ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
aunson

บรรยากาศทองคำ ณ ช่วงเวลานี้ BY Rจานอั๋น

โพสต์แนะนำ

สวัสดีครับทุกคนสวัสดีตอนเย็นของวันที่ 10-1-2012 เวลา 16.24 น.

 

เมื่อวานราคาทองคำเปิดตลาดมาที่ 1659.80 เหรียญ มีราคาสูงสุดที่ 1665.83 เหรียญ

 

มีราคาสูงสุดที่ 1651.28 เหรียญ มีราคาปิดตลาดที่ 1657.25 เหรียญ

 

รวมทั้งวันวิ่งรวมทั้งหมด 14 เหรียญ มี Volume การซือ้-ขาย 48535 สัญญาลดลงจากเมื่อวาน 2559 สัญญา

 

การเคลื่อนไหวของราคาทองคำเมื่อวานเคลื่อนตัวเป็นไปในลักษณะ Side Ways UP อยู่ในกรอบ 1650-1670 = 20 เหรียญ

 

หลังจากนั้นไม่ผ่านแนวต้าน ราคาทองคำจึงแรงขายออกมา และสะสมกำลังก่อนขึ้นทดสอบแนวต้าน ต่อไปอีกครั้ง

 

วันนี้มีแนวต้านแนวรับดังนี้

 

แนวต้าน 1663-1666 เหรียญ ไม่ผานระวังแรงขาย*** 1677 ระวังแรงขาย *** 1680-1700 ระวังแรงขาย ******.

 

สรุป ระยะนี้แนวต้าน ถ้าราคาทองคำขึ้นไปทดสอบแนวต้านเมื่อไหร่ ราคาทองคำจะถูกแรงขายออกมาก่อน หลังจากนั้น

 

ราคาจะลงมาทดสอบแนวแนวรับ และติดตามดูวาแนวรับ ณ ขณะนั้น จะสามารถรับอยู่หรือไม่ ครับ

 

แต่ภาพโดยรวมแล้ว แนวต้าน ที่ต้องระวังแรงขายมากที่สุดในระยะนี้ คือ 1670-1700 ****** เหรียญเป็นต้นไปครับ

 

แนวรับ 1651 **** 1644-1640 ไม่สมควรหลุด *** 1633 ***

 

สรุป แนวรับ ระยะนี้ ราคาทองคำมีแนวโน้มขึ้นทดสอบแนวต้าน ก่อน หลังจากนั้นไม่ผ่านราคาทองคำก็จะลงมาทดสอบแนวรับ

 

โดยแนวรับที่น่าติดตามวันนี้ ฐานแนวรับจะขยับขึ้นมาติดตามแนวรับที่สำคัญอยู่ใน 1650 ***** เป็นจุดเตื่อนหากราคาทองคำหลุดลงไปครับ

 

และมี แนวรับหลักในระยะนี้ ที่สำคัญต้องรับให้อยู่ในระดับ 1640-1620 เหรียญ

 

กรอบเล็ก 1640-1670 = 30 เหรียญ

 

กรอบใหญ่ 1630-1680 = 50 เหรียญ

 

กรอบSide ways ระยะสั้น 1650-1670 = 20 เหรียญ

 

วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญดังนี้

 

1. เวลา 20.30 น. ยอดคำขอรับสวัสดิการ คาดการณ์ส่งผลลบต่อราคาทองคำ

 

2. เวลา 22.00 น. ยอดสต๊อคสินค้า ภาคค้าส่ง คาดการณ์ไม่ส่งผลต่อสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ

 

DJPO8N.gif

 

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้ต่อไปไม่รู้จบ :Announce

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

image-4FC7_50EF7041.gif

 

 

 

Good Morning News 11 มกราคม 2556 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

426830_3660110001249_877386915_n.jpg

385204_3660131881796_313406717_n.jpg

  • รัฐบาลสเปนสามารถประมูลพันธบัตรได้ 5.8 พันล้านยูโร สูงกว่าเป้าหมายของการประมูลที่ 5 พันล้านยูโร โดยตั้งเป้าที่จะออกพันธบัตรในปีนี้ให้ได้ 7.1 หมื่นล้านยูโร เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งเป็นที่ 5.71 หมื่นล้านยูโร หรือเพิ่มขึ้นอีก 24%
  • รองประธานองค์กรนายจ้างของสเปน กล่าวว่า รัฐบาลและกลุ่มนายจ้างสเปนกำลังจัดทำสัญญาจ้างงานสำหรับคนรุ่นหนุ่มสาวเพื่อช่วยลดอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในกลุ่มประเทศยูโรโซน ทั้งในแง่การว่างงานทั่วไปและการว่างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาว ซึ่งอยู่ที่ 26.6% และ 56.5% ตามลำดับ
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของฝรั่งเศสในเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือน พ.ย. และเพิ่มขึ้น 1.3% จากเดือน ธ.ค. ปี 2554 โดยปัจจัยที่หนุนให้เพิ่มขึ้นคือต้นทุนการขนส่งและราคาสินค้ากลุ่มสื่อสารที่เพิ่มสูงขึ้น
  • .กลางยุโรป มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75%ตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่และไม่ได้ประกาศใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม
  • .กลางอังกฤษ มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) และจะไม่ขยายโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 3.75 แสนล้านปอนด์ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
  • ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเดือน พ.ย. (ใช้คาดการณ์เศรษฐกิจใน2-3 เดือนข้างหน้า)ลดลงมาอยู่ที่ 91.9 จาก 92.8 ในเดือน ต.ค. ขณะที่ ดัชนีพ้องเศรษฐกิจอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 90.1 จาก 90.7 ในเดือน ต.ค. โดยการที่ร่วงติดต่อกัน 8 เดือน ตอกย้ำถึงเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลงของประเทศ
  • .ศุลกากรจีน เปิดเผยว่า การค้าต่างประเทศของจีนในปีนี้จะดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว แม้ว่ายังมีสถานการณ์ความไม่แน่นอนต่างๆ อย่างไรก็ตาม จีนจะยังคงเผชิญบรรยากาศการค้าต่างประเทศที่เป็นอุปสรรคจากผลพวงอุปสงค์ซบเซา ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ยอดสั่งซื้อที่ลดลง และการกีดกันทางการค้า

