มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

รายการ วิเคราะห์เศรษฐกิจโลก by YLG 29-11-60

ติดตามเพิ่มเติมได้ที่

เว็บไซต์ : www.ylgbullion.co.th

[ginger 11,058]

 

MTS GOLD was live.

2 hrs · คลิป

เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาพบกับการวิเคราะห์กราฟสดๆ ข้อมูลร้อนๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของเราได้เลย กับรายการ MTS LIVE วันที่ 30 พฤศจิกายน 2560

[ginger 11,058]

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

หนังสือพิมพ์วันนี้ ปีที่ 38 ฉบับที่ 13370 ประจำวัน พฤหัสบดี ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

 

- ในหลวงโปรดเกล้าฯ ขยายเวลาชมพระเมรุมาศ เข้าได้ถึงสิ้นปี31ธันวาคม

https://goo.gl/NZqUN9

 

- ‘ตูน’ฮึดวิ่งต่อ เตือนแฟนคลับงด‘เซลฟี่’

https://goo.gl/bEFCbW

 

- รุมปาก้อนอิฐถล่มรัฐบาล ทุบม็อบลาม! มิตร-ศัตรูเปิดฉากอัดยับ

https://goo.gl/AfizDQ

 

- จับเจ้าคณะชนแดน เจอข้อหาหนัก‘อนาจารเด็ก’ แฉเอี่ยวแก๊งเงินทอนวัด

https://goo.gl/RDRtTQ

 

- หมายจับอีกลอต เอี่ยวแก๊งครูจอมทรัพย์ ‘อดีตสามี’เบี้ยวให้การ

https://goo.gl/xwGWt4

 

- ตร.น่านโชว์ผลงาน รวบ‘แก๊งขนยาบ้า’ ของกลาง2.8ล.เม็ด

https://goo.gl/xvZDfY

 

อ่านฉบับเต็ม https://goo.gl/L63rmT

 

 

[ginger 11,058]

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2560 07:36:52 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 พ.ย. 2560

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) โดยดาวโจนส์ปิดที่เหนือระดับ 24,000 จุดเป็นครั้งแรก หลังจากนายจอห์น แมคเคน วุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกัน ประกาศสนับสนุนร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในการลงมติในวุฒิสภาวันนี้ ส่งผลให้ร่างกฎหมายดังกล่าวมีโอกาสมากขึ้นที่จะได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภา นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,272.35 จุด พุ่งขึ้น 331.67 จุด หรือ +1.39% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,873.97 จุด เพิ่มขึ้น 49.58 จุด หรือ +0.73% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,647.58 จุด เพิ่มขึ้น 21.51 จุด หรือ +0.82%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย แม้ที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และกลุ่มผู้ผลิตนอกโอเปก มีมติขยายเวลาลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีหน้าก็ตาม อย่างไรก็ดี ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของยูโรโซน และการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร ได้ช่วยสกัดแรงลบในตลาดระหว่างวัน

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.3% ปิดที่ 386.71 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,372.79 จุด ลดลง 25.26 จุด หรือ -0.47% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,023.98 จุด ลดลง 37.89 จุด หรือ -0.29% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,326.67 จุด ลดลง 66.89 จุด หรือ -0.90%

 

-- ดัชนีตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบสองเดือนเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) ด้วยแรงกดดันจากสกุลเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นขานรับกระแสคาดหวังที่ว่า การเจรจา Brexit ระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป (EU) จะมีความคืบหน้าที่สำคัญ

 

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 66.89 จุด หรือ -0.90% ปิดที่ 7,326.67 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) หลังจากที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และกลุ่มผู้ผลิตนอกโอเปก เห็นพ้องให้ขยายเวลาลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีหน้า

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 57.40 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 63.57 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ ขานรับความคืบหน้าในการผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเทขายทองคำเช่นกัน

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 9.5 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่ระดับ 1276.7 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.7 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 16.474 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ปิดที่ 942.5 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 0.5% ปิดที่ 1,003.55 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักบางสกุล ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) ขณะนักลงทุนจับตาวุฒิสภาสหรัฐซึ่งเตรียมจะลงมติในร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของวุฒิสภาในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1903 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1862 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3526 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3422 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7565 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7577 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.46 เยน จากระดับ 111.83 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9837 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9839 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,873.97 จุด เพิ่มขึ้น 49.58 จุด, +0.73%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,647.58 จุด เพิ่มขึ้น 21.51 จุด, +0.82%

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 24,272.35 จุด เพิ่มขึ้น 331.67 จุด, +1.39%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,023.98 จุด ลดลง 37.89 จุด, -0.29%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,372.79 จุด ลดลง 25.26 จุด, -0.47%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,326.67 จุด ลดลง 66.89 จุด, -0.90%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 33,149.35 จุด ลดลง 453.41 จุด, -1.35%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,433.54 จุด ลดลง 5.45 จุด, -0.16%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,717.86 จุด ลดลง 2.52 จุด, -0.15%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,952.14 จุด ลดลง 109.23 จุด, -1.80%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 29,177.35 จุด ลดลง 446.48 จุด, -1.51%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 949.93 จุด ลดลง 2.21 จุด, -0.23%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,317.19 จุด ลดลง 20.67 จุด, -0.62%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,476.37 จุด ลดลง 36.53 จุด, -1.45%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 22,724.96 จุด เพิ่มขึ้น 127.76 จุด, +0.57%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,560.44 จุด ลดลง 153.11 จุด, -1.43%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,969.90 จุด ลดลง 41.20 จุด, -0.69%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,057.20 จุด ลดลง 38.90 จุด, -0.64%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง โทร.02-2535000 อีเมล์: kompathit.s@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2748841

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่าเทียบยูโร-ปอนด์ ก่อนวุฒิสภาสหรัฐโหวตร่างกม.ปฏิรูปภาษีวันนี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2560 07:06:57 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักบางสกุล ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) ขณะนักลงทุนจับตาวุฒิสภาสหรัฐซึ่งเตรียมจะลงมติในร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของวุฒิสภาในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1903 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1862 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3526 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3422 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7565 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7577 ดอลลาร์

 

 

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.46 เยน จากระดับ 111.83 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9837 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9839 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.11% สู่ระดับ 93.065 เมื่อคืนนี้

 

วุฒิสภาสหรัฐได้เริ่มกระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันเมื่อวานนี้ ซึ่งการลงมติในขั้นตอนสุดท้ายจะมีขึ้นในวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ โดยหากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าว สภาคองเกรสสหรัฐก็จะต้องรวมร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรเป็นร่างเดียวกัน ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมายต่อไป

 

นักวิเคราะห์เชื่อว่า มีความเป็นไปได้สูงที่วุฒิสภาสหรัฐจะผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของวุฒิสภาได้สำเร็จ หลังจากนายจอห์น แมคเคน แกนนำรีพับลิกันในวุฒิสภาได้ออกมาประกาศสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 238,000 ราย ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 240,000 ราย

 

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค. ส่วนตัวเลขการออมของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.573 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. จากระดับ 4.299 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย.

