ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

จีนระบุว่า ภาวะเงินเฟ้อชะลอตัวลงอยู่ที่ร้อยละ 4.1

 

สถิติของทางการจีนที่เปิดเผยวานนี้ชี้ให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อจีนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับช้าที่สุดในช่วงกว่า 1 ปีเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แถลงการณ์ของสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโบคจีนซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญเพิ่มร้อยละ 4.1 เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับช่วงเดือนพฤศจิกายนซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 4.2 ขณะที่บรรดาผู้นำอาวุโสของจีนกล่าวย้ำให้สัญญาว่า จะดำเนินนโยบายด้านการเงินด้วยความระมัดระวัง และนโยบายด้านงบประมาณของปีนี้จะเป็นไปในเชิงรุก เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเงินเฟ้อ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การประท้วงในไนจีเรียเข้าสู่วันที่ 4 แล้ว ขณะที่คนงานบริษัทน้ำมันขู่ที่จะยุติการผลิตน้ำมัน

 

การประท้วงต่อต้านราคาน้ำมันแพงครั้งใหญ่ในไนจีเรีย ซึ่งมีผู้ประท้วงหลายหมื่นคนออกมาชุมนุมบนถนนหลายแห่งทั่วประเทศและทำให้ประเทศกลายเป็นอัมพาตเข้าสู่วันที่ 4 แล้ววานนี้ ขณะที่คนงานบริษัทน้ำมันขู่จะยุติการผลิต ทั้งนี้รัฐบาลไนจีเรียตกอยู่ภายใต้ความกดดันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กลุ่มอิสลามโบโก ฮารามสังหารชาวคริสต์และมีการตอบโต้รุนแรงพุ่งเป้ากลุ่มมุสลิม ซึ่งรัฐบาลเกรงว่าเหตุประท้วงและเหตุโจมตีหลายระลอกที่รัฐบาลระบุว่าเป็นฝีมือของอิสลามโบโก ฮาราม อาจบานปลายจนกลายเป็นสงครามกลางเมือง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เรียนถามหน่อยครับ

ตอนนี้ทองมักไปตามไหนมากที่สุดครับ

หุ้นยุโรป หุ้นสหรัฐ ค่าเงินยุโรป ค่าเงินสหรัฐ น้ำมัน

หรือตอนนี้มันมั่วไปเรื่อยเลย งงไปหมดแล้วครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Dollar Stages Downward Correction against Euro

ForexYard \ 11:14 AM EST \ January 12th, 2012

 

 

 

The EUR/USD turned bullish on Thursday, as the combination of a successful Spanish bond auction and the European Central Bank’s decision not to lower euro-zone interest rates helped turn investors onto the common currency. Analysts were quick to warn that the overall trend for the pair is still strongly bearish and the gains can be partly attributed to traders correcting the huge euro sell-off in the last few weeks.

 

Thursday also saw the release of several important US indicators that came in below expectations. Both the Retail Sales and Core Retail Sales figures proved to be disappointing , while a higher than forecasted number of Americans filed for unemployment benefits last week. The news cast doubts on the strength of the US economic recovery. How traders will react to the poor economic data will likely depend on US indicators set to be released today.

 

On Friday, traders will want to pay attention to the US Trade Balance and Prelim UoM Consumer Sentiment figures. While the Trade Balance figure is forecasted to come in slightly worse than last month, the Consumer Sentiment figure is expected to increase slightly. Positive news is likely to help the USD against its main safe-haven currency rivals, especially the yen and Swiss franc, to close out the week.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อิตาลี-สเปนขายบอนด์ราบรื่นหนุนหุ้นสหรัฐปิดบวก..แต่ยุโรปแกว่งไร้ทิศทางหลังเงินดอลล์ร่วงเทียบเงินยูโรดันทองพุ่งเฉียด$1,650-น้ำมันร่วงสู่$99.10

วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555AAAขนาดตัวอักษร| |

 

หุ้นยุโรปอ่อนตัวขาลงแกว่งไร้ทิศทางหลังอีซีบีตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 1% วานนี้ แม้ว่าตลาดมีการตอบรับผลประมูลพันธบัตรใน 2 ประเทศกลุ่มยูโรโซนที่ถูกจับตามองมากที่สุดต่อปัญหาวิกฤติหนี้สาธารณะ ทั้งอิตาลีและสเปน เปิดขายได้ราบริ่น 8.5 พันล้านยูโร และ 1 หมื่นล้านยูโร ตามลำดับ หนุนดัชนีหุ้นสหรัฐปิดตลาดปรับตัวขึ้นโดยไม่ขานรับการเปิดเผยตัวเลขยอดขายจากอุตสาหกรรมค้าปลีกที่น่าผิดหวัง รวมทั้งตัวเลขอัตราว่างงานที่ยังย่ำแย่ ส่งผลเงินดอลลาร์อ่อนค่ามาที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์ ดันราคาทองตลาดโลกปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,647 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น ดอลลาร์ สวนทางน้ำมันไนเม็กซ์ร่วงต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ปิดที่ 99.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 1.77 ดอลลาร์ แม้มีปัจจัยลบจากสถานการณ์ตึงเครียดในไนจีเรีย-อิหร่าน