  • .เศรษฐกิจความรู้ของเกาหลีใต้ ระบุว่า ยอดส่งออกของผู้ผลิตรถยนต์ 5 แห่งได้แก่ ฮุนได มอเตอร์ เกียมอเตอร์ จีเอ็มโคเรีย เรโนลต์ ซัมซุงมอเตอร์ และซันยองมอเตอร์ อยู่ที่ 3,165,689 คันในปี 2555 เพิ่มขึ้น 0.4% จากปีก่อนหน้า ซึ่งลดลงอย่างมากจากอัตราขยายตัวที่ 13.7% ในปี 2554 เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอจากฝั่งยุโรปที่เผชิญวิกฤติหนี้สาธารณะ
  • .กลางอินโดนีเซีย คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.75% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในเดือน ธ.ค.ยังคงชะลอตัว ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์หลายคนกล่าวว่าความเสี่ยงของแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอาจทำให้ธนาคารกลางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
  • .สถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า รายได้จากการส่งออกของประเทศในเดือน พ.ย. อยู่ที่ 3.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากยอดส่งออกผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น โดยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทำรายได้ให้กับฟิลิปปินส์ราวๆ ครึ่งหนึ่งของรายได้ส่งออกทั้งหมด
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย ระบุว่า ค่าเงินบาทในช่วงครึ่งปีแรกนี้ไม่ควรจะแข็งค่าจนต่ำกว่า 30 บาท/ดอลลาร์ เพื่อจะได้ช่วยหนุนการส่งออกในปีนี้ให้เติบโตได้ที่ 8-9% ตามที่ ก.พาณิชย์ตั้งเป้าหมายไว้ โดยมองว่าควรอยู่ในช่วง30.00-30.50 บาท/ดอลลาร์นอกจากนี้ ยังเปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค.ว่าอยู่ที่ 80.2 จาก 79.1 ในเดือนก่อนหน้า สูงสุดในรอบ 15 เดือน โดยดัชนีปรับตัวดีขึ้นทุกรายการ ทั้งความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม เกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต

  • กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมต.คลัง ยืนยันว่า การใช้เงินกู้ของ ธ.ก.ส.ในโครงการรับจำนำข้าวฤดูกาลผลิต 2555/56 ยังคงอยู่ที่ 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการใช้ และไม่จำเป็นต้องค้ำประกันเงินกู้เพิ่มให้แก่ ธ.ก.ส.อีก โดยกรอบการค้ำประกันเงินกู้ของรัฐวิสาหกิจจะยังคงอยู่ที่ 20% หรือ 4.8 แสนล้านบาทของงบประมาณรายจ่ายที่ 2.4 ล้านล้านบาทเหมือนเดิม ไม่มีการลดกรอบดังกล่าวเพื่อโครงการใดอย่างแน่นอน

  • อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า ก.ต่างประเทศจะเร่งเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา เพื่อหาข้อสรุปในการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม โดยเฉพาะการนำก๊าซธรรมชาติในพื้นที่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ของทั้ง 2 ประเทศ เพราะจะช่วยสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของไทย และรองรับปริมาณความต้องการใช้ก๊าซที่ปรับตัวสูงขึ้นทุกๆปี
  • คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่น กทม. กำหนดวันรับสมัครผู้ว่าราชการ กทม. ในระหว่างวันที่ 21-25 ม.ค.นี้ และกำหนดให้วันที่ 3 มี.ค. 2556 เป็นวันเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม.

426970_3660136721917_1965968047_n.jpg

  • SET Index ปิดตลาดที่ 1,405.99 จุด ลดลง 17.47 จุด หรือ -1.23% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 81,270.08 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,631.20 ล้านบาท และมีการซื้อขายบิ๊กล็อต INTUCH มูลค่า 20,884.42 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 63.25 บาท โดยดัชนีค่อนข้างสวนทางกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค ซึ่งอาจจะมาจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน หลังจากตลาดปรับขึ้นมาหลายวัน

408684_3660140282006_987457765_n.jpg

  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วงระหว่าง 0.00% ถึง +0.03% โดยพันธบัตรระยะสั้น ต่ำกว่า 1 ปี ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับ อาจารย์

 

บาทแข็ง จนเซ็งเลยครับ

 

ทองขึ้นพอตัว เจอบาทเบรค ^^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

“ตนเตือนตนนั้นแหล่ะดีที่สุด” แต่..ขึ้นอยู่ที่ว่า ตนเองนั้นรู้สิ่งต่างๆ ที่เป็นเหตุสุขและเหตุทุกข์ดีแค่ไหน?

เมื่อมีความรู้แล้ว ก็จงใช้ความรู้นั้นมาเป็นความสามารถที่จะระงับดับเรื่องราวที่เกิดก่อสังโยชน์ให้จงได้

เพียงเท่านี้..เรื่องวุ่นวายใจ เรื่องไม่จริงใจ เรื่องบั่นทอนจิตใจที่จะทำให้เราท้อแท้ ย่อมปราชัยแน่นอน

เพราะ..บ่อยมากที่สังคมนี้ มีแค่ “ความหวังดีเพียงลมปาก” และก็เป็นเรื่องยากที่จะหยั่งรู้ได้ สมดังคำเตือนที่ว่า “จิตมนุษย์นี้ไซร้ยากแท้หยั่งถึง”

ดังนั้น..การหลบระวังภัยก็คือต้องเริ่มที่ใจของเราเอง.....

 

ที่มา : ขิปฺปสิทฺโธภิกฺขุ เชียงใหม่....

