ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

สวัสดีคะเป็นน้องใหม่คะ คุณเน็กซ์คะต้องการซื้อหนังสือรบกวนตอบทางอีเมลให้ด้วยนะคะ ขอบคุณคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หลาบปีมาแล้ว ทราบมาว่าที่เวียดนามฝากทองแล้วได้ดอกเบี้ยด้วยแต่ได้น้องกว่าฝากเงิน เมืองไทยมีฝากทองแล้วได้ดอกเบี้ยแล้วหรือครับ ขอทราบรายละเอียดเป็นความรู้หน่อยครับ ขอบคุณมากครับ

สมัยก่อนที่globlexยังไม่เปิดnight trade จะมีโปรโมชั่นฝากทอง 96%ทุก 50 บาทครบ15 วันในเดือนเดียวกัน ได้ค่าฝาก 500 บาท ถ้าเป็น99% 1 kg.ได้ 600 บาทค่ะ คนที่เซ็นสัญญาไว้ถึงมีnight trade แล้ว สัญญาก็ไม่ได้ยกเลิกค่ะ จ่ายเงินเข้าบัญชีทุกไตรมาส ถ้าจะเอาทองต้องบอกก่อน 1 วันค่ะ แต่ซื้อขายทองที่ฝากไว้ได้ตลอด เท่าที่เคยได้ยินมาเหมือนแม่ทองก็มีนะคะ แต่ไม่ได้เป็นลูกค้าแม่ทองเพราะไม่สะดวกไปโอนเงินค่ะ ชอบตัดATS มากกว่า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

188131_192796994063738_7269421_n.jpg188131_192796994063738_7269421_n.jpg

 

 

 

สวนทางเซียน (A Different Way Of Thinking)

 

ไม่นานมานี้รายการ “ตามรอยเซียน” ทางช่องมันนี่แชนแนล

ได้พูดถึงภาวะตลาดทองคำและดอลล่าร์ที่เป็นอยู่ ใครได้ฟังเนื้อหาหลักๆแล้วก็คงต้องบอกว่า

ตรงข้ามกับ โอกาสทอง(จริงๆ) โดยสิ้นเชิง

 

เริ่มจากหัวข้อในการสนทนาก็ใช้ชื่อว่า “ระวัง!ทองตกสวรรค์”

หลังจากนั้นก็บรรยายถึงทิศทางการร่วงที่จะเกิดขึ้นพร้อมกับการกลับมาพุ่งอีกครั้งของดอลล่าร์

คนละเรื่องคนละราวกับสิ่งที่เราได้พูดคุยกันอยู่ทุกวัน ?

 

เหตุใด เซียน ถึงมองต่าง ? ด้วย “เหตุและผล” อะไร ? ทำไม ? จึงเป็นเช่นนั้น

 

วันนี้เราจะมาพูดคุยกันครับ.

 

แขกรับเชิญตามรอยเซียนในวันนั้นคือ คุณพิชัย จาวลา

นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจากหุ้นและอสังหาริมทรัยพ์

 

เกริ่นก่อนว่า:ในอดีต คุณ พิชัย เคยเขียนหนังสือชื่อ “ลับเฉพาะผู้เกี่ยวข้อง”

ท้ายหนังสือเล่มนี้ ได้คาดการณ์ราคาทองคำในอนาคตไว้ว่า

 

เขียนเมื่อปี 2008 “ทองคำปัจจุบันที่ 14,000 จะตกลงไปเหลือ 12,000

หลังจากนั้นจะเคลื่อนไหวอยู่ระดับบาทละ 10,000 สูงสุดไม่เกิน 15,000

หลังจากนั้น 1-2 ปีจะร่วงรุนแรงลงไปเหลือบาทละ 6,000 !!!"

 

2 ปีผ่านไปจนมาถึงทุกวันนี้ ทองคำได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่านอกจากจะ “ไม่ลง”

ราคายังปรับสูงขึ้น “อย่างหนัก” จนทะลุระดับ 21,000 ต่อบาทขึ้นมาได้

การที่ทองขึ้นนั้นไม่แปลก แต่แปลกใจที่ในปัจจุบันคุณพิชัยก็ยังคงมีมุมมองต่อทองคำในเชิงลบเหมือนเช่นเดิม

 

จริงอยู่การที่เค้าคาดการณ์ผิดในครั้งนั้น ไม่ได้การันตีว่าเค้าจะผิดอีกในครั้งนี้ (เพราะเวลาเท่านั้นที่จะเฉลยทุกอย่าง)

แต่พอได้ฟังเหตุผลที่คุณพิชัยอ้างถึงแล้ว ต้องขอบอกว่ามีแนวโน้มมากเหลือเกินที่ “เค้าจะผิดอีก”

 

:excl: อันดับแรกคุณพิชัยกล่าวว่า : ในตลาดเก็งกำไรนั้นไม่ได้ตรงไปตรงมา

ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้แล้วค่อยมีเหตุและผลอย่างอื่นมาสนับสนุนทีหลัง นักลงทุนอย่าคาดหวังว่าตลาดจะสมเหตุสมผล

ประเด็นนี้ฟังแล้ว ราวกับว่า “การลงทุนนั้นไม่ต่างจากการพนัน” เหตุและผลที่ถูกต้องอาจจะไม่ถูกต้อง

ในขณะที่สิ่งไม่ถูกต้องอาจจะถูกต้องได้ในอนาคต ?

