ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

นายกฯ ปัดข่าวขัดแย้งในกองทัพหลังเปลี่ยนผบ.ทบ.,ไม่ห้ามบวรศักดิ์ นั่งที่ปรึกษากรธ.

 

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2558 14:37:37 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ปฏิเสธไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นภายในกองทัพบก หลังเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) คนใหม่ เพราะทั้งคู่เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน

 

ส่วนการทุบกำแพงและสิ่งปลูกสร้างในกองทัพบกทั้งที่เพิ่งสร้างเสร็จนั้น หากไม่ถูกต้องก็จะมีการสอบสวนว่าใช้งบประมาณแผ่นดินอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาหลังพ้นจากตำแหน่งตนเองไม่ได้เข้าไปในกองบัญชาการกองทัพบกอีกเลย แต่มองเรื่องที่เกิดขึ้นว่าแต่ละคนมีความคิดและมุมมองของตัวเอง ไม่ได้ทะเลาะหรือแตกแยก เว้นแต่สื่อจะนำเสนอไปเอง

 

 

 

"มันคนละเรื่อง จะยุแยกแตกคอไม่ได้อยู่แล้ว คนละตำรามั้ง ผมไม่ได้เป็น ผบ.ทบ.นะ เดี่ยวถ้าไม่ดีเขาก็สอบกันเอง ให้เขาทำงาน ผมไม่ได้เข้าไปเลยจะปีหนึ่งแล้ว ผมมองว่าเป็นเรื่องคนละความคิดกัน แต่ไม่ได้ทะเลาะกัน เพื่อนกันทะเลาะกันได้อย่างไร ผมอยู่ตรงนี้ทะเลาะกันไม่ได้อยู่แล้ว เว้นแต่สื่อเขียนให้ทะเลาะกัน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

กรณีดังกล่าวทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะเข้าไปแก้ไขปัญหาได้หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองดูแลทั้งหมด ขณะที่ พล.อ.ประวิตร ดูแลในกรอบที่รับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ขออย่าไปสร้างกระแสว่าอาจจะเกิดการปฏิวัติซ้อน เพราะเป็นเรื่องไม่จริง ตนเองมั่นใจว่าควบคุมได้ ตราบใดที่ตนเองยังอยู่ในตำแหน่งก็จะดูแลให้ทั้งหมด

 

ส่วนการตั้งที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คนควรจะเป็นนายบวรศักดิ์ อุวรรณโน อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากมีคุณสมบัติพร้อมเหมาะสมก็ไม่ได้มีข้อห้าม และรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ฉบับแก้ไขก็ไม่มีห้ามไว้ ขณะเดียวกันทุกคนมีความสามารถและขับเคลื่อนงานมาก่อน และถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ก็เห็นว่า ควรจะหยิบยกร่างเก่าที่ดีมาพิจารณาต่อ เพราะรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่สำคัญ เป็นหัวใจหลักของชาติ ให้ขับเคลื่อนการบริหารประเทศไปข้างหน้า แต่ก็ไม่ได้แก้ไขทุกอย่างได้ เพราะอยู่ที่ใจของคนด้วยที่จะต้องช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบแต่หากยังขัดแย้งกันอยู่ กฎหมายไหนก็ไม่สามารถช่วยได้ และอย่ามาเรียกร้องว่ารัฐธรรมนูญต้องเป็นประชาธิปไตยอย่างเดียว ทุกอย่างต้องมีจรรยาบรรณด้วย

 

สำหรับการลงพื้นที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.)ที่ จ.สุราษฏร์ธานี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจ ซึ่งจะพิจารณาอีกครั้ง และตนเองพร้อมที่จะลงทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยจะให้ กรอ.จังหวัดได้ขับเคลื่อนงานไปก่อนที่ตนเองจะไปติดตามงานในทุกภาคของไทย โดยการลงพื้นที่จะไปขับเคลื่อนงานด้านอื่นๆด้วย และพร้อมสนับสนุนงบกลางในเรื่องที่จำเป็นและเกิดประโยชน์สูงสุดของพื้นที่นั้นๆ

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่ไม่ได้ต้องการคะแนนเสียง หรือเลือกไปแค่จังหวัดที่ชื่นชอบตนเองเท่านั้น เพราะไม่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาทำงาน แต่อาสาสมัครเข้ามาทำหน้าที่เอง

 

อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2269600

 

 

รัฐสภากรีซลงมติไว้วางใจรัฐบาลใหม่ ก่อนการพิจารณาแผนช่วยเหลือทางการเงินรอบต่อไป

 

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2558 12:01:00 น.

รัฐสภากรีซได้ลงมติไว้วางใจรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งมีการจัดตั้งขึ้นหลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลใหม่ได้ให้คำมั่นที่จะดำเนินการตามแผนการช่วยเหลือรอบ 3 อย่างรวดเร็ว

 

รัฐบาลผสมของกรีซ ซึ่งพรรคไซรีซาของนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซิปราส จัดตั้งขึ้นร่วมกับพรรคฝ่ายขวาอย่างอินดิเพนเดนท์ กรีกส์นั้น ได้คะแนนเสียงไว้วางใจ 155 เสียงจากรัฐสภาที่มีสมาชิก 300 ที่นั่ง

 

 

 

การลงมติไว้วางใจในครั้งนี้มีขึ้นก่อนที่จะเริ่มการพิจารณาทบทวนรอบต่อไปเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน ซึ่งกรีซได้ตกลงไว้กับบรรดาเจ้าหน้า โดยการพิจารณาดังกล่าวน่าจะได้ข้อสรุปในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า

 

ทั้งนี้ คาดว่าผลการพิจารณาทบทวนในเชิงบวกจะปูทางสำหรับการเพิ่มทุนของภาคธนาคารกรีซภายในสิ้นปีนี้ รวมทั้งการเริ่มหารือเกี่ยวกับการผ่อนผันหนี้ โดยทั้งสองประเด็นนี้ถือว่ามีความสำคัญต่อความพยายามโดยรวมในการสร้างความมั่นใจในการจัดการปัญหาหนี้อย่างยั่งยืนของกรีซ และในการเริ่มฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของกรีซให้หลุดพ้นจากวิกฤตหนี้ที่ดำเนินมาเป็นเวลา 6 ปี สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2269427

 

 

รัสเซียยิงขีปนาวุธจากเรือรบในทะเลแคสเปี้ยนเพื่อโจมตี IS

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2558 09:27:10 น.