 

538567_404593019614861_100267014_n.jpg

ถูกแก้ไข โดย กระต่ายทอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

540836_120653084768928_693162114_n.jpg

 

10 ข้อคิดในการจัดการเงินปี 2556 - วรวรรณ ธาราภูมิ

โดย Analai Tone เมื่อ 12 มกราคม 2013 เวลา 22:52 น. ·

 

 

1. จัดทำแผนรายได้ ค่าใช้จ่าย ประจำปี 2556

 

จุดเริ่มต้นดีที่สุดคือให้เริ่มจากการทำบัญชีรับจ่ายของเราและครอบครัวที่อยู่ในอุปการะของเรา โดยแยกเป็นรายเดือน เพราะเมื่อรู้ที่มาของเงินได้ กับรู้ว่าเงินเราจะออกไปจ่ายทางไหนได้บ้างแล้ว เราจะเริ่มพิจารณาวางแผนทางเลือกอย่างน้อยก็ด้านรายจ่ายได้ว่าควรจะจ่ายอะไร เมื่อไหร่ ทั้งนี้ อย่าลืมใส่รายการผ่อนชำระหนี้ และดอกเบี้ยเงินกู้ด้วย (ถ้ามี) นอกจากนี้ ก็ใส่รายจ่ายขาจรที่ไม่ได้เกิดประจำเป็นรายเดือน เช่น ค่าส่วนกลางคอนโดมิเนียม ค่าเล่าเรียนบุตร เบี้ยประกันชีวิตและประกันภัย ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต ค่าบำรุงรักษาที่อยู่อาศัยและยานพาหนะ ค่าทำฟัน ฯลฯ

 

2. กันเงินสำรองฉุกเฉิน

 

เงินสำรองฉุกเฉินนี้เป็นส่วนที่เราจะไม่ไปใช้เลยยกเว้นมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น การเจ็บป่วย การตกงาน ฯลฯ เงินส่วนนี้สำคัญมากเพราะมันจะทำให้เราดำเนินชีวิตตามปกติ ทำให้เรามีเงินจ่ายตาม ภาระที่มีอยู่ไปได้ช่วงหนึ่งโดยไม่ต้องทุรนทุราย ส่วนจำนวนที่ควรกันเอาไว้นั้น แนะนำให้คำนวณว่า หากตกงานแล้วเราคาดว่าจะหางานทำได้ภายในกี่เดือน เอาจำนวนเดือนนี้ไปคูณกับรายจ่ายที่จะ เกิดขึ้นในระยะเดียวกัน เช่นหากเราคาดว่า อย่างเลวร้ายที่สุดเราจะหางานทำได้ใน 6 เดือน เราก็ใช้ 6 เดือนไปคูณกับรายจ่ายใน 6 เดือนข้างหน้า

 

เมื่อได้เงินจำนวนนี้แล้วว่าเป็นเท่าไร ก็อย่าลืมเอาไปไว้ในที่ที่ปลอดภัย และสามารถถอนออกมาใช้ได้ทันทีในยามฉุกเฉินเมื่อมีเหตุจำเป็น เช่น ฝากออมทรัพย์ หรือเอาไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ประเภทที่ให้เราถอนได้เป็นรายวันเช่นกัน ซึ่งในปัจจุบันนี้เมื่อเทียบเงินฝากออมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ 0.75% ต่อปีแล้ว กองทุนประเภทนี้ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่ามาก คืออยู่ที่ประมาณ 2.3%-2.6% ต่อปี ซึ่งประเด็นหลักในการตัดสินใจหากจะนำไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้นี้ก็คือ ที่ผลตอบแทนในระดับกว่า 2% พอๆ กันนั้น การตัดสินใจเลือกของเราจะไม่ใช่อยุ่ที่กองทุนไหนให้ผลตอบแทนคาดหวังที่สูง ที่สุดเพราะมันไม่ต่างกันเท่าไร ไม่ได้ทำให้รวยขึ้นเท่าไร แต่จะเป็น 2 เรื่องคือ 1. กองทุนไหนปลอดภัยที่สุด และ 2. กองทุนไหนที่ถอนได้สะดวกที่สุด

 

 

3. ทบทวนและวางแผนการคุ้มครองตนเองและครอบครัว

 

ก่อนที่จะลงทุน ขอให้กันเงินส่วนหนึ่งไว้เป็นการคุ้มครองตนก่อน เพราะหากเกิดเหตุใดใดขึ้น เราจะไม่เดือดร้อน และอย่าลืมว่าเหตุมักเกิดเมื่อเราเลิกทำประกัน

 

การทำประกันที่จำเป็น

 

- ประกันการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัย

 

เมื่อเรายังมีภาระผ่อนบ้าน เราก็มีความเสี่ยงแล้ว เพราะหากเราผู้ทำรายได้ให้ครอบครัวเกิดเป็นอะไรไป แล้วคนข้างหลังไม่มีปัญญาผ่อนต่อ บ้านก็จะถูกยึด ครอบครัวจะไม่มีที่อยู่อาศัย ซึ่งจะเป็นเรื่องที่น่าสลดใจที่สุด เราก็ตายตาไม่หลับ ดังนั้น เราต้องทำประกันเรื่องนี้ไว้ ซึ่งสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้มักจะมีให้ แต่ขอให้เราใช้เวลาเปรียบเทียบกับข้อเสนอของบริษัทประกันที่มั่นคงที่อื่นด้วย เพราะสถาบันการเงินที่เรากู้อาจไม่ได้ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุดแก่เราก็ได้ โดยเราจะเลือกทำประกันกับบริษัทประกันที่มั่นคงสูง และมีค่าใช้จ่ายรวมต่ำที่สุดในเงื่อนไขวงเงินประกันเท่าๆ กัน

 

- ประกันที่อยู่อาศัยจากอัคคีภัย ภัยธรรมชาติ ภัยจากการก่อการร้ายและวินาศกรรม

 

เรื่องนี้เราหลายคนคงพบมาทุกเหตุการณ์แล้ว และคงเห็นความสำคัญของการทำประกันภัยเอาไว้ จึงไม่ต้องอธิบายให้มากความ

 

- ประกันการใช้ยานพาหนะและอุบัติเหตุ

 

