ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดบวก 1.20 จุด เคลื่อนไหวกรอบแคบ ไร้ปัจจัยบวก-ลบใหม่

 

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 2 ตุลาคม 2558 17:17:43 น.

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,346.35 จุด เพิ่มขึ้น 1.20 จุด(+0.09%) มูลค่าการซื้อขาย 23,570.48 ล้านบาท

 

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,351.03 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,342.00 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 363 หลักทรัพย์ ลดลง 488 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 321 หลักทรัพย์

 

นายชัยยศ จิวางกูร ผุ้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาทั้งในแง่บวกและในแง่ลบ ทั้งจากภายนอกและในประเทศที่จะเข้ามามีผลต่อตลาดในช่วงนี้

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าคาดว่าดัชนีจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบเช่นเดียวกับสัปดาห์นี้ เนื่องจากปัจจัยใหม่ๆ ที่โดดเด่นยังไม่มีเข้ามาทำให้ดัชนีเคลื่อนไหวขึ้นหรือลงได้มากนัก แนะติดตามการประกาศตัวเลข PMI ภาคการบริการของสหรัฐฯในวันจันทร์หน้า และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันที่ 6-7 ตุลาคมนี้

 

พร้อมให้แนวต้าน 1,360 จุด แนวรับ 1,340 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,302.17 ล้านบาท ปิดที่ 169.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

 

PTT มูลค่าการซื้อขาย 929.72 ล้านบาท ปิดที่ 246.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท

 

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 915.28 ล้านบาท ปิดที่ 226.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

 

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 743.49 ล้านบาท ปิดที่ 49.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

 

JWD มูลค่าการซื้อขาย 713.43 ล้านบาท ปิดที่ 13.00 บาท ลดลง 0.40 บาท

 

อินโฟเควสท์ โดย จีรายุทธ จันทรงสกุล/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2265009

 

รายงานชี้ยุทธศาสตร์ 'One Belt One Road' เอื้อประโยชน์ต่อศก.จีน-ทั่วโลก

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 16:35:00 น.

รายงานการวิจัยซึ่งจัดทำโดยสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IMI) แห่งมหาวิทยาลัยเหรินหมินของจีน ระบุว่า ยุทธศาสตร์ One Belt One Road และการผลักดันเงินหยวนให้เป็นสกุลเงินสากลนั้น ถือเป็น 2 ยุทธศาสตร์ที่จะสร้างประโยชน์ให้กับจีนและทั่วโลก

 

รายงาน "RMB international Report 2015" ซึ่งจัดทำโดยสถาบัน IMI ระบุว่า ที่ผ่านมานั้น จีนได้สนับสนุนยุทธศาสตร์ที่สำคัญทั้ง 2 ประการ ขณะที่ประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่และประเทศทั่วโลกจะได้รับประโยชน์จากการดำเนินยุทธศาสตร์ดังกล่าว

 

เปน เซิงหลิง ผู้อำนวยการบริหารของ IMI เชื่อว่า จีนมีความคืบหน้าอย่างมากในการผลักดันเงินหยวนให้เป็นสกุลเงินสากล นับตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งเป็นช่วงที่จีนเริ่มทดลองให้บริการชำระบัญชีการค้าข้ามเขตแดนด้วยสกุลเงินหยวนเป็นครั้งแรก

 

"ยุทธศาสตร์ One Belt and One Road จะส่งผลดีแก่ทุกประเทศที่มีการเชื่อมโยงกับเส้นทางนี้ และยังถือเป็นโอกาสทองสำหรับการผลักดันเงินหยวนสู่สากลด้วย" เขากล่าว

 

นอกจากนี้ รายงานของ IMI ยังเผยให้เห็นถึงผลการศึกษาที่ระบุว่า การใช้สกุลเงินหยวนในสัดส่วนที่สูงขึ้นนั้น จะช่วยป้องกันความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งจะช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรม เพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันทางเศรษฐกิจโดยรวม และสามารถผนวกรวมการค้าและเศรษฐกิจในภูมิภาคที่เกี่ยวข้องได้รวดเร็วยิ่งขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2270645

 

ด่วน!ปลด'สมชัย สุวรรณบรรณ' พ้นเก้าอี้ผู้อำนวยการไทยพีบีเอส

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 16:02:00 น.

9 ต.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก"ThaiPBS" รายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กนย.มีมติเลิกจ้าง นายสมชัย สุวรรณบรรณ ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ตามสัญญาตั้งแต่วันนี้ (9 ต.ค.58) เป็นต้นไป ทำให้รองผู้อำนวยการ 3 คน คือ นายมงคล ลีลาธรรม นายสุพจน์ จริงจิตร นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ พ้นจากตำแหน่งตามไปด้วย กรรมการนโยบายให้เหตุผลว่า ผู้อำนวยการไม่ให้ความสำคัญกับข้อเสนอแนะของกรรมการนโยบาย ไม่มีแผนบริหารความเปลี่ยนแปลง และแผนกลยุทธ์เพื่อการแข่งขัน และผิดสัญญาจ้างกรณีอนุมัติโครงการที่มีวงเงินเกิน 50 ล้านบาท โดยไม่ได้รับอนุมัติจากกรรมการนโยบายถึง 4 ครั้ง ส.ส.ท.จึงมีสิทธิ์เลิกจ้างโดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า และไม่ต้องจ่ายค่าเสียหาย หรือค่าสินไหมทดแทนใดๆ ?#?ThaiPBS

 

คกก.นโยบายองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะฯ มีมติเลิกจ้างผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ตั้งแต่วันนี้ (9 ต.ค.58) #ThaiPBS

 

Posted by ThaiPBS on Friday, October 9, 2015

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/nnd/2270630

 

โฟล์คสวาเกน เรียกคืนรถ 100,000 คันในออสเตรเลียจากเหตุฉาวโกงไอเสีย

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 15:15:00 น.

