ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 29 กันยายน 2558 07:47:17 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 ก.ย.2558

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีน ร่วงลงอย่างหนักในเดือนส.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์และกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ รวมทั้งถ้อยแถลงของนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กที่ระบุว่าเฟดจะยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษก่อนสิ้นปีนี้

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,001.89 จุด ร่วงลง 312.78 จุด หรือ -1.92% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,543.97 จุด ลดลง 142.53 จุด หรือ -3.04% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,881.77 จุด ลดลง 49.57 จุด หรือ -2.57%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีน ร่วงลงอย่างหนักในเดือนส.ค.

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2.2% ปิดที่ 341.57 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,357.05 จุด ลดลง 123.61 จุด, -2.76% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 9,483.55 จุด ลดลง 204.98 จุด, -2.12% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 5,958.86 จุด ลดลง 150.15 จุด, -2.46%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ก.ย.) หลังจีนเปิดเผยว่า กำไรของภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบไม่ต่ำกว่า 4 ปีในเดือนส.ค. ซึ่งกระตุ้นความวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลดลง 150.15 จุด หรือ 2.46% ที่ 5,958.86 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับข้อมูลที่บ่งชี้ถึงภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงขึ้น รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.27 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 44.43 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.26 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 47.34 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) หลังจากนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของโลหะประเภทอื่นๆ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 13.9 ดอลลาร์ หรือ 1.21% ปิดที่ระดับ 1,131.7 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 57.3 เซนต์ ปิดที่ 14.538 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ดิ่งลง 28.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 922.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 15.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 651.85 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและเยนเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1234 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1196 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5178 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5190 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.81 เยน จาก 120.62 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9747 ฟรังก์ จาก 0.9799 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.6990 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7019 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,001.89 จุด ลดลง 312.78 จุด -1.92%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,543.97 จุด ลดลง 142.53 จุด -3.04%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,881.77 จุด ลดลง 49.57 จุด -2.57%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,958.86 จุด ลดลง 150.15 จุด -2.46%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,483.55 จุด ลดลง 204.98 จุด -2.12%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,357.05 จุด ลดลง 123.61 จุด -2.76%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,645.11 จุด ลดลง 235.40 จุด -1.32%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,145.10 จุด เพิ่มขึ้น 68.40 จุด +1.35%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,113.50 จุด เพิ่มขึ้น 71.40 จุด +1.42%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,100.76 จุด เพิ่มขึ้น 8.41 จุด +0.27%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,815.59 จุด ลดลง 101.96 จุด -1.47%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,120.50 จุด ลดลง 88.94 จุด -2.11%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,608.43 จุด ลดลง 6.58 จุด -0.41%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,791.92 จุด ลดลง 40.72 จุด -1.44%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,616.84 จุด ลดลง 246.66 จุด -0.95%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2261165

 

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดร่วง $13.9 หลังปธ.เฟดนิวยอร์กส่งสัญญาณขึ้นดบ.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 29 กันยายน 2558 07:45:19 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) หลังจากนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของโลหะประเภทอื่นๆ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 13.9 ดอลลาร์ หรือ 1.21% ปิดที่ระดับ 1,131.7 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 57.3 เซนต์ ปิดที่ 14.538 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ดิ่งลง 28.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 922.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 15.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 651.85 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำร่วงลงตามตลาดโลหะมีค่าประเภทอื่นๆ หลังจากมีรายงานว่า ทางการสวิตเซอร์แลนด์กำลังตรวจสอบธนาคารพาณิชย์ 7 แห่งที่ถูกสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการปั่นราคาโลหะมีค่า

 

นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยของเฟด โดยล่าสุดนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปของปีนี้ โดยอาจปรับขึ้นในการประชุมเดือนต.ค. หรือธ.ค.

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2261164

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.27 วิตกอุปทานพุ่ง,เศรษฐกิจชะลอตัว

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 29 กันยายน 2558 07:12:45 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับข้อมูลที่บ่งชี้ถึงภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงขึ้น รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.27 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 44.43 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.26 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 47.34 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ก.ย. เพิ่มขึ้น 19,000 บาร์เรล แตะที่ 9.136 ล้านบาร์เรล

 

ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจอาจจะทำให้อุปสงค์พลังงานลดน้อยลงด้วย โดยเมื่อวานนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนระบุว่า ตัวเลขกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีน ลดลง 8.8% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งร่วงลงอย่างมากจากเดือนก.ค.ที่ปรับตัวลดลง 2.9%

 

ส่วนในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ตัวเลขกำไรของบริษัทอุตสาหกรรม ลดลง 1.9% เทียบรายปี สู่ระดับ 3.77 ล้านล้านหยวน ซึ่งปรับตัวลงมากกว่าในช่วงเดือนม.ค.-ก.ค.ที่ลดลงเพียง 1%

 

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ หลังจากที่ EIA เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ก.ย. ลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 454 ล้านบาร์เรล ซึ่งปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน

 

ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 462,000 บาร์เรล สู่ระดับ 54 ล้านบาร์เรล

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2261160

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบยูโร,เยน ขณะการขึ้นดบ.ของเฟดยังไม่แน่นอน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 29 กันยายน 2558 07:31:18 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและเยนเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1234 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1196 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5178 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5190 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.81 เยน จาก 120.62 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9747 ฟรังก์ จาก 0.9799 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.6990 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7019 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดัน เนื่องจากนักลงทุนหันไปสนใจสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนที่ซบเซา ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง และตลาดเกิดใหม่ที่ย่ำแย่

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ตัวเลขกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีน ลดลง 8.8% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งร่วงลงอย่างมากจากเดือนก.ค.ที่ปรับตัวลดลง 2.9%

 

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังเผชิญปัจจัยลบ หลังจากนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด สาขาชิคาโก กล่าวว่า เฟดควรตรึงอัตราดอกเบี้ยใกล้ระดับ 0% เป็นเวลานานกว่าที่วางแผนไว้ และให้ใช้ท่าทีอดทนเป็นอย่างมากก่อนที่จะใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้ออาจจะไม่ดีดตัวขึ้นเร็วอย่างที่คาดการณ์ไว้

 

นายอีแวนส์เปิดเผยว่า หากเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป ก็จะสร้างความเสียหายหลายประการ ซึ่งรวมถึงชื่อเสียงของเฟด

 

อย่างไรก็ตาม นายอีแวนส์แสดงความคิดเห็นดังกล่าว ขณะที่นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เขาเชื่อว่าเฟดจะยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษก่อนสิ้นปีนี้

 

"ผมคาดหวังว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปของปีนี้" เขากล่าว และเสริมว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนต.ค. หรือธ.ค.