นอกจากจะทำประกันตามที่ พรบ.บังคับแล้ว ขอให้พิจารณาทำประกันชั้นหนึ่งหากเป็นไปได้ เพราะถ้าไม่มี เราจะมีรายจ่ายเพิ่มเมื่อเกิดเหตุ อันอาจจะเป็นหลักหลายแสน หรือเป็นล้าน ซึ่งอาจทำให้เราต้องไปดึงเงินในส่วนสำรองฉุกเฉินโดยไม่ควร หรือดึงมาจนหมดก็ไม่พอจ่ายก็ได้

 

หลักในการเลือกบริษัทประกันภัย นอกจากจะเหมือนข้อต้นๆ แล้ว จากประสบการณ์ส่วนตัว ขอแนะนำให้เลือกที่ที่เรามีคนรู้จักสนิทสนมทำงานในบริษัทนั้นๆ ด้วย เพราะมันจะทำให้อะไรๆ ง่ายขึ้นเมื่อเกิดเหตุ

 

- ประกันสุขภาพของตนและคนในครอบครัว

 

แม้ว่าตัวเราเองนั้นอาจจะมีความคุ้มครองจากบริษัทหรือองค์กรที่เราเป็นลูกจ้างอยู่แล้ว แต่เรามักจะละเลยคนในความอุปการะของเรา ซึ่งเขาก็มีเจ็บ มีป่วยได้

 

เมื่อเจ็บป่วยทีมันก็เป็นเงินไม่น้อยโดยเฉพาะถ้าต้องเข้าไปนอนในโรงพยาบาล ซึ่งจะมีค่านั่นค่านี่ใส่ลงมาในใบแจ้งหนี้โดยที่เราไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร และต่อรองก่อนใช้บริการก็ไม่ได้ และในบางกรณีเราพบแพทย์เพียง 10 นาที แต่มีค่าธรรมเนียมแพทย์ ค่าคำปรึกษาแพทย์ในจำนวนไม่น้อยเลย หากหารเป็นค่าใช้จ่ายต่อนาทีแล้ว สักวันมันอาจจะสูงกว่าค่าปรึกษานักกฏหมายเก่งๆ ระดับประเทศ อย่าง ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร ก็ได้

 

วิธีเลือกใช้ประกันสุขภาพกับที่ไหนนั้น มี 2 แนวทาง คือหากบริษัทหรือองค์กรที่เราทำงานนั้น ทำกับที่ไหน เราจะรู้ถึงคุณภาพในการให้บริการจากประสบการณ์ของเราและเพื่อนๆ ในที่ทำงานแล้ว หากดี เราก็เลือกได้

 

อีกวิธีคือหากเรามีญาติหรือเพื่อนสนิทเป็นแพทย์ พยาบาล หรือบุคคลากรในโรงพยาบาล เขาเหล่านั้นจะให้คำแนะนำได้ดีที่สุดว่าเราควรเลือกที่ไหน เพราะเขามีประสบการณ์ และสามารถแนะนำแพกเกจที่เหมาะสมกับค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวเราได้ดีกว่าใคร ซึ่งเมื่อเขาเป็นญาติหรือเพื่อนสนิทของเราแล้ว เราน่าจะหมดความกังวลไปได้ว่าเขาจะแนะนำเพื่อประโยชน์ของตนมากกว่าประโยชน์ของเรา

 

- ประกันชีวิตและอุบัติเหตุ

 

เรื่องนี้หากเราไม่มีทายาท ไม่มีใครที่เราอยากให้เงิน หรือมี แต่เขาสามารถเลี้ยงดูตนเองได้ เราก็ไม่ต้องไปทำประกันชีวิตให้เสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์แม้ว่าจะนำไปลดหย่อนภาษีได้ ให้ทำแต่ประกันอุบัติเหตุก็พอ

 

กุญแจสำคัญของการทำประกันชีวิตโดยเฉพาะประเภทที่มีอายุยาวนานนั้น ไม่ใช่ผลตอบแทนที่เขาบอกว่ามากเท่านั้น เท่านี้ เพราะนั่นไม่ใช่หัวใจหลักของการทำประกัน และนอกจากนี้เขามักจะบอกอัตราผลตอบแทนที่มีวิธีคิดคนละแบบกับผลตอบแทนของการฝากเงินหรือการลงทุน ซึ่งหากคำนวณด้วยวิธีเดียวกันแล้วมักจะต่ำกว่าที่แจ้ง

 

หลักสำคัญในการคัดเลือกบริษัทประกันคือความมั่นคงของบริษัทนั้นๆ เพราะหากบริษัทประกันซวดเซไป ที่สัญญาอะไรๆ กับเราไว้ก็จะทำไม่ได้ เรื่องรองลงมาคือความใส่ใจดูแลเราของตัวแทนจากบริษัทประกัน ต้องไม่ใช่ขายประกันแล้วก็แล้วกันไป ปล่อยให้เราตะเกียกตะกายแก้ปัญหาเองเมื่อเกิดปัญหา

 

นี่คือประกัน 5 ชนิดที่เห็นว่าจำเป็น ซึ่งแต่ละคนสามารถพิจารณาเลือกทำทั้งหมดหรือบางส่วน ให้เหมาะกับความคุ้มครองอันจำเป็นตามที่เราต้องการได้ เพราะบางคนหากจะทำทั้งหมดก็อาจทำไม่ได้ หรือไม่จำเป็นต้องทำในบางอย่าง

 

และเมื่อเราจัดเรื่องความคุ้มครองปกป้องไปจนครบแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะพิจารณาเรื่องวางแผนการลงทุนกันในสัปดาห์หน้า

 

4. ทบทวนและวางแผนลงทุน

 