 

จริงๆแล้วเป็นอย่างนั้นหรือ ?

ก่อนจะงงไปกว่านี้ ผมอยากบอกว่าผมเชื่อใน “เหตุและผล” แต่ข้อมูลในตลาดนั้นต่างหากที่มีทั้ง

“จริง” และ “เท็จ”

 

:rolleyes: หากคุณได้รับข้อมูลที่เป็นจริง ผลที่ตามมาย่อม “สอดคล้อง”

 

:wacko: แต่หากคุณรับข้อมูลที่เป็นเท็จผลมันจะออกตรงกันข้าม “ทำให้ตลาดดู งง งง เหมือนไม่สมเหตุสมผล”

 

สิ่งสำคัญคือ เราต้องกลั่นกรองข้อมูลว่าอะไรถูก-อะไรผิดต่างหาก

ถ้าเราได้ข้อมูลที่ถูกต้องแล้วลงทุนยึดตามข้อมูลนั้น ผมรับประกันว่า “ตลาดสมเหตุสมผลแน่นอน”

 

ยกตัวอย่างเช่น

 

ข้อมูล 1. ประธานธนาคารกลางสหรัฐยืนยันอัตราเงินเฟ้อในประเทศอยู่ในระดับต่ำ

 

ข้อมูล 2. นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางทำให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง

 

ข้อมูล 2 ข้อนี้มีอยู่จริงในตลาด หากคุณเชื่อข้อมูลที่ 1 แล้วผลออกมา เงินเฟ้อ พุ่งกระจาย ข้าวยากหมากแพง

แบบนี้ตลาดคงดูไม่เป็นเหตุเป็นผลแต่ถ้าคุณเชื่อในข้อมูลที่ 2 ผลที่ออกมาจะดูสอดคล้องแบบไม่ต้องเกาหัว

ปัจจัยพื้นฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญ

 

 

หากคุณรู้ในสิ่งที่ถูก คุณจะเลือกทางเดินถูก

หากคุณรู้ในสิ่งที่ผิด คุณจะลำบากเพราะต้องใช้ตัวช่วยอีกมากมาย มาอธิบายให้เข้าใจตลาดในภายหลัง

 

 

:excl: อันดับต่อมา : คุณพิชัยพูดถึง ทฤษฎีแมส (Mass) ที่ว่าคน 90% เฮกันไปทางไหน “ทางนั้นผิด”

 

ทฤษฎีนี้ผมเห็นด้วย ในโลกของการลงทุนนั้นบางครั้งก็ไม่สวยงาม คนส่วนใหญ่มักจะขาดทุนในขณะที่คนส่วนน้อยกำไร

ทฤษฎีนี้บอกว่า : ผู้คิดต่างคือผู้ชนะในขณะที่คนส่วนใหญ่คือ “เหยื่อ”

 

แต่ปัญหาคือ ในขณะนี้อะไรคือ “ความคิดของคนส่วนใหญ่ ? อะไรคือความคิดต่าง ?”

 

คุณพิชัยกล่าวว่าในขณะนี้ "ทุกคนเห่อตามกันซื้อทองเพราะเห็นมันขึ้นราคาโดยหวังว่ามันจะขึ้นต่อไปอีก"

ตรงกันข้ามเลย สิ่งที่ผมเห็นคือเมื่อทองคำแตะเลยบาทละ 20,000 ขึ้นมา คนส่วนใหญ่ “ขายทอง” ต่างหาก

 

ทุกครั้งที่ทองขึ้นคนยิ่งกลัว ต่อให้นิวไฮแล้วนิวไฮอีก คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่เชื่อว่าทองจะไปได้ต่อ

คนมีทองก็ขาย คนไม่มีทองก็ Short

ผมคิดว่านี่ต่างหากคือความคิดของคนส่วนใหญ่หรือแมส (Mass)

 

ในกลุ่มคนเล่นทองคิดว่าทองจะลงคือแมสแล้ว หากเรานับนักลทุนทุกคนที่อยู่ในวงการทองคำผมอยากจะบอกว่า

พวกเรายิ่งเป็นคนส่วนน้อย ! รอบกายเราในขณะนี้ มีใครที่ซื้อทองบ้าง? จะเพื่อนฝูงญาติพี่น้องหรือจะนับรวมทั้งโลก

นักลงทุนทองคำมีน้อยมากเมื่อเทียบกับคนที่ออมเงินด้วยการเปิดบัญชีเงินฝาก, ซื้อพันธบัตรรัฐ, หรือเล่นหุ้น

 

ยิ่งไปกว่านั้นทั่วโลกผู้ที่ถือครองทองคำมีน้อยมากเมื่อเทียบกับผู้ที่ถือครอง“ดอลล่าร์”

 

ผมมองว่าผู้ที่ถือครองดอลล่าร์ขณะนี้นั้นแมสมากๆ เมื่อเทียบกับผู้ที่ถือครองทองคำ

การที่แมสบางส่วนเริ่มจะย้ายตัวเองมาอยู่อีกฝั่งมากขึ้นเรื่อยๆอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ไม่ได้หมายความว่า “ทองคำอยู่ในกระแสหลักตอนนี้”

 

หนทางยังอีกไกลครับ...

