มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

found on negis art

 

สวัสดี วันจันทร์ ใจใสแกร่ง

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2558 06:26:55 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 2 ต.ค. 2558

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวสูงขึ้นเมื่อวันศุกร์ (2 ต.ค.) จากที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงแรกของการซื้อขาย โดยนักลงทุนเชื่อว่า มีความเป็นไปได้น้อยลงที่ธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ หลังตัวเลขจ้างงานเดือนก.ย.ออกมาน่าผิดหวัง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นยังได้ช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนส่งแรงซื้อเข้าหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและวัสดุด้วย

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 200.36 จุด หรือ 1.23% ปิดที่ 16,472.37 จุด ดัชนี S&P500 บวก 27.54 จุด หรือ 1.43% ปิดที่ 1,951.36 จุด ดัชนี NASDAQ พุ่งขึ้น 80.69 จุด หรือ 1.74% ปิดที่ 4,707.78 จุด

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (2 ต.ค.) เนื่องจากข้อมูลแรงงานสหรัฐที่ออกมาย่ำแย่ได้จุดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐอาจจะชะลอการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยออกไปก่อน

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.5% ปิดที่ 347.86 จุด สำหรับทั้งสัปดาห์ ดัชนีปรับตัวลง 0.4%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 32.34 จุด หรือ 0.73% ปิดที่ 4,458.88 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเพิ่มขึ้น 43.82 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 9,553.07 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนเพิ่มขึ้น 57.51 จุด หรือ 0.95% ปิดที่ 6,129.98 จุด

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดแดนบวกเมื่อวันศุกร์ (2 ต.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มเหมือง เนื่องจากตัวเลขจ้างงานที่ออกมาต่ำกว่าคาดของสหรัฐ ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งเป็นผลดีต่อกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากหุ้นแบงก์ที่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งเช่นกัน

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 57.51 จุด หรือ 0.95% ที่ 6,129.98 จุด ขณะตลอดสัปดาห์ ดัชนีปรับตัวขึ้น 0.3%

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (2 ต.ค.) หลังจากมีรายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในสหรัฐลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายปี ซึ่งบ่งชี้ว่าผลผลิตน้ำมันในสหรัฐกำลังหดตัว

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้น 80 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 45.54 ดอลลาร์/บาร์เรล สำหรับตลอดสัปดาห์ สัญญาปรับตัวลงราว 0.4%

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ดีดขึ้น 44 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 48.13 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ทั้งสัปดาห์ สัญญาร่วงลงไปประมาณ 1%

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ (2 ต.ค.) หลังจากปรับตัวลดลงติดต่อกันมา 5 วันทำการ เนื่องจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ย.ที่ออกมาน่าผิดหวังนั้นได้กดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งส่งผลดีต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงโลหะมีค่าอย่าง ทอง

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวขึ้น 22.9 ดอลลาร์ หรือ 2.06% ปิดที่ระดับ 1,136.6 ดอลลาร์/ออนซ์ อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งสัปดาห์ ราคาทองลดลง 0.8%

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 75.2 เซนต์ หรือ 5.18% ปิดที่ 15.263 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ดีดขึ้น 4.3 ดอลลาร์ หรือ 0.48% ปิดที่ 909.5 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ เมื่อวันศุกร์ (2 ต.ค.) หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐออกมาย่ำแย่กว่าที่คาดการณ์กันไว้

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1225 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1185 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5193 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5132 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.88 เยน จาก 119.92 เยน ปรับตัวลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9707 ฟรังก์ จาก 0.9777 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงแตะ 1.3189 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3257 ดอลลาร์แคนาดา

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7032 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7031 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,472.37 จุด เพิ่มขึ้น 200.36 จุด, +1.23%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,707.78 จุด เพิ่มขึ้น 80.70 จุด, +1.74%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,951.36 จุด เพิ่มขึ้น 27.54 จุด, +1.43%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,458.88 จุด เพิ่มขึ้น 32.34 จุด, +0.73%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,553.07 จุด เพิ่มขึ้น 43.82 จุด, +0.46%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,129.98 จุด เพิ่มขึ้น 57.51 จุด, +0.95%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,793.15 จุด ลดลง 8.70 จุด, -0.31%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,628.80 จุด ลดลง 5.13 จุด, -0.31%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,207.80 จุด ลดลง 47.08 จุด, -1.11%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 21,506.09 จุด เพิ่มขึ้น 659.79 จุด, +3.17%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,850.61 จุด ลดลง 40.33 จุด, -0.59%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,052.00 จุด ลดลง 60.10 จุด, -1.18%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,089.20 จุด ลดลง 54.90 จุด, -1.07%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,969.68 จุด ลดลง 9.64 จุด, -0.49%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,725.13 จุด เพิ่มขึ้น 2.71 จุด, +0.02%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,305.03 จุด เพิ่มขึ้น 9.09 จุด, +0.11%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2265770

 

สหรัฐฯขยับไทยแก้ปัญหา แรงงานเด็กขั้นสำเร็จสูงสุด

 

 

ข่าวทั่วไป RYT9 -- จันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2558 06:00:00 น.

พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานของสหรัฐอเมริกาได้ออกประกาศเกี่ยวกับเรื่องการใช้แรงงานเด็กในสภาวะไม่ปกติ โดยได้ปรับสถานะของประเทศไทยในเรื่องการ

 

ใช้แรงงานเด็กจากระดับที่มีความสำเร็จปานกลางเมื่อปี 2013 มาเป็นระดับความสำเร็จมากในปี 2014 ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีและเป็นความสำเร็จของภาคส่วนต่างๆ กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และกระทรวงการต่างประเทศที่ได้มีความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง

 

 

 

หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จากรายงานการสำรวจการใช้แรงงานเด็กในรอบปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าประเทศไทยอยู่ในระดับความสำเร็จสูงสุด หรือระดับที่ 5 มีเพียง 13 ประเทศจากทั้งหมด 140 ประเทศ ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาได้มีความก้าวหน้าโดยลำดับ ในเรื่องการจัดทำนโยบายและแผนระดับชาติขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย การออกกฎกระทรวงที่กำหนดอายุของแรงงานเด็กเพื่อทำงานในภาคเกษตร การวางแผนจัดทำการสำรวจสถิติการใช้แรงงานเด็ก โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้เริ่มดำเนินโครงการในการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่เพื่อสำรวจการใช้แรงงานเด็กในกิจการประเภทต่างๆ ความร่วมมือกับเจ้าของสินค้า 5 ประเภทที่ขึ้นบัญชี ได้แก่ อ้อย เครื่องนุ่งห่ม กุ้ง ปลา และสื่อลามกที่เกี่ยวกับเด็ก อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าดังกล่าวถือเป็นผลที่ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศให้ประเทศไทยได้เลื่อนระดับในครั้งนี้

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/ryt9/2265772

 

ซูแบร์หนีลงใต้ ‘บิกแป๊ะ’สั่งตร.ตามล่า ประสานข้อมูลมาเลเซีย

 

 

ข่าวทั่วไป RYT9 -- จันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2558 06:00:00 น.

 

ดูรูปทั้งหมด

ซูแบร์หนีลงใต้

‘บิกแป๊ะ’สั่งตร.ตามล่า

ประสานข้อมูลมาเลเซีย

รับ7ล้านเงิน‘โอ๊ค’รอแจก

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีระเบิดศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และที่บริเวณท่าน้ำสาทร ว่า ได้มอบหมายให้พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนและเป็นผู้กำกับดูแลคดีนี้แทนตน ส่วนการติดตามตัว นายซูแบร์ อับดุลลาร์ หรือชายเสื้อฟ้า ที่นำระเบิดไปทิ้งที่ท่าน้ำสาทร นั้น มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร.สืบสวนติดตาม โดยให้ประสานกับประเทศมาเลเซีย อย่างต่อเนื่อง ซึ่งตามแนวทางการสืบสวนพบว่านายซูแบร์ ได้หนีไปทางชายแดนไทย-มาเลเซีย อย่างแน่นอน

 

 

 

ทั้งนี้ จากการได้ไปพูดคุยกับผู้ต้องหาขบวนการค้ามนุษย์ ที่ประเทศมาเลเซีย ควบคุมตัวไว้ ทำให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพราะทราบว่าผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวรู้จักกับ นายซูแบร์ ด้วย อย่างไรก็ดี จากการสืบสวนสอบสวนในขณะนี้น่าจะมีการขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้

 

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายพานทองแท้ ชินวัตร ประกาศว่าจะนำเงิน 7 ล้านบาท มามอบให้แก่ผู้ที่สามารถจับกุมคนร้ายในคดีระเบิดได้ ว่า ขณะนี้ได้รับเงินมาแล้ว โดยเก็บไว้ที่ พล.ต.ต.หญิง ขนิษฐา เที่ยงทัศน์ ผบก.กองการเงิน โดยรวมกับเงินสด 3 ล้านบาท ที่ทาง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง อีดต ผบ.ตร.มอบไว้ให้ก่อนหน้านี้

 

ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดี ทาง พล.ต.ต.หญิง ขนิษฐา จะดำเนินการับเงินดังกล่าวตามระเบียบบริหารการคลัง และตนจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา โดยมอบหมายให้ รอง ผบ.ตร.ฝ่ายบริหาร เป็นประธานกรรมการเข้ามาบริหารจัดการ จัดสรรให้เหมาะสม และหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนจับกุม ไม่มีการใช้จ่ายซี้ซั้วแน่นอน โดยจะต้องพิจารณาว่าจะจัดสรรปันส่วนอย่างไร ทั้งตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

 

เวลา 11.00 น.วันเดียวกัน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว และ พล.ต.ศรีศักดิ์ พูนประสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา สั่งการให้ พ.ต.อ.เสกสรร วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ประสานความร่วมมือกับ พ.อ.ปรมาธร บุนนาค ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่12 กองกำลังบูรพา สนธิกำลังเข้าตรวจค้นแคมป์งานก่อสร้างห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ริมถนนศรีเพ็ญ ซึ่งเป็นถนนเลียบแนวชายแดน บ้านดงงู หมู่ 7 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ทางทิศเหนือตลาดโรงเกลือ เนื่องจากเกรงว่า นายยงยุทธ พบแก้ว หรืออ๊อด หนึ่งผู้ต้องหาคดีระเบิดศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ จะหลบหนีมาในพื้นที่ดังกล่าวโดยปลอมเป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา เพื่อจะหนีออกนอกประเทศ

 

จากการตรวจค้นบริเวณแคมป์ก่อสร้างดังกล่าวไม่พบเบาะแส นายยงยุทธ แต่อย่างใด แต่ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ที่ลักลอบเข้ามาทำงานโดยไม่มีเอกสาร การได้รับอนุญาติให้ทำงานอย่างถูกต้อง ทั้งหมด 37 คน จึงควบคุมตัวส่งให้ ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.สระแก้ว รับไว้ดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง

 

นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้กำชับให้ผู้ประกอบการ ห้ามรับแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาทำงานอย่างเด็ดขาด และขอให้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ หากพบบุคคลต้องสงสัยที่มีลักษณะใบหน้าคล้ายคลึงกับนายยงยุทธ ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบทันที

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/ryt9/2265771

 

ปลัดแรงงานเร่งพัฒนา ภาคท่องเที่ยวนำรายได้เข้าประเทศ

 

 

ข่าวทั่วไป RYT9 -- จันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2558 06:00:00 น.

 

ดูรูปทั้งหมด

หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงานว่า ปัจจุบันกระทรวงแรงงานดูแลกำลังแรงงานทุกระดับทั้งหมดมีอยู่ราว 39 ล้านคน อยู่ในระบบประกันสังคม 12 ล้านคน และแรงงานนอกระบบการจ้างงานกว่า 20 ล้านคน ส่วนการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาแรงงานเหล่านี้จะต้องเตรียมความพร้อมให้กับแรงงานที่จะไปทำงานต่างประเทศและแรงงานที่อยู่ภายในประเทศ ขณะนี้สถานการณ์แรงงานอยู่ในช่วงขาเข้ามากกว่าเนื่องจากมีค่าจ้างแรงงานสูงมากกว่าประเทศเพื่อนบ้านหากไม่รวมประเทศสิงคโปร์ สำหรับการดูแลแรงงานไทยนั้นสิ่งที่ต้องดำเนินการคือหางานให้คนไทยทำ โดยการพัฒนาแรงงานไทย เนื่องจากกระบวนการส่งเสริมการมีงานทำจะอยู่ที่กระทรวงแรงงานทั้งหมด เช่น การแนะแนวอาชีพ การเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ตำแหน่งงาน อย่างไรก็ตามในแต่ละปีมีการพัฒนาฝีมือแรงงานมากกว่า 4 ล้านคน ทั้งนี้เมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องภาษา ไอที ความเข้าใจเรื่องอาเซียน โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายแรงงานในสาขาการท่องเที่ยวและบริการซึ่งเป็นตัวนำรายได้เข้าประเทศ จำเป็นต้องเร่งพัฒนากำลังคนในสาขาดังกล่าวให้มีความพร้อมโดยการฝึกอบรมให้สอดคล้องกับกรอบสมรรถนะของอาเซียน และฝึกทักษะด้านภาษาโดยการพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา

 

 

 

ในเรื่องการส่งเสริมผู้ประกอบการนั้น กระทรวงแรงงานได้ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการฝึกอบรมเสริมประสิทธิภาพในสถานประกอบการเอง เพื่อให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักภาษีได้ 200% นอกจากนี้กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้ให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการเพิ่มผลิตภาพแรงงานแก่ผู้ประกอบการ SMEs โดยมีทีมที่ปรึกษา และเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานเข้าไปให้คำปรึกษาในเรื่องกระบวนการผลิต ซัพพลายเชน(Supply Chain) ระบบนำเข้า-ส่งออกสินค้า วัตถุดิบ โดยเน้นการพัฒนาทักษะที่หลากหลายให้แรงงานได้มีบทบาทในการพัฒนาทักษะ ทำให้นายจ้างกับลูกจ้างมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน อีกทั้งเป็นการลดต้นทุนการผลิตได้ ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมามีการลงทุน 60 กว่าล้านบาท แต่สามารถลดต้นทุนได้มากกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งนอกจากนี้โครงการนี้ยังสร้างความรู้สึกที่ดี ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างและลูกจ้างให้เกิดขึ้นด้วย

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/ryt9/2265774

 

โจรใต้ยิงทหารดับ1 ฉกปืนก่อนเผ่นหนี

 

 

ข่าวทั่วไป RYT9 -- จันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2558 06:00:00 น.

 

ดูรูปทั้งหมด

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ร.ต.อ.วรรณชัย จินดาวรรณพนักงานสอบสวน สภ.รามัน จ.ยะลา รับแจ้งเหตุยิงกันและมีผู้เสียชีวิตในพื้นที่หมู่ 1 บ้านบือนากอ ต.บาลอ อ.รามัน เมื่อช่วงค่ำวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา จึงรายงานไปยัง พ.ต.อ.ลุกมาน บาเกาะ ผกก.สภ.รามัน ก่อนนำกำลัง พร้อมด้วย ทหาร และฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ โดยพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ขก 6029 สงขลา จอดเสียหลักตกข้างทาง สภาพถูกกระสุนปืนจนพรุนทั้งคัน ใกล้กันพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ ส.อ.มูหะหมัด ซีละ อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง พล.ร.15 ตรวจสอบโดยรอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนเอชเค และปลอกกระสุนปืนลูกซอง หลายสิบปลอก

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/ryt9/2265769

[ginger 11,058]

กัวเตมาลาเผยยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดินถล่มเพิ่มขึ้นเป็น 107 คน

 

 

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2558 06:56:36 น.

รัฐบาลกัวเตมาลาเปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดินถล่มที่หมู่บ้าน El Cambray II ทางตอนใต้ของกัวเตมาลา เพิ่มขึ้นเป็ 107 คนแล้วในขณะนี้

 

รายงานระบุว่า หน่วยกู้ภัยยังคงเดินหน้าคนค้นหาผู้ที่คาดว่าจะรอดชีวิต ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัวเตมาลาคาดว่า อาจจะมีประชาชนจำนวนมากถึง 500 คนที่ถูกฝังอยู่ใต้ดินถล่ม

 

ด้านสำนักงานป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติของกัวเตมาลากล่าวว่า เหตุการณ์ดินถล่มครั้งนี้ส่งผลให้บ้านเรือนกว่า 125 หลังต้องจมอยู่ใต้โคลน และคาดว่าอาจจะมีประชาชนราว 500 คนเสียชีวิต ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยยังคงเดินหน้าค้นหาต่อไป

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq38/2265777

 

ฤทธิ‘มูจีแก’ กำแพงวัดนนทบุรีพังถล่ม เมืองโอ่งผวา!จระเข้หลุด

 

 

ข่าวทั่วไป RYT9 -- จันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2558 06:00:00 น.

 

 

ฤทธิ‘มูจีแก’

กำแพงวัดนนทบุรีพังถล่ม

เมืองโอ่งผวา!จระเข้หลุด

น้ำป่าท่วมกำแพงเพชร

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม นายฉัตรชัย พรหมเลิศอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุมูจีแก ทำให้ภาวะฝนตกเป็นบริเวณกว้างอย่างต่อเนื่อง จนเกิดน้ำท่วมขังที่ จ.จันทบุรี ในพื้นที่ อ.ขลุง และอ.เมืองจันทบุรี บริเวณตลาดวรรณาการและถนนท่าแฉลบ วัดทองทั่ว ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 30–50เซนติเมตร ซึ่ง ปภ.จันทบุรี ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ประสบภัยระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการแก้ไขปัญหาให้ความช่วยเหลือดำเนินการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่

 

 

 

โดยปัจจุบันพื้นที่ อ.เมืองจันทบุรี สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.ขลุง ต.วังยาว และ ต.วังสรรพรส เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลายน้ำที่น้ำจะไหลผ่านลงสู่ทะเล จึงคาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1–2วัน อย่างไรก็ตาม ปภ.ยังต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ผลกระทบจากพายุ “มูจีแก” ระหว่างวันที่ 4-7 ต.ค. 2558 นี้ต่อไป เพราะบริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

 

พายุอ่อนตัวเป็นดีเปรสชั่น

เวลา 13.00น.วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนพายุ ‘มูจีแก’ฉบับที่10

 

ว่า พายุไต้ฝุ่นมูจีแก บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองซานเจี้ยน มณฑลกวางตุ้งแล้วและเวลา 16.00น.พายุไต้ฝุ่นได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว มีความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 20กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า พายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย

 

วัดปากเกร็ดเขื่อนกั้นคลองพัง

สำหรับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุเขื่อนกั้นคลองของวัดเชิงเลน หมู่ 8 ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พังถล่มลงมาเป็นแนวยาว สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับพระภายในวัด รวมถึงประชาชนที่มาปฏิบัติธรรม ซึ่งที่เกิดเหตุเป็นแนวเขื่อนกั้นคลองวัดเชิงเลนเหนือ อยู่ติดกับแนวกุฏิของวัด พบว่าได้พังถล่มลงไปในคลองเป็นระยะทางยาวกว่า 50 เมตร

 

พระครูนนทคุณพิพัฒน์ เจ้าอาวาสวัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่ค่ำวันที่ 3 ต.ค. 2558 ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก และต่อมาในขณะที่พระเณร และผู้ถือศีลกำลังปฏิบัติธรรมกันอยู่ จู่ๆเขื่อนกั้นคลองของทางวัดก็เกิดพังครืนลงมาเป็นแนวยาว ทำเอาทั้งพระ เณร และผู้มาปฏิบัติธรรม ต่างพากันตกใจวิ่งหนีออกจากกุฏิ มารวมตัวกันที่อุโบสถหลังใหญ่

 

ด้าน นายวิศิษฎ์ พวงเพชร นายอำเภอปากเกร็ด ที่เดินทางมาตรวจสอบเหตุการณ์ กล่าวว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ดินสไลด์ตัวพังลงมาเป็นแนวยาวตลอดตัวเขื่อน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจึงขอให้งดใช้กุฏิที่อยู่ติดกับแนวเขื่อนที่พังถล่มลงมา เพราะหากดินยังไม่หยุดทรุดตัวอาจได้รับอันตรายจากกุฏิถล่มได้

 

กำแพงเพชรเกิดน้ำท่วมหนัก

ขณะที่ จ.กำแพงเพชร ฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่องนานกว่า 6 ชั่วโมง ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ อ.พรานกระต่าย ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาเขียว และเทือกเขาป่าแม่ระกาทะลักล้นคลองห้วยโค้ง ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนย่านชุมชนตลาดเทศบาลพรานกระต่าย หมู่ 2, 3, 4 ตามท้องถนนมีระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 20 ซม. บางช่วงถูกน้ำท่วมเป็นระยะทางเกือบ 500 เมตร ส่วนที่ ต.ถ้ำกระต่ายทอง 5 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 4, 5, 8, 11, 13 ก็มีน้ำท่วมขังบ้านเรือน และถนนในหมู่บ้าน ประชาชนต้องขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง

 

นายธานี ธัญญาโภชน์ ผวจ.กำแพงเพชร กล่าวว่า ได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่มีบ้านเรือนในพื้นที่เสี่ยงให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด เพราะอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันหรือน้ำป่าไหลหลากได้ พร้อมประสานให้ทุกหน่วยงานทั้ง ปภ.จังหวัดกำแพงเพชร ฝ่ายปกครองทั้งอำเภอและเทศบาล รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหาร ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน นำกระสอบทรายกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าบ้านเรือนชาวบ้าน พร้อมกับเตรียมน้ำดื่มออกแจกจ่ายให้ประชาชนเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว

 

แม่ทัพ2สั่งทหารพร้อมช่วยปชช.

ที่สนามหน้าสโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.ธวัช สุกปลั่ง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ตรวจความพร้อมของศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 21 (มทบ.21) เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ สำหรับช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุ “มูจีแก” ที่คาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนักช่วงวันที่ 4-6 ต.ค. 2558 นี้

 

พล.ท.ธวัช กล่าวว่า ในส่วนของ จ.นครราชสีมา อยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 21 และศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองพลพัฒนาที่ 2 รับผิดชอบดูแลสนับสนุนเป็นส่วนรวม ได้เตรียมความพร้อมในที่ตั้ง โดยมีการตรวจความพร้อมในด้านกำลังพล เครื่องมือบรรเทาสาธารณภัย สิ่งของอุปโภคบริโภค ยานพาหนะ และบริการทางการแพทย์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและการแจ้งเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมเก็บของขึ้นที่สูงไว้หากเกิดน้ำท่วมฉับพลันจะได้รับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที

 

น้ำท่วมถนนสาย’สีคิ้ว-ชัยภูมิ’

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในช่วงเช้าได้เกิดน้ำท่วมขังสูงกว่า 30 ซม. บนถนนสายสีคิ้ว-ชัยภูมิ ในเขตเทศบาลตำบลด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เป็นระยะทางยาวกว่า 300 เมตร เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ทำให้การสัญจรผ่านไปมาบนถนนสายดังกล่าวเป็นไปอย่างยากลำบากโ ดยเฉพาะรถขนาดเล็ก

 