เมื่อเราจัด 3 เรื่องแรกไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะพิจารณาเรื่องวางแผนการลงทุนกัน โดยก่อนจะลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่ เราต้องเริ่มทีละขั้นตอน จากเริ่มทำแบบทดสอบความเสี่ยงที่เรารับได้เสียก่อน ราจะได้ รู้จักตนเองให้ถ่องแท้ว่าเรารับได้แค่ไหนถึงจะไม่ทุรนทุรายกับความผันผวนในตลาดที่เกิดได้เสมอๆ ซึ่งแบบทดสอบความเสี่ยงนี้ ทุก บลจ.ก็ใช้คำถาม 10 คำถามเหมือนๆ กัน ผลที่ได้จะพอเป็นแนวทางให้เรากำหนดแนวทางลงทุนและสัดส่วนลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ และสำหรับคนที่มีแผนลงทุนอยู่ แล้ว ก็ควรจะทบทวนทำแบบสอบถามนี้ปีละครั้ง หรือ 2 ปีครั้ง เพื่อจะได้รู้ว่าเมื่อเวลาผ่านไป 1- 2 ปี เราเปลี่ยนไปบ้างแล้ว เราควรจะมีแนวทางจัดพอร์ตลงทุนอย่างไรในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ อย่างละ เท่าไร หากผลที่ได้เมื่อนำไปเทียบกับสัดส่วนพอร์ตในปัจจุบันมีความต่าง เราจะได้ตัดสินใจปรับ สมดุลย์ได้ (Rebalance) โดยสอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนของเรา

 

5. พิจารณาว่าเราจะบริหารพอร์ตลงทุนเอง หรือให้มืออาชีพบริหาร

 

ข้อคิดก็คือ มีเวลาเพียงพอไหม มีแรงเหลือไปทำเองไหม มีช่องทางเข้าถึงข่าวสารข้อมูลที่เพียงพอไหม และทำเองเป็นหรือไม่

 

6. เลิกไฝ่ฝันลมๆ แล้งๆ ว่าจะซื้อในราคาถูกที่สุดแล้วจะขายในราคาแพงที่สุดไปได้แล้ว

 

แม้ใครๆ ก็บอกให้ซื้อถูกขายแพง แต่ไม่ได้บอกให้หาจุดถูกที่สุดหรือแพงที่สุด เพราะไม่ว่าใครก็หาไม่เจอ และหากทำได้ก็เพราะบังเอิญเท่านั้น สิ่งที่ควรทำสำหรับผู้ลงทุนเองไม่ผ่านกองทุนก็คือ แสวงหาการลงทุนที่ตนถนัด เช่น ถ้าจะหาหุ้นมาลงทุน ก็เลิกไปวิ่งตามใคร แต่ให้ดูว่าที่เศรษฐกิจจะเติบโตไปใน ทิศทางไหนนั้น หุ้นตัวไหนจะได้ประโยชน์ แล้วก็กำหนดราคาที่ซื้อได้ กับราคาขายที่พอใจไว้เลย เรื่องอย่างนี้ เดี๋ยวนี้ แมงเม่าปีกเพชรบ้านเราเข้าใจดี และต้องเลิกมุ่งคิดที่จะเอาชนะตลาดไปได้เลย เพราะผู้ลงทุนส่วนมากไม่ชนะตลาด แต่ตลาดนั่นแหละที่จะชนะผู้ลงทุน โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่มีความรู้ ความ ชำนาญ หรือไม่มีเวลามากพอ

ส่วนผู้ลงทุนผ่านกองทุนรวมนั้น ให้ไปพิจารณาที่แนวคิด ที่ Investment Theme ที่สไตล์การลงทุนของ บลจ. ที่สนใจ หากพบว่าใช่ก็ใส่เงินเข้าไปในกองทุนที่มีนโยบายเหมาะสมกับเงินลงทุนแต่ละก้อนที่มีเป้าหมายลงทุนต่างกันได้เลย และจะให้ดีก็ต้องลงทุนเพิ่มเติมทุกเดือนโดยสม่ำเสมอ

 

เลิกมุ่งคิดที่จะเอาชนะตลาดไปได้เลย เพราะผู้ลงทุนส่วนมากไม่ชนะตลาด แต่ตลาดนั่นแหละที่จะชนะผู้ลงทุน โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่มีความรู้ ความชำนาญ หรือไม่มีเวลามากพอ

 

 

7. คำนวณเงินที่ต้องมีใช้ในวัยเกษียณ

 

น่าแปลกที่หลายคนกลัวว่าจะไม่มีเงินพอใช้ในวัยเกษียณ แต่หากถามกลับไปว่า ณ วันนี้มีเงินสะสมไว้เท่าไร หลายคนตอบไม่ได้ และที่แย่กว่านั้นคือไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเท่าไหร่ถึงจะพอ ที่แย่ที่สุดคือส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดบอกว่าไม่เคยมีแผนการเงินเลย

 

*** มันสำคัญมากที่เราจะต้องรู้ และมีแผนที่จะทำให้ถึงเป้าหมายนั้นมารองรับ

 

8. สำรวจบัญชีทรัพย์สิน

 

นี่ก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องทำบัญชีทรัพย์สินไว้ว่ามีอะไรบ้าง ทั้งบ้าน ที่ดิน เครื่องเพชรพลอย รูปภาพ การลงทุนต่างๆ เงินฝาก หนี้สิน เงินฝาก กรมธรรม์ประกันต่างๆ ฯลฯ

 

สิ่งสำคัญที่ทุกคนมักละเลยคือ มีทุกอย่างที่กล่าวถึง แต่ไม่ได้จดไว้ว่าหมายเลขบัญชีเป็นเท่าไร อยู่ที่ไหนบ้าง หากเกิดเห๖การณ์ไม่คาดฝันจะต้องติดต่อใคร เบอร์โทรศพัท์อะไร เรื่องพวกนี้เราต้องทำไว้ และสำเนาให้คนที่ไว้ใจได้สักชุดสองชุด

 

9. พินัยกรรม

 

หากรักและห่วงไยคนข้างหลัง จงทำพินัยกรรมให้เรียบร้อย และคอยอัพเดทปีละครั้ง อย่าปล่อยให้การจากไปของเราก่อให้เกิดเหตุน่าเศร้าเสียใจที่คนที่เรารักไม่ได้รับการส่งผ่านความมั่งคั่งจากเราไปอย่าง ที่เราอยากจะให้เป็น

 

10. แบ่งปันความมั่งคั่งให้ผู้ด้อยกว่า

 