 

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา (12 ม.ค.) ขยับขึ้น 22.10 จุด หรือ 0.18% ปิดตลาดที่ 12,471.55 ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 2.99 จุด หรือ 0.23% ปิดที่ 1,295.47 และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวขึ้น 13.94 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 2,724.70

 

ทางด้านฟากฝั่งหุ้นยุโรปซื้อขายกระจัดกระจายทั้งขึ้นและลง โดย FT100 ลอนดอน และ CAC40 ฝรั่งเศสปิดลบ 0.15% ทั้งสองตลาด มีเพียง DAX เยอรมัน ปิดบวก 0.44%

 

ทั้งนี้ สหรัฐเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ม.ค. เพิ่มขึ้น 24,000 ราย มาอยู่ที่ 399,000 ราย ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 375,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานอาจไม่แข็งแกร่งอย่างที่หลายฝ่ายคาดหวัง

 

จำนวนดังกล่าว เพิ่มขึ้นจากระดับ 375,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากระดับ 372,000 รายในรายงานก่อนหน้านี้

 

ขณะที่ยอดขายจากอุตสาหกรรมค้าปลีกเดือนธ.ค.ลดลงจากเดือนก่อนหน้านี้ ตอกย้ำความกังวลว่า การจับจ่ายใช้สอยช่วงวันหยุดปลายปีที่ผ่านมาไม่สดใสเพราะปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวและการลดราคาอย่างมโหฬารของบรรดาร้านค้าต่างๆ

 

ดอลลาร์อ่อนหนุนทองราคาทองตลาดโลกปรับตัวขึ้น

 

ราคาทองคำในตลาดสหรัฐปิดตลาดขยับขึ้น 0.5% ได้แรงหนุนจากดอลลาร์อ่อนค่าและตลาดคาดการณ์ว่าจีนจะผ่อนคลายนโยบายการคลัง

 

เงินสกุลดอลลาร์อ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโร หนุนให้ราคาโลหะมีค่าปรับตัวขึ้น เพราะนักลงทุนเห็นว่าเป็นแหล่งลงทุนทางเลือก ส่วนสเปน สามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรได้เกือบ 1 หมื่นล้านยูโร หรือ 1.27 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งพันธบัตรเหล่านี้จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2558 และ 2559 ขณะที่อิตาลีระดมทุนประมูลพันธบัตรได้ 8.5 พันล้านยูโร

 

โดยอัตราการเสนอซื้อมีมากกว่าพันธบัตรที่นำออกจำหน่ายกว่า 2 เท่า บ่งชี้ว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลชุดใหม่ของสเปน จะสามารถควบคุมวิกฤตหนี้ ภายในประเทศได้

 

ส่วนอัตราเงินเฟ้อของจีนปรับตัวร่วงลงต่ำสุดรอบ 15 เดือน ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า รัฐบาลปักกิ่งจะดำเนินการต่างๆเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

 

ทั้งนี้ ราคาทองคำส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดโคเม็กซ์สหรัฐ ทะยานขึ้น 0.5% ปิดตลาดที่ราคา 1,647.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

น้ำมันดิบโลกร่วงต่ำกว่า100ดอลล์

 

แม้ว่าช่วงเปิดตลาด ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น เพราะนักลงทุนในตลาดกังวลว่า เหตุการณ์ประท้วงในไนจีเรีย และการคว่ำบาตรอิหร่าน เพื่อตอบโต้โครงการนิวเคลียร์ จะส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบหดตัวลง โดยสหภาพแรงงานไนจีเรีย เริ่มปิดแท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่สุดในแอฟริกา เพื่อประท้วงบีบให้ประธานาธิบดีกู๊ดลัค โจนาธาน อนุมัติให้มีการจ่ายเงินอุดหนุนราคาน้ำมันอีกครั้ง หลังจากการยกเลิกการจ่ายเงินดังกล่าว ส่งผลให้ราคาน้ำมันภายในประเทศพุ่งขึ้นสองเท่า

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายตลาด ราคาได้ปรับตัวลง โดยราคาน้ำมันดิบไลท์สวีท ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ส่งมอบเดือนก.พ. ปิดตลาดที่ราคา 99.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 1.77 ดอลลาร์ จากราคาปิดเมื่อวันพุธ

 

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 98 เซนต์ ปิดที่ 111.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ เคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เพราะได้แรงหนุนจากการที่ประเทศตะวันตกขู่คว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) หากอิหร่านปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือบรรทุกน้ำมันที่สำคัญของโลก