นายธีระยุทธ ถนอมวัฒนา นายช่างโครงการก่อสร้างถนนสี่เลน สายสีคิ้ว-ขัยภูมิ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้รถแบคโฮขุดเปิดช่องทางระบายน้ำต่างๆตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ เพื่อเป็นการช่วยระบายน้ำหากมีมวลน้ำก้อนใหญ่ไหลบ่ามาท่วมเขตเทศบาลด่านขุนทด ขณะที่ทาง น.ส.สลักจิต กิมตระกูล นายกเทศมนตรีตำบลด่านขุนทด ก็ได้สั่งการให้มีการเฝ้าระวังเตรียมพร้อมรับมือ หากว่ามีน้ำไหลบ่ามาท่วมในเขตเทศบาลในช่วงวันสองวันนี้ โดยได้มีการนำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้ง เพื่อสูบน้ำเข้าไปเก็บไว้ที่บึงบ้านหาญ และหากเครื่องสูบน้ำไม่เพียงพอ ก็จะขอประสานไปยังสำนักงานชลประทานจังหวัดนครราชสีมา เพื่อนำมาติดตั้งเพิ่มต่อไป

 

เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำรอ“มูจีแก”

ด้านสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา ที่จุดวัดน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท พบว่าระดับน้ำเพิ่มขึ้น 20 เซนติเมตร (ซม.) อยู่ที่ 16.43 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ต่ำกว่ามาตรฐานกักเก็บของเขื่อนเจ้าพระยา 7 เซนติเมตร ขณะที่ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น 6 ซม. ไปอยู่ที่ 5.96 ม.รทก. โดยเขื่อนเจ้าพระยามีการปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำเป็น 75 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม./วินาที)

 

นายเอกศิษฐ์ ศักดีธนาภรณ์ ผอ.โครงการเขื่อนเจ้าพระยา เผยว่า ระหว่างวันที่ 4-6 ต.ค.2558 ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากพายุ “มูจีแก” ทำให้มีฝนตกในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา คาดว่าจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าสู่เขื่อนเพิ่มขึ้น จึงปรับการระบายน้ำเพิ่มเพื่อปรับสมดุลของน้ำเหนือและท้ายเขื่อน

 

และอาจระบายน้ำเพิ่มอีกหากระดับน้ำเหนือเขื่อนมีแนวโน้มที่จะล้นตลิ่ง ทั้งนี้เขื่อนเจ้าพระยาจะรักษาระดับน้ำไว้ที่ไม่เกิน 16.75 ม.รทก. เพื่อไม่ให้กระทบกับชุมชนริมแม่น้ำ ซึ่งการปรับเพิ่มการระบายน้ำ จะส่งผลให้ระดับน้ำในจังหวัดท้ายเขื่อน เช่น สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และ กทม. เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในระยะ 1-3 วันนี้

 

ราชบุรีชาวบ้านผวาจระเข้หลุด

ส่วนที่ จ.ราชบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ฟาร์มเลี้ยงจระเข้แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ใน ต.บ่อกระดาน อ.ปากท่อ เกิดมีจระเข้ที่เลี้ยงเอาไว้ได้หลุดออกมาเนื่องจากน้ำท่วมบ่อเลี้ยง เบื้องต้นเจ้าของฟาร์มแจ้งว่าหลุดออกไปประมาณ 5 ตัว แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ เนื่องจากน้ำท่วมบ่อและเกรงว่าจะมีจระเข้หลุดออกมาอีก จึงต้องทำการสูบน้ำออกจากบ่อเสียก่อนจะเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง

 

ในเวลาต่อมา นายประยงค์ จันทร์เต็ง นายอำเภอปากท่อ จ.ราชบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบจระเข้หลุดออกจากฟาร์มดังกล่าว ซึ่งฟาร์มแห่งนี้เป็นฟาร์มเลี้ยงหมูและเลี้ยงจระเข้ไว้เพื่อกำจัดซากหมู พบมีบ่อเลี้ยงอยู่จำนวน 2 บ่อ มีจระเข้จำนวนกว่า 300 ตัว โดยจระเข้ที่หลุดไปนั้นออกไปทางท่อระบายน้ำของบ่อเลี้ยงลงสู่คลองธรรมชาติที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกัน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ของฟาร์มและมูลนิธิประชานุกูลช่วยกันจับจระเข้กลับมาได้แล้วกว่า 10 ตัว แต่การดำเนินการค่อนข้างลำบาก เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/ryt9/2265764

[ginger 11,058]

[ginger 11,058]

ทองเหวี่ยงแรงมากกว่าปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ แต่สัปดาห์นี้ไม่มีเหตุการณ์สำคัญมากนัก จึงมองที่ปัจจัยทางเทคนิคเป็นสำคัญโดยจะดูแรงขายที่ 1140 1150 และแรงซื้อที่ 1125 - 1130 ฝ่ายไหนชนะ ก็ไปทางนั้น

ตัวเลขการจ้างงานน้อยกว่าคาดโดยเพิ่มขึ้นเพียง 140K ไม่เท่านั้นยังปรับลดตัวเลขในเดือนก่อนลงเหลือ 136K แต่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.1%

ตลาดหุ้นบวก ค่าเงินดอลล์ย่อเล็กน้อย ในขณะที่ยิลด์บอนด์ร่วง

ยิลด์บอนด์นั้นมองว่าเป็นตัวสะท้อนมุมมองทิศทางดอกเบี้ยของนักลงทุนในตลาด ซึ่งสำหรับยิลด์บอนด์ของรุ่นอายุ 2 ปีนั้นที่เคยฮิตไฮไปเมื่อเดือนก่อน ก็ร่วงลงมาเช่นกัน ซึ่งเป็นบวกต่อทอง

แม้ว่าคำพูดของผู้ว่าการแบงก์ชาติของสหรัฐนั้นจะยังให้แนวโน้มทางบวก แต่ด้วยปัจจัยแวดล้อม ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจขนาดนั้น

การประชุมหรือการให้สัมภาษณ์หลังจากนี้จะเป็นที่สนใจมากขึ้นเนื่องจากนักลงทุนจะคอยฟังและจับใจความที่จะค่อยๆ เปลี่ยนไป

ซึ่งถ้าอยู่ๆ มีการพูดในทำนองว่าจะขึ้นเมื่อไหร่ก็ยังไม่สามารถบอกได้ จะทำให้ทองกลับว่าอยู่ในกรอบ 1180 - 1200 เป็นอย่างน้อย

มองปัจจัยหนึ่งที่จะส่งผลต่อนโยบายการเงินทางอ้อมคือราคาน้ำมัน เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลงจะส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่พึ่งพารายได้จากน้ำมัน การทำการใดๆ ที่ทำให้เงินทุนไหลกลับสู่ดอลล่าร์จะยิ่งเป็นการซ้ำเติม

------------------------------------------------------------------------------

สำหรับทองคำหลังฟื้นตัวขึ้นแรงเป็นผลจากตัวเลขเศรษฐกิจแย่กว่าที่คาดไว้ แต่ยังอยู่ในทำนองที่ถ้าเยเลนหรือผู้ว่าการสาขาให้ความเห็นถึงการจะขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้มีแรงขายกดดันลงมาได้อีก

อยู่ที่น้ำลายคนเป็นสำคัญสำหรับกรอบราคาของทองในช่วงที่เหลือของปีนี้

ในสัปดาห์นี้จะต้องดูว่าแรงซื้อหรือแรงขายจะทำได้ดีกว่า

โดยมีแนวต้านที่ 1140 1150 และแนวหนุน 1125 1130 ไม่ลงต่ำกว่า 1125 มองถึงแนวโน้มที่จะเห็น 1160 1170 หรือเบรกเส้นเทรนด์แนวหลักขึ้นไป ยังมองว่าจะขึ้นไปถึงบริเวณนี้เพียงแต่จะไปด้วยท่าไหนเท่านั้นให้ Bias Long หรือมองขึ้นมากกว่ามองลง จนกว่าจะหลุด 1125 ลงไปต่ำกว่า 1120 1125 เปลี่ยนใจมองใหม่

สำหรับช่วงสั้นดูว่าจะย่อตัวลงมาแค่ไหน อยากซื้อ รอย่อหรือรอเบรกค่อยซื้อตาม อยากเปิด Short 1140 1145 เป็นจุดที่เข้าเพื่อทำกำไรในจังหวะพักตัวได้ แต่ต้องระวังเกมส์เร็วแม้จะโอกาสน้อยก็ตาม โดยมีจุดปิดทำกำไรบริเวณ 1127 1132

by Facebook.com/Wealthstation

5/10/58

[ginger 11,058]

 

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำจันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2558 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2558 09:50:59 น.