 

แต่ที่เซียนพูดมาใช่ว่าจะผิดไปทั้งหมด : ในปี 2009 ตอนที่ทองคำปรับตัวขึ้นจากระดับ 14,000 ไปแตะ 19,000 เป็นครั้งแรก

ตอนนั้นทองต้องขึ้นถึงบาทละ 5,000 ภายในปีเดียว

 

:o คนส่วนใหญ่ถึงจะเชื่อว่า “ทองขึ้นได้ไม่ลง”

:o ดอลล่าร์อินเด็กซ์ร่วงลงแตะระดับ 74 จนคนส่วนใหญ่เชื่อว่าดอลล่าร์ “ลงได้ไม่ขึ้น”

 

“ทุกอย่างเป็นใจให้แมสขาดทุนและเป็นใจให้ทองปรับฐาน”

 

อ่านดีๆนะครับ แค่ “ปรับฐาน” คุณค่าของทองยังคงอยู่

การปรับฐานตลาดจะทำการกวาดผู้เล่นที่มาทีหลังและจิตใจอ่อนแอออกไปก่อนหลังจากนั้นค่อยพลิกตัวปรับขึ้นรอบใหม่

หากคุณพิชัยมองว่าทองอยู่ในโซนขายเพราะ เหตุการณ์ทองปรับฐานแบบเดิมอาจเกิดซ้ำขึ้นอีก

ผมคงเห็นด้วยและมองว่าอาจเป็นไปได้ แต่คุณพิชัยกลับไม่มองเช่นนั้น

 

ในบทสนทนาคุณพิชัยบอกว่าทองจะร่วงลึกและนาน

ขึ้นอยู่กับเวลาด้วยหากให้เวลามากพอทองจะลงไปถึง “พันสองร้อยเหรียญ” ได้ ??

 

อืมม...ผมกลับคิดว่า หากให้เวลามันมากพอ

ทองจะไปถึง “สองพันเหรียญ” ได้ต่างหาก

 

 

ในตลาดเก็งกำไร ดอลล่าร์อาจจะถูกขายเพราะสัญญาณทางเทคนิค ขาใหญ่อาจจะรับซื้อเพื่อลุ้นรีบาวน์อะไรก็ว่ากันไป

แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง ดอลล่าร์ยังไม่ถูกขาย !! ทุนสำรองดอลล่าร์

ยังกองท่วมอยู่ในธนาคารกลางทั่วโลก ทั้งๆที่มูลค่าของมัน “ละลายลงเรื่อยๆ” ดอลล่าร์ก็ยังไม่ถูกเท...

 

หากถึงวันที่นานาประเทศตัดสินใจ “คัทลอส” เทขายดอลล่าร์ทิ้ง

ผู้ซื้อคืนก็คงมีแต่ธนาคารกลางสหรัฐและประชาชนชาวอเมริกันเท่านั้น เมื่อดอลล่าร์ไหลบ่ากลับประเทศเกิด

อภิมหาเงินเฟ้อ (Hyperinflation) ก็จะตามมา ค่าเงินดอลล่าร์คงดิ่งเหว ร่วงเร็วและแรง แมสที่ถือครองดอลาร์จะพบว่า

อำนาจการซื้อ (Purchasing Power) ของตัวเองหายวับไปกับตา.......นี่ต่างหากคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

 

 

:excl: ประเด็นถัดมา : เรื่องจีน

 

จีนเองเข้าซื้อทองคำอย่างหนัก ขุดได้ก็ไม่ส่งออก

 

แต่ทุนสำรองทองคำยังคิดเป็นแค่ 2%

ของทุนสำรองจีนทั้งหมด ในขณะที่สัดส่วนการถือครองดอลล่าร์นั้นมากถึง 49%

 

หากจีนจะขาดทุนและเป็นแมงเม่าตามที่คุณพิชัยบอก คงขาดทุนจากพอร์ทดอลล่าร์ตามนานาประเทศที่ถือครองกันเป็นส่วนใหญ่มากว่า

ไม่ได้ขาดทุนจากพอร์ททองคำที่มีอยู่เพียงน้อยนิดแน่นอน

 

จีนไม่ใช่ขาใหญ่ที่เฮโลซื้อตามรายย่อยเพื่อไปขาดทุนจากการที่ทองจะตกสวรรค์ในอนาคต

แต่จีนคือขาใหญ่ที่จะเป็นผู้นำตลาด ให้รายย่อยคนอื่นๆหันมาสนใจในทองคำมากกว่า

นาทีนี้ให้เลือกระหว่างตามรอยจีนหรืออเมริกา คุณจะเลือกใคร?

