ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

แต่งตั้ง

 

 

ข่าวการเมือง มติคณะรัฐมนตรี -- อังคารที่ 6 ตุลาคม 2558 18:48:57 น.

1. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์)

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอแต่งตั้ง นายสุรสิทธิ์ อินทรประชา ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านสำรวจและหรือออกแบบ) (วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ) กรมชลประทาน ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านสำรวจและหรือออกแบบ) (วิศวกรโยธาทรงคุณวุฒิ) กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2558 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

 

 

 

2. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข)

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้ง นายวิชัย ขัตติยวิทยากุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน (แพทย์) ระดับสูง) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชรกรรมป้องกัน) กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2558 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

 

3. เรื่อง การขออนุมัติเปิดสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดนประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ)

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ กรณีรัฐบาลราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดนเสนอขอเปิด สถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดนประจำประเทศไทย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ

 

4. เรื่อง รัฐบาลสหรัฐเม็กซิโกเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ)

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติกรณีรัฐบาลสหรัฐเม็กซิโกมีความประสงค์ขอแต่งตั้ง นายไฆเม บีร์กิลิโอ นัวลาร์ต ซานเชซ(Mr. Jaime VirgilioNualartSanchez) ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหรัฐเม็กซิโกประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายคอร์เค เอดูอาร์โด เชน ชาร์เปนเตียร์(Mr. Jorge Eduardo Chen Charpentier) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ

 

5. เรื่อง รัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ)

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ กรณีรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีมีความประสงค์ขอแต่งตั้ง นายโน ควังอิล(Mr. Noh Kwang-il) ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายช็อน แจ-มัน (Mr. Jeon Jae-man) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ

 

6. เรื่อง การแต่งตั้งกงสุลสาธารณรัฐอินเดีย ณ จังหวัดเชียงใหม่ (กระทรวงการต่างประเทศ)

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ กรณีรัฐบาลสาธารณรัฐอินเดียมีความประสงค์ขอแต่งตั้ง นายศีรีช เชน (Mr. Shirish Jain) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลสาธารณรัฐอินเดีย ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเขตกงสุลครอบคลุม 17 จังหวัดทางภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ กำแพงเพชร เชียงราย ตาก นครสวรรค์ น่าน พะเยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี สืบแทร นายธีเรนทรสิงห คารพยาล(Mr. Dhirendra Singh Garbyal) ซึ่งครบวาระประจำการ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ

 

7. เรื่อง การแต่งตั้งประธานร่วมฝ่ายไทยในองค์กรร่วมไทย – มาเลเซีย

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เสนอ แต่งตั้งนายคุรุจิต นาครทรรพ ให้ดำรงตำแหน่งประธานร่วมฝ่ายไทยในองค์กรร่วมไทย – มาเลเซีย โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558

 

8. เรื่อง การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงาน เสนอ แต่งตั้งบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน จำนวน 6 คน ดังนี้

 

1. นายชวลิต พิชาลัย ประธานกรรมการ

2. นายชายน้อย เผื่อนโกสุม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารการบัญชี และการปิโตรเลียม

 

3. นายเจน นำชัยศิริ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารและด้านพลังงาน

4. นายมนูญ ศิริวรรณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารและด้านพลังงาน

5. นางพูนทรัพย์ สกุณี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านบัญชี

6. นายอำนวย ทองสถิตย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านพลังงาน

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป

9. เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอ แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ จำนวน 9 คน ดังนี้

 

1. ผู้แทนองค์กรสตรีและองค์กรที่ทำงานด้านสิทธิความหลากหลายทางเพศ ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการทำงานที่เกี่ยวกับความเท่าเทียมระหว่างเพศไม่น้อยกว่า 5 ปี จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณเพ็ญศรี พิชัยสนิธ นางสาวปาตีเมาะ เปาะอิแตดาโอะ นางสาวอรุณี ศรีโต ผู้ช่วยศาสตราจาร์สุชาดา ทวีสิทธิ์ นายพงศ์ธร จันทร์เลื่อน

 

2. ผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านนิติศาสตร์ ด้านสิทธิมนุษยชน ด้านสังคมศาสตร์ หรือด้านจิตวิทยา จำนวน 3 คน ประกอบด้วย นายวัชรินทร์ ปัจเจกวิญญูสกุล นางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์ นางสาวสุชีลา ตันชัยนันท์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป

 

10. เรื่อง มอบหมายผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามนัยมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ตามลำดับ ตามที่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ด้วย ดังนี้

 

1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (นายวีระ โรจน์พจนรัตน์)

2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล)

11. เรื่อง แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ) เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไม่อยู่ หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ไม่อยู่ หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามนัยมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ตามที่กระทรวงพาณิชย์ เสนอ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ด้วย

 

12. เรื่อง การรักษาราชการแทน (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม)

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการในการมอบหมายผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามลำดับ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอ ดังนี้

 

1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

13. เรื่อง แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

 

คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในกรณีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ตามลำดับ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เสนอ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารด้วย ดังนี้

 

1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์)

2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นางอรรชกา สีบุญเรือง)

14. เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่ง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เสนอ การแต่งตั้ง พลตรี วีรนันท์ ทองสุก เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป

 

15. เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (กระทรวงพลังงาน)

 

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เสนอ การแต่งตั้ง พลเอก สุรศักดิ์ ศรีศักดิ์ เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป

 

16. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (สำนักนายกรัฐมนตรี)

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้ง นางสาวพจณี อรรถโรจน์ภิญโญที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะว่าง เนื่องจากผู้ครองตำแหน่งเดิมได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

 

17. เรื่อง การโอนข้าราชการมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สำนักนายกรัฐมนตรี)

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอรับโอน นางสาวกนกวลี ชูชัยยะ เลขาธิการราชบัณฑิตยสภา สำนักงานราชบัณฑิตยสภา และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 เพื่อประโยชน์ของทางราชการ และผู้มีอำนาจสั่งบรรจุของทั้งสองฝ่ายได้ตกลงยินยอมในการโอนแล้ว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

 

18. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (นักบริหารระดับสูง) (สำนักนายกรัฐมนตรี)

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเสนอแต่งตั้ง นายเกรียงศักดิ์ สืบสายหาญที่ปรึกษาด้านข่าวกรองความมั่นคงและสถาบันหลัก (นักการข่าวทรงคุณวุฒิ) กลุ่มงานที่ปรึกษา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

 

19. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงการคลัง)

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 3 ราย ดังนี้

 

1. นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

 

2. นายประภาศ คงเอียด ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

 

3. นายยุทธนา หยิมการุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร (นักวิชาการศุลกากรทรงคุณวุฒิ) กรมศุลกากร ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างและสับเปลี่ยนหมุนเวียน

 

20. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงยุติธรรม)

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 3 ราย ดังนี้

 

1. พันตำรวจโท สุพจน์ นาคเงินทอง รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์

 

2. นางสาวปิติกาญจน์ สิทธิเดช รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

 

3. นายศักยา ชูใหม่ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

 

ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

 

21. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงพาณิชย์)

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอแต่งตั้ง นายชัยณรงค์ โชไชย ที่ปรึกษาการพาณิชย์ (นักวิชาการพาณิชย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง

 

22. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงแรงงาน)

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงแรงงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้

 

1. นายอารักษ์ พรหมณี รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมการจัดหางาน

 

2. นางสาวพรรณี ศรียุทธศักดิ์ รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน

 

3. นายกรีฑาสพโชค ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน

 

4. นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมการจัดหางาน ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

 

5. นายสุรเดช วลีอิทธิกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

 

6. นายสุวิทย์ สุมาลา ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างและสับเปลี่ยนหมุนเวียน

 

23. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน (กระทรวงแรงงาน)

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงแรงงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 3 ราย ดังนี้

 

1. นายวรานนท์ ปีติวรรณ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

 

2. นายธีรพล ขุนเมือง รองอธิบดีกรมการจัดหางาน ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

 

3. นายโกวิท สัจจวิเศษ รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง

 

24. เรื่อง ขอความเห็นชอบในการแต่งตั้งผู้ว่าการสถาบันการบินพลเรือน

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอแต่งตั้ง นาวาอากาศเอก จิรพล เกื้อด้วง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการสถาบันการบินพลเรือน ต่ออีกหนึ่งวาระ (ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2558-28 กันยายน 2559) ตามมติคณะกรรมการสถาบันการบินพลเรือนในการประชุมครั้งที่ 4/2558 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2558 ส่วนค่าตอบแทน ค่าตอบแทนพิเศษ และสิทธิประโยชน์อื่น รวมทั้งเงื่อนไขการจ้าง และการประเมินผลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง

 

25. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำด้านยุทธศาสตร์และการวางแผน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ)

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้ง นายพิไชย โอบายะวาทย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำด้านสังคม (ผู้อำนวยการสูง) ให้ดำรงตำแหน่งปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำด้านยุทธศาสตร์และการวางแผน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2558 ซึ่งเป็นวันที่ ก.พ. ได้รับคำขอประเมินพร้อมด้วยเอกสารประกอบการประเมินครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

 

26. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์)

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 2 ราย ดังนี้

 

1. นายวิมล จันทรโรทัย รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมประมง

 

2. นางบริสุทธิ์ เปรมประพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะว่างและสับเปลี่ยนหมุนเวียน

 

27. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม)

 

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 4 ราย ดังนี้

 

1. นางสาวอาระยา นันทโพธิเดช ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

 

2. นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

 

3. นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมป่าไม้

 

4. นางสาวสุทธิลักษณ์ ระวิวรรณ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างและสับเปลี่ยนหมุนเวียน

 

28. เรื่อง แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอแต่งตั้ง นายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นต้นไป

 

29. เรื่อง แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอแต่งตั้ง พลเอก ณัฐติพล กนกโชติ เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งเป็นต้นไป

 

30. เรื่อง ให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหนึ่งวาระ

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง 1 ปี ในวันที่ 7 ตุลาคม 2558 คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหนึ่งวาระ จำนวน 9 ราย ดังนี้

 

ลำดับ 1

ชื่อ-นามสกุล

นายไพศาล พืชมงคล

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ

สำนักนายกรัฐมนตรี

อยู่ในบังคับบัญชา

รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ)

ลำดับ 2

ชื่อ-นามสกุล

รองศาสตราจารย์ไชยา ยิ้มวิไล

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ

สำนักนายกรัฐมนตรี

อยู่ในบังคับบัญชา

รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม)

ลำดับ 3

ชื่อ-นามสกุล

พลเอก รุ่งโรจน์ จำรัสโรมรัน

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ

กระทรวงกลาโหม

อยู่ในบังคับบัญชา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ลำดับ 4

ชื่อ-นามสกุล

รองศาสตราจารย์ชวนี ทองโรจน์

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

อยู่ในบังคับบัญชา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ลำดับ 5

ชื่อ-นามสกุล

พลตำรวจเอก สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

อยู่ในบังคับบัญชา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ลำดับ 6

ชื่อ-นามสกุล

พลตำรวจโท ณัฐพิชย์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ

กระทรวงมหาดไทย

อยู่ในบังคับบัญชา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ลำดับ 7

ชื่อ-นามสกุล

พลเอก นิวัตร มีนะโยธิน

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ

กระทรวงยุติธรรม

อยู่ในบังคับบัญชา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

ลำดับ 8

ชื่อ-นามสกุล

นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ

กระทรวงวัฒนธรรม

อยู่ในบังคับบัญชา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

ลำดับ 9

ชื่อ-นามสกุล

นางสาวเสาวณี มุสิแดง

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

อยู่ในบังคับบัญชา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 6 ตุลาคม 2558 --

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/cabt/2267839

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดเช้าบวก 9.76 จุด ดีดตัวขึ้นตามกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันพุ่ง

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 7 ตุลาคม 2558 12:49:28 น.

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,380.45 จุด เพิ่มขึ้น 9.76 จุด(+0.71%) มูลค่าการซื้อขาย 20,937.66 ล้านบาท

 

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,381.31 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,373.59 จุด

 

 

 

นายชัยยศ จิวางกูร ผุ้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ดีดตัวขึ้นตามหุ้นในกลุ่มน้ำมัน ภายหลังจากราคาน้ำมันได้ดีดตัวขึ้นแรงกว่า 2 เหรียญฯ/บาร์เรล ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกเล็กน้อย หลังผลการประชุม BOJ ก็ออกมาคงอัตราดอกเบี้ย

 

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการรายงานผลการประชุมของสหรัฐฯในคืนวันพรุ่งนี้ โดยให้รอดูว่าจะมีมุมมองด้านเศรษฐกิจ และทิศทางอัตราดอกเบี้ย อย่างไรบ้าง