 

ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) ซึ่งเป็นหน่วยงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐ คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบจะเคลื่อนไหวที่ระดับเฉลี่ย 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปี 2555 สูงกว่าระดับเฉลี่ยของปี 2554 อยู่ประมาณ 5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และคาดว่า ราคาน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยในปี 2556 จะอยู่ที่ 106 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

อิตาลีระดมทุนประมูลพันธบัตรได้8.5พันล้านยูโร

 

อิตาลีระดมทุนจากการประมูลขายพันธบัตรอายุ 1 ปีได้ 8.5 พันล้านยูโรบ่งชี้นักลงทุนยังมั่นใจสถานะการเงินในอนาคตของอิตาลี

 

การขายพันธบัตรครั้งนี้ ให้อัตราผลอบแทน 2.735% ลดลงจากระดับ 5.95% ในเดือนที่แล้ว และยังต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนพ.ย.ที่ระดับ 6.087% นอกจากนี้ รัฐบาลอิตาลี ยังขายพันธบัตร ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในปลายเดือนพ.ค.นี้ มูลค่า 3.5 พันล้านยูโร ให้อัตราผลตอบแทน 1.644% ลดลง เมื่อเทียบกับการประมูลครั้งก่อนที่ 3.251%

 

ทั้งนี้ หนี้สินมูลค่า 1.9 ล้านล้านยูโร (2.42 ล้านล้านดอลลาร์) และความจำเป็นในการกู้ยืมเงินมูลค่ามหาศาลของรัฐบาลอิตาลีในปีนี้ ถูกจับตามองในตลาดการเงินท่ามกลางวิกฤติหนี้ยุโรปอีกครั้ง ขณะที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ซึ่งเคยระบุว่า อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีภายในเดือนนี้ ประมาณการว่า อิตาลีจำเป็นจะต้องระดมทุนอย่างน้อย 3.60 แสนล้านยูโร (4.58 แสนล้านดอลลาร์) ในปีนี้

 

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า สเปน สามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรได้เกือบ 1 หมื่นล้านยูโร หรือ 1.27 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งพันธบัตรเหล่านี้จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2558 และ 2559 โดยอัตราการเสนอซื้อ มีมากกว่าพันธบัตรที่นำออกจำหน่ายกว่า 2 เท่า บ่งชี้ว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลชุดใหม่ของสเปน จะสามารถควบคุมวิกฤตหนี้ ภายในประเทศได้

 

การประมูลขายพันธบัตรของสเปน มีขึ้นหลังจากรัฐสภาสเปน อนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดฉบับแรกของรัฐบาล มูลค่า 1.5 หมื่นล้านยูโร (1.91 หมื่นล้านดอลลาร์) มีเป้าหมาย เพื่อยับยั้งการพุ่งขึ้นของยอดเกินดุลงบประมาณ

 

เบจบุ๊คชี้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวต่อเนื่อง

 

เฟดเผยรายงานเบจบุ๊คล่าสุดบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงฟื้นตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

 

รายงานเบจบุ๊คของเฟดที่เกิดจากการสำรวจเศรษฐกิจ 12 เขต ระบุว่า เศรษฐกิจใน 7 เขตของสหรัฐ ขยายตัวปานกลาง และเศรษฐกิจในอีก 5 เขตมีการรายงานอัตราการขยายตัว ในระดับที่แตกต่างกันไป โดยเขตนิวยอร์กและชิคาโก เศรษฐกิจเริ่มขยายตัว ขณะที่เขตดัลลัสและซานฟรานซิสโก เศรษฐกิจขยายตัวปานกลาง และเขตริชมอนด์ เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย

 

ทั้งนี้ เฟดระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขตบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ภาวะเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นกว่าที่ได้มีการรายงานในช่วงฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงต้นฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว

 

ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นส่วนใหญ่ สะท้อนให้เห็นถึงยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเทศกาลวันหยุด ขณะที่ธุรกิจการเดินทางและท่องเที่ยวขยายตัวในเกือบทุกเขต

 

ด้านอุปสงค์ ในธุรกิจบริการนอกภาคการเงิน ยังคงแข็งแกร่ง ส่วนกิจกรรมด้านการผลิต ยังคงขยายตัวได้ดีในเกือบทุกเขต แม้อัตราการขยายตัวในภาคการผลิตบางประเภท เช่นผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี จะชะลอตัวลงบ้างก็ตาม

 

เฟด ระบุว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยยังคงซบเซา และภาวะในตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการพาณิชย์โดยรวมยังคงย่ำแย่ แต่ก็มีสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในหลายเขตมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น

 

ไอเอ็มเอฟมั่นใจเศรษฐกิจจีนไม่ทรุดตัวแรง

 

ไอเอ็มเอฟมั่นใจเศรษฐกิจจีนไม่ทรุดตัวรุนแรงแม้จะถูกถ่วงลงบ้างจากภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรป

 

นายเดวิด ลิปตัน รองผู้อำนวยการคนที่หนึ่ง ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)เผยว่า เศรษฐกิจจีนกำลังถูกถ่วงลงโดยการขยายตัว

 

ทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงในสหรัฐและสหภาพยุโรป แต่เขาปฏิเสธความเป็นไปได้ ที่จะเกิดการทรุดตัวทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง

 

"ผมไม่คิดว่าจีนจะมีการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง" นายลิปตัน เผยก่อนการประชุมเอเชียน ไฟแนนเชียล ฟอรัม ระหว่างวันที่ 16-17 ม.ค. ซึ่งจัดขึ้นโดยรัฐบาลและองค์กรส่งเสริมการค้าของฮ่องกง

 

นายลิปตัน กล่าวด้วยว่า ราคาสินทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ของฮ่องกง ทะยานแตะระดับสูงสุดแล้ว และยังไม่เห็นแนวโน้มที่สกุลเงินหยวนของจีนจะถูก

 

รวมไว้ในตะกร้าเงินเอสดีอาร์ ของไอเอ็มเอฟ

 

นอกจากนี้ นายลิปตัน ยังเห็นว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ประเทศในเอเชียจะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของอุปสงค์ภายในประเทศ ขณะที่เผชิญกับภาวะ

 

ที่อ่อนแอในต่างประเทศ

 

ญี่ปุ่นจ่อลดนำเข้าน้ำมันอิหร่าน

 

ญี่ปุ่นเล็งลดการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ซึ่งเป็นแผนสอดคล้องกับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐต่อกรุงเตหะราน เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกโครงการวิจัยนิวเคลียร์

 

นายจุน อาซูมิ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่น เผยหลังจากหารือกับนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ว่า ญี่ปุ่นเตรียมลดการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน เพื่อเพิ่มแรงสนับสนุนต่อมาตรคว่ำบาตรของสหรัฐต่อกรุงเตหะราน หวังเพิ่มแรงกดดันให้ยกเลิกโครงการวิจัยนิวเคลียร์

 

นายอาซูมิ กล่าวว่า โครงการวิจัยนิวเคลียร์ของอิหร่านเป็นเรื่องที่มิอาจมองข้ามได้ ดังนั้นทุกฝ่ายต้องเข้าใจการกระทำของสหรัฐในครั้งนี้

 

ทั้งนี้ใน การประชุมหารือระหว่างนายอาซูมิและนายไกธ์เนอร์ ซึ่งใช้เวลาถึง 1ชั่วโมง ยังมีการพูดคุยกันถึงเรื่องวิกฤติหนี้ยุโรป และแผนฟื้นฟูญี่ปุ่นหลังประสบภัยสึนามิครั้งใหญ่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

 

ปัจจุบัน ญี่ปุ่นนำเข้าน้ำมันจากญี่ปุ่น ในสัดส่วน 10% และเริ่มลดบทบาทตัวเองในฐานะพันธมิตรกับอิหร่านในช่วงตลอด 5 ปีที่ผ่านมา

 

นายอาซูมิ กล่าวอีกว่า ญี่ปุ่นวางเตรียมที่จะลดการนำเข้าน้ำมันญี่ปุ่นในสัดส่วน 10% ให้ได้โดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวต้องใช้เวลา เนื่องจากญี่ปุ่นยังนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากอิหร่าน นอกเหนือจากน้ำมัน

 

อย่างไรก็ตาม นายไกธ์เนอร์ กล่าวว่า สหรัฐยังอยู่ในช่วงแรกในการหาแนวร่วมจากทั่วโลกเพื่อเพิ่มแรงกดดันอิหร่าน

 

นายไกธ์เนอร์ ยังรู้สึกยินดีที่ได้เห็น ญี่ปุ่นตัดสินใจสนับสนุนสหรัฐและนานาชาติในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นก้าวที่สำคัญอีกหนึ่งก้าวสำหรับการกดดันกรุงเตหะรานต่อไป

 

ที่มา สุทธิชัยหยุ่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณเด็กขายของครับ

อยากทราบแนวรับถัดไปจาก1635 เป็นที่ราคาเท่าไรครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เรียนถามหน่อยครับ

ตอนนี้ทองมักไปตามไหนมากที่สุดครับ

หุ้นยุโรป หุ้นสหรัฐ ค่าเงินยุโรป ค่าเงินสหรัฐ น้ำมัน

หรือตอนนี้มันมั่วไปเรื่อยเลย งงไปหมดแล้วครับ

คือเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สมมุติโลกเศรษฐกิจคือตัวตนของเรา เรามีเงินเพื่อลงทุนและเก็งกำไรเพียงก้อนเดียว แบ่งเป็นสัดเป็นส่วน หมุนเวียนไปเรื่อยๆ ในสิ่งที่สามารถสร้างและให้ผลตอบแทนที่สูงสุด ดังนั้น เมื่อดอลล์ขึ้น เขาก็เล่นดอลล์ เพราะค่าเงินยูโรตก หรือ เมื่อยูโรขึ้นมา เพราะมีสิ่งผ่อนคลาย เขาก็ทิ้งดอลล์สหรัฐ หันมาลงทุนในยูโร และ หุ้นธนาคารฯ สลับสับเปลี่ยนกันไป.