 

ภาษิตจีนโบราณกล่าวไว้ว่า : พญามังกรยามหลับนั้น ถ้ำแคบๆมืดๆก็ขดตัวซ่อนอยู่ได้

แต่เมื่อถึงคราวผงาด "ฟ้าก็ยังแคบเกินไป"

 

เมื่อถึงวันที่จีนผงาดขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของโลก (จริงๆวันนี้ก็เป็นแล้วด้วยซ้ำ)

ทองคำที่จีนเฝ้าสะสมและเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจะเป็นตัวหนุนความมั่งคั่งของจีน

สกุลเงินหยวนจะมีค่ามากกว่าสกุลดอลล่าร์หลายเท่านัก

 

 

 

apr052010_1.gif

 

 

 

:excl: สิ่งที่ทำให้คุณพิชัยเชื่อว่า ราคาทองคำไม่น่าจะไปต่อได้อีกอย่างก็คือ :“ความต้องการใช้เป็นเครื่องประดับลดลง”

 

การมองแบบนี้ คือการมองว่าทองคำคือสินค้าโภคภัณฑ์ตัวหนึ่ง

เมื่อความต้องการภาคอุตสาหกรรมเครื่องประดับลด (Jewellry Demand) ทองจึงดูไม่น่าสนใจและไม่ใช่เรื่องที่คนจะมาใส่ทอง

 

จริงอยู่ที่ความต้องการในด้านนั้นลดลงแต่ก็ - มีความต้องการในด้านอื่นเพิ่มมาชดเชยแทน

 

จากกราฟ

 

golddemandthenandnow.png

 

 

เพราะทองไม่ได้เป็นแค่เครื่องประดับ แต่ยังถือว่าเป็น Safe Heaven ของนักลงทุน

:( Jewellry Demand ลด

:) แต่ Investment Demand เพิ่มสูงขึ้นชดเชยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

(จาก 2% เมื่อ 10 ปีก่อนมาเป็น 40% ในปัจจุบัน)

 

ชัดเจนว่า : แม้คนจะไม่ใส่ทองแต่ความต้องการของทองก็ไม่ได้ลดลง ไม่ซื้อรูปพรรณ-คนก็ซื้อทองคำแท่ง

ซื้อทองคำแท่งมากกว่าซื้อรูปพรรณด้วยซ้ำ (ซื้อขั้นต่ำก็ 10-20 บาท) วันไหนลงแรงเยาวราชแตกและมีแจกบัตรคิว..

 

:excl: ประเด็นสุดท้ายที่คุณพิชัยพูดถึงคือ : ทองคำไม่มีคุณค่าในตัวเอง

 

คุณพิชัยเปรียบกับที่ดิน-อสังหาริมทรัพย์ที่สามารถนำมาใช้ทำกินได้ ต่อให้ราคาตก

แต่ทองไม่ได้มีคุณค่าในตัวของมันเอง คุณค่าของทองอยู่ที่ไหน ?

 

ประเด็นนี้ผมเองได้พูดเน้นย้ำไปหลายครั้ง ว่าทองมีคุณค่าในตัวเอง (Intrinsic Value) เพราะมันคือ “เงินที่แท้จริง”

ทองคำกว่าจะขุดและสกัดขึ้นมาได้ไม่ใช่ง่าย แถมยังเป็นโลหะที่มีคุณสมบัติพิเศษเหมาะจะใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน

และรักษาความมั่งคั่งให้เราได้ผ่านกาลเวลา “คุณลักษณะแบบนี้โลหะชนิดอื่นไม่มี”

แต่คุณพิชัยกลับบอกว่าทองคำคือ “สิ่งกลวง”

 

น่าแปลกที่พิธีกรเองซะอีกที่เข้าใจและแย้งว่า “เงินกระดาษก็เป็นสิ่งสมมุติและคนกำหนดขึ้นมาไม่ใช่หรือ ?”

แต่คุณพิชัยกลับย้อนไปพูดเรื่อง “ทองเป็นเครื่องประดับที่ไม่ฮิตแล้วในตอนนี้”

 

มันคนละเรื่องกัน...ทองคำไม่ใช่ Commodity แต่มันคือ The best currency ต่างหาก

 

ทองคำคือตัวฟ้องการเสื่อมค่าของเงินที่ดีที่สุด เพราะมันคือ “เงินที่จริงแท้และแน่นอน”

ถ้าจะมีอะไรที่เป็นสิ่งกลวงสิ่งนั้นคือ กระดาษพิมพ์สี ไม่ใช่ทองคำ

 

การคาดการณ์ว่า กระดาษพิมพ์สีที่ชื่อว่า ดอลล่าร์ จะแข็งค่าถึงขนาดไปแตะ 35-40 บาท

 

-ภายใต้สถานะการณ์ : ที่สหรัฐมีนโยบายพิมพ์เงินเป็นว่าเล่น (QE)

 

-ภายใต้สถานะการณ์: ที่ธนาคารกลางแห่งประเทศไทยมีนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบถี่ยิบ

 

ดูจะไม่สมเหตุสมผลเอามากๆ เกรงว่า หากเบน เบอร์นันเก้ยังพิมพ์ต่อ แล้ว ธปท.ยังปรับขึ้นดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ

25 บาทอาจจะกลับมาให้ได้เห็นซะด้วยซ้ำ.