 

ขณะเดียวกัน สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ร่วงลง 1.4% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 109.4 ในเดือนส.ค. จากระดับ 110.9 ในเดือนก.ค. โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีจะเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค.

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2261161

 

คองเกรสเร่งผ่านกฎหมายงบประมาณก่อนเส้นตายพุธนี้ หวั่นซ้ำรอยชัตดาวน์

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 29 กันยายน 2558 00:44:17 น.

สภาคองเกรสสหรัฐกำลังอยู่ในระหว่างการจัดทำร่างกฎหมายงบประมาณเพื่อให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามาทันลงนามเป็นกฎหมายในสัปดาห์นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาลในวันพฤหัสบดีนี้ (1 ต.ค.) อันเนื่องจากขาดงบประมาณขณะที่ขึ้นปีงบประมาณใหม่

 

ถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดไว้ วุฒิสภาก็จะผ่านร่างงบประมาณในวันพรุ่งนี้ และส่งต่อให้สภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวให้ทันเส้นตายในเที่ยงคืนวันพุธ เพื่อให้ปธน.โอบามาลงนามรับรองเป็นกฎหมายก่อนขึ้นปีงบประมาณใหม่ในวันพฤหัสบดี

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2261137

 

นายกฯสิงคโปร์เผยรายชื่อครม.ชุดใหม่วันนี้ เข้าพิธีสาบานตน 1 ต.ค.นี้

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 28 กันยายน 2558 17:08:33 น.

นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เปิดเผยรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ในวันนี้ รวมถึงรัฐมนตรีฝ่ายประสานงาน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ได้มีการจัดตั้งขึ้นมาใหม่

 

การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดของครม.ชุดใหม่ ได้แก่ การเพิ่มรัฐมนตรีฝ่ายประสานงานใหม่ 3 คน ได้แก่ นายเตียว ชี เฮียน นายธาร์มาน ชามูการัตนาม และนายกอว์ บูน วาน ซึ่งจะเข้ามารับหน้าที่รัฐมนตรีดังกล่าว

 

นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมจะมีรัฐมนตรีประจำกระทรวง 2 คน ซึ่งจะแบ่งหน้าที่กันดูแลกิจการต่างๆภายในกระทรวง

 

ครม.ชุดใหม่นี้มีสมาชิกทั้งสิ้น 20 คน มากกว่าครม.ชุดเก่าที่มีสมาชิก 19 คน ครึ่งหนึ่งของสมาชิกครม.ชุดใหม่ มาจากการเลือกตั้งทั่วไป 3 ครั้งล่าสุด และครึ่งหนึ่งมีอายุต่ำกว่า 55 ปี

 

คณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งในวันพฤหัสบดีนี้ การสับเปลี่ยนตำแหน่งดังกล่าวเกิดขึ้นหลังพรรคกิจประชาชน (PAP) คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปอย่างขาดลอย เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สกาวรัฐ บัวสำลี/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2261001

 

อาเบะ-ปูตินเล็งประชุมที่นิวยอร์ก หวังหารือประเด็นปธน.รัสเซียเยือนญี่ปุ่น

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 28 กันยายน 2558 16:30:00 น.

นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียจะจัดการเจรจาในนิวยอร์กวันนี้ เพื่อให้ปธน.ปูตินเดินทางเยือนญี่ปุ่นในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามเดินหน้าการเจรจาที้หยุดชะงักว่าด้วยข้อพิพาททางอาณาเขตที่ยื้อเยื้อมายาวนาน

 

การประชุมดังกล่าวเกิดขึ้น 1 สัปดาห์หลังรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองประเทศเห็นพ้องจัดการเจรจาในวันที่ 8 ต.ค. เกี่ยวกับหมู่เกาะในแถบฮอกไกโดที่รัสเซียและญี่ปุ่นต่างอ้างสิทธิ

 

 

 

เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า "เราหวังว่าการประชุมจะเป็นโอกาสให้ผู้นำทั้งสองยืนยันความตั้งใจ เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี ที่รวมถึงประเด็นเรื่องอาณาเขต"

 

"เรายังอยากให้ผู้นำทั้งสองยืนยันความตั้งใจในการให้ประธานาธิบดีปูตินเดินเยือนญี่ปุ่น" เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเสริม

 

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่กระทรวงกล่าวว่า ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าผู้นำทั้งสองจะตกลงกันเรื่องวันที่แน่นอนสำหรับการเดินทางเยือนในระหว่างการประชุมนอกรอบของที่ประชุมสุดขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงนิวยอร์ก สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2260960

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

%E0%B9%81%E0%B8%96%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%20%E0%B8%95%E0%B8%A3.%20%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%94_Page_2.jpg

 

%E0%B9%81%E0%B8%96%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%20%E0%B8%95%E0%B8%A3.%20%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%94_Page_1.jpg

%E0%B9%81%E0%B8%96%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%20%E0%B8%95%E0%B8%A3.%20%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%94_Page_3.jpg

20150928%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88.jpg

ตำรวจเปิดผังเครือข่ายขบวนการบึ้มกรุงจากปี53โยงถึงปี58!

วันนี้(28 ก.ย.) พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 อธิบายแผนผังเครือข่ายคนร้ายในขบวนการระเบิดกรุงว่า คดีนี้ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ทางรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ...

