มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

Write a comment...

 

 

ว.วชิรเมธี (W.Vajiramedhi)

 

 

‎"จงมีความพยามยามในหน้าที่ของตน"

วายมสฺสุ สกิจฺเจสุ [๒๗/๒๔๔๐]

 

 

ว.วชิรเมธี (W.Vajiramedhi)

 

 

‎"ในกาลไหนๆ ก็ไม่ควรกล่าววาจาไม่น่าพอใจ"

นามนุญฺญํ กุทาจนํ [ขุ.ชา.เอก.๒๗/๑๐]

ถูกแก้ไข ธันวาคม 10, 2011 โดย ginger

[ginger 11,058]

กสิกรฯคาดหุ้น​ไทยสัปดาห์หน้าปรับขึ้นต่อ ​แรงซื้อ LTF-RMF หนุน

 

 

ข่าวหุ้น-​การ​เงิน สำนักข่าวอิน​โฟ​เควสท์ (IQ) -- ​เสาร์ที่ 10 ธันวาคม 2554 13:49:31 น.

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกร​ไทย จำกัด รายงานว่า ​แนว​โน้มดัชนีหุ้น​ไทยสัปดาห์หน้า (13-16 ธ.ค.54) ดัชนีอาจยัง​แกว่งขึ้นต่อ ​โดย​ได้รับ​แรงหนุนจาก​แรงซื้อ LTF ​และ RMF ​แม้คงจะมี​แรงขาย​ทำกำ​ไรบ้าง นอกจากนี้ คงจะต้องติดตามผล​การประชุมสุดยอด​ผู้นำสหภาพยุ​โรป ​และผล​การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (13 ธ.ค.) สำหรับรายงานตัว​เลข​เศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ​ได้​แก่ ยอดค้าปลีก ​การผลิตอุตสาหกรรม ​และตัว​เลข​เงิน​เฟ้อ

​ทั้งนี้ บล.กสิกร​ไทย คาดว่าดัชนีจะมี​แนวรับที่ 1,029 ​และ 1,014 จุด ขณะที่​แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,065 ​และ 1,078 จุด ตามลำดับ

--อิน​โฟ​เควสท์ ​โดย จำ​เนียร พรทวีทรัพย์ ​โทร.02-2535000 อี​เมล์: jumnain@infoquest.co.th

[ย่าหยา 395]

"แผนภาพ แสดงการเกิดปรากฎการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง"

 

 

 

 

 

 

 

[ginger 11,058]

สวัสดีวันหยุด คุณๆพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนๆ ที่รัก ทุกคน

 

นักวิมือใหม่ใจรัก

 

http://www.naewna.com/news.asp?ID=291532

[ginger 11,058]

http://www.naewna.com/news.asp?ID=291612

 

ธรรมปฏิบัติ : "ละ" อันหนึ่ง อันหนึ่งงอกงาม

ดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 ธันวาคม 2554 14:10 น.

 

 

Share

เราเชื่อในหลักธรรมคำสอนพระพุทธเจ้า เรื่องบาปเรื่องบุญ เรื่องสุขเรื่องทุกข์ ที่พระพุทธเจ้าทรงรู้แจ้งแทงตลอดในสัจธรรมเหล่านี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เป็นความจริงอยู่ตลอดกาล

 

แต่จิตใจของเราเท่านั้นยังไม่ได้รับการอบรมให้ยอมรับความจริงอันนี้ จึงยังหลงอยู่ จำเป็นจะต้องอบรมต่อไปอีก จนกว่าจิตของเรายอมรับทำตามได้ รู้ตามได้ เห็นตามได้ ละตามได้ พ้นตามได้ จนกว่าจะพ้นจาก ทุกข์จริงๆ ในสิ่งที่เราไม่ต้องการ

 

คำสอนของพระพุทธเจ้านั้น มีผู้นำมาใช้โดยศรัทธาความเชื่อความเลื่อมใส ด้วยความตั้งใจ ความเสียสละใน สิ่งที่ควรเสียสละ ตัดในสิ่งที่ควรตัด เมื่อตัดบางสิ่งบางอย่างแล้ว บางสิ่งบางอย่างมันเกิดขึ้นได้ มันมีขึ้นได้ แต่ถ้าไม่ตัดบางอย่างที่เราต้องการ ความสงบก็ไม่บังเกิด

 

เพราะฉะนั้นพอตัดอันหนึ่ง ทิ้งอันหนึ่งไปแล้ว ความสงบเกิดขึ้นแทน ความสุขเกิดขึ้นแทน เราควรเอาความสุข ควรเอาความสงบ ควรเอาการงานภาระของเราให้น้อยลง ให้เบาบางลง