 

 

 

***************************************************************************************************************

 

 

ทั้งหลายทั้งปวงที่ได้เขียนไปแล้ว จะเชื่อ “ตามรอยเซียน” ว่าระวังทองร่วงตกสวรรค์

หรือ “สวนทางเซียน” คิดว่าทองจะไปดวงจันทร์ ก็สุดแล้วแต่ทุกท่านจะพิจารณา

 

ในตลาดมีข้อมูลมากมาย ให้เราเลือกรับ และกลั่นกรอง ย้ำอีกครั้งว่า “ข้อมูลที่ถูกต้องเท่านั้นที่จะทำให้เราบรรลุวัตถุประสงค์"

ขออวยพรให้ “คุณ” จะตัดสินใจได้ถูกต้องและโชคดีในการลงทุนทองคำครั้งนี้ครับ..

 

 

ขอบพระคุณ คุณเน็กซ์มากๆๆๆๆครับ ตอบชัดเจนสุดยอดและยอดเยี่ยมมากๆๆครับ !01 !gd

 

ผมขอ "ไม่ตามรอยเซียน แต่ขอสวนทางเซียนครับ" !v@

 

และขอกอดทองไว้แน่นๆๆและแน่นที่สุด ตามคุณเน็กซ์ คุณใหญ่ และเพื่อนๆๆทุกท่านครับผม !La

post-929-074272900 1303447326.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สมัยก่อนที่globlexยังไม่เปิดnight trade จะมีโปรโมชั่นฝากทอง 96%ทุก 50 บาทครบ15 วันในเดือนเดียวกัน ได้ค่าฝาก 500 บาท ถ้าเป็น99% 1 kg.ได้ 600 บาทค่ะ คนที่เซ็นสัญญาไว้ถึงมีnight trade แล้ว สัญญาก็ไม่ได้ยกเลิกค่ะ จ่ายเงินเข้าบัญชีทุกไตรมาส ถ้าจะเอาทองต้องบอกก่อน 1 วันค่ะ แต่ซื้อขายทองที่ฝากไว้ได้ตลอด เท่าที่เคยได้ยินมาเหมือนแม่ทองก็มีนะคะ แต่ไม่ได้เป็นลูกค้าแม่ทองเพราะไม่สะดวกไปโอนเงินค่ะ ชอบตัดATS มากกว่า

 

 

แต่ก่อนเสียค่าบริการฝาก เดี๋ยวนี้ให้ค่าฝาก .... ??

ต่อไประบบ Gold Money มีออกบัตรเอทีเอ็มให้ไปจับจ่ายใช้สอย-ซื้อของ

หักทองในบัญชี..ก็คงเป็นไปได้ :lol: :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คือเข้าไปอ่านเวปที่พี่ กี่ต้าร์ ลงไว้แล้วงงมากเลยอะครับ !_09 กราฟอะไรก็มะรู้ยุปยัปไปหมด กราฟ Correlation Between Loop Height & Breaking Load at Heated Temperature !38 แล้วยังกราฟ Bonding Reliability อีก !45

 

แต่หนึ่งที่เข้าใจคือทั้งเงินและทองต่างก็ถูกใช้ในอุตสาหกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งก็หมายความได้ว่า ขาใหญ่ยังไงก็ต้องพยายามทุบกดราคาไม่ให้สินค้าจำเป็นเหล่านี้แพงสินะครับเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมของพวกเขา แต่ในขณะเดียวกันอุปทานที่มีเพิ่มขึ้นตลอดเวลาที่มาจากทั้งไอโฟน แอนดรอย ฯลฯ รวมถึงชาวจีนอีกนับพันล้านที่เริ่มบ้าทองบ้าเงินในขณะนี้ ขากดกับขาซื้ออะัไรจะแข็งกว่ากันหว่า !_08

 

 

อีกหนึ่งผู้ที่คอยช่วยเพิ่มอุปสง ให้โลหะมีค่า >_<

http://www.youtube.com/watch?v=4UwQRwyr9Cs

อันนี้มีแปลนะครับ

 

ลำพัง บริษัท IC ไม่มีกำลังจะทุบหรอกครับ ขึ้นเท่าไหร่ ก็ต้องนำมาผลิต ที่มีปัญญาทุบก็พวกกองทุน ต่างๆ นั่น แหละครับ

 