บริษัทโฟล์คสวาเกนได้ประกาศเรียกคืนรถเกือบ 100,000 คันในออสเตรเลียที่ได้รับการติดตั้งซอฟต์แวร์โกงผลตรวจไอเสีย ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับโฟล์คสวาเกนอย่างมหาศาลตลอดสามสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

โฟล์คสวาเกนประจำออสเตรเลียได้ปรับเพิ่มตัวเลขจำนวนรถที่ได้รับผลกระทบ โดยได้ยืนยันว่ามีการติดอุปกรณ์โกงจริงในเครื่องยนต์ของรถโฟล์คสวาเกน 77,149 คันที่จำหน่ายระหว่างปี 2551-2558 รวมถึงรถออดี้อีก 14,028 คันในออสเตรเลีย

 

แม้ว่ายังไม่มีกรอบเวลาแน่นอนในการเรียกคืนรถยนต์ แต่การเรียกคืนครั้งนี้ก็เป็นไปตามแผนของบริษัทแม่ที่เยอรมนี เพื่อปรับปรุงแก้ไขรถยนต์ราว 11 ล้านคันทั่วโลก โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนม.ค.ปีหน้า

 

โฟล์คสวาเกนออสเตรเลียได้ถูกวิจารณ์เป็นอย่างหนัก เนื่องจากทางบริษัทไม่ได้มีการออกมาชี้แจงอย่างชัดเจน หลังบริษัทแม่ได้ออกมายอมรับว่ามีการติดตั้งโปรแกรมโกงผลไอเสียจริง

 

ด้านฝ่ายกำกับดูแลของออสเตรเลียได้ออกมาเตือนว่า โฟล์คสวาเกนอาจถูกสั่งปรับเป็นเงินหลายล้านดอลลาร์ในข้อหาฝ่าฝืนมาตรฐานความปลอดภัยอีกทั้งมีการชี้นำผู้บริโภคในทางที่ผิด ขณะที่บริษัทกฎหมาย Maurice Blackburn ของออสเตรเลียมีแผนฟ้องคดีในนามกลุ่มบุคคลเพื่อชดเชยให้กับผู้บริโภคหลังราคาขายต่อร่วงลง

 

ทั้งนี้โฟล์คสวาเกนได้ระงับการจำหน่ายรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล EA189 ขนาด 1.6 หรือ 2.0 ลิตร หลังจากที่ได้มีการเจรจากับรัฐบาลออสเตรเลียถึงแนวทางจัดการกับปัญหาดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2270561

 

มีชัยเผยบวรศักดิ์เสนอเจตน์ร่วมงานแทน เตรียมส่งหนังสือขอความเห็นจากองค์กร-พรรคการเมือง

 

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 16:33:48 น.

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) เผยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ปฏิเสธรับตำแหน่งที่ปรึกษา กรธ. หลังตนเองได้พูดคุยทาบทามด้วยตัวเองแล้ว แต่นายบวรศักดิ์ขอถอนตัว แต่ได้เสนอให้นายเจษฎ์ โทณะวณิก อดีต กมธ.ยกร่างฯ มาช่วยงาน แต่ไม่ได้ฝากอะไรเพิ่มเติม ซึ่งอาจเป็นเพราะนายบวรศักดิ์ไม่อยากเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย

 

ขณะนี้ทาง กรธ.กำลังทำหนังสือเพื่อส่งไปยังองค์กรตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 ได้แก่ คสช., ครม., สนช. และ สปท. ตลอดจนพรรคการเมืองให้เสนอความคิดเห็นเข้ามาได้ ซึ่งคงจะไม่เชิญมาเสนอคิดเห็นและข้อเสนอแนะเป็นรายบุคคล เว้นแต่เฉพาะประเด็นที่ กรธ.ยังไม่ตกผลึกชัดเจน เช่น องค์กรอิสระต่างๆ ที่ต้องเชิญมา

 

"อย่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ก็มีมานานแล้ว แต่เหตุใดการทุจริตคอร์รัปชั่นจึงไม่ลดลง แต่ละคดีก็ใช้เวลา จึงอยากรู้ปัญหาเพื่อจะได้ออกแบบกลไกให้เหมาะสม ซึ่งขณะนี้ยังนึกไม่ออกเหมือนว่าจะต้องมีองค์กรอะไรเพิ่มอีก" นายมีชัย กล่าว

 

ส่วนความคิดเห็นจากพรรคการเมืองนั้น ขณะนี้คณะรับฟังความคิดเห็นได้เริ่มประมวลประเด็นเพื่อแยกแยะและนำมาพิจารณา รวมทั้งในส่วนที่พรรคการเมืองเคยส่งมาด้วยเพื่อทุ่นเวลาการทำงาน โดยหวังว่าพรรคการเมืองต่างๆจะส่งความเห็นเข้ามา ซึ่ง กรธ.จะพิจารณาทั้งหมด แม้จะมีความหลากหลาย แต่ กรธ.จะพิจารณาโดยยึดประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นสำคัญ ซึ่งภายในเดือน ม.ค.59 คาดว่า ร่างแรกจะแล้วเสร็จเพื่อส่งให้ คสช., ครม., สนช., สปท. และเปิดเผยสู่สาธารณะให้ได้พิจารณา

 

ประธาน กรธ.กล่าวว่า หากส่วนใดที่อยากให้มีการแก้ไข กรธ.ก็พร้อมรับฟัง ส่วนบทเรียนในปี 2535 ที่มีการต่อต้านประเด็นเรื่องที่มาของนายกรัฐมนตรีจนเกิดวิกฤตนั้น ในตอนนั้นส่วนตัวก็ยังสงสัยว่าไม่เห็นดีเห็นงามในตัวหลักการหรือตัวบุคคลกันแน่ แต่อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ใช้เป็นเครื่องเตือนใจ ถ้าทำตรงไปตรงมาก็ไม่น่าจะเกิดเรื่อง ส่วนตัวก็ยังไม่นึกออกเหมือนกันก็ขอให้ทุกคนช่วยกันคิด

 

อินโฟเควสท์ โดย รฐฦ/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2270642

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พักผ่อน มีความสุขมากๆในวันหยุดครับ คุณginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

12108064_913316178745371_8530436091919869924_n.jpg?oh=d261e8db729fafdfbb4887332ab6fb54&oe=56C7DB14

 

ดีจ้า

กินเจ อิ่มใจ เบาสบายตัว

ผักสด ผลไม้ มีเลือกทานมากมาย

มัน เค็ม หวาน แป้ง แค่พอดี....จู๊ฟ...

ขิง

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

-

พักผ่อน มีความสุขมากๆในวันหยุดครับ คุณginger

ขอบคุณ deb โชคดีนะคับ

 

นายกฯส่งสารถึงคนไทยแจงร่างรธน.แก้เผด็จการรัสภา-ปราบคอรับชั่นสู่ปฏิรูป

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 10 ตุลาคม 2558 11:21:54 น.