 

นักลงทุน / นักเก็งกำไร ลงทุนในน้ำมัน เหวี่ยงราคาน้ำมันดิบขึ้นไป US$103 เพราะข่าวความวิตกของปิดช่องแคบ จากอาการกร้าวของอิหร่านจากความไม่พอใจอาการเบ่งกล้ามของสหรัฐฯ ที่คิดว่า ตัวเองมีนิวเคลียร์ แต่คนอื่นห้ามมี แล้วต่างฝ่ายต่างก็หาแนวร่วมเพื่อมาสนับสนุนตัวเอง ว่า ตัวเองถูก ตัวเองดี มาถึงเมื่อวานนี้ หลายๆ ประเทศใหญ่ๆ ไม่เล่นด้วย พร้อมกันกล่าวว่า วิกฤติทางการเงินจะแย่อยู่แล้ว ดันจะหาเหามาใส่หัว อิหร่านยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็จะบอยคอตหาเรื่องเขา แล้วถ้าน้ำมันราคาแพงขึ้น ใครเดือดร้อน ก็ประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบทั่วโลก และ ประชาชนในประเทศ นั้นๆๆ สหรัฐอเมริกา ไม่เดือดร้อน เพราะมีบ่อน้ำมันในประเทศ ตั้งมากมาย แบะที่ไปบุกรุกยึดเขามาในอีกหลายประเทศในตะวันออกกลาง ราคาน้ำมันจึงถูกเทลงมา จากการเทขายของนักเก็งกำไร แล้วหันไปลงทุนในหุ้นธนาคารฯ จากการเห็นว่า มีการออกข่าว ยูโรโซนอาจะอัดฉีดเงินเพิ่มในเดือนหน้า เพื่อกด Yield ของพันธบัตรให้ต่ำลง และ ECB กล่าวว่า อยากให้เงินเฟ้อสูงกว่า 2% นั้นคือ การนำเงินเข้าสู่ระบบมากยิ่งขึ้น

 

นักลงทุนบางคนก็เหวี่ยงแหในการลงทุนหรือเก็งกำไร คือ ลงเงินไว้หลายทาง เผื่อทางหนีทีไล่ เช่น ทองคำ / สกุลเงินต่างประเทศ / น้ำมัน / set ในตลาดหุ้น เพราะสิ่งเหล่านี้ เงินทุนจะหมุนเวียนกันไป เข้าถูกที่ ถูกจังหวะ รู้ทันเหตุการณ์ รู้เขารู้เรา ก็ได้กำไร แต่ถ้า เข้าช้าไป ไม่ถูกจังหวะเพราะขึ้นมาก่อนหน้าแล้ว ไม่ยอมรับข่าวสารใดๆ แทนที่จะได้กำไรมาก ก็จะได้กำไรลดลง หรือ ขาดทุนก็เป็นไปได้ เพราะเงินทุนโลก ก็หมุนเวียนอยู่แค่ 4 สิ่งนี้เท่านั้น

 

กล่าวมาตั้งเยอะ ไม่ได้กล่าวเรื่องของทองที่ถาม กรณีของทอง ณ. ปีนี้ จะไม่ขึ้นกับสิ่งใดเลย จะเป็นไปตามแนวโน้ม อุปสงค์อุปทาน ความต้องการซื้อความต้องการขาย ของนักเก็งกำไร เพราะมีความคิดเกิดในหัวของนักลงทุนฝั่งยุโรป และ ฝั่งสหรัฐฯ ว่า ทองคำ ไม่ใช่ สินทรัพย์ที่ปลอดภัย สกุลเงิน คือ สินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากกว่า ( แล้วแต่ความเชื่อนะครับ เด็กขายของอ่านพบอ่านเจอ แล้วก็แค่มาบ่นให้ฟัง ) การที่ราคาทองคำขึ้นช่วงนี้ ก็จาก January effect ที่นักเก็งกำไร เทขายสินทรัพย์ต่างๆ เมื่อปลายปีที่แล้ว เพื่อหนีเที่ยวปีใหม่ พอขึ้นปี 2555 January effect ก็ต้องบังเกิดกับราคาทองคำ เพราะนักลงทุน / นักเก็งกำไร ยังไม่รู้ว่า จะเอาเงินไปลงทุนในสิ่งใด เฝ้ารอการประกาศนโยบาย หรือ แนวโน้มทางด้านการเงินของประเทศสหรัฐอเมริกา และ กลุ่มยูโรโซน หรือ หนทางแก้ไขวิกฤติหนี้ / นโยบาย ECB หรือ IMF นักลงทุน / นักเก็งกำไร ขอรับรู้ข่าวสารนโยบายให้แน่ชัดก่อน เพื่อการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนที่ดี ประจวบเหมาะกับ ตรุษจีนปีนี้ อยู่ในเดือนมกราคม เสียด้วย จึงเกิดแรงซื้อจำนวนมาก จาก คนจีน ที่มีกระจายอาศัยอยู่ทั่วโลก ที่มีแรงซื้อ Purchasing Power ในทองแท่งตัวเป็นๆ Physical Gold เท่านั้น คงไม่มี เจ้าสัวท่านไหน แจกอั่งเป่า เป็น Paper Gold เพราะ Paper Gold ต้องเผาส่งไปให้บรรพบุรุษในปรโลก 5555555