 

เพราะฉะนั้น คำว่า “ละ” ไม่ใช่ว่าละแล้วไม่ได้อะไร ถ้าละแล้วสูญเปล่า พระพุทธเจ้าก็ไม่สอนให้ละ แต่เราละอันหนึ่งแล้ว อันหนึ่งงอกงาม

 

เราเห็นสิ่งหนึ่งไม่ดี แต่สิ่งหนึ่งมันดีผ่องใส เช่น เห็นกายในกาย ที่พระพุทธเจ้าท่านให้เห็นตามความเป็นจริง ก็เพื่อกำจัดสิ่งที่หลอกลวง สิ่งที่ไม่จริง ที่มีอยู่ในจิตใจ ที่เคยหลงมาก่อน เพราะความจริงเท่านั้น ทำให้เรายึดมั่นได้ เป็นที่พึ่งได้ กำจัดภัยได้ เพราะความรู้จริงเห็นจริงตามสภาวะธาตุสภาวะธรรม ที่มีปัจจัยปรุงแต่ง ที่ทำให้เราและสัตว์ทั้งหลายเข้าใจผิด สำคัญผิด ยึดถือไปผิด เลยได้รับทุกข์จากความรู้ผิด เข้าใจผิด มาเป็นเวลายาวนาน ไม่ใช่เฉพาะปีนี้ หรือไม่ใช่เฉพาะแต่ชาตินี้ หลายชาติหลายภพมาแล้ว หมุนเวียนอยู่อย่างนี้ แต่เมื่อเราไม่รู้จักแล้ว ก็นึกว่าไม่มีอะไร

 

พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงรู้เห็นตลอดเวลา เพราะพระปัญญาของพระองค์ละเอียดอ่อน ของลึกลับขนาดไหน พระองค์ก็เห็นได้ จิตใจของเรา ฝึกฝนยังไม่พอ จึงรับยังไม่ได้ รู้ไม่ได้ แม้สิ่งเหล่านั้นมีอยู่ บาปมีอยู่ บุญมีอยู่ นรกมีอยู่ สวรรค์มีอยู่ แต่ก็ยังสงสัย เพราะไม่ประจักษ์ในใจของเราเอง

 

เมื่อตราบใด เราพยายามทำใจของเราให้มีญาณเป็นเครื่องรู้เครื่องเห็นขึ้นมาแล้ว เราก็จะสิ้นสงสัยทันที เมื่อเราไม่สงสัยแล้ว กำลังใจในการปฏิบัติ ก็เพิ่มขึ้นทันที

 

ความสงสัยเป็นตัวอุปสรรคอย่างสำคัญมาก เพราะฉะนั้น ผู้ที่ตัดความสงสัยเสียได้ จึงเป็นผู้ที่เข้าเขตแดนอริยะ แก้ความสงสัยก็ด้วยการปฏิบัติจิตภาวนา สร้างสติสร้างปัญญาในสมาธิให้เกิดขึ้น ปรากฏในจิตใจของเรา เมื่อมันชัดในจิตใจแล้ว ความสงสัยก็เลิกไปเอง หมดไปเอง

 

สิ่งใดที่ว่าละยากๆ ถ้าจิตมันเข้าไปถึง เข้าไปรู้ไปเห็น แล้ว เมื่อเราต้องการละ มันก็ละ ต้องการบำเพ็ญ มันก็บำเพ็ญให้เรา เพราะฉะนั้น เราต้องพยายามอบรมจิตของเรานี้แหละ ให้รู้เห็นธรรมะที่ละเอียดไปตามลำดับ ที่ไม่สามารถที่จะไปเห็นด้วยตาธรรมดา ไม่สามารถสัมผัสได้ในจิตธรรมดา แต่สัมผัสได้ในจิตที่ได้อบรมละเอียดในองค์สมาธิ จึงจะสัมผัสได้ จึงจะรู้ได้

 

เพราะฉะนั้น พยายามรวบรวมจิตของเรา ให้มีอารมณ์อันเดียว มีจิตดวงเดียว มีธรรมอันเดียว ให้จิตเข้าสู่ความสงบความละเอียดไปตามลำดับ ตัดความวุ่นวาย ยุ่งเหยิงภาระภายนอก ไม่ให้มีอยู่ในจิตในใจ ปล่อยวาง ให้หมด สละให้หมด สละด้วยสติด้วยปัญญาอันชอบ สละด้วยความเห็นชอบ ไม่ต้องไปแก้ไขภายนอก คือสละใน จิตนั้นเอง ไม่ต้องไปเกี่ยวข้องไปทำอะไรกับภายนอก เพราะวัตถุภายนอกนั้น เขาไม่เป็นมูลแห่งสุขและแห่ง ทุกข์ ส่วนมูลที่ให้เกิดสุขเกิดทุกข์ มันเป็นเรื่องของจิต

 

เพราะฉะนั้น ไม่จำเป็นอะไรที่เราจะไปตัดสิ่งภายนอก จะไปแก้สิ่งภายนอก ด้วยกายด้วยวาจา แต่มาแก้จิตใจของเรา ด้วยสติปัญญาอันชอบ อันถูกต้อง ตามที่พระพุทธเจ้าทรงพาปฏิบัติพากระทำ เดินตามพระองค์ เชื่อตามพระองค์ ส่วนไหนที่เรารู้แล้วว่าไม่ดี ที่พระพุทธเจ้าท่านให้ละ เราก็อบรมจิตใจของเราให้เห็นชอบตาม ให้ละได้ตาม ให้ปล่อยวางตาม

 

สมาธิ...ควรทำจิตให้สงบ เราก็เห็นตามชอบตามสงบตาม

 

ควรอยู่ในความวิเวก เราก็กำหนดจิตให้เกิดความวิเวก มีความปีติมีความสุขในธรรม เพราะอาศัยความวิเวก มีอารมณ์อันเดียว ที่ท่านยกย่องว่าผู้มีอารมณ์อันเดียว มีสติบริสุทธิ์ มีความสุข

 

อันนี้เป็นเรื่องจิตกับความคิดดำริอันชอบภายในเท่านั้นเอง ไม่เกี่ยวกับสิ่งอื่นเลย โดยเฉพาะจิตเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้น เรื่องเฉพาะจิตอันนี้แหละ ถ้าสติเข้าไปรักษาให้เป็นปัจจุบัน รู้อันมั่นคง ไม่วอกแวก ไม่ริบหรี่ เหมือนกับไฟเทียนที่ไม่มีลมพัด มันก็เที่ยง ถ้ามีลมพัดมา วิบๆแวบๆ อ่านหนังสือก็ไม่ออก รู้อะไรก็ไม่ชัด จิตที่มัน ไม่เที่ยงนี้แหละ ที่ขึ้นๆ ลงๆ ลุ่มๆ ดอนๆ ความรู้ที่เรารู้ ให้มันตั้ง เหมือนกับหลักหินที่มันตั้ง ลมพัดจากทิศต่างๆ ไม่กระเทือนไม่หวั่นไหว

 

เราปฏิบัติจิตอบรมจิตให้มีสมาธิ ให้ตั้งอย่างนั้นแหละ อย่าให้มันหลวม อย่าให้มันโยกเยกๆ ให้มันตั้งมั่น โดยสติเป็นผู้ระลึกสัมปชัญญะเป็นผู้รู้ สติระลึกเตือนคำบริกรรม กำกับให้มันทำงาน ไม่ให้เผลอ ไม่ให้ปล่อยทอดธุระ ละไปเอาอันอื่นมาแทน เอาเฉพาะจำกัดที่เรา มอบงานให้ทำ แม้นานเท่าไรเราก็ทำ ยอมรับทำอยู่อันเดียว เพื่อให้เกิดฐานอันมั่นคงก่อน สำหรับผู้ที่ยังไม่มั่นคง ยังไม่รู้ไม่เห็นก็ตาม ให้เห็นความมั่นคงเกิดขึ้น ในจิตใจก่อน ให้เห็นอันนี้ก่อน เป็นประตูแรก เป็นขั้นแรก ของมรรคของการปฏิบัติ เพื่อออกจากทุกข์อย่างแท้จริง

 

ได้ยินได้ฟังแล้ว ตั้งใจปฏิบัติ อธิบายย่อๆ เท่านี้แหละ

 

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 132 พฤศจิกายน - ธันวาคม 2554 โดย พระโพธิธรรมาจารย์ (หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ) วัดป่าเขาน้อย จ.บุรีรัมย์)

[ginger 11,058]

เพื่อนบ้าน 5 ประเภทที่คุณควรให้อภัย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 ธันวาคม 2554 06:40 น.