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนต.ค.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2748775

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 331.67 จุด รับความหวังวุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกม.ปฏิรูปภาษี

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2560 06:30:28 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) โดยดาวโจนส์ปิดที่เหนือระดับ 24,000 จุดเป็นครั้งแรก หลังจากนายจอห์น แมคเคน วุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกัน ประกาศสนับสนุนร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในการลงมติในวุฒิสภาวันนี้ ส่งผลให้ร่างกฎหมายดังกล่าวมีโอกาสมากขึ้นที่จะได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภา นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,272.35 จุด พุ่งขึ้น 331.67 จุด หรือ +1.39% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,873.97 จุด เพิ่มขึ้น 49.58 จุด หรือ +0.73% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,647.58 จุด เพิ่มขึ้น 21.51 จุด หรือ +0.82%

 

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากนายจอห์น แมคเคน ได้ประกาศสนับสนุนร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวจะได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาสหรัฐ โดยนายแมคเคนได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของชาวอเมริกัน กระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยบรรเทาภาระภาษีสำหรับครอบครัวชนชั้นกลาง

 

นักลงทุนขานรับความเคลื่อนไหวของนายแมคเคนเป็นอย่างมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายแมคเคนอยู่ในกลุ่มวุฒิสมาชิกของพรรครีพับลิกันเพียงไม่กี่คนที่ยังไม่ได้ออกมายืนยันการสนับสนุนร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี

 

ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐได้เริ่มกระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันเมื่อวานนี้ ซึ่งการลงมติในขั้นตอนสุดท้ายจะมีขึ้นในวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ โดยหากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าว สภาคองเกรสสหรัฐก็จะต้องรวมร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรเป็นร่างเดียวกัน ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมายต่อไป

 

ดัชนีหุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น 0.6% จากความหวังที่ว่า มาตรการปรับลดภาษีจะช่วยสนับสนุนภาคธนาคารให้แข็งแกร่งขึ้น ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมทะยานขึ้นเกือบ 2% อันเนื่องมาจากความหวังเกี่ยวกับมาตรการปรับลดภาษีเช่นกัน

 

หุ้นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ดีดตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้ โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 1.2% หุ้นอเมซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 1.3% และหุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 1.4%

 

หุ้นโครเกอร์ พุ่งขึ้น 6.1% ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่หุ้นแอล แบรนด์ส ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแบรนด์ชุดชั้นใน "Victoria's Secret" ทะยานขึ้น 6.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่สูงขึ้นในเดือนพ.ย.

 

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 238,000 ราย ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 240,000 ราย

 

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค. ส่วนตัวเลขการออมของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.573 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. จากระดับ 4.299 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย.

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนต.ค.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2748770

 

วุฒิสภาสหรัฐเลื่อนโหวตร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีไปเป็นเช้าวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2560 08:35:05 น.

วุฒิสภาสหรัฐได้ประกาศเลื่อนการลงมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของวุฒิสภาออกไปเป็นวันศุกร์ เวลาประมาณ 11.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย ขณะที่มีรายงานว่า สมาชิกวุฒิสภาเตรียมจะอภิปรายเกี่ยวกับเงื่อนไขอื่นๆในร่างกฎหมายดังกล่าวเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงการปรับขึ้นภาษีแบบอัตโนมัติ และรายละเอียดการขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคล

 

 

 

ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐได้เริ่มกระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันเมื่อวานนี้ โดยนายจอห์น แมคเคน วุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกัน ได้ประกาศสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับนี้มีโอกาสมากขึ้นที่จะได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภา

 

ปัจจุบัน พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา โดยมีจำนวนวุฒิสมาชิกทั้งหมด 52 เสียงจากทั้งหมด 100 เสียง ซึ่งหมายความว่า พรรครีพับลิกันไม่สามารถปล่อยให้สมาชิกพรรคเสียงหายไปมากกว่า 2 เสียง ถ้าหากวุฒิสมาชิกสังกัดพรรคเดโมแครต และผู้สมัครอิสระต่างลงคะแนนคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าว

 

ในกรณีที่ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีได้คะแนนเสียงเห็นชอบ 50 เสียงจากพรรครีพับลิกัน ขณะที่วุฒิสมาชิกอีก 50 เสียงลงมติคัดค้าน รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ก็จะลงคะแนนเสียงชี้ขาดในฐานะประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง ซึ่งจะช่วยให้ร่างกฎหมายนี้ผ่านวุฒิสภาอย่างฉิวเฉียด

 

หากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในวันนี้ สภาคองเกรสสหรัฐก็จะต้องรวมร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรเป็นร่างเดียวกัน ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมายต่อไป

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2748912

[ginger 11,058]

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ $9.5 เหตุนักลงทุนเทขายทองหลังดาวโจนส์พุ่งแรง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2560 07:10:45 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ ขานรับความคืบหน้าในการผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเทขายทองคำเช่นกัน

 

 

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 9.5 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่ระดับ 1276.7 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.7 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 16.474 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ปิดที่ 942.5 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 0.5% ปิดที่ 1,003.55 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นอย่างแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนขานรับนายจอห์น แมคเคน วุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกัน ที่ประกาศสนับสนุนร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในการลงมติในวุฒิสภาวันนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกฎหมายดังกล่าวมีโอกาสมากขึ้นที่จะได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภา

 

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 238,000 ราย ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 240,000 ราย

 

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค. ส่วนตัวเลขการออมของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.573 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. จากระดับ 4.299 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2748776

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 10 เซนต์ รับโอเปก-กลุ่มนอกโอเปกเห็นพ้องขยายเวลาลดกำลังการผลิต

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2560 06:47:35 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) หลังจากที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และกลุ่มผู้ผลิตนอกโอเปก เห็นพ้องให้ขยายเวลาลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีหน้า

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 57.40 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 63.57 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากคาลิด อัล-ฟาลีห์ ประธานกลุ่มโอเปก และรัฐมนตรีน้ำมันซาอุดิอาระเบีย แถลงว่า โอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันในการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน ออกไปอีก 9 เดือนจนถึงสิ้นปีหน้า จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในไตรมาสแรกของปีหน้า

 

ทางด้านไนจีเรีย และลิเบียยังได้ตกลงที่จะไม่เพิ่มกำลังการผลิตเหนือระดับของปีนี้ โดยทั้ง 2 ประเทศได้รับการยกเว้นจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของโอเปก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในประเทศ

 

นอกจากนี้ โอเปกและกลุ่มนอกโอเปกอาจทำการทบทวนข้อตกลงขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนมิ.ย.ปีหน้า ถ้าหากตลาดน้ำมันอยู่ในภาวะร้อนแรงเกินไป อันเป็นผลจากการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิต

 

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ รัสเซียได้แสดงความกังวลว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน อาจส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันในสหรัฐกลับมาเพิ่มกำลังการผลิต ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันราคาในตลาด

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2748771

 

นายกฯ นำครม.ใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ เย็นนี้ ก่อนเริ่มลุยงาน 1 ธ.ค. -ประชุมครม. 4 ธ.ค.