นายเซอร์ไก ชอยกู รมว.กลาโหมของรัสเซีย เปิดเผยว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธจากเรือรบ 4 ลำในทะเลแคสเปี้ยนเพื่อโจมตีเป้าหมาย 11 จุดของกลุ่มหัวรุนแรงรัฐอิสลาม (IS) ในซีเรีย ซึ่งได้สร้างความเสียหายแก่เป้าหมายดังกล่าว แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อพลเรือน

 

ขณะเดียวกัน รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าการโจมตีของรัสเซียในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นการโจมตีเป้าหมายที่ไม่ใช่กลุ่ม IS

 

ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวว่าเครื่องบินรบของรัสเซียยังคงโจมตีเป้าหมายของกองกำลัง IS ในซีเรียเมื่อวานนี้ โดยมีการทิ้งระเบิดที่เมืองพัลไมราและอะเลปโป ขณะที่การโจมตีของรัสเซียดังกล่าวถือว่ารุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งต่อกองกำลัง IS

 

สถานีโทรทัศน์ของซีเรียรายงานว่า การถล่มทางอากาศของรัสเซียในวันนี้สามารถทำลายรถยนต์ 20 คัน และคลังอาวุธ 3 แห่งในเมืองพัลไมรา และสามารถสังหารนักรบ IS ได้จำนวน 15 คน

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2269256

 

“โอบามา ขออภัยองค์การแพทย์ไร้พรมแดน กรณีโจมตีทางอากาศผิดพลาด

 

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2558 11:18:00 น.

ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ได้ออกมาขออภัยองค์การแพทย์ไร้พรมแดน (MSF) สำหรับการโจมตีทางอากาศของสหรัฐที่เกิดความผิดพลาดในการถล่มโรงพยาบาลของ MSF ในเมืองคุนดุซ ทางภาคเหนือของอัฟกานิสถาน

 

เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 22 ราย โดยประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ MSF 12 รายและผู้ป่วย 10 ราย ซึ่งรวมถึงเด็ก 3 ราย

 

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ปธน.โอบามาได้โทรศัพท์ถึงแพทย์หญิงโจแอน หลิว ประธาน MSF เพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

ทั้งนี้ MSF ได้ยอมรับคำขอโทษของปธน.โอบามา แต่ยังคงเน้นย้ำข้อเรียกร้องให้มีการสอบสวนกรณีนี้โดยหน่วยงานที่มีความเป็นอิสระ

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2269362

 

 

ที่ประชุมนาโต้เตรียมถกปฏิบัติการทหารรัสเซียในซีเรีย

 

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2558 14:15:00 น.

การประชุมขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) มีแนวโน้มว่า จะมีการหารือเกี่ยวกับปฏิบัติการทหารของรัสเซียในประเทศซีเรีย ภายหลังจากที่ตุรกีได้ออกมาร้องเรียนและแสดงความไม่พอใจต่อกรณีที่เครื่องบินของรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าของประเทศ

 

รมว.กลาโหมนาโต้คาดว่า จะแสดงน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับตุรกี รวมทั้งหาทางคลี่คลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังจากที่รัสเซียเข้ามามีบทบาทในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน

 

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ตุรกีได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตรัสเซียเข้าพบอีกรอบ ภายหลังจากที่เครื่องบินรบของรัสเซีย ซึ่งประจำการอยู่ในซีเรียได้บินเข้าน่านฟ้าของตุรกีอีกเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากที่ได้รุกล้ำน่านฟ้าของตุรกีไปเมื่อวันเสาร์

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2269562

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

12112109_768177253307700_7217348005445392663_n.jpg?oh=8fae5f6ca95dd1b49f98ebcfe10f36bf&oe=5698863C&__gda__=1453475811_1ab1749004a43e62999739e15cdaf3f9

12096133_768177283307697_5383511651947156141_n.jpg?oh=5ab0e85d0206e9d60398e3cc7b599a13&oe=56CCBEBE12141516_768177309974361_6490742765493244961_n.jpg?oh=8eca4f5c64d99ffdbb55b9b903905a52&oe=56930270&__gda__=1456388934_0dba10574be0ce4fb64c5f05b7879269

ข่าวข้น คนโคราช (สำหรับเพื่อนโลกออนไลน์ทุกคน)

October 6 at 11:51pm ·

 

ช่วยกันหน่อยนะคะ

น้องคนนี้ เจอแถว MRTสุขุมวิท - BTS อโศก

ดูจากผิวพรรณ แล้ว กลัวว่าจะเป็นลูกใคร

แชร์ กันหน่อย ให้ถึง ‪#‎คุณสรยุทธเรื่องเล่าเช้านี้‬

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

640_ccg8ij5ja5i6df8chaka9.jpg

คณะสงฆ์วัดหนองป่าพง มีมติตัดวัดโพธิญาณราม ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีพระปานขาว ญาณธโร เป็นเจ้าอาวาสวัด ออกจากสาขาวัดหนองป่าพง สาเหตุจากรับรองเณรคำ เป็นพระอรหันต์แห่งยุค ‪#‎Nationtv‬

มติวัดหนองป่าพง"ตัด"วัดสาขาฝรั่งเศสรับรองเณรคำ เป็น"อรหันต์"

คณะสงฆ์วัดหนองป่าพง มีมติตัดวัดโพธิญาณราม ประเทศฝรั่งเศสซึ่งมีพระปานขาว ญาณธโรเป็นเจ้าอาวาสวัด ออกจากสาขาวัดหนองป่าพง สาเหตุจากรับรองเณรคำ เป็นพระอรหันต์แห่งยุค

 

 

 

NATIONTV.TV|BY NATIONTV 22

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รัสเซียโชว์ยิงขีปนาวุธถล่มซีเรีย เล็งข้ามอิหร่าน-อิรักด้วยเรือรบ (ชมคลิป)

ทั้งนี้ จากแผนที่แสดงประกอบในวิดีโอคลิป แสดงให้เห็นเส้นทางของจรวดที่คดเคี้ยว ในบางช่วงแสดงให้เห็นการวิ่งสลับเส้นทางกัน กลายเป็นภาพเหตุการณ์…