 

อย่างไรก็ตาม ตรุษจีน คือ อาทิตย์หน้า ยังไง ช่วงนี้ ราคาทองก็ต้องขึ้นต่อไป การลดลง ถือเป็นวัฐจักรของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างที่กล่าวมาโดยตลอด ใครมีเงินซื้อทองตอนนี้ ก็ต้องเล่นสั้น ซื้อมาขายไป เหมือนระบบโชว์ฮ่วย ร้านค้าขายส่ง เงินเล่นสั้นก็ต้องเล่นระยะสั้น ส่วนเงินเล่นระยะยาว ติดดอย 25,900 บาท ก็ต้องเชียร์สุดใจ ให้เวลาที่มีอยู่ ให้วิ่งไปใกล้เคียง หรือ พอดี หรือ เกินสักนิด โดยถือเป็นค่าเก็บตั้ง 4 เดือน

 

อย่าไปมองว่าใครตามใครครับ เจ้ามือ เท่านั้น ที่เป็นคนชี้นำ โชคดีในการเก็งกำไรครับ

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณลุง คุณป้า คุณน้า คุณอา ในสมาคมฯที่น่ารักทุกท่านครับ ขอ + 50 นะ น๊า :10

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กรณีของทอง ณ. ปีนี้ จะไม่ขึ้นกับสิ่งใดเลย จะเป็นไปตามแนวโน้ม อุปสงค์อุปทาน ความต้องการซื้อความต้องการขาย ของนักเก็งกำไร เพราะมีความคิดเกิดในหัวของนักลงทุนฝั่งยุโรป และ ฝั่งสหรัฐฯ ว่า ทองคำ ไม่ใช่ สินทรัพย์ที่ปลอดภัย สกุลเงิน คือ สินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากกว่า

ขอบคุณครับ

ถูกแก้ไข โดย oniphand

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คือเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สมมุติโลกเศรษฐกิจคือตัวตนของเรา เรามีเงินเพื่อลงทุนและเก็งกำไรเพียงก้อนเดียว แบ่งเป็นสัดเป็นส่วน หมุนเวียนไปเรื่อยๆ ในสิ่งที่สามารถสร้างและให้ผลตอบแทนที่สูงสุด ดังนั้น เมื่อดอลล์ขึ้น เขาก็เล่นดอลล์ เพราะค่าเงินยูโรตก หรือ เมื่อยูโรขึ้นมา เพราะมีสิ่งผ่อนคลาย เขาก็ทิ้งดอลล์สหรัฐ หันมาลงทุนในยูโร และ หุ้นธนาคารฯ สลับสับเปลี่ยนกันไป.

 

นักลงทุน / นักเก็งกำไร ลงทุนในน้ำมัน เหวี่ยงราคาน้ำมันดิบขึ้นไป US$103 เพราะข่าวความวิตกของปิดช่องแคบ จากอาการกร้าวของอิหร่านจากความไม่พอใจอาการเบ่งกล้ามของสหรัฐฯ ที่คิดว่า ตัวเองมีนิวเคลียร์ แต่คนอื่นห้ามมี แล้วต่างฝ่ายต่างก็หาแนวร่วมเพื่อมาสนับสนุนตัวเอง ว่า ตัวเองถูก ตัวเองดี มาถึงเมื่อวานนี้ หลายๆ ประเทศใหญ่ๆ ไม่เล่นด้วย พร้อมกันกล่าวว่า วิกฤติทางการเงินจะแย่อยู่แล้ว ดันจะหาเหามาใส่หัว อิหร่านยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็จะบอยคอตหาเรื่องเขา แล้วถ้าน้ำมันราคาแพงขึ้น ใครเดือดร้อน ก็ประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบทั่วโลก และ ประชาชนในประเทศ นั้นๆๆ สหรัฐอเมริกา ไม่เดือดร้อน เพราะมีบ่อน้ำมันในประเทศ ตั้งมากมาย แบะที่ไปบุกรุกยึดเขามาในอีกหลายประเทศในตะวันออกกลาง ราคาน้ำมันจึงถูกเทลงมา จากการเทขายของนักเก็งกำไร แล้วหันไปลงทุนในหุ้นธนาคารฯ จากการเห็นว่า มีการออกข่าว ยูโรโซนอาจะอัดฉีดเงินเพิ่มในเดือนหน้า เพื่อกด Yield ของพันธบัตรให้ต่ำลง และ ECB กล่าวว่า อยากให้เงินเฟ้อสูงกว่า 2% นั้นคือ การนำเงินเข้าสู่ระบบมากยิ่งขึ้น