กรุงเทพฯ--5 ต.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอย่างผันผวนหลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ออกมาแย่กว่าคาด โดยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯออกมาแย่กว่าคาด โดยออกมาที่ระดับ 142,000 ตำแหน่ง หลังจากที่กระทรวงแรงงานปรับทบทวนตัวเลขการจ้างงานในเดือนก่อนหน้าจากระดับ 173,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 136,000 ตำแหน่ง ด้าน SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ยังถือครองอยู่ที่ระดับ 689.2 ตัน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในคืนนี้ ได้แก่ ISM Non-Manufacturing PMI คาดว่าจะออกมาแย่ลงเล็กน้อย

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำยังคงมีการแกว่งตัวในระยะสั้น โดยที่ราคาดีดตัวกลับขึ้นมาเหนือ 1,136 เหรียญ และขึ้นไปทดสอบแถวระดับ 1,145 เหรียญ ในเชิงเทคนิคจะเห็นความผันผวนระยะสั้น โดยมีแนวต้านสำคัญ 1,143 เหรียญ ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยราย 100 วัน สำหรับวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนตัวในกรอบมีแนวต้านที่ระดับ 1,145 เหรียญ และแนวรับ 1,125 เหรียญ

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

การลงทุนระยะสั้นเป็นลักษณะแกว่งในกรอบทิศทาง Sideway Up ขณะที่ราคาทองคำไทย ยังคงแกว่งตัวในลักษณะทิศทางขาขึ้น

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

หาจังหวะปิดทำกำไรเป็นช่วงๆบริเวณแนวต้าน น่าจะยังได้รับผลบวกจากการอ่อนค่าของค่าเงินบาท

 

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ระวังการ Breakout แม้ว่าภาพหลักจะอยู่ในทิศทางขาลง และควรมีจุด Stop Loss หากยืนเหนือ 1,150 เหรียญได้

 

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

บริหารพอร์ตสมดุล ไม่ทำการถือสถานะข้างใดข้างหนึ่งมากจนเกินไป แม้ภาพหลักจะอยู่ในทิศทางขาลง

 

Gold Futures V15 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,650 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,850 บาท

Gold Futures Z15 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,750 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,950 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2266164

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์ในกรอบจำกัดรับแรงหนุนตปท.แต่ปัจจัยในปท.ยังกดดัน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2558 09:03:52 น.

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นได้ เนื่องจากมีปัจจัยบวกจากตลาดต่างประเทศที่ต่างปรับตัวขึ้นกัน โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกตามดาวโจนส์ที่ปรับตัวขึ้น

 

อย่างไรก็ดี ปัจจัยในประเทศยังเป็นตัวกดดัน จากเศรษฐกิจที่ยังไม่ชัดเจน และแม้ว่าจะมีการเล่นเก็งผลประกอบการงวดไตรมาส 3/58 แต่ภาพโดยรวมคงจะยังไม่ดี เนื่องจากกลุ่มแบงก์อาจมีตัวเลข NPL ที่เพิ่มขึ้น ส่วนกลุ่มพลังานก็มีแรงกดดันจากราคาพลังงาน ดังนั้นการรีบาวด์ของดัชนีฯจึงเป็นไปอย่างจำกัด

 

พร้อมให้แนวรับ 1,330 จุด ส่วนแนวต้าน 1,360 จุด

 

 

อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2265985

 

โอบามาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเซาท์แคโรไลนา เหตุพายุกระหน่ำ,น้ำท่วมหนัก

 

 

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2558 09:44:41 น.

ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรัฐเซาท์แคโรไลนา หลังจากพายุเฮอริเคน "วาคีน" กระหน่ำพื้นที่ดังกล่าวและทำให้เกิดฝนตกหนัก

 

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของสหรัฐรายงานว่า พายุฝนยังคงโหมกระหน่ำบริเวณชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ ขณะที่มีการแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่สถานการณ์ฉุกเฉินว่าอาจเกิดอุทกภัยที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐเซาท์แคโรไลนา

 

 

 

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะเกิดพายุฝนรุนแรงในเซาท์แคโรไลนา และรัฐอื่นๆที่ติดกับชายฝั่งตะวันออก รวมถึงแมรีแลนด์ นิวเจอร์ซีย์ นอร์ธแคโรไลนา และเวอร์จิเนีย

 

โดยที่เซาท์แคโรไลนานั้น เจ้าหน้าที่สถานการณ์ฉุกเฉินได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในรัฐหลีกเลี่ยงการใช้ถนนและให้อยู่ภายในอาคาร เนื่องจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยอยู่ระหว่างช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในรถยนต์อย่างเร่งด่วน

 

นอกจากนี้ ได้มีการประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำท่วมในหลายรัฐที่อยู่ใกล้ชายฝั่ง ซึ่งสำนักงานสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า อุทกภัยและปริมาณน้ำทั้งในและใกล้พื้นที่ต่ำ อาจทำให้ต้องปิดกั้นถนนและทำให้ทรัพย์สินเกิดความเสียหายอย่างมาก

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สกาวรัฐ บัวสำลี/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq38/2266163

[ginger 11,058]

 

 

มุมมองภาคบ่าย 05-10-58

 

 

 

[ginger 11,058]

 

โชคดีนะนะ

 

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 6 ตุลาคม 2558 07:37:02 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 5 ต.ค.2558

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากตัวเลขจ้างงานออกมาซบเซา นอกจากนี้ ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของภาคบริการของสหรัฐ ยิ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้มีน้อยลง

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,776.43 จุด พุ่งขึ้น 304.06 จุด หรือ +1.85% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,781.26 จุด เพิ่มขึ้น 73.48 จุด หรือ +1.56% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,987.05 จุด เพิ่มขึ้น 35.69 จุด หรือ +1.83%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงหุ้นเกลนคอร์ที่ทะยานขึ้นกว่า 20%

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 3% ปิดที่ 358.33 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,616.90 จุด เพิ่มขึ้น 158.02 จุด หรือ +3.54% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 814.79 จุด เพิ่มขึ้น 261.72 จุด, +2.74% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,298.92 จุด เพิ่มขึ้น 168.94 จุด, +2.76%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงหุ้นเกลนคอร์ที่ทะยานขึ้นกว่า 20%

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 168.94 จุด หรือ 2.76% ที่ 6,298.92 จุด

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากมุมมองที่ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ย.ที่ออกมาน่าผิดหวังนั้น อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่ตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ระดับ 1,137.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 44.50 เซนต์ ปิดที่ 15.708 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 3.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 912.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 8.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 689.20 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 46.26 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 1.12 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 49.25 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบเงินเยนและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมในช่วงสัปดาห์นี้

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1180 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1225 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5150 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5193 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.47 เยน จาก 119.88 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9758 ฟรังก์ จาก 0.9707 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7094 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7032 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,776.43 จุด เพิ่มขึ้น 304.06 จุด +1.85%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,781.26 จุด เพิ่มขึ้น 73.48 จุด +1.56%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,987.05 จุด เพิ่มขึ้น 35.69 จุด +1.83%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,298.92 จุด เพิ่มขึ้น 168.94 จุด +2.76%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,814.79 จุด เพิ่มขึ้น 261.72 จุด +2.74%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,616.90 จุด เพิ่มขึ้น 158.02 จุด +3.54%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,184.10 จุด เพิ่มขึ้น 94.90 จุด +1.86%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,150.50 จุด เพิ่มขึ้น 98.50 จุด +1.95%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,352.36 จุด เพิ่มขึ้น 47.33 จุด +0.57%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 18,005.49 จุด เพิ่มขึ้น 280.36 จุด +1.58%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,978.25 จุด เพิ่มขึ้น 8.57 จุด +0.44%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,961.93 จุด เพิ่มขึ้น 111.32 จุด +1.62%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 21,854.50 จุด เพิ่มขึ้น 348.41 จุด +1.62%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,343.70 จุด เพิ่มขึ้น 135.90 จุด +3.23%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,851.25 จุด เพิ่มขึ้น 58.10 จุด +2.08%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,647.59 จุด เพิ่มขึ้น 18.79 จุด +1.15%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,785.55 จุด เพิ่มขึ้น 564.60 จุด +2.15%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2266887