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน 2560 17:35:02 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเวลา 17.00 น.วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำคณะรัฐมนตรีใหม่เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่

 

โดยว่าที่รัฐมนตรีที่เดินทางมาถึงคนแรก คือ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากนั้นตามมาด้วย พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน, นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมรถตู้จำนวน 6 คันเพื่อนำ ครม.ใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตน

 

 

 

สำหรับรัฐมนตรีที่จะเริ่มเข้ารับหน้าที่ในวันพรุ่งนี้ (1 ธ.ค.) ได้แก่ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายลักษณ์ วจนานวัช รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรและสหกรณ์

 

ด้านพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันจันทร์ที่ 4 ธ.ค. แล้ว จะเดินทางเข้ากระทรวงยุติธรรมอย่างเป็นทางการ.

 

ส่วนนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ตนเองจะทุ่มเทกับการทำงานในช่วงสุดท้ายที่มีเวลาเหลืออยู่อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็จะเน้นการนำนโยบายที่นายกรัฐมนตรี และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลงานด้านเศรษฐกิจไปปฏิบัติทั้งการส่งเสริมการส่งออก ส่งเสริมเอสเอ็มอี และการขยายเศรษฐกิจฐานราก โดยจะทำงานบูรณาการกับกระทรวงอื่น ๆ อย่างเต็มที่

 

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/นิศารัตน์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2748736

[ginger 11,058]

Ylg Bullion

 

HSHsocial

 

 

[ginger 11,058]

 

 

 

 

YLGResearch

MTS GOLD GROUP

 

Ylg Bullion

 

=kC-R-R-R-R&ft[qid]=6494462380703030836&ft[mf_story_key]=-6336717020627277498&ft[is_sponsored]=1&ft[ei]=AI%40dae5432295f9fabb6752b52cc32d73b1&ft[top_level_post_id]=1018552804969003&ft[page_id]=120618248095801&ft[fbfeed_location]=1&ft[insertion_position]=1&__md__=1"]ช่อง one31

Sponsored · คลิป

รวมความน่ารักข้างทาง ระหว่างก้าวที่ผ่านมา และโมเม้นต์เจ็บขาจนวิ่งไม่ไหวของพี่ตูน....

ชมเบื้องหลังการ "ก้าว" ของ "พี่ตูน" กับ "ก้าวคนละก้าว Daily"

=*NK-R-R-R-R&ft[type]=104&ft[qid]=6494462380703030836&ft[mf_story_key]=-6336717020627277498&ft[is_sponsored]=1&ft[ei]=AI%40dae5432295f9fabb6752b52cc32d73b1&ft[top_level_post_id]=1018552804969003&ft[page_id]=120618248095801&ft[fbfeed_location]=1&ft[insertion_position]=1&__md__=0"]#ก้าวคนละก้าวDaily| 29 พฤศจิกายน 2560 | one31

 

 

#ก้าวคนละก้าว

#พลังคนไทย

#KingpowerThaipower

 

[ginger 11,058]

ทรงพระเจริญ

 

วันนี้(๓ ธันวาคม ๒๕๖๐) เวลา ๑๗.๐๐ น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิด “อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา” โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (เขื่อนห้วงโสมง) จังหวัดปราจีนบุรี โอกาสนี้ทรงปล่อยพันธุ์ปลาลงในอ่างเก็บน้ำ และทรงปลูกต้นรวงผึ้ง ด้วย

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

[ginger 11,058]

นายกฯ ย้ำ ครม.ใหม่น้อมนำกระแสพระราชดำรัส ร.10 ไปปฏิบัติ อุทิศตนเพื่อชาติ-ประชาชน

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 2 ธันวาคม 2560 11:18:49 น.

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำกับคณะรัฐมนตรีใหม่ที่ได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณให้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสใส่เกล้าใส่กระหม่อม อุทิศตนทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน ธำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้อยู่คู่กับประเทศไทยสืบไป

 

 

 

นอกจากนี้ ให้นำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ยึดถือเป็นหลักในการปฏิบัติงาน และสืบสานต่อยอดให้ประเทศเกิดการพัฒนาอย่างมั่นคง ดำรงรักษาอัตลักษณ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมประเพณีที่งดงาม สร้างสังคมจิตอาสาที่มีคุณธรรมจริยธรรม และปราศจากการทุจริตอย่างยั่งยืน

 

"ส่วนตัวนายกรัฐมนตรีได้รับใส่เกล้าใส่กระหม่อม และน้อมนำไปขับเคลื่อนงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยจะแบ่งมอบงานให้แก่รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และมอบหมายงานตามภารกิจแก่รัฐมนตรีทุกกระทรวงอย่างเหมาะสม เพื่อร่วมกันนำพาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้าอย่างเข้มแข็ง ประชาชนมีความสุขและความพึงพอใจให้มากที่สุด" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

 

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์ โทร.02-2535000 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2749490

 

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2560 06:06:56 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 ธ.ค. 2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (1 ธ.ค.) เนื่องจากปัจจัยทางการเมืองของสหรัฐ หลังจากที่นายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้การซัดทอดทรัมป์ว่าเป็นผู้สั่งการให้เขาทำการติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัสเซียในช่วงที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีที่แล้ว

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,231.59 จุด ลดลง 40.76 จุด หรือ -0.17% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,847.59 จุด ลดลง 26.39 จุด หรือ -0.38% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,642.22 จุด ลดลง 5.36 จุด หรือ -0.20%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ (1 ธ.ค.) หลังมีรายงานว่า นายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ออกมายอมรับว่าตนได้ให้การเท็จต่อสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เกี่ยวกับกรณีที่เคยสนทนาร่วมกับเจ้าหน้าที่รัสเซียในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ พร้อมซัดทอดว่าทรัมป์เป็นบุคคลที่สั่งการให้ตนติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัสเซีย

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.7% ปิดที่ 383.97 จุด สำหรับตลอดสัปดาห์ ดัชนี้ร่วงลง 0.7% เช่นกัน

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,316.89 จุด ลดลง 55.90 จุด หรือ -1.04% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,861.49 จุด ลดลง 162.49 จุด หรือ -1.25% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,300.49 จุด ลดลง 26.18 จุด หรือ -0.36%

 

-- ดัชนีตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (1 ธ.ค.) หลังจากที่นายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมายอมรับว่า ตนได้ให้การเท็จต่อสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เกี่ยวกับการสนทนาร่วมกับเจ้าหน้าที่รัสเซียในช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

 

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 26.18 จุด หรือ -0.36% ปิดที่ 7,300.49 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (1 ธ.ค.) เนื่องจากตลาดยังคงขานรับการที่ที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และกลุ่มผู้ผลิตนอกโอเปก เห็นพ้องให้ขยายเวลาลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีหน้า

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 58.36 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 63.73 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกวันศุกร์ (1 ธ.ค.) หลังรายงานข่าวที่ว่า นายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้การเท็จต่อสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เกี่ยวกับการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รัสเซีย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 5.60 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ระดับ 1,282.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 8.6 เซนต์ หรือ 0.52% ปิดที่ 16.388 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.9 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 940.6 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.3% ปิดที่ 1,016.25 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักส่วนใหญ่ การซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (1 ธ.ค.) หลังจากที่นายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมายอมรับว่า ตนได้ให้การเท็จต่อสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เกี่ยวกับการสนทนาร่วมกับเจ้าหน้าที่รัสเซียในช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