จะใช้วิธี ช้อนซื้อ เวลาปรับฐาน เป็นพักๆ จะสังเกตได้ว่า ยิ่งแพง ช่วงนี้ยิ่งซื้อมาก เป็นพวกที่จำเป็นต้องซื้อ ก็เลยเมื่อประเมิน ตลาดแล้ว พุ่งยาวแน่ๆ พอดร๊อป มานิดหนึ่ง เมื่อไหร่ ก็ต้องทุ่มซื้อ stock เอาไว้ใช้งาน ไม่งั้นไม่มีของ ทำไงได้ เขาก็จำเป็นต้องใช้น่ะครับ ราคาซื้อขาย ใน Invoice ก็ราคาตามตลาด วันที่ออก Invoice เหมือนกัน ไม่มีอะไรพิเสษ เพราะงั้น ก็เหมือนผู้บริโภคทั่วไป เลยล่ะครับ

ถูกแก้ไข โดย กีต้าร์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ลำพัง บริษัท IC ไม่มีกำลังจะทุบหรอกครับ ขึ้นเท่าไหร่ ก็ต้องนำมาผลิต ที่มีปัญญาทุบก็พวกกองทุน ต่างๆ นั่น แหละครับ

 

จะใช้วิธี ช้อนซื้อ เวลาปรับฐาน เป็นพักๆ จะสังเกตได้ว่า ยิ่งแพง ช่วงนี้ยิ่งซื้อมาก เป็นพวกที่จำเป็นต้องซื้อ ก็เลยเมื่อประเมิน ตลาดแล้ว พุ่งยาวแน่ๆ พอดร๊อป มานิดหนึ่ง เมื่อไหร่ ก็ต้องทุ่มซื้อ stock เอาไว้ใช้งาน ไม่งั้นไม่มีของ ทำไงได้ เขาก็จำเป็นต้องใช้น่ะครับ ราคาซื้อขาย ใน Invoice ก็ราคาตามตลาด วันที่ออก Invoice เหมือนกัน ไม่มีอะไรพิเสษ เพราะงั้น ก็เหมือนผู้บริโภคทั่วไป เลยล่ะครับ

ขอบคุณมากๆๆเลยครับสำหรับข้อมูล เยี่ยมมากๆ แต่นึกไปแล้วก็แอบสงสารบริษัทเขาเหมือนกันนะครับที่ต้องจำใจซื้อของแพงขึ้นเรื่อยๆ(สงสารตัวเองเหมือนกันเพราะเป็นผู้บริโภคต่อ)

 

คอมเม้นในกระทู้หลายๆคอมเม้นมีประโยขน์มากๆเลยครับ ผมจะเซฟเก็บไว้ยังไงดีหว่า :wacko: ไม่ทราบว่าเพื่อนๆมีวิธีเซฟเก็บกันยังไงบ้างหรอครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อย่าไปมองกำไรครับ ดูที่มูลค่าของจริงๆดีกว่า บางทีเรากลัวกำไรตัวเองครับ ?

คือเราไม่คาดคิดว่า "เราจะกำไรมากขนาดนี้ในเวลาสั้นแบบนี้"

เมื่อเราไม่เชื่อเราเลย "ขาย"

ตรงจุดนี้ถือว่ามีเรื่องของอารมณ์มาเกี่ยวข้อง..ต้องระวัง

 

ทางที่ดี เราทำงานหารายได้สะสมไปเรื่อยๆระหว่างรอทองขึ้น

แล้วให้ลงให้เห็นๆก่อน ค่อยเอารายได้ระหว่างทางซื้อเพิ่มเข้าไป

นี่คือวิธีเพิ่มความมั่งคั่งครับ :rolleyes:

 

ขอบคุณมากค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คอมเม้นในกระทู้หลายๆคอมเม้นมีประโยขน์มากๆเลยครับ ผมจะเซฟเก็บไว้ยังไงดีหว่า :wacko: ไม่ทราบว่าเพื่อนๆมีวิธีเซฟเก็บกันยังไงบ้างหรอครับ

 

 

ก็อป ลงใน word หรือ note pad ก็ได้ครับcool.gif

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอามาฝากครับ (ของคุณจิมมี่)

 

รัสเซียยังคงเพิ่มทุนสำรองในรูปของทองคำขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเพิ่มขึ้นอีก 600,000 ออนซ์ เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา และตัวเลขด้านล่างเป็นความเคลื่อนไหวการเพิ่มปริมาณทองคำสำรองในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา

 

March 20.2011: addition to reserves...600,000 oz

February 20.2011: addition to reserves 100,000 oz

January 20.2011: zero addition to reserves.

December 20.2010 200,000 oz.

 

หรือในความหมายก็คือ การเพิ่มทุนสำรองในรูปของทองคำ ก็คือการเทขายดอลล่าออกนั่นเอง !!

