,890.95 จุด เพิ่มขึ้น 62.94 จุด หรือ +0.58% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,871.80 จุด เพิ่มขึ้น 89.25 จุด หรือ +1.32%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) ขณะหุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้นต่อเนื่อง ตามการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดยังคลายวิตกเกี่ยวกับกรีซ หลังจากการเจรจาปัญหาหนี้สินของกรีซส่งสัญญาณในเชิงบวก

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 89.25 จุด หรือ 1.32% ปิดที่ 6,871.80 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) หลังจากมีรายงานว่า บริษัทพลังงานหลายแห่งได้ปรับลดการลงทุนด้านการผลิตน้ำมัน หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 3.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 3.16 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาหนี้ของกรีซ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 16.6 ดอลลาร์ หรือ 1.30% ปิดที่ระดับ 1,260.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 7 เซนต์ ปิดที่ 17.321 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 6.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,235.20 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) ขณะที่รัฐบาลใหม่ของกรีซมีท่าทีอ่อนลงในการเจรจาประเด็นหนี้สินของประเทศ โดยได้ยื่นข้อเสนอในการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหม่ และจะไม่ขอลดมูลค่าหนี้

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1490 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1346 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5165 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5037 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 117.56 เยน เทียบกับระดับ 117.23 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9224 ฟรังก์ จาก 0.9283 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7808 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7805 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,666.40 จุด เพิ่มขึ้น 305.36 จุด +1.76%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,727.74 จุด เพิ่มขึ้น 51.05 จุด +1.09%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,050.03 จุด เพิ่มขึ้น 29.18 จุด +1.44%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,871.80 จุด เพิ่มขึ้น 89.25 จุด +1.32%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,890.95 จุด เพิ่มขึ้น 62.94 จุด +0.58%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,677.90 จุด เพิ่มขึ้น 50.23 จุด +1.09%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,666.20 จุด เพิ่มขึ้น 79.70 จุด +1.43%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,707.40 จุด เพิ่มขึ้น 82.10 จุด +1.46%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,448.73 จุด เพิ่มขึ้น 61.74 จุด +0.66%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,335.85 จุด ลดลง 222.19 จุด -1.27%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,951.96 จุด ลดลง 0.72 จุด -0.04%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,204.91 จุด เพิ่มขึ้น 76.61 จุด +2.45%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,613.15 จุด ลดลง 17.56 จุด -0.23%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,554.78 จุด เพิ่มขึ้น 70.04 จุด +0.29%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,291.72 จุด เพิ่มขึ้น 15.48 จุด +0.29%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,408.02 จุด ลดลง 15.33 จุด -0.45%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 29,000.14 จุด ลดลง 122.13 จุด -0.42%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2085410

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบยูโร ขณะกรีซเสนอแผนปรับโครงสร้างหนี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 07:30:09 น.

ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) ขณะที่รัฐบาลใหม่ของกรีซมีท่าทีอ่อนลงในการเจรจาประเด็นหนี้สินของประเทศ โดยได้ยื่นข้อเสนอในการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหม่ และจะไม่ขอลดมูลค่าหนี้

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1490 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1346 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5165 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5037 ดอลลาร์

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 117.56 เยน เทียบกับระดับ 117.23 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9224 ฟรังก์ จาก 0.9283 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7808 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7805 ดอลลาร์

 

นายยานิส วารูเฟกิส รมว.คลังของกรีซกล่าวที่กรุงลอนดอนว่า รัฐบาลใหม่ของกรีซจะไม่ขอให้เจ้าหนี้ลดมูลค่าหนี้ลง แต่จะเสนอทางเลือกอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการสว็อปพันธบัตรกับฝ่ายเจ้าหนี้ โดยจะแลกเปลี่ยนพันธบัตรของรัฐบาลกรีซที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และรัฐบาลประเทศอื่นๆถือครองอยู่นั้น ให้เป็นพันธบัตรที่มีผลตอบแทนอิงกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และพันธบัตรประเภท Perpetual bonds ซึ่งจะจ่ายดอกเบี้ยเมื่อมีผลกำไร และไม่มีการสะสมดอกเบี้ยจ่าย

 

ความคิดเห็นของรัฐมนตรีคลังกรีซได้ช่วยผ่อนคลายความกังวลของตลาดเกี่ยวกับความไร้เสถียรภาพในยูโรโซน และหลังจากนั้น ค่าเงินยูโรก็ได้พุ่งขึ้น 1.26% เมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ

 

ทางด้านดอลลาร์สหรัฐได้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ โดยมีแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันในเดือนธ.ค. โดยลดลง 3.4% ขณะที่อุปสงค์ร่วงลงในวงกว้างในภาคอุตสาหกรรม หลังจากที่ลดลง 1.7% ในเดือนพ.ย.