NAEWNA.COM

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

UNILAD-dad-umbrella-22.jpg

found on UNILAD

พ่อ คือ หน้าที่ ด้วยหัวใจลูกผู้ชาย

 

สวัสดีวันศุกร์

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 07:45:03 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 ต.ค.2558

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการเป็นครั้งแรกในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวลดลงมากกว่าคาดการณ์

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,050.75 จุด พุ่งขึ้น 138.46 จุด หรือ +0.82% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,810.79 จุด เพิ่มขึ้น 19.64 จุด หรือ +0.41% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,013.43 จุด เพิ่มขึ้น 17.60 จุด หรือ +0.88%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มรถยนต์ ช่วยสกัดปัจจัยลบจากรายงานของสำนักงานสถิติเยอรมนี (Destatis) ที่ระบุว่า ยอดส่งออกเดือนส.ค.ของเยอรมนีหดตัวลงมากกว่า 5%

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 361.61 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,675.91 จุด เพิ่มขึ้น 8.57 จุด หรือ +0.18% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,993.07 จุด เพิ่มขึ้น 22.67 จุด หรือ +0.23% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,374.82 จุด เพิ่มขึ้น 38.47 จุด หรือ +0.61%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) หลังธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะยังคงนโยบายการเงินเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 38.47 จุด หรือ 0.61% ที่ระดับ 6,374.82 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากมุมมองที่ว่า การลำเลียงขนส่งน้ำมันในตะวันออกกลางอาจจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่รัสเซียเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย โดยพุ่งเป้าทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (IS) นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 1.62 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 49.43 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 1.72 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 53.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานรายสัปดาห์ที่ยังคงแข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 4.40 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ระดับ 1,144.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 32.80 เซนต์ ปิดที่ 15.766 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 9.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 955.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 703.15 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) หลังจากรายงานการประชุมนโยบายการเงินเดือนก.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่เฟดมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังค่อนข้างต่ำ และเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1272 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1252 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5341 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5317 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.96 เยน จาก 119.92 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9669 ฟรังก์ จาก 0.9728 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7252 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7205 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,050.75 จุด เพิ่มขึ้น 138.46 จุด +0.82%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,810.79 จุด เพิ่มขึ้น 19.64 จุด +0.41%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,013.43 จุด เพิ่มขึ้น 17.60 จุด +0.88%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,374.82 จุด เพิ่มขึ้น 38.47 จุด +0.61%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,993.07 จุด เพิ่มขึ้น 22.67 จุด +0.23%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,675.91 จุด เพิ่มขึ้น 8.57 จุด +0.18%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,241.40 จุด เพิ่มขึ้น 13.00 จุด +0.25%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,210.40 จุด เพิ่มขึ้น 12.50 จุด +0.24%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,445.96 จุด ลดลง 49.27 จุด -0.58%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 18,141.17 จุด ลดลง 181.81 จุด -0.99%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,019.53 จุด เพิ่มขึ้น 13.69 จุด +0.68%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,143.36 จุด เพิ่มขึ้น 90.58 จุด +2.97%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,106.79 จุด ลดลง 2.01 จุด -0.03%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 22,354.91 จุด ลดลง 160.85 จุด -0.71%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,491.43 จุด เพิ่มขึ้น 4.30 จุด +0.10%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,692.20 จุด เพิ่มขึ้น 2.95 จุด +0.17%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,947.03 จุด ลดลง 14.78 จุด -0.50%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,845.81 จุด ลดลง 190.04 จุด -0.70%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2269913ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วง หลังรายงานประชุมเฟดไม่ส่งสัญญาณขึ้นดบ.

 

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 07:28:34 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) หลังจากรายงานการประชุมนโยบายการเงินเดือนก.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่เฟดมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังค่อนข้างต่ำ และเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

 

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1272 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1252 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5341 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5317 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.96 เยน จาก 119.92 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9669 ฟรังก์ จาก 0.9728 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7252 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7205 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐเผชิญปัจจัยลบ หลังจากรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 16-17 ก.ย.ที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ระบุว่าเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินคาดว่าสถานการณ์ในตลาดโลกในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มจะกดดันเงินเฟ้อต่อไปในระยะใกล้นี้

 

เจ้าหน้าที่เฟดได้ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. เนื่องจากมองว่าเงินเฟ้อไม่แข็งแกร่งพอที่จะสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงิน

 

รายงานแสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายบางรายคาดว่าเงินเฟ้อของสหรัฐจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของเฟดที่ 2% ได้ในเร็วๆนี้

 

ความกังวลที่มีต่ออัตราเงินเฟ้อในระยะใกล้ ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่อ่อนแอในช่วงที่ผ่านมา ได้สกัดกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้

 

บรรดานักวิเคราะห์ระบุว่า มีนักลงทุนจำนวนมากขึ้นที่เชื่อว่าเฟดจะไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงต้นปี 2559 ซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันค่าเงินดอลลาร์

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2269910

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 138.46 จุด รับสัญญาณเฟดยังไม่ขึ้นดบ.

 

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 06:41:33 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการเป็นครั้งแรกในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวลดลงมากกว่าคาดการณ์

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,050.75 จุด พุ่งขึ้น 138.46 จุด หรือ +0.82% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,810.79 จุด เพิ่มขึ้น 19.64 จุด หรือ +0.41% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,013.43 จุด เพิ่มขึ้น 17.60 จุด หรือ +0.88%

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 16-17 ก.ย. โดยระบุว่า กรรมการหลายคนของเฟดมีความเห็นว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมานั้น อาจจะกดดันให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเผชิญกับความเสี่ยงช่วงขาลง นอกจากนี้ เฟดยังต้องการดูแนวโน้มเงินเฟ้อ ก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

นักลงทุนมองว่า รายงานการประชุมของเฟดในครั้งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เริ่มมีน้อยลง พร้อมกับคาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกน้อยกว่าจนถึงช่วงต้นปีหน้า

 

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 13,000 ราย สู่ระดับ 263,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 273,000 ราย

 

ทั้งนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นเวลามากกว่า 6 เดือนแล้ว ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดในรอบกว่า 40 ปี และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง

 

ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ซึ่งสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่าเพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์นั้น ลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 267,500 ราย

 

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีนี้ โดยหุ้นมาราธอน ออยล์ หุ้นทรานส์โอเชียน และหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 2% ขณะที่เชฟรอน ปรับขึ้น 2%

 

หุ้นโบอิ้ง ดีดขึ้น 1.4% และหุ้นฮันนีเวลล์ อินเตอร์เนชันแนล ปรับขึ้น 1.45% ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวผันผวน โดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ทะยานขึ้น 3.5% แต่หุ้นอัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ ปิดอ่อนแรงลง หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อวเกินคาด

 

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ย. และสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนส.ค.