1 แสนออนซ์=3ตัน 4เดือนที่ผ่านมาซื้อเข้าไปแล้ว 27 ตัน

www.cbr.ru

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินเฟ้อในจีนรุนแรงมาก ตัวเลขทางการประมาณ 5 เปอร์เซนต์

แต่ตัวเลขที่แท้จริง ด้านที่อยู่อาศัย ด้านพลังงาน และ ด้านอาหารก็ประมาณ 20-40%

 

เพื่อลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เอาไม่อยู่ ดูเหมือนว่าจีน จะยอมปล่อยให้ค่าเงินหยวนจีนแข็งค่ามากขึ้นแล้วครับ

http://english.people.com.cn/90001/90778/90859/7359008.html

http://www.bloomberg.com/news/2011-04-22/yuan-forwards-predict-most-gains-in-five-months-currency-at-17-year-high.html

 

หมายความว่า US$ จะอ่อนค่าลงไป เร็วขึ้นอีก

ตอนนี้ค่าเงิน US$ ก็อยู่ที่ปากเหวแล้ว เจอเงินหยวนกดดันอีก งานนี้หนักกว่าเดิมแล้วครับ

clip_image00116.jpg

ถูกแก้ไข โดย JohnCM

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข้อมูลเพิ่มเติมครับ เพื่อสนับสนุนคุณ next ส่วนตัวผม สนใจการลงทุนด้วยทอง มา 7 ปีแล้วครับ แต่ไม่ค่อยได้เริ่มต้นจริงๆ จัง ๆ เพราะมีปัญหาด้านเงินทุนครับ ประเภทรู้เทรนต์ แต่ไม่มีกะตังค์ ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็พอจะทราบ ข้อมูล Usage ของทอง จากอุตสาหกรรมต่างๆ และประเมินจาก ภาวะการเติบโต ของเทคโนโลยี่ และประเทศยักษ์หลับ ที่เพิ่งตื่นคือจีน อินเดีย ผู้บริโภคมหาศาล อุตสาหกรรม อิเล็คโทรนิคมากมายมหาศาล ต้องใช้ทองและเงินทั้งสิ้น บอกคนข้างๆ ที่มีกะตังค์ ก้ไม่มีใครสนใจ มาบัดนี้ แต่ละคนก็ได้แต่เสียดาย เพราะไปกินดอกเบี้ย แค่ สามสี่บาท มาไม่รู้กี่ปี ครับ ยิ่งมาได้คุณ Next ผู้รอบรู้เป็นผู้เสริมภูมิปัญญา เลยมั่นใจได้ครับ

ทำไมต้องใช้ทองกับพวก IC เหรอครับ เพราะว่าทองเป็นตัวนำสัญญาณ กระจายสัญญาณดีที่สุดในบรรดา โลหะชนิดอื่น ท่านไม่สังเกตเหรอครับ หัวแจ๊คต่างๆ ทำไมต้องเป็นหัวทอง แผ่น CD / DVD ต้องแผ่นทอง

http://geology.com/minerals/gold/uses-of-gold.shtml#electronics

http://en.wikipedia.org/wiki/Gold_plating

http://www.twentydollarliberty.com/category/gold-demand/

ถูกแก้ไข โดย กีต้าร์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณ Next คะ

 

อยากถามคำถามว่า ถ้าเราถือทองแท่งที่ซื้อบ้านเราหนัก 10 บาท ซึ่งเป็นทอง 96.5% แล้วสมมุติว่าวันนี้เราติดตัวไปอเมริกา แล้วเอาไปขายเราจะได้เงินเท่าไหร่คะ การขายออกที่โน่น เขามีวิธีคิดในการรับซื้ออย่างไร ต้องเปรียบค่าน้ำหนักไปเป็นออนซืก่อนแล้วคูณด้วยค่า gold spot รึเปล่า (เราจะตัดไม่พูดถึงการหักค่าเสื่อมหรืออะไรต่างๆนะคะ)

 

ที่ถามคำถามนี้เนื่องจากสงสัยว่าถ้าเราแบ่งกลุ่มเพื่อนเราที่ซื้อแท่งป็น 2 กลุ่มง่ายๆ คือ 1. เพื่อการเก็งกำไร (ซื้อมาแล้วรอขายเมื่อได้ราคาสูง เพื่อทำกำไร) กับกลุ่ม 2 ที่ถือยาวเนื่องจากต้องการเปลี่ยนการถือธนบัตรไปเป็นทองคำเพื่อเป็นเงินเก็บระยะยาวมากกว่า 1-2 ปี คนกลุ่มที่ 2 ควรซื้อแท่งชนิด 99.99 ไหมคะ เพื่อที่ว่าถ้าในอนาคตเราเกิดอยากจะขายทองที่เก็บที่ไม่ใช่ในเมืองไทย มูลค่าของทองคำ % ที่สูงกว่าย่อมดีกว่าใช่ไหม

 

อีกคำถามคือ gold spot วันนี้ ที่ 1508 USD / ออนซ์ เป็นราคาของทองคำกี่ % คะ

 

รบกวนด้วยค่ะ เนื่องจากเพิ่งเข้ามาอ่าน และศึกษา คำถามนี้หลายๆ ท่านอาจทราบแล้ว แต่ jakjee ไม่รู้จริงๆ ขอถามเพื่อเป็นความรู้ในการศึกษาเส้นทางการลงทุนทองคำต่อไปค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:unsure: การกลับมาซื้อทองของธนาคารเป็นการยืนยันว่า

 

ต่อไปราคาทองจะพุ่งพรวดอย่างมาก

 