THAIPOST.NET

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

12032063_524271144404915_6519835281637792950_n.jpg?oh=8da7022285b7d316e3ff2493306e30ee&oe=56945B27&__gda__=1452594606_068286ccdbaf2da66e5caa56d4d81bd2

12038462_524271247738238_4978712483051808431_n.jpg?oh=47c8669ba6e999a225c0f96484cd6bd1&oe=5692FC41&__gda__=1452522067_11885728e91592c184ed70c62e929d5a

ประยุทธ์พบโอบามา

--29ก.ย.58-- พลเอกปีะยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนมตรี จับมือบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐอเมริกา ช่วงการประชุม peace keeping summit ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา อนึ่งพลเอกประยุทธ์เเละภริยาได้ทักทายมิเชล โอบามา สุภาพสตรีหมายเลข1ของสหรัฐฯด้วย ‪#‎ชั่วโมงที่26‬ ‪#‎NOW26‬ ‪#‎ktnews‬

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีดาวน์โจนส์ ,น้ำมันและดัชนีค่าเงินดอลล์ ปรับตัวลงหมดในคืนที่ผ่านมา รวมถึงทองคำ

โดยทิศทางราคาทองเองนั้นยัง Bias Short ขึ้นมาก็หาจังหวะเข้าเอส ให้แนวต้านไว้บริเวณ1134.5 ,1136.5 และ 1140 โดยมีกรอบ 1120 1125 เป็นจุดที่เชื่อว่าแรงขายจะชอลอตัว

อย่างน้อยในเบื้องต้นมองว่าเป็นจุดปิดเอส เพื่อรอดูจังหวะกันอีกทีส่วนการเข้าซื้อต้องคอยสังเกตทรงว่าจะเทหลุดลงไปหรือเปล่า

การทำรูปแบบ Invert Head&Shoulder นั้นไม่ควรลงต่ำกว่าโลว์ก่อนหน้าหรือบริเวณ 1120 1125 ถ้าลงต่ำกว่าระดับนี้ต้องไปดูกันอีกทีว่าตลาดจะเล่นกันต่อยังไง

by Facebook.com/Weathstation

29/9/58

12039227_954049621300180_7267994533345907129_n.png?oh=c85748d426344a168e7e646f55063476&oe=56900EF212033031_954052377966571_4252476308406388205_n.png?oh=d5311b6182bb3bd81b6c2fe608331d4f&oe=568C738E&__gda__=1453625407_6a6a006d378377f68b6f284f1c2a76cd12042991_954049617966847_2650592759470557369_n.png?oh=e3f87165ab81cb95d388ff8d8ed8e967&oe=568B4D0112074969_954049607966848_7051051251019666189_n.png?oh=b8dfe8c2412ce6ed5d0841ed4ef4e24e&oe=568AF63712065539_954049614633514_2122137792390161729_n.png?oh=2cc5ce888f9b435f288416adf850d6c2&oe=56983AE2&__gda__=1452581588_18e44cdc40efad77eed92ea006af415c

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ดอลลาร์อ่อนค่าแตะกรอบบน 119 เยนเช้านี้ เหตุวิตกเศรษฐกิจจีน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 29 กันยายน 2558 11:03:18 น.

ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะกรอบบนของ 119 เยนในการซื้อขายเช้านี้ที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว เนื่องจากตลาดวิตกต่อเศรษฐกิจจีน หลังจากจีนเปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมร่วงลงอย่างหนักในเดือนส.ค.

 

เมื่อเที่ยงวันนี้ตามเวลาโตเกียว ดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 119.64-119.65 เยน เมื่อเทียบกับ 119.88-119.98 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 120.27-120.28 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อเวลา 17.00 น. ของเมื่อวานนี้

 

ยูโรเคลื่อนไหวที่ 1.1255-1.1257 ดอลลาร์ และ 134.66-134.69 เยน เมื่อเปรียบเทียบกับ 1.1240-1.1250 ดอลลาร์ และ 134.79-134.89 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 1.1190-1.1191 ดอลลาร์ และ 134.59-134.63 เยนที่ตลาดโตเกียวในเย็นเมื่อวานนี้

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนระบุว่า ตัวเลขกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีน ลดลง 8.8% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งร่วงลงอย่างมากจากเดือนก.ค.ที่ปรับตัวลดลง 2.9%

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2261648

 

สรุปภาวะ SET50 Index Future By GT Wealth Management 29 ก.ย.58 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 29 กันยายน 2558 10:17:01 น.

กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--GT Wealth Management

ดัชนี SET50 มีการย่อตัวลงอีกครั้ง ในเมื่อวานนี้ ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังจากที่ยังคงมีปัจจัยกดดันทั้งจากปัจจัยในและนอกประเทศ โดยมีปริมาณการซื้อขายที่ระดับ 28,592.05 ล้านบาท ขณะที่วันนี้ดัชนีมีโอกาสย่อตัวลงอีกครั้ง ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยมีปัจจัยสำคัญกดดันจากต่างประเทศสองประเด็น อย่างการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่อาจจะเกิดขึ้นในปีนี้ จากคำแถลงการณ์ของประธาน FED เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บวกกับความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจจีนหลังจากที่มีการรายงานผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มภาคการผลิตออกมาต่ำกว่าที่คาด บวกกับตัวเลขเศรษฐกิจไทยอย่างตัวเลขนำเข้าส่งออกที่ยังออกมาหดตัวมากกว่าที่คาดเอาไว้ ทางด้านค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.46 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มมีการอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง

 

 

 

แนวโน้มดัชนี SET50นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มดัชนียังเป็นเชิงลบอย่างต่อเนื่องจากประเด็นเศรษฐกิจจีนที่เริ่มกลับมากดดันอีกครั้ง จากผลประกอบการบริษัทภาคอุตสาหกรรมที่ออกมาต่ำกว่าที่คาด ทำให้คาดกันว่า การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของจีนในระยะถัดไปอาจหดตัวอีกครั้ง ทางเทคนิค แนวรับสำคัญ 865 จุด แนวต้านสำคัญ 885 จุด

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2261596

 

(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 36.44/46 อ่อนค่ารอบ 6 ปีครึ่ง กังวลศก.จีน มองกรอบ 36.40-36.50

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 29 กันยายน 2558 11:06:55 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 36.44/46 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 36.29 บาท/ดอลลาร์ โดยเป็นการอ่อนค่าในระดับ 6 ปีครึ่ง

 

วันนี้เงินบาทมีโอกาสปรับตัวอ่อนค่าต่อจากความกังวลในเศรษฐกิจของจีน ภายหลังสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน(NBS) เปิดเผยว่าผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีน ร่วงลงอย่างหนักในเดือนส.ค.