 

นักลงทุนบางคนก็เหวี่ยงแหในการลงทุนหรือเก็งกำไร คือ ลงเงินไว้หลายทาง เผื่อทางหนีทีไล่ เช่น ทองคำ / สกุลเงินต่างประเทศ / น้ำมัน / set ในตลาดหุ้น เพราะสิ่งเหล่านี้ เงินทุนจะหมุนเวียนกันไป เข้าถูกที่ ถูกจังหวะ รู้ทันเหตุการณ์ รู้เขารู้เรา ก็ได้กำไร แต่ถ้า เข้าช้าไป ไม่ถูกจังหวะเพราะขึ้นมาก่อนหน้าแล้ว ไม่ยอมรับข่าวสารใดๆ แทนที่จะได้กำไรมาก ก็จะได้กำไรลดลง หรือ ขาดทุนก็เป็นไปได้ เพราะเงินทุนโลก ก็หมุนเวียนอยู่แค่ 4 สิ่งนี้เท่านั้น

 

กล่าวมาตั้งเยอะ ไม่ได้กล่าวเรื่องของทองที่ถาม กรณีของทอง ณ. ปีนี้ จะไม่ขึ้นกับสิ่งใดเลย จะเป็นไปตามแนวโน้ม อุปสงค์อุปทาน ความต้องการซื้อความต้องการขาย ของนักเก็งกำไร เพราะมีความคิดเกิดในหัวของนักลงทุนฝั่งยุโรป และ ฝั่งสหรัฐฯ ว่า ทองคำ ไม่ใช่ สินทรัพย์ที่ปลอดภัย สกุลเงิน คือ สินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากกว่า ( แล้วแต่ความเชื่อนะครับ เด็กขายของอ่านพบอ่านเจอ แล้วก็แค่มาบ่นให้ฟัง ) การที่ราคาทองคำขึ้นช่วงนี้ ก็จาก January effect ที่นักเก็งกำไร เทขายสินทรัพย์ต่างๆ เมื่อปลายปีที่แล้ว เพื่อหนีเที่ยวปีใหม่ พอขึ้นปี 2555 January effect ก็ต้องบังเกิดกับราคาทองคำ เพราะนักลงทุน / นักเก็งกำไร ยังไม่รู้ว่า จะเอาเงินไปลงทุนในสิ่งใด เฝ้ารอการประกาศนโยบาย หรือ แนวโน้มทางด้านการเงินของประเทศสหรัฐอเมริกา และ กลุ่มยูโรโซน หรือ หนทางแก้ไขวิกฤติหนี้ / นโยบาย ECB หรือ IMF นักลงทุน / นักเก็งกำไร ขอรับรู้ข่าวสารนโยบายให้แน่ชัดก่อน เพื่อการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนที่ดี ประจวบเหมาะกับ ตรุษจีนปีนี้ อยู่ในเดือนมกราคม เสียด้วย จึงเกิดแรงซื้อจำนวนมาก จาก คนจีน ที่มีกระจายอาศัยอยู่ทั่วโลก ที่มีแรงซื้อ Purchasing Power ในทองแท่งตัวเป็นๆ Physical Gold เท่านั้น คงไม่มี เจ้าสัวท่านไหน แจกอั่งเป่า เป็น Paper Gold เพราะ Paper Gold ต้องเผาส่งไปให้บรรพบุรุษในปรโลก 5555555

 

อย่างไรก็ตาม ตรุษจีน คือ อาทิตย์หน้า ยังไง ช่วงนี้ ราคาทองก็ต้องขึ้นต่อไป การลดลง ถือเป็นวัฐจักรของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างที่กล่าวมาโดยตลอด ใครมีเงินซื้อทองตอนนี้ ก็ต้องเล่นสั้น ซื้อมาขายไป เหมือนระบบโชว์ฮ่วย ร้านค้าขายส่ง เงินเล่นสั้นก็ต้องเล่นระยะสั้น ส่วนเงินเล่นระยะยาว ติดดอย 25,900 บาท ก็ต้องเชียร์สุดใจ ให้เวลาที่มีอยู่ ให้วิ่งไปใกล้เคียง หรือ พอดี หรือ เกินสักนิด โดยถือเป็นค่าเก็บตั้ง 4 เดือน