 

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานจะลดลง 2.2% ในเดือนธ.ค.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2085404

 

10405263_631404323660998_4763125278740723227_n.jpg?oh=f337a086bcdbe3b97085667da1ee6a71&oe=556918D4&__gda__=1432857058_6634adb37c779b9c908da98948cdca84

มาแข่งกันเพื่อน ....

โชคดี มีสุขนะคะทุกคน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ระยะสั้นปัจจัยบวกลดลง แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเริ่มลดไปเพิ่มการถือครองเข้าสินทรัพยเสี่ยง แต่ปัจจัยระยะกลางยังไม่ถึงกับกลับมาเป็นลบ

การที่รมว.คลังของกรีซออกมาพูดลดความกังวลเกี่ยวกับประเด็นขัดแย้งกับเจ้าหนี้นั้น หนุนหุ้นกดทอง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อทองก่อนหน้านี้ รวมถึงราคาน้ำมันที่เริ่มฟื้นตัวกดดดันทองคำทางอ้อมอีกทาง

แต่ทั้งสองปัจจัยยังมีความไม่แน่นอนและอาจกลับมาลบต่อหุ้นและหนุนทองได้อีก แม้ว่าจะตกใจน้อยลงจนไม่บวกกับเท่าก่อนหน้านี้เพราะชินๆ

วันนี้ตัวเลขการจ้างงานและตัวเลขอื่นๆ สำคัญแต่ตลาดหุ้นอาจไม่ให้ความสำคัญมากนักโดยดูจากตัวเลขไม่ดีแต่หุ้นสหรัฐบวกติดกันสองวัน คงอยู่ที่ราคาน้ำมัน ที่วันนี้บวกขึ้นอีกระดับ

ทำให้ในช่วงนี้ต้องมองถึงความสัมพันธ์ที่เรียกว่า market correlation ว่าจะส่งผลต่อทองอย่างไรต่อไป จบเรื่องน้ำมันหรือยัง จะกลับมาสวนทางกันกับดอลล์สหรัฐอีกไหม

----------------------------------------------------------------------

กรอบหลักดูแย่ลงหลังไม่ผ่าน 1285 ต้องดูว่าจะมีผู้เล่นมาเข้ามาทำให้เป็นการสู้กันที่กรอบ 1250 กับ 1285 หรือเปล่า แต่ช่วงสั้นๆ นี้ปัจจัยหนุนหายไปถ้าทรงกราฟกลับมาจ่อ 1250 1260 อีกทีมีโอกาสลงไปที่แนวพักตัวเส้นที่2 ที่ 1235 1240 ส่วนจะดูดีขึ้นเมื่อเบรก 1272 กลับมาได้อีกครั้ง

----------------------------------------------------------------------

วันนี้ให้แนวโน้มทางลบ น่าจะลงจากช่วงทดสอบแนวต้าน 1265 1268 แล้วลงมาหยุดชะลอตัวที่ 1250 1255 เพื่อรอข่าวคืนนี้ ตัวเลขดีทองลงไม่ดีทองขึ้นแต่เป็นกรอบสั้นจบตัวเลขก็เลิกมาตั้งหลักกับกรอบหลักต่อ

แนวต้าน 1265 1272

แนวหนุน 1235 - 1240 และ 1250 - 1255

by Facebook.com/Wealthstation3

4/2/58

 

 

 

1075599_833577040014106_5662262495955607414_o.png

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เวลา 9.00 น.

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 10:09:03 น.

กรุงเทพฯ--4 ก.พ.--MTS Gold Group

ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,274 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,261 เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.62 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,550 บาท กับ 19,650 บาท และกลับมาปิดที่ 19,750 บาท กับ 19,850 บาท

 

ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 679 คู่สัญญา แบบ 10 บาทอยู่ที่ 5,869 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท พิ่มขึ้น 12.66% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 4.65% GFG15 ปิด 19,650 บาท และ GFJ14 ปิด 19,770 บาท GF10G14 ปิดที่ 19,660 บาท GF10J14 ปิดที่ 19,760 บาท

 

 

 

สัญญา Comex ลดลง 16.6 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,260.3 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX เพิ่มขึ้น 3.48 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 53.05 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำอยู่ที่ระดับ 764.94 ตัน(ขายออก 1.79 ตัน)

 