 

 

Share47

คนเราเมื่อคิดจะซื้อบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง คุณสมบัติลำดับแรก ๆ ที่เรามองหาหนีไม่พ้น ความมั่นคงแข็งแรงของบ้าน ความสะดวกสบายในการเดินทาง ความร่มรื่นของสถานที่ ความสวยงามในการออกแบบตกแต่ง ตลอดจนของกำนัล หรือส่วนลดที่คุณจะได้รับหากตกลงใจเซ็นสัญญา ฯลฯ

 

อย่างไรก็ดี ในการซื้อบ้านนั้น มีสิ่งหนึ่งที่คุณไม่อาจเลือกได้ นั่นก็คือ "เพื่อนบ้าน" และนี่ก็เป็นปัญหาใหญ่ของหลายครอบครัวที่ทำให้การเข้าอยู่ในบ้านใหม่ไม่สงบสุขอย่างที่คิด

 

วันนี้เราขอชวนท่านผู้อ่านไปทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านแย่ ๆ 5 ประเภทกัน จะมีแบบใดบ้างนั้น ลองติดตามกันดูค่ะ

 

1. เพื่อนบ้านที่มีฐานะดีกว่าคุณ

 

เพื่อนบ้านประเภทนี้มักจะมีสมบัติใหม่ ๆ มาอวดคนในซอย หรือคนในหมู่บ้านบ่อย ๆ เช่น เปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ มีบ้านหลังใหญ่ และพยายามแสดงออกให้เห็นว่าครอบครัวของตนเองนั้นเพียบพร้อม และสมบูรณ์แบบ เช่น มีสนามหญ้าที่เรียบร้อย เป็นระเบียบ มีคนรับใช้คอยดูแล ขับรถให้ และ ที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ การแสดงออกว่า ฉันไม่เคยทำอะไรผิด เขาอาจมาจอดรถหน้าบ้านคุณโดยไม่ดับเครื่อง บีบแตรปิ๊น ๆ ให้คนรับใช้บ้านเขาเปิดประตูให้ ก่อนจะเร่งเครื่องเสียงดังขับเข้าบ้านไป โดยที่ไม่สนใจบ้านคุณสักนิดว่า พฤติกรรมของเขาจะทำให้ลูกคุณตื่นขึ้นมาร้องไห้หรือไม่ และก็ยากเสียด้วยที่คนเหล่านี้จะยอมรับว่า เขาทำอะไรผิดไปบ้าง หรือเขาสร้างความยุ่งยากให้ครอบครัวคุณอย่างไรบ้าง บางทีเขาอาจแสดงออกด้วยซ้ำไปว่า คุณผิดเองที่มาเลือกบ้านอยู่ตรงนี้

 

ตรงกันข้าม หากคุณทำแบบเดียวกันกับเขา เขาอาจฉุนเฉียว และตรงมาต่อว่าคุณเสีย ๆ หาย ๆ ว่าคุณทำให้เขาเดือดร้อนแค่ไหน รวมถึงอาจยกโขยงคนรับใช้มาร่วมรุมคุณเข้าก็ได้

 

การมีเพื่อนบ้านประเภทนี้อยู่ใกล้ ๆ สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ อย่าไปอิจฉาเขาในสิ่งที่เขามี เพราะในความเป็นจริงแล้วที่คุณเห็นเขามีคนรับใช้มากมาย มีรถราคาแพง มีบ้านสวยงาม เขาอาจมีปัญหามากมายรุมเร้าอยู่ก็ได้ เพราะคนเราถ้าไม่สะสมเรื่องไม่ดีเอาไว้มาก ๆ คงไม่มีทางแสดงพฤติกรรมแย่ ๆ เช่นนั้นออกมาได้เป็นแน่

 

ถ้าหากว่าคุณรู้สึกว่าคุณอิจฉาครอบครัวของเพื่อนบ้านขึ้นมาในบางขณะ ก็ขอให้เชื่อไว้ว่า เขาเองก็เจอกับความทุกข์เหมือน ๆ กับคุณ และเขาไม่ได้ดีพร้อมไปเสียทุกอย่างแบบที่เขาพยายามจะแสดงออกหรอก แต่ถ้าให้ดีที่สุดคือ อย่าไปยุ่ง อย่าไปข้องแวะกับคนนิสัยแบบนี้ดีกว่า

 

2. เพื่อนบ้านอันธพาล

 