 

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายชัยยศ กล่าวว่า ดัชนีฯมีโอกาสที่จะลดช่วงบวกลงได้ จากแรงขายทำกำไร เนื่องจากหุ้นที่ขยับขึ้นมาเป็นหุ้นในกลุ่มพลังงานเป็นหลัก ขณะที่หุ้นในกลุ่มอื่น ๆ ไม่ค่อยเคลื่อนไหว พร้อมให้แนวรับ 1,375 จุด ส่วนแนวต้าน 1,385 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,876.14 ล้านบาท ปิดที่ 263.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท

 

ORI มูลค่าการซื้อขาย 1,651.12 ล้านบาท ปิดที่ 10.10 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท

 

JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,416.23 ล้านบาท ปิดที่ 5.55 บาท ลดลง 0.05 บาท

 

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,207.15 ล้านบาท ปิดที่ 73.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท

 

TIPCO มูลค่าการซื้อขาย 837.75 ล้านบาท ปิดที่ 19.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท

 

อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2268483

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

11330040_1109274879088028_6181072018294976650_n.jpg?oh=3aa46376aa8c363b2ad0620fd27fe842&oe=56CCD460&__gda__=1452044256_89d53c2d5083b0428ece90da91cf81c3

 

เที่ยวเมืองไทย ไปทั่งถิ่น

มิตรภาพ น้ำใจ มิตรเมืองไทยงดงาม

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2558 07:42:25 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 ต.ค.2558

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มเหมืองแร่ และกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 16-17 ก.ย. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,912.29 จุด พุ่งขึ้น 122.10 จุด หรือ +0.73% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,995.83 จุด เพิ่มขึ้น 15.91 จุด หรือ +0.80% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,791.15 จุด เพิ่มขึ้น 42.79 จุด หรือ +0.90%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.1% ปิดที่ 360.93 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,667.34 จุด เพิ่มขึ้น 6.70 จุด หรือ +0.14% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,970.40 จุด เพิ่มขึ้น 67.57 จุด หรือ +0.68% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,336.35 จุด เพิ่มขึ้น 10.19 จุด หรือ +0.16%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ เนื่องจากการได้รับการจัดอันดับความน่าลงทุนที่ดีขึ้น

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.19 จุด หรือ 0.16% ที่ 6,336.35 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ รายงานของ EIA ยังระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 72 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 47.81 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 59 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 51.33 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า ธนาคารกลางหลายแห่งเข้าซื้อทองคำไว้ในทุนสำรองเดือนส.ค.

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.30 ดอลลาร์ หรือ 0.20% ปิดที่ระดับ 1,148.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ ปิดที่ 16.094 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 11.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 946.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 8.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 699.50 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบสกุลเงินยูโร ขณะที่ปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกันเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) หลังจากข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีในเดือนส.ค.ร่วงลงรุนแรงมากกว่าที่คาด

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1252 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1273 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5317 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5232 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.92 เยน จาก 120.27 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9728 ฟรังก์ จาก 0.9670 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7205 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7153 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,912.29 จุด เพิ่มขึ้น 122.10 จุด +0.73%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,791.15 จุด เพิ่มขึ้น 42.79 จุด +0.90%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,995.83 จุด เพิ่มขึ้น 15.91 จุด +0.80%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,336.35 จุด เพิ่มขึ้น 10.19 จุด +0.16%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,970.40 จุด เพิ่มขึ้น 67.57 จุด +0.68%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,667.34 จุด เพิ่มขึ้น 6.70 จุด +0.14%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,495.23 จุด เพิ่มขึ้น 101.13 จุด +1.20%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 18,322.98 จุด เพิ่มขึ้น 136.88 จุด +0.75%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,005.84 จุด เพิ่มขึ้น 15.19 จุด +0.76%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,108.80 จุด เพิ่มขึ้น 53.31 จุด +0.76%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 22,515.76 จุด เพิ่มขึ้น 684.14 จุด +3.13%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,487.13 จุด เพิ่มขึ้น 41.35 จุด +0.93%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,961.81 จุด เพิ่มขึ้น 64.40 จุด +2.22%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,035.85 จุด เพิ่มขึ้น 102.97 จุด +0.38%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,689.25 จุด เพิ่มขึ้น 26.74 จุด +1.61%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,197.90 จุด เพิ่มขึ้น 30.50 จุด +0.59%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,228.40 จุด เพิ่มขึ้น 29.40 จุด +0.57%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2268864

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบยูโร หลังผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเยอรมนีร่วง

 

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2558 07:37:27 น.