ข่าวที่สำคัญ

-เมื่อคืนนี้ทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,285.5 เหรียญ/ออนซ์ หลังจากยอดคำสั่งซื้อสินค้าโรงงานของสหรัฐฯในเดือนมกราคมปรับตัวลดลงสู่ระดับ -3.4% ซึ่งปรับตัวมากที่สุดในรอบ 4 เดือน และต่อมาตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากการเทขายของนักลงทุนหลังการเจรจาในการแก้ปัญหาหนี้สินของกรีซมีความคืบหน้ามากขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับขึ้นกว่า 305.36 จุด

 

-นายยานิส วารูเฟกิส รัฐมนตรีการคลังของกรีซ กล่าวว่า กรีซจะไม่ขอลดระดับหนี้สิน และขอยื่นข้อเสนอในการ Swapพันธบัตรกับกลุ่มเจ้าหนี้ โดยจะแลกเปลี่ยนพันธบัตรรัฐบาลกรีซที่อีซีบีและรัฐบาลประเทศอื่นๆถือครอง ให้เป็นพันธบัตรที่อิงกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลประเภท Peretual Bonds จะจ่ายดอกเบี้ยเมื่อมีผลกำไร และไม่มีการสะสมดอกเบี้ยจ่าย ซึ่งความคืบหน้าในการเจรจาหนี้สินของกรีซ ช่วยให้นักลงทุนและตลาดการเงินคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของยูโรโซน และสะท้อนให้เห็นว่ากรีซอาจไม่ต้องเผชิญแรงกดดันจากการพ้นการเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกของยูโรโซน

 

-อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีการคลังของกรีซ มีกำหนดเข้าพบกับ นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบีในวันนี้ และรัฐมนตรีการคลังของเยอรมนีในวันพรุ่งนี้

 

-นักวิเคราะห์จาก MKS Group ระบุว่า ทองคำได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นทั่วโลก จึงลดความน่าดึงดูดในของทองคำในฐานะ Safe Heaven ซึ่งหากราคาทองคำหลุดบริเวณแนวรับสำคัญซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน บริเวณ 1,252 เหรียญ/ออนซ์ จะทำให้ภาพของทองคำเริ่มเปลี่ยนกลับมาเป็นขาลงอีกครั้ง

 

-เช้านี้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.1471 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1346 ยูโร/ดอลลาร์ หลังจากรัฐบาลกรีซมีท่าทีอ่อนลงในการเจรจากับกลุ่มเจ้าหนี้

 

-ขณะที่เช้านี้ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 93.78 จากระดับ 94.50 และค่าเงินเยนเช้านี้อ่อนค่าขึ้นสู่ระดับ 117.91 เยน/ดอลลาร์จากระดับ 117.23 เยน/ดอลลาร์

 

-ทางด้านค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวลดลงกว่า 2% สู่ระดับ 0.7635 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 1.5% สู่ระดับ 0.7185 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2011 หลังจากที่ธนาคารกลางออสเตรเลีย RBA ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจท่ามกลางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลง

 

-ทั้งนี้ RBA ระบุว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีวัตถุประสงค์ในการกระตุ้นการขยายตัวในกิจกรรมภาคธุรกิจและการใช้จ่ายภาคครัวเรือน ที่ได้รับผลกระทบจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอในปัจจุบัน ซึ่งระดับดอกเบี้ย 2.25% เป็นระดับที่เหมาะสมในการช่วยหนุนอุปสงค์ให้แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งจะช่วยควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่กำหนด และเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

 

-น้ำมันดิบ WTI ปิด +7.02% ที่ระดับ 53.05 เหรียญ/บาร์เรล โดยเป็นการปิดบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ เพราะได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า บริษัทพลังงานหลายแห่งปรับลดการลงทุนด้านการผลิตน้ำมันจากการที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในช่วงก่อนหน้า

 

-เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด +1.76% ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปิด +0.8% และเช้านี้ดัชนีนิกเกอิเปิด +1.23% ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาแก้ไขปัญหาหนี้สินของกรีซ รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น

 

-นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทในวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50 – 32.75 บาท/ดอลลาร์

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน

- Factory Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -1.7% ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ -3.4%

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้

- ADP Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 241K ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ224K

 

- ISM Non-Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 56.2 ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 56.6

 