เมื่อเราพอไหว ให้รู้จักการแบ่งปันส่วนน้อยของเราให้ผู้ด้อยโอกาสที่เราไม่จำเป็นต้องรู้จักบ้าง สังคมจะน่าอยู่ขึ้น หากเรารู้จักการเสียสละเงินไม่กี่ร้อยที่เราให้เขา มีค่าต่อเขายิ่งกว่าเงินหลายพันที่เราใส่ซองให้คู่สมรสในงานแต่งงานที่หรูหราค่ะ

 

 

วรวรรณ ธาราภูมิ

CEO กองทุนบัวหลวง

6 มกราคม 2556

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

image-E3CB_50F35D6F.gif

 

 

 

 

Good Morning News 14 มกราคม 2556 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

·

217986_3671903456078_1311054280_n.jpg

58216_3671908616207_925720452_n.jpg

  • บารัค โอบามา เสนอชื่อ เจคอบ ลิว หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาวให้ดำรงตำแหน่ง รมต.คลัง คนต่อไป แทน ทิม ไกธ์เนอร์ ทั้งนี้ หากวุฒิสภาลงมติเห็นชอบ ลิวจะเป็นรมต.คลังคนที่ 2 ในคณะทำงานของโอบามา แทนไกธ์เนอร์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยคนสำคัญด้านเศรษฐกิจคนเดียวที่เหลืออยู่ในทีมตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว
  • ก.คลังสหรัฐ เปิดเผยว่า รัฐบาลกลางสหรัฐขาดดุลงบประมาณ 260 ล้านดอลลาร์ในเดือน ธ.ค. โดยยอดขาดดุลใน 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556 ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 1 ต.ค.มีจำนวนทั้งสิ้น 2.92 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 9% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อนหน้า
  • ธ.กลางฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือน พ.ย.ลดลงมาอยู่ที่ 5 พันล้านยูโร จาก 5.1 พันล้านยูโรในเดือน ต.ค. ในขณะที่การลงทุนโดยตรงของฝรั่งเศสในต่างประเทศลดลงแตะ 2.9 พันล้านยูโรในเดือน พ.ย. สวนทางกับการลงทุนโดยตรงของต่างชาติในฝรั่งเศสที่เพิ่มขึ้นเป็น 4 พันล้านยูโร
  • ญี่ปุ่นประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 10.3 ล้านล้านเยน โดยจะใช้งบประมาณ 3.8 ล้านล้านเยนในการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยธรรมชาติซึ่งรมถึงพัฒนาระบบป้องกัน และจะใช้งบประมาณ 3.1 ล้านล้านเยนกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน ซึ่งคาดว่า จะกระตุ้นให้ GDP ขยายตัวในอัตรา 2% และจะสร้างงานได้ 600,000 ตำแหน่ง
  • ส.สถิติแห่งชาติจีน เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อเดือน ธ.ค.เป็น 2.5% อันเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นที่สุดในรอบ 28 ปีส่งผลให้ปริมาณพืชผลทางการเกษตรลดลง 2.3% ในเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอาจเป็นอุปสรรคต่อรัฐบาลใหม่ของจีนในการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

  • ธ.กลางเกาหลีใต้ลดประมาณการ GDP ปีนี้จาก 3.2% เป็น 2.8% หลังเศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยง และการลงทุนภาคเอกชนชะลอลง โดย ธ.กลางคาดว่าการลงทุนโดยบริษัทเอกชนปีนี้จะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงกว่าที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากความต้องการจากยุโรป และสหรัฐชะลอลง
  • ธ.กลางเกาหลีใต้ประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.75% โดยเป็นการคงอัตราดอกเบี้ย 3 เดือนติดต่อกัน ทั้งนี้ ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ประกาศว่าจะใช้จ่ายเงินงบประมาณ 201 พันล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ (72% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปีทั้งหมด)

  • ก.คลังญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน พ.ย. โดยอยู่ที่ 222.4 พันล้านเยน หลังยอดส่งออกลดลงจากการแข็งค่าขึ้นของเงินเยน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ค่าเงินเยนได้อ่อนลงมาสู่ระดับ 89 เยน/ดอลลาร์ แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง

  • ส.สถิติแห่งชาติอินเดีย เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ย. ลดลง0.1% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน หลังเพิ่มขึ้น 8.3% ในเดือนก่อนหน้า ทำให้คาดกันว่าธนาคารกลางอินเดียจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 29 ม.ค.นี้ เพื่อช่วยกระตุ้นการบริโภค ขณะที่นายกรัฐมนตรี มาน โมฮาน ซิงห์ มีแผนจะใช้นโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นการลงทุน

  • ธ.กลางฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น 32.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยมีปริมาณทุนไหลเข้าสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 7 เท่าไปอยู่ที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์ จาก 170 ล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า ทั้งนี้ เม็ดเงินลงทุนส่วนใหญ่มาจากสหรัฐ ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น และ หมู่เกาะเวอร์จิ้น โดยนำมาลงทุนในภาคการผลิต อสังหาริมทรัพย์ ค้าส่งและค้าปลีก การเงินและประกันภัย เหมืองแร่ กับ การขนส่งและคลังสินค้า

  • ส.อุตสาหกรรมยานยนต์ของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ยอดขายส่งรถยนต์แก่ผู้แทนจำหน่ายในปี 2555 พุ่งขึ้นสู่ 1.161 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้น 24.8% จากปีก่อนหน้าโดยยอดขายของฮอนด้าขยายตัวมากที่สุดถึง 50% เมื่อเทียบกับปี 2554 ส่วนยอดขายปลีกรถยนต์ก็เพิ่มขึ้นในเดือนธ.ค. ปีที่แล้วราวๆ 4.4% หรือ 101,866 คัน เมื่อเทียบกับในเดือน พ.ย. ที่เป็น 97,570 คัน