 

ยูโรแข็งอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1892 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1903 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3467 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3526 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7611 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7565 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.05 เยน จากระดับ 112.46 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9762 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9837 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 24,231.59 จุด ลดลง 40.76 จุด, -0.17%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 2,642.22 จุด ลดลง 5.36 จุด, -0.20%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,847.59 จุด ลดลง 26.39 จุด, -0.38%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,316.89 จุด ลดลง 55.90 จุด, -1.04%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,861.49 จุด ลดลง 162.49 จุด, -1.25%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,300.49 จุด ลดลง 26.18 จุด, -0.36%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 32,832.94 จุด ลดลง 316.41 จุด, -0.95%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,449.54 จุด เพิ่มขึ้น 16.00 จุด, +0.47%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 29,074.24 จุด ลดลง 103.11 จุด, -0.35%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 8,144.02 จุด ลดลง 110.01 จุด, -1.33%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,317.62 จุด เพิ่มขึ้น 0.43 จุด, +0.01%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,475.41 จุด ลดลง 0.96 จุด, -0.04%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 22,819.03 จุด เพิ่มขึ้น 94.07 จุด, +0.41%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,600.37 จุด เพิ่มขึ้น 39.93 จุด, +0.38%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,989.80 จุด เพิ่มขึ้น 19.90 จุด, +0.33%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,075.50 จุด เพิ่มขึ้น 18.30 จุด, +0.30%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2749601

 

ชาวฮ่องกงเดินขบวนประท้วงจีนครั้งที่สองในรอบสองเดือน

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม 2560 17:56:10 น.

ชาวฮ่องกงมากกว่า 1,000 คนออกมารวมตัวกันในวันนี้ เพื่อเดินขบวนประท้วงการปกครองแบบอำนาจนิยมของจีน และการริดรอนสิทธิเสรีภาพที่เกิดขึ้นในฮ่องกง

 

แนวร่วมสิทธิมนุษยชนพลเรือน (Civil Human Rights Front) หนึ่งในผู้จัดงาน กล่าวว่า ประชาชน 2,000 คนเข้าร่วมการเดินขบวนประท้วงครั้งนี้ ขณะที่ตำรวจเผยว่าจำนวนผู้ประท้วงอยู่ที่ 1,800 คน

 

การประท้วงจีนครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองในรอบสองเดือน โดยนอกเหนือจากประเด็นการแทรกแซงทางการเมืองของจีนในกิจการท้องถิ่นของฮ่องกงแล้ว การประท้วงครั้งนี้ยังรวมไปถึงการคุมขังนักเคลื่อนไหวทางการเมือง การตัดสิทธิสมาชิกสภานิติบัญญัติที่สนับสนุนประชาธิปไตย และแรงกดดันจากทางการจีนเกี่ยวกับการออกกฎหมายต่อต้านการบ่อนทำลาย

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2749598

 

วุฒิสภาสหรัฐมีมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียง 51-49

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 2 ธันวาคม 2560 14:07:28 น.

วุฒิสภาสหรัฐมีมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีด้วยคะแนนเสียง 51-49 โดยวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันทุกคนยกเว้นบ็อบ คอร์กเกอร์ลงคะแนนเสียงรับรองร่างกฎหมายฉบับนี้ ขณะที่วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตทุกคนลงคะแนนเสียงไม่รับรองร่างกฎหมาย

 

ทั้งนี้ สภาคองเกรสสหรัฐก็จะต้องรวมร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรเป็นร่างเดียวกัน และให้การอนุมัติ ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมายต่อไป

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ชาญวิทย์ เอี่ยมอุดม โทร.02-2535000 อีเมล์: chanwit.i@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2749495

 

คิม จอง อึน ตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตยางรถบรรทุกขีปนาวุธ

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม 2560 18:29:12 น.

สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) รายงานว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตยางรถอัมนกกัง ในกรุงเปียงยาง ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยางรถขนาดใหญ่ที่ใช้กับยานพาหนะสำหรับปล่อยขีปนาวุธ

 

รายงานเผยว่า นายคิมขอบคุณเจ้าหน้าที่ของโรงงานที่สามารถแก้ปัญหาได้ตามที่ทางพรรคแรงงานแห่งเกาหลีต้องการ และสร้างนวัตกรรมการขับเคลื่อนเพื่อผลิตยางรถแบบใหม่ๆ

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า KCNA ไม่ได้ระบุวันที่ที่นายคิมเดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงงาน แต่โดยปกติแล้วสื่อของทางการเกาหลีเหนือจะรายงานเหตุการณ์เกี่ยวกับผู้นำสูงสุดหลังจากนั้นหนึ่งวัน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2749599

 

เกาหลีเหนือกล่าวหาทรัมป์เป็นคนเรียกร้องให้เกิดสงครามนิวเคลียร์

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม 2560 11:33:25 น.

เกาหลีเหนือกล่าวหาว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เป็นคนเรียกร้องให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ ด้วยการจัดการซ้อมรบในคาบสมุทรเกาหลี และจำลองสถานการณ์การสู้รบจริงโดยมีเป้าหมายอยู่ที่เกาหลีเหนือ

 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือเปิดเผยว่า สหรัฐกำลังวางแผนการซ้อมรบทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดร่วมกับเกาหลีใต้ในระหว่างวันที่ 4-8 ธ.ค.นี้ โดยพุ่งเป้าไปที่เกาหลีเหนือ ซึ่งจะเป็นการผลักดันให้สถานการณ์ไม่แน่นอนในคาบสมุทรเกาหลีทวีความรุนแรงมากขึ้น

 

 

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สหรัฐและเกาหลีใต้จัดการซ้อมรบร่วมกันเป็นประจำทุกปี แต่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือกล่าวว่า การซ้อมรบครั้งนี้จะมีขนาดใหญ่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยจะมีการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์เป็นจำนวนมากที่สุด ประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่มากกว่า 230 ลำจากฐานทัพสหรัฐในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งรวมถึงเครื่องบินขับไล่แบบล่องหน F-22 Raptor และ F-35 นอกจากนี้จะมีทหารสหรัฐถึงราว 12,000 นายเข้าร่วมการซ้อมรบครั้งนี้ด้วย

 

ทั้งนี้ สถานการณ์ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีทวีความรุนแรงขึ้นอีก หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธข้ามทวีปชนิดใหม่ "Hwasong 15" ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเกาหลีเหนืออ้างว่าสามารถโจมตีได้ทั่วทุกพื้นที่ของสหรัฐ

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2749586

 

ญี่ปุ่นประกาศวันสละราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ 30 เม.ย. 2562

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2560 15:14:24 น.

นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศว่า คณะทำงานพิเศษได้กำหนดวันสละราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ในวันที่ 30 เม.ย. 2562 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 200 ปีที่สมเด็จพระจักรพรรดิของญี่ปุ่นประกาศสละราชสมบัติ

 

สำหรับกำหนดวันที่เจ้าฟ้าชายนารุฮิโตะ มกุฎราชกุมาร ซึ่งเป็นองค์รัชทายาท จะทรงเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่นั้น คาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 1 พ.ค. 2562 โดยสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นน่าจะประกาศวันขึ้นครองราชย์อย่างเป็นทางการในวันที่หรือราวๆวันที่ 8 ธ.ค.นี้

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2749207

[ginger 11,058]

HSHsocial

 

Ylg Bullion

 

YLGResearch

 

[ginger 11,058]

 

ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีในเช้าวันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะประธานการประชุม ได้นำคณะรัฐมนตรีประยุทธ์ 5 ถ่ายรูปที่ระลึก โดยแบ่งออกเป็น 2 ชุด คือ ชุดคณะรัฐมนตรีทั้งหมด และชุดคณะรัฐมนตรีที่แต่งตั้งโยกย้ายใหม่ 18 คน

 

ด้านนายอาทิวราห์ คงมาลัย (ตูน บอดี้สแลม) ประธานโครงการ "ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ" พร้อมด้วยครอบครัว และทีมงาน ได้เดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรีที่ตึกบัญชาการ โดยมีข้าราชการเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลรอต้อนรับจำนวนมาก และต่างก็เตรียมเงินและกล่องรับบริจาคที่รวบรวมมา ร่วมสมทบทุนเข้าโครงการฯ โดยมีนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) รอต้อนรับ พร้อมมอบเงินจำนวนหนึ่งสมทบเข้าโครงการฯ และกล่าวว่า ขอบคุณที่ทำเพื่อประเทศชาติ ขณะที่ตูนได้กล่าวขอบคุณนายมีชัยเช่นเดียวกัน จากนั้นจึงขึ้นไปที่ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อพบกับนายกรัฐมนตรี

 

 

จากนั้น ตูน กล่าวหลังเข้าพบนายกรัฐมนตรี ว่า ได้ใช้เวลาพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีประมาณ 15 นาที ส่วนใหญ่นายกรัฐมนตรีจะถามเรื่องสุขภาพ และบอกให้รักษาสุขภาพ พร้อมอวยพรให้ตัวเองและทีมงานประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ไม่ทราบจำนวนเงินที่นายกรัฐมนตรีบริจาค เพราะใส่เป็นซองมอบให้ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้ กล่าวชมก้อย รัชวิน แฟนสาว ว่าสวยด้วย

 

ขณะที่นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเรื่องจำนวนเงินที่ร่วมสมทบทุนเข้าโครงการ

 

..

 

ภาพทำเนียบรัฐบาล, เกตุกนก

 

ผสข.เกตุกนก ครองคุ้ม

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำจันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2560 09:36:31 น.

กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังคงมีความผันผวนขึ้นและลงตามกระแสข่าว โดยล่าสุดปรับตัวลดลงหลังจากที่สหรัฐฯผ่านร่างการปรับภาษีจากสภาสูงหรือการลงมติของทางส.ว. ขณะเดียวกันกับที่มีข่าวว่า นายไมเคิล ฟลินน์ ที่ออกมากล่าวหาทรัมป์ว่า มีการติดต่อกับรัสเซียในช่วงหาเสียง จึงทำให้มีแรงซื้อกลับในตลาดทองคำและทำให้ราคากลับมาแถวระดับ 1,280 เหรียญอีกครั้ง อย่างไรก็ดี จะเห็นการแกว่งตัวของทองคำที่กลับลงมาบริเวณ 1,275 เหรียญอีกครั้งหนึ่ง ทางด้าน SPDR มีการเข้าซื้อทองคำเพิ่ม 8.56 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 848.11 ตัน สำหรับที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯส่วนใหญ่ออกมาทรงตัว โดยที่ ISM Manufacturing PMI ออกมาในเกณฑ์ทรงตัว ขณะที่คืนนี้ต้องติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ ได้แก่ Factory Orders ที่คาดว่าจะออกมาแย่ลง

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำในทางเทคนิคยังมีความผันผวนไม่แน่นอนของทิศทางจากการที่ราคาปรับขึ้นและลงสลับกันของเส้นค่าเฉลี่ยทั่วไปของนักลงทุนรายวัน โดยที่เส้นค่าเฉลี่ยโดยทั่วไปอยู่บริเวณ 1,280 เหรียญ จึงอาจเรียกได้ว่าราคาทองคำในระยะสั้นมีการเคลื่อนตัวเป็นลักษณะ Sideways แบบไร้ทิศทาง ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนย้ำเน้นเป็นกลยุทธ์ในลักษณะทำกำไรในกรอบแคบตามทิศทาง Sideways โดยมีแนวรับ 1,270 เหรียญและมีแนวต้าน 1,290 เหรียญ ซึ่งทองคำไทยยังได้อานิสงส์จากเงินบาทที่อยู่ในเกณฑ์แข็งค่า โดยเช้านี้อยู่ที่ 32.65 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งภาพรวมยังเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบการแข็งค่า และคาดว่าจะทำให้ราคาทองคำไทยยังอยู่ในทิศทาง Sideway down โดยมีแนวรับ 19,700 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้าน 19,950 บาท/บาททองคำ

 

การลงทุน Gold D

สำหรับ Gold-D คาดว่าจะมีกรอบแนวรับ 1,270 เหรียญ และมีแนวต้านแรก 1,290 เหรียญ เช่นเดียวกับราคาทองคำตลาดโลกเช่นเดียวกัน

 

โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

เก็งกำไร Sideways เป็นลักษณะลงซื้อขึ้นขายในกรอบ 1,270 – 1,290 เหรียญ

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ลงซื้อขึ้นขาย เน้นเล่นสั้นๆในกรอบ

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ เน้นเล่นสั้นภายในวัน

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ในเชิงเทคนิคแนะนำให้เก็งกำไรในกรอบ Sideways ไปก่อนเช่นกัน โดยเน้นปรับกลยุทธ์มาเล่นสั้นๆ ยังมองว่าราคาแถวระดับ 1,270 เหรียญ ยังเหมาะที่จะทำการเข้าซื้อมากกว่า

 

Gold Futures Z17 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,830 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,030 บาท

Gold Futures G18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,880 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,080 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2749779

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ผันผวนจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ แต่คาด LTF-RMF ช่วยประคองตลาด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2560 09:15:52 น.