เพื่อนบ้านประเภทนี้คือคนที่อาฆาตมาดร้าย ใจคอโหดเหี้ยม สามารถฆ่าคนที่เขาคิดว่า "ล้ำเส้น" ที่เขาสมมติขึ้นมาได้ ยกตัวอย่างคดีในสหรัฐอเมริกาคดีหนึ่ง ผู้เคราะห์ร้ายเป็นเด็กชายวัย 15 ปีคนหนึ่งที่เดินตัดสนามหญ้าของเพื่อนบ้าน ซึ่งเพื่อนบ้านรายนี้ใช้ปืนยิงเด็กชายเสียชีวิต เขาให้เหตุผลว่า เพราะเด็กชายผิดเองที่ไปเดินตัดสนามหญ้าของเขาที่เขาอุตส่าห์ดูแลอย่างทะนุ ถนอม หรือเพื่อนบ้านบางรายที่ขู่ฆ่าลูกของเพื่อนบ้าน เพียงเพราะผู้ใหญ่ผิดใจกัน คนประเภทนี้ควรห่างให้ไกล หลีกได้เป็นหลีก ไม่ควรคบค้าสมาคม เพราะวันหน้าเขาอาจจะมาขู่ฆ่า หรืออาฆาตครอบครัวคุณเข้าก็ได้

 

คุกอาจไม่พอให้คนประเภทนี้อยู่ เขาเลยมาเพ่นพ่านอยู่แถวบ้านคุณ ถ้าตอนนี้คุณและครอบครัวยังไม่มี "เรื่อง" อะไรกับคนประเภทนี้ก็ถือว่าโชคดีมาก การรับมือเพื่อนบ้านประเภทนี้คือ การทราบว่าเขาไม่ชอบอะไรบ้าง และเขามี "ขอบเขตสมมติ" ในเรื่องใดอีกบ้าง เพื่อที่คุณและครอบครัวจะได้ไม่ต้องไป "ล้ำเส้น" ให้เปลืองตัว

 

สำหรับผู้ที่มีลูกเล็ก ถ้าในซอย หรือหมู่บ้านที่คุณอยู่มีคนประเภทนี้เยอะ อาจต้องระวังให้มาก เพราะคนประเภทนี้ไม่หวั่นว่าเขาจะทำร้ายใคร เด็กเล็กเด็กแดงแค่ไหน หากโทสะเข้าครอบงำ เขาสามารถทำลายได้หมด คุณอาจทำแผนที่หมู่บ้าน หรือแผนที่ซอย แล้วกากบาทบ้านอันตรายที่ลูก ๆ ไม่ควรเข้าใกล้เอาไว้ พร้อมเตือนลูกให้อยู่ห่าง ๆ คนประเภทนี้ให้มากค่ะ

 

3. เพื่อนบ้านที่ลดค่าของบ้าน

 

เขาอาจเป็นเพื่อนบ้านที่ดีกับคุณ แต่กับบ้านของเขาอาจไม่ใช่ เพื่อนบ้านกลุ่มนี้คือคนที่ไม่ค่อยดูแลรักษาบ้านตัวเองเท่าที่ควร บ้านผุพังไม่ซ่อม ขยะไม่ทิ้ง ปล่อยให้เหม็นคลุ้ง บ้างก็ปล่อยต้นไม้ต้นหญ้าขึ้นรกเรื้อ ไม่เคยตัดเล็มให้สวยงาม ทำเอาเพื่อนบ้านเสียวว่าจะมีงูจากบ้านเพื่อนบ้านเลื้อยเข้ามาบ้านตัวเองเข้า สักวัน แถมถ้าคุณจะขายบ้านหลังนี้ ไปซื้อบ้านใหม่ก็ไม่มีใครอยากซื้อต่อ (เพราะคุณเพื่อนบ้านนี่เอง)

 

ทางแก้ที่ช่วยได้คือ การคุยกับเขาให้เข้าใจในปัญหาที่เกิดขึ้น (และทำให้บ้านคุณเดือดร้อนไปด้วย) รวมถึงรับฟังถึงสาเหตุที่เขาไม่ดูแลบ้านตามสมควร เผื่อจะมีทางออกร่วมกันค่ะ

 

4. เพื่อนบ้านจอมวุ่นวาย

 

เขาเป็นเพื่อนบ้านที่สร้างความรำคาญให้กับคุณและครอบครัว เช่น ถือวิสาสะเข้ามาหาคุณถึงในบ้าน มานั่งคุยนาน ๆ มาขายบัตรเครดิต หรืออาหารสุขภาพสารพัดแบรนด์ หรือบางทีก็พาลูกมาถล่มบ้านคุณเสียยับเยิน ไล่อย่างไรก็ไม่กลับ แนวทางจัดการสำหรับผู้มีเพื่อนบ้านประเภทนี้คือ ปิดบ้าน ล็อกกุญแจ ไม่ต้อนรับเขาบ้าง ก็ไม่ผิด หรือเสียมารยาทมากไปนักค่ะ