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2269905

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: แรงขายทำกำไร ฉุดทองคำปิดลบ 4.40 ดอลล์

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 07:39:18 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานรายสัปดาห์ที่ยังคงแข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 4.40 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ระดับ 1,144.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 32.80 เซนต์ ปิดที่ 15.766 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 9.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 955.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 703.15 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้นี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.1% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 13,000 ราย สู่ระดับ 263,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 273,000 ราย

 

ทั้งนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นเวลามากกว่า 6 เดือนแล้ว ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดในรอบกว่า 40 ปี และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2269911

 

รายงานประชุมเฟดเดือนก.ย.ชี้จนท.เฟดวิตกเงินเฟ้อยังต่ำ,เศรษฐกิจอ่อนแอ

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 07:58:06 น.

รายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวันที่ 16-17 ก.ย. แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังค่อนข้างต่ำ และเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

รายงานการประชุมเฟดที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินคาดว่าสถานการณ์ในตลาดโลกในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มจะกดดันเงินเฟ้อต่อไปในระยะใกล้นี้

 

 

 

เจ้าหน้าที่เฟดได้ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. เนื่องจากมองว่าเงินเฟ้อไม่แข็งแกร่งพอที่จะสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงิน

 

รายงานแสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายบางรายคาดว่าเงินเฟ้อของสหรัฐจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของเฟดที่ 2% ได้ในเร็วๆนี้

 

ความกังวลที่มีต่ออัตราเงินเฟ้อในระยะใกล้ ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่อ่อนแอในช่วงที่ผ่านมา ได้สกัดกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้

 

บรรดานักวิเคราะห์ระบุว่า มีนักลงทุนจำนวนมากขึ้นที่เชื่อว่าเฟดจะไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงต้นปี 2559

 

ทั้งนี้ เฟดมีกำหนดที่จะประชุมนโยบายการเงินอีกเพียง 2 ครั้งในปีนี้ คือ ช่วงวันที่ 27-28 ต.ค. และวันที่ 15-16 ธ.ค.

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2270082

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $1.62 จากข่าวรัสเซียถล่ม IS ในซีเรีย

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 07:19:52 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากมุมมองที่ว่า การลำเลียงขนส่งน้ำมันในตะวันออกกลางอาจจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่รัสเซียเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย โดยพุ่งเป้าทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (IS) นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 1.62 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 49.43 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 1.72 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 53.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น โดยในระหว่างวันสัญญาทะยานขึ้นเหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากตลาดมีมุมมองว่า การลำเลียงขนส่งน้ำมันในตะวันออกกลางอาจจะได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการโจมตีทางทหารของรัสเซียในซีเรีย

 

สำหรับรายงานล่าสุดระบุว่า เรือรบของรัสเซียในทะเลแคสเปียนได้ยิงขีปนาวุธถล่มโรงงาน คลังอาวุธ ศูนย์บัญชาการ และค่ายฝึกทหารของกลุ่ม IS

 

กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า กองทัพอากาศสามารถโจมตีเป้าหมาย 27 แห่งของกลุ่ม IS ในจังหวัดฮอมส์ ฮามา และรัคคา ขณะเดียวกัน กองกำลังภาคพื้นดินของซีเรียได้โจมตีเป้าหมายของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทางตะวันตกของประเทศ โดยมีเครื่องบินของรัสเซียให้การสนับสนุนด้วยการยิงขีปนาวุธถล่ม

 

ที่ผ่านมานั้น รัสเซียอ้างว่ากำลังทำการโจมตีเป้าหมายของกลุ่ม IS แต่การโจมตีในทางตะวันตกของซีเรีย กลับไม่ใช่เป็นที่ตั้งของกลุ่ม IS แต่อย่างใด แต่เป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มกบฎที่ต่อสู้กับรัฐบาลซีเรีย

 

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ รวมทั้งรายงานคาดการณ์ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ระบุว่า ความต้องการน้ำมันทั่วโลกอาจเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2558 ซึ่งสูงกว่าที่โอเปกคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

 

เบเกอร์ ฮิวจส์ บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลด้านน้ำมันระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในสหรัฐลดลงอีก 4 แห่ง เหลือ 640 แห่ง ในช่วงเวลาที่สิ้นสุดสัปดาห์ที่ 25 ก.ย. ซึ่งถือว่าเป็นระดับต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนก.ค. หลังจากที่ลดลงไปกว่า 31 แห่งเมื่อสามสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2269909

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

12074633_408869109308594_5155842462510829885_n.jpg?oh=a9bc8700c1846f00f3c5852fa9f16889&oe=56956FB6

 

 

ไทยตอนบนมีฝนตกหนาแน่น!! เตือนปชช.ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

 

 

 

ข่าวทั่วไป RYT9 -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 08:04:00 น.

 

ดูรูปทั้งหมด

9 ต.ค.58 ลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงได้แผ่ปกคลุมประเทศจีนตอนใต้ และเวียดนามตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศลาว และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ในวันนี้ ส่งผลให้ร่องมรสุมที่พาดบริเวณประเทศไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีผลกระทบในช่วงวันที่ 9 - 10 ต.ค.58 ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีผลกระทบในช่วงวันที่ 10 - 11 ต.ค.58 จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งปริมาณฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย

 

 

 

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยวันนี้ เป็นดังนี้

ภาคเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดแพร่ น่าน อุตรดิตถ์ และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี ขอนแก่น สกลนคร และนครพนม อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดลพบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/ryt9/2270094

 

‘ไทย-จีน’ประกาศชิงจัดตั้งศูนย์กลางl ซื้อขายไฟฟ้าในกลุ่มอาเซียน l ลุ้นประเทศสมาชิกตัดสินใจ

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 06:00:00 น.