หลายคนอาจคิดว่าธนาคารกลางจะติดยอดดอย

 

ทำไมมาซื้อตอนแพงจัง

 

ขอบอกได้เลยว่าธนาคารกลาง

 

ไม่มีทางติดยอดดอยแน่นอน

 

อย่าลืมว่า มิใช่เพราะธนาคารกลางจะรวย

 

แต่เพราะว่าธนาคารเหล่านี้สามารถพิมพ์เงินขึ้นมาซื้อได้ง่าย ๆ

 

ต่อไปจะต้องแย่งกันประมูลทองกัน

ถูกแก้ไข โดย zagio

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ลำพัง บริษัท IC ไม่มีกำลังจะทุบหรอกครับ ขึ้นเท่าไหร่ ก็ต้องนำมาผลิต ที่มีปัญญาทุบก็พวกกองทุน ต่างๆ นั่น แหละครับ

 

จะใช้วิธี ช้อนซื้อ เวลาปรับฐาน เป็นพักๆ จะสังเกตได้ว่า ยิ่งแพง ช่วงนี้ยิ่งซื้อมาก เป็นพวกที่จำเป็นต้องซื้อ ก็เลยเมื่อประเมิน ตลาดแล้ว พุ่งยาวแน่ๆ พอดร๊อป มานิดหนึ่ง เมื่อไหร่ ก็ต้องทุ่มซื้อ stock เอาไว้ใช้งาน ไม่งั้นไม่มีของ ทำไงได้ เขาก็จำเป็นต้องใช้น่ะครับ ราคาซื้อขาย ใน Invoice ก็ราคาตามตลาด วันที่ออก Invoice เหมือนกัน ไม่มีอะไรพิเสษ เพราะงั้น ก็เหมือนผู้บริโภคทั่วไป เลยล่ะครับ

ถึงว่า จะย่อ จะย่อ ทีไรมีอันพุ่งทุกที เพราะพวกพี่ๆ นี่เอง ช้อนกันไม่เกรงใจเลย !gd !gd นับถือครับนับถือ

 

ข้อมูลเพิ่มเติมครับ เพื่อสนับสนุนคุณ next ส่วนตัวผม สนใจการลงทุนด้วยทอง มา 7 ปีแล้วครับ แต่ไม่ค่อยได้เริ่มต้นจริงๆ จัง ๆ เพราะมีปัญหาด้านเงินทุนครับ ประเภทรู้เทรนต์ แต่ไม่มีกะตังค์ ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็พอจะทราบ ข้อมูล Usage ของทอง จากอุตสาหกรรมต่างๆ และประเมินจาก ภาวะการเติบโต ของเทคโนโลยี่ และประเทศยักษ์หลับ ที่เพิ่งตื่นคือจีน อินเดีย ผู้บริโภคมหาศาล อุตสาหกรรม อิเล็คโทรนิคมากมายมหาศาล ต้องใช้ทองและเงินทั้งสิ้น บอกคนข้างๆ ที่มีกะตังค์ ก้ไม่มีใครสนใจ มาบัดนี้ แต่ละคนก็ได้แต่เสียดาย เพราะไปกินดอกเบี้ย แค่ สามสี่บาท มาไม่รู้กี่ปี ครับ ยิ่งมาได้คุณ Next ผู้รอบรู้เป็นผู้เสริมภูมิปัญญา เลยมั่นใจได้ครับ

ทำไมต้องใช้ทองกับพวก IC เหรอครับ เพราะว่าทองเป็นตัวนำสัญญาณ กระจายสัญญาณดีที่สุดในบรรดา โลหะชนิดอื่น ท่านไม่สังเกตเหรอครับ หัวแจ๊คต่างๆ ทำไมต้องเป็นหัวทอง แผ่น CD / DVD ต้องแผ่นทอง

http://geology.com/minerals/gold/uses-of-gold.shtml#electronics

http://en.wikipedia.org/wiki/Gold_plating

http://www.twentydollarliberty.com/category/gold-demand/

พวกเดียวกันเลยครับ อยากซื้อใจจะขาด แต่ซื้อได้ไม่เยอะดังใจเลย บอกให้คนข้างๆ ซื้อเถอะเค้าก็ว่าจะสู้เงินสดในธนาคารได้อย่างไหร !_09 เศร้าจริงๆ เปลี่ยความคิดคนนี่ก็ยากนะ พูดมากเดี๊ยวโดนรำคาญอีก !_02

 

สอบถามหน่อยครับ คือได้สีทองๆ ที่เคลือบอยู่ที่พวกแรมในคอม หรือหัวแจ็คสายทีวีนี่ มันคือทองจริงหรอครับ ไอ้ที่สีทองๆนะครับ !38 คราวหลังผมจะได้ขูดๆ เก็บไว้ก่อนทิ้ง !17 ผมชื่อว่ามันคือสีทองที่เคลือบไว้มาโดยตลอดเลยนะเนี่ย !_18

 

gold-contacts-computer.jpg

ถูกแก้ไข โดย leo_attack

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...