 

5. เพื่อนบ้านที่ชอบสร้างความยุ่งยากให้คุณ

 

คนเหล่านี้มักจะทำให้ชีวิตของคุณและครอบครัวต้องยุ่งยากทั้งที่ไม่ ควรจะเป็น เช่น เขามักจะจอดรถขวางทางเข้าบ้านคุณอยู่เสมอ ทางแก้คือการสื่อสารให้เข้าใจว่า ครอบครัวคุณมีปัญหาจากการกระทำของเขา (แบบสุภาพ)

 

แต่ทีมงานก็เชื่อค่ะว่า มีท่านผู้อ่านอีกหลายท่านที่อยากแสดงความเห็นว่า "ทำไมฉันจะต้องทำดีคนแบบนี้ ทำไมฉันต้องอดทนถ้าเจอคนแบบนี้ เป็นฉัน ๆ จะ.....ฯลฯ"

 

เราก็ขอเรียนว่า จริง ๆ แล้วการจัดการด้วยความรุนแรงมันไม่ใช่หนทางที่จะจบปัญหาได้ บางครั้งเราจึงต้องอดทนให้มาก อย่าไปต่อล้อต่อเถียง อย่าไปเอาชนะคะคานกับเพื่อนบ้านที่มีลักษณะของคนพาลทั้ง 5 ประการดังที่กล่าวมาข้างต้น ทั้งหมดก็เพื่อให้ครอบครัวของเราอยู่ในบ้านอย่างมีความสุขเท่านั้นเองค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก frontdoor.com

 

[ginger 11,058]

วันที่ 11 ธันวาคม 2554 07:15

"โต้คลื่น"

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

 

 

• ภาพประกอบข่าว
  

ถูกแก้ไข ธันวาคม 11, 2011 โดย ginger

[kh.sathit 13]

ขอบคุณ คุณGingerครับ

 

ที่เจอก็จะหลายแบบปนๆกันน่ะนะ

ตะกี้ก็ไปช่วยเด็กแต่งรั้วกวาดใบไม้เลยถึงไปจรดหน้าประตูท่านๆเลย

ทักทายท่านฑูต(บริวารชาวต่างประเทศของเพื่อนบ้าน)เล็กน้อย..บรรยากาศยังราบรื่น..ถือว่ายังมีกำไรครับ

[ลูกน้ำเค็ม 14]

ขอบคุณครับ คุณginger

[Mr.Lee 0]

สวัสดีchez news ginger moddang และเพื่อนๆทุกคนครับ

[ย่าหยา 395]

บ่ายวันอาทิตย์

 

สวัสดีจ๊ะ ginger(ไม่เคยหยุด..) มดแดง(ผักผ่อนอยู่..?) news (วันหยุด...) chinchilla(ยังงงง ไม่มา)...

 

สวัสดีจ๊ะ เพื่อนๆทุกๆคน

 

 

เช้านี้อากาศไม่เย็นสบายแล้วนา..เริ่มหนาวแล้ว! ลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดแรงตั้งแต่เมื่อวานค่ำ เมื่อคืนเพื่อนๆหลายคนคงได้เห็นพระจันทร์สีส้ม

 

สีอิฐ สีเทา สีเทาแซมแสด กันแล้วนะจ๊ะ สวยไปอีกหลายแบบ หลายสี ปกติเราได้แต่เห็นพระจันทร์สีนวล หรือเหลืองอ่อนเข้มแล้วแต่สภาวะแถม

 

ได้เห็นกระต่าย(ซึ่งย่าหยาพยายามมองว่าเป็นกระต่าย)ในดวงจันทร์ ซึ่งถูกบอกย้ำมาตั้งแต่เด็กๆ สมัยเด็กๆมีนิทานหรือเรื่องเล่ากันมาเกี่ยวกับพระจันทร์

 

ในแบบไทยๆก็ราหูอมจันทร์ แล้วก็แบบจีนก็จะเปรียบพระจันทร์เป็นหญิงสาวสวย เวลาที่จันทรุปราคา หรือราหูอมจันทร์ แม่มักจะบอกว่า ...