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบเยน คาด BOJ ผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 6 ตุลาคม 2558 07:21:24 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบเงินเยนและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมในช่วงสัปดาห์นี้

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1180 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1225 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5150 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5193 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.47 เยน จาก 119.88 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9758 ฟรังก์ จาก 0.9707 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7094 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7032 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งแกร่ง แม้ว่ามีการเปิดเผยข้อมูลภาคบริการที่อ่อนแอเมื่อคืนนี้ ซึ่งตอกย้ำถึงภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐ หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดในเดือนก.ย. โดยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแรงได้หนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยลบสำหรับดอลลาร์

 

สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 56.9 ในเดือนก.ย. จากระดับ 59 ในเดือนส.ค. โดยตัวเลขเดือนก.ย.เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา หรือในรอบสามเดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงแตะที่ 57.5

 

ขณะเดียวกัน มาร์กิต อิโคโนมิกส์ รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 55.1 ในเดือนก.ย. ปรับตัวลดลงจากตัวเลขเบื้องต้นที่ 55.6 และลดลงจากระดับ 56.1 ในเดือนส.ค.

 

ทั้งนี้ ดอลลาร์ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเงินเยน ท่ามกลางคาดการณ์ที่ว่า BOJ จะประกาศนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในการประชุมที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 6-7 ต.ค.นี้ เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นฟื้นตัวจากภาวะถดถอย

 

การผ่อนคลายนโยบายการเงินของ BOJ มีแนวโน้มจะทำให้เงินเยนอ่อนแรงลงเมื่อเทียบดอลลาร์ เนื่องจากจะลดความน่าดึงดูดใจของเยนสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูง

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2266884

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 304.06 จุด รับคาดการณ์เฟดยังไม่ขึ้นดบ.

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 6 ตุลาคม 2558 06:33:06 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากตัวเลขจ้างงานออกมาซบเซา นอกจากนี้ ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของภาคบริการของสหรัฐ ยิ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้มีน้อยลง

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,776.43 จุด พุ่งขึ้น 304.06 จุด หรือ +1.85% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,781.26 จุด เพิ่มขึ้น 73.48 จุด หรือ +1.56% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,987.05 จุด เพิ่มขึ้น 35.69 จุด หรือ +1.83%

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้แรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เนื่องจากตลาดแรงงานยังคงอ่อนแอ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.1% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์

 

นอกจากนี้ ความอ่อนแอของข้อมูลภาคบริการซึ่งสหรัฐเปิดเผยล่าสุดนั้น ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้มีน้อยลง โดยสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 56.9 ในเดือนก.ย. จากระดับ 59 ในเดือนส.ค. โดยตัวเลขเดือนก.ย.เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา หรือในรอบสามเดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงแตะที่ 57.5

 

ขณะที่มาร์กิต อิโคโนมิกส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 55.1 ในเดือนก.ย. ปรับตัวลดลงจากตัวเลขเบื้องต้นที่ 55.6 และลดลงจากระดับ 56.1 ในเดือนส.ค.

 

คริส วิลเลียมสัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของมาร์กิตระบุในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐชะลอในไตรมาสสาม เมื่อพิจารณาจากผลสำรวจ PMI โดยลดลงมาขยายตัวที่ราว 2.2% อย่างไรก็ดี การชะลอตัวดังกล่าวนั้นมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการที่เศรษฐกิจดีดตัวแข็งแกร่งในไตรมาสสอง ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐกลับมาขยายตัวในระดับปานกลาง สอดคล้องกับค่าเฉลี่ยในระยะยาว

 

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่คำนวณในดัชนี S&P500 โดยหุ้นคอนโซล เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 9% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ดีดขึ้น 6.7%

 

หุ้นกลุ่มผู้ผลิตสินค้าประเภททุนปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นยูไนเต็ด เรนทัล พุ่งขึ้น 8% หุ้นเดียร์ แอนด์ โค ทะยานขึ้น 6.3%

 

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนส.ค., สินเชื่อผู้บริโภคเดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, รายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 16-17 ก.ย. , ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ย. และต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนส.ค.

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2266880

[ginger 11,058]

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก 1 ดอลล์ รับคาดการณ์เฟดยังไม่ขึ้นดบ.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 6 ตุลาคม 2558 07:31:56 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากมุมมองที่ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ย.ที่ออกมาน่าผิดหวังนั้น อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่ตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ระดับ 1,137.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 44.50 เซนต์ ปิดที่ 15.708 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 3.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 912.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 8.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 689.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนมองว่า ข้อมูลจ้างงานที่ย่ำแย่อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐยังไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

 

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.1% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์

 

นอกจากนี้ ความอ่อนแอของข้อมูลภาคบริการซึ่งสหรัฐเปิดเผยล่าสุดนั้น ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้มีน้อยลง โดยสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 56.9 ในเดือนก.ย. จากระดับ 59 ในเดือนส.ค. โดยตัวเลขเดือนก.ย.เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา หรือในรอบสามเดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงแตะที่ 57.5

 

ขณะที่มาร์กิต อิโคโนมิกส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 55.1 ในเดือนก.ย. ปรับตัวลดลงจากตัวเลขเบื้องต้นที่ 55.6 และลดลงจากระดับ 56.1 ในเดือนส.ค.

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2266885

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 72 เซนต์ รับข้อมูลการผลิตน้ำมันลดลง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 6 ตุลาคม 2558 07:17:05 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 46.26 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 1.12 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 49.25 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลง โดยเบเกอร์ฮิวจ์รายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลงอีก 26 แท่น เหลือ 614 แท่น ณ สิ้นสุดสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 แล้ว และหากรวมแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ ตัวเลขแท่นขุดเจาะลดลงทั้งสิ้น 29 แท่น มาอยู่ที่ 809 แท่น

 

ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ก.ย. ลดลง 40,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.096 ล้านบาร์เรล

 

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมัน WTI ยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.1% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์

 

อย่างไรก็ตาม แรงบวกได้ถูกสกัดลงเนื่องจากข่าวที่ว่าบริษัทซาอุดิ อาระเบียน ออย หรืออารัมโก ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของซาอุดิอาระเบีย ประกาศลดราคาน้ำมันดิบเกรดมีเดียมส่งมอบเดือนพ.ย.แก่ตลาดเอเชียเป็น 3.20 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มอบส่วนลดราคาน้ำมันส่งมอบเดือนต.ค.ที่ 1.30 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อตัดราคาแข่งกับคู่แข่งรายอื่นๆ ท่ามกลางความต้องการน้ำมันดิบอันซบเซา อีกทั้งยังเป็นการปรับลดราคาที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2555

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2266883

[ginger 11,058]

จีนจ่อทุ่ม1ล้านล.ขุดคอคอดกระ ยกเป็นความจำเป็นสำคัญของโลก

 

6 ต.ค.58 ซีซีทีวีของจีนรายงาน รัฐบาลจีนพร้อมศึกษาการขุดขยายคอคอดกระในเมืองไทยตามนโยบายเส้นทางสายไหมใหม่ ชี้ลดระยะทางเดินเรือได้ 3 วัน หรือกว่า 1,200 กิโลเมตร

NAEWNA.COM

 

[ginger 11,058]

(Oct 6) ไทยเฮหลัง"โอบามา"ต่ออายุจีเอสพี ได้คืนสิทธิ9รายการตั้งแต่กล้วยไม้ยันลวดทองแดง