 

 

 

"บาทคงอ่อนต่อ เพราะกังวลเรื่องเศรษฐกิจของจีน หลังจากประกาศตัวเลขออกมาไม่ค่อยดี ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะน้ำมัน และทองคำให้ร่วงลง" นักบริหารเงินระบุ

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 36.40-36.50 บาท/ดอลลาร์

 

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 36.4850 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(28 ก.ย.) อยู่ที่ 1.74489% ส่วน THAI BAHT FIX 6M(28 ก.ย.) อยู่ที่ 1.80908%

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.58/61 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 120.16 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรเช้านี้ อยู่ที่ระดับ 1.1260/1263 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1183 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.255 บาท/ดอลลาร์

 

- ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ประเมินค่าเงินบาทสิ้นปีนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 36.50-37.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจัยหลักคือตัวเลขเศรษฐกิจของไทยทั้งอัตราการขยายตัว (จีดีพี) การส่งออกชะลอตัวลงจากช่วงต้นปี และค่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าลงอีก หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายใน สิ้นปีนี้ โดยส่วนตัวประเมินว่าจะขึ้นอีก 0.25%

 

- ทีมเศรษฐกิจถกสถานการณ์ส่งออก ห่วงติดลบต่อเนื่องถึงปีหน้า ฉุดเศรษฐกิจหนัก ด้าน"สุวิทย์"เตรียมปรับแผน รวมกลุ่มคลัสเตอร์ หารือนายกฯ ขณะพาณิชย์เผย ส่งออกเดือนส.ค.ติดลบ 6.69% เฉลี่ย 8 เดือน ติดลบ 4.92% ยืนเป้าหมายเดิมติดลบ 3% หวังอุตฯยานยนต์ฟื้นปลายปี

 

- บอร์ด กนง.ประเมินเงินบาทมีโอกาสผันผวนต่อเนื่องและมีนัยต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจไทยในอนาคต ภายใต้ความไม่แน่นอนตลาดการเงินโลกและเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า แนะรัฐและเอกชนควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ระบุนโยบายการคลัง-เงินยังพื้นที่ดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจด้านต่างประเทศและเงินทุนเคลื่อนย้ายได้

 

- นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้หารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เห็นว่าแม้การ ส่งออกจะติดลบแต่ก็ไม่เซอร์ไพรส์ แต่ถ้าการส่งออกของไทยยังติดลบ 3 ปีติดต่อกันไปแบบนี้ ปีหน้าจะค่อนข้างอันตราย เพราะรายได้จากการส่งออกอยู่ที่ 70% ของจีดีพี ภาครัฐจึงต้องเร่งเรื่องของการลงทุนที่จะเริ่มตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป โดยเฉพาะ 19 โครงการ เพื่อเป็นแรงส่งให้เอกชนลงทุนตาม

 

- รัฐเล็งใช้ช่องทางตลาดทุนระดมเงินลงุทนโครงสร้างพื้นฐาน ศึกษาตั้งกองทุนรวมขนาดใหญ่มูลค่าแสนล้าน ชี้ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตได้ในระยะยาว พร้อมเร่งวางแผนดึงเอสเอ็มอีเข้าระบบบัญชีเดียว

 

- นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลไม่มีแนวคิดที่จะขายหุ้นรัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลังถืออยู่ทั้งบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และธนาคารทหารไทย เพื่อนำเงินมาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศหรือนำเงินมาแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในปีงบประมาณ 59 ตามที่มีกระแสข่าวลือ

 

- กระทรวงพาณิชย์เร่งส่งออกข้าว มั่นใจดันสู่เป้าหมาย 10 ล้านตัน ในปีนี้ โชว์ยอดส่งออกได้แล้ว 6.9 ล้านตัน เดินหน้าระบายสต็อกก่อนข้าวใหม่ออก "อภิรดี" เตรียมลงพื้นที่ด่านสะเดา สางอุปสรรคส่งออก หนุนยอดค้าชายแดน

 

- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังมอบนโยบายให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) ว่า ได้สั่งให้ สสว.ไปช่วยเหลือเอสเอ็มอีให้ได้ 70,000 ราย แบ่งเป็นการให้ความช่วยเหลือ 1.กลุ่มเอสเอ็มอีเกิดใหม่ หรือกลุ่มสตาร์ตอัพ 2.กลุ่มเดิมที่ต้องพัฒนาให้เข้มแข็งขึ้น และ 3.กลุ่มที่ประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจอย่างรุนแรง หรือกลุ่มเทิร์นอะราวด์

 

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและเยนเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดัน เนื่องจากนักลงทุนหันไปสนใจสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนที่ซบเซา ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง และตลาดเกิดใหม่ที่ย่ำแย่

 

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับข้อมูลที่บ่งชี้ถึงภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงขึ้น รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.27 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 44.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.26 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 47.34 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

- สภาคองเกรสสหรัฐกำลังอยู่ในระหว่างการจัดทำร่างกฎหมายงบประมาณเพื่อให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามาทันลงนามเป็นกฎหมายในสัปดาห์นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาลในวันพฤหัสบดีนี้ (1 ต.ค.) อันเนื่องจากขาดงบประมาณขณะที่ขึ้นปีงบประมาณใหม่

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2261651

 

พายุไต้ฝุ่นตู้เจวียนพัดขึ้นฝั่งมณฑลฟูเจียนของจีนแล้ววันนี้

 

 

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 29 กันยายน 2558 11:00:10 น.