 

"มนุษย์ และสัตว์ ยังรู้จักหลบหลีกเลี่ยงเมื่อภัยจะมา พระจันทร์และพระอาทิตย์ก็ยังต้องหลบหลีกเลียงซ่อนเล้นเช่นกัน"

 

เหมือนกับเป็นการเปรียบเทียบ ภาษาธรรมของชาวจีนทะเล "ภัยใดที่จะเกิดก็ต้องเกิดไม่ว่าบุคคลใด เพียงแต่มีสติสัมปชัญญะ รู้เท่าทัน และแก้ไขอย่างไร

 

โดยบางครั้งก็ต้องอดทน และเพียรพยายามทำในสิ่งที่ดี แล้วความไม่ดี(ความมืด ความอึมคลึม ความทุกข์) ทั้งหลายก็จะผ่านพ้นไป ดังเช่นที่พระจันทร์

 

ได้ถูกเงาดำคลุมอยู่...แล้วสว่างขึ้นเหมือนเดิม.

 

สุข สมหวัง เป็นของเพื่อนๆทุกๆคนนะจ๊ะ

[เด็กสยาม 172]

สวัสดีวันหยุดจ้า เมื่อคืนได้ดูพระจันทร์สวยแต่เมื่อเช้ามืดสวยกว่า สว่างและทรงกรดสวยงามมากทำให้เป็นท้องฟ้ายามค่ำคืนกระจ่างใสเหมือนกลางวันเลยลมพัดเย็นๆ คนที่อยู่ตจว.คงหนาวน่าดู แต่ที่แน่ๆคนกทม.คงเตรียมตัวรับลมหนาวหลังจากรับน้องน้ำมาพักใหญ่

 

คุณChez(เข้ามาบ้านได้แล้ว)Mr.Lee(หายไปแต่กลับมาแล้ว)^-----^

คุณGoldOfCourseขอบคุณมากค่ะคริปสวยมากๆ ไม่มีโอกาศได้ไปดูดีที่เอามาฝากจะได้ดูกันเยอะๆ"ทรงพระเจริญ"

คุณมดแดง แข็งแรง สู้ ๆค่ะ คุณย่าหยาสาวปากน้ำ เรียนรู้จักน้ำปรับใช้กับชีวิต ชอบค่ะสู้ดี มองโลกในแง่ดีด้วย

คุณginger รูปดอกบัวสวยมากค่ะ ขอบคุณสำหรับข่าวสารและบทความดีๆที่มีมาให้เพื่อนๆประจำ เพื่อนบ้านสุดแสบที่ไม่น่าอยู่ใกล้เลย

 

บทเรียนที่ได้จากทุกวันที่ได้พบ ทั้งสุขทั้งทุกข์ เป็นบททดสอบความเป็นคนของเรา

น้ำที่ผ่านมา ในที่สุดก็ผ่านไป ทองที่ขึ้นไป ในที่สุดก็ตกลงมา(จะเป็นอย่างนี้อีกหลายรอบ)

ทุกข์ที่เข้ามาให้เราได้เรียนรู้ แก้ไข ก้าวผ่านไปอย่างเข้มแข็ง

สุขที่เข้ามา ทำให้เรารู้ว่าเมื่อเราผ่านทุกข์ได้ เราก็สุข

ตราบเท่าที่เรายังมีลมหายใจก็ขอให้สู้ต่อไป ท้อได้ แต่อย่าหมดหวัง>_______<

 

ปล.เพื่อนๆที่เก็บกวาดทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลด ระวังตัวด้วยใส่ถุงมือและผ้าปิดปากให้เรียบร้อย

การหายใจและสัมผัสถูกเชื้อราโดยตรงอาจทำให้แพ้ได้ กรณีที่เป็นภูมิแพ้อยู่แล้วต้องระวังตัวด้วยนะค่ะ

เป็นห่วง

 

 

[ginger 11,058]

http://www.naewna.com/news.asp?ID=291603

 

http://www.naewna.com/news.asp?ID=291612

[ginger 11,058]

สวัสดีวันหยุดจ้า เมื่อคืนได้ดูพระจันทร์สวยแต่เมื่อเช้ามืดสวยกว่า สว่างและทรงกรดสวยงามมากทำให้เป็นท้องฟ้ายามค่ำคืนกระจ่างใสเหมือนกลางวันเลยลมพัดเย็นๆ คนที่อยู่ตจว.คงหนาวน่าดู แต่ที่แน่ๆคนกทม.คงเตรียมตัวรับลมหนาวหลังจากรับน้องน้ำมาพักใหญ่

 

คุณChez(เข้ามาบ้านได้แล้ว)Mr.Lee(หายไปแต่กลับมาแล้ว)^-----^

คุณGoldOfCourseขอบคุณมากค่ะคริปสวยมากๆ ไม่มีโอกาศได้ไปดูดีที่เอามาฝากจะได้ดูกันเยอะๆ"ทรงพระเจริญ"