รัฐมนตรีพลังงานอาเซียน ได้จัดประชุมครั้งที่ 33 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยฝ่ายไทย มีพล.อ.อนันตพร

 

กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน ได้หารือระดับทวิภาคี กับทาง สปป.ลาว เมียนมา มาเลเซีย และจีน ด้วย

 

พล.อ.อนันตพรกล่าวว่า ขอขอบคุณมาเลเซียในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมครั้งนี้ และมาเลเซีย และไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับ สปป.ลาวและสิงคโปร์ ในโครงการนำร่องซื้อขายไฟฟ้าในอาเซียน ภายใต้โครงการ LTMS

 

 

 

ส่วน เมียนมา ได้ขอให้ไทยช่วยเหลือเรื่องการปรับปรุง หรือการสร้างโรงกลั่นน้ำมันและขอให้ไทยยืนยันโครงการก่อสร้างสถานีนำเข้าแอลเอ็นจีชั่วคราว (เอฟเอสอาร์ยู) สำหรับก๊าซแอลเอ็นจีที่นิคมอุตสาหกรรมทวาย ขนาด 3 ล้านตัน ซึ่งไทยได้ยืนยันว่า มีความพร้อมเพื่อสร้างความมั่นคงแก่ทั้งสองประเทศ

 

ด้านนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่าจีนได้ย้ำความพร้อมในการเป็นศูนย์การวางระบบซื้อขายไฟฟ้า (Region Power Sector) สำหรับโครงการแลกเปลี่ยนซื้อขายไฟฟ้าในอาเซียน และจีน ในขณะที่ไทยก็พร้อมจะเป็นศูนย์กลางนี้เช่นกัน ซึ่งคงต้องให้อาเซียนตัดสินใจในอนาคตว่าจะให้ประเทศใดเป็นผู้ตั้งศูนย์กลางนี้ และยังได้หารือถึงความร่วมมือในการศึกษาเทคโนโลยีโรงไฟฟ้าระบบต่างๆ เช่น นิวเคลียร์ที่ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง เครือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ได้เข้าไปร่วมทุนอีกด้วย

 

นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) กล่าวถึงการซื้อไฟฟ้าจากสปป.ลาว ว่า ลาวได้เสนอให้ไทยพิจารณาเรื่องการซื้อขายไฟฟ้า ทั้งในส่วนของ เอ็มโอยูเดิม 7,000 เมกะวัตต์ ที่เสนอโครงการมาครบแล้ว โดยที่ผ่านมามีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าไปแล้ว 5,400 เมกะวัตต์ ส่วนอีก 1,600 เมกะวัตต์ ที่เสนอมาและจะต้องเจรจาค่าไฟฟ้าต่อไปคือ โรงไฟฟ้าปากเบ็ง 880 เมกะวัตต์ โครงการนี้ บริษัท ต้าถัง ของจีนเป็นผู้ลงทุน, โครงการน้ำเทิน 1 กำลังผลิต 520 เมกะวัตต์ ทางบริษัทพรศักดิ์ ของ สปป.ลาว เป็นผู้ลงทุนส่วนอีก 200 เมกะวัตต์ ทางลาวเสนอขายไฟฟ้าในการรักษาเชื่อมต่อระบบ หรือ Grid to Grid นอกจากนี้ สปป.ลาวยังเสนอให้ทำเอ็มโอยู ซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มเติมในอนาคต ซึ่งทางรัฐบาลคงจะตัดสินใจต่อไป

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/nnd/2270041

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทระหว่างวันแตะ 36.63 ก่อนปิดที่ 36.57/60 แนวโน้มสัปดาห์หน้ายังอ่อนค่า

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 2 ตุลาคม 2558 17:30:35 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 36.57/60 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 36.48/50 บาท/ดอลลาร์

 

วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางที่อ่อนค่า โดยระหว่างวันเงินบาททำ high สุดที่ระดับ 36.63 บาท/ดอลลาร์ และ low สุดที่ระดับ 36.51 บาท/ดอลลาร์ ทั้งนี้มองว่าในสัปดาห์หน้าเงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อ ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะทยอยประกาศออกมานั้นยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ตลาดติดตาม

 

 

 

"แนวโน้มเงินบาทน่าจะยังอ่อนค่าต่อ ต้องติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐคืนนี้" นักบริหารเงินกล่าว

 

นักบริหารเงิน คาดว่า สัปดาห์หน้าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 36.50 - 36.70 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- ช่วงเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.15/20 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 120.00 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1160/1165 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 1.1200 ดอลลาร์/ยูโร

 

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,346.35 เพิ่มขึ้น 1.20 จุด (+0.09%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 23,570 ล้านบาท

 

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 120.84 ลบ.(SET+MAI)

- พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า กระทรวงฯ เตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม และร่าง พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) ภายในเดือน ต.ค.นี้

 

- ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) เห็นควรปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของก๊าซ LPG ลง 0.8435 บาท/กก. จากเดิม 0.9262 บาท/กก. เป็น 0.0827 บาท/กก. เพื่อให้ราคาขายปลีกก๊าซ LPG เดือนตุลาคม 2558 คงเดิม ที่ 22.29 บาท/กก. โดยโดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป

 

- นายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ ประธานกรรมการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) เผยความคืบหน้าการดำเนินโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS5(ปรับปรุงใหม่) วงเงิน 1 แสนล้านบาทว่า ในช่วงเวลา 10 วันทำการได้อนุมัติค้ำประกันไปแล้ว 2,030 ล้านบาท

 

- นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะโฆษกของ กกพ. เปิดเผยถึงการปรับโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าใหม่ว่า เมื่อมีการปรับอัตราค่าไฟฟ้าใหม่ กกพ.ได้เห็นชอบให้มีการเรียกเก็บค่าเอฟทีรอบเดือนพ.ย.-ธ.ค.58 จำนวน -3.23 สตางค์/หน่วย สำหรับค่าเอฟทีรอบเดือนม.ค.-เม.ย.59 เป็นต้นไป จะปรับตามต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงไปจากค่าไฟฟ้าฐานใหม่เท่านั้น

 

- นักลงทุนต่างรอดูการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐคืนนี้ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 173,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่า อัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 5.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี

 

- ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของ ECB กำลังประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี เมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจยูโรโซนที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งความแข็งแกร่งของยูโรโซนมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอน ทั้งนี้ ในการประชุมนโยบายการเงินครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ก.ย. ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.05% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะเดียวกัน ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ -0.2%

