นายธนันชัย 3 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 21, 2010 !thk !thk !thk อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
kumponys 14,098 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 21, 2010 อย่าเพิ่งต่อกระทู้นะครับ ยังไม่ว่างทำ ดึกๆจะมาทำต่อ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
oyo 46 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 21, 2010 Mr.Yanyong แฟนพันธุ์แท้ ออฟไลน์ กระทู้: 377 Re: มังกรจีน และ มังกรไทย « ตอบ #45 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 09:11:46 am » สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน ก่อนทำงาน ก่อนเล่นหุ้น ก่อนลุ้นทองคำ ทำให้อยากเขียนต่อจากตอนที่แล้ว วันนี้คงบวกวิชาการสักนิดนะครับ เราลงทุนใด ๆ ก็ตาม ต้องคิดถึง ROI = RETURN ON INVESTMENT ด้วยนะครับ แต่ผมจะขยายความเพื่อให้เข้าใจง่ายอีกสักนิดว่า เมื่อเราลงทุน แล้ว ต้องคำนึงถึง ผลตอบแทนแห่งการลงทุน ซึ่ง คือ กำไร , ระยะเวลาในการทำกำไร , ระยะยาว , ระยะสั้น , ต่อเนื่อง สิ่งต่างๆ เหล่านี้ คงไม่ต้องขยายความให้มาก เพราะหลายคนมีประสบการณ์ แล้ว หากแต่ สิ่งที่ผมอยากเตือนใจ ทุกท่าน ก็คือ การลงทุนในทองคำ ช่วงปี ที่ผ่านมา จนถึงปีนี้ เป็นช่วงไม่ปกติ ของเศรษฐกิจโลก ดังนั้น ราคาทองคำจึงผันผวน ขึ้น และ ลง ทำให้เรามีโอกาสทำกำไร และ ทำขาดทุน บ่อยครั้ง มีโอกาสแก้ตัว บ่อยกว่า ภาวะปกติ ซึ่งตามปกติ ทั่วไปแล้ว ทองคำ ปีหนึ่ง ๆ มีช่วงซื้อขายทำกำไร แค่ ราว ๆ ตุลาคม ถึง มีนา หรือ อาจเลยไปถึงเมษา จากนั้น เงียบ หรือภาวะจำศิล ครับ เรื่องที่อยากเตือนอย่างยิ่งคือ เรามีภาระ การทำงาน ทำธุรกิจ และ หน้าที่ประจำ ที่แต่ละคนรับผิดชอบอยู่ เราอาจมองง่าย ๆ ว่า ลงทุนทองคำ กำไรง่าย อันนี้ ต้องขอเตือน ครับว่า ขณะนี้ การตั้งราคาทองคำ กติกาต่าง ๆ ยังไม่โปร่งใส ใครควบคุมราคา ทั้งภาครัฐ และ ภาคเอกชน กลไก เสรี จริงหรือ ผูกขาดหรือไม่ อันนี้ ก็คิดว่าหลายคนเข้าใจดีแล้ว หลังจากมีประสบการณ์ในการลงทุนทองคำ อาจเห็นกันว่า ขณะนี้ มีหลายทางเลือกในการลงทุน เก็งกำไร หรือ จะเรียกอะไร ก็สุดแต่ ท้ายสุด ทางเลือกดังกล่าว เราศึกษาระเอียดแค่ไหน ก่อนโดดลงไปเล่น เช่น ช่วงนี้ อัตรา แลกเปลี่ยนเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาก กองทุนทองคำ ต่าง ๆ ที่เราลงทุน ก็เหมือนกันครับ อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท มีส่วนกับอัตรา กำไร อย่างมาก ปีที่แล้ว เพื่อนผมคนหนึ่ง ชวนให้ผมลงทุนกองทุน กองทุนหนึ่ง ซึ่งเอาเงินไปลงทุนในต่างประเทศ ผลตอบแทน ต่อปี 6 เปอร์เซนต์ มองดูผิวเผินน่าสนใจ หากแต่ ผมเคยผ่านปี 40 มาแล้ว บอกตามตรงว่า สะเก็ดเพิ่งแห้ง ไม่อยากมีแผลใหม่ ดังนั้น จึงฝากเงินไว้กับ ธนาคาร ดีกว่า แม้ดอกเบี้ยจะน้อย แต่ก็ปลอดภัย แต่สำหรับผม เรียกว่า พักเงินในแหล่งปลอดภัย เพื่อรอ การลงทุน ใหม่ ๆ ดีกว่า เช่น บางครั้งผมเห็นราคาหุ้นบลูชิพบางตัว ราคาต่ำกว่า พื้นฐานมาก ๆ เมื่อเปรียบเทียบกับราคาทางบัญชี และ ประวัติ การปันผลดี ผมก็จะลงทุน โดย ได้กำไรจากส่วนต่าง บางช่วง หรือ ได้ปันผล ด้วย แต่ขณะเดียวกัน ก่อนเล่น ต้องศึกษา ประวัติของ บมจ. นั้น ๆ ให้ระเอียด ไม่ใช่เฮ ตาม นักวิเคราะห์ หรือ เฮ ตามเพื่อน ๆ ทองคำ ก็เหมือนกัน ผมเล่นบางขณะ แต่เล่น น้อยลงมาก ๆ ก็เรื่องเดิม ๆ เล่นทองให้ใครกำไร การคิดง่าย หรือ คิดว่า ลงทุนทองคำ ได้กำไรมาก ได้กำไรง่าย ผมว่า อันนี้น่าเป็น ห่วงนะครับ คนว่างงาน หรือ คนที่ไม่ได้ทำงานแล้ว มีเวลา มีเงินทุน อันนี้ ผมไม่กล่าวถึง ส่วนคนที่ยังต้องทำงาน ทำธุรกิจ ผมว่า ทองคำ เป็นได้แค่งานอดิเรก สนุก ๆ เอาไว้ เม้าท์ กัน แต่หากจะยึดเป็นอาชีพ ผมว่าคิดผิดนะครับ การลงทุนใด ๆ มิได้ ได้กำไร กันง่าย ๆ นะครับ แม้ว่าการลงทุนทองคำ บางขณะ เห็นว่าทำกำไร ง่าย ๆ แต่อย่าติด นะครับ อะไร ที่ได้มาโดยง่าย ก็ย่อมเสียไป โดยง่ายเช่นกัน อย่าคิดง่าย ๆ นะครับ ในโลกนี้อะไรที่ได้มาโดยง่าย มักเป็นเรื่องไม่จริง เรื่องจริงในโลกนี้ ล้วนได้มาโดยความเพียร พยายาม ด้วยความมานะ บากบั่น ไม่ได้มาอย่างง่าย ๆ หรอกครับ ผมย้ำเสมอว่า การทำมาหากินมีหลายวิธี จนบางที มีคนประชดถาม ผมว่า แล้วนอกจากเล่นทอง เล่นหุ้น ยังมีวิธีหาเงินง่าย ๆ กว่านี้ไหม ผมไม่อยากให้เราคิดแบบมักง่าย แค่การตั้งคำถาม ก็ถือว่า มักง่าย แล้วครับ ผมอาจเขียนวกไปวนมา ลองอ่านทบทวนดูว่า คำว่า คิดแบบมักง่าย อันตราย นะครับ จริง ๆ แล้ว การหาเงินมีหลายวิธีมีหลาย แบบแตกต่างกันไป บางแบบอาจเหมาะสมกับคนหนึ่ง แต่ไม่เหมาะสมกับอีกคนหนึ่ง เช่น ผมมีความรู้และประสบการณ์ การเลี้ยงปลา ทอง ผมก็เอาดีทางประกวดปลาทอง ชิงรางวัล หรือ ขาย บางครั้งผมก็ดูเรื่องการค้าของเก่า แต่ ขณะนี้ ของเก่า ราคาตก เช่น ราคา ทองแดง เงิน เหล็ก พลาสติก ฯลฯ ผมก็เลิกทำ หันมาดูเรื่องรังนกนางแอ่น ก๋อนทำ ก็ศึกษา แหล่งทรัพยากรนี้ อยู่ไหน ใครจะเป็นลูกค้า เรา ลูกค้าเราอยู่ไหน จะเอามาเป็นลูกค้าเราอย่างไร จะขายราคาเท่าไร คุณภาพสินค้า ได้มาตรฐานหรือไม่ ต้องคิดครับ ไม่ใช่ ง่าย ๆ หรือ บางที นั่งคิดว่า เราจะทำ E-COMMERCE ดีไหม บังเอิญลูกชายมาปรึกษาว่า จะเข้าอบรม เรื่องนี้ ผมก็บอกไปว่า ดี ศึกษาให้ถ่อง แท้ แล้ว ถามตัวเราว่า เราชอบ หรือ ถนัด หรือไม่ เมื่อมีคำตอบแล้ว ค่อยก้าวไปตามขั้นตอนแต่ละขั้นตอน หรือ เขียนแผนธุรกิจก่อน มิใช่ ลงมือแบบ คนตาบอด การเขียนแผนธุรกิจ เป็นเรื่องจำเป็น ขั้นพื้นฐาน ของธุรกิจ ทุกรูปแบบ วันนี้ ผมเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา ก็เพื่อ เตือนสติ น้อง ๆ อีกหลายคน ว่า อย่าคิดง่าย ทำง่าย ย้ำนะครับว่า ในโลกนี้ ไม่มีอะไรได้มาโดยง่าย นอกจาก โชคดี หรือ ฟลุ้ค ซึ่งก็มีบ้างนะครับ แต่ ไม่ได้โชคดี ตลอดไป หรือ ฟลุ้ค ตลอดไป อ้ออีกเรื่องนะครับ คนเรานี่ก็แปลกนะครับ เวลามีกำไร มักคุยโม้โอ้อวด แต่ ขาดทุนเงียบสนิท ดังนั้น เสียง กำไร ย่อมดัง กว่าเสียง ขาดทุน เราเลยได้ยินแต่ คำว่า กำไร ว่าง ๆ จะเขียนต่อครับ วันนี้ คงให้อ่านแค่นี้ก่อน ย้ำนะครับ การเขียนบทความของผมเป็นการเขียนขึ้นสด ๆ ไม่ได้ปรุงแต่งมาก่อน เขียนเมื่ออยากเขียน ดังนั้น อรรถรส ต่าง ๆ อาจ ไม่น่าอ่าน หรือ ไม่น่าฟัง สำหรับคนบางคน ดังนั้น ขออภัย มา ณ โอกาสนี้ครับ ลืมเล่าต่อครับ เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อนผมคนนั้นเล่าว่า ผลตอบแทน 6 เปอร์เซนต์ คงไม่ได้แถม ยังขาดทุน เพราะ เงินสกุลต่างประเทศ นั้นอ่อนค่าลงมาก แถม เงินบาทยังแข็งค่าขึ้นอีก อันนี้แหละครับ ที่ผมได้ยินมา และ อยากนำมาเล่าสู่กันฟัง ครับ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
oyo 46 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 21, 2010 Mr.Yanyong แฟนพันธุ์แท้ ออฟไลน์ กระทู้: 377 Re: มังกรจีน และ มังกรไทย « ตอบ #51 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2009, 10:22:45 am » สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน วันนี้ เป็นอีกวันที่ผมจะมาเล่าเรื่องระหว่างสัตว์ประเสริฐ และ สัตว์เดรัชฉาน ขึ้นต้นก็เครียดแล้วครับ แต่อ่านไปแล้วจะรู้ว่า ไม่เครียดอย่างที่คิด แต่มันเป็นความจริงที่ทุกคนมองผ่าน หรือ อาจลืมไปก็ได้ แต่เมื่อได้คิด อาจสายเกินไป หรือ คิดได้ ใกล้สิ้นใจ ก็ไร้ประโยชน์อันใด เนื่องจากตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ที่นี่ที่ไหน ไม่รู้จักใครเลย และ จะเจออะไรหรือ ก็ไม่รู้ได้ สุดท้าย ความกลัวจะฝังอยู่ในใจ ผมเชื่อแล้วครับว่า อายุมากขึ้น คนเราจะกลัวตาย แต่เมื่ออายุยังน้อย มักไม่กลัวใด ๆ หาญกล้าไป หมด เรื่องที่จะเล่าวันนี้คือ ผมได้คุยกับพ่อค้าปลา ซึ่งเป็นเจ้าของฟาร์มด้วย เขาเล่าว่า ที่ฟาร์มของเขา มักมีนก มาแอบกิน ปลาที่เลี้ยง หรือ แมว ย่องมาขโมยกินปลาในบ่อ เขาจัดการนก โดยการหาปืนลมมายิง หรือ เอาตาข่ายมาดัก บางตัวก็ โดนยิงตาย บางตัวก็ติดบ่วง ตากแดดจนตาย บางตัวก็ถูกเอาไม้ตีตายในขณะติดอยู่ในบ่วง หรือตาข่าย ส่วนพวกแมวขโมย ก็จะถูก ดักตีให้ตายบ้าง หรือวางยา บางครั้งมันกินยาเข้าไป แล้วดิ้นทุรนทุราย น้ำลายฟูมปาก ตายไปต่อหน้าต่อตาพ่อค้า ปลา บางวัน เขาเล่าว่า แม่มันตาย พ่อมันตาย ยังเหลือ ลูก อีก หลายตัว มันฉลาด มันไม่ยอมกิน อาหารที่ใส่ยาไว้ คงเห็น ตัวพ่อ ตัวแม่ ตาย เลยไม่กล้ากิน จะจัดการกับลูก ๆ มันอย่างไร คงต้องเอากรงมาดัก หรือ ยิงให้ตายให้หมด พ่อค้าคนนี้ ปัจจุบัน เป็นโรคไต ทั้งสองข้าง แม้มีพี่น้องหลายคน แต่ไม่มีสักคน ยอมบริจากไต ให้เขาเลย จะเล่าต่อนะครับ ผมได้รู้จัก พ่อค้าปลาอีกคน ผมไปที่ฟาร์มเขาที่บ้าน วันแรกที่เห็น คือ เขาเอาแห มาดัก นกกระยาง ที่มากินปลาทองในบ่อ ผมเห็นแล้ว สมเพช บอกเขาไปว่า นกที่ติดอยู่ มันโดนแดดเผา จนตายเลยหรือ เขาบอกว่า พ่อเขาแค้นนกมาก เลยจุดไฟเผาจนตาย ต่อมาผมขอเขาว่า ถ้านกมันติดแห ปล่อยมันไปได้ไหม อย่าฆ่ามันเลย สงสาร เขาก็ยิ้ม ๆ เมื่อวานเขาเล่าให้ผมฟังว่า ตัวเงิน ตัวทอง คู่หนึ่ง ชอบมากินปลาทองในบ่อ มันเลือกกินตัวสวยสุด แพงสุด ทุกที ผมก็บอกว่าคงเป็นเพราะกรรมเก่า มั้ง มันเลย มากิน ปลาทองตัวสวยสุด แพงสุด ต่อมา พ่อค้าค้นนั้นได้ใช้ปืนลมยิง ตัวผู้ตัวหนึ่ง จนคอทะลุ เข้าใจว่าตายแล้ว แต่ คู่ของมัน ตัวเมีย ยังป้วนเปี้ยน มาแถวบ่อปลาทองเสมอ ๆ เมื่อคืนนี้ บังเอิญผมได้คุยกับพ่อค้าปลาคนนี้อีก ผมเกลี้ยกล่อมเขาไปว่า นก หรือ ตัวเงินตัวทอง หนะ มันเป็นสัตว์เดรัชฉาน มันไม่มีสมอง หรอก มันมากินปลาทองของเรา ก็เพราะมันหิว มันออกหา อาหารเพื่อประทังชีวิต มันไม่รู้หรอกว่า ที่มันกินปลาทองของเรา จะทำให้เราเดือดร้อน มันทำไปเพราะ เป็นวงจรชีวิตของสัตว์ ที่เกิดมาเพื่อ ดำรงเผ่าพันธุ์ กินก็แค่อิ่ม ไม่รู้หรอกว่า ที่ทำไปมันไม่ถูก หรือ อาจถูกของมันคือ หาอาหาร แต่สัตว์ประเสริฐ อย่าง เรา ชี้ว่ามันผิด หรือ ลงโทษ ว่ามันผิด ถึงขั้นเอาชีวิต กันเลยหรือ สัตว์ประเสริฐอย่างเรา ยัง ต้องมีการขึ้นศาล มีการพิจารณาโทษ มีการขอลดหย่อนผ่อนปรน มีการ...................พูดมากไปก็ไม่ดี ครับ ส่วนสัตว์ เดรัชฉาน คำพิพากษาจากสัตว์ ประเสริฐอย่างเรา คือ ตายสถานเดียว มึงมากินปลากู มึงต้องตาย ผมเลยกล่อมเขาไปว่า น้อง น้องมีลูกเล็ก ๆ สองคน ลูกชาย ทั้งคู่ กำลังน่ารัก กำลังโต น้องมองเวลาลูกคนเล็ก กินนมแม่ นั่นก็เพราะความหิวใช่ไหม ไม่ต่างจากสัตว์เดรัชฉานเลย มันก็หิว มันก็ต้องหากินตามธรรมชาติ มันมากินปลาทองเรา มันไม่ผิดหรอก มันไม่รู้ เอางี้ พี่ขอร้องน้องว่า เอาไม้ไผ่มาปัก ล้อมบ่อไว้ แล้วเอาแหมาขึงอีกที เพื่อไม่ให้ตัวเงินตัวทอง มุดลอด มากินปลาได้ ส่วนนก นั้น ก็ทำหุ่นไล่กาไว้ หรือเอา แผ่นซีดี เก่า ๆ แขวนไว้ เพื่อให้มันบินลงมาลำบาก และ แผ่นซีดี สะท้อนแสง ทำให้มันกลัว ตามันจะได้พร่า มองไม่เห็นปลา ในบ่อ หรือ ถ้ามันลงมากินอีก ก็ถือว่า ทำบุญไปแล้วกัน หรือให้ดี คือ ทำตาข่ายล้อมบ่อ ไปเสียเลย เลิกฆ่าสัตว์ เสียเถิดนะ ลูกคุณก็ ยังเล็ก อย่าให้กรรมตกแก่ตัวเอง หรือลูกเราเลย ดูอย่าง นาย............