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำสารจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ส่งถึงประชาชน มาแจ้งให้ทราบผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบวิสัยทัศน์ให้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่า ขอให้มองที่ปัญหาของประเทศไทยในห้วงหลายปีที่ผ่านมา นำมาตั้งเป็นโจทย์ แล้วหาวิธีแก้ปัญหาด้วยกระบวนการประชาธิปไตยที่เหมาะสม ไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก ไม่นำประชาธิปไตยหรือแนวคิดเสรีภาพที่ไร้ขีดจำกัดมาเป็นตัวตั้ง โดยไม่มองปัญหาที่แท้จริง แม้ว่ารัฐธรรมนูญจะเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ แต่หากทุกคนไม่ปฏิบัติตาม พยายามหาช่องว่าง อ้างเรื่องสิทธิมนุษยชน โดยไม่คำนึงว่าจะกระทบสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นหรือไม่ บ้านเมืองก็จะไม่มีเสถียรภาพ

 

 

 

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบแนวทางให้ประธาน กรธ. ต้องดำเนินการต่อเนื่องจากคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งประเด็นสำคัญคือต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย เนื่องจากที่ผ่านมามีการบิดเบือนว่าฟังแต่เสียงของคนชั้นสูง จึงยืนยันว่าประเทศไทยไม่มีคนชั้นสูง ชั้นกลาง หรือชั้นต่ำ คำพูดเหล่านี้ เป็นเพียงวาทกรรมของนักการเมืองที่พยายามสร้างความแตกแยกในบ้านเมือง เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง แม้กระทั่งการบังคับใช้กฎหมายในมาตรา 112 ก็มีการกล่าวหาว่า คสช.และรัฐบาลใช้เพื่อทำลายฝ่ายตรงข้าม ทั้งที่ประเด็นสำคัญอยู่ที่การกระทำความผิด ทั้งการพูด การชุมนุม หรือโซเชียลมีเดียในประเทศและต่างประเทศ

 

ขณะเดียวกัน ก็มีคำถามว่าเหตุใดรัฐบาลไม่แก้ไขในเรื่องนี้ ดังนั้นจึงขอชี้แจงว่าตั้งแต่ก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ส่วนราชการ โดยเฉพาะหน่วยงานด้านความมั่นคงได้ดำเนินการมาโดยตลอด แต่กลุ่มนี้ยังคงใช้เทคนิคในการหลบเลี่ยงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็สนับสนุนกลุ่มผู้ไม่หวังดี สร้างข่าวลือทำลายความเชื่อมั่นของประเทศ โดยผู้มีอำนาจบริหารประเทศในช่วงนั้นไม่ห้ามปราม และหลังจากวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ยังมีการกระทำเช่นนั้นอยู่ ขณะที่ คสช.และรัฐบาลพยายามป้องกันอย่างเต็มที่ แต่การป้องกันนั้นทำได้ยาก เพราะกลุ่มบุคคลเหล่านี้ยังอาศัยเทคโนโลยีไปเปิดเว็บไซต์ใหม่อีก เมื่อเจ้าหน้าที่ติดตามตรวจสอบ จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ ก็จะมีการสร้างเครือข่ายขึ้นมาต่อต้านอ้างสิทธิมนุษยชน และในที่สุดก็หนีไปต่างประเทศ

 

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า สารของนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า รัฐบาลและ คสช.ต้องการขอความร่วมมือประชาชนทุกภาคส่วน ตลอดจนนักการเมือง กลุ่มการเมือง นักวิชาการ ได้แสดงความเห็นต่อการร่างรัฐธรรมนูญผ่านช่องทางที่ กรธ. จัดไว้ น่าจะเหมาะสมกว่าการแสดงความเห็นผ่านช่องทางสื่อมวลชน เพราะอาจทำให้สังคมสับสนว่าเรื่องใดเป็นข้อเท็จจริง หรือเป็นเพียงการตีความไปเอง และมองว่าสิ่งสำคัญในการร่างรัฐธรรมนูญ คือ จะต้องแก้ไขเรื่องเผด็จการรัฐสภา การทุจริตประพฤติมิชอบ และการกระทำผิดกฎหมาย รวมทั้งจะทำอย่างไรให้การตรวจสอบและการถ่วงดุลของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารมีความสมดุล ตลอดจนการป้องกันปัญหาความขัดแย้งที่มีการแบ่งแยกประชาชนเป็นฝักเป็นฝ่าย ทำอย่างไรให้ข้าราชการไม่เสียกำลังใจ ไม่ถูกกดดันจากฝ่ายการเมือง

 

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับว่าการปฏิรูปให้เกิดความยั่งยืน อาจต้องใช้เวลานาน ไม่ใช่เพียง 1-2 ปี แต่ไม่ได้หมายความว่า คสช.จะอยู่จนจบ เพียงแต่ต้องเริ่มต้นปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่ค้างมาเป็นเวลานาน โดยปฏิรูปในเรื่องต่าง ๆ แล้วส่งต่อให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งดำเนินการต่อไป โดยมีกลไกควบคุมให้เป็นตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ครอบคลุมแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตั้งแต่ฉบับที่ 12 เป็นต้นไป โดยรัฐบาลจะต้องนำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ทุกหน่วยราชการจะต้องกำหนดยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งกลไกดังกล่าวต้องไม่ก้าวก่ายการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล แต่จะต้องสามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาได้ โดย คสช.และรัฐบาลคาดหวังว่ารัฐธรรมนูญฉบับที่กำลังร่างในขณะนี้ ประชาชนทุกภาคส่วนจะได้ร่วมกันแสดงความเห็นที่เป็นประโยชน์

 

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการสร้างความปรองดอง ที่มีการอ้างว่าต้องนิรโทษกรรมทันที ประเทศชาติจึงจะสงบสุข แต่ก็ต้องตั้งคำถามกลับไปว่ากระบวนการยุติธรรมหายไปไหน หากยอมรับข้อกล่าวหา แล้วเข้ามาต่อสู้คดีความตั้งแต่แรก คงไม่เกิดปัญหา ไม่ต้องมี คสช. ไม่ต้องมีประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยรัฐบาลเชื่อมั่นว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศเห็นตรงกันว่า การสร้างความปรองดอง คือ การสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยยึดมั่นในกฎหมาย ไม่ใช่ละเมิดความถูกต้องของกฎหมาย ใครผิดก็ยังต้องถูกลงโทษโดยกระบวนการยุติธรรมอย่างเด็ดขาด รัฐบาลจึงอยากให้ประชาชนพิจารณาข้อเสนอของนักการเมืองและนักวิชาการบางคนว่าได้ให้ข้อมูลที่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติหรือไม่

 

ทั้งนี้สิ่งที่ คสช.และรัฐบาลทำอยู่ทุกวันนี้ เพื่อไม่ให้ประเทศชาติและประชาชนกลับไปอยู่ในสถานการณ์เช่นเดิมอีก รัฐบาลไม่ต้องการเป็นศัตรูกับใคร แต่ยืนยันว่าจะไม่ยอมให้ใครที่มุ่งร้ายต่อสถาบัน และทำร้ายประชาชน มากดดันการทำงานของ คสช. รัฐบาล และ กรธ. ในการทำหน้าที่เปลี่ยนแปลงประเทศไทย และรัฐบาลหวังว่าการเข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศของทหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จะเป็นการแก้ปัญหาโดยทหารครั้งสุดท้าย

 

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า ในสารของนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า การร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะต้องมีทั้งที่เป็นสากล ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงบ่อย และมีทั้งกระบวนการ กลไก สำหรับช่วงระยะเวลาหนึ่งที่จะปฏิรูปประเทศ จนมีเสถียรภาพ และไม่ฝืนกติกา เพื่อพัฒนาการเมือง นักการเมือง ประชาชนทุกภาคส่วนให้มีความรัก ความสามัคคี ปลูกฝังอุดมการณ์ทางการเมืองที่ถูกต้อง บังคับใช้กฎหมายได้อย่างเป็นธรรม ที่สำคัญที่สุดประชาชนทุกคนต้องช่วยให้กำลังใจคนที่ตั้งใจ มุ่งมั่น ซื่อสัตย์ อย่าปล่อยให้ถูกกดดัน จนเสียกำลังใจจากผู้ที่ไม่รักประเทศชาติอย่างแท้จริง

 

อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.02-2535000 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2271123

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปูติน ออกตัวหนุนความร่วมมือต้านการก่อการร้าย หลังเหตุระเบิดรุนแรงในตุรกี

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2558 09:51:11 น.