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบสกุลเงินยูโร ขณะที่ปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกันเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) หลังจากข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีในเดือนส.ค.ร่วงลงรุนแรงมากกว่าที่คาด

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1252 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1273 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5317 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5232 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.92 เยน จาก 120.27 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9728 ฟรังก์ จาก 0.9670 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7205 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7153 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์ปรับตัวแข็งแกร่งเมื่อเทียบสกุลเงินยูโร โดยยูโรได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีรายงานเมื่อวานนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. ร่วงลง 1.2% ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.1% เนื่องจากผลผลิตสินค้าประเภททุนปรับตัวลดลงอย่างหนัก

 

การร่วงลงของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนส.ค.ถือเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ว่า ภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีกำลังขาดแรงขับเคลื่อน นอกจากนี้ ยังสะท้อนให้เห็นว่าการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนและภาวะถดถอยในตลาดของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนานั้น กำลังเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเยอรมนี

 

ขณะเดียวกัน ดอลลาร์ปรับลดลงเมื่อเทียบสกุลเงินเยน เนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ไม่ได้ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม หลังการประชุมเป็นเวลา 2 วันที่เสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ โดย BOJ มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ และได้คงระดับการประเมินเศรษฐกิจ พร้อมระบุว่า "เศรษฐกิจฟื้นตัวปานกลาง" แม้แนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อยังคงซบเซาอยู่ก็ตาม

 

ทั้งนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังคงเผชิญแรงกดดัน เนื่องจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้า ซึ่งทำให้ตลาดวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นช่วงปีหน้า จากเดิมที่ประเมินกันไว้ภายในปีนี้

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2268861

 

เงินหยวนแข็งค่าแตะ 6.3505 ต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2558 09:02:31 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.08% แตะที่ 6.3505 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

 

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

ธนาคารกลางจีนได้ปฏิรูประบบอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อวันที่ 11 ส.ค.เพื่อให้อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐสามารถสะท้อนสถานการณ์ในตลาดได้ดียิ่งขึ้น

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq22/2269069

 

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ ตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก

 

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2558 09:01:33 น.

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่ตลาดหุ้นจีนกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง หลังจากหยุดยาวเพื่อเฉลิมฉลองวันชาติ

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.2% แตะ 131.95 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 18,310.62 จุด ลดลง 12.36 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,588.69 จุด เพิ่มขึ้น 72.93 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,156.08 จุด เพิ่มขึ้น 103.30 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,528.46 จุด เพิ่มขึ้น 33.23 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,016.36 จุด เพิ่มขึ้น 10.52 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,978.03 จุด เพิ่มขึ้น 16.22 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,682.67 จุด ลดลง 6.58 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,123.67 จุด เพิ่มขึ้น 14.87 จุด

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2269068

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก 2.30 ดอลล์ เหตุวิตกศก.หนุนแรงซื้อทอง

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2558 07:37:39 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า ธนาคารกลางหลายแห่งเข้าซื้อทองคำไว้ในทุนสำรองเดือนส.ค.

 

 

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.30 ดอลลาร์ หรือ 0.20% ปิดที่ระดับ 1,148.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ ปิดที่ 16.094 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 11.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 946.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 8.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 699.50 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจาก IMF ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้สู่ระดับ 3.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินในปี 2009 โดยลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.ค.ที่ระดับ 3.3% และต่ำกว่าการขยายตัวในปีที่แล้วที่ 3.4%

 

IMF ยังออกรายงานเตือนว่า ความเสี่ยงใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจโลกขณะนี้อยู่ที่ตลาดเกิดใหม่ ซึ่งบริษัทเอกชนได้ก่อหนี้จำนวนมาก ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน

 

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนหลังจากสภาทองคำโลกรายงานเมื่อวานนี้ว่า ธนาคารกลางหลายแห่งได้ซื้อทองคำรวม 47 ตันไว้ในทุนสำรองของประเทศในเดือนส.ค. หลังจากที่มีการซื้อทองคำ 62 ตันในเดือนก.ค.