"โอบามา" ลงนามต่ออายุกฎหมาย GSP หลังขาดอายุไปตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2556 โดยสิทธิพิเศษใหม่จะใช้ได้ไปถึงเดือนธันวาคมปี 2560 ด้านไทยได้รับคืนสิทธิ GSP 9 รายการ ทั้งดอกกล้วยไม้-ทุเรียน-มะละกอ/มะขามอบแห้ง-ข้าวโพด/มะพร้าว/อาหารปรุง แต่ง-ผลไม้แช่อิ่ม ไปจนถึงรูปปั้นเซรามิก-ลวดทองแดง ทั้งหมดนี้คาดจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้ากว่า 70 ล้านบาท

ประธานาธิบดี บารัก โอบามา ได้ลงนามให้ความรับรองร่างกฎหมาย Trade Preferences Trade Extension Act of 2015 (H.S. 1295) ซึ่งมีสาระสำคัญคือ การต่ออายุสิทธิพิเศษทางอัตราภาษีศุลกากร Generalized Scheme of Preferences หรือ GSP หลังจากที่ระบบ GSP เดิมได้หมดอายุไปตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2556 ซึ่งถือเป็นการขาดอายุระบบ GSP สหรัฐนานที่สุด การให้สิทธิพิเศษ GSP ใหม่นี้จะได้รับการต่ออายุจนถึงเดือนธันวาคม 2560 โดยผู้ส่งออกไทยสามารถขอรับสิทธิพิเศษ GSP ย้อนหลังได้ที่ U.S. Customs and Border Protection ภายในเวลา 180 วัน หลังจากที่กฎหมายมีผลบังคับใช้

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สหรัฐได้ทบทวนโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ประจำปี 2557 ด้วยการผ่อนผันไม่ระงับสิทธิ GSP กรณี De Minimis Waivers สินค้าไทย 9 รายการ ได้แก่ กล้วยไม้สด, ทุเรียนสด, มะละกอแห้ง, มะขามตากแห้ง, ข้าวโพดปรุงแต่ง, ผลไม้แช่อิ่ม, มะละกอแปรรูป, อาหารปรุงแต่ง, รูปปั้นเซรามิก และกรณียกเว้นเพดานการนำเข้าสหรัฐ (CNL Waivers) อีก 2 รายการ ได้แก่ มะพร้าวปรุงแต่ง กับลวดทองแดงอื่น ๆ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 คาดว่าสินค้าไทยจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้ามูลค่ากว่า 70 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตร

สำหรับหลักเกณฑ์การทบทวนสิทธิ GSP สหรัฐจะใช้ข้อมูลสถิติของปีก่อนหน้า (ปี 2557) มาพิจารณา โดยมีผลบังคับใช้ในปีถัดไป สำหรับการผ่อนผันกรณี De Minimis Waivers เป็นกรณีที่สินค้ามีส่วนแบ่งในตลาดสหรัฐเท่ากับหรือมากกว่าร้อยละ 50 แต่มูลค่านำเข้าสหรัฐของสินค้านั้น จากทั่วโลกต่ำกว่ามูลค่าขั้นต่ำที่สหรัฐกำหนดในปี 2557 มูลค่า 22.5 ล้านเหรียญ สามารถขอผ่อนผันไม่ให้ระงับสิทธิ GSP ได้

ส่วนกรณีการขอ ยกเว้นเพดานการนำเข้าสหรัฐ (CNL Waivers) เป็นการขอผ่อนผันให้ยกเว้นเพดานการนำเข้าสหรัฐ หากสินค้านั้นได้รับการยกเว้นเพดานการนำเข้าก็จะสามารถส่งออกไปยังสหรัฐได้ โดยไม่มีระดับเพดาน (CNLs) ซึ่งสหรัฐกำหนดเพดาน 2 กรณี คือ กรณีเพดานมูลค่านำเข้าเกินที่กำหนดในแต่ละปี ซึ่งในปี 2557 กำหนดมูลค่า 165 ล้านเหรียญสหรัฐ กับกรณีสัดส่วนการนำเข้าสหรัฐเกินร้อยละ 50

ด้าน นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า การให้สิทธิพิเศษ GSP จะส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าอาหารสำเร็จรูปของไทยในระยะยาว

นับจากปี 2559 เป็นต้นไป เพราะในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2558 ผู้ส่งออกส่วนใหญ่รับคำสั่งซื้อไปก่อนหน้านี้แล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการส่งมอบสินค้า เพื่อให้ทันเทศกาลคริสต์มาส/ปีใหม่ อย่างไรก็ตาม สินค้าที่ได้สิทธิ GSP ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกไม่มากนัก และยังต้องติดตามกฎระเบียบการนำเข้าที่เกี่ยวข้องด้วย

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2556 เป็นต้นมา แม้สินค้าไทยจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษ GSP แต่ปริมาณส่งออกสินค้ารายการนั้น ๆ ก็ไม่ได้ลดลง ในประเด็นนี้สะท้อนให้เห้นถึงขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทย หรือคุณภาพสินค้าไทยที่สูงขึ้น

Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

[ginger 11,058]

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำอังคารที่ 6 ตุลาคม 2558 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 6 ตุลาคม 2558 10:05:55 น.

กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำโดยภาพรวมยังเคลื่อนตัวกรอบแคบระหว่าง 1,130-1,140 เหรียญ โดยที่ข้อมูลเศรษฐกิจเมื่อคืนนี้ของสหรัฐฯออกมาต่ำหรือแย่กว่าที่คาด ได้แก่ ISM Non-Manufacturing PMI ที่ออกมาแย่ลงในเดือนกันยายนแตะระดับ 56.9 ราคาทองคำยังคงทรงตัวระดับต่ำ 1,136-1,140 เหรียญ ด้านกองทุนSPDRลดการถือครองทองคำ 0.22 ตัน ปัจจุบันคงทองที่ระดับ 688.98 ตัน สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯในคืนนี้ ได้แก่ Trade Balance คาดการณ์ว่าจะออกมาแย่ลง

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในระยะสั้นทางเทคนิคราคาทองคำยังดูเคลื่อนตัวในกรอบเป็นการ swing ตามเนื้อข่าว ระหว่าง 1,125 – 1140 เหรียญ โดยบริเวณ 1,143 เหรียญ ถือเป็นแนวต้านสำคัญซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน กราฟระยะสั้นยังไม่ได้บ่งบอกทิศทางใดๆชัดเจน เว้นแต่มีความผันผวนค่อนข้างมาก จึงยังคาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวในกรอบดังกล่าว ขณะที่ค่าเงินบาทมีการแข็งค่าขึ้นบ้างเล็กน้อยมาทดสอบ 36.25 บาท/ดอลลาร์ แต่เช้านี้ดีดกลับขึ้นมา 36.34 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ และค่าเงินเยนยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่า จึงคาดว่าค่าเงินบาทน่าจะอยู่ในทิศทางอ่อนค่าเช่นกันระหว่าง 36.25-36.40 บาท/ดอลลาร์ ภาพระยะกลางและยาวของทองคำยังเป็นขาลง ขณะที่ทองคำไทยและ Gold Futuresเป็นกลยุทธ์ Sideway Up คือเป็นการปรับขึ้นอย่างช้าๆ ใช้กลยุทธ์ลงซื้อขึ้นขายบริเวณแนวรับและแนวต้าน

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

สำหรับราคาทองคำต่างประเทศ แนะนำเก็งกำไรในกรอบ 1,125-1,143 เหรียญ ขณะที่ราคาทองคำไทยยังแนะนำเป็นกลยุทธ์ Sideway Up

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ลงซื้อ-ขึ้นขาย เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ทำกำไรเป็นช่วงๆในระยะสั้น เข้า-ออกไว

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ภาพหลักระยะยาวของราคาทองคำต่างประเทศอยู่ในทิศทางขาลง

Gold Futures V15 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,550 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,750 บาท

Gold Futures Z15 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,630 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,830 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2267264

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นแนวเดียวกับภูมิภาคจากแรงซื้อคืนสินทรัพย์เสี่ยง

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 6 ตุลาคม 2558 09:13:31 น.

