ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

เอเซียกับภัยคุกคามค่าเงินแข็ง

07 กันยายน 2553 เวลา 07:38 น.

 

ในวันที่เศรษฐกิจเอเชียกำลังมาแรงจนกลายเป็นพลวัตขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจโลกเกือบทั้งระบบ ดูเหมือนว่าความทรงจำอันเลวร้ายเมื่อครั้งวิกฤตการเงินปี 2540 จะเริ่มเลือนรางลง

 

...ทีมข่าวต่างประเทศ

 

 

 

 

เอเชียสามารถผ่านพ้นวิกฤตครั้งนั้นมาได้ในที่สุด พร้อมด้วยมาตรการป้องกันทางการเงินที่รัดกุมยิ่งกว่า ยังผลให้เอเชียกลายเป็นภูมิภาคที่มีทุนสำรองระหว่างประเทศสูงที่สุดในโลก เพื่อมิให้ซ้ำรอยความพินาศทางการเงินการคลังที่เกิดขึ้นเมื่อ 13 ปีที่แล้ว ซึ่งครั้งนั้นบางประเทศในเอเชียต้องถอนทุนสำรองมาปกป้องค่าเงินจนทุนเกลี้ยงคลัง ดังเช่นกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับไทย

 

อย่างไรก็ตาม ทุนสำรองปริมาณมหาศาลกำลังกลายเป็นตัวปัญหาของเอเชียเช่นกัน

 

จากรายงานล่าสุดของธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) พบว่าปริมาณทุนสำรองระหว่างประเทศในระดับที่สูงมาก ช่วยยกระดับให้ตลาดเกิดใหม่ในเอเชียกลายเป็นตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศที่ได้รับความนิยมมากขึ้น

 

ไล่เรียงมาตั้งแต่จีน ซึ่งมีทุนสำรองสูงถึง 2.45 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 30% ของทุนสำรองทั่วโลกรวมกันที่ 8.09 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จากตัวเลขเมื่อปีที่แล้ว

 

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีทุนสำรองมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก 1.019 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

 

ไต้หวัน มีปริมาณทุนสำรอง 3.72 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ครองอันดับ 4 ของโลก

 

เกาหลีใต้อยู่ในอันดับ 6 ของโลก ด้วยปริมาณทุนสำรองล่าสุดเมื่อเดือน ก.ค. ที่ 2.86 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

และสิงคโปร์ในอันดับ 10 ของโลก ด้วยปริมาณทุนสำรอง 2.06 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

 

แม้แต่ไทยยังรั้งอันดับประเทศที่มีทุนสำรองมากที่สุดเป็นอันดับ 12 ของโลก

 

ประเทศเหล่านี้ (ยกเว้นจีน ซึ่งยังคงเผชิญกับแรงกดดันเรื่องค่าเงินหยวนอ่อนกว่าความเป็นจริง) ล้วนแต่กำลังประสบปัญหาค่าเงินแข็งอย่างรุนแรง จนกลายเป็นภัยเสี่ยงต่อภาคส่งออก อันเป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจเอเชีย

 

ที่น่าวิตกกว่านั้นก็คือ การแข็งค่าของสกุลเงินกำลังเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพทางการเงินการคลังของเอเชีย จนกระตุ้นให้หวนนึกถึงวิกฤตการเงินเมื่อ 13 ปีที่แล้ว

 

กระนั้นก็ตาม ประเทศในเอเชียที่เผชิญกับการแข็งค่าของสกุลเงินประจำชาติ ยังลังเลที่จะยื่นมือเข้าแทรกแซงค่าเงินอย่างทันควัน เพราะเกรงว่าอาจกระทบต่อบรรยากาศและความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่ขณะเดียวกันก็ยังวิตกว่า ภาคส่งออกอาจแบกรับไม่ไหวอีกต่อไป

 

ประเทศที่แสดงท่าทีที่จะใช้มาตรการแทรกแซงทางการเงินอย่างชัดเจนในขณะนี้มีเพียงญี่ปุ่นเท่านั้น ขณะที่เกาหลีใต้ยังคงคลุมเครือในเรื่องนี้ เช่นเดียวกับสิงคโปร์ ทั้งๆ ที่ค่าเงินวอนของเกาหลีใต้ และเงินเหรียญสิงคโปร์มีความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติมากขึ้นทุกขณะ

 

ความผิดปกติที่ว่านี้หมายถึงการเข้ามายุ่มย่ามของนักเก็งกำไร ซึ่งเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว คือหนึ่งในตัวการของวิกฤตการเงินเอเชีย พฤติกรรมของนักเก็งกำไรคาดเดาได้ไม่ยาก เพราะมีลักษณะคล้ายแมลงเม่าที่มุ่งเข้าหาแสงสว่าง และวันนี้แสงสว่างกลับฉายแสงในเอเชีย

 

แมลงเม่าเหล่านี้ไม่เพียงมีภูมิคุ้มกันต่อแสงไฟเท่านั้น แต่ยังมีฤทธิ์ร้ายกาจถึงขั้นบ่อนทำลายระบบการเงินของประเทศที่สาดแสงอันโชติช่วงจนดึงดูดแมลงเม่าตัวร้ายเหล่านี้เข้ามา