คุณมดแดง แข็งแรง สู้ ๆค่ะ คุณย่าหยาสาวปากน้ำ เรียนรู้จักน้ำปรับใช้กับชีวิต ชอบค่ะสู้ดี มองโลกในแง่ดีด้วย

คุณginger รูปดอกบัวสวยมากค่ะ ขอบคุณสำหรับข่าวสารและบทความดีๆที่มีมาให้เพื่อนๆประจำ เพื่อนบ้านสุดแสบที่ไม่น่าอยู่ใกล้เลย

 

บทเรียนที่ได้จากทุกวันที่ได้พบ ทั้งสุขทั้งทุกข์ เป็นบททดสอบความเป็นคนของเรา

น้ำที่ผ่านมา ในที่สุดก็ผ่านไป ทองที่ขึ้นไป ในที่สุดก็ตกลงมา(จะเป็นอย่างนี้อีกหลายรอบ)

ทุกข์ที่เข้ามาให้เราได้เรียนรู้ แก้ไข ก้าวผ่านไปอย่างเข้มแข็ง

สุขที่เข้ามา ทำให้เรารู้ว่าเมื่อเราผ่านทุกข์ได้ เราก็สุข

ตราบเท่าที่เรายังมีลมหายใจก็ขอให้สู้ต่อไป ท้อได้ แต่อย่าหมดหวัง>_______<

 

ปล.เพื่อนๆที่เก็บกวาดทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลด ระวังตัวด้วยใส่ถุงมือและผ้าปิดปากให้เรียบร้อย

การหายใจและสัมผัสถูกเชื้อราโดยตรงอาจทำให้แพ้ได้ กรณีที่เป็นภูมิแพ้อยู่แล้วต้องระวังตัวด้วยนะค่ะ

เป็นห่วง

 

สวัสดี เด็กสยาม ขอบคุณกำลังใจและความห่วงใยทื่มอบให้เพื่อนๆของเราทุกคน

 

ดูแลต้วเองและคนรอบขัางเป็นห่วงเช่นกัน

 

สู้นะพวกแค่นี้สักพักคงผ่านไป คิดดี ทำดีเพื่อความภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย

 

 

[ginger 11,058]

"สมเด็จพระเทพฯ"โปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์ ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จ.ลพบุรี

 

 

 

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ พล.อ.เจษฎา ศรีสุภาพ รองสมุหราชองครักษ์ เป็นผู้แทนในพระองค์ ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลและช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ต.บางขันหมาก และ ต.ท้ายตลาด อ.เมืองลพบุรี โดยมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ในพื้นที่ ให้การต้อนรับ

 

พร้อมกันนี้ พล.อ.เจษฏา ยังได้นำคณะลงพื้นที่ตรวจดูสภาพความความเสียหายอย่างหนักจากอุทกภัย ณ ร.ร.วัดหนองแก้ว หมู่ 11 ต.บางขันหมาก และ ร.ร.วัดหลวงท้ายตลาดหมู่ที่ 2 ต.ท้ายตลาด อ.เมือง ซึ่งโรงเรียนทั้ง 2 แห่ง ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2.50 เมตร มาเป็นเวลากว่า 2 เดือน แต่ขณะนี้ระดับน้ำได้ลดลงใกล้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยมีน้ำท่วมขังอยู่ภายในโรงเรียน และอาคารเรียนชั้นล่าง อีก 20-30 เซนติเมตร ซึ่งยังไม่สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ นักเรียนต้องเดินทางไปเรียนที่โรงเรียนชั่วคราว ที่อยู่ในลักษณะกางเต็นท์เรียนริมถนน

 

นอกจากนี้ยังได้เยี่ยมผู้ประสบภัย ซึ่งบ้านถูกกระแสน้ำพัดเสียหายทั้งหลังอีกกว่า 20 หลังคาเรือน และเสียหายบางส่วนเกินกว่าร้อยละ 50 อีกกว่า 300 หลังคาเรือน โดยเบื้องต้นได้มอบหมายให้ตำรวจตระเวนชายแดน และหน่วยทหารในพื้นที่ บูรณาการร่วมกัน เร่งดำเนินการฟื้นฟูสภาพความเสียหายของโรงเรียน และซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่เสียหายให้กลับคืนสภาพเดิมโดยเร็ว

 

 

วันที่ 11/12/2011