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกัน เนื่องจากมีแรงซื้อคืนในสินทรัพย์เสี่ยงเข้ามา ภายหลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯออกมาน้อยกว่าที่คาดไว้ ทำให้คาดการณ์กันว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)จะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ และก็ได้มีการมองว่าน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปเป็นช่วงมี.ค.ปีหน้า(2559)

 

อย่างไรก็ดี แม้ว่าตลาดบ้านเราจะมีแรงซื้อคืนเข้ามา แต่การปรับขึ้นของดัชนีฯก็คงจะเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากยังต้องการรอดูการฟื้นตัวเศรษฐกิจก่อน

 

พร้อมให้แนวรับ 1,360-1,353 จุด ส่วนแนวต้าน 1,370-1,380 จุด

 

 

อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2267079

[ginger 11,058]

มุมมองภาคบ่าย 06-10-58

 

 

 

[deb99 290]

ขอบคุณครับ คุณginger

[ginger 11,058]

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 7 ตุลาคม 2558 07:51:36 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 ต.ค.2558

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) โดยภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ และข้อมูลที่บ่งชี้ว่ายอดขาดดุลการค้าของสหรัฐพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน ขณะที่ดัชนี S&P500 และ NASDAQ ปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนทุบขายหุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพ

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,790.19 จุด เพิ่มขึ้น 13.76 จุด หรือ +0.08% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,979.92 จุด ลดลง 7.13 จุด หรือ -0.36% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,748.36 จุด ลดลง 32.90 จุด หรือ -0.69%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) โดยตลาดปิดในแดนบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางในหลายประเทศยังคงเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.6% ปิดที่ 360.41 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,660.64 จุด เพิ่มขึ้น 43.74 จุด หรือ +0.95% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,902.83 จุด เพิ่มขึ้น 88.04 จุด หรือ +0.90% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,326.16 จุด เพิ่มขึ้น 27.24 จุด หรือ +0.43%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ๆ ที่ปรับตัวแข็งแกร่งตามราคาน้ำมัน ขานรับความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 27.24 จุด หรือ 0.43% ที่ 6,326.16 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในเดือนก.ย. พร้อมกับคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงไปจนถึงช่วงกลางปี 2559 ซึ่งรายงานดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 2.27 ดอลลาร์ หรือ 4.9% ปิดที่ 48.53 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 2.67 ดอลลาร์ หรือ 5.4% ปิดที่ 51.92 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองที่ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ย.ที่ออกมาน่าผิดหวังนั้น อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่ตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 8.8 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ระดับ 1,146.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 27.60 เซนต์ ปิดที่ 15.984 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 21.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 934.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 18.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 707.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและเงินเยนเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1273 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1180 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5232 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5150 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.27 เยน จาก 120.47 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9670 ฟรังก์ จาก 0.9758 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7153 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7094 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,790.19 จุด เพิ่มขึ้น 13.76 จุด +0.08%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,748.36 จุด ลดลง 32.90 จุด -0.69%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,979.92 จุด ลดลง 7.13 จุด -0.36%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,326.16 จุด เพิ่มขึ้น 27.24 จุด +0.43%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,902.83 จุด เพิ่มขึ้น 88.04 จุด +0.90%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,660.64 จุด เพิ่มขึ้น 43.74 จุด +0.95%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,394.10 จุด เพิ่มขึ้น 41.74 จุด +0.50%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 18,186.10 จุด เพิ่มขึ้น 180.61 จุด +1.00%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,990.65 จุด เพิ่มขึ้น 12.40 จุด +0.63%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,055.49 จุด เพิ่มขึ้น 93.56 จุด +1.34%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 21,831.62 จุด ลดลง 22.88 จุด -0.10%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,445.78 จุด เพิ่มขึ้น 102.08 จุด +2.35%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,662.51 จุด เพิ่มขึ้น 14.92 จุด +0.91%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,897.41 จุด เพิ่มขึ้น 46.16 จุด +1.62%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,932.88 จุด เพิ่มขึ้น 147.33 จุด +0.55%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,167.40 จุด เพิ่มขึ้น 16.90 จุด +0.33%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,199.00 จุด เพิ่มขึ้น 14.90 จุด +0.29%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2267896

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อน เหตุไม่มั่นใจเฟดขึ้นดบ.ปีนี้หลังข้อมูลศก.แย่

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 7 ตุลาคม 2558 07:32:37 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและเงินเยนเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1273 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1180 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5232 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5150 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.27 เยน จาก 120.47 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9670 ฟรังก์ จาก 0.9758 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7153 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7094 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์ และล่าสุด กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานเมื่อคืนนี้ว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐพุ่งขึ้น 15.6% ในเดือนส.ค. สู่ระดับ 4.833 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์, ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ดิ่งลง และการขยายตัวที่ซบเซาในต่างประเทศ

 

กระทรวงพาณิชย์ยังระบุว่า การส่งออกลดลง 2% ในเดือนส.ค. สู่ 1.851 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2555 ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.2% สู่ 2.334 แสนล้านดอลลาร์

 

ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐได้สกัดกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดภายในปีนี้ โดยนักลงทุนจำนวนมากประเมินว่าเฟดจะเลื่อนการปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไปเป็นปี 2559 จากเดิมที่คาดไว้ในการประชุมนโยบายเดือนธ.ค.ปีนี้

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมนโยบายการเงินเป็นเวลา 2 วันของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า BOJ จะคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินในปัจจุบันไว้ต่อไป แม้ว่ามีความหวังมากขึ้นว่า BOJ จะผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ซบเซา

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2267892

 

 

 

ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขณะจับตาผลประชุมแบงก์ชาติญี่ปุ่น

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 7 ตุลาคม 2558 08:46:15 น.

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาดูธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยมติการประชุมนโยบายการเงินเดือนต.ค. ในวันนี้

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.2% แตะ 129.23 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 18,168.20 จุด ลดลง 17.90 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,884.73 จุด เพิ่มขึ้น 53.11 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,398.53 จุด เพิ่มขึ้น 4.43 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,995.87 จุด เพิ่มขึ้น 5.22 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,897.06 จุด ลดลง 0.35 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,658.65 จุด ลดลง 3.86 จุด ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดทำการเนื่องในวันหยุดเฉลิมฉลองวันชาติ

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2268086

[ginger 11,058]

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $8.8 จากคาดการณ์เฟดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 7 ตุลาคม 2558 07:45:53 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองที่ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ย.ที่ออกมาน่าผิดหวังนั้น อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่ตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 8.8 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ระดับ 1,146.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 27.60 เซนต์ ปิดที่ 15.984 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 21.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 934.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 18.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 707.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการนั้น มาจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากสหรัฐระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.1% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์

 

นอกจากนี้ ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศที่อ่อนแอของสหรัฐ ยิ่งสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการขาดดุลการค้าของสหรัฐพุ่งขึ้น 15.6% ในเดือนส.ค. สู่ระดับ 4.833 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์, ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ดิ่งลง และการขยายตัวที่ซบเซาในต่างประเทศ

 

กระทรวงพาณิชย์ยังระบุว่า การส่งออกลดลง 2% ในเดือนส.ค. สู่ 1.851 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2012 ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.2% สู่ 2.334 แสนล้านดอลลาร์

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2267893

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $2.27 หลัง EIA เผยสหรัฐผลิตน้ำมันลดลง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 7 ตุลาคม 2558 07:21:02 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในเดือนก.ย. พร้อมกับคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงไปจนถึงช่วงกลางปี 2559 ซึ่งรายงานดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 2.27 ดอลลาร์ หรือ 4.9% ปิดที่ 48.53 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 2.67 ดอลลาร์ หรือ 5.4% ปิดที่ 51.92 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนหลังจาก EIA ออกรายงานแนวโน้มด้านพลังงานในระยะสั้น (Short-Term Energy Outlook ) โดยระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 120,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนก.ย. จากระดับของเดือนส.ค.

 

ขณะเดียวกัน EIA คาดการณ์ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงไปจนถึงช่วงกลางปี 2559

 

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อันเป็นผลมาจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.1% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2267891