 

แต่ประเทศต่างๆ ไม่อาจตอบโต้นักเก็งกำไรได้โดยตรง เพราะหากใช้มาตรการที่เข้มงวดเกินไป จะไม่เพียงขับไล่นักเก็งกำไรที่มีเจตนาไม่ซื่อเท่านั้น แต่ยังจะเป็นการขับไล่นักลงทุนผู้แสวงหาความมั่งคั่งอย่างถูกต้องตามกติกาอีกด้วย

 

ทั้งนี้ ยกเว้นเพียงญี่ปุ่นที่ไม่อาจรอคอยได้อีกต่อไป หลังจากที่เผชิญกับภาวะเงินเยนแข็งค่าข้ามปีจนส่งผลให้ตัวเลขส่งออกเดือน ก.ค. ติดลบเป็นประวัติการณ์

 

ประเทศในเอเชียจึงพยายามหลีกเลี่ยงการแทรกแซงค่าเงินอย่างตรงไปตรงมา และพยายามเอ่ยถึงมาตรการใดมาตรการหนึ่งอย่างคลุมเครือ นัยว่าเพื่อปรามนักเก็งกำไรอยู่ในที อีกทั้งยังช่วยตรึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนไม่ให้กระเจิดกระเจิง

 

สิงคโปร์เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจในเรื่องนี้

 

จากการสำรวจของ BIS ล่าสุด พบว่าสิงคโปร์ได้กลายเป็นตลาดเงินตราต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก ด้วยมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 2.66 แสนล้านเหรียญสหรัฐต่อวัน แซงหน้าสวิตเซอร์แลนด์และฮ่องกง ซึ่งต่างอยู่ในวงการตลาดการเงินมายาวนาน

 

อย่างไรก็ตาม การก้าวสู่ฐานะตลาดเงินตราต่างประเทศอันดับ 4 ของโลก ทำให้สิงคโปร์ตกเป็นเป้าหมายได้ง่ายขึ้น ดังจะเห็นได้ว่าสิงคโปร์กำลังเป็นอีกประเทศที่ค่าเงินกำลังถีบตัวสูงขึ้น โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เงินเหรียญสิงคโปร์ทำลายสถิติแข็งค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเงินเหรียญสหรัฐ

 

ขณะที่ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) กลับยังไม่แสดงท่าทีที่จะยื่นมือเข้ามาแทรกแซงค่าเงินเหรียญสิงคโปร์ อีกทั้งยังแสดงท่าทียอมรับการแข็งค่าของเหรียญสิงคโปร์ในระดับที่ไม่มากนัก หรืออย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

ที่สำคัญก็คือ MAS คงประเมินแล้วว่า ขณะนี้ข้อมูลยังไม่ชัดเจนพอที่จะประเมินสาเหตุที่ทำให้เงินเหรียญสิงคโปร์แข็งค่า เพราะอาจเกี่ยวข้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ร้อนแรงจนกลายเป็นว่าที่เศรษฐกิจที่ขยายตัวเร็วที่สุดในโลกในปีนี้ด้วย

 

ในเมื่อยังประเมินผลได้ไม่ชัดเจน จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องแสดงท่าทีใดๆ จนสร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุน อีกทั้งสิงคโปร์ยังจำเป็นต้องอาศัยแรงซื้อจากนักลงทุนเหล่านี้ เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จอีกระดับ หลังจากที่ต้องเสียเวลาไปกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยมาเกือบ 1 ปี

 

สำหรับตัวอย่างที่ไม่ประสบความสำเร็จมากนักกับความพยายามรักษาสมดุลในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน คือกรณีของเกาหลีใต้

 

เมื่อปีที่แล้วเงินวอนถือเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่อ่อนค่าที่สุดในโลก เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับความสามารถของเกาหลีใต้ในการชำระหนี้สินที่กู้ยืมจากต่างประเทศ ยังผลให้ค่าเงินวอนดิ่งลงมาถึงครึ่งหนึ่ง

 

แต่แล้วในปีนี้ เงินวอนกลับเป็นสกุลเงินที่ร้อนแรงที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อย่างเข้าสู่เดือน มี.ค. ของปีนี้ เงินวอนถีบตัวขึ้นมาถึง 25% ขณะที่เงินทุนเพื่อการเก็งกำไรหลั่งไหลเข้าสู่เกาหลีใต้อย่างต่อเนื่อง มูลเหตุหนึ่งคือ อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมาก อันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) กังวลกับความเคลื่อนไหวของเงินวอนเช่นกัน เพราะทำลายสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่อาจขึ้นดอกเบี้ยได้อย่างทันควัน เพราะจำเป็นต้องรอคอยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างเต็มที่เสียก่อน อีกทั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ยังเตือนว่า เกาหลีใต้อาจหดตัวลง 1.8% ในปีนี้

 