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะผันผวน จากความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ หลังจากที่นายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้การซัดทอดนายโดนัลด์ ทรัมป์ว่าเป็นผู้สั่งการให้เขาทำการติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัสเซียในช่วงที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีที่แล้ว ทำให้สร้างความกังวลในตำแหน่งของ"ทรัมป์"

 

 

 

ทั้งนี้ แม้ว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาวุฒิสภาสหรัฐฯได้อนุมัติผ่านร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯแล้ว แต่เชื่อว่ายังต้องใช้ระยะเวลาในการรวมร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีกับฉบับที่สภาผู้แทนราษฏรได้ผ่านร่างมติไปเมื่อครั้งที่ผ่านมา ดังนั้น กว่าจะนำมาใช้ได้ก็คงจะเป็นปีหน้า

 

แต่ที่ต้องติดตามเป็นการการพิจารณางบประมาณใช้จ่ายเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐฯในสหรัฐฯชั่วคราว ซึ่งจะต้องอนุมัติงบฯให้แล้วเสร็จภายใน 8 ธ.ค.นี้ ดังนั้นทิศทางตลาดฯจึงเป็นการแกว่งในลักษณะรอความชัดเจนจากปัจจัยในสหรัฐฯ ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะค่อนไปทางลบ

 

ส่วนบ้านเราคาดว่าจะยังคงได้รับเม็ดเงินจากองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) มาช่วยรองรับความเสี่ยงจากต่างประเทศได้ พร้อมให้แนวรับ 1,690 ถัดไป 1,680-1,685 จุด ส่วนแนวต้าน 1,705-1,710 จุด

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2749781

 

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ผันผวนจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ แต่คาด LTF-RMF ช่วยประคองตลาด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2560 09:38:13 น.

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะผันผวน จากความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ หลังจากที่นายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้การซัดทอดนายโดนัลด์ ทรัมป์ว่าเป็นผู้สั่งการให้เขาทำการติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัสเซียในช่วงที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีที่แล้ว ทำให้สร้างความกังวลในตำแหน่งของ"ทรัมป์"

 

 

 

ทั้งนี้ แม้ว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาวุฒิสภาสหรัฐฯได้อนุมัติผ่านร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯแล้ว แต่เชื่อว่ายังต้องใช้ระยะเวลาในการรวมร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีกับฉบับที่สภาผู้แทนราษฏรได้ผ่านร่างมติไปเมื่อครั้งที่ผ่านมา ดังนั้น กว่าจะนำมาใช้ได้ก็คงจะเป็นปีหน้า

 

แต่ที่ต้องติดตามเป็นการการพิจารณางบประมาณใช้จ่ายเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐฯในสหรัฐฯชั่วคราว ซึ่งจะต้องอนุมัติงบฯให้แล้วเสร็จภายใน 8 ธ.ค.นี้ ดังนั้นทิศทางตลาดฯจึงเป็นการแกว่งในลักษณะรอความชัดเจนจากปัจจัยในสหรัฐฯ ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะค่อนไปทางลบ

 

ส่วนบ้านเราคาดว่าจะยังคงได้รับเม็ดเงินจากองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) มาช่วยรองรับความเสี่ยงจากต่างประเทศได้ พร้อมให้แนวรับ 1,690 ถัดไป 1,680-1,685 จุด ส่วนแนวต้าน 1,705-1,710 จุด

 

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (1 ธ.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,231.59 จุด ลดลง 40.76 จุด (-0.17%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,642.22 จุด ลดลง 5.36 จุด (-0.20%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,847.59 จุด ลดลง 26.39 จุด (-0.38%)

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 24.50 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 11.31 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 16.90 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.12 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 123.05 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 7.24 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.06 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 35.81 จุด

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 ธ.ค.60) 1,699.65 จุด เพิ่มขึ้น 2.26 จุด (+0.13%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,067.39 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.60

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.61 ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (1 ธ.ค.60) ปิดที่ระดับ 58.36 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 1.7%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 ธ.ค.60) ที่ 7.26 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

 

- เงินบาทเปิด 32.65 แนวโน้มอ่อนค่า หลังดอลล์แข็งรับวุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกม.ปฏิรูปภาษี

 

- ผู้ประกอบการค้าปลีกรับ อานิสงส์ "ช็อปช่วยชาติ" แรงส่งเชื่อมั่น-สร้างบรรยากาศจับจ่าย ลูกค้าเพิ่ม 20% ยอดขาย พุ่ง 10-17% กลุ่มเครื่องสำอาง-แฟชั่น-โฮมขยับ เดินหน้าผนึกพันธมิตรคู่ค้าอัดฉีดแคมเปญ ต่อเนื่องธ.ค. เร่งเครื่องกระตุ้นยอดเทศกาลปีใหม่ หวังปิดรายได้ปีนี้เข้าเป้า ขณะค่ายบัตรเครดิต เผยยอดรูดบัตรเพิ่ม

 

- นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้เห็นชอบกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปี 2561 ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เสนอมา คือ 2.5% บวกลบ 1.5% หรืออยู่ในช่วง 1-4% ซึ่ง ธปท. ยืนยันกับคลังว่า ยังเป็นระดับที่ช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้เต็มศักยภาพที่ 4-5% อย่างที่ รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้ และคาดว่าคลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบกลางเดือน ธ.ค. 2560 และมีผลบังคับใช้ วันที่ 1 ม.ค. 2561

 

- นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ช่วงที่ 1 สถานีกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร (กม.) จะสามารถเดินหน้าได้ตามแผนที่กำหนดไว้ โดยจะเร่งจัดพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ระหว่างกรมทางหลวง (ทล.) และ รฟท. ก่อนวันที่ 21 ธ.ค. เพื่อให้ ทล.สามารถเปิดหน้างานเริ่มก่อสร้างได้ตามกำหนดการ

 

- ธพ. จ่อชง รมว.พลังงาน ยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 ใช้กลไกกำหนดราคาให้เท่าแก๊สโซฮอ์ 95 ขณะที่กระทรวงพลังงาน อนุมัติเงินกองทุนอนุรักษ์ฯ ติดโซลาร์เซลล์ ม.นราธิวาสฯ ชี้ช่วยลดค่าไฟ 8.32 ล้านบาท/ปี

 

- AOT ปลื้มหลังปลดธงแดง 2 เดือน แอร์ไลน์คึกรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดันสนามบินดอนเมืองรายได้กระฉูด ทัวร์จีนแน่นสุวรรณภูมิ ฟุ้งช่วงไฮซีซั่นปีนี้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 22.2% มีเที่ยวบินใช้บริการ 143,238 เที่ยวบิน เผยความคืบหน้างานเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดได้ตัวเอกชนกลางเดือน ธ.ค.นี้แน่

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- IMPACT (กสิกรไทย) "ซื้อ"เป้า 15.60 บาท ปรับประมาณการกำไรเพิ่มชึ้น 9-13% ในปี FY2560-62 แม้ว่าสถานการณ์การจัดงานจะอ่อนตัวในเดือน ต.ค. แต่ IMPACT ได้รับงานใหม่ในเดือน พ.ย. และ ธ.ค. ซึ่งส่งผลให้อัตราการเข้าเช่า (OCR) อยู่ที่ 48-50% ในไตรมาส 3/FY2560 (เทียบกับ 43% ในไตรมาส 3/FY2556) พร้อมคาดว่าอัตราเงินปันผลตอบแทนปี FY2560-2562 จะอยู่ที่ 5.4-5.7% ซึ่งน่าสนใจเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในกลุ่มที่ 5% และอัตราผลตอบแทนรวมของผู้ถือหุ้น (TSR) ที่ 14% การเริ่มเดินรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่ในปี 2564 จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ IMPACT อย่างมากเนื่องจากปัจจุบัน IMPACT เป็นแห่งเดียวที่ยังไม่เชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชน ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆ

 