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการร่วมมือต่อต้านการก่อการร้าย ขณะที่แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดรุนแรงในกรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกีเมื่อวานนี้

 

ผู้นำรัสเซียกล่าวในการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์กับช่องรอสสิย่า วันว่า "ความพยายามร่วมกันในการต่อสู้กับความชั่วร้ายนี้คือเรื่องจำเป็น สิ่งที่เกิดขึ้นในตุรกีนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการโจมตีที่เหิมเกริมของกลุ่มก่อการร้าย"

 

 

 

ปธน.ปูตินยังย้ำว่าการโจมตีดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อสั่นคลอนเสถียรภาพในตุรกี และเป็นการยั่วยุอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่ตุรกีจะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 1 พ.ย.

 

ทั้งนี้ เกิดเหตุระเบิด 2 ลูกซ้อนที่สถานีรถไฟในกรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกีเมื่อวานนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 95 ราย และบาดเจ็บอีกหลายร้อยราย

 

ขณะที่แสดงความเสียใจอย่างที่สุดต่อครอบครัวและเพื่อนของผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิด ปธน.ปูตินเสริมว่า รัสเซียพร้อมให้ความร่วมมือกับตุรกีในการต่อสู้กับภัยคุกคามจากกลุ่มก่อการร้าย สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์ โทร.02-2535000 อีเมล์: narinrat@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2271353

 

ปูตินยืนยันรัสเซียไม่ส่งทหารไปปฏิบัติการภาคพื้นดินในซีเรีย

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2558 07:16:57 น.

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ยืนยันว่า รัสเซียจะไม่ส่งกองกำลังทหารเข้าไปปฏิบัติการภาคพื้นดินในรัสเซีย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

 

การยืนยันดังกล่าวมีขึ้นหลังจากประเทศตะวันตกและสื่อตะวันตกรายงานว่า ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในประเทศซีเรียนั้น ไม่ได้พุ่งเป้าโจมตีกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (IS) และยังส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ปูตินออกมาตอบโต้ว่า ทหารของรัสเซียได้ทำการลาดตะเวนจนมั่นใจ ก่อนที่จะเดินหน้าโจมตีกลุ่มก่อการร้าย

 

 

 

ทั้งนี้ ปฏิบัติการโจมตีกลุ่ม IS มีขึ้นหลังนายเซอร์เก อิวานอฟ หัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เปิดเผยว่า วุฒิสภาของรัสเซียมีมติเอกฉันท์อนุมัติให้ปธน.ปูติน ส่งกองกำลังติดอาวุธเข้าไปยังซีเรียได้ โดยทางการรัสเซียยืนยันว่า ปฏิบัติการครั้งนี้มีเป้าหมายโจมตีกลุ่มก่อการร้าย และไม่มีจุดประสงค์เพื่อปกป้องประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย

 

ส่วนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น สหรัฐและรัสเซียเตรียมจัดการหารือทางทหารในประเด็นเกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศในซีเรีย โดยซีเรียเป็นประเทศที่ทั้งสหรัฐและรัสเซียต่างก็อยู่ระหว่างปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่ม IS

 

ทั้งนี้ รัสเซียได้เห็นพ้องที่จะหารือกับสหรัฐอีกครั้งเกี่ยวกับความปลอดภัยทางอากาศในระหว่างปฏิบัติการโจมตีในซีเรีย

 

การเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมสหรัฐมีขึ้น หลังจากที่มีความวิตกกันว่าอาจจะเกิดการปะทะกันโดยไม่ตั้งใจ เนื่องจากทั้งสหรัฐและรัสเซียต่างดำเนินปฏิบัติการโจมตีที่แยกจากกันในซีเรีย

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2271431

 

อิหร่านเผยการทดสอบขีปนาวุธระยะไกลประสบความสำเร็จ

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2558 17:30:00 น.

สถานีโทรทัศน์ IRIB TV รายงานโดยอ้างคำพูดนายฮอสไซน์ เดห์กาน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอิหร่านว่า การทดสอบขีปนาวุธระยะไกลของอิหร่านในวันนี้ ประสบความสำเร็จด้วยดี

 

รมว.กลาโหมอิหร่านกล่าวว่า ขีปนาวุธ "เอหมัด" ได้รับการออกแบบและผลิตโดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญชาวอิหร่าน และเป็นขีปนาวุธระยะไกลลูกแรกของอิหร่าน ที่นำวิถีและควบคุมได้จนกว่าจะปะทะกับเป้าหมาย

 

ขีปนาวุธดังกล่าวสามารถทำลายเป้าหมายได้ด้วยความแม่นยำสูง อย่างไรก็ดี นายเดห์กานไม่เปิดเผยรายละเอียดใดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อจำเพาะทางเทคนิคและระยะยิงของขีปนาวุธ

 

นายเดห์กานเสริมว่า "อิหร่านจะไม่ขออนุญาตใคร เพื่อเสริมอำนาจทางทหารในเชิงการป้องปรามและขีดความสามารถด้านขีปนาวุธของประเทศ"

 

ทั้งนี้ อิหร่านมีคลังแสงขีปนาวุธขนาดใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง และได้พัฒนาขีปนาวุธระยะยิง 2,000 กิโลเมตร สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์ โทร.02-2535000 อีเมล์: narinrat@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2271397

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินหยวนแข็งค่าแตะ 6.3406 ต่อดอลลาร์เช้านี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2558 09:12:50 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.87% แตะที่ 6.3406 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

 

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

ธนาคารกลางจีนได้ปฏิรูประบบอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อวันที่ 11 ส.ค.เพื่อให้อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐสามารถสะท้อนสถานการณ์ในตลาดได้ดียิ่งขึ้น

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2271646

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นเช่นเดียวกับภูมิภาค ขานรับกระแสเงินทุนไหลเข้า

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2558 08:55:04 น.