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฟูเจียนรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นตู้เจวียนได้พัดขึ้นฝั่งมณฑลฟูเจียนของจีนในช่วงเช้าวันนี้ พายุลูกดังกล่าวได้พัดกระหน่ำเมืองปูเตียนเมื่อเวลาประมาณ 8.50 น.ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยความเร็วลมถึง 33 เมตรต่อวินาที

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า พายุลูกนี้คาดว่า จะพัดเข้ามณฑลเจียงซีในช่วงคืนวันนี้ โดยมณฑลฟูเจียนได้ออกประกาศเตรียมรับมือในเมืองตูจวนแล้วในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่เรือประมง 32,090 ลำได้เดินทางกลับเข้าสู่ฝั่งตั้งแต่เมื่อวานนี้ พร้อมด้วยประชาชนประมาณ 160,000 ราย

 

เมืองฟูโจว ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลฟูเจียนนั้น มีฝนตกลงมาอย่างหนัก เมื่อเวลาประมาณ 7.00 น.ในวันนี้ โดยอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นลูกนี้ยังทำให้เกิดคลื่นสูง และฝนตกหนักในมณฑลเจ้อเจียงด้วยเช่นกัน

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq38/2261644

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

อดีตรองปธ.อาลีบาบาชี้ หุ้นอาลีบาบาร่วงต่อเนื่องไม่ใช่เรื่องผิดปกติ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 29 กันยายน 2558 14:30:00 น.

นายพอร์เตอร์ เอริสแมน อดีตรองประธานบริษัทอาลีบาบาแสดงความเห็นว่า ตลาดตื่นตระหนกมากเกินไป หลังจากที่หุ้นอาลีบาบา กรุ๊ปร่วงลงต่อเนื่อง

 

นายเอริสแมนเปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า "ใน 1 ปีนับตั้งแต่การเปิดขายหุ้นครั้งแรก อาลีบาบาแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย สิ่งเดียวที่เปลี่ยนคือความเข้าใจของบุคคลภายนอก"

 

 

 

แม้ว่าหุ้นอาลีบาบาจะปรับตัวลงต่ำกว่าราคาที่มีการเสนอขายต่อสาธารณชนครั้งแรก (IPO) ที่ระดับ 68 ดอลลาร์สหรัฐ/หุ้น แต่นายเอริสแมนกลับไม่ประหลาดใจ และกล่าวว่า "เนื่องจากอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนชะลอลง ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจึงค่อนข้างสมเหตุสมผลสำหรับผม"

 

เมื่ออาลีบาบาเสนอขายหุ้นเป็นครั้งแรกในปีที่แล้ว นักลงทุนต่างให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง และราคาหุ้น IPO ของอาลีบาบาพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในช่วงเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา โดยราคาซื้อขายหุ้นอยู่ที่ประมาณ 119 ดอลาร์สหรัฐ แต่หลังจากนั้น หุ้นอาลีบาบาก็ปรับตัวลงเป็นเวลานานต่อเนื่อง

 

ทั้งนี้ นายเอริสแมนซึ่งทำงานให้กับอาลีบาบาตั้งแต่ปี 2543-2551 กล่าวว่า "อย่างน้อยที่สุด ผมมองว่าบริษัทไม่ควรให้ความสำคัญกับสิ่งที่นักลงทุนพูด แต่ควรมุ่งเน้นที่ลูกค้าและสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด" สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2261826

 

ประจินเผยSingle Gatewayยังอยู่ระหว่างศึกษา ยันรัฐไม่ควบคุม

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 29 กันยายน 2558 13:18:12 น.

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าแนวคิดการตั้งระบบ Single Gateway หลังจากมีผู้ออกมาคัดค้านว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที)ดำเนินการ ก็ได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษา 2 ด้าน ด้านหนึ่งให้กระทรวงไอซีทีไปศึกษา อีกด้านมอบให้บมจ. กสท โทรคมนาคม หรือ CAT และ บมจ.ทีโอที หรือ TOT ไปศึกษา ซึ่งทาง CAT ได้นำเสนอข้อมูลว่ามีความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการ เนื่องจาก DATA ของไทยมีการผ่านเข้าออกมาก ทุกบริษัทมีหมด จึงเป็นภาระเรื่องของการลงทุน เปรียบเสมือนว่าหากสามารถที่จะทำถนนให้เป็นถนนใหญ่และมีผู้ใช้บริการมากขึ้น โดยรัฐเข้ามาดูแลโครงการถนนดังกล่าวก็จะทำให้การบริการดีขึ้นและลดค่าใช้จ่าย ส่วนในขั้นต่อไปต้องศึกษาเพิ่มเติมก่อนที่จะพูดคุยถึงเรื่องเป้าหมายในทางพาณิชย์ และเป้าหมายในการบริการประชาชน โดยการศึกษาเรื่องดังกล่าวน่าจะมีความชัดเจนภายในปีนี้

 

 

 

ส่วนที่มีความกังวลว่ารัฐจะเข้าไปควบคุมระบบต่างๆ นั้น รองนายกรัฐมนตรี ปฎิเสธว่า Single Gateway ไม่ได้เป็นการเข้าไปรวมศูนย์และเข้าไปควบคุมโดยหน่วยใดหน่วยหนึ่งอย่างที่หลายคนเข้าใจ และเชื่อว่ามีการเข้าใจนิยามคำว่า "Single Gateway" คลาดเคลื่อน ดังนั้นอยากให้ทุกคนไปศึกษาข้อมูลว่าไอซีทีจะดำเนินการอย่างไร เพราะหากยังไม่เข้าใจและออกมาคัดค้าน ก็จะไม่สามารถพัฒนาร่วมกันได้ จึงอยากให้มีการศึกษาโมเดลก่อน และรับฟังความเห็น ปรับรูปแบบให้สอดคล้องต่อไป

 

พล.อ.อ.ประจิน ยืนยันว่า เมื่อเป็น Single Gateway แล้ว เมื่ออินเตอร์เน็ตล่มจะไม่เกิดเหตุการณ์อินเตอร์เน็ตล่มทั้งประเทศเหมือนที่หลายฝ่ายกังวล พร้อมระบุว่า Single Gateway ไม่ได้หมายความว่าจะเหลือแค่ทางเดียว แต่คำว่า "Single Gateway" มีคำนิยามหลายอย่าง จึงอยากให้ทุกคนอย่าปิดกั้นว่า Single Gateway เหลือเพียงคอขวด แต่เป็นเพียงเส้นทางที่จะมีคนกำกับดูแลเป็นลักษณะบูรณาการที่จะให้ผู้ใช้บริการทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ลดค่าใช้จ่าย ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ต