 

- รัฐมนตรีคลังยูโรโซน จะประชุมร่วมกันวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เพื่อพิจารณาทางเลือกเชิงกลยุทธ์จากรัฐบาลใหม่ของกรีซในความพยายามที่จะให้มีการเบิกจ่ายเงิน 3 พันล้านยูโร (หรือ 3.36 พันล้านดอลลาร์) ตามกำหนด นอกจากนี้ ยูโรกรุ๊ปยังจะเรียกร้องให้กรีซนำเสนอความคืบหน้าของการดำเนินการมาตรการรัดเข็มขัด ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มเจ้าหนี้ที่อนุมัติเงินช่วยเหลือครั้งที่ 3 แก่กรีซในวงเงิน 8.6 หมื่นล้านยูโร

 

- กระทรวงฝ่ายกิจการภายในประเทศของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนประจำเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 2.9% ซึ่งปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนตลอดช่วงครึ่งเดือนแรกนั้น ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์บางประเภทเช่นเครื่องดื่ม และเครื่องปรับอากาศมียอดจำหน่ายที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเป็นตัวชี้วัดสำคัญของการบริโภคในภาคเอกชน หรือคิดเป็นสัดส่วน 60% ของ GDP ญี่ปุ่น

 

- ธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) เปิดเผยว่า บริษัทของญี่ปุ่นคาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.2% ในระยะเวลาอีก 1 ปีข้างหน้า ซึ่งลดลงจากระดับคาดการณ์เมื่อเดือนมิ.ย. โดยบีโอเจคาดไว้ที่ 1.4% ต่อปี และยังต่ำกว่าระดับ 2% ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายของบีโอเจ

 

มุมมองที่ระมัดระวังดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะสะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวลงของมาตรวัดด้านราคาที่สำคัญ ซึ่งร่วงลงสู่แดนลบเป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 2 ปีเมื่อเดือนส.ค. อันเนื่องมาจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมัน ที่ฉุดรั้งผลพวงจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงินจำนวนมหาศาลของบีโอเจ

 

- นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของ ECB กำลังประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี เมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจยูโรโซนที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2265033

 

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นภาคบ่าย จากคาดการณ์เฟดคงดบ.-หุ้นกลุ่มน้ำมันดีดตัว

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 11:52:58 น.

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นต่อในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในปีนี้ นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานยังปรับตัวสูงขึ้นขานรับราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 22,738.36 จุด เพิ่มขึ้น 383.45 จุด, +1.72% ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 26,974.92 จุด เพิ่มขึ้น 129.11 จุด, +0.48%

 

 

 

รายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวันที่ 16-17 ก.ย. แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังค่อนข้างต่ำ และเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

รายงานการประชุมเฟดที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินคาดว่าสถานการณ์ในตลาดโลกในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มจะกดดันเงินเฟ้อต่อไปในระยะใกล้นี้

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากมุมมองที่ว่า การลำเลียงขนส่งน้ำมันในตะวันออกกลางอาจจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่รัสเซียเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย โดยพุ่งเป้าทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (IS) นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 1.62 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 49.43 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สำหรับความเคลื่อนไหวด้านเศรษฐกิจนั้น ได้แก่ การประชุมรัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศ G20 ที่เปิดฉากขึ้นที่กรุงลิมา ประเทศเปรู โดยที่ประชุมแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับความเสี่ยงต่างๆที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเผชิญกับภาวะขาลง อันเป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

 

รัฐมนตรีที่เข้าร่วมการประชุมจะได้รับรายงานจากองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เกี่ยวกับขั้นตอนต่างๆ เพื่อกำหนดกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการเก็บภาษีระหว่างประเทศที่เข้มงวดยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทข้ามชาติหลีกเลี่ยงจ่ายภาษีนิติบุคคล

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2270369

 

ผอ.IMF ชี้การเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจจีนไม่ง่าย รับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจล่าช้า

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 11:59:19 น.

นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ชี้จีนกำลังเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจและระบบการเงินครั้งมโหฬาร และมองว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนนั้น ชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่น่าจะขยายตัวขึ้นในปีหน้า

 

ผอ. IMF ชี้แนวโน้มเศรษฐกิจจีนนั้น ไม่ได้ซบเซาไปเสียทั้งหมด และในขณะนี้ เศรษฐกิจจีนก็มีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่

 

ก่อนหน้านี้ IMF ได้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวเพียง 6.8% ในขณะที่รัฐบาลจีนคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวประมาณ 7% ในปีนี้ หลังจากที่ขยายตัว 7.4% ในปีที่แล้ว

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2270375

 

ดอลล์ยืนที่กรอบบน 119 เยน หลังรายงานประชุมเฟดไม่ส่งสัญญาณขึ้นดบ.

 

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 11:25:38 น.

ดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ที่กรอบบนของ 119 เยนในการซื้อขายที่ตลาดโตเกียวช่วงเช้าวันนี้ หลังจากรายงานการประชุมนโยบายการเงินเดือนก.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ณ เที่ยงวันนี้ตามเวลาโตเกียว ดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 119.94-119.99 เยน เมื่อเทียบกับ 119.89-119.99 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 119.80-119.82 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อเวลา 17.00 น. ของเมื่อวานนี้

 

 

 

ยูโรเคลื่อนไหวที่ 1.1279 ดอลลาร์ และ 135.30-135.32 เยน เมื่อเทียบกับ 1.1271-1.1281 ดอลลาร์ และ 135.22-135.32 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 1.1290-1.1291 ดอลลาร์ และ 135.26-135.30 เยนที่ตลาดโตเกียวในเย็นเมื่อวานนี้

 

รายงานจากการประชุมเดือนก.ย.ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดตัดสินใจรอดูข้อมูลเพิ่มเติมที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้ปรับตัวแข็งแกร่งแล้ว และเงินเฟ้อปรับขึ้นสู่เป้าหมาย 2% ของเฟดโดยลำดับ ก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน อาจส่งผลให้แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับภาวะขาลง

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2270340

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Xinhua world news summary: รมว.ต่างประเทศสหรัฐ-รัสเซียถกปฏิบัติการต่อต้าน IS

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 10:29:00 น.

นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้หารือกับนายเซอร์ไก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ผ่านทางโทรศัพท์เมื่อวานนี้ เพื่อลดความขัดแย้งเกี่ยวกับปฏิบัติการของทั้งสองประเทศในการต่อต้านกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ในซีเรีย

 

นายจอห์น เคอร์บี โฆษกทำเนียบขาวกล่าวในการแถลงข่าวว่า นายแคร์รีและนายลาฟรอฟได้หารือเกี่ยวกับความสำคัญในการเดินหน้าหารือกันในด้านกลยุทธ์ และการเจรจาสู่เป้าหมายในการลดความขัดแย้ง เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดและการเข้าใจผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางอากาศ"

 

 

 

-- รัฐมนตรีมหาดไทยของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) เรียกร้องให้เพิ่มอัตราการส่งกลับ เพื่อสกัดการอพยพที่ผิดปกติ

 

รายงานข้อสรุปภายหลังการประชุมว่าด้วยการอพยพของรัฐมนตรียุติธรรมและกิจการภายในของ EU ในลักเซมเบิร์กระบุว่า "EU และประเทศสมาชิกจะต้องดำเนินการมากขึ้น ในแง่ของการส่งกลับผู้อพยพ"

 

-- กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอลเปิดเผยวานนี้ว่า เจ้าหน้าที่ทหารอิสราเอลและรัสเซียได้ประชุมร่วมกันที่กรุงเทลอาวีฟ เพื่อหากลไกในการป้องกันข้อผิดพลาดระหว่างกองกำลังทั้งสองประเทศ ขณะที่รัสซียยังคงเดินหน้าปฏิบัติการในซีเรีย สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2270294

 

 

 

ดัชนีเชื่อมั่นทองคำต.ค.ปรับเหนือ 50 จุดในรอบ 5 เดือน คาดเฟดเลื่อนขึ้นดบ.

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 10:34:19 น.

นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนตุลาคม 2558 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนตุลาคมฟื้นตัวขึ้นจากเดือนก่อน 7.60 จุด สู่ระดับ 51.47 จุด เป็นการปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 50 จุดครั้งแรกในรอบ 5 เดือนตั้งแต่เดือนมิถุนายน แต่ยังไม่สะท้อนมุมมองเชิงบวกมากนัก เนื่องจากระดับดัชนีอยู่เหนือระดับ 50 จุดเพียงเล็กน้อย

 

 

 

ปัจจัยเชิงบวกของกลุ่มตัวอย่าง เกิดขึ้นหลังจากที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ครั้งที่ผ่านมามีมติคงดอกเบี้ยที่ระดับเดิมโดยเพิ่มเงื่อนไขในการพิจารณาดอกเบี้ยจากเศรษฐกิจในภูมิภาคอื่นโดยเฉพาะจีน ทำให้กลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าเฟดจะเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยไปอย่างน้อยปลายปีหรือเป็นช่วงต้นปีหน้า ทำให้ราคาทองคำฟื้นตัว

 

อย่างไรก็ดี ด้านกลุ่มผู้ค้ากลับมองว่าจากปัจจัยเดียวกันอาจจะทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นหลังจากอ่อนตัวค่อนข้างเร็ว ทำให้ราคาทองคำในประเทศอาจจะปรับตัวขึ้นไม่มากนัก หรืออ่อนตัวลงเล็กน้อย ที่น่าสนใจคือการตอบแบบสอบถามเรื่องความต้องการซื้อหรือไม่ซื้อทองคำในช่วง 1 เดือนข้างหน้า กลับพบว่ามีการเพิ่มขึ้นของกลุ่มตัวอย่างที่ไม่แน่ใจว่าจะซื้อหรือไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจจะเป็นการสะท้อนว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ยังไม่มีความมั่นใจต่อการฟื้นตัวของราคาทองคำ

 

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในระยะ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลง โดยลดลง 4.70 จุดมาอยู่ที่ระดับ 44.58 จุด สะท้อนมุมมองเชิงลบในระยะ 3 เดือน ซึ่งเป็นผลมาจากความวิตกการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในอนาคต

 

บทสรุปความคิดเห็นผู้ค้าทองคำ (Gold Trader Consensus) จากผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ ผู้ค้าส่งทองคำ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 9 ตัวอย่าง พบว่าผู้ค้าส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาทองคำในประเทศเดือนตุลาคม 2558 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากเดือนก่อน เชื่อเงินบาทกดดันหลังราคาทองในประเทศปรับเพิ่มขึ้นจากการอ่อนตัวของเงินบาทในช่วงกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา

 

โดยมีผู้ค้า 2 รายมองทองคำเฉลี่ยทองคำในประเทศจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคม อีก 1 รายมองราคาทองเฉลี่ยจะใกล้เคียงกับเดือนกันยายน และมีกลุ่มผู้ค้า 5 รายที่เชื่อว่าราคาทองคำในประเทศเฉลี่ยในเดือนตุลาคมจะปรับตัวลดลงเทียบกับเดือนกันยายน

 

โดยผู้ค้ามองว่าราคาทองคำในตลาดโลกน่าจะมีกรอบราคาสูงสุดอยู่ระหว่าง 1,160-1,180 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวของราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1,080-1,100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ สำหรับราคาทองคำแท่งในประเทศ (ความบริสุทธิ์ 95.5%) กลุ่มตัวอย่างให้น้ำหนักราคาสูงสุดที่ 20,000-20,500 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดอยู่ที่ 18,500-19,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2270300

 

เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 35.74 แข็งค่าจากแรงเทขายดอลลาร์-เงินทุนไหลเข้าตลาดบอนด์

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 11:11:53 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 35.74 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 36.00 บาท/ดอลลาร์

 

เงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค หลังมีแรงเทขายดอลลาร์ เนื่องจากตลาดมองว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป ประกอบกับเมื่อวานนี้มีเงินทุนจากต่างประเทศเข้ามาในตลาดพันธบัตรราว 1 หมื่นล้านบาท มากสุดในรอบ 1 ปี 3 เดือน โดยเมื่อเวลา 09.25 น.เงินบาทอยู่ที่ระดับ 35.69 บาท/ดอลลาร์

 

 

 

"เงินบาทแข็งค่าเร็วมาก หลังมีแรงเทขายดอลลาร์ และเมื่อวานต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนในตลาด bond ราว 1 หมื่นล้านบาท มากสุดในรอบ 1 ปี 3 เดือน" นักบริหารเงิน กล่าว