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะยังปรับตัวขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ขานรับกระแสเงินทุนที่ยังไหลเข้ามาอยู่ แต่หากดัชนีฯขึ้นไปแถวบริเวณแนวต้านที่ 1,415-1,420 จุด ก็อาจจะเผชิญแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง

ทั้งนี้ ในสัปดาห์นี้จะต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของจีน ทั้งตัวเลขการส่งออก และนำเข้า รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อด้วย อีกทั้งเริ่มเข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนทั้งใน-นอกประเทศที่จะต้องติดตามดูด้วย

พร้อมให้แนวรับให้ไว้ที่ 1,400-1,405 จุด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ หลังตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2558 08:38:41 น.

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดในแดนบวกเมื่อวันศุกร์ (9 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,193.54 จุด เพิ่มขึ้น 10.39 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,614.33 จุด เพิ่มขึ้น 155.53 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,478.34 จุด เพิ่มขึ้น 32.38 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,022.33 จุด เพิ่มขึ้น 2.80 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,991.59 จุด ลดลง 6.91 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,703.24 จุด ลดลง 3.30 จุด ด้านตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการเนื่องในวันกีฬาและสุขภาพ

 

 

 

ทั้งนี้ นักลงทุนจำนวนมากมองว่าเฟดอาจจะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 16-17 ก.ย. ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังคงค่อนข้างต่ำ และเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดอาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นปีหน้า

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2271614

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

12096341_991369587572802_7313734299739947734_n.jpg?oh=996227501e01f331522947efa0200799&oe=568D3024&__gda__=1456152947_d6b846777f9e82bfbf1197e5141a3d63

 

ออกหมายจับ"ทักษิณ" คุยสื่อนอกหมิ่น"ทหาร" | เดลินิวส์

„ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดี ทบ.ฟ้องอดีตนายกฯ"ทักษิณ" ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศกล่าวหายึดอำนาจทำประเทศเสียหาย ภายหลังจำเลยไม่มานัด ให้ออกหมายจับดำเนินคดีตามอายุความ

วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2558 เวลา 11:24 น.

 

..เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน คดีหมายเลขดำ อ.1824/2558 ที่กองทัพบก โดยพล.ต.ศรายุทธ กลิ่นมาหอม ผอ.สำนักงานพระธรรมนูญ ทหารบกผู้รับมอบอำนาจเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 ตามคำฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 26 พ.ค. บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า

ระหว่างวันที่ 19 -22 พ.ค. 58 จำเลย ได้ใส่ความโจทก์โดยให้สัมภาษณ์ผ่านยูทูบ และสื่อออนไลน์ ทำนองว่าโจทก์ เป็นบุคคลน่ารังเกียจ เป็นอันตรายต่อประเทศชาติ และทำความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ ซึ่ง ล้วนเป็นเท็จ การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง สำหรับคดีนี้ พล.ต.ศรายุทธ ได้เบิกความทำนองว่า

 

เหตุที่ฝ่ายทหารเข้ามาดูแลประเทศแทนรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เพื่อยุติความขัดแย้งของหลายฝ่าย หลังจากมีการใช้อาวุธตอบโต้กัน โดยการยึดอำนาจไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ เพราะเท่าที่ทราบประชาชน 80-90%และนักวิชาการส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย ก็มีบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยแต่ก็มีจำนวนน้อย การยึดอำนาจดังกล่าวไม่มีผู้ใดสั่งการ ไม่เคยมีแนวคิดเป็นเผด็จการ อย่าไรก็ตามเมื่อถึงเวลา จำเลยในคดีนี้ ไม่ได้มาศาลตามนัด ศาลจึงสั่งออกหมายจับจำเลยมาดำเนินคดีในอายุความฐานหมิ่นประมาทต่อไป. ด้าน พล.ต.ศรายุทธ กล่าวภายหลังว่า วันนี้จำเลยไม่ได้เดินทางมาศาล โดยทนายจำเลยแถลงต่อศาลว่าจำเลยยังอยู่ต่างประเทศ ตนจึงให้ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอออกหมายจับ ซึ่งศาลได้พิจารณาแล้วให้ออกหมายจับจำเลย และให้จำหน่ายคดีนี้ไว้ชั่วคราว จนกว่าจะได้ตัวจำเลยมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยหลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการจับตัวจำเลยมาเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี.“

อ่านต่อที่ : http://www.dailynews...th/crime/353801..

‪#‎Joyzzy‬

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

IMMERSIVE " เปิดกลโกงโครงการรับจำนำข้าว" @ THAIRATH TV

 

 

ยิ่งลักษณ์ เตรียมยื่นจม.เปิดผนึกให้นายกฯ พรุ่งนี้ ขอความเป็นธรรมคดีจำนำข้าว

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2558 11:13:52 น.

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมทำจดหมายเปิดผนึกมอบให้ทนายความนำไปส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในวันพรุ่งนี้ เพื่อขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับการดำเนินคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว โดยเรียกร้องให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นไปตามกระบวนการทางยุติธรรม ไม่มีการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารเข้ามาแทรกแซง

 

 

 

โดยเนื้อหาในจดหมายเปิดผนึก ระบุว่า ช่วงเวลากว่า 1 ปีเศษนับตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาเป็นหัวหน้า คสช.เมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 และดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตนเองถูกดำเนินการในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว ทั้งที่เป็นการดำเนินนโยบายสาธารณะที่คณะรัฐมนตรีได้แถลงต่อรัฐสภา ได้แก่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่ตำแหน่งดังกล่าวไม่มีอยู่และรัฐธรรมนูญได้สิ้นสุดลงแล้ว, อัยการสูงสุดแถลงสั่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก่อนที่ สนช.จะมีมติถอดถอนเพียง 1 ชั่วโมง

 

อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ทั้งสองกรณีนั้น นายกรัฐมนตรีอาจจะกล่าวว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อัยการสูงสุด และของศาลที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม แต่มีการดำเนินการที่บางอย่างที่เกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีโดยตรง คือ การดำเนินการให้มีการเรียกร้องค่าเสียหายทางคดีแพ่งต่อการดำเนินนโยบายรับจำนำข้าว ที่นายกรัฐมนตรีออกคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 448/2558 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ฉบับลงวันที่ 3 เมษายน 2558 และให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า "ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก หากผิดก็มีกลไกอยู่แล้ว เรื่องการเรียกร้องค่าเสียหายทางคดีแพ่ง และยืนยันใช้มาตรฐานเดียวกับทุกพวกทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ"

 

"ดิฉันคาดหวังว่าท่านคงต้องให้นโยบายต่อคณะกรรมการฯ ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยไม่ละเลยประเด็นความยุติธรรม ตามกลไกของระเบียบที่มีอยู่อย่างไม่เร่งรีบและไม่รวบรัด ให้โอกาสผู้เกี่ยวข้องโต้แย้งแสดงพยานหลักฐานอย่างเพียงพอและเป็นธรรม" น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุ

 

อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตามที่ปรากฏต่อสาธารณะโดยทั่วไปว่าฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลมีความหนักใจที่รัฐต้องฟ้องเรียกค่าเสียหายซึ่งต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมศาลเป็นจำนวนมาก แต่ในอดีตที่ผ่านมาถือได้ว่าศาลเป็นกลไกตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อการเรียกร้องค่าเสียหายในคดีแพ่ง ซึ่งต้องใช้สิทธิทางศาลโดยสุจริต แต่ฝ่ายกฎหมายของรับบาลกลับพลิกมุมกฎหมายและกลไกในการเรียกค่าเสียหายใหม่ โดยหากพบว่ามีความผิด รัฐจะไม่ฟ้อง แต่ใช้วิธีออกคำสั่งทางปกครอง(โดยไม่ต้องเข้าคณะรัฐมนตรี) สั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องชำระหนี้เหมือนคำสั่งยึดทรัพย์ เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมในการฟ้องเรียกค่าเสียหายที่จะต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมศาล ซึ่งเท่ากับนายกรัฐมนตรีได้ใช้อำนาจหน้าที่เสมือนหนึ่งเป็นคำพิพากษาของศาล เป็นกลไกในการชี้ถูกผิดว่าจะให้ผู้ใดรับผิดชอบในค่าเสียหายต่อการดำเนินนโยบายรับจำนำข้าว ทั้งที่การพิจารณาคดีของศาลในคดีอาญายังไม่เสร็จสิ้น

 

อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ดิฉันเห็นว่าเรื่องที่ดิฉันกล่าวมาทั้งหมดเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องระหว่างตัวของดิฉันในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีผู้เคยดูแลการแก้ปัญหาสินค้าข้าว ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่สำคัญของประเทศ เพื่อให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิผลเป็นประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม มีกลไกบริหารนโยบายคือคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ซึ่งในปัจจุบันคือคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน

 

"ดิฉันเสนอว่าควรให้ศาลเป็นผู้พิจารณานั้น เพราะดิฉันเห็นว่าทุกคนควรได้รับหลักประกันแห่งความยุติธรรม ที่จำต้องมี เพราะการดำเนินนโยบายโครงการรับจำนำข้าวเป็นการกระทำทางการบริหารตามนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญที่มีผลผูกพันกับส่วนราชการหลายส่วนที่ต้องปฏิบัติงาน ดังนั้นเพื่อความโปร่งใสและคงไว้ซึ่งความเป็นกลาง ท่านในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่มีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว และในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ต้องรับผิดชอบในการแก้ปัญหาในเรื่องข้าวในขณะนี้ ซึ่งอาจเห็นแตกต่างกันในเชิงนโยบายและกลไกในการบริหารนโยบายในเรื่องข้าวในอดีต ที่ในสมัยรัฐบาลดิฉันได้ดำเนินนโยบายดังกล่าวไป จึงมิใช่ผู้ที่เป็นกลาง แต่เป็นผู้มีส่วนได้เสีย เพราะเห็นต่างกันในนโยบายการแก้ปัญหาในเรื่องข้าว ดังนั้นการใช้อำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นผู้ตัดสินความถูกผิดโดยการใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีลงนามในคำสั่งทางปกครองเพื่อสั่งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดชำระค่าเสียหาย ทั้งๆ ที่ศาลยังไม่มีคำตัดสิน ถือเป็นการขัดต่อหลักนิติธรรมอย่างยิ่ง" น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุ

 

อดีตนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ 1.พล.อ.ประยุทธ์ พิจารณาทบทวน และยุติการดำเนินการใดๆ ที่ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลเสนอ และดำเนินการให้ใช้อำนาจในฐานะนายกรัฐมนตรี และในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าวในปัจจุบัน ลงนามทำคำสั่งทางปกครองใดๆ อันขัดต่อหลักความเป็นกลาง และเป็นผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อมีคำสั่งให้บุคคลใดชำระหนี้ค่าเสียหาย อันเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายโครงการรับจำนำข้าวที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา แทนการพิจารณาและพิพากษาคดีของศาล

 

2.หลังผลการสอบสวนโดยกระบวนการสอบสวนที่ถูกต้องตามระเบียบ กฎหมาย และหลักนิติธรรมเสร็จสิ้น หากพบความเสียหาย รัฐเองควรให้หน่วยงานของรัฐฟ้องคดีต่อศาล เพื่อแสดงให้เห็นว่าท่านมีความยุติธรรมและเที่ยงธรรมต่อทุกคนที่ถูกกล่าวหา

 

3.การพิจารณาคดีอาญาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยังไม่เสร็จสิ้น และอายุความในคดียังเหลือเวลาอีกนาน ตามที่ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลแถลง จึงไม่ควรเร่งรีบ รวบรัด ในการทำสำนวนการตรวจสอบความรับผิดทางละเมิด ควรให้โอกาสผู้เกี่ยวข้องหรือผู้เสียหายได้ชี้แจงข้อเท็จจริง และโต้แย้งแสดงพยานหลักฐานของตนอย่างเพียงพอ และเป็นธรรมต่อตนเอง ซึ่งตนเองได้มีหนังสือหลายฉบับมาถึงนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการฯ แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณาและไม่แจ้งเหตุ ซึ่งสามารถตรวจสอบความมีอยู่จริงของหนังสือนั้นได้

 

"ดิฉันได้มอบหมายให้ทนายความไปยื่นหนังสือถึงท่านในวันอังคารที่ 13 ตุลาคม 2558 เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล และหวังว่าเมื่อท่านได้รับหนังสือแล้ว ท่านคงจะไม่เพิกเฉย และจะได้พิจารณาด้วยความเป็นธรรม เพราะท่านได้ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน" น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุ

 

อินโฟเควสท์ โดย รฐฦ/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2271932

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปู mou VS บุญทรง sale contract .. 9 ต.ค. 55

 

 

 

เจ้าของโกดังข้าวปทุมฯ เล่ห์เยอะ !! นำเหล็กนั่งร้านวางข้าว -หวังตบตาทหาร (มีคลิป)

 

1411022490-7JPG-o.jpg

314141.jpg

แจกรางวัล อิศรา อมันตกุล ปี 55 กรุงเทพธุรกิจ คว้ารางวัลข่าวยอดเยี่ยมจากการตีแผ่ จำนำข้าว ส่วนเดลินิวส์คว้า 2 รางวัลชมเชย จาก ข่าวโกงสอบตำรวจ และ ทุจริตอาชีวะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำจันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2558 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2558 10:07:31 น.

กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวปรับตัวสูงขึ้นในรอบ 2 สัปดาห์ เริ่มมาทดสอบ 1,160 เหรียญ อีกครั้งในคืนวันศุกร์ท่ามกลางความไม่กังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้เป็นอย่างเร็ว จึงทำให้ราคาทองคำกลับมาปรับตัวสูงขึ้นอีกกว่า 1% ครั้งหนึ่ง ขณะที่ในคืนวันศุกร์นั้นค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วมาอยู่ที่ระดับ 35.50 บาท/ดอลลาร์ ด้านตัวเลขเศรษฐกิจในคืนวันศุกร์สหรัฐฯ ได้แก่ Import Prices ออกมาติดลบน้อยลง ด้านประธานเฟดสาขาต่างๆยังคงมีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับระยะเวลาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สำหรับวันนี้จะเป็นวันหยุดของสหรัฐอเมริกาเนื่องในวัน Columbus Day โดย MTS Gold Online ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำในเชิงเทคนิคระยะสั้นเป็นแนวโน้มขาขึ้น และเริ่มมาทดสอบแนวต้านสำคัญสุดท้าย ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วันสำหรับนักลงทุนรายวัน ขณะที่แนวโน้มรายสัปดาห์ยังเป็นขาลง แต่แนวโน้มระยะสั้นและระยะกลางจะแกว่งตัวค่อนข้างมาก วันนี้คาดว่าราคาจะแกว่งตัวในกรอบ 1,140-1,165 เหรียญ ด้านทองคำไทยน่าจะเคลื่อนตัวระหว่าง 19,250-19,550 บาท/บาททองคำในทิศทางขาขึ้นอย่างช้าๆ โดยที่ค่าเงินบาทเริ่มทรงตัวได้บริเวณ 35.60 บาท/ดอลลาร์ในเช้าวันนี้

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

กลยุทธ์ทิศทางขึ้นระยะสั้นในกรอบทั้งทองคำไทยและทองคำต่างประเทศ

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ลงซื้อขึ้นขาย ทำกำไรเป็นช่วงๆ

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ทยอยปิดสถานะหรือลดสถานะเพื่อทำกำไร

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ยังคงแนะนำให้บริหารพอร์ตสมดุลกับการแกว่งของราคา ขณะที่ภาพระยะยาวของทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาลง

 

Gold Futures V15 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,430 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,630 บาท

Gold Futures Z15 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,510 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,710 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2271822

 

รองปธ.เฟดเผยเฟดระมัดระวังผลกระทบต่อทั่วโลกจากกการเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ย

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2558 13:35:00 น.

นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า เฟดมีท่าทีที่ระมัดระวังเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณในต่างประเทศ และผลกระทบต่อกลุ่มตลาดเกิดใหม่

 

นายฟิสเชอร์กล่าวว่า แถลงการณ์ของเฟดเมื่อเร็วๆนี้มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจในต่างประเทศมากกว่าเดิม เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในต่างปรแทศมีผลต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ ทั้งในด้านการส่งออกและนำเข้า

 

เขาแสดงความคิดเห็นในการประชุมที่จัดขึ้นนอกรอบการประชุมของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่เปรู

 

รองประธานเฟดระบุว่า เฟดตระหนักว่าการตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอาจส่งผลไปทั่วโลก เนื่องจากจะทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าและส่งผลให้เงินทุนหลั่งไหลออกจากตลาดเกิดใหม่

 

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์จำนวนมากคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย. แต่เฟดก็ได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อเดือนที่แล้ว โดยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟด เมื่อวันที่ 16-17 ก.ย. แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังค่อนข้างต่ำ และเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq28/2272072

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทเปิด 35.47/49 กลับมาอ่อนค่าจากเย็นวานนี้หลังมีแรงซื้อดอลล์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 13 ตุลาคม 2558 09:28:00 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เช้านี้เงินบาทเปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 35.47/49 บาท/ดอลลาร์ กลับมาอ่อนค่าจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.34/39 บาท/ดอลลาร์

 

เช้านี้เงินบาทกลับมาอ่อนค่าจากเมื่อวาน เนื่องจากมีแรงซื้อดอลลาร์กลับ จากที่ก่อนหน้านี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าไปมาก โดยวันนี้มองว่าเงินบาทยังมีแนวโน้มจะอ่อนค่า

 

 

 

"วันนี้บาทกลับมาอ่อนค่าจากเมื่อวาน เพราะมีแรงซื้อ(ดอลลาร์)กลับ จากที่เมื่อวานบาทกลับไปค่อนข้างแข็งค่า" นักบริหารเงิน ระบุ

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.35-35.50 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เปิดตลาดเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.87/89 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 120.10 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1351/1353 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1380 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.524 บาท/ดอลลาร์

 

- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง ได้เสนอรายละเอียดของมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ให้พิจารณาแล้ว จากนี้จะรายงานให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณา หากนายกฯ ไม่ได้ให้แก้ไขรายละเอียดอะไร ต่อไปจะเสนอให้ที่ประชุมครม. พิจารณาเห็นชอบทันที

 

- ทีมเศรษฐกิจหารือการจัดสรรงบประมาณแบบใหม่ ตามภารกิจและตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาความซ้ำซ้อน คาดนำไปใช้ในปี 2560 ขณะที่รองนายกฯ เศรษฐกิจเตรียมเสนอ ครม.ดูแลภาคอสังหาริมทรัพย์ กระทรวงการคลัง เสนอมาตรการภาษี การลดค่าธรรมเนียนการโอน และค่าธรรมเนียมการจดจำนอง ช่วยประชาชนมีบ้าน กระตุ้นกำลังซื้อภาคอสังหาริมทรัพย์ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

- แบงก์ชาติเผยการชะลอตัวเศรษฐกิจส่งผลให้ทุกพื้นมีธุรกรรมเช็คลดลงทั้งปริมาณและมูลค่าเช็ค พบส่วนใหญ่ธุรกิจขนาดเล็กมีการสั่งจ่ายเช็คน้อยลง ทำให้เฉลี่ยต่อวันมีปริมาณและมูลค่าเช็คน้อยลงเหลือ 2.72 แสนฉบับ หรือคิดเป็น 1.44 แสนล้านบาทต่อวัน ขณะเดียวกัน เช็คเด้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเพิ่มขึ้นดันให้มูลค่าเช็คเด้งในระบบเพิ่มขึ้น

 

- "พาณิชย์" รับนำ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า กลับมาปรับปรุงแก้ไขใหม่อีกครั้ง ระบุยังมีข้อกังวลในส่วนของการปลดให้สำนักงานเป็นองค์กรอิสระ และที่มาของกรรมการจะปลอดการเมืองได้จริงหรือไม่ เตรียมหารือทุกภาคส่วนอีกครั้ง ก่อนนำเสนอ ครม. เอกชนมึนทำเสร็จแล้ว แต่เอากลับมาทำใหม่ เข้าทางรายใหญ่ผูกขาดได้ต่อไป

 

- รมช.คลัง คุยร่วมผู้ว่าฯ ธนาคารกลางอาเซียนรับมือผลกระทบ ศก.จีนชะลอตัว ต้องระมัดระวังความเสี่ยงของประเทศกำลังพัฒนา เพิ่มภูมิคุ้มกันเศรษฐกิจ

 

- นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2559 จะปรับเป้าหมายการทำงานใหม่เพื่อมุ่งสร้างรายได้ตลาดในประเทศให้แข็งแรงมากขึ้น เพื่อเดินหน้าสู่รายได้ 1 ล้านล้านบาทได้ จากที่ปี 2558 ตั้งเป้ารายได้ไว้ 800,000 ล้านบาท และในปี 2559 ตั้งเป้าไว้ 807,000 ล้านบาท ขยายตัว 8%

 

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่เชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายได้ออกมาแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการที่เฟดจะรีบเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

- ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด เปิดเผยว่า เฟดมีท่าทีที่ระมัดระวังเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ในต่างประเทศ และผลกระทบต่อกลุ่มตลาดเกิดใหม่

 

- นักลงทุนจับตาดูรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย., ยอดค้าปลีกเดือนก.ย. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค.