 

อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/กษมาพร/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2261771

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

12072644_1484104855249581_1740824551542466898_n.jpg?oh=343678aaa4623ce216f0c1c8addd30a7&oe=56A92535

 

 

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดร่วง $4.9 จากแรงขายหลังสหรัฐเผยข้อมูลศก.สดใส

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 30 กันยายน 2558 07:36:22 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) ทำสถิติปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐนั้น ส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 4.9 ดอลลาร์ หรือ 0.43% ปิดที่ระดับ 1,126.8 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.5 เซนต์ ปิดที่ 14.573 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 4.4 ดอลลาร์ ปิดที่ 918.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 5.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 657.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นในเดือนก.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่าชาวสหรัฐไม่มีความวิตกต่อภาวะปั่นป่วนในตลาดโลก

 

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 103.0 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. หลังแตะระดับ 101.3 ในเดือนส.ค. ส่วนดัชนีประเมินภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีในเดือนก.ย.

 

นักวิเคราะห์จับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์ เพื่อจับสัญญาณเรื่องแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2262141

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 30 กันยายน 2558 07:49:53 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 29 ก.ย.2558

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวขึ้นสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ลดแรงบวกในระหว่างวัน เพราะตลาดได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกรายงานเตือนว่า เศรษฐกิจของประเทศที่ต้องพึ่งพาการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์อาจชะลอตัวลง อันเนื่องมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลง

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,049.13 จุด เพิ่มขึ้น 47.24 จุด หรือ +0.30% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,517.32 จุด ลดลง 26.65 จุด หรือ -0.59% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,884.09 จุด เพิ่มขึ้น 2.32 จุด หรือ +0.12%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) โดยตลาดปิดปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก รวมทั้งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณที่แตกต่างกัน

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับลง 0.7% ปิดที่ 339.23 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,343.73 จุด ลดลง 13.32 จุด หรือ -0.31% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,450.40 จุด ลดลง 33.15 จุด หรือ -0.35% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,909.24 จุด ลดลง 49.62 จุด หรือ -0.83%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 49.62 จุด หรือ 0.83% แตะที่ 5,909.24 จุด

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) ทำสถิติปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐนั้น ส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 4.9 ดอลลาร์ หรือ 0.43% ปิดที่ระดับ 1,126.8 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.5 เซนต์ ปิดที่ 14.573 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 4.4 ดอลลาร์ ปิดที่ 918.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 5.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 657.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานของ Conference Board ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.ของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาด

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 45.23 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 48.23 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณที่แตกต่างกัน

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 119.63 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 119.81 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9710 ฟรังค์ จากระดับ 0.9747 ฟรังค์

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1258 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1234 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.5162 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5178 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6981 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6990 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,049.13 จุด เพิ่มขึ้น 47.24 จุด +0.30%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,517.32 จุด ลดลง 26.65 จุด -0.59%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,884.09 จุด เพิ่มขึ้น 2.32 จุด +0.12%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,909.24 จุด ลดลง 49.62 จุด -0.83%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,450.40 จุด ลดลง 33.15 จุด -0.35%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,343.73 จุด ลดลง 13.32 จุด -0.31%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 16,930.84 จุด ลดลง 714.27 จุด -4.05%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,958.10 จุด ลดลง 187.00 จุด -3.63%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,918.40 จุด ลดลง 195.10 จุด -3.82%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,038.14 จุด ลดลง 62.62 จุด -2.02%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,859.29 จุด เพิ่มขึ้น 43.70 จุด +0.64%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 20,556.60 จุด ลดลง 629.72 จุด -2.97%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,178.41 จุด เพิ่มขึ้น 57.91 จุด +1.41%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,603.32 จุด ลดลง 5.11 จุด -0.32%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,787.94 จุด ลดลง 3.98 จุด -0.14%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,778.66 จุด เพิ่มขึ้น 161.82 จุด +0.63%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2262144

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบยูโร,เยน เหตุจนท.เฟดส่งสัญญาณดบ.ไม่แน่นอน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 30 กันยายน 2558 07:48:01 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณที่แตกต่างกัน

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 119.63 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 119.81 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9710 ฟรังค์ จากระดับ 0.9747 ฟรังค์

 

 

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1258 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1234 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.5162 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5178 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6981 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6990 ดอลลาร์สหรัฐ

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด อันเนื่องมาจากการส่งสัญญาณที่แตกต่างกันของเจ้าหน้าที่เฟด โดยนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนต.ค. หรือธ.ค.ปีนี้

 

ในขณะที่นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด สาขาชิคาโก กล่าวว่า เฟดควรตรึงอัตราดอกเบี้ยใกล้ระดับ 0% เป็นเวลานานกว่าที่วางแผนไว้ พร้อมกับกล่าวว่าหากเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป ก็จะสร้างความเสียหายหลายด้าน ซึ่งรวมถึงชื่อเสียงของเฟด

 

นักวิเคราะห์จับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์ เพื่อจับสัญญาณเรื่องแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2262143

 

เงินหยวนแข็งค่าแตะ 6.3613 ต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 30 กันยายน 2558 08:46:29 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.47% แตะที่ 6.3613 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

 

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

ธนาคารกลางจีนได้ปฏิรูประบบอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อวันที่ 11 ส.ค.เพื่อให้อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐสามารถสะท้อนสถานการณ์ในตลาดได้ดียิ่งขึ้น

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จิตวัฒน์ วิจิตรถาวร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2262343

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

(Sep 30) แบงก์เตรียมเพิ่มทุนรับมือหนี้เสีย : มหากาพย์ หนี้วงเงินสูงถึง 53,346 ล้านบาท ของกลุ่มบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) จากการให้กู้ของธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่ 3 แห่ง คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย และธนาคาร ทิสโก้นั้น ดูเหมือนยังทำให้สถาบันการจัดอันดับเครดิตอย่าง มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และระบบธนาคารพาณิชย์ขวัญผวาอยู่

แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะสั่งให้มีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญให้ครบ 100% ภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้แล้วก็ตาม

สะท้อนจากการที่มูดี้ส์ได้ให้น้ำหนักกับหนี้ของ SSI ว่าเป็นปัจจัยลบต่ออันดับเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ วงเงินรวมกันกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากการปรับโครงสร้างหนี้หรือการตั้งสำรองหนี้เสียของ SSI อาจกระทบต่อความสามารถในการหารายได้ การทำกำไร และอาจทำให้เงินทุนของธนาคารลดลงได้

นอกจากนี้ มูดี้ส์ ยังระบุว่า หนี้เสียของ SSI ที่ถือว่าเกิดขึ้นครั้งแรกในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา มีผลให้มุมมองต่อคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ของไทยถดถอยลง รวมถึงยังแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหนี้ที่อาจกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เพิ่มขึ้นของหนี้ที่อาจกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้รายได้ (เอ็นพีแอล) ในภาคธุรกิจเอกชนของไทยด้วย ซึ่งหนี้เสียของภาคเอกชนขนาดใหญ่ยังทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของธนาคารในไทยเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก

ขณะที่สถาบันการเงินไทยเอง ก็มีท่าทีกังวลกับหนี้เสียที่เพิ่มขึ้นจากกรณี SSI ที่อาจไม่ใช่กรณีสุดท้าย เพราะในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอฟื้นตัวช้าเช่นนี้ มีแนวโน้มที่หนี้อื่นๆ จะกลายเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้นได้อีก ในช่วงนี้จึงเริ่มได้ยินข่าวว่ามีธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเริ่มขยับจะออกหุ้นกู้เพิ่มเงินกองทุนในส่วนของเงินกองทุนขั้นที่ 2 บ้างแล้ว เพื่อเตรียมการไว้ล่วงหน้าในการใช้สำรองหนี้เสียที่อาจจะกัดกินเงินกองทุนให้ลดลงได้

เพราะขนาด ธปท.เอง ยังประเมินในเบื้องต้นว่า หนี้เสียในระบบมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้ ถึงจะเพิ่มไม่พรวดพราดจนน่าห่วงก็ตาม เฉพาะหนี้ SSI ก้อนเดียวก็อาจทำให้เอ็นพีแอลในระบบธนาคารพาณิชย์ไทยเพิ่มขึ้น จากปัจจุบัน (ณ สิ้นเดือน ก.ค.) ที่ 2.46% ของสินเชื่อรวม เพิ่มเป็น 2.86%

สำหรับแนวโน้มเอ็นพีแอล ในระบบสถาบันการเงินไทยนั้น อมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ให้ความเห็นว่า ขณะนี้แนวโน้มหรือตัวเลขล่าสุดในไตรมาส 3 ปีนี้ยังไม่ออกมา จึงบอกอะไรได้ไม่ชัดนัก แต่ก็ยอมรับว่าภาวะเศรษฐกิจที่โตต่ำเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส แถมยังขาดปัจจัยบวก จนสถาบันหลายแห่งปรับลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้และปีหน้าลง อาทิ ธปท.ที่ปรับลดจีดีพีปีนี้ จาก 3% เหลือ 2.7% และปรับลดจีดีพีปีหน้าจาก 4.1% เหลือ 3.1%

ขณะที่อุปสงค์ในประเทศหรือความต้องการจับจ่ายใช้สอยก็โตช้า ส่งออกล่าสุดในเดือน ส.ค.ที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศก็ยังติดลบสูงถึง 6.69% ซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 แล้ว ทำให้เศรษฐกิจไทยไร้ข่าวดีมาสนับสนุนการฟื้นตัว แต่ยังโชคดีที่ทีมเศรษฐกิจภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาช่วยบ้าง แต่ผลน่าจะออกในปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้าเลย บวกกับภาคเอกชนก็ไม่มีแรงมาสนับสนุนต่อจากภาครัฐ

"ภาวะดังกล่าวทำให้สถาบันการเงินยังมีความเสี่ยงหนี้เสีย ที่มีโอกาสจะเพิ่มขึ้นอีก แต่คงไม่รุนแรงหรือน่ากลัวมาก เพราะเศรษฐกิจไทยตอนนี้แค่ซึม ไม่ได้ทรุด เรื่องนี้ ธปท.เองก็พยายามช่วยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาลดดอกเบี้ยลงไป 2 ครั้ง เพื่อให้มีส่วนช่วยสินเชื่อที่โตได้น้อย เพราะหากปล่อยให้สินเชื่อใหม่โตน้อย สัดส่วนหนี้เสียยิ่งมีโอกาสเพิ่ม ขณะที่แบงก์ต่างๆ ก็ระมัดระวังการปล่อยกู้เป็นการดูแลตัวเองในเบื้องต้นก่อน" อมรเทพ ระบุ

อย่างไรก็ดี ถึงสินเชื่อที่ปล่อยใหม่จะดูน้อย และธนาคารต่างๆ ก็เคร่งครัดในน้อย และธนาคารต่างๆ ก็เคร่งครัดในคุณภาพสินเชื่อแล้ว ทำให้สินเชื่อปล่อยใหม่มีโอกาสเกิดหนี้เสียน้อย แต่ยังมีโอกาสเกิดหนี้เสียจากสินเชื่อเก่าที่ปล่อยไปก่อนหน้านี้อยู่ แม้ว่าธนาคารจะพยายามเข้ามาดูแลลูกหนี้เข้าช่วยเหลืออย่างดีตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนเกิดปัญหาแล้วก็ตาม

หากแยกดูตามกลุ่มลูกหนี้ หนี้ในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่คงมีแนวโน้มเกิดหนี้เสียอย่าง SSI น้อย เพราะส่วนใหญ่ดูแลหนี้ดี แต่น่าจะมีปัญหาในหนี้กลุ่มเอสเอ็มอีที่ธุรกิจอาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ เพราะสินค้าในบางกลุ่มขายให้ลูกค้าในประเทศ โดยเฉพาะลูกค้ารายได้ระดับล่าง ซึ่งความต้องการซื้อลดลง จากรายได้ที่ลดลงในภาคการเกษตรและลูกค้าที่มีรายได้ที่มิใช่เงินเดือน ที่มีผลกระทบทางอ้อมต่อยอดขายให้ลดลง