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำมีการแกว่งตัวค่อนข้างมากเมื่อวานนี้ หลังจากที่มีการเจรจาเรื่องหนี้สินของกรีซกับอังกฤษซึ่งในท่าทีแรกนั้นประสบความล้มเหลวทำให้ค่าเงินและทองคำดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างรุนแรงในช่วงเช้า ในทางกลับกันในช่วงสายกรีซเข้าเจรจากับทางเยอรมนี โดยเยอรมนีมีท่าทีแข็งกร้าวที่จะพยายามช่วยเหลือกรีซให้ยังอยู่ในยูโรโซน ดูแล้วมีท่าทีคลี่คลายในการจะแก้ปัญหาเกิดขึ้นได้ จึงเกิดแรงเทขายในทองคำอย่างหนัก ราคาทองคำหลุดระดับ 1,270 เหรียญ และ 1,260 เหรียญลงมา รวมถึงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,257 เหรียญโดยประมาณ สำหรับคืนนี้จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ADP Non-Farm Payrolls ซึ่งคาดว่าจะออกมาไม่ค่อยดีนัก ขณะที่ ISM Non-Manufacturing PMI คาดว่าจะดีขึ้นเล็กน้อย ทางด้านค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าขึ้น โดยในเช้านี้อ่อนค่าที่ระดับ 1.1457 ยูโร/ดอลลาร์ จึงกดดันให้มีแรงเทขายทองคำ ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ SPDR ลดการถือครองทองคำลง 1.79 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 764.94 ตัน

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในเชิงเทคนิคราคาทองคำมีการแกว่งตัวในระยะสั้นค่อนข้างมาก ซึ่งถ้าราคาหลุด 1,252 เหรียญลงมาจะทำให้ภาพรวมของราคาทองคำกลับมาเป็นขาลง

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ราคาทองคำมีความผันผวนค่อนข้างมาก นักลงทุนจึงไม่ควรถือ Portfolio ด้านใดด้านหนึ่งมากจนเกินไป และไม่ควร Leverage มากนัก เนื่องจากมีความผันผวนและเล่นตามข่าวค่อนข้างรุนแรง ในวันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหว 1,230-1,270 เหรียญ โดยขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในคืนนี้

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position

เก็งกำไรระยะสั้นในพอร์ต ไม่ถือครองสถานะข้างใดข้างหนึ่งมากจนเกินไป

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

บริหารพอร์ตสมดุล ไม่ควร Leverage หรือใช้ Margin มากจนเกินไป เนื่องจากตลาดยังคงผันผวนตามข่าวค่อนข้างมาก

 

Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,570 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,770 บาท

Gold Futures J15 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,690 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,890 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2085819

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ที่ปรึกษา TDRI มองไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด หนุนรัฐปรับโครงสร้างภาษี

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 16:15:35 น.

นายวิรไท สันติประภพ ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(TDRI) เปิดเผยในงานสัมมนา“ปี 2558 หัวเลี้ยวหัวต่อของการคลี่คลายวิกฤตเศรษฐกิจโลก"ว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่ได้เผชิญกับภาวะเงินฝืด แม้ว่าในเดือน ม.ค.58 อัตราเงินเฟ้อจะติดลบ 0.41% เพราะมองว่าการเกิดภาวะเงินฝืดมักมาจากด้านอุปสงค์ที่ประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย แต่การที่อัตราเงินเฟ้อติดลบครั้งนี้เกิดจากอุปทานบางตัว โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อว่าเป็นภาวะชั่วคราวเท่านั้น

 

 

ขณะที่การปรับตัวลดลงมามากของราคาน้ำมัน โดยส่วนตัวมองว่าประเทศไทยน่าจะได้รับประโยชน์ เนื่องจากเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมัน ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าถูกลง อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่าการที่ราคาน้ำมันตกต่ำก็เกิดผลกระทบต่อกลุ่มลงทุนที่เกี่ยวข้องกับพลังงานในระยะนี้

สำหรับปัจจัยความเสี่ยงที่ต้องจับตาปีนี้ คือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีความแตกต่างกัน ขณะที่ปัจจัยในประเทศนั้นคาดว่าจะยังขับเคลื่อนด้วยภาคการท่องเที่ยวและการลงทุนเป็นหลัก รวมทั้งราคาสินค้าเกษตรตกต่ำส่งผลให้การจับจ่ายภาคเกษตรลดลง สะท้อนไปยังกลุ่มภาคเกษตรชะลอตัว

นายวิรไท กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่รัฐบาลจะมีการปฏิรูปภาษี โดยเฉพาะการจัดเก็บภาษีมรดกและทรัพย์สินต่างๆ นั้น โดยส่วนตัวเห็นด้วย เนื่องจากเป็นการสร้างฐานภาษีใหม่ และก่อให้เกิดความยั่งยืนทางการคลังในระยะยาว ช่วยเพิ่มความมั่นคงทางการเงิน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไทยกำลังประสบปัญหาเชิงโครงสร้างที่รายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย เพราะกำลังเข้าสู่ประเทศประชากรผู้สูงอายุในสัดส่วนาค่อนข้างมาก ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเร่งหารายได้ใหม่เข้ามาเพื่อดูแลประชาชน