สิ จนป่านนี้ ยังมาขายปลาไม่ได้เลย เขาป่วยด้วยโรคไต อาจเกิดจากบาปกรรม ที่ได้ฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต ไว้ มากมายก็ได้ พ่อค้าปลาคนนั้นตอบผมว่า เฮีย พอผม ได้ยินเฮียสอนแล้ว ผมคิดว่า ผมจะไม่ฆ่านกกระยาง หรือ ตัวเงินตัวทองอีก เอาเป็นว่าผมจะหาวิธีป้องกันไม่ให้มันมากิน ปลาทองผมอีก ก็แล้วกัน ส่วนปลาที่ตายแล้ว ผมจะเอาไปกองไว้ แถว ปลายคลองให้มันกินก็แล้วกัน หรือ หาอาหารอื่น มาเลี้ยงมัน มันจะได้ไม่มากินปลาทองของผมอีก ผมฟังเฮียสอนแล้วผมสบายใจ ผมก็ตอบไปว่า ถ้าเอ็งเลิกฆ่านก ฆ่าตัว เงินตัวทองเฮียก็พลอยได้บุญไปด้วย เราต่างได้บุญเนอะ อย่าลืมสิ แม้แต่สัตว์ประเสริฐอย่างพวกเรา ไม่ได้กินแต่พออิ่ม ยังสะสม หรือ คดโกง แถมสมัยนี้ ใครโกงเก่ง มีเงินมีทองมากมาย หรือ รวยมหาศาล กลับมีคนนิยมชมชอบ มีคนสรรเสริญ แต่กลับกัน สัตว์เดรัชฉาน ที่หากินไปวัน ๆ ถูกสัตว์ประเสริฐ อย่างเรา ๆ พิพากษา ถึงชีวิต เราเบียดเบียนมัน หรือ มันเบียด เบียนเรา ก็คิดกันให้ดี ครับ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
oyo 46 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 21, 2010 Mr.Yanyong แฟนพันธุ์แท้ ออฟไลน์ กระทู้: 377 Re: มังกรจีน และ มังกรไทย « ตอบ #54 เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2009, 09:45:45 pm » สวัสดีสมาชิกทุกท่านครับ ผมจะเล่าเรื่องต่อจากวันก่อนนะครับ จากการที่ได้เตือนเพื่อนพ่อค้าปลา อย่าฆ่าเจ้าตัวเงินตัวทอง (ตัวเหี้ย) ตัวนั้น เพื่อนผมเขาก็ได้ก่อขอบบ่อขึ้น เพื่อไม่ให้ มันลงไปกินปลาได้อีก ตามที่ผมแนะนำว่า สัตว์เดรัชฉาน อย่างมันไม่รู้ ผิดถูกหรอก ว่า การมากินปลาของคน มันผิด เพราะมันไม่มีสมองคิดถึงขนาดนั้น แต่ คนอย่างเราสิ ถ้าติตรองสักนิด มันก็ออกมาหาอาหาร ตามสัญชาติญาณ การต้องการดิ้นรนเพื่อมีชีวิตของมัน เท่านั้น วันรุ่งขึ้นผมเอาปลาทอง 6 ตัว ไปส่งที่งานประมงน้อมเกล้า ปลาทั้ง 6 ตัวนี้ มีอยู่ 1 ตัวเคยได้รางวัลรองอันดับ 1 ถึง 2 ครั้ง ไม่ได้ ที่ 1 สักที ส่วน อีกตัว ได้ ชมเชย 2 ครั้ง ไม่เคยได้ดีกว่านี้เลย ทั้งที่ตัวผมเอง มองว่า น่าจะได้รางวัลดีกว่า นี้ แต่เมื่อมาพินิจพิจารณา ด้วยเหตุและผล ปลาเราตัวเล็ก ยังไม่สมบูรณ์ แม้สวย แต่ยังเล็กกว่า คู่แข่ง กรรมการ ก็คงต้องตัดสิน ปลาตัวใหญ่ และ สมบูรณ์กว่า ได้ รางวัลที่ดีกว่า เป็นเรื่องธรรมดา เช้านั้นผมก็ใช้เวลาพิจารณาอยู่นานว่า เอาตัวไหนดี เช้านั้นจิตใจผ่องใส มาก ๆ เห็นปลา 8 ตัว สวยไล่เลี่ยกัน แต่ก็คัดเอาแค่ 6 ตัว โดยเอา 3ตัวเก่า และ 3ตัวใหม่ ใน 3ตัวเก่า คือตัวเคยได้ รองอันดับ 1 และ ชมเชย ส่วนอีกตัวไม่เคยได้รางวัล ก็เอาถุงปลาทั้ง 6 ไปประกวด แต่ไม่ได้คาดหมายว่าจะได้รางวัล ใด ๆ เพียงแต่คิดว่า เราเลี้ยงสมบูรณ์ขนาดนี้ ให้อาหาร 5 มื้อ เปลี่ยนน้ำทุกวัน เช้าเย็น มันน่าจะได้รางวัลอย่างน้อย รอง ชนะเลิศ เท่าเดิมสิ น่า เสร็จแล้วไม่รอฟังผล ผมกลับมาบ้าน เพื่อน โทรมาบอก ตอนแรกว่า สิงห์ญี่ปุ่น ตัวที่เคยได้รองอัน ดับ 1 ตอนนี้ ได้ชนะเลิศ ก็ดีใจนะ แต่คิดว่า มันก็ควรได้แล้วหละ ต่อมา เพื่อนอีกคนโทรมา สิงห์ญี่ปุ่นลูกประสมอีกตัว ที่เคยได้รางวัลชมเชย ได้รางวัลชนะเลิศอีกตัว ตอนนี้หัวใจพองโตเลยครับ ต่อมา เพื่อนโทรมาอีก นายได้อีก รางวัลแล้ว ชนะเลิศ รวมสายพันธุ์ (รักเร่ ตัวดำ หัวแดง ตาแดง ขอบตาดำ) พอวันรุ่งขึ้นไปรับถ้วยรางวัลจากฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ ก็เอา ลูกชาย และ ภรรยา ไปรับถ้วยด้วยกัน แถมพ่วงข่าวดี อีก ครับ คือ ปลาตัวเก่าที่ไม่เคยได้รางวัล งวดนี้ ได้ชมเชย มาอีก 1 ตัว สรุป งวดนี้ ส่งปลา 6 ตัว ได้รางวัล ถึง 4 ตัว ก็ภูมิใจ แต่อีกใจหนึ่ง หวนนึกถึง คงเพราะผลบุญที่ได้เตือนพ่อค้าปลา คนนั้น ไม่ให้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตด้วย สรุป ก็คือ เราพยายามจนสำเร็จ บวกกับโชคช่วยด้วย ก็เลยได้รับรางวัลสมใจ เรื่องยังไม่จบ วันนี้ พ่อค้าปลา โทรมาบอกว่า เฮีย เมื่อวานผมกลับบ้านเกิดอุบัติเหตุ รถชนกัน 6 คัน รถที่เขานั่งกลับนครปฐม เป็นรถตู้ ที่ถูกชน แรงสุด มีคนบาดเจ็บมากมาย หนึ่งในนั้นคือน้องชาย ปากฉีก เย็บ 4 เข็ม แต่ตัวเขาไม่เป็นอันตรายใด ๆ เลย ซึ่งปกติ เขาขึ้นรถจะนั่งเบาะหลังสุด เนื่องจากต้องนำถุงปลา ที่ขายไม่หมด กลับไปด้วย หรือไม่ก็ต้องนั่งหน้ารถ คู่คนขับ แต่วันนั้นมีชายอ้วนมากขึ้นมา คนขับก็เลยให้เขาย้ายที่นั่งมานั่งกลาง แต่ไม่ยอมให้นั่งหน้า ให้น้องชายนั่งหน้า วันนั้น น้อง จึงรับเคราะห์แทนไป 1 คน ส่วน ผู้โดยสารอ้วนคนนั้นโดนกระแทก แขนหัก ตัวเขาเอง ไม่เป็นไรเลย เขาบอกผมว่า เฮีย วันนั้นเฮียห้ามผมฆ่า เจ้าวรนุช ผมเชื่อเฮีย ทำให้สบายใจมากขึ้น ขายปลาเป็นเทน้ำเทท่า แถม ยังประสบอุบัติเหตุแล้ว ตัวเองรอด ไม่เป็นอันตรายใด ๆ ผมก็บอกเขาไปว่า การที่ผมห้ามเขาฆ่าเจ้าวรนุช แล้วเขาเชื่อผม ผลบุญ จึงส่งผล ให้ผมได้รับรางวัลชนะเลิศถึง 3 รางวัล และ ยังได้ชมเชยมาอีก 1 ซึ่งปกติ การประกวดปลา ไม่เคยมีใครได้ชนะเลิศ ถึง 3 รางวัลเลย นี่แหละครับ เรื่องจริงที่ผมนำมาเล่า ซึ่งหากใครคิดว่า ผมกุเรื่องขึ้นมา ก็ขอให้ไปชมปลาทองของผมได้ ที่งานประมงน้อมเกล้า ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ผมใช้ชื่อประกวด ตามชื่อในเว็บ (นายยรรยง) ส่วนนามสกุลและ เบอร์โทร ผมคงไม่พิมพ์ในที่นี้ครับ อานิสงฆ์ ของการทำดี ส่งผลดี ตอบแทน ครับ ดังที่ในอดีตผมเคยกล่าว ในโลกนี้ ไม่มีหรอก ความอยุติธรรม ทำดี ต้องได้ดี ทำชั่ว ก็ต้องได้ชั่ว อย่าลืมนะครับ ผมพูดไว้ว่า โลกนี้ช่างยุติธรรมนัก เนืองจากผมเห็นเพื่อน หลายคนได้เงินมาโดยไม่ถูก สุดท้ายแล้ว เงินที่ได้มา ก็หมดไป อย่างรวดเร็วเช่นกัน หลอกเขามา ก็ถูกหลอกไป เช่นกัน ครับ ผมเล่าอะไรก็ตาม หากท่านทั้งหลายจะพิจารณา ผมซ่อนอะไรไว้เสมอ แต่เรื่องที่ผมเล่ามาทั้งหมด ข้างต้น เป็นความ จริงทุกประการ และ ก็ แอบแฝง อะไรบางอย่างไว้ด้วยครับ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
oyo 46 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 21, 2010 ผู้น้อย เด็กประถม ออฟไลน์ กระทู้: 49 Re: มังกรจีน และ มังกรไทย « ตอบ #55 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2009, 08:56:29 am » ความดีแม้จะทำทางตรงหรือทางอ้อมก็คือความดี ในสังคมปัจจุบันนี้ น้อยคนที่จะนำประสบการณ์ดีๆมาเล่าสู่กันฟัง(ส่วนมากจะหวังผลประโยชน์ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม) ซึ่งถ้าคนที่ได้อ่านบทความแล้วคิดตาม อาจทำให้มีกำลังใจในการทำดี นั้นก็หมายความว่าในประเทศไทยมีคนดีเพิ่มขึ้น ขอบคุณอีกครั้งสำหรับประสบการณ์ดีๆ ในเทศกาลวันเข้าพรรษานี้ ขอให้กรรมดีคุ้มครอง K.Yanyong และครอบครัวรวมถึงคนดีทุกๆ (ในความคิดของผมคิดว่าเราคงจะไม่สามารถขอให้ พระหรือสิ่งศักสิทธิ์ใดๆคุมครองหรือมาดลบรรดาลอะไรๆให้ใครได้ นอกจากตัวเรา ที่ผมเชื่ออย่างนั้นใช่ว่าผม ไม่นับถือพระและสิ่งศักสิทธิ์หรือไม่ได้เป็นชาวพุทธนะครับ แต่ผมเชื่อในพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฏกมากกว่าสิ่งที่ทุกๆคนทำตามๆกัน) Mr.Yanyong แฟนพันธุ์แท้ ออฟไลน์ กระทู้: 377 Re: มังกรจีน และ มังกรไทย « ตอบ #57 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2009, 11:27:57 am » ยังมีบทต่อไป ที่จะเขียน เมื่อวานผมไปเจเจ เจอ หญิงสาว ที่รู้จักคนหนึ่ง เข้ามาบอกแบบเฉียด ๆ ว่า ปลาทองบางที ก็งั้น ๆ ไม่ใช่สวยเลอเลิศ อะไร ต้องบวกดวงด้วย ผมได้แต่นั่งยิ้ม ไม่ตอบ สุดท้ายเธอ ย้ำกะผมว่า นี่กำลังคุยกะเฮียอยู่นะ ผมเลย พยักหน้ารับ ว่า ฟังอยู่ แต่ไม่โต้ตอบ ดวง ก็ ดวง วันหลังจะเล่าต่อครับ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
oyo 46 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 21, 2010 Mr.Yanyong แฟนพันธุ์แท้ ออฟไลน์ กระทู้: 377 Re: มังกรจีน และ มังกรไทย « ตอบ #58 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2009, 02:37:13 pm » สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน เช้านี้เป็นอีกวันหนึ่งที่อากาศดี ผมรีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปตรวจดู ตะกอนในตา เพราะตาพร่ามัวบ่อย ๆ ถือโอกาสนั่งแท็กซี่ ชมวิว เนื่องจาก หลังขยายม่านตาเพื่อตรวจ จะมองเห็นอะไรพร่าไปหมด แสงจะเข้าตามาก ติดต่อกันถึง 4 ชั่วโมง กว่าจะปกติ สังเกตว่า เช้านี้ แดดจัด มาก ๆ และ เช้าเร็วกว่าปกติ เมื่อไปถึงโรงพยาบาลรัตนิน ก็ ตรวจตา ตามขั้นตอนพื้นฐานก่อนจะพบหมอ จิตใจตอนเช้ารื่นรมย์มาก ๆ อ่านหนังสือพิมพ์ ดูข่าวเศรษฐกิจ สักครู่ หลังทานแซนวิชทูน่า 2 คู่ เสร็จ พยาบาลก็เข้ามาทำการหยอดยาเพื่อขยายม่านตา ทีนี้ เดิน ไปไหนลำบากแล้ว เพราะตาจะพร่า มาก ๆ ก็เลย นอนหลับตา สักครู่ พ่อลูกคู่หนึ่ง เดินเข้ามา พร้อมคุยกันเสียงดัง หะแรก ผมก็คิดว่า ดีนะ พ่อลูกคู่นี้สนิท กันดี คุยไปคุยมาสักครู่ ลูกสาวบอกพ่อว่า พ่อขา โตขึ้นหนูจะเป็นอะไรดี พ่อ ก็บอกลูกว่า เป็นนักธุรกิจสิลูก รวยดี ฟังทีแรกก็ยังเฉย ๆ นะ ลูกสาวก็ตอบพ่อไปว่า เป็นหมอ ไม่ดีกว่าหรือ พ่อ ก็ตอบลูกว่า ไม่ค่อยรวยนะลูก แต่ ก็ยังดี มีพยาบาลห้อมล้อม ฟังแล้ว ชักแปลก ๆ พ่อคนนี้ ลูกสาวถามต่อ ตอนนี้หนูเปลี่ยนใจแล้ว อยากเป็นสัตวบาล รักษาสัตว์ พ่อ ตอบลูกว่า อย่าเป็นเลย อาชีพนี้ ไม่รวย ทำงานหนัก และ จนด้วย ผมชักเอียงคอ มองแล้ว หละ เหมือนกับเขาเจตนาให้เราได้ยินด้วย เขาย้ำกะลูกอีกคำว่า ลูก เป็นนัก ธุรกิจดีแล้ว รวยด้วย อย่าเป็นอย่างอื่นเลย อาการเดิมผมกำเริบ นึกอยากหันไป บอกเด็กคนนั้นว่า เด็กน้อยเอ๋ย เป็นอะไรก็ได้นะ ที่อยากจะเป็น แต่ขอให้เป็นคนดี ด้วยแล้วกัน ดีว่า หักห้ามใจตัวเองไว้ได้ ว่าธุระไม่ใช่ แต่ก็ยังตระหงิด ๆ ว่า พ่อสมัยนี้ เขาลืมสอนลูก ให้เป็นคนดี แล้วหรือไร อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