 

ทั้งนี้ จีนและรัสเซียเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุด เนื่องจากธนาคารกลางของทั้ง 2 ประเทศต้องการกระจายทุนสำรองให้อยู่ในรูปทองคำเพิ่มขึ้น ขณะที่ลดการถือครองดอลลาร์

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2268862

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 72 เซนต์ หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่ง

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2558 07:21:55 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ รายงานของ EIA ยังระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 72 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 47.81 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 59 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 51.33 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบอ่อนแรงลง หลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 461 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน และปรับตัวขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล

 

ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลงสู่ระดับ 87.5%

 

นอกจากนี้ ข้อมูลของ EIA ยังระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 76,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.172 ล้านบาร์เรลต่อวัน

 

ทั้งนี้ EIA คาดการณ์ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐโดยเฉลี่ยในปีนี้จะอยู่ที่ 9.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ 8.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2559

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2268860

 

 

ร.ฟ.ท.คาดเซ็นสัญญาซื้อรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์จากจีนในเดือนธ.ค.นี้

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 7 ตุลาคม 2558 18:32:15 น.

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม และนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม ได้ตรวจเยี่ยมศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เพื่อติดตามความก้าวหน้าและการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ โดยนายอาคม เปิดเผยว่า ได้รับทราบการประกวดราคาซื้อรถไฟฟ้าธรรมดา(City Line) 7 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ สำหรับใช้ในโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง(แอร์พอร์ต เรล ลิงก์) ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) ราคากลาง 4,413.10 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้ข้อสรุปราคาตัวรถและระบบอาณัติสัญญาณแล้ว เหลือการเจรจาส่วนของค่าอะไหล่สำรองอีก 10%

 

 

 

ปัจจุบันขบวนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ 9 ขบวน ให้บริการได้ 7 ขบวน โดยอีก 2 ขบวนอยู่ระหว่างรออะไหล่ซ่อมบำรุงคาดว่าจะเสร็จในเดือนเม.ย.59 ขณะที่จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมากเฉลี่ย 6 หมื่นคนต่อวัน รถที่มีอยู่จึงไม่เพียงพอในการให้บริการ ต้องเร่งรัดการจัดซื้อรถใหม่ 7 ขบวน นอกจากนี้จะเร่งรัดการซ่อมบำรุงหนัก (Overhaul) รถ 9 ขบวนเดิม ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ

 

ส่วนการแยกบริหาร บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ออกจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)นั้น นายอาคม กล่าว่า กำหนดแล้วเสร็จภายในกลางปี 2559 เพื่อความคล่องตัวในการบริหาร โดยร.ฟ.ท.ยังคงถือหุ้น 100% จากปัจจุบันร.ฟ.ท.จะจัดสรรงบประมาณรายจ่ายแต่ละปีและจัดเก็บรายได้ไปดูแล แต่อนาคตหลังแยกการบริหาร ระบบงบประมาณรายได้รายจ่าย การจัดซื้อจัดจ้าง ทางแอร์พอร์ตลิงก์จะดำเนินการเอง และทำให้สามารถตรวจสอบศักยภาพในการบริหารของแอร์พอร์ตลิงก์ได้ชัดเจน และทำให้ทราบต้นทุนในการเดินรถอีกด้วย

 

โดยขณะนี้ทรัพย์สินของแอร์พอร์ตลิงก์มีประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท จะพิจารณาวิธีการโอนร่วมกับหนี้สินและรายได้รายจ่ายที่มี โดยคำนึงว่าแอร์พอร์คลิงก์จะต้องอยู่ได้ ซึ่งอาจจะต้องทยอยการโอนซี่งปี 2559 ร.ฟ.ท.ได้มอบอำนาจให้แอร์พอร์ตลิงก์ดำเนินการในเรื่องจัดซื้อจ้ดจ้างเองแล้ว

 