"การจะจัดเก็บภาษีมรดกทรัพย์สินนั้นถือเป็นทางเลือกหนึ่ง อย่างไรก็ดี จะจัดเก็บหรือไม่เป็นเรื่องของการบริหารจัดการ แต่เชื่อว่าการปฏิรูปภาษีนั้นจะก่อให้เกิดการหาแหล่งรายได้ของรัฐบาลใหม่ๆ"นายวิรไท กล่าว

ส่วนกรณีที่ธนาคารกลางหลายแห่ง เช่น ญี่ปุ่น และยุโรป ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจส่งผลให้สภาพคล่องล้นระบบ โดยมีเงินไหลเข้ามายังประเทศอื่นๆ ทั้งภูมิภาคเอเชียรวมถึงประเทศไทย เป็นปัจจัยที่ต้องระมัดระวังให้มาก เพราะช่วงที่มีกระแสข่าวต่างๆ เข้ามากระทบกระทบต่อความเชื่อมั่น อาจส่งผลให้เม็ดเงินไหลออกไปได้อย่างรวดเร็วได้เช่นกัน

อินโฟเควสท์ โดย สมบูรณ์เกียรติ พานิชเจริญ/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

ดัชนี PMI ภาคบริการอิตาลีกลับสู่การขยายตัวในเดือนม.ค. แต่จ้างงานยังอ่อนแอ

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 15:59:23 น.

ผลสำรวจระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของอิตาลีในเดือนม.ค.ปรับตัวขึ้นแตะ 51.2 จาก 49.4 ในเดือนธ.ค.

ดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะการขยายตัวของภาคบริการ ส่วนระดับที่ต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมภาคบริการหดตัวลง

กิจกรรมทางธุรกิจในภาคบริการของอิตาลีปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยในช่วงต้นปี 2558 แม้ว่าการจ้างงานลดลงต่อเนื่อง ซึ่งบ่งชี้ว่าภาวะทางธุรกิจยังคงเปราะบาง

ทั้งนี้ ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่า การคาดการณ์ในอนาคตของบริษัทในภาคบริการได้ปรับตัวดีขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

ธ.เกียรตินาคินคาดสินเชื่อรวมปีนี้โต6% "อภินันท์" เผย ธนาคารเกียรตินาคินเตรียมบุกตลาดสินเชื่อบรรษัท-สินเชื่อธุรกิจ คาดปีนี้สินเชื่อรวมโต 6% CIMBเดินหน้าปล่อยกู้รีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย อัดเงิน 2,000 ล้านบาท เดินหน้าปล่อยกู้รีไฟแนนซ์บ้าน หวังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายลูกค้า กรุงศรีฯคาดกนง.หั่นดอกเบี้ยช่วงครึ่งปีหลัง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา คาด กนง.อาจปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในช่วงครึ่งปีหลัง หากท่องเที่ยว-บริโภค-ลงทุนไม่ฟื้น Stock Gossip vdo.gif ทิศทางตลาดอนุพันธ์ภาคบ่าย 4-2-58 vdo.gif เจาะหุ้นเด่นภาคบ่าย 4-2-58 vdo.gif ไทยออยล์คาดงบไตรมาสแรกดีขึ้น

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

 

 

ข่าวยอดนิยม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

 

 

Thanong Fanclub

58 mins ·

 

 

วิกฤติการเงินครั้งต่อไปจะใหญ่กว่าวิกฤติซับไพร์มในปี2007ถึง6เท่า

Jim Rickards ผู้แต่งหนังสือขายดี The Death of Money บอกว่าวิกฤติการเงินที่จะเกิดขึ้นครั้งหน้าจะใหญ่กว่าวิกฤติซับไพร์มในปี2007

สาเหตุเป็นเพราะว่า ระหว่างปี2009ถึง2014 บริษัทน้ำมันมีการกู้ยืมเงิน$5ล้านล้านเพื่อทำธุรกิจน้ำมัน

 

และในระยะเวลาเดียวกันเกิดdollar carry trade โดยที่เอกชนในประเทศต่างๆมีการกู้ยืมเงินดอลล่าร์รวมทั้งหมด$9ล้านล้าน เพราะว่าดอลล่าร์มีแนวโน้มอ่อนค่าจากการค่าQE รวมทั้งดอกเบี้ยของสหรัฐฯต่ำเตี้ยติดดิน