oyo 46 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 21, 2010 Mr.Yanyong แฟนพันธุ์แท้ ออฟไลน์ กระทู้: 377 Re: มังกรจีน และ มังกรไทย « ตอบ #59 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2009, 03:03:42 pm » ลืมเล่าไปว่า เช้านี้ ระหว่างหวีผมแต่งตัว ผมก็เหลือบไปนอกชาน พบกับเจ้าตัวการศัตรูคู่อาฆาต นอกชานบ้านผม จะปลูกไม้หลายชนิด และ เลี้ยงปลาเงินปลาทอง ผมทำทุกมุมบ้านให้ เป็นมุมแห่งความสุข ต้นทับทิม ที่ผมบรรจงปลูก ตัดแต่งกิ่งอย่างดี ลูกกำลังออกแบบ ดก เชียวละ สมัยก่อน ผมไม่รู้เลยว่า ต้นทับทิมก็ต้องตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง ไม่งั้นไม่ออกดอก ออกผล เลยลองทำดู เท่านั้นแหละ ลูกดก อย่างเหลือเชื่อ ที่นี้ก็ต้องบำรุงปุ๋ย หากแต่ ครั้งใด ที่ทับทิมผมใกล้สุก ไอ้เจ้ากระรอก ตัวนี้ มันฉลาดมาก ลูกไหนสุก มันรู้ก่อนผมเสมอ ไม่ทันได้ห่อ มันเอาไปรับทานเสียทุกที ใจแรกก็แค้น อีกใจ เอ้อ ก็ดี มันมากินทับทิม มาไต่ โยกย้ายส่ายสะโพก ให้เราดู แลกกับทับทิม ลูกเดียว ก็เป็นธรรมดี ถือว่าแบ่งกันกินแล้วกัน ห่อทันก็ห่อ ห่อไม่ทันกระรอก เอาไปรับทานก็ช่างมัน คิดเสียว่า กระรอกมันปลูกทับทิมไม่เป็น มันก็เลยมาอาศัยเรา แต่เราเองปลูกทับทิมต้นเบ้อเร่อ ลูกหลายสิบอยู่ แต่ทำไม ถึงหวงทับทิมลูกเดียว สำหรับกระรอก สังเกต กว่ามันจะกิน หมด เป็นสัปดาห์เลย อย่างน้อย เราก็ได้ดูมัน กระโดดหยอง ๆ ไต่ ราว มา ถือว่า ดูกระรอกเต้นรำ ก็ดีเหมือนกัน นะครับ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
oyo 46 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 21, 2010 Mr.Yanyong แฟนพันธุ์แท้ ออฟไลน์ กระทู้: 377 Re: มังกรจีน และ มังกรไทย « ตอบ #63 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2009, 10:00:30 am » สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน เมื่อวานผมไปรับปลาทองกลับจากงานประมงน้อมเกล้า ที่ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต งานครั้งนี้ ผมภูมิใจ และ เต็มใจ ส่งปลาเข้าประกวด โดยไม่ได้หวังอะไรเลย แต่มีความตั้งใจอย่างหนึ่งว่า จะพยายามส่งปลาเข้าประกวด และ คิดว่า สักวัน คงได้รางวัลที่ 1 กับเขาบ้าง ครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมมีเวลาเตรียมปลา ถึง 3 เดือน ผมเตรียมปลาไว้ทั้งสิ้น 20 ตัว แต่เมื่อก่อนถึงวันส่ง ผมคัดเลือกเฉพาะตัวที่คิดว่า สมบูรณ์ และ สวย 6 ตัว ส่งประกวด คือ สิงห์ญี่ปุ่น 4 ตัว สิงห์ลูกประสม 1 ตัว รวมสายพันธุ์ คือ รักเร่ หัวแดง 1 ตัว ก่อนอื่น ขอเล่า ว่า ก่อนจะส่งปลา ผมต้องดูแลปลาขนาดไหน ผมต้องสลับปลา เลี้ยงในตู้ปลา และ อ่างปลา เพื่อให้ปลาได้รับแดด ลม และ สิ่งสำคัญ ปลาต้องได้รับการออกกำลังกาย คือ มีที่กว้าง ว่ายน้ำ อาจต้องทำน้ำวน ให้ปลา หรือ กระเพื่อม เพื่อให้ปลา ได้ออกกำลังกาย จากนั้น ต้องระวังเรื่องโรคปลา ทั้งโรคภายใน และ โรคภายนอก คงอธิบายกันยาวนะครับ ขอละไว้ นะครับ ต้องระวังเรื่องฝนฟ้า ฝนตก ต้องรีบ ใส่ยา หากยังไม่มีเวลาเปลี่ยนน้ำ หรือ มีเวลา ก็ ถ่ายน้ำ ทันที บางวัน ก็ตักลงมาดูในตู้กระจก ปลาอ้วนไปไหม ผอมไปไหม ว่ายน้ำ สวยไหม สมบูรณ์แค่ไหน แล้ว ก็ แก้ไข กันไป บางวัน ยิ่งใกล้ ส่งประกวด ปลาตัวเก็ง ของเรา มักทำให้เราเกร็ง คือ เป็นโรค หากรีบ รักษา โอกาศ ที่ปลาจะหาย มีมาก นั่นคือ นั่งพินิจ พิจารณาปลา กันทั้งวัน หากมีเวลา แถม วัน ๆ ต้องให้อาหารปลา ถึง 5 มื้อ ให้ ครั้งละไม่มาก แต่มากครั้ง อาหาร ก็ต้องเลือกสรร อาหารสด อาหารแช่แข็ง อาหารเม็ด ไข่ตุ๋น เต้าหู้ไข่ตรานางพยาบาล และก็ต้อง ดูด้วยว่า ปลากินแล้ว สีเป็นไง อ้วนไปไหม โตเร็วไหม ถ่ายสะดวกไหม สีของขี้ปลาเป็นไง ปลาท้องอืดไหม กินมากไป หัวทิ่มไหม ว่ายน้ำอุ้ยอ้ายไปไหม ปลาแข็งแรง แค่ไหน เพราะ เมื่อส่งปลาประกวด วันพฤหัส ปลา ต้อง อยู่ในงานไปอีก ถึงอาทิตย์หน้า รวมแล้ว 11 วัน ในห้างสรรพสินค้า ปลาต้องสวย และ แข็งแรง จริง ๆ ไม่งั้น ปลาจะเป็นโรค หรือ ตาย ระหว่างประกวด พอวันส่งปลา ก็ต้อง บรรจง จับปลาบรรจุถุง ก็ต้องพิจารณาว่า ปลาควรบรรจุถุง ถุงละกี่ตัว เมื่อไปส่ง ก็ต้องค่อย ๆ จับปลาใส่ตู้ ไม่ให้ช้ำ ทุกขั้นตอนละเอียด อ่อนมาก ๆ หลังกรรมการตัดสินปลา ก็จะ แปะชื่อเจ้าของปลา และ รางวัลไว้ที่ ขอบตู้ และเมื่อวันเปิดให้ประชาชนทั่วไปชม นี่แหละครับ ปัญหามากมายตามมา เจ้าของงาน หมายถึงกรมประมง และ ห้าง ติดป้าย ห้ามเคาะกระจก ห้ามใช้แฟลช และ มีการออกไมค์ เป็นระยะ แต่เชื่อหรือไม่ คนเข้าชมปลา ไม่เคยเอาใจใส่เลย ลูกเล็กเด็กแดง เคาะตู้กระจก เป็นว่าเล่น ตัวไหนได้รางวัล ตัวนั้นเหนื่อยหน่อย คนดูจะเคาะตู้เพื่อให้มันว่ายน้ำ หรือ ถ่ายรูปได้มุมดี บางคน อาโนเนะ หน่อย ก็เอาหน้าไปเทียบที่ตู้ปลากันเลยครับ ทำปากจู๋ นิด ๆ ตามสมัยนิยม แล้วให้แฟน บรรจงกดชัดเตอร์ บางคน ใช้กล้องอย่างดี กดแฟลช แชะ ๆ ปลาสะดุ้ง แล้ว สะดุ้งอีก คิดดูครับ คนชมกัน เป็นหลักแสน ปลาต้องว่ายน้ำให้ดู ต้องตกใจจากการเคาะกระจก แสงแฟลช จนผมทนไม่ได้ ต้องออกไมค์ ช่วยประกาศ แต่ก็อีก คนไทย ไม่ใสใจหรอก ปลาไม่ใช่ของกู บางตัวตายครับ บางตัวหมดสภาพ คนดูบางคน ปลาไม่เห็นสวยเลย ได้รางวัลได้ไง คิดดูครับ ปลาอยู่ในตู้ 11วัน อาหารไม่ถึง น้ำไม่ได้ใส เหมือนเลี้ยงเอง อันนี้เข้าใจ และ รับสภาพได้ แต่ คนไปดูปลา มีส่วนทำให้ปลาโทรมเร็ว ไม่ขออธิบาย ให้ยืดยาวนะครับ คนได้รางวัลยิ้มหน้าบาน คนไม่ได้รางวัล ปลาตรู สวย ทำไมไม่ได้รับรางวัล อันนี้เกิดขึ้นเสมอ แต่ทั้งนี้ กติกามี คงไม่บรรยายให้เกิดความแตกแยกครับ บางคนดี มีน้ำใจ เข้ามาทักทาย ดีใจด้วยนะ ยรรยง ได้รางวัลที่ 1 ถึง สามรางวัล แถมพ่วง ชมเชยอีก 1 รางวัล บางคน ปลามันไม่เห็นสวยเลยหัวทิ่ม ผมใจเย็นเปิดวิดีโอคลิปให้ดู ไม่ใช่คลิปโป๊นะครับ ผมบอกว่าผมเลี้ยงปลา อย่างไรกว่าจะได้รับรางวัล ปลาผมว่ายน้ำดีครับ แต่วันหลัง ๆ มันเหนื่อย ตัวไหนก็หัวทิ่มครับ ดีว่ามี คลิปวิดีโอเป็นหลักฐาน บางคน คุณยรรยง โชคดีมาก ผมก็บอกว่า คงงั้นมังครับ แต่ลึก ๆ แล้ว บอกว่า ผมพยายามแทบตายพวกคุณรู้บ้างไหม ไม่ใช่เตรียมตัว วัน สองวัน บางคนเถียงว่า ปลาผมเป็นปลาอนาคต กรมประมงก็ตอบว่า เราตัดสินปลา คือ วันตัดสินปลาต้องสวยเต็มที่ แถมดูองค์รวม ทั้งตัว ปลาบางตัวสมบูรณ์มาก แต่ หางสั้น คือ ตัวมาก่อน หางยังไม่ยาวพอ พอตัดสิน เขาก็คัดค้านกันว่า ปลาใหญ่ ทำไมไม่ได้ แต่โดยรวม ปลาตัวยาว หางสั้น คือ ไม่สมส่วน จะให้ได้รับรางวัลได้ไง ผมก็ได้ยกตัวอย่างว่า ในการประกวดนางสาวไทย เขา ดูหน้าตา ดูรอบอก รอบเอว สะโพก ความสูง ต้องดูหมด ปลาก็เหมือนกัน หลังประกวด ความมีน้ำใจก็เริ่มปรากฎให้เห็น ผมแบกถุงปลา ถุงใหญ่มาก บรรจุปลา 6 ตัว แบกไม่ไหว เด็กหนุ่มบางคนเห็นอาสา เข้ามาช่วย บางคนเข็นรถเข็นผ่านมา พี่ผมให้พี่ยืมก่อน เดี๋ยวพี่เอามาให้ผมนะ ในสังคม คนเห็นแก่ตัวก็มีเยอะ คนดี ก็ไม่น้อย หากเราไม่เล่าสู่กันฟัง หรือ สะท้อนให้เขาเห็น เขาก็จะไม่พัฒนา หรือ อาจไม่รู้ตัวเลยก็ได้ ว่าการกระทำ อันน่ารักสำหรับเขา มันก่อความเสียหายแก่ปลา และ เจ้าของปลา ที่เข้าประกวดแค่ไหน อีกอย่าง รายได้ทั้งหมด ทูลเกล้าฯ ถวาย ทั้งหมดครับ แต่ก็เป็นความภูมิใจสำหรับผม ที่ ความพยายามทั้งหมด ได้รับ รางวัลเป็นการตอบแทน ผมไปรับถ้วยจากฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ พร้อม ภรรยา และ บุตรชาย แค่นี้ก็หายเหนื่อยแล้วครับ แต่ขณะเดียวกัน ผมคิดว่า คนเราควรยึดกติกา และ เคารพสิทธิ์ของ ผู้อื่นด้วย ในเมื่อ คำเตือน ก็ติดไว้ ดังนั้น การไปชมกิจกรรมใด ก็ตาม อยากให้เคารพกติกา และ กฎเกณฑ์กันบ้าง ครับ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
oyo 46 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 21, 2010 Mr.Yanyong แฟนพันธุ์แท้ ออฟไลน์ กระทู้: 377 Re: มังกรจีน และ มังกรไทย « ตอบ #67 เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2009, 11:03:50 am » สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน วันนี้ก็เป็นวันหยุดอีกวันหนึ่ง หากแต่ มีบางท่านยังไม่หยุด ยังติดพันกับการลงทุน หรือไม่รู้จะไปไหน ก็เลยยังนั่งหน้าจอ ส่วนตัวผม มัก ให้รางวัลชีวิต เสมอ หรือ เติมพลังชีวิต ให้เข้มแข็ง ผมจะไม่หมกมุ่นกะเรื่องหนึ่งเรื่องใด จนเกินไป จนทำ ให้ละเลย กิจวรรต อื่น ๆ วันนี้ ก็อยากมาคุยเรื่องการให้ หลังๆ มานี้ มีแต่คนอยากรับ อยากได้ ใคร่ดี กันมาก ๆ อยากเอา ชนะคะคาน อยากเป็นคนเด่น คนดัง โดยไม่สนใจเลยว่า ผลกระทบของตัวเอง ที่ไปกระทบคนอื่นนั้น ใหญ่หลวงนัก เพียง เพื่อต้องการเอาชนะ เพียงเพื่อความสะใจ ทำให้ลืมความเป็นคน ลืมคำว่า เสียสละ ลืมคำว่าให้ คำว่าให้นี้ แหละ สำคัญมาก ไม่ได้หมายถึง ให้เงินให้ทอง นะครับ ให้ความรู้ ให้วิชาการ ให้ประสบการณ์ ให้ความสุข ให้ความหฤหรร ให้ความหรรษา ให้สาระต่าง ๆ ให้เรื่องราวดี ๆ ให้ข้อคิด ให้ด้วยความบริสุทธิ์ โดยไม่หวังผลตอบแทน ปัจจุบัน คนเรา รับ รับ รับ โดยไม่คำ นึงถึงการให้ หรือ เป็นการให้เพื่อหวังผล เป็นการให้ ด้วยการหลอกลวงผลประโยชน์กลับคืน เมื่อวาน ผมออกไปเดินเล่น จตุจักร แบบทุกวันหยุด แต่สิ่งที่เห็นเป็นประจำ คือ เต๊นท์ ขอรับบริจาค ของวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งเป็นวัดที่ทุกคนก็รู้ว่า วัดนี้ มีกิจกรรมใด แต่เป็นเรื่องน่าวิตกอย่างคือ คนไทยเราเดี๋ยวนี้ เป็นไรกันไปหมด หากทำบุญรักษาคน รักษาโรคเอดส์ กลับ ไม่ค่อยมีคนสนใจ หน่วยงานของรัฐเช่น กระทรวงสาธารณสุข ทำไรกันอยู่ ปล่อยให้วัดแห่งนี้ อยู่กันอย่างยถากรรม คน ไทย ส่วนใหญ่ หลงงมงาย เรื่องทำบุญมากได้บุญมาก หลงไปนั่งสมาธิ เห็นเทวดา เห็นนางฟ้า เห็นสวรรค์ชั้นต่าง ๆ แต่ ไม่ยัก เห็นตัวเองว่า กำลังลุ่มหลง หรือ ศรัทธา ดวงตาเห็นธรรม จริงหรือ วัดบางแห่ง มีโรงเรียน มีโรงทาน มีรักษาโรค แต่กลับขาดปัจจัยพื้นฐาน แต่บางวัด ผู้คนแห่แหน กันไปทำบุญ กันจนรวยล้นฟ้า ผมก็ไม่อยากขัดศรัทธาใคร หากแต่ อยากชี้ให้เห็นว่า หลายวัด ในปัจจุบัน ที่ไม่เทศเรื่องสวรรค์ นรก เทวดา นางฟ้า วัดนั้น ๆ จะไม่มีใครเข้าไปทำบุญ วัดไทย แต่โบราณ เป็นทั้งโรงเรียน เป็นทั้งศูนย์รวมจิตใจคนในหมู่บ้าน ในสังคม เป็นทั้งแหล่งรักษาผู้คนด้วยโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ แต่วัดเหล่านั้น กำลังขาดปัจจัยอย่างหนัก ทำให้ผมนึกถึงคำพูดของหลวงพ่อคูณ ที่เคยออกทีวี เงินที่เขาบริจาคมา บางที มากเกินไป กูก็คืนให้เขาบางส่วน เงินทำบุญของกู บางทีกูก็บริจาคต่อให้วัดอื่น ๆ ที่ขัดสน ก็ไม่เคยเก็บเงินเหล่านี้ไว้เป็น ส่วนตัว ฟังแล้วคิดครับ หากแต่ วัดที่ทุกคนกำลังลืม คือวัดพระบาทน้ำพุ ที่ผมเห็น ซึ่งหลายคน กำลังออกมารณรงค์ ขอปัจจัยบริจาค เพื่อ ให้คนเป็นโรคเอดส์ และ สมาชิกในครอบครัว ได้ต่ออายุ ต่อไป เห็นแล้วเศร้าจริง ๆ ขอร้องส่วนตัว นะครับ เจียดเงินให้วัดนี้ สักนิด เพื่อชีวิต ของนรก บนดิน ที่ท่านได้เห็นด้วยตาเนื้อ ยังไม่ต้องเห็นด้วยตาทิพย์หรอกนะครับ ก็เล่าสู่กันฟังนะครับ ว่า ในอดีต คนไทยมีน้ำใจ อารีย์ รู้จักให้ แต่ทำไมวันนี้ ถึงคิดแต่จะรับ แถมยังให้ไม่เป็น ผมก็เขียนแบบ รวก ๆ อาจไม่ได้อรรถรส เป็นการเขียนขึ้นสด ๆ ไม่ได้ปรุงแต่งหรือแก้ไข หากกระทบจิตใจใครไปบ้างก็ขออภัย ครับ การอภัย ถือได้ว่า เป็นธรรมทานอันหนึ่งนะครับ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