ด้านนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า หลังมีข้อท้วงติงได้มีการชี้แจงแล้ว โดยขณะนี้ได้เจรจากับผู้เสนอราคาคือ กลุ่มกิจการร่วมค้า ชางชุน ซีอาซีซี และ ริเวอร์ เอนจิเนียริง และสรุปราคาตัวรถและอาณัติสัญญาณที่ 4,400 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 13 ล้านบาท และขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาในส่วนของค่าสำรองอะไหล่ คาดว่าจะส่งเรื่องไปสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) ในเดือนต.ค.นี้เพื่อพิจารณาแหล่งเงิน และจะลงนามสัญญาได้ในปลายเดือนธ.ค.58 และใช้เวลาส่งมอบรถ 24 เดือนคาดรถทั้ง 7 ขบวน จะส่งมอบครบในปี 61 ระยะเวลารับประกัน 2 ปี เพิ่มขีดความสามารถรองรับ ซึ่งประมาณการณ์ผู้โดยสารในปี 61 จะมีถึง 1.2 แสนคนต่อวัน

 

ทั้งนี้ ครม.อนุมัติโครงการเมื่อปี 56 วงเงินรวมกว่า 4,800 ล้านบาท แยกเป็นตัวรถและอาณัติสัญญาณประมาณ 4,400 ล้านบาท และค่าสำรองอะไหล่อีก 10% เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยในรถ 9 ขบวนแรกที่ไม่ได้เตรียมสำรองอะไหล่ไว้ ส่วนกรณีที่นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ท้วงติงว่าราคาแพงและล็อคสเปคนั้น ประเด็นที่ 1 พื้นที่ยืน ทีโออาร์กำหนด 6 คนต่อตารางเมตร ส่วนน้ำหนักกดเพลาไม่เกิน 10 คนต่อตารางเมตร ไม่ได้กำหนดพื้นที่ยืนว่า 10 คนต่อตารางเมตร ประเด็นที่ 2 ระบบขับเคลื่อนด้วยชุดมอเตอร์ไฟฟ้า 1ขบวน(4ตู้) จะมี 2 ชุด(หน้า,หลัง)เพื่อป้องกันการจอดตายกลางทาง โดยเมื่อมอเตอร์ชุดใดเสียอีกชุดจะต้องทำงานขับเคลื่อนได้ ไม่ได้กำหนดว่าต้องมีความเร็ว 160 กม./ชม.เท่าเดิม และประเด็นที่ 3 ราคาแพงโดยเปรียบเทียบกับรถของมาเลเซีย เนื่องจากรถแอร์พอร์ตลิงก์มีเสปคที่สูงกว่า ทั้งความเร็ว และมีระบบสิ่งอำนวยความสะดวกภายในตัวรถ เช่น อาณัติสัญญาณ, CCTV,ไวไฟ, ระบบเตือนผู้โดยสาร, ทีวีในตัวรถ เป็นต้น ส่วนมาเลเซียซื้อแต่ตัวรถเปล่า

 

ทั้งนี้ ในการจัดซื้อรถและกำหนดราคากลางนั้น ได้สอบถามไปยังผู้ผลิตต่างๆ และนำมาหาค่าเฉลี่ยที่เหมาะสม ซึ่งการจัดซื้อรถ 7 ขบวนนี้ ใช้เสปคเดียวกับรถ 9 ขบวนแรก (31 ตู้) ที่มีการจัดซื้อเมื่อเดือนม.ค.48 โดยมีการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกและออกแบบให้ทันสมัยขึ้น โดยราคารถ 9 ขบวนแรก เฉลี่ยอยู่ที่ 149 ล้านบาทต่อตู้ ส่วนรถ 7 ขบวน (28 ตู้) เฉลี่ยอยู่ที่ 135 ล้านบาทต่อตู้

 

อินโฟเควสท์ โดย คคฦ/กษมาพร/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th-

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2268800

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ศาลฎีกายกฟ้องคดีสุเทพหมิ่นทักษิณอยากเป็นประธานาธิบดี ชี้วิจารณ์โดยสุจริต

 

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2558 13:21:36 น.

ศาลฎีกา พิพากษายืนยกฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในคดีที่ถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร(ยศในขณะนั้น) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 กรณีอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรและให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในทำนองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินมายังเวทีชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเพราะต้องการกลับมาเป็นประธานาธิบดี

 

 

 

โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 ไม่ได้มุ่งใส่ความ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ได้รับความเสียหาย จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท คดีจึงไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง

 

ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต การที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยชี้ว่าคดีไม่มีมูลนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน ยกฟ้องเช่นกัน

 

ทั้งนี้ ศาลฎีกาพิจารณาการกระทำของจำเลยแล้ว เห็นว่า คำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์นั้นชอบแล้ว จึงเห็นพ้องพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้อง