  • สภาแห่งชาติของเวียดนาม อนุมัติแผนการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจปี 2556 โดยเน้น การขยายตัวของ GDP ที่ 5.5% ภายใต้สมมติฐานที่ดัชนีราคาผู้บริโภคจะขยายตัว 6.0%-6.5% มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 10% และตั้งเป้าให้อัตราครัวเรือนที่ยากจนลดลง 2%นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมยอดขาดดุลงบประมาณให้อยู่ต่ำกว่าระดับ 4.8% ของ GDP ในปีนี้

  • กรมสรรพสามิต เตรียมเสนอของบกลางประจำปี 2556 แก่ ก.คลัง ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท เพื่อคืนเงินโครงการรถยนต์คันแรกในปี 2556 นี้ ซึ่ง ก.คลัง เคยตั้งงบประมาณในการคืนเงินในโครงการดังกล่าว 7 พันล้านบาท แต่ปรากฏว่า ผู้เข้าร่วมโครงการมีจำนวนที่สูงมากโดยซื้อรภไป1.25 ล้านคัน และเป็นเงินคืนในโครงการรถยนต์คันแรก 9.1 หมื่นล้านบาท

734110_3671909216222_194314915_n.jpg

  • SET Index ปิดตลาดที่1,412.06 จุด เพิ่มขึ้น 6.07 จุด หรือ 0.43% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 54,895.01 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 60.21 ล้านบาท ทั้งนี้ SET Index ขยับขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากมีแรงเทขายจากในช่วงเช้าจากโบรกเกอร์ซึ่งเป็นผู้ขายสุทธิหลัก แต่ดัชนีกลับขึ้นมาได้จากการที่นังลงทุนเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

602769_3671910136245_550706878_n.jpg

  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วงระหว่าง 0.00% ถึง +0.05% สำหรับวันนี้ไม่มีการประมูล

424126_3672189183221_1003896352_n.jpg

  • สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า เวสต์เท็กซัส เดือน ก.พ.ปรับตัวขึ้น 6 เซนต์ไปแตะ 93.88 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่า ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่สุดของโลกได้ลดปริมาณการผลิตลง 4.9% หรือ 465,000 บาร์เรลต่อวัน ไปอยู่ที่ 9.025 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นการลดการผลิตรายเดือนลงมากที่สุดนับตั้งแต่ ธ.ค. 2551

537906_3672190583256_2028452226_n.jpg

Jim Rogersอเมริกาเคยมีปัญหาหนักทางเศรษฐกิจแบบนี้มาก่อนในประวัติศาสตร์ช่วงต้นยุค 1920s แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่าทางแก้ไขของคนในยุคก่อนคือ เพิ่มอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นกับจัดทำงบประมาณสมดุลย์ ไม่ก่อหนี้เพิ่ม และหลังจากนั้นเศรษฐกิจก็ฟื้นฟูจนรุ่งเรืองที่สุดไปอีกเป็นทศวรรษ หลังจากอดทนยอมลำบากไป 2-3 ปี

ในช่วงต้นของยุค 1990s พวกสแกนดิเนเวียนก็มีปัญหาเหมือนๆ กัน เขายอมปล่อยให้ธุรกิจและผู้คนล้มละลาย ปล่อยให้ตลาดแก้ไขตนเองไปตามธรรมชาติโดยไม่เข้าไปแทรกแซงซึ่งเป็นความเจ็บปวดที่สุดใน 2-3 ปีแรก แต่หลังจากนั้นก็กลายเป็นชาติที่มีเศรษฐกิจรุ่งเรืองที่สุดในระบบเศรษฐกิจโลกอีก 10-15 ปี

นั่นละ การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง

ส่วนญี่ปุ่นในช่วงเดียวกันคือยุค 1990s ทำตรงกันข้าม ไม่ยอมปล่อยให้เกิดการล้มละลาย ใช้เงินจำนวนมากที่ไม่มีจริงเข้าไปโอบอุ้ม ทำให้ญี่ปุ่นเรียกว่ามันเป็น “ทศวรรษแห่งการสูญเปล่า” และเดี๋ยวนี้ชาวญี่ปุ่นต้องเรียกมันใหม่ว่า เป็น “2” ทศวรรษแห่งความสูญเปล่าซึ่งยังต่อเนื่องยาวนานมาจนถึงวันนี้

นั่นคือการแก้ปัญหาที่ผิดพลาด และวิธีนี้ไม่เคยแก้ปัญหาได้เลยสักครั้งในประวัติศาสตร์

การยอมรับความเจ็บปวดในวันนี้แม้จะยากลำบาก แต่ในที่สุดมันจะช่วยจัดระบบทุกอย่างให้สะอาดขึ้น ไม่มีสิ่งตกค้างอีกต่อไป และนั่นคือสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์หลายคนเช่น Hayek, von Mises และ Schumpeter ได้กล่าวเอาไว้ว่า “หากไม่แก้ไขด้วยการทำระบบให้สะอาด กลับไปแก้ปัญหาด้วยวิธีที่ผิดพลาด จะทำให้อะไรที่ดูคล้ายๆ ดีขึ้นหลังจากนั้นเป็นของปลอม ซึ่งการฟื้นตัวจะเป็นของปลอมที่จะไม่ยาวนาน”

และอดีตได้พิสูจน์แล้วว่า พวกเขากล่าวไว้ถูกต้อง ในขณะที่แนวทางของ Keynes ไม่เคยมีข้อพิสูจน์ว่าทำได้สำเร็จเลย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ :Hi ทุกคนสวัสดีตอนเช้าของวันที่ 14/1/2013 เวลา 9.29 น.