สถานการณ์ของเกาหลีใต้จึงต่างกับสิงคโปร์และต่างจากส่วนอื่นๆ ของเอเชีย (ยกเว้นญี่ปุ่น) เพราะตกอยู่ในความลักลั่นระหว่างความเสี่ยงด้านการเงินจากเงินวอน และความเสี่ยงด้านการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ที่ทำได้ในขณะนี้ คือปล่อยให้นักลงทุนกะเก็งกันเองว่า BOK ใกล้จะขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้หรือไม่

 

สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้คือ เอเชียกำลังเผชิญกับกระแสทุนไหลเข้าในระดับมหาศาลจนค่าเงินแข็งขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เงื่อนไขภายในแตกต่างกันไม่น้อย ซึ่งหมายถึงแนวทางการสกัดกั้นการแข็งค่าของสกุลเงินจะแตกต่างกันไปด้วย

 

ความเคลื่อนไหวนี้ยังประเมินได้ไม่ชัดเจนดังเช่นที่บางประเทศยังสงวนท่าทีที่ชัดเจนว่าสมควรยื่นมือเข้าไปแทรกแซงหรือไม่ และบางประเทศกลายเป็นวิวาทะร้อนแรงที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้เช่นกัน

 

แม้ความเสี่ยงเพียงประการเดียวของการแข็งค่ายังเป็นผลกระทบต่อภาคส่งออก แต่ปัญหานี้อาจเป็นภยันตรายร้ายแรงในอนาคต หากเอเชียยังล่าช้ากับการป้องกัน แม้เงื่อนไขและปัจจัยจะแตกต่างจากเมื่อปี 2540

 

แต่ก็อาจเป็นเงื่อนไขและปัจจัยที่ก่อภัยพิบัติทางการเงินรูปแบบใหม่ได้เช่นกัน

 

www.posttoday.com

ถูกแก้ไข โดย ห้างทองน่ำเชียง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หวัดดีกร๊าบบ เฮียแบทแมน ขอโทษกร๊าบบที่หายไปหลายวัน วันนี้กลับมาแล้วกกร๊าบบและ+1พลังให้แล้วด้วยกร๊าบบบบบ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองเมื่อคืนนี้พุ่งขึ้นแรงทะลุแนวต้านที่วาดไว้ที่

$1,257 ในช่วงแรกราคาทองไหลลงแรงจากแรงขายทางเทคนิค

ร่วงลงมาต่ำสุดที่บริเวณ $1,244.5

หลังจากนั้นราคาทองเลยดีดกลับขึ้นมาทันที

ฝ่าทะลุแนวต้านที่ผมวาดไว้ที่ $1,257 โดยสูงสุดที่ $1,259.5

จากนั้นก็ค่อยๆไหลลงมาอยู่ที่เส้นแนวต้านที่ผมวาดไว้เมื่อวานนี้

ที่ $1,256.5 ในขณะนี้ พอดิบพอดีเลย

 

คาดเดาว่าราคาทองอาจจะมีแรงซื้อต่อเนื่องอยู่

โดยน่าที่จะขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบนที่ $1,260

คาดว่าไม่น่าที่จะฝ่าไปได้ น่าจะลงมาทดสอบ

แนวรับที่บริเวณ $1,252-1250 ซึ่งน่าจะรับไว้อยู่นะครับ

วันนี้แค่นี้ก่อนนะครับ

 

aaaaacge.jpg

ถูกแก้ไข โดย ห้างทองน่ำเชียง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับ รอซื้อราคาต่ำยังไม่ได้ซื้อซะที

+1

ถูกแก้ไข โดย omac

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
B) ขอบคุณคะ สั้นๆ ได้ความว่า ย่อ แล้วขึ้นต่อ ชิมิ ชิมิ อิ อิ :lol: :rolleyes:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองเมื่อคืนนี้พุ่งขึ้นแรงทะลุแนวต้านที่วาดไว้ที่

$1,257 ในช่วงแรกราคาทองไหลลงแรงจากแรงขายทางเทคนิค

ร่วงลงมาต่ำสุดที่บริเวณ $1,244.5

หลังจากนั้นราคาทองเลยดีดกลับขึ้นมาทันที

ฝ่าทะลุแนวต้านที่ผมวาดไว้ที่ $1,257 โดยสูงสุดที่ $1,259.5

จากนั้นก็ค่อยๆไหลลงมาอยู่ที่เส้นแนวต้านที่ผมวาดไว้เมื่อวานนี้

ที่ $1,256.5 ในขณะนี้ พอดิบพอดีเลย

 

คาดเดาว่าราคาทองอาจจะมีแรงซื้อต่อเนื่องอยู่

โดยน่าที่จะขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบนที่ $1,260

คาดว่าไม่น่าที่จะฝ่าไปได้ น่าจะลงมาทดสอบ

แนวรับที่บริเวณ $1,252-1250 ซึ่งน่าจะรับไว้อยู่นะครับ

วันนี้แค่นี้ก่อนนะครับ

 

aaaaacge.jpg

 

ขอบคุณครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์กร๊าบบ เฮียแบทแมน มารอการเดาที่แม่นที่สุดกร๊าบบบบบบ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...