รวมแล้วมีการกู้เงินในภาคน้ำมันและกู้dollar carry tradeรวมกัน$14ล้านล้านในระยะ6ปีที่ผ่านมา

ปัญหาก็คือราคาน้ำมันตกลงมาแล้วประมาณ50%กว่าจากปีที่แล้ว

ค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้น15%เมื่อเทียบกับค่าเงินคู่ค้าหลักของสหรัฐฯ

บริษัทน้ำมันจะอยู่รอดด้วยราคาน้ำมันที่ระดับ$80ถึง$130ต่อบาเรลล์ แต่ราคาน้ำมันตอนนี้อยู่ต่ำกว่า$50ต่อบาเรลล์

สภาพเศรษฐกิจที่แย่ลงทำให้มีโอกาสที่จะมีการผิดชำระหนี้การกู้ยืมดอลล่าร์ จากdollar carry trade

สมมุติว่า 10%ของทั้งการกู้จากธุรกิจน้ำมันและจากdollar carry tradeกลายเป็นหนี้เสีย จำนวนหนี้เสียนี้จะเท่ากับ$1.4ล้านล้าน

หมายความว่าหนี้เสียจำนวนนี้จะใหญ๋หรือรุนแรงกว่าวิกฤติซับไพร์มในปี2007ถึง6เท่า

Jim Rickardsคาดการว่าวิกฤตินี้จะเกิดภายใน1หรือ2ปีข้างหน้า

thanong

4/2/2015

http://yournewswire.com/financial-crisis-six-times-worse-t…/

 

 

 

 

10974476_318351895027858_242160482939914140_o.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

</p>

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทปิด 32.62/64 ระหว่างวันแข็งค่าตาม Flow แต่มาอ่อนค่าช่วงท้ายตลาด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 17:33:40 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.62/64 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 32.58/60 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามทิศทางของเงินทุนต่างประเทศ โดยระหว่างวันเงินบาทไปทำโลว์ที่ระดับ 32.58 บาท/ดอลลาร์และทำไฮที่ระดับ 32.64 บาท/ดอลลาร์

 

"แกว่งตัวในกรอบตาม flow ส่วนใหญ่มาหยุดพักแถว 32.60(บาท/ดอลลาร์) เพิ่งขยับอ่อนค่าช่วงท้ายตลาด" นักบริหารเงิน กล่าว

 

 

 

สำหรับวันพรุ่งนี้ประเมินการเคลื่อนไหวของเงินบาทจะอยู่ในกรอบระหว่าง 32.50-32.65 บาท/ดอลลาร์เช่นเดิม

 

"ทิศทางดอลลาร์น่าจะยังอ่อนค่าอยู่ น่าจะเป็นอย่างนี้อีกสัก 2-3 วัน" นักบริหารเงิน กล่าว

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 117.34 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 117.80 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.445 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1455 ดอลลาร์/ยูโร

 

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,599.81 จุด ลดลง 2.73 จุด มูลค่าการซื้อขาย 63,689.08 ล้านบาท

 

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,351.33 ล้านบาท(SET+MAI)

- นายวิรไท สันติประภพ ที่ปรึกษา TDRI ระบุขณะนี้ประเทศไทยยังไม่ได้เผชิญกับภาวะเงินฝืด แม้อัตราเงินเฟ้อในเดือน ม.ค.58 จะติดลบ 0.41% เนื่องจากภาวะเงินฝืดมักมาจากด้านอุปสงค์ที่ประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย แต่การที่อัตราเงินเฟ้อติดลบครั้งนี้เกิดจากอุปทานบางตัว โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อว่าเป็นภาวะชั่วคราวเท่านั้น

 

- นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะทำเรื่องถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาเห็นชอบจัดตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และกรรมการประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อยกระดับการแก้ปัญหาการส่งออกสินค้าไทยให้เป็นวาระแห่งชาติ และผลักดันให้มูลค่าการส่งออกไทยในปีนี้บรรลุตามเป้าหมายการขยายตัวได้ 4% ตามที่กระทรวงตั้งเป้าหมายไว้ แม้หลายหน่วยงาน รวมถึงภาคเอกชนได้ปรับลดการคาดการณ์ลงเหลือขยายตัวต่ำกว่า 4%

 

- มาร์กิต อิโคโนมิคส์ เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคบริการของฝรั่งเศสในเดือน ม.ค.ลดลงสู่ระดับ 49.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จาก 50.6 ในเดือน ธ.ค. ขณะที่ดัชนี PMI ของอิตาลีปรับตัวขึ้นแตะ 51.2 จาก 49.4 ในเดือน ธ.ค. ส่วนดัชนี PMI ของเยอรมนีปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 54.0 จากระดับ 52.1 ในเดือน ธ.ค.ซึ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 เดือน