 

เริ่มต้นกันด้วยสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำยังไม่ขยับไปไหนมากนะครับยังคงวิ่งอยู่ในกรอบ 50 เหรียญที่ระดับแนว 1630-1680 เหรียญ

 

โดยภาพรวมรายสัปดาห์ราคาทองคำเคลื่อนไหวเป็นไปในลักษณะรูปแบบ Side ways Up โดยมีฐานราคาปรับตัวสูงขึ้น

 

ทำให้เกิดการดันราคาขึ้นทดสอบแนวต้านหลัก ณ ระดับ 1670-1680 เหรียญ แต่ราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านไปได้

 

จึงถูกแรงขายออกมา และทำให้ราคาทองคำกลับมาพักฐาน ณ ระดับ1660-1650 เช่นเดิมอีกครั้งครับ

 

ดังนั้นมุมมองรายสัปดาห์นี้ หรีอแนวโน้มรายสัปดาห์นี้ราคาทองคำระยะสั้นอาจจะมีรูปแบบ แนวโน้ม Side WaysUp ขึ้นทดสอบแนวต้านก่อน(ดูจากกราฟ ราย 1 HR )

 

หลังจากนั้นถ้าราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านหลัก ณ ระดับ 1670-1700 เหรียญไปได้อีกครั้ง คาดว่าราคาทองคำอาจจะมีโอกาศหลุดแนวรับ

 

ที่สำคัญ ณ ระดับ โซน 1640-1630 เหรียญลงไปทดสอบแนวรับที่สำคัญหรือลงปรับฐานใหญ่ อีกครั้งครับ (ดูจากกราฟ ราย 4 HR และ ราย 1 Day 1 weekly 1 monthly)ครับ

 

แต่ถ้ามองด้านข่าวที่สำคัญในระยะนี้รวมไปถึงเดือนหน้า คาดการณ์ว่า ราคาทองคำน่าจะมีข่าว เทศกาลตรุษจีน เข้ามาหนุนราคาทองคำทำให้ ราคาทองคำมีโอกาศปรับตัว

 

และดันราคาขึ้นทดสอบแนวต้านหลัก ก่อนระยะสั้น หลังจากนั้น อาจจะถูกแรงขายออกมา และทำให้ หลุดแนวรับ ที่สำคัญอีกครั้งครับ ในอนาคต

 

ซึ่งถ้าให้มุมมองจากกราฟแล้วแนวต้านหลักของราคาทองคำ คือการขึ้นทดสอบแนวต้าน ณ ระดับ 1700 เหรียญขึ้นไปครับ

 

หากผ่านไม่ได้ก็ไม่สามารถกลับตัวเป็นขาขึ้นได้ในระยะสั้น แต่ถ้าหากผ่านไปได้ในระยะนี้ หรือ ภายในไตรมาสนี้ผมก็ยังมองว่า ราคาทองคำ

 

ยังไม่สามารถยืนเหนือ ณ ระดับ 1700 เหรียญและผ่าน 1800 เหรียญไปได้ในอนาคต ยังคงให้มุมมองราคาทองคำ คล้าย ๆ กับรูปแบบกับปีที่ผ่าน

 

ก่อนเทศกาลตรุษจีนและหลังเทศกาลตรุษจีน อยู่ครับ

 

(เรา อาจจะนำ เหตุการณ์ที่สำคัญในอดีต ลองเอามาเทียบกับเหตุการณ์ที่สำคัญ ในปัจจุบัน อาจจะได้ผลลัพธ์ที่ ใกล้เคียง กันครับ)

 

แนวรับ แนวต้าน

 

แนวต้าน 1675 **** 1680-1700 เหรียญ (แนวต้านหลัก ระวังแรงขาย ทุกระดับ ) ผ่าน 1700 เหรียญ ได้ให้มุมมอง Up Trend ระยะสั้น

 

สรุป แนวต้าน หลัก แนะนำให้นักลงทุน ระวังแรงขาย เอาไว้ ณ ระดับ 1670-1675 เหรียญ ก่อน และที่สำคัญควรติดตามต่อไป หากราคาทองคำ

 

ยังไม่สามารถ ผ่าน แนวต้าน 1700 เหรียญขึ้นไปได้ แนะนำยังคงให้ระวังแรงขายอยู่ครับ

 

แนวรับ 1654*** 1645 -1640 ไม่สมควรหลุด ถ้าหลุด 1633 *** 1626 *****1603 *****

 

สรุป แนวรับนั้น ระยะนี้กลาง-ยาว ยังคงให้มุมมอง Side Ways Down อยู่ครับถึงแม้แนวแนวโน้ม ระยะสั้นอาจจะมีการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ

 

ทดสอบแนวต้านหลักดังกล่าวก็ตาม แต่หากราคาทองคำยังไม่สามรถผ่านแนวต้านหลัก ณ ระดับ 1700 เหรียญ ขึ้นไป ยังคง ให้

 

มุมมองเป็น แนวโน้ม Side Ways Down ตามรูปแบบกราฟ 1 Day อยู่ครับ (จุดเตือนสัปดาห์นี้อาจจะเป็นการหลุดแนวรับ 1650-1640 เหรียญลงไป)

 

กรอบเล็ก 1650-1680 = 30 เหรียญ

 

กรอบใหญ่ 1630- 1680 = 50 เหรียญ

 

กรอบ Side ways 1650-1670 เหรียญ

 

วันนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญแต่มีการบรรยายของ ปธ.เฟด เบนเบอนักเก้ อีกแล้วนะครับ (เริ่มกลับมาเขย่าวงการอีกครั้ง หลังจากหายหน้าหายตาไปนาน)

 

1. เวลา 04.00 น. เบน เบอนักเก้ บรรยาย เรื่องนโยบายการเงินและความท้าทายของเศรษฐกิจสหรัฐ คาดการณ์อาจจะส่งผลต่อเศรษฐกิจระยะกลาง-ยาว

 

0w6Qg5.gif

 

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้ต่อไปไม่รู้จบ :_06

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับ อาจารย์

 

บาทแข็ง จนเซ็งเลยครับ

 

ทองขึ้นพอตัว เจอบาทเบรค ^^

 

แบบนี้แนะนำต้องเก็งกำไร เงินบาทด้วยนะครับ ว่าวันนี้จะอ่อนค่า หรือแข็งค่า ครับ

 

เพราะว่า บางที ราคาทองคำขึ้น แต่กำไรอาจจะหาย ไปกลับการแข็งค่าหรืออ่อนค่า เงินบาทหมด เลย เฮ้อ คงต้องทำใจกันต่อไปครับ :17

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณ ขอรับ อ.อั๋น :gd

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...