oyo 46 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 21, 2010 dang052 เด็กอนุบาล ออฟไลน์ กระทู้: 17 Re: มังกรจีน และ มังกรไทย « ตอบ #69 เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2009, 09:44:17 pm » อยากทำบุญก็ทำไป... อย่าไปตำหนิคนอื่น สิครับ .. จริงอยู่ เราอยากทำบุญกับวัดไหนวัดนึง ก็ต้องหาเหตุผลมาสนับสนุนการกระทำของเราเสมอ... แต่คงไม่ดีกระมังถ้าเราไม่สนับสนุนให้คนไปทำบุญที่อื่นบ้าง เขาจะว่าเราเห็นแก่ตัว มากกว่า... ...เหมือนกัน ถ้าผมจะบอกว่า ..ผมไม่อยากทำบุญกับวัดพระบาทน้ำพุหรอก ..เพราะอะไร ...เพราะคนป่วยเหล่านี้ เป็นคนไม่ดีมาก่อน เป็นลูกที่เกเรไม่เชื่อฟังพ่อแม่... เป็นสามีที่ไม่รักครอบครัว ..ไปเที่ยวสำส่อน.พลาดพลั้งติดโรคร้ายมา ..ทำให้บุพพการี เสียใจมาก ใครรู้ก็เสื่อมเสียชื่อเสียง...บ้างก็ตัดพ่อตัดลูก...บ้างก็ไม่มีเงินรักษาโรค โรงพยาบาลไม่รับรักษา ต้องไปขอพึ่งใบบุญพระสงฆ์ เกิดเป็นปัญหาสังคม ถ้าใครมีญาติที่ป่วยเป็นโรคแบบนี้ ..มีแค่ความสมเพทเวทนาให้เท่านั้น ..แต่จะไปดูแลด้วยความรักจริง ๆ นั้น น้อยมาก..เดือดร้อนถึงพระสงฆ์ที่มีเมตตาต้องมาเสียเวลาปฏิบัติธรรมส่วนตัว ..รักษาได้ ...ให้หายน่ะยาก ..แต่ชลอการตายน่ะได้...ที่สังคมเห็นควรช่วยเหลือวัดพระบาทน้ำพุนั้น ไม่ใช่เพราะมีศรัทธาต่อศาสนานะครับ ...แต่เป็นเรื่องขอการสังคมสงเคราะห์ล้วน ๆ...แต่แปลกนะครับ ..หน่วยงานของรัฐที่สามารถชลอให้คนป่วยที่น่ารังเกียจเหล่านี้ ได ..ทำไมถึงไม่สนใจ คนป่วยกลุ่มนี้ ...อาจเป็นเพราะเป็นโรคที่แส่หามาเอง ...จึงไม่ค่อยมีคนอยากยื่นมือเข้ามาช่วย...แต่ ผมก็ยินดีครับ ที่เฮียยรรยง ชักชวนสมาชิกให้สนับสนุน พระภิกษุที่เมตตาต่อคนป่วยอย่างนี้ ซึ่งหาได้ยากมาก อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
oyo 46 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 21, 2010 Mr.Yanyong แฟนพันธุ์แท้ ออฟไลน์ กระทู้: 377 Re: มังกรจีน และ มังกรไทย « ตอบ #70 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2009, 09:16:27 am » คงต้องไปหาหัวข้อ อภัยทานมาเขียนซะแล้ว ครับ หรือใคร มีความรู้ความสามารถ ก็ช่วยกันนะครับ ส่วนตัวคงต้องไปค้นเรื่อง อภัยทาน และ ศึกษาให้จงหนักเสียแล้วครับ มิเช่นนั้น คงไม่มีคำพูดที่ว่า กว่าจะรู้ตัวเมื่อสายเสียแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ผมยัง เชื่อและศรัทธาเรื่องที่ผมเคยอ่านเสมอ คือ องค์คุลีมาร ผมอาจสะกดผิดนะครับ วันแล้ววันเล่า ว่าจะไปซื้อพจนานุกรมไทย มาอ่าน ก็ยังไม่ได้ไปซื้อสักที เรียกได้ว่า ผลัดวันประกันพรุ่ง ครับ ถือว่าเป็นการออกความเห็นแบบกว้าง ๆ แล้วกันครับ ไม่ชี้ ผิด ชี้ถูก ทั้งหมด สมัยผมยังเด็ก ผมมองเหตุการณ์อย่างหนึ่งว่าผิด แต่ เดี๋ยวนี้ผมมองว่าถูก บางครั้งผมตำหนิคนอื่น แต่เมื่อผม ประสบกับตัวเอง ถึงได้รู้ว่า ผงเข้าตาตัวเอง ซะแล้ว 555555555555555555555555 ขำ ๆ นะครับ อ่านแล้วอย่าเครียด อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
oyo 46 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 21, 2010 Mr.Yanyong แฟนพันธุ์แท้ ออฟไลน์ กระทู้: 377 Re: มังกรจีน และ มังกรไทย « ตอบ #72 เมื่อ: กรกฎาคม 29, 2009, 11:10:49 pm » ลุ่มหลง หรือ ศรัทธา อยู่ใกล้เคียงกันมากจนแทบ ทับกัน หรือ แนบกันสนิท มาก ๆ พื้นฐานคนมุ่งหวังผลตอบแทน ลำบากที่จะคิด ลำบากที่จะศรัทธา โดยบริสุทธิ์ใจ ผู้ฉลาดกว่า ย่อม เป็นต่อ ผู้โง่เขลาย่อมตกเป็นเหยื่อ เหมือนดั่งผู้ใหญ่เอาขนมมาล่อเด็ก ฉันใด ก็ฉันนั้น แต่การล่อให้งมงาย ลุ่มหลง หรือ สร้างความยิ่งใหญ่อลังการ นี่สิ หรือการเอาสิ่งที่เป็นเหตุเป็นผล เป็นจริง อ้างอิงประวัติ บุคคล แล้วโน้มน้าว นี่ก็อีกอย่าง เมื่อมีศรัทธา เมื่อมีความลุ่มหลง ยากแท้ที่จะหาเหตุผล มาพิจารณา ลมแรงพายุกระหน่ำ แม้แต่ ต้นไม้ใหญ่ยังถอนโคน รังแต่ จะทานทน หากแต่ ต้นอ้อ เล็ก ๆ กลับยืนหยัด « แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 29, 2009, 11:14:21 pm โดย Mr.Yanyong » บันทึกการเข้า อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
oyo 46 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 21, 2010 Mr.Yanyong แฟนพันธุ์แท้ ออฟไลน์ กระทู้: 377 Re: มังกรจีน และ มังกรไทย « ตอบ #73 เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2009, 01:38:47 pm » อ่านข้อความดังกล่าว แล้ว ยากเดา หากแต่ ผมเขียนรวม หลายเรื่องเข้าด้วยกัน เพื่อหวังว่า ใครอ่านเจอ จะเข้าทางของคนนั้นพอดี หากแต่ เจตนาดี มิได้มีไรแอบแฝง มองเห็นกันอยู่ทุกวี่วัน สังคม ตัวใครตัวมัน มือใครยาวสาวได้สาวเอา สังคมเผื่อแผ่ อย่างเช่น อดีต ค่อย ๆ เลือนหายไป ทีละเล็ก ทีละน้อย จนกระทั่งแทบหายไปหมด ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนกลายเป็นผลประโยชน์แอบแฝง ทั้งสิ้นไม่มากก็น้อย ครับ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