 

- เนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์(NAB) เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในออสเตรเลียยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องในไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 โดยดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจปรับตัวลง 4 จุด มาแตะที่ระดับ +2 ในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว จากระดับ +6 ในไตรมาสก่อนหน้า

 

- เอชเอสบีซี โกลบอล รีเสิร์จ ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของของเศรษฐกิจอังกฤษปี 2558 จาก 2.4% เป็น 2.6% อันเนื่องมาจากมุมมองที่ว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงจะเอื้ออำนวยต่อเศรษฐกิจอังกฤษ

 

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 138 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,700 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือราคาเทียบเท่ากับ 1,265.62 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 14.93 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

 

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2086260

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10482270_879474132149538_9096812495387363048_o.jpg

แจ่มใส อยู่ดี มีสุข ลงทุนมุภูมิคุ้มกันนะคะเพื่อนๆ คุณๆ

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $4.2 หลังจีนลดสัดส่วนกันสำรองธนาคาร

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 07:32:51 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) เพราะได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและหนุนสภาพคล่องภายในประเทศ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 4.2 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ระดับ 1,264.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 7.4 เซนต์ ปิดที่ 17.395 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 3.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,238.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นหลังจากธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.5% ของเงินฝากธนาคาร โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะชะลอตัวและหนุนสภาพคล่องให้แข็งแกร่งขึ้น

 

นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 213,000 รายในเดือนม.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2086345

 

 

ราคาน้ำมันดิบ WTI ทรุดกว่า 5% ใกล้หลุด 50 ดอลล์ หลังสต็อกสหรัฐสูงเป็นประวัติการณ์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 00:03:51 น.

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ทรุดตัวลง หลังการเปิดเผยข้อมูลที่ระบุว่าปริมาณน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างมากในสัปดาห์ที่แล้ว

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนมี.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ดิ่งลง 2.72 ดอลลาร์ หรือ 5.1% แตะ 50.33 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

หลังการเปิดเผยข้อมูลน้ำมันของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ขณะที่ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น 4 วันติดต่อกัน

 

 

 

ทั้งนี้ EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยสูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลในเดือนส.ค.1982 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ขณะที่น้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นมีปริมาณสูงขึ้นเช่นกัน

 

สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 6.3 ล้านบาร์เรล จากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.5 ล้านบาร์เรล

 

สำหรับสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล

 

ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 67,000 บาร์เรล

 

ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล

 

สำหรับอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.9%

นอกจากนี้ การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) เปิดเผยเช่นกันว่า น้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่า 6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq30/2086337

 

ผู้นำฝรั่งเศสเตือนกรีซเคารพข้อตกลงหนี้ที่รัฐบาลทำไว้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 22:48:38 น.

ประธานาธิบดีฟรองซัวร์ ออลลองด์แห่งฝรั่งเศส กล่าวในวันนี้ว่า กฎเกณฑ์ของสหภาพยุโรป (EU) และข้อตกลงเกี่ยวกับหนี้จะต้องมีผลผูกพันกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

 

ผู้นำฝรั่งเศสกล่าวเช่นนี้ หลังพบปะกับนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ในวันนี้

 

นายออลลองด์ระบุว่า เขาเคารพในคะแนนเสียงในการเลือกตั้งของประชาชนชาวกรีซ แต่ก็จะต้องมีการเคารพต่อกฎระเบียบของยุโรปเช่นกัน ซึ่งมีผลบังคับใช้กับทุกประเทศ โดยต้องมีการเคารพในข้อผูกพันที่รัฐบาลได้ทำไว้

 

 

 

นายซิปราส และนายยานิส วารูเฟกิส รมว.คลังกรีซ กำลังเดินสายพบปะกับเจ้าหน้าที่ของยุโรปในสัปดาห์นี้เพื่อหาเสียงสนับสนุนการทำข้อตกลงฉบับใหม่เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซ

 

นายซิปราสได้เสร็จสิ้นการเจรจากับนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ที่กรุงบรัสเซลส์ในวันนี้

 

นายซิปราสกล่าวว่า การหารือของเขากับผู้นำของสหภาพยุโรป (EU) กำลังมีทิศทางที่ดี และเขาคาดว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงซึ่งเป็นที่ยอมรับระหว่างกันภายในกรอบของ EU

 

เขาระบุว่า แม้ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงในวันนี้ แต่เขามีความเชื่อมั่นว่าการเจรจากำลังมุ่งไปในทิศทางที่ดีสำหรับการทำข้อตกลงร่วมกัน