 

อินโฟเควสท์ โดย ตรฦ/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2269480

 

 

 

นายกฯ ย้ำปรองดองไม่มีกำหนดระยะเวลา ยึดตามหลักกม.-ไม่เลือกปฎิบัติ

 

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2558 16:27:59 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงหลักการสร้างความปรองดองที่ทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและเป็นไปตามหลักกฎหมายว่า ไม่ได้กำหนดระยะเวลา ซึ่งที่ผ่านมาได้เริ่มดำเนินการแล้ว โดยได้สั่งการให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เริ่มการปฎิรูปในระยะที่ 1 ไปแล้ว และต้องดำเนินการต่อในระยะเวลาโรดแมพที่ขยายออกไปจากขั้นตอนของการร่างรัฐธรรมนูญ โดยเน้นการบูรณาการทำงานของทุกกระทรวงทุกหน่วยงาน เช่น การตั้งคณะกรรมการซุปเปอร์บอร์ดที่ไม่เคยมีการตั้งมาก่อน พร้อมปรับรายละเอียดการทำงานทุกหน่วยงานให้ชัดเจน รวมถึงปรับกฎหมาย ซึ่งจากการดำเนินการก็เห็นผลการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การติดตามตัวผู้กระทำผิดในคดีระเบิด

 

 

 

นอกจากนี้ยังสร้างระบบการใช้จ่ายงบประมาณที่สอดคล้องกัน ซึ่งต้องกับการปฎิรูปที่การนำเรื่องเดิมมาปรับปรุงทำใหม่ให้ดีขึ้น ขณะที่การนำมาตรา 44 มาใช้ก็เพื่อให้เกิดความมั่นคงในทุกด้าน เช่น ความมั่นคงด้านพลังงาน การป้องกันประเทศ ความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ สร้างเสถียรภาพให้ประเทศทั้งในส่วนของภาครัฐและการเมือง วันนี้ตนเองไม่ใช่นักการเมืองแต่ต้องเข้ามาทำงานการเมือง ซึ่งต้องทำให้การเมืองนิ่ง เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับต่างประเทศ เพื่อการลงทุน แต่หากว่าทุกคนยังขัดแย้งกับตนเอง อนาคตจะไม่มีนักลงทุนเข้ามา เพราะนักลงทุนระบุว่า อยากให้ประเทศไทยเป็นอย่างที่ตนเองเข้ามาบริหารราชการในขณะนี้ ซึ่งตนเองก็หวังว่ารัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาสามารถดำเนินการต่อได้ และไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง

 

"แกล้งตายไม่ได้ ต้องตายจริงสิ แสดงว่ามีการกระทำผิดกฏหมายหรือไม่ หรือว่าหยุดกระทำความผิดด้วยหรือไม่ ไม่ห่วงพวกแกล้งตายหรอก กฏหมายเขามีอยู่ ทำผิดก็โดนจับ กฏหมายล้อเล่นได้ที่ไหน ไม่ใช่เอากฏหมายมาสู้กัน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาเป็นปัญหาของการทำให้กฎหมายไม่สามารถบังคับใช้ได้ มีการเลือกปฏิบัติ และย้ำว่ารัฐบาลไม่เคยเลือกปฏิบัติ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ใครทำผิดก็ว่าไปตามผิด ส่วนผู้ที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการ เมื่อสิ้นสุดแล้วก็จะเข้าสู่ขั้นตอนที่มีอยู่ เช่น การผ่อนผันบรรเทาโทษหรือลดโทษ และอาจจะไปถึงนิรโทษกรรม ดังนั้นจึงต้องมีกลไกเดินหน้าปฏิรูปและสร้างความปรองดอง ลดความขัดแย้ง เพราะรัฐบาลหน้าเข้ามาจะทำหรือไม่ ตนเองไม่สามารถรู้ได้ เพราะกลไกที่มีขึ้น เป็นเพียงการวางกรอบกว้างๆ เพื่อแก้ปัญหาหลัก เช่น ลดความเหลื่อมล้ำ แม้ตนเองจะใช้แนวทางข้าราชการในการทำงานแต่ก็รับฟังความเห็นของทุกคน คำนึงถึงประชาชนทุกกลุ่ม และไม่มีการทำเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และมีความเป็นห่วงประเทศจึงต้องเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้

 

อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2269763

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...