 

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) รายงานว่า การผลิตน้ำมันดิบของโอเปกปรับตัวสูงขึ้นในเดือนก.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด

 

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 2.53 ดอลลาร์ หรือ 5.1% ปิดที่ 47.1 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ดิ่งลง 2.79 ดอลลาร์ หรือ 5.3% ปิดที่ 49.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

- นายเบนัวต์ โคเออร์ สมาชิกสภาบริหารธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงเร็วเกินไปที่ ECB จะตัดสินใจเกี่ยวกับการขยายวงเงิน หรือขยายเวลาในการดำเนินโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) แม้ว่า ECB มีความพร้อมที่จะดำเนินการ หากมีความจำเป็นก็ตาม พร้อมระบุว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนกำลังฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ความเสี่ยงใหญ่ที่สุดมาจากภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะตลาดเกิดใหม่

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2272792

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $8.6 รับคาดการณ์เฟดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 13 ตุลาคม 2558 07:42:18 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) โดยสัญญาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 8.6 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่ระดับ 1,164.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.ปีนี้

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 4.6 เซนต์ ปิดที่ 15.864 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 14.5 ดอลลาร์ ปิดที่ 995.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 13.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 694.65 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เฟดไม่ควรรีบเร่งในกระบวนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

"กำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกของเฟดมีความสำคัญสำหรับผมน้อยกว่าแนวทางการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยในกระบวนการปรับนโยบายสู่ภาวะปกติ" นายอีแวนส์กล่าว

 

เขาเสริมว่า "ไม่ว่าเฟดจะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด ผมคิดว่าอัตราดอกเบี้ยควรอยู่ต่ำกว่า 1% ในปลายปีหน้า"

 

ก่อนหน้านี้นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด เปิดเผยว่า เฟดมีท่าทีที่ระมัดระวังเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ในต่างประเทศ และผลกระทบต่อกลุ่มตลาดเกิดใหม่

 

นายฟิสเชอร์กล่าวว่า แถลงการณ์ของเฟดเมื่อเร็วๆนี้มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจในต่างประเทศมากกว่าเดิม เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในต่างปรแทศมีผลต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ ทั้งในด้านการส่งออกและนำเข้า

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2272429

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดร่วง $2.53 หลังยอดผลิตน้ำมันโอเปกพุ่ง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 13 ตุลาคม 2558 07:16:40 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) รายงานว่า การผลิตน้ำมันดิบของโอเปกปรับตัวสูงขึ้นในเดือนก.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 2.53 ดอลลาร์ หรือ 5.1% ปิดที่ 47.1 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ดิ่งลง 2.79 ดอลลาร์ หรือ 5.3% ปิดที่ 49.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากโอเปกเปิดเผยรายงานประจำเดือนเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของโอเปกในช่วงเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 109,000 บาร์เรล สู่ระดับเฉลี่ย 31.57 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2555

 

อย่างไรก็ตาม โอเปกคาดว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐจะลดลงในปีหน้า เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี

 

ทั้งนี้ ในรายงานตลาดน้ำมันรายเดือน โอเปกได้ปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันของสหรัฐสู่ระดับ 280,000 บาร์เรลต่อวันในปีหน้า โดยลดลง 60,000 บาร์เรลต่อวัน

 

การปรับลดคาดการณ์ดังกล่าว แตกต่างจากคาดการณ์ของโอเปกก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าสหรัฐจะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในปีหน้า

 

โอเปกระบุว่าการลดค่าใช้จ่ายในการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ อันเนื่องจากราคาน้ำมันที่ตกต่ำลง ทำให้การผลิตน้ำมันของสหรัฐลดลงเร็วกว่าที่คาดไว้

 

รายงานดังกล่าวมีขึ้น หลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ส ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลด้านน้ำมัน เปิดเผยรายงานที่ระบุว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐลดลง 9 แท่น สู่ระดับ 605 แท่นในสัปดาห์ล่าสุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 ก.ค.2553

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2272427

 

Xinhua world news summary:ยูเครนประกาศแบนเที่ยวบินรัสเซียตั้งแต่ 25 ต.ค.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 13 ตุลาคม 2558 09:35:00 น.

กองทัพสหรัฐเปิดเผยว่า ทางกองทัพได้สนับสนุนอาวุธยุทธภัณฑ์ทางอากาศ ซึ่งเป็นกระสุนขนาดเล็กให้กับกลุ่มกบฎซีเรียหลายกลุ่ม ที่กำลังต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ในขณะนี้

 

-- คณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประณามการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายในโบโก ฮาราม อย่างรุนแรงที่สุด ซึ่งส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ

 

 

 

รายงานระบุว่า กลุ่มหัวรุนแรงจากกลุ่มอิสลามโบโก ฮารามก่อเหตุระเบิดพลีชีพติดต่อกัน 2 ครั้งในคันเจเลอรี ประเทศแคมเมอรูน

 

-- นายไฮเดอร์ อัล-อาบาดี นายกรัฐมนตรีอิรัก ประกาศเมื่อวานนี้ว่า อิรักจะเริ่มการโจมตีครั้งใหญ่รอบที่ 2 เพื่อปลดปล่อยเมืองที่กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ยึดครองไว้ก่อนหน้านี้ ในจังหวัดซาลาฮูดิน ทางตอนกลางของอิรัก

 

-- กระทรวงสาธารณูปโภคพื้นฐานของยูเครนประกาศเมื่อวานนี้ว่า ยูเครนตัดสินใจห้ามสายการบินรัสเซียทั้งหมดบินเข้าประเทศ โดยคำสั่งห้ามดังกล่าวจะมีผลในวันที่ 25 ต.ค.นี้

 

กระทรวงระบุในแถลงการณ์บนเว็บไซต์ว่า "สำนักงานบริหารการบินของยูเครนตัดสินใจระงับการเดินทางทางอากาศร่วมกับรัสเซียทั้งหมด" สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2272800

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...