oyo 46 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 21, 2010 Mr.Yanyong แฟนพันธุ์แท้ ออฟไลน์ กระทู้: 377 Re: มังกรจีน และ มังกรไทย « ตอบ #74 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2009, 01:07:27 pm » สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้เป็นวันอาทิตย์ เป็นวันหยุดพักผ่อน แต่หลายท่านอาจยังไม่ได้พักผ่อน ส่วนผม ก็แวะมาเขียนเรื่องเพื่อสังคมสักนิด แล้วกะจะไป พักผ่อนดูภาพยนต์ กับครอบครัว ผมโคร่ครวญอยู่หลายวันว่าจะเขียนข้อความต่อจากบทความก่อนหน้านี้ดีไหม จากส่วนลึก ๆ ใน มโนคติ บอกผมว่าควรเขียนต่อ ผมก็ใคร่ขอบอกพี่น้องและทุกคนที่เคยอ่านบทความผมว่า นรกบนดินนี้มีจริง ๆ ผมอาจไม่เคยไป วัดพระบาทน้ำพุ แต่เมื่อได้ดูในรายการหนึ่ง ในทีวี ยูบีซี ก็ทำให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงบางประการ แม้ไม่มาก หากแต่ได้สัญญากับ ตัวเองว่า สักวันหนึ่งอันใกล้นี้ ผมจะสละเวลาในวันหยุด พาครอบครัวไปวัดพระบาทน้ำพุ เพื่ออย่างน้อยจะได้ไปดู นรกบนดิน และ ได้สอนถึงคุณค่าชีวิต และ การให้อภัย ให้ลูกทั้งสองได้เข้าใจ ไม่ว่าใครก็ตามคงไม่อยากเป็นโรคเอดส์ แต่เนื่องจากความประมาท ความอ่อนด้อยในการศึกษา ความอ่อนด้อยในความรู้ความเข้าใจถึงโรคเอดส์ ความประมาท ทำให้คนในสังคมติดเอดส์ ซึ่งไม่แบ่ง ว่าจะเป็นผู้ดีมีจน ทุกคนมีโอกาสติดโรคเอดส์ ด้วยกันทั้งสิ้น หากแต่ ถ้ารู้จักป้องกัน ให้ดี หรือ รู้จักใช้ถุงยางอนามัยให้ดี หรือ แม้กระ ทั่งหลีกเลี่ยงการร่วมประเวณี แบบสำส่อน การติดยาเสพติด การร่วมเพศ แบบ รักร่วมเพศ ซึ่งผมไม่ตัดสินนะว่า เป็นความผิด ของ ผู้คนเหล่านั้น หากเกิดจากความประมาท หลายคนติดเชื้อเอดส์ โดยไม่ตั้งใจ ภรรยา ติดจาก สามี สามี ติดจาก ภรรยา ลูก ติดจาก พ่อแม่ หญิงสาวติดจากแฟนหนุ่ม แฟนหนุ่มติดจาก หญิงสาว หนุ่มติดจากหนุ่ม หญิงติดจากหญิง ไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ หากแต่ เขาเหล่า นั้นไม่ผิด ไปเสียทั้งหมด บางคนติดโดยไม่เจตนาเลย แต่ติดจากคนใกล้ชิด โดยเฉพาะเด็ก อันนี้น่าเห็นใจมากกว่า ไปทับถม คนเรา ยังหลงประเด็นการทำบุญไปมากมาย ผมคงกล่าวสั้น ๆ ว่า การทำบุญมิได้หมายถึงทำกับพระเท่านั้น ยังสามารถทำบุญในรูปต่าง ๆ กัน ออกไป ซึ่งถ้าบรรยายในที่นี้คงไม่หมด เนื่องจากทุกคนมีความคิด เป็นของส่วนตัว หากแต่ต้องคิดอย่างมีเหตุมีผล อย่างที่ท่านบรมศาสดา สอนไว้ ไม่ใช่ลุ่มหลงงมงาย หรือ ศรัทธา โดยไม่คำนึงถึงเหตุถึงผล วันนี้ ก็เป็นอีกวัน ที่ผมเห็นหลวงพ่อ แห่งวัดพระบาทน้ำพุ ออกทีวี เห็นคนเป็นเอดส์ ใกล้ตาย หรือ ตายแล้วนำไปเผา รวมถึงเด็ก ที่ติดเชื้อจากพ่อแม่ เขาไม่มีทางเลือกเลย และ ยังรวมถึงเด็ก ที่กำพร้า เพราะพ่อแม่เป็นเอดส์ ตาย เด็กยากจน ที่มาอาศัยวัดแห่งนี้ วันหนี่ง ๆ หลวงพ่อมีค่าใช้จ่ายมากมาย ผมเห็นว่า พระองค์นี้เป็นพระปฏิบัติ ดี ปฏิบัติชอบ ช่วยเหลือนรกบนดิน ที่เห็น ๆ ได้ด้วยตาเนื้อ ส่วนสวรรค์ นั้นหรือ ไม่ว่าตาเนื้อ หรือ ตาทิพย์ ผมเองยังไม่เคยเห็น เอาเป็นว่า เอาที่ว่าเห็นได้ด้วยตาเนื้อก่อน นะครับ ก็คือนรกและสวรรค์ ที่วัดพระบาทน้ำพุ หลายท่านที่อ่าน อยู่ อาจสงสัยว่าผมพูดวกไปวนมา แต่ ถ้าพิจารณาให้ถ่องแท้ บรรดาผู้ซึ่งติดเอดส์ และ เด็กยากจน นรกแท้ ครับ แต่ การพยายามช่วยเหลือของหลวงพ่อ และ ทุกท่าน ที่บริจาคเงิน นั้นคือ สวรรค์ ของเด็ก และ ผู้ติดเชื้อ ผมคิดว่า ด้วยสติปัญญา ผมขยายความเช่นนี้ ทุกท่านคงเข้าใจได้ไม่ยาก ดังนี้น ผมอีกคนหนึ่ง ขอกราบวิงวอน ทุกท่านที่ได้อ่านบทความนี้ สละเงินคนละเล็กละน้อย ช่วยบริจาค วัดแห่งนี้ด้วยนะครับ ปี ๆ หนึ่ง เราทำบุญมากมาย ไม่ว่าเป็น กฐิน ผ้าป่า และ อื่น ๆ อีกมากมาย ............................. ต่อท้ายอีกนิดครับ สืบเนื่องจากที่ผมเคยกล่าวบ่อย ๆ ว่า เราลงทุนเพื่อให้ใครกำไร ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนทำการค้า ยกตัวอย่าง เราเช่าที่แพง ๆ แต่ ขายไม่ได้ รายแล้วรายเล่า ที่เข้ามาเช่า แล้ว เลิก เนื่องจากขายไม่ได้ รายใหม่ก็เข้ามา สุดท้าย เจ้าของที่ดิน หรือเจ้าของห้างกำไร ผมก็พยายามแนะนำ เฉพาะผู้ยังอ่อนเยาว์ ว่า การลงทุน ต้นทุนที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ ที่เงิน เท่านั้น เวลา เพื่อน ฝูง สังคม ครอบครัว และ อื่น ๆ ที่เราเสียไป ต้องนำมารวมเป็นต้นทุน แล้ว ลองคิดว่า คุ้มหรือไม่กับการลงทุนใด ๆ ที่ได้ลงทุนไป อย่าลงทุนเพราะเป็นแฟชั่น เป็นสมัยนิยม หากแต่ ต้องถามตัวเองว่า คุ้มค่าแล้วหรือไม่ กับเงินทุน และ อื่น ๆ ที่เราลงไป เรามีความ รอบรู้หรือถนัดกับการลงทุนนั้น ๆ หรือไม่ การลงทุนบางอย่างเหมาะกับ พวกที่เกษียณแล้ว เช่นผม แต่ผมก็ยังมีธุรกิจทำ แต่เจียด เงิน สัก 5 ถึง 10 เปอร์เซนต์ มาเล่นทองหรือเล่นหุ้น แต่เงินส่วนใหญ่ของผมยังใช้ลงทุนในกิจการหลัก แต่ถ้าการลงทุนนั้น ๆ ทำให้ธุรกิจหลักเสีย เช่น คนที่ทำธุรกิจส่วนตัว หรือ พนักงานบริษัท แต่เอาเวลา ทำธุรกิจ หรือ เวลาทำงาน มาใช้ผิดประเภท ผมว่า ไตร่ตรองกันดี ๆ นะครับ สำหรับการเขียนบทความของผมส่วนใหญ่ ก็เอามาจากประสบการณ์ ผมพูดเล่นเสมอว่า รุ่นผม เรียกว่า เป็น แมลงเม่าเฒ่า ครับ เพราะผม เป็นรุ่นแรก ๆ ที่ออกจากงานมา แล้ว พยายามลงทุน เข้าทำงานเป็นพนักงานอีกครั้ง จน สุดท้าย ออกมาทำกิจการส่วนตัว ที่ผมเล่ามาทั้งหมด ผมคิดว่าผู้อ่านล้วนมีวิจารณญาณ ของตัวเองในการอ่าน คงไม่คล้อยตาม ผมไปทั้งหมด เพราะ การมีสติ และ ปัญญา ในความคิดมีอยู่ทั่วทุกตัวตนอยู่แล้วครับ ว่าง ๆ จะมาเขียนบทความต่อนะครับ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