 

อย่าไปมองว่าใครตามใครครับ เจ้ามือ เท่านั้น ที่เป็นคนชี้นำ โชคดีในการเก็งกำไรครับ

 

ชอบมากครับ...แต่ Like หมด +++ ขอบวกตรงนี้คร้าฟฟ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณเด็กขายของครับ

อยากทราบแนวรับถัดไปจาก1635 เป็นที่ราคาเท่าไรครับ

ฝรั่งเขามองว่า

 

แนวต้าน : 1653, 1664

แนวรับ : 1637, 1623

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ชอบมากครับ...แต่ Like หมด +++ ขอบวกตรงนี้คร้าฟฟ

ขอบคุณ คุณ Harnsin ที่แวปเข้ามาอ่าน ที่เด็กขายของ บ่นให้อ่าน 55555555

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณลุง คุณป้า คุณน้า คุณอา ในสมาคมฯที่น่ารักทุกท่านครับ ขอ + 50 นะ น๊า :10

น่าสงสารจัง รอบ่ายๆแล้วกันนะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีคุณเด็กขายของ เฮียนายห้างและทุกๆท่าน

วันนี้มาลุ้นกันต่อว่าราคาจะไปถึงไหน

ที่คุณ Donjuan ขออีก 50 สมาคม จัดให้แล้วนะคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาพธนบัตรรุ่นที่16

1326365109%20(1).jpg

ธปท.เตรียมนำธนบัตรฉบับละ 50 บาท รุ่นใหม่มาใช้ในวันที่ 18 ม.ค.55  เพื่อให้ประชาชนใช้งานสะดวก ตรวจสอบได้ง่ายขึ้น  รวมทั้งป้องกันการปลอมแปลงได้ดีขึ้น

 

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.ได้พัฒนาและเปลี่ยนแปลงรูปแบบของธนบัตร โดยออกแบบเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์ไทยในสมัยต่างๆ พร้อมนำเทคโนโลยีต่อต้านการปลอมแปลงแบบใหม่มาใช้ในธนบัตรชนิดต่างๆ ที่หมุนเวียนออกใช้ในระบบ เพื่อให้ประชาชนใช้งานสะดวกขึ้น สามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น ทั้งกับประชาชนทั่วไปและผู้พิการทางสายตา รวมทั้งป้องกันการปลอมแปลงได้ดีขึ้นด้วย

  

สำหรับธนบัตรแบบใหม่ (แบบ 16) ที่มีการผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ นี้ ธปท.จะทยอยนำออกใช้หมุนเวียนในระบบทั้งหมด 5ชนิดราคา โดยจะทยอยออกในระยะต่อไป ได้แก่ 20บาท 50บาท 100บาท 500บาท และ 1,000บาท ซึ่งยังคงมีขนาดและสีเช่นเดียวกับธนบัตรแบบที่ใช้ในปัจจุบัน (แบบ 15) โดยจะเริ่มนำธนบัตรชนิดราคา 50บาท ออกใช้เป็นชนิดราคาแรก ในวันที่ 18มกราคมปีนี้ ซึ่งตรงกับวันทำยุทธหัตถี โดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องจากเป็นธนบัตรที่มีมูลค่าไม่สูง และปัจจุบันไม่มีการนำธนบัตร 50บาทมาใช้ในเครื่องอัตโนมัติ เครื่องเอทีเอ็ม จึงไม่ยุ่งยากต่อสถาบันการเงินในการกระจายเข้าสู่ระบบ โดยการพิมพ์ธนบัตรใหม่ชนิดใหม่จะมีต้นทุนการพิมพ์เพิ่มขึ้นประมาณ 5%

  

ทั้งนี้ ลักษณะต่อต้านการปลอมแปลงที่สำคัญของธนบัตรชนิดราคา 50บาท ประกอบด้วย

 

1.มีลายน้ำพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน และลายน้ำตัวเลขไทย “๕๐” ที่มีความโปร่งแสงเป็นพิเศษ มองเห็นได้ชัดเจนเมื่อส่องดูกับแสงสว่าง

 

2.มีแถบสีน้ำเงินที่ปรากฏด้านหลังธนบัตร เป็นแถบพลาสติกเคลือบสีน้ำเงินที่ฝังไว้ในเนื้อกระดาษธนบัตรตามแนวยืน โดยเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีแดงเมื่อเปลี่ยนมุมมอง

 

3.มีภาพซ้อนทับตัวเลข 50พิมพ์แยกไว้บนด้านหน้าและด้านหลัง เมื่อยกธนบัตรส่องดูกับแสงสว่างจะเห็นเป็นตัวเลข 50 ที่สมบูรณ์

 

8cab166a4141be13df2899aeca87f18d.jpg

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...