ส่วนกลุ่มสินค้าที่ขายคนมีเงินเดือนประจำคงกระทบไม่มาก เนื่องจากกลุ่มนี้ยังมีกำลังซื้อ และกลุ่มเอสเอ็มอีศักยภาพดีที่มีซัพพลายเชน ยอดขายน่าจะยังดี และดำเนินธุรกิจได้ไม่มีปัญหาหนี้เสีย ทำให้ไม่น่าห่วงมากนัก

ด้านกลุ่มสินเชื่อรายย่อย หากมองแยกตามประเภทสินเชื่อ ก็ยอมรับว่ามีกลุ่มสินเชื่อที่มีแนวโน้มทำให้หนี้เสียเพิ่มเช่นกัน เช่น สินเชื่ออเนกประสงค์ สินเชื่อส่วนบุคคล เป็นต้น แต่ธนาคารส่วนใหญ่ก็ระมัดระวังการให้กู้อยู่แล้ว โดยเฉพาะลูกค้าที่ไม่มีรายได้เป็นเงินเดือนประจำอาจได้รับผลกระทบทางอ้อมจากเศรษฐกิจ ส่วนสินเชื่อที่ให้กับคนที่มีเงินเดือนประจำ สินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ บัตรเครดิต สินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน ฯลฯ ก็ยังพอไปได้ จากกลยุทธ์ของธนาคารที่พยายามขยายลูกค้าไปในกลุ่มต่างๆ ให้กว้างขึ้น ทำให้สินเชื่อพอโตได้ และหนี้เสียไม่สูงมากนัก

"อย่างไรก็ดี มองว่าระดับการกันสำรองของแบงก์ส่วนใหญ่กันไว้เกินเกณฑ์ของ ธปท.น่าจะเพียงพอต่อการเพิ่มขึ้นของหนี้เสียได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนี้เสียที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้กำไรลดลงบ้าง หรือกระทั่งมีโอกาสทำให้เงินทุนลดลง จนอาจมีสถาบันการเงินบางแห่งเริ่มเตรียมการออกหุ้นกู้เพื่อเตรียมเพิ่มเงินกองทุนขั้นที่ 2

แต่การดำเนินการเพิ่มทุนไม่ใช่เรื่อง เสียหายหรือแปลว่าผลกระทบจากหนี้เสียจะรุนแรงถึงขั้นกระทบฐานะสถาบันการเงินให้ล้มครืน เพราะการเพิ่มทุนเป็นกลยุทธ์ของแต่ละแห่ง โดยอาจทำเพื่อเตรียมไว้กันสำรองหนี้เสีย เผื่อไว้ล่วงหน้าหากเกิดปัญหาจริงจะได้ทันการณ์ หรือเพื่อกันสำรองตามเกณฑ์ หรือเตรียมไว้ขยายธุรกิจที่จะโตขึ้นหลังเศรษฐกิจฟื้นก็เป็นได้ ซึ่งมองว่าการเพิ่มทุนไม่ใช่สัญญาณการเมืองที่น่าห่วง" อมรเทพ สรุป

ด้าน เชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวยอมรับว่า แนวโน้มหนี้อื่นๆ ในระบบสถาบันการเงินที่นอกเหนือจากหนี้ SSI มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้ เพราะภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ฟื้นชัด มีผลต่อคุณภาพสินเชื่อ ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงที่หนี้เสียจะสูงขึ้นได้หากเศรษฐกิจไทยยังชะลอลง โดยเฉพาะหนี้เสียจากภาคธุรกิจเอสเอ็มอีที่ผูกอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้เกิดคำถามต่อระดับหนี้เสียที่อาจจะเพิ่มขึ้น แต่ไม่คิดว่าปัญหาหนี้เสียจะกระทบต่อฐานะธนาคารพาณิชย์มากนัก เนื่องจากทุกแห่งกันสำรองหนี้ไว้สูงเกินเกณฑ์ของ ธปท.และระมัดระวังอยู่แล้ว

ในท้ายที่สุด หนี้เสียจะกลายเป็นปัญหาต่างประเทศของระบบธนาคารพาณิชย์และเศรษฐกิจไทยหรือไม่ยังต้องติดตามดู แต่ถ้าเศรษฐกิจไทยสาละวันเตี้ยลงเรื่อยๆ โอกาสที่หนี้จะเป็นปัญหาก็มีมากขึ้น ไม่เช่นนั้นมูดี้ส์คงไม่จ้องจะลดเครดิตแบงก์ขนาดใหญ่ของไทยเช่นนี้ และคงไม่มีข่าวเล็ดลอดออกมาว่ามีแบงก์หลายแห่งเตรียมการเพิ่มทุนไว้รองรับปัญหาหนี้ที่อาจลุกลาม

โดย พรสวรรค์ นันทะ

Source: Posttoday

 

 

 

 

11201172_1072587339427424_1214133654434749911_n.jpg?oh=d3169cc8503e580025794ee118799e3e&oe=56914631&__gda__=1453966397_a2934b909caa08d1ecf1e5ab78365fa9

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทีมลุงตู่ คลิบ

4 hrs

 

แถลงการณ์จากใจของ "ท่านนายกลุงตู่" ตรงจากมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดย "ลุงตู่" แถลงการณ์ขอขอบคุณท่านเอกอัครราชทูต - ข้าราชการ และพี่น้องคนไทยในหลายรัฐ ที่ร่วมไปให้กำลังใจสนับสนุนในครั้งนี้

ฟังไปซึ้งไปดิพวกเรา.... ขอให้ลุงตู่และทีมเดินทางกลับถึงไทยโดยสวัสดิภาพครับ

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

สุดโหดเหี้ยม!ถล่มงานแต่งเยเมน พลเรือนดับ131-ยูเอ็นรุมประณาม

30 ก.ย.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายแพทย์มายัซ อัลฮามานี แห่งโรงพยาบาลอัลเรฟี ของเมืองโมคา ประเทศเยเมน เปิดเผยว่า…

NAEWNA.COM

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...