- ERW (ไอร่า) เป้า 9 บาท เดินแผนโรงแรม HOP INN ปูพรมขยายฐานลูกค้าครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย หนุนรายได้พุ่งต่อเนื่อง 11 เดือนยอดจองห้องพักสูงถึง 81% เดินหน้าปี 2561 เปิดอีก 11 โรงแรมทั้งไทย-ฟิลิปปินส์

 

- STEC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 31.80 บาท ประกาศได้รับงานรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลืองเพิ่ม 7 พันล้านบาท หนุน Backlog ทำ All Time High ที่ 1.09 แสนล้านบาท (คิดเป็น 6 เท่าตัวของรายได้ปี 2559) เพียงพอต่อการรับรู้รายได้ใน 3 ปีข้างหน้า ส่วนประเด็น พ.ร.บ. จัดซื้อจัดจ้างใหม่เป็นลบเพียงระยะสั้น เพราะสุดท้ายงานจะถูกระบายออกมามากขึ้นในปีหน้า เช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ สีส้มตะวันตก ทางด่วนพระราม3-ดาวคะนอง และรถไฟทางคู่เฟส2 คงคาดการณ์กำไรปีนี้ +28% Y-Y และ +45% Y-Y ในปีหน้า

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2749803

[ginger 11,058]

Wealth Station added 2 new photos.

 

2 hrs ·

 

ราคาทองทรงตัวมานานกว่า 2 เดือนซึ่งการกลับมาเทสต์แนว 1270 อีกครั้งหลังครั้งก่อนแตะอยู่หลายครั้งก่อนจะฟื้นตัวได้ เป็นสัญญาณลบที่ต้องระวังการเปลี่ยนกรอบ

กลยุทธ์จึงยังเป็นการเทรดในกรอบไซด์เวย์และจะเทรดตามเมื่อหลุดกรอบลงไป

ประเด็นสำคัญ ภาษีผ่านแล้ว นั่นก็น่าจะหมายความว่าไม่มีข่าวดีกับตลาดหุ้นแล้ว ถ้าตลาดหุ้นสหรัฐพักตัว ทองก็มีปัจจัยหนุน

ในขณะที่ราคาน้ำมันอาจจะยังไม่กดดันตัวเลขเงินเฟ้อให้เฟดต้องพูดถึงเป้าดอกเบี้ยในปีหน้าที่สูงกว่าที่ตลาดมองไว้

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจและเหตุการณ์สำคัญในสัปดาห์นี้จะอยู่ที่ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐและสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองของนายโดนัลด์ ทรัมป์

ตามการคาดการณ์ตัวเลขจะแย่ลงกว่าข้อมูลในเดือนก่อนแต่ถ้าออกมาใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยก็ถือว่าดูดี การเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยตามแผนเดิมจึงจะเป็นปัจจัยกดดันตลาดได้หากว่าปรับตัวขึ้นใกล้ 1300

ในขณะที่ประเด็นการผ่านกฎหมายภาษีอาจทำให้มีการพักตัวของสินทรัพย์เสี่ยงและหนุนทอง ซึ่งถ้ามีประเด็นขัดแย้งอื่นๆ ทั้งในและนอกสหรัฐจะช่วยให้ทองฟื้นตัวไม่ว่าจะทรงตัวในกรอบเดิมหรือร่วงหลุด 1260 ลงไป

ถ้าหลุด 1260 - 1265 แนะนำเอสตามและขายที่ถืออยู่อย่างน้อยก็บางส่วนเพื่อหาจังหวะซื้อกลับ มีโลวเดิมอยู่ที่ 1200 และมีฐานราคาบริเวณ 1240 เป็นจุดที่จะคอยดูสัญญาณซื้อ ในกรณีที่รอซื้ออยู่ก็ลุ้นให้บาทแข็งขึ้นในจังหวะเดียวกัน

ในกรณีที่ยังเด้งขึ้นจาก 1270 ก็ยังมองเป็นจังหวะขายทำกำไรสั้นๆ โดยมีแนวต้าน 1285 1295 เหรียญ

4 Dec, 2017

 

 

 

ถูกแก้ไข ธันวาคม 4, 2017 โดย ginger

[ginger 11,058]

 

MTS GOLD is live now.

3 mins · คลิป

เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาพบกับการวิเคราะห์กราฟสดๆ ข้อมูลร้อนๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของเราได้เลย กับรายการ MTS LIVE วันที่ 4 ธันวาคม 2560

[ginger 11,058]

Ylg Bullion

[ginger 11,058]

Ylg Bullion

 

YLGResearch

 

Hua Seng Heng News Update 04-12-2560

ดำเนินรายการโดยคุณอภิสรา เหลาเจษฎา

YT2FB.COM

 

 

ก้าว was live.

20 hours ago · คลิป

3-dots-h

LIVE โครงการก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ

เบตง - แม่สาย วันที่ 1 พย - 25 ธค 2560 ระยะทาง ระยะทาง 2,191 กม

เลสเตอร์ ซิตี้

 

 

ก้าว

7 hours ago ·

 

3-dots-h

เจมี่ วาร์ดี้ ตัวแทนสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้

 

 

 

นายกฯ กำชับครม.ใหม่ยึดพระราโชบาย ร.10 อุทิศตนทำงานเพื่อประเทศชาติ-ประชาชน

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2560 15:58:48 น.

พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัฒน์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีจะเริ่มขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความยินดีกับรัฐมนตรีใหม่และมอบนโยบายการทำงานให้คณะรัฐมนตรีทุกคนยึดพระราโชบายของในหลวงรัชกาลที่ 10 ให้ตั้งใจอุทิศตนทำงานเพื่อชาติและประชาชน ให้ตระหนักเสมอว่าประชาชนต้องการความสุข ความมั่นใจ และความปลอดภัย พร้อมกับให้ใช้ปัญญา สติ และกำลังใจในการทำงาน

 

 

 

สำหรับแนวทางการทำงานนั้น ขอให้คณะรัฐมนตรียึดความซื่อสัตย์ สุจริต และความโปร่งใสเป็นสำคัญ ทำงานแบบบูรณาการ มีการทำงานระหว่างกระทรวง โดยสั่งการให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงไปศึกษางานในกระทรวงของตัวเอง หน่วยงานที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ ขณะเดียวกันต้องศึกษางานและกฎของกระทรวงต่างๆ ด้วย เพื่อให้การทำงานร่วมกันกับกระทรวงอื่นๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 

พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ในส่วนของการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงนั้น นายกรัฐมนตรีขอให้ครอบคลุมทุกภาคทุกพื้นที่ในประเทศ และลงไปพูดคุยกับประชาชน ภาคเอกชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและสร้างความเข้าใจ อธิบายปัญหา รับฟังปัญหาและนำมาแก้ไขให้ทันท่วงที

 

"จะต้องติดตามเรื่องของข่าวสาร โซเชียลมีเดีย ถ้าเกิดปัญหาขึ้น ก็ขอให้รัฐมนตรีรีบชี้แจงให้ประชาชนรับทราบ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหากระจายออกไปเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ติดตามเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ และรีบทำความเข้าใจเน้นเรื่องการประชาสัมพันธ์" ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุ

 

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการให้รัฐมนตรีไปดูเรื่องของขวัญปีใหม่ที่รัฐบาลจะมอบให้กับประชาชน โดยให้ไปศึกษารายละเอียดจากสิ่งที่ได้เคยดำเนินการมาแล้วในชว่ง 2 ปีที่ผ่านมาว่าจะดำเนินการอย่างไร และให้นำกลับมาเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

 

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/กษมาพร/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2750257

 

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 04 ธันวาคม 2560

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2560 17:18:38 น.

กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส

สภาวะตลาดวันที่ 04 ธันวาคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,271.71-1,275.88 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,750 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,850 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ17 อยู่ที่ 19,820 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,800 บาท

 

 

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.00 น. ของวันที่ 04/12/60)

แนวโน้มวันที่ 06 ธันวาคม 2560

วุฒิสภาสหรัฐอนุมัติมาตรการปฏิรูปภาษีในสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งผลให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐใกล้ที่จะบรรลุเป้าหมายในการปรับลดภาษี ถือเป็นการแก้ไขกฎหมายภาษีครั้งใหญ่ ซึ่งดอลลาร์ได้รับแรงหนุนและราคาทองคำอ่อนตัวลง สวนทางกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับขึ้น เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐจะต้องพึ่งพาเงินกู้มากยิ่งขึ้นเพราะรายได้จากการจัดเก็บภาษีลดลงและมาตรการปฏิรูปภาษีจะช่วยหนุนผลกำไรในภาคเอกชนของสหรัฐ เห็นได้จากตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากความหวังที่ว่าภาคเอกชนจะได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้ ส่งผลกดดันราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตามความผันผวนทางการเมืองของสหรัฐ กดดันดอลลาร์สหรัฐในทางลบ หลัง นายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐยอมรับผิดว่าเขาเคยให้การเท็จต่อสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ในเรื่องการติดต่อกับรัสเซีย โดยเขาตกลงที่จะให้ความร่วมมือกับอัยการ และถ้าหากการสอบสวนนี้ส่งผลกระทบต่อคนวงในของปธน.ทรัมป์ สถานการณ์ดังกล่าวจะหนุนราคาทองคำไว้ ขณะที่นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์ความตรึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี และท่าทีของเกาหลีเหนือเมื่อเกาหลีใต้และสหรัฐได้เริ่มต้นการซ้อมรบทางอากาศร่วมกันครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์นี้ โดยกองทัพสหรัฐระบุว่า การซ้อมรบร่วมกันในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมความพร้อมและมีจุดประสงค์เพื่อรับประกันสันติภาพและเสถียรภาพในคาบสมุทรเกาหลี โดยตลาดทองคำยังคงรอความชัดเจนจากปัจจัยต่างๆที่จะเข้ามาชี้นำทิศทางราคา ซึ่งในระยะสั้นควรวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน มีจุดเข้าซื้อ จุดขายทำกำไร หรือจุดตัดขาดทุน และปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด ในส่วนนักลงทุนที่ต้องการสะสมทองคำเพิ่มต้องรอการย่อตัวของราคาทองคำ

 

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่าราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ โดยราคาน่าจะพยายามขึ้นไปยืนเหนือบริเวณแนวต้าน 1,290 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านไปได้จะมีแนวต้านถัดไปบริเวณโซน 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำหากราคาทองคำยืนเหนือ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลายชั่วโมงการเปิดสถานะขายต้องชะลอออกไปก่อน ซึ่งนักลงทุนที่มีสถานะขายอยู่ต้องลดสถานะลง แต่หากไม่สามารถผ่านแนวต้านได้ไปได้อาจเห็นการย่อตัว โดยประเมินแนวรับที่ 1,266 หรือ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้ แต่การแกว่งตัวของราคายังยากที่จะประเมินถึงแนวโน้มที่ชัดเจน

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,266 (19,500บาท) 1,260 (19,400บาท) 1,251 (19,250บาท)

แนวต้าน 1,290 (19,900บาท) 1,300 (20,050บาท) 1,307 (20,150บาท)

GOLD FUTURES (GFZ17)

แนวรับ 1,266 (19,680บาท) 1,260 (19,580บาท) 1,251 (19,440บาท)

แนวต้าน 1,290 (20,060บาท) 1,300 (20,210บาท) 1,307 (20,320บาท)

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2750313

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดลบ 2.04 จุด ตลาดแกว่งแคบ-เลือกเล่นรายตัว หลังขาดปัจจัยหนุนใหม่จากทั้งใน-ตปท.

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2560 17:17:40 น.

ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,697.61 จุด ลดลง 2.04 จุด (-0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 39,692.39 ล้านบาท

 

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,706.48 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,692.45 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 428 หลักทรัพย์ ลดลง 850 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 437 หลักทรัพย์

 

 

 

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบ เนื่องจากวันพรุ่งนี้ (5 ธ.ค.) ตลาดฯก็จะปิดทำการ ซึ่งเท่าที่ดูตลาดฯไม่ค่อยตอบรับร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯที่ผ่านมติจากวุฒิสภาสหรัฐฯมากนัก แต่จะมีการเลือกเล่นเป็นรายตัวมากกว่า อย่างหุ้น IVL และ TU ที่ปรับขึ้นมาได้ดี เพราะได้ประโยชน์จากแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ

 

นอกจากนี้ ตลาดฯได้ขาดแรงหนุนจากทั้งในและต่างประเทศ มีเพียงเม็ดเงินจากองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่เข้ามาช่วยหนุน ซึ่งตอนนี้ก็สะสมมาได้ 8,000 ล้านบาทแล้ว แต่คาดว่าจะเข้ามาในปีนี้ราว 20,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ตลาดฯมีการเลือกเล่นเป็นรายตัว อย่างหุ้นในกลุ่มแบงก์วันนี้ก็มีเข้ามาลงทุนด้วย

 

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยให้รอติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้ ซึ่งถ้าออกมา 180,000-190,000 ตำแหน่ง เชื่อว่ามีโอกาสที่สหรัฐฯจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในกลางเดือนธ.ค.นี้ ซึ่งก็มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้น ดังนั้น หุ้นในกลุ่มแบงก์จะได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขึ้น

 

พรุ่งนี้ (5 ธ.ค.) ตลาดหุ้นไทย ปิดทำการ โดยเป็นวันสำคัญ ดังนี้ 1. เป็นวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร 2. เป็นวันชาติ และ 3. เป็นวันพ่อแห่งชาติ

 

แนวโน้มการลงทุนในวันพุธ (6 ธ.ค.) นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัว โดยให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,695-1,707 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,208.48 ล้านบาท ปิดที่ 61.50 บาท ลดลง 0.50 บาท

 

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,416.07 ล้านบาท ปิดที่ 225.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

 

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,091.85 ล้านบาท ปิดที่ 420.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

 

MINT มูลค่าการซื้อขาย 1,051.77 ล้านบาท ปิดที่ 42.25 บาท ลดลง 1.25 บาท

 

IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,034.80 ล้านบาท ปิดที่ 49.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2750341

หมายจับแดงฮาร์ดคอร์'จักรภพ-เสธ.หยอย'เอี่ยวคดีอาวุธแปดริ้ว

NAEWNA.COM