 

นักบริหารเงิน คาดวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 35.60-35.77 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.6750 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(8 ต.ค.) อยู่ที่ 1.61852% ส่วน THAI BAHT FIX 6M(8 ต.ค.) อยู่ที่ 1.66803%

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.90 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 119.77 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1278 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1298 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 35.9530 บาท/ดอลลาร์

 

- การประชุมรัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศ G20 ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู เริ่มเปิดฉากแล้ว โดยที่ประชุมแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับความเสี่ยงต่างๆที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเผชิญกับภาวะขาลง อันเป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

 

- รายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เมื่อวันที่ 16-17 ก.ย. แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังค่อนข้างต่ำ และเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการเป็นครั้งแรกในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวลดลงมากกว่าคาดการณ์ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,050.75 จุด พุ่งขึ้น 138.46 จุด หรือ +0.82% ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,810.79 จุด เพิ่มขึ้น 19.64 จุด หรือ +0.41% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,013.43 จุด เพิ่มขึ้น 17.60 จุด หรือ +0.88%

 

- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้เนื่องจากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มรถยนต์ ช่วยสกัดปัจจัยลบจากรายงานของสำนักงานสถิติเยอรมนี (Destatis) ที่ระบุว่า ยอดส่งออกเดือน ส.ค.ของเยอรมนีหดตัวลงมากกว่า 5% โดยดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 361.61 จุด ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,675.91 จุด เพิ่มขึ้น 8.57 จุด หรือ +0.18% ส่วนดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,993.07 จุด เพิ่มขึ้น 22.67 จุด หรือ +0.23%

 

- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะยังคงนโยบายการเงินเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 38.47 จุด หรือ 0.61% ที่ระดับ 6,374.82 จุด

 

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากมุมมองที่ว่า การลำเลียงขนส่งน้ำมันในตะวันออกกลางอาจจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่รัสเซียเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย โดยพุ่งเป้าทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (IS) นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ

 

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้น 1.62 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 49.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้น 1.72 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 53.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ข้อมูลแรงงานรายสัปดาห์ที่ยังคงแข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 4.40 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ระดับ 1,144.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 32.80 เซนต์ ปิดที่ 15.766 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ม.ค.เพิ่มขึ้น 9.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 955.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 703.15 ดอลลาร์/ออนซ์

 

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ หลังจากรายงานการประชุมนโยบายการเงินเดือน ก.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่เฟดมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังค่อนข้างต่ำ และเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2270325

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

 

รัฐสภาอียูห่วงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในไทย เรียกร้องให้ยกเลิกการจำกัดสิทธิ

 

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 11:39:39 น.

เว็บไซต์ของรัฐสภาอียูรายงานว่า รัฐสภาอียูได้ผ่านมติการประชุม 4 ข้อเมื่อวานนี้ ซึ่งรวมถึงเรื่องสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยรัฐสภาอียูได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุยชนที่ย่ำแย่ลงในไทย ภายหลังจากที่เกิดการรัฐประหารเมื่อเดือนพ.ค. 2557

 

รัฐสภาอียูได้เรียกร้องให้ทางการไทยยกเลิกข้อจำกัดในเรื่องสิทธิเสรีภาพ รวมทั้งยกเลิกการตัดสินลงโทษและปล่อยตัวบุคคลและสื่อมวลชนที่ถูกตัดสินหรือตั้งข้อหาจากการใช้สิทธิในการแสดงออกหรือชุมนุมอย่างเสรี

 

โดยนอกจากประเด็นเกี่ยวกับประเทศไทยแล้ว รัฐสภาอียูยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในซาอุดิอาระเบีย ไนจีเรีย และสาธารณรัฐแอฟริกากลางด้วย

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2270359

 

รัฐสภาอียูห่วงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในไทย เรียกร้องให้ยกเลิกการจำกัดสิทธิ

 

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 11:39:39 น.

เว็บไซต์ของรัฐสภาอียูรายงานว่า รัฐสภาอียูได้ผ่านมติการประชุม 4 ข้อเมื่อวานนี้ ซึ่งรวมถึงเรื่องสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยรัฐสภาอียูได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุยชนที่ย่ำแย่ลงในไทย ภายหลังจากที่เกิดการรัฐประหารเมื่อเดือนพ.ค. 2557

 

รัฐสภาอียูได้เรียกร้องให้ทางการไทยยกเลิกข้อจำกัดในเรื่องสิทธิเสรีภาพ รวมทั้งยกเลิกการตัดสินลงโทษและปล่อยตัวบุคคลและสื่อมวลชนที่ถูกตัดสินหรือตั้งข้อหาจากการใช้สิทธิในการแสดงออกหรือชุมนุมอย่างเสรี

 

โดยนอกจากประเด็นเกี่ยวกับประเทศไทยแล้ว รัฐสภาอียูยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในซาอุดิอาระเบีย ไนจีเรีย และสาธารณรัฐแอฟริกากลางด้วย

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2270359

 

 

รัฐสภาอียูห่วงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในไทย เรียกร้องให้ยกเลิกการจำกัดสิทธิ

 

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 11:39:39 น.

เว็บไซต์ของรัฐสภาอียูรายงานว่า รัฐสภาอียูได้ผ่านมติการประชุม 4 ข้อเมื่อวานนี้ ซึ่งรวมถึงเรื่องสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยรัฐสภาอียูได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุยชนที่ย่ำแย่ลงในไทย ภายหลังจากที่เกิดการรัฐประหารเมื่อเดือนพ.ค. 2557

 

รัฐสภาอียูได้เรียกร้องให้ทางการไทยยกเลิกข้อจำกัดในเรื่องสิทธิเสรีภาพ รวมทั้งยกเลิกการตัดสินลงโทษและปล่อยตัวบุคคลและสื่อมวลชนที่ถูกตัดสินหรือตั้งข้อหาจากการใช้สิทธิในการแสดงออกหรือชุมนุมอย่างเสรี

 

โดยนอกจากประเด็นเกี่ยวกับประเทศไทยแล้ว รัฐสภาอียูยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในซาอุดิอาระเบีย ไนจีเรีย และสาธารณรัฐแอฟริกากลางด้วย

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2270359

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...