 

นายซิปราสกล่าวว่า รัฐบาลของเขาจะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ขณะหาเสียงเลือกตั้ง แต่เขาก็เคารพในข้อบังคับเกี่ยวกับการชำระหนี้ และการปฏิรูปเศรษฐกิจที่ EU กำหนดไว้สำหรับกรีซ

 

EU เป็นหนึ่งในเจ้าหนี้หลักของกรีซ โดยกลุ่มทรอยก้า หรือกลุ่มเจ้าหนี้ของกรีซ ประกอบด้วย EU, ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

 

การเจรจาของนายซิปราสกับ EU มีเป้าหมายเพื่อทำการต่อรองเงื่อนไขครั้งใหม่สำหรับมาตรการรัดเข็มขัดตามแผนให้ความช่วยเหลือวงเงิน 2.40 แสนล้านยูโรที่กรีซได้รับจากเจ้าหนี้

 

ขณะเดียวกัน นายวารูเฟกิสกล่าวในวันนี้ว่า เขารู้สึกพอใจ หลังการเจรจากับนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB

 

นายวารูเฟกิสกล่าวว่า การหารือเป็นไปด้วยดี และทำให้เขามีความหวังสำหรับการเจรจาในอนาคต

 

รมว.คลังกรีซกล่าวว่า เขาได้ชี้แจงแผนของรัฐบาลกรีซให้แก่นายดรากี ขณะที่นายดรากีก็ได้ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ และระบุแนวทางการช่วยเหลือของ ECB ต่อประเทศในยูโรโซน เช่น กรีซ

 

ทั้งนี้ กรีซจะต้องได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมจากเจ้าหนี้ก่อนสิ้นเดือนนี้ มิฉะนั้นจะประสบภาวะผิดนัดชำระหนี้สำหรับพันธบัตรที่ครบกำหนดไถ่ถอน

 

นายวารูเฟกิสเสนอให้กรีซระดมเงิน 1 หมื่นล้านยูโร โดยการออกพันธบัตรระยะสั้น ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติจาก ECB

 

เมื่อวานนี้ รัฐบาลกรีซระบุว่าจะไม่ขอลดมูลค่าหนี้ ขณะที่ยื่นข้อเสนอปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหม่

 

นายวารูเฟกิสกล่าวว่า กรีซจะไม่ขอให้เจ้าหนี้ลดมูลค่าหนี้ลง ขณะที่จะยื่นข้อเสนอสว็อปพันธบัตรกับฝ่ายเจ้าหนี้ โดยจะแลกเปลี่ยนพันธบัตรของรัฐบาลกรีซที่ ECB และรัฐบาลประเทศอื่นๆถือครองอยู่นั้น ให้เป็นพันธบัตรที่มีผลตอบแทนอิงกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และพันธบัตรประเภท Perpetual bonds ซึ่งจะจ่ายดอกเบี้ยเมื่อมีผลกำไร และไม่มีการสะสมดอกเบี้ยจ่าย

 

นอกจากนี้ นายวารูเฟกิสยังระบุว่าเขาไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งกับ EU เกี่ยวกับการทำข้อตกลงหนี้ฉบับใหม่

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2086332

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วง หลัง ECB ไม่ยอมรับพันธบัตรกรีซ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 07:34:34 น.

สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) เนื่องจากกรีซเผชิญแรงกดดันรอบใหม่ หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ระบุว่าจะไม่ยอมรับการใช้พันธบัตรรัฐบาลกรีซมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ของธนาคารกลาง

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1418 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1487 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5222 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5168 ดอลลาร์

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 117.36 เยน เทียบกับระดับ 117.60 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9237 ฟรังก์ จาก 0.9229 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7781 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7795 ดอลลาร์

 

ก่อนหน้านี้ การเจรจาประเด็นหนี้สินของกรีซมีแนวโน้มในเชิงบวก เมื่อรัฐบาลใหม่ของกรีซได้ยื่นข้อเสนอในการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหม่ และจะไม่ขอลดมูลค่าหนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยให้สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม ยูโรได้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐเมื่อคืนนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากการที่ ECB ไม่ยอมรับการนำพันธบัตรกรีซเพื่อมาใช้ระดมทุนครั้งใหม่ เนื่องจากพันธบัตรของรัฐบาลกรีซอยู่ในระดับ “ขยะ" (junk) ซึ่งอยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของ ECB

 

ท่าทีล่าสุดของ ECB ได้สร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลใหม่ของกรีซ และทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นในยูโรโซน ซึ่งส่งผลให้เงินยูโรร่วงลง

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2086346

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...